Share

ตอนจบพร้อมหน้าครอบครัวใหญ่

ตอนที่13

พร้อมหน้าครอบครัวใหญ่

          วันนี้พ่อกับแม่ของภูผาจะเดินทางมาถึงที่สนามบินเชียงใหม่ วันนี้ครัวเวียดนามหยุดหนึ่งวัน เพื่อเตรียมรับทั้งคู่

          “คิดถึงจังเลยลูกรักของแม่”

         นาตาลีโผเข้ากอดลูกชายทันที ที่ได้เจอหน้ากันที่สนามบิน

          “มิสยู เช่นกันครับ”

          ชายหนุ่มโดนหญิงสาวอวบจนเกือบอ้วน ตัวใหญ่ตามแบบฝรั่ง จูบแก้มซ้ายแก้มขวาด้วยความคิดถึง

          “แม่กับพ่อครับนี่ขิมและปูนปั้น ภรรยาและลูกชายของผม”

          ทั้งสองคนมัวแต่ดีใจที่ได้เจอหน้าลูกชายที่ไม่ได้เจอกันเป็นปี จนลืมสังเกตว่าเขาไม่ได้มาแค่คนเดียว

          “ฮาย ปูนปั้น มาให้...แม่ต้องเป็นอะไรนะ”

          นาตาลีหันไปถามลูกชาย เธอเริ่มจำสับสนว่าเธอควรจะเป็นย่าหรือยายกันแน่

          “คุณแม่ต้องเป็นคุณย่าสิครับ”

          ปูนปั้นเด็กน้อยที่เข้ากับทุกคนได้เสมอ เพราะเขาโตมากับร้านอาหารจึงยอมให้ย่ากับปู่อุ้มแต่โดยดี

         “ปู่ซื้อของเล่นมาให้เยอะเลย ได้ข่าวว่าหลายชายคนเก่งเป็นเชฟน้อยใช่ไหม”

          “ใช่ครับ เชฟปูนปั้น”

          ปู่กับย่าต่างหัวเราะให้กับความฉอเลาะของหลานชาย ความจริงแล้วทั้งคู่ตั้งใจจะเดินทางมานานแล้ว แต่ติดปัญหาธุรกิจที่พ่อของเขาทำ มันกำลังแย่ ตอนนี้จอร์นเลยตัดสินใจขายบริษัททิ้งแล้ว และตั้งใจจะมาหาอะไรทำที่เมืองไทย

         งานเลี้ยงต้อนรับเสร็จสิ้น ปู่กับย่าก็เดินทางมานอนที่บ้านที่ขิมได้จัดเตรียมไว้ บ้านหลังนี้เกิดจากบ้านสองหลังเชื่อมกัน ขิมจึงจัดให้ทั้งคู่อยู่ในส่วนของอีกหลังเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัว

          เช้าวันนี้จอร์นเดินหน้าเรื่องธุรกิจทันที เขาขอให้         ลูกชายพาเขาไปดูร้านอาหารทั้งสามสาขา และพาขับรถเที่ยวชมเมืองเชียงใหม่ เพื่อดูลู่ทางเปิดกิจการ

          นาตาลียังปรับตัวกับเวลาไม่ได้จึงขอนอนตื่นสายและอยู่เลี้ยงหลายช่วยป้าสุดีกว่า เพราะทั้งคู่ได้รู้จักกันแล้วตั้งแต่เมื่อคืน

         ปูนปั้นติดคุณย่ามาก เพราะของเล่นที่ปู่กับย่าซื้อมาถูกใจ วันนี้ป้าสุจึงว่าง เลยได้มีโอกาสทำความสะอาดบ้าน เพราะที่บ้านหลังนี้ป้าสุทำทุกอย่างทั้งเลี้ยงเด็ก แม่บ้าน และยังเป็นที่ปรึกษาในทุกๆเรื่องให้กับขิม จนเธอคิดเสมอว่าป้าสุคือแม่ของเธออีกคน

         

          “กิจการไปได้ดีเลยนะลูก แต่พ่อว่าถ้าเราทำอย่างเดียวความเสี่ยงมันสูง นอกจากร้านอาหารแล้ว ลูกว่าที่นี่น่าจะทำอะไรได้อีก”

          จอร์นมีความเป็นนักธุรกิจมาตลอดชีวิต จริงๆ เงินที่ได้จากการขายกิจการที่นู่น เขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยโดยที่ไม่ต้องทำอะไรได้เลย แต่นั่นมันจะทำให้ชีวิตเขาดูไร้ค่าและไม่มีความสุข

          “ผมคิดไว้สองอย่างครับ คือซื้อคอนโดแถวย่านที่ฝรั่งอยู่กันเยอะๆ และทำร้านอาหารเพิ่มที่ปาย อยู่ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนครับ ไว้วันหลังผมจะพาพ่อกับแม่ไปดู ชาวต่างชาติเยอะมาก เยอะพอๆกับเชียงใหม่เลย แล้วแต่ละคนก็มาอยู่กันนาน”

          จอร์นเห็นด้วยกับความคิดของลูกชาย เพราะเขาก็ไม่ได้อยากมาอยู่บ้านเดียวกับภูผาสักเท่าไหร่ เพราะสำหรับการเลี้ยงดูแบบฝรั่งแล้ว ลูกเมื่อโตก็ควรออกไปดูแลตัวเอง ไม่ใช่อย่างคนไทยที่อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่

*****3เดือนผ่านไป****

         

