ตอนที่ 3
ภรรยาเด็ก
“ในเมื่อมินตราตกลงแล้ว เราจะเอาอย่างไรกันต่อไป”
อมราไม่กล้าถามลูกชายตรงๆว่าแผนการที่เธอวางไว้ เปรมธวัชพร้อมจะเริ่มต้นเมื่อไหร่เพราะสำหรับเธอแล้วต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเร็วที่สุด อายุของเธอมากขึ้นทุกวันดูแล้วคงไม่ได้อยู่ดูหลานจนถึงรับปริญญา
“ผมพร้อมแล้วครับอยู่ที่สาวน้อยของคุณแม่นั่นแหละที่จะพร้อมหรือยัง”
ชายหนุ่มตอบด้วยความมั่นใจเพราะตัวเขาเองตอนนี้ก็ ไม่เหลือผู้หญิงคนไหนอีกแล้วตั้งแต่วันนั้นที่เขารู้ความจริงเรื่องของนาเดียเขาก็ตั้งใจว่าจะยุติความสัมพันธ์แบบชั่วคราวแล้วหันมาทำตามในสิ่งที่แม่ต้องการจะดีกว่าการมีลูกบางครั้งอาจจะทำให้ตัวเขาเองมีความสุขในชีวิตมากกว่านี้ก็ได้
ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนเข้าหอสำหรับภรรยารับจ้างที่ไม่มีแม้แต่งานแต่งไม่มีการบอกรักไม่มีทะเบียนสมรสไม่มีสิ่งใดๆที่ผู้หญิงต่างก็เฝ้าฝันว่าชีวิตของเธอจะต้องได้รับจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี
“มิ้นพร้อมแล้วค่ะ”
หญิงสาวในชุดนอนพูดขึ้นเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องที่อมราจัดไว้สำหรับเป็นห้องนอนของทั้งคู่ในการผลิตหลานให้กับเธอ
“พูดจาเป็นหุ่นยนต์เหมือนไร้ความรู้สึกแบบนี้ผมจะทำอะไรคุณลงได้ยังไง”
เปรมธวัชถึงแม้ว่าเขาจะรับรู้มาตลอดว่าผู้หญิงรอบกายไม่มีใครรักเขาจากใจจริงแต่เขาก็ยังไม่เคยฝืนใจบังคับใครสักทีเมื่อเห็นท่าทางของมินตราเป็นแบบนี้เขาจึงรู้สึกได้ว่าความจริงแล้วเธอยังไม่พร้อม
“มิ้นพร้อมจริงๆแล้วนะคะ”
สาวน้อยลุกเดินมาหาชายหนุ่มร่างสูงสองมือของเธอคล้องคอเขาไว้ก่อนที่จะแนบใบหน้าลงไปใกล้ใช้ปากบางสีชมพูทาบทับลงไปที่ปากอุ่นได้รูป
“อืม..ปล่อย”
เปรมธวัชดึงมือทั้งสองข้างของมินตราออก ก่อนที่เขาจะดึงตัวเธอเข้ามากอดมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เหมือนกับว่าตอนนี้เขากำลังรู้สึกสงสารเธอ
“ถึงเราจะไม่ได้รักกันแต่ผมจะทำหน้าที่สามีให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ชีวิตของคุณนับจากนี้ไปจะไม่ต้องลำบากแล้ว น้ายุพาก็จะไม่ได้เป็นเพียงแค่แม่บ้านแต่เธอจะเป็นแม่ของภรรยาผม ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเราจะไม่มีใครรู้แต่เราสองคนรู้”
น้ำเสียงที่ดูจริงใจมีความอบอุ่นและปลอดภัยอยู่ในนั้นทำให้มินตราพร้อมที่จะรับความอบอุ่นจากร่างกายของชายหนุ่มที่กำลังจะได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอ
ไฟในห้องนอนถูกปิดลงแล้วความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่แม้ไม่ได้เกิดจากความรักแต่มันก็มีความผูกพันบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในความรู้สึกของมินตราเพราะชีวิตของเธอผู้ชายที่อบอุ่นที่สุดก็ยังคงเป็นลูกชายเจ้าของบ้านที่คอยช่วยเหลือเธอในตอนเด็กๆไม่ว่าจะทำการบ้านตอนขี่จักรยานก็มีแต่เขาที่คอยเป็นเพื่อนเธอเสมอ
