ตอนที่ 2
คำขอร้องจากผู้มีพระคุณ
เปรมธวัชเดินออกมาจากคอนโดมิเนียมแต่เขาก็ต้องกลับไปอีกครั้งเมื่อคิดขึ้นได้ว่าลืมแฟ้มเอกสารบางอย่างไว้
“สุดท้ายเธอก็หักหลังฉัน”
ภาพที่เปรมธวัชได้เห็นคือผู้ชายที่เขาไม่คุ้นหน้ากำลังเดินเข้าไปยังห้องของนาเดียโดยที่หญิงสาวเป็นคนเปิดประตูให้สองมือที่คล้องคอและดึงตัวผู้ชายคนนั้นเข้าห้องทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่า ทั้งคู่มีความสัมพันธ์อะไรกัน
ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปแสดงตัว เขาไม่ต้องการเป็นคนโง่ที่โดนหักหลังอีกแล้วเขาจึงเลือกที่จะเดินออกมาและส่งข้อความกลับไปหาหญิงสาวที่เป็นคู่ขาให้เขาย้ายออกจากคอนโดของเขาภายในวันนี้ด้วยเหตุผลว่าเขาต้องการพาผู้หญิงคนใหม่มาอยู่
เปรมธวัชตัดสินใจที่จะเดินหน้าเรื่องของมินตราทันทีชีวิตที่ผ่านมาทำให้เขาเริ่มกลัวว่าบางทีเงินทองที่เขามีอยู่จะไม่สามารถซื้อความรักจากใครได้อีกเขาจึงคิดว่าบางทีคำว่ามีพระคุณอาจจะทำให้เขาเป็นที่ต้องการของมินตราก็ได้
“วันนี้คุณเปรมมาร่วมยินดีด้วยนะลูก”
ยุพาหันไปบอกลูกสาวด้วยความซาบซึ้งใจที่ลูกชายของเจ้านายมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกสาวของเธอในวันรับปริญญา
“มิ้นขอบคุณคุณเปรมมากนะคะที่มาร่วมยินดีกับมิ้นในวันนี้”
สาวน้อยในชุดเตรียมพร้อมรับปริญญาหอบดอกไม้ช่อใหญ่รีบเดินมาทักทายคนทั้งคู่ มินตรารู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าเปรมธวัชจะมาด้วยแต่เธอก็แอบคิดว่าบางทีเขาอาจจะแค่สัญญาและไม่มาจริง
“โตเป็นสาวแล้วหน้าเปลี่ยนไปเยอะมากผมยินดีด้วยนะ กับความสำเร็จในครั้งนี้”
เปรมธวัชส่งสายตาอย่างเป็นมิตรและแสนอบอุ่นให้สาวน้อย ด้วยบุคลิกท่าทางและอายุของเขาทำให้เขาดูผู้ชายที่ภูมิฐานในสายตาของมินตรา
“เรามาถ่ายรูปกันดีกว่าครับ”
ชายหนุ่มส่งโทรศัพท์ให้เพื่อนของมินตราช่วยถ่ายรูปเขากับสาวน้อยในชุดรับปริญญาสร้างความแปลกใจให้กับมินตราเป็นอย่างมากเพราะความจริงเธอมีช่างภาพมาดูแลในเรื่องนี้อยู่แต่เปรมธวัชกลับใช้โทรศัพท์ของตัวเอง
เปรมธวัชโพสรูปของเขากับมินตราลงในโซเชียลทันทีเพราะเขาต้องการให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเขาเองมีผู้หญิงรายล้อมตัวไม่ได้ขัดสนในเรื่องนี้แต่ทุกวันนี้ที่ไม่แต่งงานเพราะเขายังไม่คิดจะเลือกใครมากกว่า
ผู้ชายที่ดูมีพร้อมอย่างเปรมธวัชกับกลายเป็นคนที่หลอกตัวเองในทุกวันเขาสร้างกำแพงชีวิตขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนมองว่าเขาเป็นคนที่ร่ำรวยความรักทั้งที่ความจริงแล้วเขาคือคนที่ขาดความรักอย่างที่สุดเพราะการใช้เงินซื้อทุกอย่างมันไม่ได้ทำให้ใครรักเขาจากหัวใจจริง
