ตอนที่ 9
ตัวปลอมต้องยอมไป
“ฉันจะยังไม่บอกเปรมตามคำขอของเธอนะแต่งถ้าภายในสัปดาห์นี้เธอยังไม่บอกเขาฉันคงต้องขอเป็นคนบอกเองแล้วแหละเพราะไม่อยากให้ทุกอย่างมันสายเกินไป”
อมรายอมรับปากลูกสะใภ้คิดว่าเรื่องแบบนี้ภรรยาคงอยากจะบอกสามีด้วยตัวเองแต่ถ้ามินตราปล่อยให้ทุกอย่างนานไปเธอในฐานะที่เป็นแม่ก็คงต้องบอกเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
คืนนี้เป็นค่ำคืนที่หัวใจของคุณแม่คนใหม่อ่อนแออย่างถึงที่สุดเธอตั้งใจที่จะปล่อยตัวเองให้ร้องไห้จนน้ำตาหมดไปจากร่างกายและวันพรุ่งนี้เธอจะเป็นคนใหม่เธอจะต้องเข้มแข็งให้มากกว่าเดิมเพราะตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเธอแค่ชีวิตเดียว
“หนูเป็นลูกแม่นะ”
มือเล็กลูบลงไปที่ท้องส่งผ่านความอบอุ่นและความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในหัวใจให้กับสายเลือดของตัวเองได้รับรู้ มินตราชักเริ่มไม่แน่ใจในตัวเองเหมือนกันว่าเธอจะยอมยกลูกให้กับเปรมธวัชหรือไม่เพราะในสัญญาทารกที่ถือกำเนิดขึ้นจะเป็นสิทธิ์ขาดของเขาคนเดียวและเธอก็เซ็นยินยอมไปแล้วแต่เมื่อวันนี้มาถึงหัวใจของเธอมันรักเกินกว่าจะยอมยกลูกให้ใคร
นาฬิกาบอกเวลาใกล้จะเที่ยงคืนแปรมธวัชยังคงไม่กลับมาแต่วันนี้มินตราตั้งใจว่าเธอจะใช้เวลาอยู่กับเขาให้มากที่สุดอย่างน้อยก็ให้ลูกได้มีโอกาสรับไออุ่นจากพ่อเพราะบางทีเธออาจจะต้องพาชีวิตน้อยๆไปจากที่นี่ถ้าวันนั้นเปรมธวัชไม่ต้องการเธอแล้ว
“ทำไมยังไม่นอนอีก ผมกลับดึกแบบนี้ทุกคืนแหละต่อไปคุณก็นอนได้เลยเดี๋ยวร่างกายจะแย่เอาต้องมานอนไปพร้อมผมแบบนี้ทุกคืน”
ชายหนุ่มกลับมาจากข้างนอกวันนี้ด้วยแววตาและท่าทางที่แตกต่างไปจากทุกวันนับตั้งแต่คนรักเก่ากลับมาเปรมธวัชมักจะไม่เคยกล้าสบตาภรรยาของเขาและมักจะแสดงว่ารักมินตรามากขึ้นกว่าเดิมถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยพูดแต่ก็ใช้การเอาใจแทนแต่วันนี้ ชายหนุ่มกับพูดด้วยท่าทางเหินห่างเหมือนคนกำลังกังวลอะไรในใจ
“มิ้นนอนกลางวันไปมากค่ะกลางคืนก็เลยไม่ค่อยง่วง”
หญิงสาวลุกขึ้นมาถอดเสื้อสูทออกให้สามีก่อนที่เธอจะเตรียมผ้าเช็ดตัวมายื่นให้เขาตามแบบฉบับภรรยาที่ดีควรจะทำ
“ถ้ายังไม่ง่วงรอผมอาบน้ำก่อนได้ไหมมีเรื่องอยากจะคุยด้วย”
หัวใจของคนฟังมันรู้สึกสั่นหวิวใจหายอย่างบอกไม่ถูกคำพูดที่ดูเศร้าของสามีมันทำให้รู้สึกใจคอไม่ดีเหมือนเขากำลังจะมีบางอย่างพูดกับเธอซึ่งมันไม่น่าจะใช่เรื่องที่ดีแน่
สาวน้อยนั่งรอฟังเสียงฝักบัวในห้องน้ำด้วยหัวใจที่จดจ่อทันทีที่เสียงน้ำหยุดหัวใจของเธอแทบเหมือนจะหยุดเต้นตามอีกไม่กี่นาทีคงจะรู้แล้วว่าเรื่องที่เปรมธวัชต้องการจะพูดกับเธอคือเรื่องอะไร
“ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมาหลายเดือนคุณทำให้ผมมีความสุขมากไม่มีสักวันที่ผมจะรู้สึกผิดที่เลือกคุณมาเป็นแม่ของลูก”
