Share

เรียนรู้ระหว่างเรา

ตอนที่ 4

เรียนรู้ระหว่างเรา

“ไม่เอา ! ผมไม่ให้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้”

เปรมธวัชดึงเสื้อยืดออกจากมือของภรรยาเด็กเพราะพี่เขาพาเธอมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ในวันนี้เพราะอยากให้สาวน้อยแต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

“มิ้นเคยใส่แต่เสื้อผ้าแบบนี้ถ้าเป็นแบบอื่นก็ไม่รู้จะใส่แบบไหนเหมือนกันค่ะ”

มินตราคิดไม่ออกว่าเสื้อผ้าแบบไหนที่จะเหมาะกับเธอจึงยกให้เปรมธวัชทำหน้าที่เลือกเอาแบบที่เขาต้องการ

ทั้งสองคนเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังจ้องมองอยู่

“คุณเปรมพาใครมาซื้อเสื้อผ้าคะนี่”

สาวสวยไฮโซเดินเข้ามาทักทายเปรมธวัชพร้อมกับเพื่อนของเธออีก 3 คนซึ่งทุกคนกำลังหันมาจ้องมองสาวน้อยที่กำลังยืนอยู่ข้างนักธุรกิจชื่อดัง

“สวัสดีครับน้องไอลดา”

ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามแต่หันกลับไปทักทายอีกฝ่ายแทนซึ่งด้วยมารยาทแล้วทำให้คำถามนั้นต้องเป็นอันตกไปเมื่อถูกบทสนทนาอื่นเข้ามาแทน

“ปกติแล้วไอไม่เคยเห็นพี่เปรมมาเดินห้างแบบนี้เลยนะคะใครๆก็พากันพูดกันว่านักธุรกิจหนุ่มใหญ่อย่างคุณเปรมธวัชนอกจากเรื่องงานแล้วก็ไม่สนใจเรื่องอื่นเลย”

ไอลดาพยายามจะล้วงเอาคำตอบให้ได้ว่าผู้หญิงที่มากับเปรมธวัชในวันนี้เธอเป็นใครแต่ไม่ว่าจะหาอะไรมาชวนคุยชายหนุ่มก็ไม่ยอมหลุดปาก

มินตรารู้สึกอึดอัดกับบทสนทนาที่ดูประดิษฐ์คำพูดของทั้งคู่จึงทำให้หญิงสาวเลือกที่จะเดินออกมาจากร้านเพื่อมาหาที่นั่งรอ

“ไอลดาเป็นน้องสาวของเพื่อนผม”

เปรมธวัชเดินตามออกมาพร้อมกับรีบแนะนำให้มินตรารู้ว่าผู้หญิงที่เข้ามาคุยกับเขาเธอเป็นใครทั้งที่หญิงสาวไม่ได้เอ่ยถามสักคำ

“ดูเธออยากรู้นะคะว่ามิ้นเป็นใคร วันนี้คุณสามารถเลือกที่จะไม่ตอบได้แต่ถ้าวันหลังคุณโดนถามแบบนี้อีกเราควรตอบว่าอย่างไรดีคะ”

มินตราเธอไม่ได้ต้องการเล่นลิ้นหรือต้องการสถานะแต่เธอแค่ไม่รู้ว่าคำตอบไหนคือสิ่งที่ควรจะพูดออกไปเพราะเธอไม่รู้ว่าระหว่างเธอกับเขามันควรจะเรียกว่าอะไรต่อหน้าคนอื่น

“เอาเป็นว่าถ้าเลี่ยงได้ผมก็จะเลี่ยงแต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ผมก็จะแนะนำคุณว่านี่มินตราและไม่บอกสถานะก็แค่นั้น”

เปรมธวัชพูดออกไปพร้อมกับสังเกตปฏิกิริยาของหญิงสาวที่นั่งข้างๆด้วย ชายหนุ่มอยากรู้ว่าหลังจากที่เธอได้เป็นภรรยาของเขาทางพฤตินัยแล้วเธอมีความเป็นเจ้าของหรือต้องการขึ้นมายืนอยู่บนสังคมเหมือนเช่นผู้หญิงคนอื่นที่เขากลัวไหม

“มิ้นว่าวันหลังเราไม่ต้องมาข้างนอกด้วยกันดีกว่าค่ะเพราะไม่ว่าเราจะตอบอย่างไรมันก็ต้องมีคนอยากรู้ความจริงสักวัน...                  มิ้นไม่อยากให้คุณเปรมต้องเดือดร้อน”

น้ำเสียงที่แสดงความจริงใจสายตาที่แสดงความเป็นห่วงทำให้เปรมธวัชรู้ได้เลยว่าสาวน้อยคนนี้เธอไม่ได้ต้องการจะเป็นเจ้าของเขา