“ฉันขอยินดีกับเธอด้วยนะมินตราที่มานะเรียนจนจบ”
อมรารู้สึกยินดีกับสาวน้อยตรงหน้าที่มีความพยายามขยันจนเรียนจนจบมหาวิทยาลัยได้และเธอก็อดภูมิใจในตัวเองไม่ได้เหมือนกันที่เป็นคนส่งเสียสาวน้อยคนนี้จนเรียนจบ
“มิ้นมีทุกวันนี้ได้ก็เพราะบุญคุณของคุณท่านทั้งสองคน มิ้นกับแม่จะไม่มีวันลืมเลยค่ะ”
หญิงสาวก้มกราบลงไปที่เท้าของอมราส่วนคุณท่านผู้ชายช่วงนี้ไม่ค่อยกลับบ้านมินตราจึงไม่มีโอกาสได้บอกข่าวดีเรื่องนี้
“แล้วคิดไว้หรือยังว่าจะไปทำงานที่ไหน”
หญิงสูงวัยเริ่มถามถึงอนาคตเพราะเธอต้องการจะเข้าเรื่องที่เธอวางแผนไว้ทันทีไม่อยากปล่อยให้ทุกอย่างนานเกินไปกลัวว่าถ้ามินตรามีอนาคตที่สดใสกว่านี้เธออาจจะปฏิเสธ
“ยังไม่ได้ไปหางานทำเลยค่ะมีแต่เขียนใบสมัครทิ้งไว้แต่ก็ยังไม่มีบริษัทไหนติดต่อมา”
มินตราตอบเสียงเจื้อยแจ้วเธอไม่รู้เลยว่าคำถามนี้ไม่ได้ถามเพียงเพราะเป็นห่วงแต่อีกฝ่ายกำลังวางแผนอนาคตไว้ให้เธอ
“ฉันมีสิ่งหนึ่งที่อยากจะขอร้องเธอและมันคงเป็นสิ่งเดียวที่ในชีวิตนี้ฉันจะขอร้องจากเธอนะมินตรา”
สาวน้อยหันมองสบตามารดาเพราะคิดว่าสิ่งที่อมราพูดตอนนี้แม่ของเธอน่าจะเข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร
“คุณท่านจะให้มินทำอะไรคะถ้ามันเป็นการทำให้คุณท่านมีความสุขมิ้นพร้อมจะทำเสมอเพราะครอบครัวมิ้นอยู่ดีมีสุขได้ ทุกวันนี้ก็เพราะพระคุณของคุณท่านค่ะ”
อมราเรียกสาวน้อยให้ลุกขึ้นมานั่งข้างๆกับเธอก่อนที่เธอจะพูดถึงแผนการทั้งหมดที่เธอต้องการจ้างมินตราให้มาเป็นภรรยาอุ้มท้องให้กับหลานคนแรกของครอบครัวโดยที่สาวน้อยกับเปรมธวัชจะเป็นเพียงแค่ภรรยาลับๆกันเท่านั้นเมื่อไหร่ที่ทายาทของตระกูลได้กำเนิดขึ้นอมราจะคืนอิสระในชีวิตให้กับมินตราทันที
“มิ้นขอตัดสินใจก่อนได้ไหมคะ”
สาวน้อยจากที่ตั้งใจว่าเธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเป็น การตอบแทนพระคุณแต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้มีพระคุณต้องการเธอก็ถึงกับต้องขอไปตัดสินใจเพราะเรื่องนี้นี้มันคือชีวิตของเธอคืออนาคตคือทุกอย่างสำหรับชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งมาก
“ฉันเข้าใจดีว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเล็กหวังว่าการตัดสินใจของเธอจะทำให้ฉันได้มีโอกาสเป็นย่ากับเขาสักครั้งสาเหตุที่ฉันเลือกเธอเพราะเธอเป็นคนน่ารักเป็นคนดี ทายาทคนเดียวของตระกูลฉันควรจะมีแม่เป็นผู้หญิงที่ดีพร้อมอย่างเธอนะมินตรา”