ชายหนุ่มจ้องตาภรรยาแววตาของเขาดูเศร้ามากก่อนที่เขาจะโน้มตัวของเธอเข้ามาซบกับไหล่แล้วกอดเธอไว้แน่นปากหยักหันมาบรรจงจูบลงไปที่หน้าผากโหนกนูนของผู้หญิงที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา
“ตลอดเวลา 2 เดือนที่ผ่านมาผมทิ้งให้คุณต้องเหงาซึ่งก็รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดแล้วผมก็ไม่ควรจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป”
เปรมธวัชหยุดพูดเหมือนเขากำลังรวบรวมพละกำลังเพื่อจะพูดในประโยคต่อไปแต่แค่เพียงลักษณะท่าทางที่เขาแสดงออกมินตราก็รู้ได้ทันทีว่านับจากนาทีนี้ไปเรื่องราวที่เธอจะได้ยินมันคงไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เธอมีความสุขแต่มันอาจจะเป็นเรื่องที่ทำให้เธอต้องทุกข์ไปตลอดทั้งชีวิตก็ได้
“ผมไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดจากอะไรตรงไหนผมรู้สึกผิดที่ขังคุณไว้กับสัญญาที่ไม่ยุติธรรม”
เปรมธวัชไม่รู้ว่าเขาจะพูดเข้าเรื่องยังไงเพราะความรู้สึกของเขามันก็ยังไม่มั่นใจที่จะยอมปล่อยให้สาวน้อยในอ้อมกอดเดินออกไปจากชีวิต แต่นาทีนี้เขาต้องเลือก ระหว่างเธอกับรินรดาและเสียงของหัวใจมันเหมือนบอกเขาว่ารินรดาคือผู้หญิงที่เขารักที่สุดและถ้าปล่อยให้เธอหลุดมือไปคราวนี้เขาจะไม่มีทางได้เธอกลับมาอีก
“คุณเปรมต้องการยกเลิกสัญญาใช่ไหมคะเพราะตอนนี้ คนรักเก่าของคุณกลับมาแล้ว”
สาวน้อยกลั้นใจพูดขึ้นเองเพราะมันก็ดีเหมือนกันถ้าเธอกับเขาจะเคลียร์ทุกอย่างกันให้รู้เรื่องภายในค่ำคืนนี้เธอจะได้รู้ว่าเส้นทางชีวิตนับจากนี้เธอกับลูกควรจะเดินไปตามเส้นทางไหน
“มิ้น ผมไม่ได้อยากให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้”
คนร่างสูงดึงภรรยาเข้ามากอดไว้แน่นเมื่อมินตราทำท่าจะลุกออกจากอ้อมกอดเขาเพราะเธอไม่สามารถที่จะควบคุมน้ำตาตัวเองได้อีกต่อไปจึงอยากหันหน้าไปร้องไห้เพื่อปกปิดความพ่ายแพ้ของตัวเองแต่ในเมื่อถูกอีกฝ่ายกอดรัดไว้อย่างนี้มินตราก็ทำได้แค่เพียงปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มไหลหยดลงไปที่อกของอีกฝ่ายที่กำลังใช้สองมือพันธนาการร่างกายของเธออยู่
“ค่ะ มิ้นเข้าใจ คุณได้เจอคนที่คุณรักก็ไม่จำเป็นแล้วที่ต้องให้ใครมาทำหน้าที่เป็นแม่ของลูกให้คุณ”
“สัญญาได้ไหมว่ามิ้นจะไม่ไปจากบ้านหลังนี้ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมพูดมันเห็นแก่ตัวแต่ผมก็อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ในสถานภาพสามีภรรยากันเหมือนเดิมแต่ขอแค่ผมเห็นคุณอยู่ในสายตาก็พอ”
เปรมธวัชไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่เคยพยายามทำตัวเข้มแข็งไม่ง้อผู้หญิงมาตลอด 5 ปีเพื่อลบปมด้อยในหัวใจของเขาวันนี้เขาจะอ้อนวอนขอให้หญิงสาวที่เขากำลังจะบอกเลิกเธอให้อยู่ในชีวิตของเขาต่อไปซึ่งมันเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวที่สุดที่ชายหนุ่มเคยทำมา
“ถ้าคุณอยากให้มิ้นอยู่แล้วเราจะยกเลิกสัญญาเพื่ออะไรกันคะ”
“ผมจะแต่งงานกับรินรดา”
คนฟังถึงกับอ่อนแรงลงโชคดีที่เขากอดเธอไว้ไม่อย่างนั้นถ้ายืนอยู่คงได้นอนลงไปกองกับพื้น ไม่มีคำพูดได้หลุดออกจากปากมินตราอีกแล้ว เธอเสียใจจนสุดกำลังเธอเป็นผู้หญิงที่นอนอยู่กับเขามาเกือบครึ่งปีไม่เคยมีคำบอกรักไม่เคยมีคำขอแต่งงานมีแต่เพียงแค่กอดที่เธอได้สัมผัสในทุกคืนแต่วันนี้เมื่อคนรักเก่าของเขากลับมาชายหนุ่มกับยินดีที่จะแต่งงานกับคนที่เคยทำร้ายจิตใจตัวเอง
“รินต้องการแต่งงานกับผมถ้าไม่อย่างนั้นเธอจะเดินทางกลับไปต่างประเทศแล้วไม่กลับมาหาผมอีกเลย ที่ผ่านมาผมไม่เคยเล่าถึงความรักในอดีตให้คุณฟังแต่วันนี้ผมอยากให้คุณได้รับรู้เพื่อที่จะเข้าใจเหตุผลทั้งหมด”
มินตราหลับตายอมทนฟังทุกอย่างภายใต้อ้อมกอดของเขาทุกคำที่เปรมธวัชพยายามพูดบอกเล่าเรื่องราวในอดีตมันไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นแต่มันยิ่งทำให้หัวใจของเธอจมดิ่ง ชีวิตของเธอเหมือนกำลังตกอยู่ในหลุมนรกอเวจีที่มีไฟแผดเผา เธอทำผิดอะไรกันทำไมถึงได้สิ่งตอบแทนเป็นการบอกเลิกในวันที่เธอกำลังตั้งท้องแบบนี้หญิงสาวได้แต่ปล่อยให้หัวใจของเธอระบายความเสียใจผ่าน หยดน้ำตาจนถึงวันที่มันไม่มีจะไหลแล้วเธอพร้อมและยินดีที่จะไปจากเขาไม่มีทางที่เธอจะทนอยู่ที่บ้านหลังนี้เพื่อเห็นเขามีความสุขกับผู้หญิงที่เขารักในขณะที่เธอเป็นเพียงได้แค่อดีตเมียลับที่กำลังอุ้มท้องชีวิตน้อยๆที่คนเป็นพ่อไม่เคยเห็นค่า
“ผมจะกลับไปกินข้าวด้วยขอข้าวคลุกกะปินะ”
“ได้ค่ะเมื่อครั้งที่แล้วที่คุณเปรมบ่นอยากกิน มิ้นก็ได้เตรียมทำไว้รสชาติดีเหมือนกันไว้วันนี้จะทำให้กินเหมือนเดิมนะคะ”
คำตอบของมินตราทำให้เปรมธวัชนึกขึ้นได้ว่าเมื่อหลายเดือนที่แล้วเขาเป็นคนขอให้ภรรยาทำข้าวคลุกกะปิให้กินในขณะที่ตัวเขาเองไม่ยอมกลับมากินข้าวที่บ้านเพราะมัวแต่ไปกินข้าวกับคนรักเก่าที่เพิ่งได้เจอกันวันแรก
“ขอบคุณนะที่เข้าใจผมทุกเรื่อง”
ชายหนุ่มเดินตรงมาหอมแก้มภรรยาเขาทำเหมือนว่ารักเธอเหลือล้นทั้งที่ช่องคู่เพิ่งตกลงกันว่าภายในอาทิตย์หน้ามินตราจะย้ายลงไปอยู่ข้างล่างและเธอกับเขาก็จะเหลือสถานะแค่เพียงเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้น
“คุณท่านคะมิ้นมีเรื่องจะขอคุยด้วยหน่อยค่ะ”
สาวน้อยเดินมานั่งข้างหน้าเจ้านายทั้งสองคนเพราะวันนี้ธานินทร์อยู่ที่บ้านด้วยซึ่งเป็นโอกาสดีที่มินตราจะได้บอกเรื่องราวทั้งหมดเพราะวันนี้เธอตั้งใจว่าจะยุติความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเปรมธวัชถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะให้เวลาถึงสัปดาห์หน้าแต่เธอหวังให้วันนี้จบสิ้นทุกอย่างระหว่างเธอกับเขา
