Share

ไม่ไว้ใจ

ตอนที่11

ไม่ไว้ใจ

          “ไหนว่าจะกลับดึกคะ เด็กที่ร้านเพิ่งกลับไปเอง”

         ป้าสุเพิ่งอาบน้ำให้ปูนปั้นเสร็จ กำลังนั่งทาแป้งแต่งตัวกัน ถามด้วยความสงสัย เพราะตอนแรกขิมบอกกับเธอว่าคงกลับดึก

          “วันนี้ขิมเช่ารถสะกดรอยตามคุณภูไปค่ะ ”

          หญิงสาวหยุดเล่าก่อนจะเดินไปอุ้มลูกชายมาหอมและกอดเพื่อเพิ่มกำลังใจ

          “เกิดอะไรขึ้นคะคุณขิม”

         ป้าสุเห็นท่าทีของคนเล่า เริ่มไม่ค่อยสบายใจ เพราะสิ่งที่เจ้านายของเธอไปเจอคงไม่ใช่เรื่องดีแน่

          “ขิมเจอผู้หญิงคนหนึ่งนั่งรถไปกลับคุณภู และเส้นทางที่ไป ไม่ใช่ทางไปร้าน แต่เป็นทางไปคอนโดที่คุณภูเคยอยู่ ขิมเลยบอกให้คนขับพาขิมกลับ ขิมยังไม่พร้อมค่ะป้า ขิมกลัว”

          ป้าสุได้แต่พยักหน้าเข้าใจ ขิมเธอเป็นผู้หญิงที่ชีวิตโดดเดี่ยว ถ้าเธอต้องเสียคุณภูไป เธอคงไม่รู้จะอยู่อย่างไร

          “คุณแม่ วันนี้ปูนไปนอนด้วยนะ”

          “นอนได้ครับ แต่ถ้าจะหลับแล้ว ต้องกลับไปนอนห้องของตัวเอง เดี๋ยวคุณยายไม่มีใครนอนด้วย ปูนปั้นไม่ห่วงคุณยายเหรอครับ”

          ขิมพยายามปรับอารมณ์เมื่อลูกชายของเธอหันมาคุยด้วย เพราะไม่อยากให้ปูนปั้นสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจของเธอ

          “คืนนี้เดี๋ยวคุณแม่จะเล่านิทานให้ฟัง จะมีใครฟังไม่จบแล้วหลับก่อนไหมครับ”

          นานแล้วที่ขิมเอง ก็ลืมให้ความใส่ใจกับลูก เพราะมัวแต่กำลังไม่สบายใจเรื่องของสามี

          “คุณแม่เล่าไม่สนุกเหมือนคุณพ่อเลย”

          “คุณขิมไปกินข้าว อาบน้ำก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวป้าดูคุณหนูให้”

          ป้าสุรีบพูดแทรกขึ้นมา เพราะรู้ว่าหญิงสาวกำลังรู้สึกสะเทือนใจกับคำพูดของลูกชาย

          “คุณแม่ครับ ปูนขอนิทานที่พระเอกทำอาหารเก่งนะครับ”

          ปูนปั้นตะโกนตามหลังมารดาไป เด็กน้อยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ครอบครัวของเขากำลังมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เพราะความเป็นเด็กเขายังคงสดใสร่าเริงเหมือนเดิม

          ขิมเดินขึ้นไปบนห้องนอน ที่หน้าห้องของเธอมีรูปที่วรินถ่ายรูกคู่กับปูนปั้นไว้ หญิงสาวยืนหยุดดูและพูดกับรูปภาพ เพื่อหวังให้คนบนฟ้าได้ยิน

          “คุณรินคะ ขิมจะเข้มแข็งให้ได้เหมือนคุณ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขิมจะไม่ทำให้ปูนปั้นต้องได้รับผลกระทบ คุณรินเป็นกำลังใจให้ขิมด้วยนะคะ”

          ได้เวลาฟังนิทานป้าสุอุ้มเด็กชายตัวน้อยที่แสนจะพูดเก่งขึ้นมาส่งที่ห้องนอนของขิม

          “นานมาแล้วมีเจ้าชายที่แสนจะหน้าตาดี”

          “และทำอาหารเก่งด้วย คุณแม่ลืมอีกแล้ว”

          ปูนปั้นยังไม่ทันฟังคุณแม่ของเขาเล่าจบประโยค ก็รีบพูดเติม เพราะกลัวจะขาดข้อความที่เขาต้องการไป

          “เจ้าชายองค์นี้ชอบกินนมมาก เขาจึงได้คิดว่าจะเอานมไปทำขนมอะไรได้บ้าง เขาอยากทำแจกให้กับเด็ก ๆ ทุกคนในเมือง”

          “ทำนมอัดเม็ดไงครับ”