อมราไม่ใช่แค่เพียงพูดคำหวานเพื่อหวังให้อีกฝ่ายตัดสินใจยอมทำในสิ่งที่เธอต้องการแต่หญิงสูงวัยพูดออกจากหัวใจที่แท้จริงมินตราถึงเธอจะมาจากครอบครัวที่เป็นเพียงแค่สาวรับใช้ในบ้านแต่ความดีงามของเธอมีพร้อมในทุกอย่างทั้งความขยันความกตัญญูซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีในตัวผู้หญิงทุกคน
สองคนแม่ลูกเดินกลับมาที่เรือนเล็กหลังบ้าน ยุพาไม่กล้าแม้แต่จะออกความคิดเห็นใดๆเธอปล่อยให้การตัดสินใจครั้งนี้เป็นไปโดยอิสระเพราะอย่างไรมินตราก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้วควรที่จะมีสิทธิ์เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อย”
เสียงทุ้มที่ฟังดูเยือกเย็นดังมาจากด้านหลังทำให้ทั้งยุพาและมินตราต้องรีบหันกลับไปมองและเมื่อพบว่าเจ้าของเสียงคือ เปรมธวัชยุพาก็เดาได้ไม่ยากว่าเจ้านายของเขามาถึงเรือนหลังเล็กด้วยเหตุผลอะไรจึงได้ขอตัวเดินออกมาเพื่อหวังให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสคุยกัน
“สิ่งที่คุณแม่ขอร้องมันก็เป็นสิ่งที่ยากต่อการตัดสินใจแต่ผมอยากให้มินตราลองคิดทบทวนดูให้ดีชีวิตของคุณและแม่มีวันนี้ได้เพราะใครที่ผมพูดไม่ได้ต้องการจะลำเลิกบุญคุณแต่แค่อยากให้คุณมองเห็นว่าคนที่คอยช่วยเหลือคุณทุกอย่างกำลังมีความทุกข์อยู่และคุณคือคนเดียวที่ช่วยท่านได้”
เปรมธวัชพยายามพูดให้ตัวเองดูดีทั้งที่ความจริงเขาก็กำลังลำเลิกบุญคุณในสิ่งที่แม่ของเขาเคยทำให้กับครอบครัวของมินตรา
“ทำไมต้องเป็นมิ้นคะผู้หญิงคนอื่นมีตั้งมากมายผู้ชายที่มีพร้อมอย่างคุณเปรมน่าจะหาได้ไม่ยาก”
หญิงสาวถามในสิ่งที่เธออยากรู้เพราะดูจากรูปร่างหน้าตาและฐานะของเปรมธวัชแล้วเขาไม่น่าจะหาผู้หญิงไม่ได้น่าจะเป็นฝ่ายปฏิเสธผู้หญิงเสียมากกว่า
“เพราะผมไม่ชอบผู้หญิงพวกนั้น บางคนก็เป็นเพื่อนที่ดี บางคนก็เป็นคู่นอนที่เหมาะสมแต่ยังไม่มีใครเหมาะที่จะเป็นแม่ของลูกและสาเหตุที่ผมกับคุณแม่เลือกคุณเพราะเชื่อว่าคุณเป็นคนดีและเมื่อทุกอย่างสำเร็จเรามั่นใจว่าคุณจะไม่ผูกมัดเรียกร้องอะไรจากเราแต่สิ่งนี้เราไม่แน่ใจในตัวผู้หญิงคนอื่น”
มินตราเริ่มเข้าใจในสิ่งที่เปรมธวัชต้องการสื่อสาร ชายหนุ่มและครอบครัวกลัวว่าถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นอาจจะเรียกร้องเงินทองทรัพย์สมบัติหรือต่อรองในเรื่องอื่นๆแต่ถ้าเป็นตัวเธอทั้งคู่มั่นใจว่าเธอจะยอมอยู่เงียบๆ
