ตอนที่ 7
คนรักเขากลับมา
“นั่งคุยกับแม่ก่อน”
อมรานั่งรอดักเจอลูกชายอยู่จนดึก เธอมีเรื่องที่อยากจะคุยกับเปรมธวัชในวันนี้กลัวว่าถ้าพูดช้าเกินไปอาจจะไม่ทัน
“เที่ยงคืนกว่าแล้วคุณแม่ยังนั่งรอแบบนี้ต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่เลย”
ลูกชายทำท่าทางออดอ้อนเพราะเขารู้อยู่แล้วว่ามารดากำลังจะพูดเรื่องของแฟนเก่าที่เดินทางมาหาเขาในวันนี้
“ลูกไปกินข้าวกับรินมาใช่ไหม”
“ใช่ครับเราไม่ได้เจอกันนานก็เลยมีเรื่องคุยกันเยอะแล้วผมก็ขับรถไปส่งเธอที่บ้านก็เลยกลับดึกหน่อย”
เปรมธวัชพยายามจะอธิบายว่าสาเหตุที่เขากลับมาถึงบ้านจนเที่ยงคืนไม่ได้เถลไถลที่ไหนแค่เพียงมีเรื่องคุยกันนานและด้วยความเป็นห่วงเขาจึงขับรถไปส่งเธอที่บ้าน
“ผู้หญิงคนนั้นเขากลับมาหาลูกเพื่ออะไรกันอย่าบอกนะว่าแค่กลับมาในฐานะเพื่อนที่คิดถึงเพราะแม่จะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด”
หญิงสูงวัยประสบการณ์ในชีวิตของเธอมีมากจนสามารถเดาผู้หญิงอย่างรินรดาได้ออกการกลับมาของผู้หญิงคนนี้ต้องการมากกว่าความเป็นเพื่อนแน่นอน
“คุณแม่คิดมากไป ผมกับรินเราเคยเป็นเพื่อนเก่ากันมาก่อนถึงแม้จะเลิกไปแล้วแต่เรายังมีความเป็นเพื่อนเหลือให้กันนะครับ”
“เพื่อนงั้นหรือ เพื่อนที่เกือบทำแกตายเมื่อหลายปีที่แล้วแบบนี้หรือที่ลูกเรียกว่าเพื่อน”
คนเป็นแม่สวนกลับอย่างมีอารมณ์ทันทีเมื่อเริ่มรู้สึกว่า ลูกชายกำลังใจอ่อนให้อภัยในสิ่งที่คนรักเก่าเคยทำให้เขาต้องเจ็บช้ำถึงแม้เวลาจะผ่านไป 5 ปีกว่าแล้วก็ตามแต่สำหรับอมราไม่เคยลืมและไม่พร้อมที่จะให้อภัย
“ผมไม่เคยลืมหรอกครับว่าเธอทำอะไรไว้กับผมบ้าง คุณแม่อย่าเป็นห่วงเลยเดี๋ยวจะยิ่งแก่เร็วไม่สวยนะครับ”
เปรมธวัชโอบเอวมารดากอดอย่างเอาใจ ทั้งที่ความรู้สึกของชายหนุ่มในเวลานี้เขาเริ่มหวั่นไหวกับการกลับมาของรินรดาแม้เธอกับเขาจะได้เจอกันแค่เพียงวันแรกก็ตาม
คนรักเก่ากลับมาในครั้งนี้เธอกลับมาเพื่อขอโอกาสแก้ตัวที่เคยทำผิดทิ้งให้เปรมธวัชต้องเสียใจเพียงเพราะเธอหลงเชื่อผู้ชายที่เจ้าชู้เข้ามาหลอกลวงเธอเท่านั้น สาวสวยไฮโซบีบน้ำตาอ้อนวอนขอความเห็นใจ เธออธิบายให้คนรักเก่าได้รับรู้ว่าการที่เธอพลาดท่าไปมีอะไรกับผู้ชายคนนั้นเป็นเพราะเธอโดนหลอกและเธอก็ไม่อยากจะทรยศเขาจึงได้ยอมเลิกรา ก่อนหน้านี้เปรมธวัชคิดว่าถ้ารินรดากลับมาขอคืนดีเขาจะไม่มีทางให้อภัยแต่แค่เพียงเห็นน้ำตาของเธอเขาก็กลับหวั่นไหวลืมคำพูดตัวเองเสียหมด
“กลับมาแล้วหรือคะ กินอะไรมาหรือยังมิ้นจะได้ไปเตรียมให้”
สาวน้อยรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนเมื่อรู้สึกว่าถูกมือหนากำลังสวมกอด เธอเฝ้ารอการกลับของสามีแต่มาเผลอหลับไปเพราะไม่คิดว่าเขาจะกลับดึกแบบนี้
