Share

การมาของใครบางคน

ตอนที่ 6

การมาของใครบางคน

“สวัสดีค่ะ คุณแม่สบายดีไหมคะไม่ได้เจอกันเสียหลายปี”

         สาวสวยหุ่นนางแบบดีกรีนักเรียนนอกยกมือไหว้อมราด้วยความนอบน้อมถึงแม้ว่าสไตล์การแต่งตัวของเธอจะดูไม่ค่อยเป็น             คนเรียบร้อยเท่าไหร่

         “ไหว้พระเถอะแม่คุณ ลมอะไรหอบทายาทเพียงคนเดียวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาถึงบ้านของแม่ได้”

         อมราถึงแม้จะพยายามปั้นหน้าพูดดีตามแบบคนมีมารยาทแต่เธอก็อดที่จะใส่คำพูดจิกกัดลงไปไม่ได้เพราะหญิงสาวที่มาเป็นแขกในวันนี้เธอคือคนเดียวกับที่ทำร้ายหัวใจลูกชายเขาเมื่อหลายปีก่อน

         “รินกลับมาจากต่างประเทศนานแล้วแต่ไม่กล้ามาหาคุณแม่เพราะยังไม่รู้ว่าเปรมจะหายโกรธรินแล้วหรือยังค่ะ”

         คนพูดพยายามทำดวงตาให้ดูเศร้าเหมือนว่าเธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำลงไปในอดีตแต่มันก็ไม่ทำให้ความรู้สึกของอมราดีขึ้นเพราะเธอรู้จักผู้หญิงตรงหน้าดีว่ามารยาร้อยเล่มเกวียนแค่ไหน

         “สิ่งที่เธอทำมันสร้างความเจ็บปวดให้กับเปรมธวัชอยู่มากแต่ไม่ต้องกลัวตอนนี้เขาลืมเธอและทุกอย่างที่เธอทำหมดแล้ว คนเราไม่มีใครจมอยู่กับเรื่องไม่ดีหรือคนไม่ดีได้นานหรอก”

         ความเป็นแม่ถึงแม้จะรู้ว่าลูกชายรักผู้หญิงตรงหน้ามากแค่ไหนแต่ในเมื่อเธอคือคนที่ทำให้เปรมธวัชเจ็บปวดไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนอมราก็ไม่เคยลืมและเธอก็ไม่คิดที่จะให้อภัย

         “ได้ยินคุณแม่พูดแบบนี้  รินยิ่งอยากจะเจอกับเปรมอยากรู้ว่าเขาจะลืมเรื่องราวระหว่างเราได้จนหมดสิ้นเหมือนอย่างที่คุณแม่พูดไหมเพราะเท่าที่รินรู้มาเปรมธวัชยังไม่ยอมมีแฟนตั้งแต่เราเลิกกัน”

         รินรดาพูดด้วยความมั่นใจเพราะก่อนที่เธอจะตัดสินใจมาที่บ้านหลังนี้เธอได้สืบข้อมูลเกี่ยวกับเปรมธวัชมาแล้วว่าชายหนุ่มยังคงรักษาความโสดไว้ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถเข้ามานั่งในหัวใจของเขาแทนเธอได้

         หญิงสาวนักเรียนนอกเมื่อรู้ว่าเป้าหมายของเธอไม่ได้อยู่ที่บ้านจึงรีบขับรถไปหาเขาที่บริษัทความจริงแล้วเธอมีเบอร์โทรของเปรมธวัชแต่ที่เลือกจะไม่โทรไปบอกเพราะไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มจะอยากเจอเธอไหม

         รินรดาออกไปแล้วอมราอึดอัดใจมากเธอไม่รู้จะพูดกับใครจึงเรียกยุพาเข้ามาหาเพราะแม่บ้านคนนี้เป็นคนที่รับรู้เรื่องราวระหว่างเปรมธวัชกับรินรดามาโดยตลอด

         “บางทีคุณรินอาจจะแค่มาหาคุณเปรมในฐานะเพื่อนก็ได้ค่ะ”

         ยุพาพยายามพูดปลอบใจเจ้านาย เธอรู้ดีว่าถ้าทั้งคู่กลับมาคืนดีกันอมราจะเจ็บปวดแค่ไหนเพราะตอนที่เปรมธวัชต้องผิดหวังจากความรักครั้งนั้นเขาแทบเสียผู้เสียคนงานการไม่ทำกินเหล้าเมาทุกวันและถึงขั้นทำร้ายร่างกายตัวเอง

         “ฉันก็ได้แต่หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้น ถ้าลูกชายของฉันมันเจ็บแล้วไม่จำฉันก็คงไม่รู้จะทำอย่างไร”

         อมราเป็นห่วงลูกชายของเธอก็ไม่ต่างอะไรกับยุพาที่ตอนนี้กำลังเป็นห่วงลูกสาวเหมือนกันถ้ารินนภากับเปรมธวัชกลับมาคบกันและมินตราเธอจะอยู่ต่อไปในฐานะอะไร