“ถ้าคุณเป็นห่วงผมก็ไม่เป็นไรเพราะผมเองไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนี้เราไปหาซื้ออย่างอื่นต่อกันดีกว่า”

ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องพูดและพาภรรยารับจ้างของเขาเข้าไปเลือกซื้อรองเท้าและกระเป๋าในแบบที่เขาคิดว่าเข้ากับเสื้อผ้าที่เขาซื้อมา

ทั้งสองคนใช้เวลาเลือกซื้อของในห้างสรรพสินค้าเกือบ                  2 ชั่วโมงก่อนที่จะเดินทางกลับตลอดข้างทางมินตราได้แต่นอนหลับเพราะเธอรู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูกซึ่งก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อคืนไหมวันนี้เธอจึงรู้สึกเหมือนจะเป็นไข้

เปรมธวัชแอบมองหญิงสาวที่นั่งหลับอยู่เบาะข้างคนขับด้วยความภูมิใจที่เขาได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอและเขาก็มั่นใจว่าตลอดเวลาที่เธอกับเขาอยู่ด้วยกันเธอจะไม่มีทางนอกใจและหักหลังเขาเหมือนที่ผู้หญิงที่ผ่านมาทำ

ความรักของเปรมธวัชไม่ใช่แค่เพียงผิดหวังเรื่องของรินรดาคนรักเก่าเท่านั้นแต่กลับแค่เพียงคู่นอนอย่างนาเดียซึ่งเป็นคู่ขา               คนสนิทก็ยังหักหลังด้วยการนอกใจไปมีคนอื่น เปรมธวัชไม่ศรัทธาในความรักเขามองว่าผู้ชายที่ดีพร้อมทุกอย่างแบบเขายังไม่ได้รับความรักที่แท้จริง บนโลกใบนี้ก็คงไม่มีความจริงใจกันอีกแล้ว

“เรากำลังจะไปไหนกันคะ”

มินตราตื่นขึ้นมาเธอมองข้างทางรู้สึกไม่คุ้นจึงเอ่ยถามคนขับเพราะคิดว่าเขาคงไม่ได้กำลังพาเธอกลับบ้าน

“จะพาไปหาอะไรกินยังเหลือเวลาอีกมากไหนๆก็ลางานแล้ววันนี้ก็เลยอยากจะพักผ่อน”

เปรมธวัชอยากสร้างความคุ้นเคยและความใกล้ชิดสนิทกันระหว่างเขากับเธอให้มากกว่านี้เพราะถึงเมื่อคืนทั้งคู่จะมี                   ความใกล้ชิดและสนิทสนมทางกายด้วยกันแล้วแต่เขายังสัมผัสได้ถึงช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ที่หญิงสาวแสดงกับเขามันยังคงเป็นลักษณะเจ้านายกับลูกน้องอยู่

“นอกเมืองมีร้านอาหารทะเลน่ากิน ไกลหน่อยแต่รับรองได้ว่าคุณจะติดใจคุณแม่ชอบกินอาหารร้านนี้มากไม่ได้พาท่านมาแต่ก็ว่าจะซื้อไปฝาก”

ชายหนุ่มเริ่มเปิดบทสนทนา เขาพยายามพูดเกี่ยวกับความชอบและสิ่งที่เขาไม่ชอบให้สาวน้อยได้รับรู้เพราะถึงแม้ทั้งคู่จะรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแต่มันก็เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับลูกน้องจึงไม่ค่อยรู้ใจกันเท่าไหร่เปรมธวัชหวังว่ามินตราจะเป็นผู้หญิงที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ได้รักเธอและเธอก็ไม่ได้รักเขาก็ตาม

“ข้าวหลามร้านนี้อร่อยมาก”

รถยนต์คันหรูจอดหน้าร้านข้าวหลามที่เป็นเพียงป้าแก่ๆนั่งอยู่หน้าบ้านเท่านั้นทำเอามินตราถึงกับแปลกใจที่หนุ่มไฮโซอย่างเปรมธวัชรู้จักร้านขายของข้างทางแบบนี้ด้วย

“ลองกินแล้วคุณจะติดใจ”

ชายหนุ่มลงไปซื้อเมื่อขึ้นมาบนรถเขาก็แกะข้าวหลามส่งให้สาวน้อยที่นั่งข้างๆ มินตรามองหน้าตาของคนขับที่กำลังกินด้วยความเอร็ดอร่อยและยิ้มอย่างมีความสุขด้วยความไม่เข้าใจในตัวเขาในความที่เป็นเปรมธวัชหนุ่มนักธุรกิจไฮโซมาดสุขุมแต่ทำไมวันนี้เขากลับดูติดดินและกลายเป็นเพียงแค่ผู้ชายธรรมดาที่อารมณ์ดี