“มิ้นขอเวลาตัดสินใจก่อนนะคะตอนนี้คงให้คำตอบอะไรไม่ได้”
สาวน้อยยังคงยืนยันคำเดิมเพราะเธออยากถามเสียงของหัวใจตัวเองให้ชัดเจนกว่านี้เพราะมันคือทั้งชีวิต การมีลูกกับผู้ชายคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่ทำแล้วก็จบไป
“ในวันที่แม่ของผมเจอน้ายุพาเดินอยู่ที่ริมถนนแม่ใช้เวลาตัดสินใจไม่ถึงเสี้ยวนาทีที่จะช่วยเหลือน้ายุพาและเด็กน้อยคนนั้น ผมหวังว่าคุณคงใช้เวลาไม่นานที่จะให้คำตอบกับคนแก่ที่รอคอยวันนี้มาทั้งชีวิต”
เปรมธวัชเล่นบทโศกพร้อมกับคำพูดที่กรีดลงไปถึงหัวใจ คนฟังเพื่อบีบให้มินตรารู้ว่าในวันที่แม่ของเขาตัดสินใจช่วยแม่ของเธอและตัวเธอเองวันนั้นแม่ของเขาไม่ต้องใช้เวลาตัดสินใจอะไรมากมายคำว่าเพื่อนมนุษย์ต้องช่วยเหลือกันทำให้ทุกอย่างเป็นอย่างทุกวันนี้
ภาพความทรงจำครั้งเก่าย้อนเข้ามาในความนึกคิดของมินตราถึงแม้ตอนนั้นเธอจะยังเด็กมากแต่เธอก็จำได้ดีว่าความกลัวตอนนั้นมันเป็นอย่างไรท้องของเธอหิว ความเหนื่อยทำให้เธออ่อนล้าและง่วงนอนแต่กลับไม่รู้ว่าเธอจะไปใช้ชีวิตที่ไหนจนได้มาเจอกับอมราที่หยิบยื่นทั้งที่พักอาหารและอนาคตให้กับเธอและแม่จนถึงทุกวันนี้
“มิ้นตกลงที่จะเป็นแม่ให้ลูกคุณค่ะ”
สาวน้อยยอมตกลงทั้งที่เธอยังได้ถามเสียงหัวใจตัวเองแต่รู้แค่เพียงว่าคำพูดของเปรมธวัชทำให้เธอคิดได้แต่คำว่าตอบแทนบุญคุณสาวน้อยได้แต่รีบเดินกลับเข้าไปในห้องนอน เธอร้องไห้ให้กับอนาคตของตัวเองที่คงไม่เป็นไปอย่างที่วางไว้แต่ในเมื่อชีวิตนี้เธอมีทุกวันนี้ได้เพราะอมราเธอจะขอตอบแทนผู้มีพระคุณด้วยอนาคตและชีวิตทั้งหมดของเธอสักครั้ง
ตอนที่ 3ภรรยาเด็ก“ในเมื่อมินตราตกลงแล้ว เราจะเอาอย่างไรกันต่อไป”อมราไม่กล้าถามลูกชายตรงๆว่าแผนการที่เธอวางไว้ เปรมธวัชพร้อมจะเริ่มต้นเมื่อไหร่เพราะสำหรับเธอแล้วต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเร็วที่สุด อายุของเธอมากขึ้นทุกวันดูแล้วคงไม่ได้อยู่ดูหลานจนถึงรับปริญญา“ผมพร้อมแล้วครับอยู่ที่สาวน้อยของคุณแม่นั่นแหละที่จะพร้อมหรือยัง”ชายหนุ่มตอบด้วยความมั่นใจเพราะตัวเขาเองตอนนี้ก็ ไม่เหลือผู้หญิงคนไหนอีกแล้วตั้งแต่วันนั้นที่เขารู้ความจริงเรื่องของนาเดียเขาก็ตั้งใจว่าจะยุติความสัมพันธ์แบบชั่วคราวแล้วหันมาทำตามในสิ่งที่แม่ต้องการจะดีกว่าการมีลูกบางครั้งอาจจะทำให้ตัวเขาเองมีความสุขในชีวิตมากกว่านี้ก็ได้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนเข้าหอสำหรับภรรยารับจ้างที่ไม่มีแม้แต่งานแต่งไม่มีการบอกรักไม่มีทะเบียนสมรสไม่มีสิ่งใดๆที่