“หลับตานะคนดี”
ชุดนอนแสนบางถูกมือหนาลูบไล้ผ่านสัมผัสอ่อนโยนชุดนอนหลุดกองลงไปอยู่กับพื้นนับจากนี้ไปไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ชิ้นใดขัดขวางความงามของเรือนร่างสาวน้อยผู้บริสุทธิ์ทั้งกายและใจอีกต่อไป
“คุณเปรม! ”
มินตราจิกปลายขาเกร็งตัวเมื่อยอดปทุมแสนอวบของเธอถูกลิ้นสากตวัดลัดเลาะเล่น ปากอุ่นดูดเม้มหยอกเล่นกับมันจนเจ้าของถึงกับครางเรียกชื่ออีกฝ่ายโดยไม่รู้ตั้งตัว
“ชอบไหม”
เปรมธวัชกระซิบข้างหูสาวน้อยที่ร่างกายจิกเกร็งเม้มปากเหมือนกำลังต้องการระบายอารมณ์อะไรบางอย่าง
มินตราไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้เธอกำลังชอบมันหรือเปล่าจึงได้แค่เพียงพยักหน้าตอบกลับไม่กล้าแม้แต่จะสบตาชายหนุ่มที่มองจ้องเพื่อรอคำตอบด้วยสายตาที่ดูมีความสุขอยู่ในนั้น
ชายวัย 30 กว่าผู้ผ่านโลกมาแล้วมากมายใช้สัมผัสอันเร่าร้อนสลับกับอ่อนโยนทำให้หญิงสาวที่อยู่ในพันธการของเขาหลอมละลายจนกลายเป็นขี้ผึ้ง ไม่นานเส้นทางรักก็เปิดออกความสาวของเธอยังคงงดงามและสวยงามสำหรับเปรมธวัชชีวิตของเขาถึงแม้จะผ่านผู้หญิงมามากแต่ก็ไม่เคยมีใครสักคนที่เขาจะได้เป็นคนแรกของเธอ
“อีกนิดนะ เจ็บหน่อยนะคนดีแล้วผมจะพาคุณขึ้นสวรรค์”
แก่นกายความเป็นชายที่มีความยิ่งใหญ่เข้าไปตระหง่านแสดงความเป็นเจ้าของในถ้ำสีชมพูของสาวน้อยผู้อ่อนต่อโลก ร่างบางจิกเกร็งไปทั้งตัวสองมือแนบลงไปที่แผ่นหลังของผู้บุกรุกเล็บยาวจิกลงไปเพื่อระบายความเสียวซ่านทั้งหมดที่มินตราไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอกำลังทรมานหรือกำลังมีความสุขกันแน่
เกลียวคลื่นซัดน้ำระลอกแล้วระลอกเล่าจนในที่สุดร่างเปลือยเปล่ากอดกันแน่นเมื่อพากันขึ้นไปสู่สวรรค์อย่างอิ่มเอมใจ
“ คุณเป็นภรรยาผมแล้วนะ”
เสียงกระซิบพร้อมเสียงลมหายใจหอบเหนื่อยดังอยู่ข้างหูของสาวน้อยที่กำลังหอบเหนื่อยตัวโยนก่อนที่เจ้าของร่างหนาจะล้มตัวลงนอนกับที่นอนแล้วหลับไป
ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วและมินตราก็มีเวลาตัดสินใจกับเรื่องนี้น้อยมากแต่เธอก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่าเธอเลือกแล้วและเธอจะมีความสุขกับเส้นทางชีวิตต่อจากนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนี้สำหรับเธอจากที่เคยกลัวว่ามันจะเป็นตราบาปไปตลอดชีวิตแต่ทำไมเธอกลับรู้สึกอิ่มเอมและมีความสุขที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของผู้ชายที่เธอเฝ้าแอบรักมานาน