“ร้านนี้ลูกน้องผมเคยซื้อไปฝาก ผมชอบมากก็เลยขอให้เขาพามาตั้งแต่นั้นก็กลายเป็นลูกค้าประจำตลอด”

เปรมธวัชเป็นคนสนใจในเรื่องรายละเอียดยิบย่อยแม้แต่เรื่องของอาหารที่กิน เขายอมเดินทางขับรถไกลมาถึงที่นี่เพื่อได้กินข้าวหลามรสชาติถูกใจและเมื่อเลือกที่จะมาอุดหนุนคุณป้าก็ไม่ใช่แค่เพียงไม่กี่กระบอกแต่ชายหนุ่มกลับเหมามาทั้งหมดเพื่อนำไปแจกคนที่ทำงาน

ความเป็นคนมีน้ำใจของชายหนุ่มเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มินตราแอบมีใจให้กับลูกชายเจ้านายมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กสาวๆอยู่เพราะเขาจะคอยช่วยเหลือเธอทุกอย่างแม้แต่ตอนที่เธอไปเรียนโรงเรียนประจำเวลาที่เขาซื้อวัสดุอุปกรณ์การเรียนก็มักจะซื้อเผื่อแล้วฝากแม่ของเธอไปให้เสมอ

“กระเป๋าใบนี้ยังใช้อยู่อีก”

มินตราควานหาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเพื่อมาเช็ดปากจึงทำให้ชายหนุ่มมองเห็นกระเป๋าสตางค์ของเธอและเขาก็ต้องแปลกใจเพราะกระเป๋าใบนี้เขาเป็นคนซื้อให้เธอเองเมื่อเกือบ 5 ปีที่แล้ว

“มันยังใช้ได้อยู่แถมราคาแพงด้วย มิ้นก็เลยไม่ได้เปลี่ยนค่ะ”

หญิงสาวไม่กล้าบอกความจริงว่าถึงแม้ว่ามันจะเก่าหรือขาดตรงไหนเธอก็ยินดีที่จะใช้มันต่อเพราะมันคือของขวัญวันเกิดจากเขาที่มอบให้เธอเมื่อ 5 ปีที่แล้วและเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายเพราะหลังจากที่เธอกับเขาเริ่มอายุมากขึ้นความสัมพันธ์ก็เริ่มห่างกันออกไป

ระหว่างทางไปร้านอาหารเปรมธวัชยังคงแวะข้างทางอยู่เรื่อย ๆ เมื่อเขาเจอร้านของกินที่ถูกใจหรือเจอวิวทิวทัศน์ที่อยากจะลงไปถ่ายรูป ความสัมพันธ์ในวันนี้ทำให้ความรู้สึกถูกพัฒนาไปอีกขั้น ทั้งคู่มีโอกาสได้รู้จักกันในอีกแง่มุมมากขึ้น

มินตราเองจากสาวน้อยเรียบร้อยไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆวันนี้เธอก็ปล่อยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ออกมาอย่างธรรมชาติเมื่อรู้สึกมีความสุขที่ได้ออกมาท่องเที่ยวไกลบ้านสักครั้งเพราะชีวิตของเธอนอกจากบ้านของเปรมธวัชและโรงเรียนประจำเธอก็แทบจะไม่รู้จักที่ไหนเลยพอถึงช่วงเข้ามหาวิทยาลัยเธอก็เลือกที่จะอยู่หอในโดยตลอดและไม่เคยใช้เวลาว่างไปเที่ยวสังสรรค์ตามแบบวัยรุ่นเพราะเลือกที่จะช่วยแม่ประหยัดและใช้เวลาอ่านหนังสือเพื่อคว้าเกียรตินิยมอันดับ 1 มาให้ได้

“กว่าจะถึงร้านก็เกือบมืดเลยนะคะ”

สาวน้อยหันมาส่งยิ้มให้คนขับที่พาเธอแวะเที่ยวตลอดทางวันนี้เธอพยายามบอกกับตัวเองว่าไม่ว่าเขาจะดีกับเธอแค่ไหนเธอก็ยังเป็นแค่เพียงภรรยารับจ้างและเขาก็เป็นลูกชายของเจ้านายความสุขในวันนี้มินตราเลือกที่จะเก็บมันไว้ก้นลึกของหัวใจเพื่อเอาไว้ทดแทนเมื่อวันหนึ่งที่เธอกับเขาต้องแยกกันตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status