“เมื่อคืนนี้คุณเปรมมาขอยกเลิกสัญญากับมิ้นต์เพราะว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคุณริน”
มินตราพูดได้เพียงแค่นี้อมราก็ส่งเสียงโวยวายด้วย ความตกใจแต่ก็ต้องยอมนิ่งเมื่อถูกสามีปรามให้สงบเพราะเวลานี้ธานินทร์มองว่าเรื่องราวมันชักจะใหญ่โตไปกันใหญ่เธอจึงขอให้มินตราเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับเธอและเปรมในความสัมพันธ์ที่อมราเป็นคนวางแผนขึ้นทั้งหมด
“มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้เธออยู่ในบ้านหลังนี้และทนเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามามันไม่ยุติธรรมสำหรับเธอหรอก”
ธานินทร์เป็นคนมองโลกตามความเป็นจริงเขาไม่ใช้ความเห็นแก่ตัวในฐานะพ่อเข้ามาตัดสินปัญหาเพราะเขามองว่าเรื่องนี้มินตราทำทุกอย่างอย่างดีที่สุดเพื่อตอบแทนพระคุณแต่เธอกลับได้แค่เพียงความเจ็บช้ำกลับมาแทน
“ฉันจะให้เงินก้อนนึงให้เธอไปเริ่มต้นใหม่และที่ดินที่ต่างจังหวัดฉันจะยกให้กับเธอพายุพินไปอยู่ด้วยไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กันเสียทีทางเดินของเธอจากนี้ไม่ควรจะให้ใครต้องมาบงการอีกต่อไป”
ชายสูงวัยหันไปมองหน้าภรรยาเพราะต้องการให้อมราสำนึกได้ว่าความเจ็บช้ำของเด็กสาวคนนี้ก็เกิดจากตัวของอมราเองที่พยายามวางแผนทุกอย่างแต่สุดท้ายอมราก็ไม่สามารถควบคุม ลูกชายได้คนที่ต้องเจ็บช้ำกลับเป็นมินตราที่ไม่ได้มีส่วนรู้เรื่องอะไรด้วยเลย
“เธอจะไปได้อย่างไรกันเธอกำลังท้องอยู่นะ”
คนเป็นย่าไม่มีทางยอมให้ลูกสะใภ้พาหลานของเธอไปอยู่ไกลตาอมราจึงรีบพูดแทรกขึ้นเพื่อหวังให้ธานินทร์ได้รู้ความจริงเรื่องนี้จะได้เปลี่ยนใจไม่ให้มินตราย้ายออกไปที่อื่น
“ถึงขั้นมีลูกด้วยกันแล้วไปกันใหญ่แล้วนะทำไมถึงได้เอาความรู้สึกของคนอื่นมาล้อเล่นกันแบบนี้แล้วนี่เปรมรู้เรื่องนี้หรือยัง”
ธานินทร์ลุกขึ้น 2 มือเท้าเอวเขาไม่พอใจทั้งภรรยาและมินตราที่ร่วมมือกันทำอะไรจนเรื่องราวกลายเป็นว่ามีอีกหลายชีวิตที่ต้องเข้ามามีผลรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะหลานของเขาที่ไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรได้เลย
“มิ้นยังไม่ได้บอกคุณเปรมค่ะ เพราะถ้าเขารู้ว่ากำลังจะมีลูก มิ้นกลัวว่าเขาจะยอมยกเลิกงานแต่งงานเพียงเพราะต้องการรับผิดชอบและสุดท้ายในเมื่อมันไม่ใช่ความรักเราก็ต้องเลิกกันถึงตอนแรกมิ้นตั้งใจว่าจะยอมยกลูกให้คุณเปรม คุณท่านเข้าใจมิ้นนะคะเมื่อวันนี้มิ้นได้เป็นแม่มิ้นไม่พร้อมจะยกลูกให้ใครโดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าคุณเปรมกำลังจะแต่งงาน”
