ตอนที่11
ไม่ไว้ใจ
“ไหนว่าจะกลับดึกคะ เด็กที่ร้านเพิ่งกลับไปเอง”
ป้าสุเพิ่งอาบน้ำให้ปูนปั้นเสร็จ กำลังนั่งทาแป้งแต่งตัวกัน ถามด้วยความสงสัย เพราะตอนแรกขิมบอกกับเธอว่าคงกลับดึก
“วันนี้ขิมเช่ารถสะกดรอยตามคุณภูไปค่ะ ”
หญิงสาวหยุดเล่าก่อนจะเดินไปอุ้มลูกชายมาหอมและกอดเพื่อเพิ่มกำลังใจ
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณขิม”
ป้าสุเห็นท่าทีของคนเล่า เริ่มไม่ค่อยสบายใจ เพราะสิ่งที่เจ้านายของเธอไปเจอคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
“ขิมเจอผู้หญิงคนหนึ่งนั่งรถไปกลับคุณภู และเส้นทางที่ไป ไม่ใช่ทางไปร้าน แต่เป็นทางไปคอนโดที่คุณภูเคยอยู่ ขิมเลยบอกให้คนขับพาขิมกลับ ขิมยังไม่พร้อมค่ะป้า ขิมกลัว”
ป้าสุได้แต่พยักหน้าเข้าใจ ขิมเธอเป็นผู้หญิงที่ชีวิตโดดเดี่ยว ถ้าเธอต้องเสียคุณภูไป เธอคงไม่รู้จะอยู่อย่างไร
“คุณแม่ วันนี้ปูนไปนอนด้วยนะ”
“นอนได้ครับ แต่ถ้าจะหลับแล้ว ต้องกลับไปนอนห้องของตัวเอง เดี๋ยวคุณยายไม่มีใครนอนด้วย ปูนปั้นไม่ห่วงคุณยายเหรอครับ”
ขิมพยายามปรับอารมณ์เมื่อลูกชายของเธอหันมาคุยด้วย เพราะไม่อยากให้ปูนปั้นสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจของเธอ
“คืนนี้เดี๋ยวคุณแม่จะเล่านิทานให้ฟัง จะมีใครฟังไม่จบแล้วหลับก่อนไหมครับ”
นานแล้วที่ขิมเอง ก็ลืมให้ความใส่ใจกับลูก เพราะมัวแต่กำลังไม่สบายใจเรื่องของสามี
“คุณแม่เล่าไม่สนุกเหมือนคุณพ่อเลย”
“คุณขิมไปกินข้าว อาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวป้าดูคุณหนูให้”
ป้าสุรีบพูดแทรกขึ้นมา เพราะรู้ว่าหญิงสาวกำลังรู้สึกสะเทือนใจกับคำพูดของลูกชาย
“คุณแม่ครับ ปูนขอนิทานที่พระเอกทำอาหารเก่งนะครับ”
ปูนปั้นตะโกนตามหลังมารดาไป เด็กน้อยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ครอบครัวของเขากำลังมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เพราะความเป็นเด็กเขายังคงสดใสร่าเริงเหมือนเดิม
ขิมเดินขึ้นไปบนห้องนอน ที่หน้าห้องของเธอมีรูปที่วรินถ่ายรูกคู่กับปูนปั้นไว้ หญิงสาวยืนหยุดดูและพูดกับรูปภาพ เพื่อหวังให้คนบนฟ้าได้ยิน
“คุณรินคะ ขิมจะเข้มแข็งให้ได้เหมือนคุณ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขิมจะไม่ทำให้ปูนปั้นต้องได้รับผลกระทบ คุณรินเป็นกำลังใจให้ขิมด้วยนะคะ”
ได้เวลาฟังนิทานป้าสุอุ้มเด็กชายตัวน้อยที่แสนจะพูดเก่งขึ้นมาส่งที่ห้องนอนของขิม
“นานมาแล้วมีเจ้าชายที่แสนจะหน้าตาดี”
“และทำอาหารเก่งด้วย คุณแม่ลืมอีกแล้ว”
ปูนปั้นยังไม่ทันฟังคุณแม่ของเขาเล่าจบประโยค ก็รีบพูดเติม เพราะกลัวจะขาดข้อความที่เขาต้องการไป