         “ลูกชายฉันดีด้วยทุกอย่างแต่กลับหลอกลวงทำร้ายจิตใจเขาอยู่หลายปีทั้งที่ตัวเองก็แอบไปมีผู้ชายคนอื่นอยู่แล้วฉันไม่เข้าใจเปรมเลยทำไมถึงเลือกรักผู้หญิงแบบนี้”

         อมราหวนคิดถึงภาพความทรงจำเมื่อในอดีตตอนที่รินรดาบอกเลิกลูกชายของเธอในวันที่เปรมธวัชจัดได้ว่าหญิงสาว แอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นทั้งที่คบกับเขาอยู่และนับตั้งแต่วันนั้นลูกชายของเธอก็เฝ้ารอให้คนรักกลับมาจากเดือนผ่านไปเป็นปีจากปีกลายเป็น 5 ปีกว่าที่เปรมธวัชจะกลับมาเป็นคนเดิมที่สามารถอยู่ในสังคมได้โดยไม่มีหยดน้ำตา

         “แล้วเป็นอะไร...ฉันพูดอะไรก็เอาแต่เงียบไม่ยอมตอบ”

         อมราเพิ่งหันมาสังเกตว่าเธอพูดอยู่คนเดียวยุพาทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีได้แต่ก้มหน้ารับฟังไม่ตอบโต้หรือออกความคิดเห็นใดๆจากที่ปกติแล้วแม่บ้านคนนี้จะคอยช่วยเธอคิดหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆแต่ครั้งนี้กลับทำสีหน้าและแววตาเครียดตามเธอไปด้วย

         “ยุพาไม่รู้จะออกความเห็นเรื่องนี้อย่างไรค่ะบางทีเราอาจต้องรอให้คุณเเปรมได้เจอกับคุณรินก่อนเราถึงจะรู้ว่าทุกอย่างจะต้องแก้ไขแบบไหน”

         แม่บ้านคนสนิทยังไม่อยากออกความคิดเห็นใดๆเพราะเรื่องนี้เธอเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะแม่ของมินตรากลัวว่าถ้าพูดอะไรออกไปจะกลายเป็นว่าเธอพยายามปกป้องลูกสาว

         “ก็จริงอย่างที่เธอพูดตอนนี้ฉันไม่ควรคิดว่าจะทำอย่างไรทั้งที่คงต้องรอให้ทั้งคู่เขาได้เจอกันก่อนบางทีอาจจะไม่มีอะไรให้ฉันต้องคิดมากก็ได้”

         ยุพาอยู่รับฟังเจ้านายจนอีกฝ่ายรู้สึกสบายใจขึ้นเธอจึงขอตัวกลับเข้ามาในครัว

         “มาอยู่ตรงนี้นานหรือยัง” คนถามแสดงอาการตกใจจนมีพิรุธเมื่อหันไปเห็นว่าลูกสาวยืนอยู่ใกล้กับที่เธอและเจ้านายคุยกัน

         “มิ้นเพิ่งเดินลงมาค่ะแล้วแม่เป็นอะไรทำไมต้องตกใจแบบนี้ทำเหมือนว่ามีอะไรปิดบังมิ้นอยู่”

         ยุพารีบเปลี่ยนสีหน้าทันทีเพราะปกติแล้วเธอไม่ใช่คนโวยวายหรือตื่นตระหนกอะไรง่ายๆการที่เธอแสดงท่าทางแบบนี้                ลูกสาวต้องสงสัยเป็นธรรมดา

         “ไม่มีอะไรหรอกเพียงแค่แม่ไม่เห็นลูกตอนที่เดินไปหา               คุณอมราพอหันกลับมาก็เลยตกใจว่ามาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

         เมื่อรู้ว่าตัวเองโกหกไม่ค่อยแนบเนียนยุพาจึงรีบเดินหนีเข้าครัวไปปล่อยให้มินตรามองตามเธอด้วยความสงสัยอยู่อย่างนั้น

         “เมื่อกี้มีแขกมาบ้านเราหรือคะ”

         สาวน้อยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กลับทำให้อีกฝ่ายที่กำลังหั่นผักอยู่ทำมีดร่วงจากมือเพราะไม่ทันได้คิดคำตอบ

         “ไปหยิบกะละมังให้แม่หน่อยใส่น้ำมาด้วยจะได้ล้างผัก”

         เวลานี้คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเปลี่ยนเรื่องพูดเพราะยุพากลัวว่าถ้าเธอตอบอะไรไปจะไม่ตรงกับสิ่งที่ลูกสาวจะรู้ในอนาคต

         “แม่คะตกลงเมื่อกี้ใครมา”

 สาวน้อยยังคงวกกลับมาเรื่องเดิมเพราะท่าทีของมารดายิ่งสร้างความสงสัยให้กับเธอเป็นอย่างมาก

         “ไม่มีอะไรทำแล้วก็ไปเก็บผ้าให้แม่หน่อยเย็นๆแบบนี้ลมฟ้าลมฝนชอบมา”

         ยุพาพูดตัดบทและตัวเธอก็รีบเดินหนีออกมาเพราะถ้ายืนอยู่ตรงนั้นมีหวังลูกสาวของเธอคงได้คาดคั้นเอาคำตอบจนได้