          อีกครั้งที่ลูกชายเป็นคนเล่าเสียเอง จนขิมอดขำไม่ได้ไม่รู้ตกลงใครเป็นคนฟังใครเป็นคนเล่ากันแน่

          นิทานยังไม่ทันจบ ทั้งคนเล่าและคนฟังต่างก็หลับกันไปในอ้อมกอดทั้งคู่

          “หลับกันทั้งคู่เลย”

          ขิมมารู้สึกตัวอีกที เมื่อภูผากลับมาถึงและกำลังจะอุ้มลูกชายไปส่งที่ห้องนอน

          “กลับมาแล้วเหรอคะ”

          หญิงสาวเผลอหลับไปพร้อมลูก พอตื่นขึ้นมาก็ยังรู้สึกงัวเงียอยู่

          “คุณนอนเถอะเดี๋ยวผมอุ้มลูกไปส่ง อาบน้ำ แล้วเดี๋ยวก็นอนแล้ว เหนื่อยมาทั้งวันเลย”

         ประโยคหลังทำเอาคนฟังถึงกลับรู้สึกใจหาย สามีของเธอไปกับผู้หญิงแปลกหน้าคนนั้น แล้วพอกลับมา บ่นว่าเหนื่อยทั้งวัน

          “ที่ร้านมีลูกค้าเยอะเหรอคะ ถึงได้เหนื่อย”

          ขิมรอจนภูผากลับจากส่งลูกชายที่ห้องเสร็จ เธอถึงถามถึงสาเหตุที่เหนื่อย

          “ก็ใช่น่ะสิ และเยอะทั้งสองสาขาเลยนะ ผมนี่แทบจะเสิร์ฟเองอยู่แล้ว จะรับพนักงานเพิ่มขึ้น ก็ไม่รู้ว่าลูกค้าจะเยอะแบบนี้ไปตลอดไหม”

          ขิมฝืนนั่งฟังคำโกหกของสามี และต้องทำเป็นเชื่อในสิ่งที่เขาพูด มันทรมานเหมือนหัวใจมันจะระเบิดออกมา

          “แล้วครัวเวียดนามล่ะ คนเยอะไหม” ชายหนุ่มถามกลับ

          “ปกติค่ะ ขิมเข้าไปแค่ช่วงสาย ส่วนช่วงบ่ายแวะไปคอนโดคุณมา”

          ชายหนุ่มถึงกลับทำโทรศัพท์หลุดจากมือ เมื่อได้ยินในสิ่งที่ภรรยาพูด

          “คุณไปทำไม ไปตอนกี่โมง”

          ชายหนุ่มถามคำถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกำลังตะคอกอีกฝ่าย

          “นี่คุณภูถามหรือกำลังโมโหอะไรขิมหรือเปล่าคะ”

          หญิงสาวลุกขึ้นจากเตียงนอน เดินมาใกล้กับสามีจนหน้าแทบจะชิดกัน

          “ผมก็แค่เป็นห่วงคุณ ขับรถไปมามันอันตราย”

          “ขอบคุณนะคะ ที่ยังคิดห่วงกัน”

          “ขิมคุณเป็นอะไรของคุณกัน โกรธอะไรผมหรือเปล่า พูดจาแปลกๆ คุณเป็นภรรยาผม จะไม่ให้ผมห่วงคุณได้อย่างไรกัน”

          ปกติถ้าขิมยืนอยู่ใกล้เขาแบบนี้ ชายหนุ่มจะต้องกอดหรือหอมแก้มเธอแล้ว แต่ตอนนี้แม้แต่สายตาของเธอเขายังไม่มอง

          “ขิมเป็นภรรยาของคุณ หรือแค่เป็นแม่ของลูก งานแต่งไม่มี ทะเบียนสมรสไม่ได้จด แต่ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่อย่าพยายามหาภรรยาเพิ่มแล้วกัน เรื่องบางเรื่องมันให้อภัยกันไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวนะคะ”

          หญิงสาวพูดจบเธอก็เปิดประตูห้อง และลงมาเปิดเพลงฟังอยู่ข้างล่าง พร้อมกับดื่มเบียร์ทั้งที่เธอไม่เคยดื่ม

          “ขิมคุณเป็นอะไร เลิกดื่มเลย แล้วขึ้นไปนอนได้แล้ว”

          ภูผาตามมาง้อเธอข้างล่าง เพราะไม่อยากเห็นภรรยาเป็นแบบนี้เลย

          “ขิมอยากอยู่คนเดียวค่ะ คุณขึ้นไปนอนเถอะ เผื่อคุณจะสำนึกได้ว่าวันนี้คุณเหนื่อยกับอะไร”

          ชายหนุ่มเริ่มแน่ใจแล้ว ว่าภรรยาของเขาคงรู้อะไรมา แต่ดูจากอารมณ์และบรรยากาศคงไม่เหมาะที่จะคุยทุกเรื่องกันในเวลานี้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status