“เจ้าชายองค์นี้ชอบกินนมมาก เขาจึงได้คิดว่าจะเอานมไปทำขนมอะไรได้บ้าง เขาอยากทำแจกให้กับเด็ก ๆ ทุกคนในเมือง”
“ทำนมอัดเม็ดไงครับ”
อีกครั้งที่ลูกชายเป็นคนเล่าเสียเอง จนขิมอดขำไม่ได้ไม่รู้ตกลงใครเป็นคนฟังใครเป็นคนเล่ากันแน่
นิทานยังไม่ทันจบ ทั้งคนเล่าและคนฟังต่างก็หลับกันไปในอ้อมกอดทั้งคู่
“หลับกันทั้งคู่เลย”
ขิมมารู้สึกตัวอีกที เมื่อภูผากลับมาถึงและกำลังจะอุ้มลูกชายไปส่งที่ห้องนอน
“กลับมาแล้วเหรอคะ”
หญิงสาวเผลอหลับไปพร้อมลูก พอตื่นขึ้นมาก็ยังรู้สึกงัวเงียอยู่
“คุณนอนเถอะเดี๋ยวผมอุ้มลูกไปส่ง อาบน้ำ แล้วเดี๋ยวก็นอนแล้ว เหนื่อยมาทั้งวันเลย”
ประโยคหลังทำเอาคนฟังถึงกลับรู้สึกใจหาย สามีของเธอไปกับผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้น แล้วพอกลับมา บ่นว่าเหนื่อยทั้งวัน
“ที่ร้านมีลูกค้าเยอะเหรอคะ ถึงได้เหนื่อย”
ขิมรอจนภูผากลับจากส่งลูกชายที่ห้องเสร็จ เธอถึงถามถึงสาเหตุที่เหนื่อย
“ก็ใช่น่ะสิ และเยอะทั้งสองสาขาเลยนะ ผมนี่แทบจะเสิร์ฟเองอยู่แล้ว จะรับพนักงานเพิ่มขึ้น ก็ไม่รู้ว่าลูกค้าจะเยอะแบบนี้ไปตลอดไหม”
ขิมฝืนนั่งฟังคำโกหกของสามี และต้องทำเป็นเชื่อในสิ่งที่เขาพูด มันทรมานเหมือนหัวใจมันจะระเบิดออกมา
“แล้วครัวเวียดนามล่ะ คนเยอะไหม” ชายหนุ่มถามกลับ
“ปกติค่ะ ขิมเข้าไปแค่ช่วงสาย ส่วนช่วงบ่ายแวะไปคอนโดคุณมา”
ชายหนุ่มถึงกลับทำโทรศัพท์หลุดจากมือ เมื่อได้ยินในสิ่งที่ภรรยาพูด
“คุณไปทำไม ไปตอนกี่โมง”
ชายหนุ่มถามคำถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกำลังตะคอกอีกฝ่าย
“นี่คุณภูถามหรือกำลังโมโหอะไรขิมหรือเปล่าคะ”
หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงนอน เดินมาใกล้กับสามีจนหน้าแทบจะชิดกัน
“ผมก็แค่เป็นห่วงคุณ ขับรถไปมามันอันตราย”
“ขอบคุณนะคะ ที่ยังคิดห่วงกัน”
“ขิมคุณเป็นอะไรของคุณกัน โกรธอะไรผมหรือเปล่า พูดจาแปลกๆ คุณเป็นภรรยาผม จะไม่ให้ผมห่วงคุณได้อย่างไรกัน”
ปกติถ้าขิมยืนอยู่ใกล้เขาแบบนี้ ชายหนุ่มจะต้องกอดหรือหอมแก้มเธอแล้ว แต่ตอนนี้แม้แต่สายตาของเธอเขายังไม่มอง
“ขิมเป็นภรรยาของคุณ หรือแค่เป็นแม่ของลูก งานแต่งไม่มี ทะเบียนสมรสไม่ได้จด แต่ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่อย่าพยายามหาภรรยาเพิ่มแล้วกัน เรื่องบางเรื่องมันให้อภัยกันไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวนะคะ”
หญิงสาวพูดจบเธอก็เปิดประตูห้อง และลงมาเปิดเพลงฟังอยู่ข้างล่าง พร้อมกับดื่มเบียร์ทั้งที่เธอไม่เคยดื่ม