“ผมกินมาเรียบร้อยแล้วขอโทษนะที่ไม่ได้โทรบอกว่าจะกลับดึกแบบนี้”
สามียังคงนอนกอดภรรยาตามเช่นเดิมแต่ตอนนี้หัวใจของเขาไม่ได้คิดเรื่องของมินตราแค่เพียงคนเดียวมันดันมีรินรดาเข้ามาอยู่ในหัวใจด้วย
เปรมธวัชมองหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยารับจ้างด้วยความสงสารเพราะความดีที่เธอมีให้เขามันเสมอต้นเสมอปลายและจริงใจแต่เรื่องของความรักมันบังคับกันไม่ได้จริงๆ
เช้าวันใหม่ของการไปทำงานเปรมธวัชยังคงทำดีกับภรรยาเช่นเดิมแม้ว่าหัวใจของเขาตอนนี้จะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ตามแต่ การกลับมาของรินรดาครั้งนี้มันยังไม่ได้สร้างความเชื่อใจให้กับ ชายหนุ่มเพียงแค่เขายังคงมีความรักให้เธอมันจึงรู้สึกหวั่นไหวไปได้ง่าย
“เย็นนี้คุณเปรมจะกินอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”
มินตราหิ้วกระเป๋าทำงานเดินไปส่งสามีที่รถ เธอถามอย่างเอาใจเพราะเห็นสามีไม่ได้กลับมากินข้าวเมื่อวานจึงอยากจะทำเมนูที่เขาอยากกิน
“ผมอยากกินข้าวคลุกกะปิ มิ้นทำเป็นไหม”
เปรมธวัชคิดขึ้นมาได้ว่าเขาเห็นเมนูข้าวคลุกกะปิผ่านทาง ยูทูบแล้วรู้สึกอยากกินมาหลายวันก็เลยเอ่ยปากขอให้ภรรยาทำให้ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับมินตราเพราะเธอเป็นลูกสาวแม่บ้านที่ทำอาหารเก่งอยู่แล้ว
วันนี้มินตราก็ยังคงไม่ได้คำตอบว่าใครกันคือแขกที่มา เมื่อวานวันเวลาผ่านไปหนึ่งคืนทำให้ความอยากรู้ของเธอเริ่มน้อยลงหญิงสาวรู้แค่เพียงว่าวันนี้เธอคงต้องลงมือทำกับข้าวตั้งแต่หัววันเพราะข้าวคลุกกะปิมีเครื่องและองค์ประกอบเยอะเธออยากทำให้สามีประทับใจ
“ทำอะไรล่ะลูกดูยุ่งจัง”
ยุพาเดินมาหาลูกสาวพี่กำลังสาละวนอยู่ในห้องครัวก่อนที่จะเดินไปหาอมราเพราะเจ้านายให้คนสวนมาตามเธอไปพบ
“ทําข้าวคลุกกะปิค่ะ คุณเปรมบอกว่าอยากกิน”
สาวน้อยหันมาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเธอมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำอะไรเพื่อเปรมธวัชถึงแม้ว่าเธอจะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่ได้รักเธอในแบบสามีภรรยาก็ตาม
“ฉันว่ากลิ่นมันไม่ค่อยดีแล้วนะเรื่องลูกชายฉันกับรินรดา”
อมรานอนคิดมาทั้งคืนแค่เพียงผู้หญิงคนนั้นกลับเข้ามาในชีวิตของลูกชายเธอแค่เพียงวันเดียวก็เหมือนกำลังจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป
“คงไม่มีอะไรหรอกค่ะความเป็นเพื่อนที่ทั้งคู่มีให้กันมันอาจจะยังตัดไม่ขาด”
ยุพาพยายามพูดให้กำลังใจเจ้านายทั้งที่ตัวเองก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจในเรื่องนี้เพราะถ้าทั้งคู่กลับมาคืนดีกันจริงๆมินตราก็จะหมดประโยชน์และในสายตาของคนเป็นแม่ยุพามั่นใจว่าลูกสาวของเธอตกหลุมรักเปรมธวัชไปแล้ว