ธานินทร์เดินมาลูบผมสาวน้อยที่เขาเห็นเธอมาตั้งแต่ยังเล็กด้วยความเข้าใจและเป็นห่วงนับจากนี้ไปเขาจะเป็นคนวางแผนทั้งหมดจะไม่ให้ภรรยามามีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว
ธานินทร์ต้องการให้ลูกชายได้ถามหัวใจตัวเองอีกสักครั้งว่าความจริงแล้วเขารักคนรักเก่าหรือรักมินตรากันแน่เพราะเท่าที่ผ่านมาคนเป็นพ่อสังเกตท่าทางของลูกชายเขาดูมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับมินตรา แต่ทำไมเปรมธวัชกลับเลือกไปแต่งงานกับผู้หญิงที่เคยทำร้ายหัวใจ
“เธอกับยุพินทำตามที่ฉันบอกและถ้าทุกอย่างมันชัดเจนมากขึ้นฉันยินดีให้เธอสองคนไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ส่วนหลานของฉันถ้าเธอยินดีที่จะเลี้ยงด้วยตัวเองฉันก็พร้อมจะดูแลค่าใช้จ่ายหยิบยื่นทุกอย่างให้หลานและปู่กับย่ายังไงก็ยังเป็นปู่กับย่าที่รักหลานเช่นเดิม”
มินตราก้มกราบลงไปที่เท้าของผู้มีพระคุณเธอเห็นด้วยกับความคิดของธานินทร์ เธอต้องไปจากที่นี่ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่และเมื่อไหร่ที่เธอหายไปบางครั้งเปรมธวัชอาจจะรู้ใจตัวเองมากขึ้นแต่ถ้าเขารู้แน่ชัดแล้วว่าเขาเลือกที่จะรักรินรดาเธอก็จะได้จากไปอย่างไม่มีข้อสงสัยอะไรในหัวใจให้ต้องเจ็บช้ำอีก
ตอนที่ 10กว่าจะรู้“คุณแม่ครับมิ้นไปไหน” วันนี้เป็นวันแรกที่เปรมธวัชกลับมาทันกินข้าวเย็นหลังจากที่ 2 เดือนที่ผ่านเขาจะกลับมาถึงบ้านก็หลังเที่ยงคืนเท่านั้น “พ่อให้มิ้นกับยุพาไปจากที่นี่แล้ว” ธานินทร์ตอบด้วยท่าทางไม่สนใจยังคงก้มหน้าก้มตากิน ข้าวคลุกกะปิอาหารมื้อสุดท้ายที่ครอบครัวของมินตราได้ทำไว้ให้คนที่บ้านหลังนี้ได้กิน “คุณพ่อหมายความว่าอย่างไรครับไปจากที่นี่” เปรมธวัชวางช้อนในมือเขาถามบิดาด้วยเสียงที่สูงและดูมีอารมณ์อยู่ในนั้นเพราะอย่างไรมินตราก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาการที่เธอจะไปไหนเขาควรจะต้องมีส่วนรู้ด้วย “ก็เปรมจะแต่งงานกับรินไม่ใช่หรือ แล้วจะให้มินตราอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรพ่อก็เลยให้เขาไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ยุพาเองก็ทำงานที่นี่มานานก็ถึงเวลาต้องปลดระวางไปใช้ชีวิตอิสระของเธอบ้างและทำไมจะต้องมาโมโหแบบนี้ในเมื่อลูกเลือกเองว่าจะแต่งงานกับรินแล้วจะเก็บมินตราไว้ทำไมอย่าเห็นแก่ตัวนักสิ” ชายหนุ่มเป็นอันต้องเลิกกินข้าวสองมือกอดอกมองสบตาทั้งพ่อและแม่ที่ดูเหมือนไม่มีใครจะอยู่ข้างเขาในเวลานี้ “มินตราเป็นผู้