“ขิมคุณเป็นอะไร เลิกดื่มเลย แล้วขึ้นไปนอนได้แล้ว”
ภูผาตามมาง้อเธอข้างล่าง เพราะไม่อยากเห็นภรรยาเป็นแบบนี้เลย
“ขิมอยากอยู่คนเดียวค่ะ คุณขึ้นไปนอนเถอะ เผื่อคุณจะสำนึกได้ว่าวันนี้คุณเหนื่อยกับอะไร”
ชายหนุ่มเริ่มแน่ใจแล้ว ว่าภรรยาของเขาคงรู้อะไรมา แต่ดูจากอารมณ์และบรรยากาศคงไม่เหมาะที่จะคุยทุกเรื่องกันในเวลานี้
ตอนที่12สารภาพผิด “ขิมพรุ่งนี้คุณไปธุระกับผมหน่อยนะ เอาลูกไปด้วย” “อืม” หญิงสาวตอบแค่เพียงสั้นๆ เพื่อแสดงว่าเธอรับรู้ เพราะตอนนี้เธอเมาจนไม่อยากพูดอะไร ภูผานอนไม่หลับทั้งคืน เพราะเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวที่นอนข้างเขารู้อะไรมา และสิ่งที่รู้มันคือเรื่องจริงไหม เธอรู้เอง หรือมีใครมาเล่าให้ฟัง แต่สิ่งที่ชายหนุ่มมั่นใจ คือภรรยาของเขาดูเอาจริงเอาจัง ถ้าเขายังไม่แสดงออกให้เธอรู้สึกเชื่อใจ มีหวังไม่นาน คำว่าครอบครัวของเขาต้องพังยับเยินแน่ เพียงแค่หลับตา ภูผาก็คิดถึงใบหน้าของพี่สะใภ้ เขาให้สัญญากับเธอไว้ ว่าจะดูแลเลี้ยงดูและให้ความอบอุ่น ปูนปั้นให้ดีที่สุด แต่ตอนนี้เขาเพิ่งคิดได้ ว่าเขาแทบจะไม่มีเวลาเล่นกับลูกเหมือนตอนลูกมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ บางวันเขาออกไปทำงานแต่เช้า แล้วก็กลับดึก อย่างเช่นวันนี้ เขาได้เห็นหน้าลูกก็แค่ตอนที่ลูกหลับแล้วเท่านั้น ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามา ภูผาเองพยายามคิดหาทางออกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะเหตุการณ์วันนี้ เขาคิดว่าขิมต้องรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่ร้าน แต่เขาก็โทรไปถามพนักงานตลอด ทางนั้นก็ยืนยันว่าขิมไม่ได้ไปทั้งสองร้านเลย แ
ตอนที่13พร้อมหน้าครอบครัวใหญ่ วันนี้พ่อกับแม่ของภูผาจะเดินทางมาถึงที่สนามบินเชียงใหม่ วันนี้ครัวเวียดนามหยุดหนึ่งวัน เพื่อเตรียมรับทั้งคู่ “คิดถึงจังเลยลูกรักของแม่” นาตาลีโผเข้ากอดลูกชายทันที ที่ได้เจอหน้ากันที่สนามบิน “มิสยู เช่นกันครับ” ชายหนุ่มโดนหญิงสาวอวบจนเกือบอ้วน ตัวใหญ่ตามแบบฝรั่ง จูบแก้มซ้ายแก้มขวาด้วยความคิดถึง “แม่กับพ่อครับนี่ขิมและปูนปั้น ภรรยาและลูกชายของผม” ทั้งสองคนมัวแต่ดีใจที่ได้เจอหน้าลูกชายที่ไม่ได้เจอกันเป็นปี จนลืมสังเกตว่าเขาไม่ได้มาแค่คนเดียว “ฮาย ปูนปั้น มาให้...แม่ต้องเป็นอะไรนะ” นาตาลีหันไปถามลูกชาย เธอเริ่มจำสับสนว่าเธอควรจะเป็นย่าหรือยายกันแน่ “คุณแม่ต้องเป็นคุณย่าสิครับ” ปูนปั้นเด็กน้อยที่เข้ากับทุกคนได้เสมอ เพราะเขาโตมากับร้านอาหารจึงยอมให้ย่ากับปู่อุ้มแต่โดยดี “ปู่ซื้อของเล่นมาให้เยอะเลย ได้ข่าวว่าหลายชายคนเก่งเป็นเชฟน้อยใช่ไหม” “ใช่ครับ เชฟปูนปั้น” ปู่กับย่าต่างหัวเราะให้กับความฉอเลาะของหลานชาย ความจริงแล้วทั้งคู่