“หยุดพูดให้ฉันรู้สึกดีเถอะทั้งเธอและฉันต่างก็มองออกว่าเป็นเปรมยังรักรินอยู่ แผนการทั้งหมดที่เราวางไว้ล่ะมันจะเป็นแบบไหน มินตราอยู่ในฐานะเมียถึงแม้จะไม่ได้ยกย่องเชิดชูในสังคมแต่ถ้าอยู่ในบ้านหลังนี้มินตราคือลูกสะใภ้ของฉัน ถ้านางนั่นอยากจะกลับเข้ามาก็คงเป็นแฟนกันได้แค่นอกบ้านฉันไม่มีทางยอมให้ผู้หญิงแบบนั้นมาลอยหน้าลอยตาในบ้านฉันเด็ดขาด”
ทั้งสองแม่ต่างพากันเครียดกับเรื่องนี้แต่มีเพียงแค่อมราเท่านั้นที่กล้าแสดงออกเพราะยุพาเองเลือกที่จะเก็บความทุกข์นี้ไว้ภายในใจ เธอกลัวว่าถ้าลูกสาวรู้เรื่องที่คนรักเก่าของสามีกำลังกลับมาบางทีอาจจะเสียใจเกินจะรับไหวเธอสงสารมินตราที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณๆแต่กลับต้องมานั่งเสียใจเอง
มินตราที่กำลังสาละวนทำข้าวคลุกกะปิอยู่ที่ด้านหลังครัวมีโอกาสได้พูดคุยกับลุงยามหน้าประตูบ้านเธอจึงได้ถามถึงแขกที่มาเมื่อวานว่าคือใคร
“คุณรินรดาเคยเป็นแฟนเก่าของคุณเปรม หายหน้าไปเสียหลายปีไม่รู้ว่ากลับมาทำไม”
ลุงยามเป็นเพียงแค่คนนอกเขาไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างมินตราและเปรมธวัชเพราะชีวิตการทำงานของเขาจะอยู่แค่เพียงซุ้มประตูรั้วบ้านแต่วันนี้ที่มีโอกาสเดินเข้ามาหลังครัวเพราะต้องการเอาผักปลอดสารพิษจากที่บ้านมาให้ยุพาได้ทำอาหารให้คุณท่านกิน
“เขาเป็นคนรักเก่ากันหรือคะแล้วทำไมถึงเลิกกันล่ะ”
ทั้งที่หัวใจหล่นวูบแต่มินตราก็แกล้งทำเสียงเข้มแข็งเหมือนไม่รู้สึกอะไรเพื่อหวังให้ลุงยามบอกเล่าข้อมูลต่อ
“ลุงไม่รู้เลยว่าเขาเลิกกันเพราะอะไรรู้แต่ว่าคุณเปรมเสียใจมาก ดื่มเหล้าเมามายงานการก็ไม่ทำ เพิ่งจะดีขึ้นได้ปี 2 ปีถ้าจะกลับมาดีกันอีกก็กลัวใจจังว่าจะเป็นเหมือนเดิม”
คนให้ข้อมูลออกไปแล้วทิ้งไว้แต่ความเจ็บช้ำและ ความหวาดกลัวในหัวใจของหญิงสาว มินตราเริ่มไม่แน่ใจว่าความเปลี่ยนแปลงของสามีเธอที่เกิดขึ้นเมื่อวานเกิดจากคนรักเก่าที่กลับมาไหมการที่เขาไม่ได้กลับมากินข้าวเย็นที่บ้านเขาติดประชุมหรือไปกินกับแฟนเก่ากันแน่เป็นคำถามที่เธอถามอมราไปเมื่อช่วงเย็นแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
มินตราตั้งใจทำข้าวคลุกกะปิอย่างสุดฝีมือเธออาบน้ำแต่งตัวสวยเพื่อรอการกลับมาของสามีแต่ทุกอย่างก็เป็นอันต้องพังลงเมื่อเธอได้รับข้อความจากคนที่เธอรอคอยว่าเขาจะไม่กลับมากินข้าวเย็นเพราะติดธุระกับลูกค้าและคงจะกลับดึก
“ข้าวคลุกกะปิน่ากินจังนึกอยู่ดีๆทำไมถึงลุกขึ้นมาทำกินล่ะ”
อมราหันไปถามลูกสะใภ้พี่กำลังยกอาหารมื้อเย็นขึ้นมาจัดบนโต๊ะอาหารโดยไม่ทันสังเกตสีหน้าของมินตรา