มินตราทั้งชื่นชมและแอบหลงรักลูกชายของผู้มีพระคุณแต่ไม่เคยคิดจะแสดงออกเพราะรู้ว่าอยู่ไกลกันเกินเอื้อมเมื่อวันนี้เธอมีโอกาสได้ใกล้ชิดได้เป็นภรรยาของเขาถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ในความลับเท่านั้นแต่เธอก็ยินดีถึงแม้จะรู้ว่าอนาคตที่จะมาถึง ทั้งคู่จะกลายเป็นแค่คนรู้จักกัน ตัวเธอเองก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่มีมลทินเป็นเพียงแค่หญิงหม้ายที่สามีไม่ใยดีก็เท่านั้น
เช้าวันแรกกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างมินตราและเปรมธวัชอยู่ในสายตาของอมราและยุพินถึงแม้ว่าธานินทร์จะรับรู้ถึงแผนการนี้ด้วยแต่เขาก็ไม่ค่อยใส่ใจสนใจมากนักเพราะชีวิตตอนนี้ของเขามีเพียงแค่เพื่อนและเรื่องสนุกนอกบ้านและนี่คือสาเหตุที่ทำให้อมราอยากจะมีหลานสักคนเพราะอยากจะมีเพื่อนคลายเหงาและหวังว่าเด็กเล็กๆจะทำให้ชีวิตของเธอมีความสุขขึ้นมาอีกครั้งเหมือนครั้งที่เธอได้เป็นแม่คน
“ทำไมต้องรีบลุกมาจัดการเรื่องอาหารคนงานที่บ้านเราก็มีเยอะ”
อมราหันไปพูดกับมินตราพี่กำลังออกมาช่วยจัดโต๊ะอาหารและจากใบหน้าที่มีความเขินอายของสาวน้อยทำให้อมรารู้ได้เลยว่าเมื่อคืนนี้ลูกชายของเธอได้กระชับความสัมพันธ์ให้คืบหน้าแล้ว
“มิ้นไม่มีอะไรทำก็เลยตื่นมาช่วยแม่ค่ะ”
มินตรารีบตอบและหันหน้าไปทางอื่นเธอรู้ดีว่าทุกคนในบ้านกำลังจ้องมองและคิดอะไรกันอยู่ สาวน้อยผู้อ่อนต่อโลกเธอแทบจะไม่กล้าสบตาใครทั้งนั้น
“คุณแม่ครับ...มิ้นล่ะ”
เปรมธวัชเดินลงมาจากชั้น 2 ของบ้านทันทีที่มองไม่เห็นภรรยาเขาก็รีบถามหาโดยไม่ได้สังเกตสายตาของทุกคนเลยว่ากำลังมองเขาแบบไหน
“พอเช้ามาก็ถามหาเลยนะสงสัยเมื่อคืนนี้หนูมิ้นจะหยอดยาเสน่ห์อะไรไว้”
อมราแกล้งหยอกพูดแซวลูกชายเพราะเห็นใบหน้าที่ดูมีความสุขแล้วก็อดที่จะคิดถึงภาพที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ได้ตามประสาหนุ่มสาว
“คุณแม่ก็มาแซวผมถ้ามิ้นมาได้ยินเธอคงจะเขินน่าดูที่ผมถามหาเพราะจะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าใหม่”
สำหรับเปรมธวัชแล้วเรื่องราวแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติเขาไม่ได้รู้สึกเขินอายแต่กลัวว่ามินตราสาวน้อยผู้ไม่เคยผ่านเรื่องนี้มาก่อนถ้ามาได้ยินเข้าเธออาจจะทำหน้าไม่ถูก
“จัดโต๊ะอาหารให้แม่เสร็จก็ไม่ยอมมากินข้าวด้วยลูกลองไปตามในครัว”
เปรมธวัชรีบเดินไปยังเรือนหลังเล็กบริเวณครัวเพื่อไปตามภรรยาให้ออกมากินข้าวด้วยซึ่งตอนแรกมินตราขอที่จะกินข้าวกับแม่แต่เมื่อเปรมธวัชบอกว่าอมราให้มาตามหญิงสาวจึงจำเป็นต้องยอมออกไป
“ต่อไปนี้ก็มากินข้าวด้วยกัน”
อมราหันไปกระซิบกับลูกสะใภ้คนใหม่เพราะเธออยากให้มินตรารู้ว่าต่อแต่นี้เธอไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะของลูกแม่บ้านแต่เธอกำลังเป็นลูกสะใภ้ถึงแม้ว่าสังคมภายนอกจะไม่รับรู้แต่เมื่ออยู่ในบ้านเธอจะได้ศักดิ์ศรีทุกอย่างในฐานะลูกสะใภ้ของเขา