          ปู่กับย่ากลับมาเมืองไทยอีกครั้งและครั้งนี้ก็คงอยู่ยาว เพราะบ้านที่อเมริกาปล่อยให้เช่าแล้ว ส่วนบ้านที่เมืองไทยที่กำลังสร้างที่ปายก็ใกล้จะเสร็จแล้ว จอร์นตัดสินใจที่จะทำเป็นทั้งร้านอาหาร และรีสอร์ต มีบริการรถเช่าเสร็จสรรพอยู่ในที่เดียวกัน เพราะเขาซื้อที่ดินติดลำน้ำปายถึงห้าไร่ หมดเงินไปหลายล้านบาท

          “คนนี้ผู้หญิงหรือผู้ชาย”

          นาตาลีเธอไม่เคยมีลูกจึงตื่นเต้นแทนขิมที่กำลังท้องโตอยู่

          “ผู้หญิงค่ะ”

          “ท้องกี่เดือนแล้ว ทำไมท้องใหญ่มาก”

          นาตาลีลูบท้องด้วยความสงสัย เพราะตอนเธอขึ้นเครื่องกลับอเมริกา ลูกสะใภ้ยังไม่ท้องเลย

          “สามเดือนค่ะ แต่ท้องใหญ่ เพราะ....เป็นแฝดค่ะ”

          จอร์นและภรรยากระโดดเข้าหากันด้วยความดีใจ ทั้งคู่ไม่ค่อยรู้จักใครที่เมืองไทยเพราะจอร์นเป็นลูกเสี่ยวไทยอังกฤษแต่ก็อยู่ไทยแค่เพียงครั้งคราว ส่วนนาตาลีนั้น เธอหลากเชื้อชาติมาก ทั้งไทย เวียดนาม อังกฤษ เธอเกิดที่อังกฤษและย้ายมาอยู่เมืองไทยจนเป็นสาว และไปพบรักกับจอร์นที่อังกฤษ เลยตั้งรกรากอยู่ที่นั่นยาวทั้งคู่ การมีหลานหลายคนจะช่วยให้ทั้งคู่ไม่เหงา

          “เชพน้อยไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”

          นาตาลีถามหาหลานชายสุดที่รัก เพราะคิดว่าทั้งคู่จะพามาด้วย

          “ตอนนี้ปูนปั้นได้สามขวบแล้ว เลยเข้าเรียนเตรียมอนุบาลแล้วค่ะ เดี๋ยวพอเราออกจากสนามบินก็จะไปแวะรับกันค่ะ”

         

          บ้านที่ปายสร้างเสร็จ ธุรกิจก็เปิดอย่างเป็นทางการ ภูผาส่งเด็กที่ร้านไปช่วยงานพ่อกับแม่ เพื่อให้สอนงานเด็กใหม่ที่เข้ามาสมัคร ส่วนตัวภูผาเอง ก็กำลังยุ่งกับลูกแฝดที่เพิ่งลืมตาดูลูก ป้าสุเองก็แก่มากแล้ว ตอนนี้ขิมจึงเอาเด็กที่ร้านมาช่วยป้าสุเลี้ยง และรับสมัครแม่บ้านแบบไปกลับหนึ่งคน ป้าช่วยเองก็ต้องคอยวิ่งดูแลร้านอาหารทั้งสามสาขาให้เจ้านาย

          ขิมไม่คิดเลยว่าแค่เวลาไม่กี่ปีที่เธอมาอยู่ที่เชียงใหม่ เธอจะมีญาตินอกสายเลือดได้มากขนาดนี้ ทุกคนกลายเป็นครอบครัวเดียวกันหมด

          ภูวดลเองก็หันหน้าปฎิบัติธรรม แต่ก็ยังไม่ทิ้งบริษัท เพราะเขาตั้งใจจะเก็บไว้ให้ลูกชายสุดที่รักของเขา ปูนปั้นเองก็คิดถึงพ่อดลจะแย่ ขนาดไม่ค่อยเจอกัน แต่เมื่อไหร่ที่พ่อดลมา ปูนปั้นจะไม่ยอมให้ใครมายุ่งเลย โรงเรียนก็ไม่ไป ยิ่งทำให้ภูวดลตัดทางโลกใหม่ขาดเสียที่เดียว เพราะยังมีความห่วงในตัวลูกชายตัวน้อยที่เป็นตัวแทนของภรรยาของเขา

         สาวน้อยฝาแฝดลืมตาดูโลกพร้อมกับใบหน้าที่เหมือนกันไม่พอ แต่ทั้งคู่ยังมีหน้าตาคล้ายกับวริน จนภูวดลเห็นถึงกลับคิดว่าภรรยาของเขาได้กลับมาเกิด

          “สาวน้อยของพ่อดล สาวปอ สาวป่าน หน้าตาน่าชังเหมือนแม่รินไม่มีผิดเลย”

          เด็กๆทั้งสามคนในบ้านจึงมีพ่อและแม่อย่าละสองคนพ่อดล พ่อภู แม่ขิม แม่ริน หลายปีแล้วที่วรินจากไปแต่ไม่มีวันไหนที่ทุกคนไม่คิดถึง เพราะเธอคือผู้ให้สำหรับทุกคนจริงๆ

          จากครอบครัวเล็ก ๆ  ฝาแฝดที่ถูกแยกจากกันไปคนละประเทศตอนนี้ก็กลับกลายเป็นครอบครัวใหญ่ที่ทั้งอบอุ่น วุ่นวาย สนุกสนานกับเด็กน้อยทั้งสามคน ที่มาเติมให้ทุกคนได้มีความสุขและรอยยิ้มตลอดไป

จบบริบูรณ์

        

ขอหัวใจเป็นกำลังให้ปะหนันหน่อยนะคะ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status