ผู้หญิงต่างก็เฝ้าฝันว่าชีวิตของเธอจะต้องได้รับจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี“มิ้นพร้อมแล้วค่ะ”หญิงสาวในชุดนอนพูดขึ้นเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องที่อมราจัดไว้สำหรับเป็นห้องนอนของทั้งคู่ในการผลิตหลานให้กับเธอ“พูดจาเป็นหุ่นยนต์เหมือนไร้ความรู้สึกแบบนี้ผมจะทำอะไรคุ
ตอนที่ 4เรียนรู้ระหว่างเรา“ไม่เอา ! ผมไม่ให้ใส่เสื้อผ้าแบบนี้”เปรมธวัชดึงเสื้อยืดออกจากมือของภรรยาเด็กเพราะพี่เขาพาเธอมาซื้อเสื้อผ้าใหม่ในวันนี้เพราะอยากให้สาวน้อยแต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น“มิ้นเคยใส่แต่เสื้อผ้าแบบนี้ถ้าเป็นแบบอื่นก็ไม่รู้จะใส่แบบไหนเหมือนกันค่ะ”มินตราคิดไม่ออกว่าเสื้อผ้าแบบไหนที่จะเหมาะกับเธอจึงยกให้เปรมธวัชทำหน้าที่เลือกเอาแบบที่เขาต้องการทั้งสองคนเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกำลังจ้องมองอยู่“คุณเปรมพาใครมาซื้อเสื้อผ้าคะนี่”สาวสวยไฮโซเดินเข้ามาทักทายเปรมธวัชพร้อมกับเพื่อนของเธออีก 3 คนซึ่งทุกคนกำลังหันมาจ้องมองสาวน้อยที่กำลังยืนอยู่ข้างนักธุรกิจชื่อดัง“สวัสดีครับน้องไอลดา”ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามแต่หันกลับไปทักทายอีกฝ่ายแทนซึ่งด้วยมารยาทแล้วทำให้คำถามนั้นต้องเป็นอันตกไปเมื่อถูกบทสนทนาอื่นเข้ามาแทน“ปกติแล้วไอไม่เคยเห็นพี่เปรมมาเดินห้างแบบนี้เลยนะคะใครๆก็พากันพูดกันว่านักธุรกิจหนุ่มใหญ่อย่างคุณเปรมธวัชนอกจากเรื่องงานแล้วก็ไม่สนใจเรื่องอื่นเลย”ไอลดาพยายามจะล้วงเอาคำตอบให้ได้ว่าผู้หญิงที่มากับเปรมธวัชใ
ตอนที่ 5เผลอปล่อยใจ“คุณแม่ครับผมซื้ออาหารทะเลร้านโปรดมาฝาก” เปรมธวัชยื่นถุงกับข้าวถุงใหญ่ส่งให้มารดาที่นั่งรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขกด้วยท่าทางมีความสุขที่เห็นลูกชายกลับมาพร้อมกับลูกสะใภ้ของเธอ “พามินตราไปร้านโปรดของเรามาใช่ไหม” อมราถามทั้งที่เธอรู้อยู่แล้วเพราะลูกชายโทรมาบอกตั้งแต่ช่วงเย็นแต่ที่เธอแกล้งพูดเพราะอยากให้หญิงสาวได้รู้ว่าร้านอาหารร้านนั้นถ้าไม่พิเศษจริงๆเปรมธวัชไม่มีทางพาไป “มิ้นชอบบรรยากาศที่นั่นมากครับสงสัยวันหลังเราต้องไปกันพร้อมหน้าทุกคนจะได้สนุกมากยิ่งขึ้นรับรองได้ว่าถ้าน้ายุพาไปคงได้ถอดสูตรอาหารเอามาทำให้เราได้กินกันแน่” ยุพาสาวใช้มองหน้าเจ้านายด้วยความแปลกใจเพราะการที่เปรมธวัชพูดแบบนี้หมายความว่าเขาจะพาเธอไปกินด้วย มินตราได้ยินคำพูดของสามีที่ให้ความสำคัญกับแม่ของเธอหญิงสาวรู้สึกมีความสุขที่เธอเลือกตัดสินใจไม่ผิดยอมเป็นภรรยารับจ้างให้เขาถึงแม้เธอจะไม่มีตัวตนในสังคมแต่ในบ้านหลังนี้ เปรมธวัชให้ความสำคัญกับเธอตามที่เขาสัญญาไว้จริงๆและความสำคัญนี้ก็เผื่อแผ่ไปหามารดาของเธอด้วย “เปรมรู้ไหมยุพาไม่ย