“กินเสร็จแล้วผมจะพาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่”
เปรมธวัชหันมาทำหน้าจริงจังใส่ภรรยาตัวเล็กที่นั่งข้างๆเพราะเขารู้สึกว่าการที่เขาแสดงสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอายเขาจึงเลือกที่จะวางตัวเป็นผู้ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแทน
“ไม่เป็นไรค่ะ มิ้นมีเสื้อผ้าเยอะแล้ว”
สาวน้อยไม่เข้าใจทำไมเขาต้องอยากพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าในเมื่อตอนนี้เธอก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องนี้เสียหน่อย
“บอกให้ไปก็ไปเถอะอย่าขัดใจเลย”
ชายหนุ่มใช้ไม้ตายสีหน้าเคร่งขรึมจนอีกฝ่ายไม่กล้าปฏิเสธและต้องรีบขึ้นไปจัดการตัวเองเพื่อที่จะออกไปข้างนอกกับเขา
ตอนที่ 4เรียนรู้ระหว่างเรา“ไม่เอา ! ผมไม่ให้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้”เปรมธวัชดึงเสื้อยืดออกจากมือของภรรยาเด็กเพราะพี่เขาพาเธอมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ในวันนี้เพราะอยากให้สาวน้อยแต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น“มิ้นเคยใส่แต่เสื้อผ้าแบบนี้ถ้าเป็นแบบอื่นก็ไม่รู้จะใส่แบบไหนเหมือนกันค่ะ”มินตราคิดไม่ออกว่าเสื้อผ้าแบบไหนที่จะเหมาะกับเธอจึงยกให้เปรมธวัชทำหน้าที่เลือกเอาแบบที่เขาต้องการทั้งสองคนเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังจ้องมองอยู่“คุณเปรมพาใครมาซื้อเสื้อผ้าคะนี่”สาวสวยไฮโซเดินเข้ามาทักทายเปรมธวัชพร้อมกับเพื่อนของเธออีก 3 คนซึ่งทุกคนกำลังหันมาจ้องมองสาวน้อยที่กำลังยืนอยู่ข้างนักธุรกิจชื่อดัง“สวัสดีครับน้องไอลดา”ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามแต่หันกลับไปทักทายอีกฝ่ายแทนซึ่งด้วยมารยาทแล้วทำให้คำถามนั้นต้องเป็นอันตกไปเมื่อถูกบทสนทนาอื่นเข้ามาแทน“ปกติแล้วไอไม่เคยเห็นพี่เปรมมาเดินห้างแบบนี้เลยนะคะใครๆก็พากันพูดกันว่านักธุรกิจหนุ่มใหญ่อย่างคุณเปรมธวัชนอกจากเรื่องงานแล้วก็ไม่สนใจเรื่องอื่นเลย”ไอลดาพยายามจะล้วงเอาคำตอบให้ได้ว่าผู้หญิงที่มากับเปรมธวัชใ
ตอนที่ 5เผลอปล่อยใจ“คุณแม่ครับผมซื้ออาหารทะเลร้านโปรดมาฝาก” เปรมธวัชยื่นถุงกับข้าวถุงใหญ่ส่งให้มารดาที่นั่งรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขกด้วยท่าทางมีความสุขที่เห็นลูกชายกลับมาพร้อมกับลูกสะใภ้ของเธอ “พามินตราไปร้านโปรดของเรามาใช่ไหม” อมราถามทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วเพราะลูกชายโทรมาบอกตั้งแต่ช่วงเย็นแต่ที่เธอแกล้งพูดเพราะอยากให้หญิงสาวได้รู้ว่าร้านอาหารร้านนั้นถ้าไม่พิเศษจริงๆเปรมธวัชไม่มีทางพาไป “มิ้นชอบบรรยากาศที่นั่นมากครับสงสัยวันหลังเราต้องไปกันพร้อมหน้าทุกคนจะได้สนุกมากยิ่งขึ้นรับรองได้ว่าถ้าน้ายุพาไปคงได้ถอดสูตรอาหารเอามาทำให้เราได้กินกันแน่” ยุพาสาวใช้มองหน้าเจ้านายด้วยความแปลกใจเพราะการที่เปรมธวัชพูดแบบนี้หมายความว่าเขาจะพาเธอไปกินด้วย มินตราได้ยินคำพูดของสามีที่ให้ความสำคัญกับแม่ของเธอหญิงสาวรู้สึกมีความสุขที่เธอเลือกตัดสินใจไม่ผิดยอมเป็นภรรยารับจ้างให้เขาถึงแม้เธอจะไม่มีตัวตนในสังคมแต่ในบ้านหลังนี้ เปรมธวัชให้ความสำคัญกับเธอตามที่เขาสัญญาไว้จริงๆและความสำคัญนี้ก็เผื่อแผ่ไปหามารดาของเธอด้วย “เปรมรู้ไหมยุพาไม่ย
ตอนที่ 6การมาของใครบางคน“สวัสดีค่ะ คุณแม่สบายดีไหมคะไม่ได้เจอกันเสียหลายปี” สาวสวยหุ่นนางแบบดีกรีนักเรียนนอกยกมือไหว้อมราด้วยความนอบน้อมถึงแม้ว่าสไตล์การแต่งตัวของเธอจะดูไม่ค่อยเป็น คนเรียบร้อยเท่าไหร่ “ไหว้พระเถอะแม่คุณ ลมอะไรหอบทายาทเพียงคนเดียวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาถึงบ้านของแม่ได้” อมราถึงแม้จะพยายามปั้นหน้าพูดดีตามแบบคนมีมารยาทแต่เธอก็อดที่จะใส่คำพูดจิกกัดลงไปไม่ได้เพราะหญิงสาวที่มาเป็นแขกในวันนี้เธอคือคนเดียวกับที่ทำร้ายหัวใจลูกชายเขาเมื่อหลายปีก่อน “รินกลับมาจากต่างประเทศนานแล้วแต่ไม่กล้ามาหาคุณแม่เพราะยังไม่รู้ว่าเปรมจะหายโกรธรินแล้วหรือยังค่ะ” คนพูดพยายามทำดวงตาให้ดูเศร้าเหมือนว่าเธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำลงไปในอดีตแต่มันก็ไม่ทำให้ความรู้สึกของอมราดีขึ้นเพราะเธอรู้จักผู้หญิงตรงหน้าดีว่ามารยาร้อยเล่มเกวียนแค่ไหน “สิ่งที่เธอทำมันสร้างความเจ็บปวดให้กับเปรมธวัชอยู่มากแต่ไม่ต้องกลัวตอนนี้เขาลืมเธอและทุกอย่างที่เธอทำหมดแล้ว คนเราไม่มีใครจมอยู่กับเรื่องไม่ดีหรือคนไม่ดีได้นานหรอก” ความเป็นแม่ถึงแม้จะ
ตอนที่ 7คนรักเขากลับมา“นั่งคุยกับแม่ก่อน” อมรานั่งรอดักเจอลูกชายอยู่จนดึก เธอมีเรื่องที่อยากจะคุยกับเปรมธวัชในวันนี้กลัวว่าถ้าพูดช้าเกินไปอาจจะไม่ทัน “เที่ยงคืนกว่าแล้วคุณแม่ยังนั่งรอแบบนี้ต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่เลย” ลูกชายทำท่าทางออดอ้อนเพราะเขารู้อยู่แล้วว่ามารดากำลังจะพูดเรื่องของแฟนเก่าที่เดินทางมาหาเขาในวันนี้ “ลูกไปกินข้าวกับรินมาใช่ไหม” “ใช่ครับเราไม่ได้เจอกันนานก็เลยมีเรื่องคุยกันเยอะแล้วผมก็ขับรถไปส่งเธอที่บ้านก็เลยกลับดึกหน่อย” เปรมธวัชพยายามจะอธิบายว่าสาเหตุที่เขากลับมาถึงบ้านจนเที่ยงคืนไม่ได้เถลไถลที่ไหนแค่เพียงมีเรื่องคุยกันนานและด้วยความเป็นห่วงเขาจึงขับรถไปส่งเธอที่บ้าน “ผู้หญิงคนนั้นเขากลับมาหาลูกเพื่ออะไรกันอย่าบอกนะว่าแค่กลับมาในฐานะเพื่อนที่คิดถึงเพราะแม่จะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด” หญิงสูงวัยประสบการณ์ในชีวิตของเธอมีมากจนสามารถเดาผู้หญิงอย่างรินรดาได้ออกการกลับมาของผู้หญิงคนนี้ต้องการมากกว่าความเป็นเพื่อนแน่นอน “คุณแม่คิดมากไป ผมกับรินเราเคยเป็นเพื่อนเก่ากันมาก่อนถึงแม้จะเลิกไปแล้วแต่เรายั