“เมื่อเช้าคุณเปรมบอกว่าอยากจะกินข้าวคลุกกะปิค่ะ” คนตอบเริ่มเสียงสั่น
“แล้วคนอยากกินไปไหนป่านนี้ยังไม่กลับลองโทรหาหรือยัง”
อมราไม่รู้เรื่องว่าลูกชายจะไม่กลับมากินข้าวเย็นเจึงอยากให้ภรรยาของเขาโทรตามเผื่อบางทีจะได้นั่งรอยังไม่กินข้าวเพราะเธออยากจะกินข้าวพร้อมหน้ากับลูก
“คุณเปรมส่งข้อความมาบอกว่าไม่ได้กลับมากินข้าวเย็นแล้วคงจะกลับดึก”
คนตอบพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเธอไม่อยากจะอ่อนแอต่อหน้าใครในเพราะเธอไม่มีสิทธิ์ เธอเป็นภรรยารับจ้างไม่ใช่ภรรยาตัวจริงหน้าที่ของเธอคือแค่มีลูกให้เขาเท่านั้นหญิงสาวจึงไม่อยากจะอ่อนแอร้องไห้ต่อหน้าใคร
“ไม่เป็นไรเรากินกันแค่ 2 คนก็ได้”
อมราก็ไม่ต่างจากมินตราเธอพยายามจะทำเหมือนไม่สนใจในสิ่งที่เปรมธวัชทำทั้งที่จริงๆชายหนุ่มกำลังทำร้ายหัวใจของคนที่รอทั้งคู่
ตอนที่ 8เหนี่ยวรั้งใจ2 เดือนผ่านไป “เปรมไปส่งรินที่คอนโดนะ” สาวสวยผิวขาวสองแขนยาวกอดคอชายหนุ่มคนรักเก่าของเธอจนใบหน้าของทั้งคู่แทบจะแนบชิดติดกัน “ทำไมถึงไม่กลับบ้าน” เปรมธวัชถามด้วยความแปลกใจเพราะตั้งแต่รินรดากับมาหาเขาทั้งคู่ออกไปกินข้าวเย็นด้วยกันตลอดแล้วสุดท้ายเขาก็จะขับรถไปส่งเธอที่บ้านแต่วันนี้เธอกลับร้องขอให้เขาไปส่งเธอที่คอนโดแทน “วันนี้รินเมาแล้วไม่อยากกลับบ้านเดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่จะว่าเอา เปรมก็เมาเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ” วันนี้ไม่ใช่แค่เพียงกินอาหารเย็นด้วยกันแต่เป็นการนั่งดื่มด้วยจึงทำให้เมาทั้งคู่ถึงแม้จะไม่มากนักแต่ก็เรียกได้ว่าความรู้สึกร้อนๆหนาวๆมันเริ่มแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจและร่างกายของคนที่เคยเป็นถ่านไฟเก่าของกันและกัน เปรมธวัชเป็นอันต้องยอมแพ้เขาเดินประคองหญิงสาวขึ้นไปส่งถึงในห้องนอนที่คอนโดเขาตั้งใจว่าส่งเธอเข้านอนเสร็จก็จะรีบกลับบ้านทันทีแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่ออีกฝ่ายพยายามใช้มารยาทุกอย่างรั้งให้เขาอยู่เพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่เคยมีให้กันเมื่อหลายปีที่ผ่านมา “อย่าทำแบบนี
ตอนที่ 9ตัวปลอมต้องยอมไป“ฉันจะยังไม่บอกเปรมตามคำขอของเธอนะแต่งถ้าภายในสัปดาห์นี้เธอยังไม่บอกเขาฉันคงต้องขอเป็นคนบอกเองแล้วแหละเพราะไม่อยากให้ทุกอย่างมันสายเกินไป” อมรายอมรับปากลูกสะใภ้คิดว่าเรื่องแบบนี้ภรรยาคงอยากจะบอกสามีด้วยตัวเองแต่ถ้ามินตราปล่อยให้ทุกอย่างนานไปเธอในฐานะที่เป็นแม่ก็คงต้องบอกเรื่องนี้ด้วยตัวเอง คืนนี้เป็นค่ำคืนที่หัวใจของคุณแม่คนใหม่อ่อนแออย่างถึงที่สุดเธอตั้งใจที่จะปล่อยตัวเองให้ร้องไห้จนน้ำตาหมดไปจากร่างกายและวันพรุ่งนี้เธอจะเป็นคนใหม่เธอจะต้องเข้มแข็งให้มากกว่าเดิมเพราะตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเธอแค่ชีวิตเดียว “หนูเป็นลูกแม่นะ” มือเล็กลูบลงไปที่ท้องส่งผ่านความอบอุ่นและความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในหัวใจให้กับสายเลือดของตัวเองได้รับรู้ มินตราชักเริ่มไม่แน่ใจในตัวเองเหมือนกันว่าเธอจะยอมยกลูกให้กับเปรมธวัชหรือไม่เพราะในสัญญาทารกที่ถือกำเนิดขึ้นจะเป็นสิทธิ์ขาดของเขาคนเดียวและเธอก็เซ็นยินยอมไปแล้วแต่เมื่อวันนี้มาถึงหัวใจของเธอมันรักเกินกว่าจะยอมยกลูกให้ใคร นาฬิกาบอกเวลาใกล้จะเที่ยงคืนแปรมธวัชยังคงไม่กลับมาแต่วันนี้มินตราตั้งใจว่าเธ
ตอนที่ 10กว่าจะรู้“คุณแม่ครับมิ้นไปไหน” วันนี้เป็นวันแรกที่เปรมธวัชกลับมาทันกินข้าวเย็นหลังจากที่ 2 เดือนที่ผ่านเขาจะกลับมาถึงบ้านก็หลังเที่ยงคืนเท่านั้น “พ่อให้มิ้นกับยุพาไปจากที่นี่แล้ว” ธานินทร์ตอบด้วยท่าทางไม่สนใจยังคงก้มหน้าก้มตากิน ข้าวคลุกกะปิอาหารมื้อสุดท้ายที่ครอบครัวของมินตราได้ทำไว้ให้คนที่บ้านหลังนี้ได้กิน “คุณพ่อหมายความว่าอย่างไรครับไปจากที่นี่” เปรมธวัชวางช้อนในมือเขาถามบิดาด้วยเสียงที่สูงและดูมีอารมณ์อยู่ในนั้นเพราะอย่างไรมินตราก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาการที่เธอจะไปไหนเขาควรจะต้องมีส่วนรู้ด้วย “ก็เปรมจะแต่งงานกับรินไม่ใช่หรือ แล้วจะให้มินตราอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรพ่อก็เลยให้เขาไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ยุพาเองก็ทำงานที่นี่มานานก็ถึงเวลาต้องปลดระวางไปใช้ชีวิตอิสระของเธอบ้างและทำไมจะต้องมาโมโหแบบนี้ในเมื่อลูกเลือกเองว่าจะแต่งงานกับรินแล้วจะเก็บมินตราไว้ทำไมอย่าเห็นแก่ตัวนักสิ” ชายหนุ่มเป็นอันต้องเลิกกินข้าวสองมือกอดอกมองสบตาทั้งพ่อและแม่ที่ดูเหมือนไม่มีใครจะอยู่ข้างเขาในเวลานี้ “มินตราเป็นผู้
ตอนที่ 11ของขวัญที่ล้ำค่า“ผมขอโทษ” มินตราพี่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ที่บริเวณสวนหลังบ้านหันหลังมาตามเสียงที่เธอได้ยินด้วยความตกใจเพราะมันเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยและรอคอยมาตลอดตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ “คุณเปรมมาได้อย่างไรคะ” สาวน้อยรีบวางสายยางและใช้สองมือประคองชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่ายกมือไหว้อยู่ตรงหน้าให้ลุกขึ้น “ให้อภัยผมได้ไหมความผิดครั้งนี้มันมากมายและยิ่งใหญ่เหลือเกินที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้ว่าหัวใจตัวเองต้องการใครจนวันที่คุณไม่อยู่ผมรู้แล้วว่ารินรดาไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมต้องการอีกแล้ว” สาวน้อยพูดอะไรไม่ถูกจึงทำได้แค่เพียงฟังและให้อีกฝ่ายพูดความในใจออกมาสำหรับมินตรา