ตอนที่ 11ของขวัญที่ล้ำค่า“ผมขอโทษ” มินตราพี่กำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ที่บริเวณสวนหลังบ้านหันหลังมาตามเสียงที่เธอได้ยินด้วยความตกใจเพราะมันเป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยและรอคอยมาตลอดตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ “คุณเปรมมาได้อย่างไรคะ” สาวน้อยรีบวางสายยางและใช้สองมือประคองชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่ายกมือไหว้อยู่ตรงหน้าให้ลุกขึ้น “ให้อภัยผมได้ไหมความผิดครั้งนี้มันมากมายและยิ่งใหญ่เหลือเกินที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้ว่าหัวใจตัวเองต้องการใครจนวันที่คุณไม่อยู่ผมรู้แล้วว่ารินรดาไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมต้องการอีกแล้ว” สาวน้อยพูดอะไรไม่ถูกจึงทำได้แค่เพียงฟังและให้อีกฝ่ายพูดความในใจออกมาสำหรับมินตรา เธอไม่เคยโกรธเขาแต่ที่เธอยอมจากมาแค่เพียงอยากให้เขารู้จักเสียงหัวใจตัวเองและเธอไม่ต้องการอยู่อย่างไร้ค่าในบ้านที่เธอไม่มีตัวตนในฐานะภรรยาอีกแล้ว “ผมยกเลิกการแต่งงานทุกอย่างมันจะไม่เกิดขึ้นแล้ว” มินตราพยักหน้าเพราะเธอรู้เรื่องนี้ดีจาก Facebook ของเปรมธวัชที่เธอเฝ้าติดตามเขามาตลอดตั้งแต่เขาไปเรียนที่ต่างประเทศ “ที่คุณมาวันนี้เพื่อจะตามมิ้นให้กลับไปอยู่กับคุณในฐานะ
ตอนที่1ความลับ “พี่ดลพี่ตามผมให้กับจากเวียดนาม เพราะเรื่อง ไร้สาระแบบนี้นี่นะ” ภูผาน้องชายฝาแฝดของภูวดล รู้สึกไม่พอใจเมื่อรู้ถึงสาเหตุที่พี่ชายโทรตามเขาให้กลับมาเมืองไทยเพียงเพราะว่า ต้องการให้เขานอนกับผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อมีลูก “ในเมื่อภรรยาพี่ยินยอมแล้ว ทำไมพี่ไม่นอนกับเธอเอง ทำไมต้องเป็นนผม” “พี่ทำใจไม่ได้ ที่จะนอกกายภรรยา แต่แกยังไม่มีเมีย ถือเสียว่าช่วยให้ครอบครัวพี่สมบูรณ์นะ เราเป็นแฝดกัน แล้วเรื่องนี้ก็มีแต่พ่อกับแม่เราเท่านั้นที่รู้ ทุกคนจะคิดว่าเป็นพี่” พ่อของทั้งคู่เป็นคนไทยลูกเสี้ยวอังกฤษที่ทำงานอยู่ที่อเมริกา และเกิดมาเที่ยวที่เมืองไทยและดันมามีอะไรกับแม่ของทั้งคู่ โดยที่พ่อมีภรรยาเป็นอยู่ที่อเมริกาอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสองคนจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูลูกฝ่ายละคนและปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แค่พ่อแม่ ภูวดล และภูผาเท่านั้น ที่รู้ว่าทั้งคู่มีแฝด เพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตอยู่คนละประเทศอยู่แล้ว “ก่อนจะตัดสินใจดูรูปของเธอก่อน ” ภูวดลส่งรูปให้น้องชายดู “ทั้งสวย ทั้งน่ารัก ทำไมถึงได้ยอมมาทำแบ