ตอนที่ 1สาวน้อยในเรือน“เมื่อคืนไปนอนไหนมาอีกล่ะบ้านช่องอยู่ไม่ติดเลยนะลูก” อมราอดที่จะต่อว่าลูกชายไม่ได้ทั้งที่ความจริงเปรมธวัชก็ทำตัวแบบนี้มาตลอด 10 ปีตั้งแต่เขากลับมาจากต่างประเทศพร้อมกับหอบหัวใจที่บอบช้ำกลับมา “โมโหอะไรมาครับถึงได้มาลงกับผมแบบนี้...ไหนมาหอมแก้มให้หายคิดถึงหน่อย” ชายหนุ่มที่ยังคงอยู่ในชุดทำงานเพราะตั้งแต่เมื่อคืนนี้เขายังไม่ได้กลับมาบ้านเลยเข้ามาโอบกอดคนเป็นแม่หอมแก้มฟอดใหญ่เพื่อเอาใจ “อายุจะ 40 แล้ว ลูกจะใช้ชีวิตต่อไปแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ แม่เองก็อยากจะอุ้มหลานอยากจะมีทายาทสืบสกุลกับเขาสักคน” ก่อนหน้านี้อมราพยายามจะเลือกหาลูกสะใภ้ที่ถูกใจเธอให้กับลูกชายแต่มันก็ไม่มีประโยชน์หลายครั้งที่เธอคิดว่าจะยอมให้เปรมธวัชจริงจังกับผู้หญิงสักคนทีเป็นคู่ขาอยู่ตอนนี้เพื่อที่เธอจะได้มีหลานแต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ไม่ยอมทำตาม “ผู้ชายอายุ 60 แล้วก็ยังมีลูกได้นะครับไม่เห็นต้องรีบเลยสาวๆสมัยนี้ก็อยากมีสามีอายุเยอะกันทั้งนั้น” ชายหนุ่มพยายามหาเหตุผลมาเฉไฉเพราะตัวเขาเองยังไม่รู้จะหาทางแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร เขาเคยคิดจะเลือกผู้
ตอนที่ 2คำขอร้องจากผู้มีพระคุณเปรมธวัชเดินออกมาจากคอนโดมิเนียมแต่เขาก็ต้องกลับไปอีกครั้งเมื่อคิดขึ้นได้ว่าลืมแฟ้มเอกสารบางอย่างไว้“สุดท้ายเธอก็หักหลังฉัน”ภาพที่เปรมธวัชได้เห็นคือผู้ชายที่เขาไม่คุ้นหน้ากำลังเดินเข้าไปยังห้องของนาเดียโดยที่หญิงสาวเป็นคนเปิดประตูให้สองมือที่คล้องคอและดึงตัวผู้ชายคนนั้นเข้าห้องทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์อะไรกันชายหนุ่มตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปแสดงตัว เขาไม่ต้องการเป็นคนโง่ที่โดนหักหลังอีกแล้วเขาจึงเลือกที่จะเดินออกมาและส่งข้อความกลับไปหาหญิงสาวที่เป็นคู่ขาให้เขาย้ายออกจากคอนโดของเขาภายในวันนี้ด้วยเหตุผลว่าเขาต้องการพาผู้หญิงคนใหม่มาอยู่เปรมธวัชตัดสินใจที่จะเดินหน้าเรื่องของมินตราทันทีชีวิตที่ผ่านมาทำให้เขาเริ่มกลัวว่าบางทีเงินทองที่เขามีอยู่จะไม่สามารถซื้อความรักจากใครได้อีกเขาจึงคิดว่าบางทีคำว่ามีพระคุณอาจจะทำให้เขาเป็นที่ต้องการของมินตราก็ได้“วันนี้คุณเปรมมาร่วมยินดีด้วยนะลูก”ยุพาหันไปบอกลูกสาวด้วยความซาบซึ้งใจที่ลูกชายของเจ้านายมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกสาวของเธอในวันรับปริญญา“มิ้นขอบคุณคุณเปรมมากนะคะที่มาร่วมยินดีกับมิ้นในว