ตอนที่ 8เหนี่ยวรั้งใจ2 เดือนผ่านไป “เปรมไปส่งรินที่คอนโดนะ” สาวสวยผิวขาวสองแขนยาวกอดคอชายหนุ่มคนรักเก่าของเธอจนใบหน้าของทั้งคู่แทบจะแนบชิดติดกัน “ทำไมถึงไม่กลับบ้าน” เปรมธวัชถามด้วยความแปลกใจเพราะตั้งแต่รินรดากับมาหาเขาทั้งคู่ออกไปกินข้าวเย็นด้วยกันตลอดแล้วสุดท้ายเขาก็จะขับรถไปส่งเธอที่บ้านแต่วันนี้เธอกลับร้องขอให้เขาไปส่งเธอที่คอนโดแทน “วันนี้รินเมาแล้วไม่อยากกลับบ้านเดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่จะว่าเอา เปรมก็เมาเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ” วันนี้ไม่ใช่แค่เพียงกินอาหารเย็นด้วยกันแต่เป็นการนั่งดื่มด้วยจึงทำให้เมาทั้งคู่ถึงแม้จะไม่มากนักแต่ก็เรียกได้ว่าความรู้สึกร้อนๆหนาวๆมันเริ่มแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจและร่างกายของคนที่เคยเป็นถ่านไฟเก่าของกันและกัน เปรมธวัชเป็นอันต้องยอมแพ้เขาเดินประคองหญิงสาวขึ้นไปส่งถึงในห้องนอนที่คอนโดเขาตั้งใจว่าส่งเธอเข้านอนเสร็จก็จะรีบกลับบ้านทันทีแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่ออีกฝ่ายพยายามใช้มารยาทุกอย่างรั้งให้เขาอยู่เพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่เคยมีให้กันเมื่อหลายปีที่ผ่านมา “อย่าทำแบบนี
ตอนที่ 9ตัวปลอมต้องยอมไป“ฉันจะยังไม่บอกเปรมตามคำขอของเธอนะแต่งถ้าภายในสัปดาห์นี้เธอยังไม่บอกเขาฉันคงต้องขอเป็นคนบอกเองแล้วแหละเพราะไม่อยากให้ทุกอย่างมันสายเกินไป” อมรายอมรับปากลูกสะใภ้คิดว่าเรื่องแบบนี้ภรรยาคงอยากจะบอกสามีด้วยตัวเองแต่ถ้ามินตราปล่อยให้ทุกอย่างนานไปเธอในฐานะที่เป็นแม่ก็คงต้องบอกเรื่องนี้ด้วยตัวเอง คืนนี้เป็นค่ำคืนที่หัวใจของคุณแม่คนใหม่อ่อนแออย่างถึงที่สุดเธอตั้งใจที่จะปล่อยตัวเองให้ร้องไห้จนน้ำตาหมดไปจากร่างกายและวันพรุ่งนี้เธอจะเป็นคนใหม่เธอจะต้องเข้มแข็งให้มากกว่าเดิมเพราะตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเธอแค่ชีวิตเดียว “หนูเป็นลูกแม่นะ” มือเล็กลูบลงไปที่ท้องส่งผ่านความอบอุ่นและความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในหัวใจให้กับสายเลือดของตัวเองได้รับรู้ มินตราชักเริ่มไม่แน่ใจในตัวเองเหมือนกันว่าเธอจะยอมยกลูกให้กับเปรมธวัชหรือไม่เพราะในสัญญาทารกที่ถือกำเนิดขึ้นจะเป็นสิทธิ์ขาดของเขาคนเดียวและเธอก็เซ็นยินยอมไปแล้วแต่เมื่อวันนี้มาถึงหัวใจของเธอมันรักเกินกว่าจะยอมยกลูกให้ใคร นาฬิกาบอกเวลาใกล้จะเที่ยงคืนแปรมธวัชยังคงไม่กลับมาแต่วันนี้มินตราตั้งใจว่าเธ