ตอนที่ 6การมาของใครบางคน“สวัสดีค่ะ คุณแม่สบายดีไหมคะไม่ได้เจอกันเสียหลายปี” สาวสวยหุ่นนางแบบดีกรีนักเรียนนอกยกมือไหว้อมราด้วยความนอบน้อมถึงแม้ว่าสไตล์การแต่งตัวของเธอจะดูไม่ค่อยเป็น คนเรียบร้อยเท่าไหร่ “ไหว้พระเถอะแม่คุณ ลมอะไรหอบทายาทเพียงคนเดียวของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาถึงบ้านของแม่ได้” อมราถึงแม้จะพยายามปั้นหน้าพูดดีตามแบบคนมีมารยาทแต่เธอก็อดที่จะใส่คำพูดจิกกัดลงไปไม่ได้เพราะหญิงสาวที่มาเป็นแขกในวันนี้เธอคือคนเดียวกับที่ทำร้ายหัวใจลูกชายเขาเมื่อหลายปีก่อน “รินกลับมาจากต่างประเทศนานแล้วแต่ไม่กล้ามาหาคุณแม่เพราะยังไม่รู้ว่าเปรมจะหายโกรธรินแล้วหรือยังค่ะ” คนพูดพยายามทำดวงตาให้ดูเศร้าเหมือนว่าเธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำลงไปในอดีตแต่มันก็ไม่ทำให้ความรู้สึกของอมราดีขึ้นเพราะเธอรู้จักผู้หญิงตรงหน้าดีว่ามารยาร้อยเล่มเกวียนแค่ไหน “สิ่งที่เธอทำมันสร้างความเจ็บปวดให้กับเปรมธวัชอยู่มากแต่ไม่ต้องกลัวตอนนี้เขาลืมเธอและทุกอย่างที่เธอทำหมดแล้ว คนเราไม่มีใครจมอยู่กับเรื่องไม่ดีหรือคนไม่ดีได้นานหรอก” ความเป็นแม่ถึงแม้จะ
ตอนที่ 7คนรักเขากลับมา“นั่งคุยกับแม่ก่อน” อมรานั่งรอดักเจอลูกชายอยู่จนดึก เธอมีเรื่องที่อยากจะคุยกับเปรมธวัชในวันนี้กลัวว่าถ้าพูดช้าเกินไปอาจจะไม่ทัน “เที่ยงคืนกว่าแล้วคุณแม่ยังนั่งรอแบบนี้ต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่เลย” ลูกชายทำท่าทางออดอ้อนเพราะเขารู้อยู่แล้วว่ามารดากำลังจะพูดเรื่องของแฟนเก่าที่เดินทางมาหาเขาในวันนี้ “ลูกไปกินข้าวกับรินมาใช่ไหม” “ใช่ครับเราไม่ได้เจอกันนานก็เลยมีเรื่องคุยกันเยอะแล้วผมก็ขับรถไปส่งเธอที่บ้านก็เลยกลับดึกหน่อย” เปรมธวัชพยายามจะอธิบายว่าสาเหตุที่เขากลับมาถึงบ้านจนเที่ยงคืนไม่ได้เถลไถลที่ไหนแค่เพียงมีเรื่องคุยกันนานและด้วยความเป็นห่วงเขาจึงขับรถไปส่งเธอที่บ้าน “ผู้หญิงคนนั้นเขากลับมาหาลูกเพื่ออะไรกันอย่าบอกนะว่าแค่กลับมาในฐานะเพื่อนที่คิดถึงเพราะแม่จะไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด” หญิงสูงวัยประสบการณ์ในชีวิตของเธอมีมากจนสามารถเดาผู้หญิงอย่างรินรดาได้ออกการกลับมาของผู้หญิงคนนี้ต้องการมากกว่าความเป็นเพื่อนแน่นอน “คุณแม่คิดมากไป ผมกับรินเราเคยเป็นเพื่อนเก่ากันมาก่อนถึงแม้จะเลิกไปแล้วแต่เรายั