ตอนที่2คืนแรกของการไข่ตก อาหารบนโต๊ะอาหาร ล้วนแต่ไม่คุ้นหน้า ขิมมองดูด้วยความสงสัย ว่าแต่ละอย่างมันเรียกว่าอะไร “ไม่เคยกินใช่ไหม มาเดี๋ยวผมจะแนะนำให้ ว่าอะไรคืออะไรและกินอย่างไรกัน” ภูผาอธิบายชื่อ ส่วนประกอบ และวิธีการรับประทาน ให้หญิงสาวตากลมฟังอย่างละเอียด “อร่อยมากเลยค่ะ คุณภูวดลฝีมือเยี่ยมเลย” ขิมเอ่ยปากชม แต่ด้วยชื่อที่เธอเรียกมันทำให้คนทำรู้สึกน้อยใจ เพราะเขาไม่ใช่ภูวดล “ผมว่าคุณเรียกผมว่า คุณภู ก็พอ มันจะได้ช่วยให้เรารู้สึกสนิทสนมกัน” “ได้ค่ะ ต่อไปขิมจะเรียกว่าคุณภูนะคะ” นานแล้วที่ภูผาไม่มีโอกาสได้กินอาหารในบ้านด้วยฝีมือตัวเอง แบบที่มีคนอื่นด้วย เพราะตั้งแต่เขาเรียนจบ พ่อของเขาก็ซื้อบ้านและให้เขาแยกออกมาใช้ชีวิต ถึงเขาจะชอบทำอาหารแต่ก็เป็นแค่การนั่งกินอยู่คนเดียว “กินเยอะเลยนะ ผมชอบมองเวลาที่คุณกิน มันดูอร่อย คนทำก็รู้สึกภูมิใจไปด้วย” “แล้วคุณวรินไม่ชอบกินฝีมือคุณเหรอคะ ถึงดูตื่นเต้นจัง ที่ขิมกินแล้วถูกปาก” คำถามของหญิงสาวทำเอา ชายหนุ่มไปไม่เป็น เขาเอ่อ...อยู่นานกว่าจะน
ตอนที่3เรียนรู้ ใกล้ชิด “ขอโทษนะคะ ขิมตื่นสายไปหน่อย ” คนพูดเดินออกมาจากห้องนอนในสภาพหน้าซีด พอใกล้จะถึงห้องครัวที่ภูผากำลังทำกับข้าวอยู่เธอก็เป็นลมล้มไปเสียก่อน “ขิม ขิม คุณได้ยินผมไหม” ชายหนุ่มอุ้มคนร่างเล็กที่เป็นลมล้มลงไปนอนกับพื้น มาวางนอนกับโซฟากลางห้อง “ขิมเป็นอะไรไปคะ” “คุณเป็นลม ดีนะตัวเล็ก ถ้าตัวใหญ่ล่ะก็มีหวัง ผมทิ้งคุณไว้ที่พื้นแน่ๆ” ภูผาพูดไป มือก็ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดตัวให้กลับหญิงสาวที่กำลังนอนตัวร้อนอยู่บนโซฟา “หรือฉันจะท้องแล้วคะ” ขิมทำท่าดีใจ เพราะเธอเคยเห็นในหนังคนท้องชอบเป็นลม เวียนหัว “ต่อให้คุณท้องจริง มันก็คงจะไม่แสดงอาการเร็วแบบนี้ คุณเป็นไข้ ตัวร้อน จนผมต้องเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้” ภูผาส่ายหัวให้กับความคิดของหญิงสาว เธอกับเขานอนด้วยกันคืนเดียว เธอคิดว่าตัวเองกำลังแพ้ท้องเสียแล้ว วันนี้ทั้งวันชายหนุ่มเลยต้องเป็นบุรุษพยาบาลจำเป็น ไม่นานอาการไข้ก็ลดลง ขิมเธอพยายามแสดงออกให้ชายหนุ่มเห็นว่าเธอสบายดี เพื่อที่คืนนี้เขากับเธอจะได้ผลิตลูกกันอีก
ตอนที่4ลาก่อนลูกรัก แพทย์ที่ทำคลอดให้กับขิมเป็นน้องสาวของวริน ทุกอย่างจึงไม่มีปัญหา ทันทีที่เด็กน้อยคลอดออกมา วรินตั้งชื่อให้ว่าปูนปั้น เพราะเธอเป็นคนคิดและวางแผนปั้นมากับมือ “ดูแลตัวเองนะลูก หนูอยู่กับพ่อกับแม่ที่รักหนูที่สุดแล้ว” ขิมจูบลงไปที่หน้าผากของลูกชายของเธอ คืนวันนี้เธอก็จะออกจากโรงพยาบาลและไปให้ไกล ตามสัญญาที่ให้ไว้กับวริน เด็กน้อยเกิดมาด้วยใบหน้าที่เหมือนกับภูผามาก ดังนั้นปูนปั้นจึงเหมือนภูวดลไปด้วย ยิ่งทำให้วรินสบายใจ เพราะทุกคนจะได้เชื่อ ตลอดเวลาเกือบสี่เดือนที่วรินเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านเพื่อไม่ให้มีใครได้เห็นเธอ จะได้ไม่แปลกใจในวันที่เธอมีลูกขึ้นมา ภูวดลแกล้งอุ้มลูกออกมานอกห้องที่พักของแม่และเด็ก เพื่อพาหนุ่มน้อยปูนปั้นให้ได้มาเจอหน้ากับพ่อแท้ ๆ “ผมฝากลูกด้วยนะพี่ รักเขาให้มากๆ ถ้าวันไหนพี่ไม่ต้องการเขาแล้วหรือรักลูกผมน้อยลง บอกผมนะ” ภูผาเพิ่งเข้าใจคำว่าพ่อก็วันนี้ เขาตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข แต่สุดท้ายเขาก็ต้องยอมปล่อยไป เพราะทุกอย่างมันถูกตกลงกันไว้แล้ว และภูวดลก็ไม่ใช่คนอื่นเ