ตอนที่ 3ภรรยาเด็ก“ในเมื่อมินตราตกลงแล้ว เราจะเอาอย่างไรกันต่อไป”อมราไม่กล้าถามลูกชายตรงๆว่าแผนการที่เธอวางไว้ เปรมธวัชพร้อมจะเริ่มต้นเมื่อไหร่เพราะสำหรับเธอแล้วต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเร็วที่สุด อายุของเธอมากขึ้นทุกวันดูแล้วคงไม่ได้อยู่ดูหลานจนถึงรับปริญญา“ผมพร้อมแล้วครับอยู่ที่สาวน้อยของคุณแม่นั่นแหละที่จะพร้อมหรือยัง”ชายหนุ่มตอบด้วยความมั่นใจเพราะตัวเขาเองตอนนี้ก็ ไม่เหลือผู้หญิงคนไหนอีกแล้วตั้งแต่วันนั้นที่เขารู้ความจริงเรื่องของนาเดียเขาก็ตั้งใจว่าจะยุติความสัมพันธ์แบบชั่วคราวแล้วหันมาทำตามในสิ่งที่แม่ต้องการจะดีกว่าการมีลูกบางครั้งอาจจะทำให้ตัวเขาเองมีความสุขในชีวิตมากกว่านี้ก็ได้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนเข้าหอสำหรับภรรยารับจ้างที่ไม่มีแม้แต่งานแต่งไม่มีการบอกรักไม่มีทะเบียนสมรสไม่มีสิ่งใดๆที่ผู้หญิงต่างก็เฝ้าฝันว่าชีวิตของเธอจะต้องได้รับจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี“มิ้นพร้อมแล้วค่ะ”หญิงสาวในชุดนอนพูดขึ้นเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องที่อมราจัดไว้สำหรับเป็นห้องนอนของทั้งคู่ในการผลิตหลานให้กับเธอ“พูดจาเป็นหุ่นยนต์เหมือนไร้ความรู้สึกแบบนี้ผมจะทำอะไรคุ
ตอนที่ 4เรียนรู้ระหว่างเรา“ไม่เอา ! ผมไม่ให้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้”เปรมธวัชดึงเสื้อยืดออกจากมือของภรรยาเด็กเพราะพี่เขาพาเธอมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ในวันนี้เพราะอยากให้สาวน้อยแต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น“มิ้นเคยใส่แต่เสื้อผ้าแบบนี้ถ้าเป็นแบบอื่นก็ไม่รู้จะใส่แบบไหนเหมือนกันค่ะ”มินตราคิดไม่ออกว่าเสื้อผ้าแบบไหนที่จะเหมาะกับเธอจึงยกให้เปรมธวัชทำหน้าที่เลือกเอาแบบที่เขาต้องการทั้งสองคนเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังจ้องมองอยู่“คุณเปรมพาใครมาซื้อเสื้อผ้าคะนี่”สาวสวยไฮโซเดินเข้ามาทักทายเปรมธวัชพร้อมกับเพื่อนของเธออีก 3 คนซึ่งทุกคนกำลังหันมาจ้องมองสาวน้อยที่กำลังยืนอยู่ข้างนักธุรกิจชื่อดัง“สวัสดีครับน้องไอลดา”ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามแต่หันกลับไปทักทายอีกฝ่ายแทนซึ่งด้วยมารยาทแล้วทำให้คำถามนั้นต้องเป็นอันตกไปเมื่อถูกบทสนทนาอื่นเข้ามาแทน“ปกติแล้วไอไม่เคยเห็นพี่เปรมมาเดินห้างแบบนี้เลยนะคะใครๆก็พากันพูดกันว่านักธุรกิจหนุ่มใหญ่อย่างคุณเปรมธวัชนอกจากเรื่องงานแล้วก็ไม่สนใจเรื่องอื่นเลย”ไอลดาพยายามจะล้วงเอาคำตอบให้ได้ว่าผู้หญิงที่มากับเปรมธวัชใ