เธอไม่เคยโกรธเขาแต่ที่เธอยอมจากมาแค่เพียงอยากให้เขารู้จักเสียงหัวใจตัวเองและเธอไม่ต้องการอยู่อย่างไร้ค่าในบ้านที่เธอไม่มีตัวตนในฐานะภรรยาอีกแล้ว “ผมยกเลิกการแต่งงานทุกอย่างมันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว” มินตราพยักหน้าเพราะเธอรู้เรื่องนี้ดีจาก Facebook ของเปรมธวัชที่เธอเฝ้าติดตามเขามาตลอดตั้งแต่เขาไปเรียนที่ต่างประเทศ “ที่คุณมาวันนี้เพื่อจะตามมิ้นให้กลับไปอยู่กับคุณในฐานะ
ตอนที่1ความลับ “พี่ดลพี่ตามผมให้กับจากเวียดนาม เพราะเรื่อง ไร้สาระแบบนี้นี่นะ” ภูผาน้องชายฝาแฝดของภูวดล รู้สึกไม่พอใจเมื่อรู้ถึงสาเหตุที่พี่ชายโทรตามเขาให้กลับมาเมืองไทยเพียงเพราะว่า ต้องการให้เขานอนกับผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อมีลูก “ในเมื่อภรรยาพี่ยินยอมแล้ว ทำไมพี่ไม่นอนกับเธอเอง ทำไมต้องเป็นนผม” “พี่ทำใจไม่ได้ ที่จะนอกกายภรรยา แต่แกยังไม่มีเมีย ถือเสียว่าช่วยให้ครอบครัวพี่สมบูรณ์นะ เราเป็นแฝดกัน แล้วเรื่องนี้ก็มีแต่พ่อกับแม่เราเท่านั้นที่รู้ ทุกคนจะคิดว่าเป็นพี่” พ่อของทั้งคู่เป็นคนไทยลูกเสี้ยวอังกฤษที่ทำงานอยู่ที่อเมริกา และเกิดมาเที่ยวที่เมืองไทยและดันมามีอะไรกับแม่ของทั้งคู่ โดยที่พ่อมีภรรยาเป็นอยู่ที่อเมริกาอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองคนจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูลูกฝ่ายละคนและปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แค่พ่อแม่ ภูวดล และภูผาเท่านั้น ที่รู้ว่าทั้งคู่มีแฝด เพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอยู่คนละประเทศอยู่แล้ว “ก่อนจะตัดสินใจดูรูปของเธอก่อน ” ภูวดลส่งรูปให้น้องชายดู “ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ทำไมถึงได้ยอมมาทำแบ
ตอนที่2คืนแรกของการไข่ตก อาหารบนโต๊ะอาหาร ล้วนแต่ไม่คุ้นหน้า ขิมมองดูด้วยความสงสัย ว่าแต่ละอย่างมันเรียกว่าอะไร “ไม่เคยกินใช่ไหม มาเดี๋ยวผมจะแนะนำให้ ว่าอะไรคืออะไรและกินอย่างไรกัน” ภูผาอธิบายชื่อ ส่วนประกอบ และวิธีการรับประทาน ให้หญิงสาวตากลมฟังอย่างละเอียด “อร่อยมากเลยค่ะ คุณภูวดลฝีมือเยี่ยมเลย” ขิมเอ่ยปากชม แต่ด้วยชื่อที่เธอเรียกมันทำให้คนทำรู้สึกน้อยใจ เพราะเขาไม่ใช่ภูวดล “ผมว่าคุณเรียกผมว่า คุณภู ก็พอ มันจะได้ช่วยให้เรารู้สึกสนิทสนมกัน” “ได้ค่ะ ต่อไปขิมจะเรียกว่าคุณภูนะคะ” นานแล้วที่ภูผาไม่มีโอกาสได้กินอาหารในบ้านด้วยฝีมือตัวเอง แบบที่มีคนอื่นด้วย เพราะตั้งแต่เขาเรียนจบ พ่อของเขาก็ซื้อบ้านและให้เขาแยกออกมาใช้ชีวิต ถึงเขาจะชอบทำอาหารแต่ก็เป็นแค่การนั่งกินอยู่คนเดียว “กินเยอะเลยนะ ผมชอบมองเวลาที่คุณกิน มันดูอร่อย คนทำก็รู้สึกภูมิใจไปด้วย” “แล้วคุณวรินไม่ชอบกินฝีมือคุณเหรอคะ ถึงดูตื่นเต้นจัง ที่ขิมกินแล้วถูกปาก” คำถามของหญิงสาวทำเอา ชายหนุ่มไปไม่เป็น เขาเอ่อ...อยู่นานกว่าจะน