         มินตราได้แต่เก็บความสงสัยเรื่องแขกช่วงบ่ายเอาไว้ในใจเพราะรู้ว่าถามมารดาไปเท่าไหร่ก็คงไม่ได้คำตอบยิ่งแม่มีพิรุธแบบนี้ยิ่งทำให้หญิงสาวให้ความสนใจทั้งที่ปกติแล้วเธอไม่ค่อยใส่ใจเรื่องของคนอื่นเท่าไหร่

         “ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อลูกชายฉันนะเพราะว่าเขาจะไม่กลับมากิน”

         อมราเดินเข้ามาในครัวด้วยท่าทางโมโหและสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจเพื่อบอกแม่ครัวทั้งสองคนไม่ให้ทำอาหารมากเพราะวันนี้เหลือคนกินข้าวแค่เพียงไม่กี่คน

         “คุณเปรมมีประชุมหรือคะ”

         คำถามที่มินตรามักจะถามทุกครั้งเวลาที่สามีของเธอไม่ได้กลับมากินข้าวในช่วงเย็นแต่ครั้งนี้มันกลับทำให้หญิงสูงวัยหันมาสบตาด้วยความสงสารแทนคำตอบ

         “มินตราทำงานของเธอเสร็จแล้วก็รีบไปนั่งกินเป็นเพื่อนฉันด้วยนะ”

         สาวน้อยมองตามเจ้านายของเธอด้วยความสงสัยวันนี้ทั้งวันบ้านหลังนี้เป็นอะไรกันหมดเธอถามอะไรไม่เคยได้คำตอบเหมือน      ทุกคนกำลังมีอะไรปิดบังเธอและหญิงสาวก็คิดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับการมาของแขกเมื่อช่วงบ่าย

         “รู้อย่างนี้ลงมาดูดีกว่า”

         มินตราบ่นกับตัวเองที่เธอได้ยินเสียงรถแต่กลับแค่เพียงชะโงกหน้ามองที่หน้าต่างและรู้ว่าแขกที่มาเป็นผู้หญิงหุ่นดีผมยาวแต่ก็เห็นหน้าได้ถนัดจึงคิดไม่ออกว่าจะเป็นใครที่เธอรู้จักไหม

         บทสนทนาระหว่างอมราและสาวน้อยในการดูแลของเธอวันนี้ดูจะจริงจังกว่าทุกวัน หญิงสูงวัยต้องการให้มินตราท้องให้เร็วที่สุดทั้งที่รู้อยู่ว่าทุกวันนี้เธอก็พยายามทำเต็มที่แล้ว

         “พรุ่งนี้เราไปหาหมอกันไหมจะได้รู้ที่ป่านนี้เธอยังไม่ท้องมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”

         อมราดูมีท่าทางที่จริงจังและเร่งรีบเหมือนกับว่าเธอกำลังกลัวอะไรบางอย่างถ้าเกิดผู้หญิงที่เธอหาให้ลูกชายไม่ท้องในเร็วๆนี้

         “มิ้นกับคุณเปรมเคยไปหาหมอกันมาแล้วค่ะร่างกายของเราทั้งคู่แข็งแรงดีเพียงแต่ว่าคงยังไม่ใช่โอกาสเหมาะที่ลูกจะมาเกิด”

         คนรอคอยหลานได้แต่ถอนหายใจเพราะก็คงขึ้นอยู่กับเวลาแล้วจริงๆ ในเมื่อร่างกายของคนทั้งคู่สมบูรณ์ถ้าเป็นก่อนหน้านี้อมราคงไม่เฝ้านับวันรอคอยแต่ในเมื่อผู้หญิงที่เธอแสนจะเกลียดชังทำท่าจะกลับเข้ามาในชีวิตของลูกชายเธอจึงอยากมั่นใจว่าจะมีบางอย่างมาช่วยดึงใจของเปรมธวัชไว้

         “เป็นภรรยาต้องรู้จักเอาใจสามีบ้างถึงแม้ว่าเธอกับเปรมธวัชจะเป็นผัวเมียกันเพื่ออะไรบางอย่างก็ตามแต่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันเธอก็ควรจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด”

         อมราหันมาสั่งสอนหญิงสาวที่นั่งข้างๆเหมือนว่าเธอกำลังจะโยนต้นเหตุของอารมณ์ที่ฉุนเฉียวตอนนี้ไปให้คนรอบกายไปหมดโดยที่มินตราได้แต่สงสัยว่าอยู่ดีๆทำไมคุณท่านของเธอถึงได้มีอาการแปลกไปแบบนี้

         สาวน้อยผู้อยากรู้ความจริงตั้งใจว่าเธอจะสืบหาให้ได้ว่าแขกที่มาในช่วงบ่ายเป็นใครกันแน่ทำไมถึงทำให้ทั้งอมราและแม่ของเธอมีท่าทางที่แปลกไปเหมือนทั้งคู่ต่างกำลังกลัวอะไรบางอย่างแต่สิ่งที่ทั้งคู่กลัวต้องเกี่ยวกับเธอและเปรมธวัชแน่นอน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status