ตอนที่ 5เผลอปล่อยใจ“คุณแม่ครับผมซื้ออาหารทะเลร้านโปรดมาฝาก” เปรมธวัชยื่นถุงกับข้าวถุงใหญ่ส่งให้มารดาที่นั่งรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขกด้วยท่าทางมีความสุขที่เห็นลูกชายกลับมาพร้อมกับลูกสะใภ้ของเธอ “พามินตราไปร้านโปรดของเรามาใช่ไหม” อมราถามทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วเพราะลูกชายโทรมาบอกตั้งแต่ช่วงเย็นแต่ที่เธอแกล้งพูดเพราะอยากให้หญิงสาวได้รู้ว่าร้านอาหารร้านนั้นถ้าไม่พิเศษจริงๆเปรมธวัชไม่มีทางพาไป “มิ้นชอบบรรยากาศที่นั่นมากครับสงสัยวันหลังเราต้องไปกันพร้อมหน้าทุกคนจะได้สนุกมากยิ่งขึ้นรับรองได้ว่าถ้าน้ายุพาไปคงได้ถอดสูตรอาหารเอามาทำให้เราได้กินกันแน่” ยุพาสาวใช้มองหน้าเจ้านายด้วยความแปลกใจเพราะการที่เปรมธวัชพูดแบบนี้หมายความว่าเขาจะพาเธอไปกินด้วย มินตราได้ยินคำพูดของสามีที่ให้ความสำคัญกับแม่ของเธอหญิงสาวรู้สึกมีความสุขที่เธอเลือกตัดสินใจไม่ผิดยอมเป็นภรรยารับจ้างให้เขาถึงแม้เธอจะไม่มีตัวตนในสังคมแต่ในบ้านหลังนี้ เปรมธวัชให้ความสำคัญกับเธอตามที่เขาสัญญาไว้จริงๆและความสำคัญนี้ก็เผื่อแผ่ไปหามารดาของเธอด้วย “เปรมรู้ไหมยุพาไม่ย
ตอนที่ 6การมาของใครบางคน“สวัสดีค่ะ คุณแม่สบายดีไหมคะไม่ได้เจอกันเสียหลายปี” สาวสวยหุ่นนางแบบดีกรีนักเรียนนอกยกมือไหว้อมราด้วยความนอบน้อมถึงแม้ว่าสไตล์การแต่งตัวของเธอจะดูไม่ค่อยเป็น คนเรียบร้อยเท่าไหร่ “ไหว้พระเถอะแม่คุณ ลมอะไรหอบทายาทเพียงคนเดียวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาถึงบ้านของแม่ได้” อมราถึงแม้จะพยายามปั้นหน้าพูดดีตามแบบคนมีมารยาทแต่เธอก็อดที่จะใส่คำพูดจิกกัดลงไปไม่ได้เพราะหญิงสาวที่มาเป็นแขกในวันนี้เธอคือคนเดียวกับที่ทำร้ายหัวใจลูกชายเขาเมื่อหลายปีก่อน “รินกลับมาจากต่างประเทศนานแล้วแต่ไม่กล้ามาหาคุณแม่เพราะยังไม่รู้ว่าเปรมจะหายโกรธรินแล้วหรือยังค่ะ” คนพูดพยายามทำดวงตาให้ดูเศร้าเหมือนว่าเธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำลงไปในอดีตแต่มันก็ไม่ทำให้ความรู้สึกของอมราดีขึ้นเพราะเธอรู้จักผู้หญิงตรงหน้าดีว่ามารยาร้อยเล่มเกวียนแค่ไหน “สิ่งที่เธอทำมันสร้างความเจ็บปวดให้กับเปรมธวัชอยู่มากแต่ไม่ต้องกลัวตอนนี้เขาลืมเธอและทุกอย่างที่เธอทำหมดแล้ว คนเราไม่มีใครจมอยู่กับเรื่องไม่ดีหรือคนไม่ดีได้นานหรอก” ความเป็นแม่ถึงแม้จะ