ตอนที่3เรียนรู้ ใกล้ชิด “ขอโทษนะคะ ขิมตื่นสายไปหน่อย ” คนพูดเดินออกมาจากห้องนอนในสภาพหน้าซีด พอใกล้จะถึงห้องครัวที่ภูผากำลังทำกับข้าวอยู่เธอก็เป็นลมล้มไปเสียก่อน “ขิม ขิม คุณได้ยินผมไหม” ชายหนุ่มอุ้มคนร่างเล็กที่เป็นลมล้มลงไปนอนกับพื้น มาวางนอนกับโซฟากลางห้อง “ขิมเป็นอะไรไปคะ” “คุณเป็นลม ดีนะตัวเล็ก ถ้าตัวใหญ่ล่ะก็มีหวัง ผมทิ้งคุณไว้ที่พื้นแน่ๆ” ภูผาพูดไป มือก็ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดตัวให้กลับหญิงสาวที่กำลังนอนตัวร้อนอยู่บนโซฟา “หรือฉันจะท้องแล้วคะ” ขิมทำท่าดีใจ เพราะเธอเคยเห็นในหนังคนท้องชอบเป็นลม เวียนหัว “ต่อให้คุณท้องจริง มันก็คงจะไม่แสดงอาการเร็วแบบนี้ คุณเป็นไข้ ตัวร้อน จนผมต้องเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้” ภูผาส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาว เธอกับเขานอนด้วยกันคืนเดียว เธอคิดว่าตัวเองกำลังแพ้ท้องเสียแล้ว วันนี้ทั้งวันชายหนุ่มเลยต้องเป็นบุรุษพยาบาลจำเป็น ไม่นานอาการไข้ก็ลดลง ขิมเธอพยายามแสดงออกให้ชายหนุ่มเห็นว่าเธอสบายดี เพื่อที่คืนนี้เขากับเธอจะได้ผลิตลูกกันอีก
ตอนที่4ลาก่อนลูกรัก แพทย์ที่ทำคลอดให้กับขิมเป็นน้องสาวของวริน ทุกอย่างจึงไม่มีปัญหา ทันทีที่เด็กน้อยคลอดออกมา วรินตั้งชื่อให้ว่าปูนปั้น เพราะเธอเป็นคนคิดและวางแผนปั้นมากับมือ “ดูแลตัวเองนะลูก หนูอยู่กับพ่อกับแม่ที่รักหนูที่สุดแล้ว” ขิมจูบลงไปที่หน้าผากของลูกชายของเธอ คืนวันนี้เธอก็จะออกจากโรงพยาบาลและไปให้ไกล ตามสัญญาที่ให้ไว้กับวริน เด็กน้อยเกิดมาด้วยใบหน้าที่เหมือนกับภูผามาก ดังนั้นปูนปั้นจึงเหมือนภูวดลไปด้วย ยิ่งทำให้วรินสบายใจ เพราะทุกคนจะได้เชื่อ ตลอดเวลาเกือบสี่เดือนที่วรินเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเพื่อไม่ให้มีใครได้เห็นเธอ จะได้ไม่แปลกใจในวันที่เธอมีลูกขึ้นมา ภูวดลแกล้งอุ้มลูกออกมานอกห้องที่พักของแม่และเด็ก เพื่อพาหนุ่มน้อยปูนปั้นให้ได้มาเจอหน้ากับพ่อแท้ ๆ “ผมฝากลูกด้วยนะพี่ รักเขาให้มากๆ ถ้าวันไหนพี่ไม่ต้องการเขาแล้วหรือรักลูกผมน้อยลง บอกผมนะ” ภูผาเพิ่งเข้าใจคำว่าพ่อก็วันนี้ เขาตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมปล่อยไป เพราะทุกอย่างมันถูกตกลงกันไว้แล้ว และภูวดลก็ไม่ใช่คนอื่นเ