ตอนที่ 10กว่าจะรู้“คุณแม่ครับมิ้นไปไหน” วันนี้เป็นวันแรกที่เปรมธวัชกลับมาทันกินข้าวเย็นหลังจากที่ 2 เดือนที่ผ่านเขาจะกลับมาถึงบ้านก็หลังเที่ยงคืนเท่านั้น “พ่อให้มิ้นกับยุพาไปจากที่นี่แล้ว” ธานินทร์ตอบด้วยท่าทางไม่สนใจยังคงก้มหน้าก้มตากิน ข้าวคลุกกะปิอาหารมื้อสุดท้ายที่ครอบครัวของมินตราได้ทำไว้ให้คนที่บ้านหลังนี้ได้กิน “คุณพ่อหมายความว่าอย่างไรครับไปจากที่นี่” เปรมธวัชวางช้อนในมือเขาถามบิดาด้วยเสียงที่สูงและดูมีอารมณ์อยู่ในนั้นเพราะอย่างไรมินตราก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาการที่เธอจะไปไหนเขาควรจะต้องมีส่วนรู้ด้วย “ก็เปรมจะแต่งงานกับรินไม่ใช่หรือ แล้วจะให้มินตราอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรพ่อก็เลยให้เขาไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ยุพาเองก็ทำงานที่นี่มานานก็ถึงเวลาต้องปลดระวางไปใช้ชีวิตอิสระของเธอบ้างและทำไมจะต้องมาโมโหแบบนี้ในเมื่อลูกเลือกเองว่าจะแต่งงานกับรินแล้วจะเก็บมินตราไว้ทำไมอย่าเห็นแก่ตัวนักสิ” ชายหนุ่มเป็นอันต้องเลิกกินข้าวสองมือกอดอกมองสบตาทั้งพ่อและแม่ที่ดูเหมือนไม่มีใครจะอยู่ข้างเขาในเวลานี้ “มินตราเป็นผู้
ตอนที่ 11ของขวัญที่ล้ำค่า“ผมขอโทษ” มินตราพี่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ที่บริเวณสวนหลังบ้านหันหลังมาตามเสียงที่เธอได้ยินด้วยความตกใจเพราะมันเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยและรอคอยมาตลอดตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ “คุณเปรมมาได้อย่างไรคะ” สาวน้อยรีบวางสายยางและใช้สองมือประคองชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่ายกมือไหว้อยู่ตรงหน้าให้ลุกขึ้น “ให้อภัยผมได้ไหมความผิดครั้งนี้มันมากมายและยิ่งใหญ่เหลือเกินที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้ว่าหัวใจตัวเองต้องการใครจนวันที่คุณไม่อยู่ผมรู้แล้วว่ารินรดาไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมต้องการอีกแล้ว” สาวน้อยพูดอะไรไม่ถูกจึงทำได้แค่เพียงฟังและให้อีกฝ่ายพูดความในใจออกมาสำหรับมินตรา เธอไม่เคยโกรธเขาแต่ที่เธอยอมจากมาแค่เพียงอยากให้เขารู้จักเสียงหัวใจตัวเองและเธอไม่ต้องการอยู่อย่างไร้ค่าในบ้านที่เธอไม่มีตัวตนในฐานะภรรยาอีกแล้ว “ผมยกเลิกการแต่งงานทุกอย่างมันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว” มินตราพยักหน้าเพราะเธอรู้เรื่องนี้ดีจาก Facebook ของเปรมธวัชที่เธอเฝ้าติดตามเขามาตลอดตั้งแต่เขาไปเรียนที่ต่างประเทศ “ที่คุณมาวันนี้เพื่อจะตามมิ้นให้กลับไปอยู่กับคุณในฐานะ