ตอนที่5เริ่มจีบกันใหม่ ไม่นานร้านอาหารเวียดนามของภูผาก็ถูกเปิดอย่างเป็นทางการ ขิมเองทำอาหารได้ทุกเมนู เดือนแรกเธอมีผู้ช่วยเพียงคนเดียว แต่ร้านขายดีมาก ภูผาจึงต้องจ้างผู้ช่วยแม่ครัวเพิ่มอีกหนึ่งคน “เหนื่อยไหม ขอบคุณมากนะขิม ถ้าไม่ได้คุณผมคงแย่” ชายหนุ่มเดินมาที่ห้องครัวหลังจากลูกค้ากลับไปหมดแล้ว “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะสนุกดี แล้วคุณไม่กลับไปกรุงเทพบ้างเหรอคะ เห็นอยู่ที่นี่มาหลายเดือนแล้ว” ขิมไม่กล้าถามถึงลูกกับภรรยาของเขาโดยตรงจึงถามแบบอ้อมๆ ทั่วไป “ไปกรุงเทพ ไปทำไมล่ะ ผมไม่ได้มีอะไรที่นั่นเสียหน่อย” คนตอบทำหน้าสงสัย หญิงสาวเลือกที่จะไม่ถามต่อ เธอคิดว่าชายหนุ่มคงเลิกรากับวรินแน่ๆเลย ถึงได้ย้ายมาอยู่ไกลแบบนี้ ด้วยความเป็นแม่ หญิงสาวรู้สึกห่วงลูกขึ้นมา แต่ก็เชื่อใจว่าในเมื่อวรินเองมีลูกไม่ได้อย่างไรเสีย เขาคงไม่ทิ้งลูกของเธอแน่นอน “เดี๋ยววันนี้ผมไปส่ง แต่ก่อนกลับ เราไปหาข้าวต้มร้อน ๆ กินกันดีกว่า ตั้งแต่มาอยู่เชียงใหม่ ผมยังไม่เคยขับรถเล่นเวลากลางคืนเลย เพราะเหนื่อยแต่กับเรื่องร้าน พรุ่งนี้ร้านหยุด คุณห้ามปฎิเสธเล
ตอนที่6ความรู้สึกที่ดีในวันเก่าๆพระจันทร์ยังไม่ทันลับขอบฟ้า ทั้งสองคนก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง และหวังว่าจะได้เห็นทะเลหมอก“ง่วงก็หลับก่อนเลยนะ เดี๋ยวถึงแล้วผมปลุกเอง โค้งเยอะคุณอาจจะเวียนหัวก็ได้”ชายหนุ่มเขาเคยมาเที่ยวที่นี่ครั้งหนึ่ง ตอนที่มาหาสถานที่เปิดร้านอาหาร จากที่ขี่หาแถวตัวเมือง เลยไกลขึ้นมาถึงเส้นนี้ จนได้รู้ถึงโค้งที่แสนจะเวียนหัว“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ ตอนแม่ยังอยู่ฉันก็ตื่นเช้า และเรื่องเมาโค้งยังไม่เป็นสักทีนะคะ”ขิมพูด เพราะเธอยังไม่ได้ลิ้มลองโค้งของเส้นทางนี้ ภูผาได้แต่จะรอดูผล ว่าถึงเวลาหญิงสาวยังยังเก่งอยู่ไหมอากาศข้างนอกเย็นสบายชายหนุ่มจึงแง้มหน้าต่างพอให้ลมเข้า เพื่อได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เข้าไปให้ชุ่มปอดเกือบสองชั่วโมงกว่าจะถึง พระอาทิตย์เริ่มส่องแสง ทั้งคู่รีบจอดรถและเดินไปยังจุดชมวิว“เรามาทันหมอกด้วยค่ะ สวยมากเลย”ขิมหันไปมองชายหนุ่มที่มาด้วยเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงตอบจากเขาภูผากำลังยืนมองไปที่ภาพของครอบครัวหนึ่งที่อุ้มเด็กน้อยกำลังถ่ายภาพกัน เด็กคนนั้นน่าจะอายุมากกว่า ปูนปั้นลูกชายของเขากับขิมไม่เท่าไหร่“คิดถึงลูกเหรอคะ” คนถามเห็นแล