ตอนที่ 8เหนี่ยวรั้งใจ2 เดือนผ่านไป “เปรมไปส่งรินที่คอนโดนะ” สาวสวยผิวขาวสองแขนยาวกอดคอชายหนุ่มคนรักเก่าของเธอจนใบหน้าของทั้งคู่แทบจะแนบชิดติดกัน “ทำไมถึงไม่กลับบ้าน” เปรมธวัชถามด้วยความแปลกใจเพราะตั้งแต่รินรดากับมาหาเขาทั้งคู่ออกไปกินข้าวเย็นด้วยกันตลอดแล้วสุดท้ายเขาก็จะขับรถไปส่งเธอที่บ้านแต่วันนี้เธอกลับร้องขอให้เขาไปส่งเธอที่คอนโดแทน “วันนี้รินเมาแล้วไม่อยากกลับบ้านเดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่จะว่าเอา เปรมก็เมาเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ” วันนี้ไม่ใช่แค่เพียงกินอาหารเย็นด้วยกันแต่เป็นการนั่งดื่มด้วยจึงทำให้เมาทั้งคู่ถึงแม้จะไม่มากนักแต่ก็เรียกได้ว่าความรู้สึกร้อนๆหนาวๆมันเริ่มแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจและร่างกายของคนที่เคยเป็นถ่านไฟเก่าของกันและกัน เปรมธวัชเป็นอันต้องยอมแพ้เขาเดินประคองหญิงสาวขึ้นไปส่งถึงในห้องนอนที่คอนโดเขาตั้งใจว่าส่งเธอเข้านอนเสร็จก็จะรีบกลับบ้านทันทีแต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเมื่ออีกฝ่ายพยายามใช้มารยาทุกอย่างรั้งให้เขาอยู่เพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่เคยมีให้กันเมื่อหลายปีที่ผ่านมา “อย่าทำแบบนี
ตอนที่ 9ตัวปลอมต้องยอมไป“ฉันจะยังไม่บอกเปรมตามคำขอของเธอนะแต่งถ้าภายในสัปดาห์นี้เธอยังไม่บอกเขาฉันคงต้องขอเป็นคนบอกเองแล้วแหละเพราะไม่อยากให้ทุกอย่างมันสายเกินไป” อมรายอมรับปากลูกสะใภ้คิดว่าเรื่องแบบนี้ภรรยาคงอยากจะบอกสามีด้วยตัวเองแต่ถ้ามินตราปล่อยให้ทุกอย่างนานไปเธอในฐานะที่เป็นแม่ก็คงต้องบอกเรื่องนี้ด้วยตัวเอง คืนนี้เป็นค่ำคืนที่หัวใจของคุณแม่คนใหม่อ่อนแออย่างถึงที่สุดเธอตั้งใจที่จะปล่อยตัวเองให้ร้องไห้จนน้ำตาหมดไปจากร่างกายและวันพรุ่งนี้เธอจะเป็นคนใหม่เธอจะต้องเข้มแข็งให้มากกว่าเดิมเพราะตอนนี้ไม่ได้มีเพียงเธอแค่ชีวิตเดียว “หนูเป็นลูกแม่นะ” มือเล็กลูบลงไปที่ท้องส่งผ่านความอบอุ่นและความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายในหัวใจให้กับสายเลือดของตัวเองได้รับรู้ มินตราชักเริ่มไม่แน่ใจในตัวเองเหมือนกันว่าเธอจะยอมยกลูกให้กับเปรมธวัชหรือไม่เพราะในสัญญาทารกที่ถือกำเนิดขึ้นจะเป็นสิทธิ์ขาดของเขาคนเดียวและเธอก็เซ็นยินยอมไปแล้วแต่เมื่อวันนี้มาถึงหัวใจของเธอมันรักเกินกว่าจะยอมยกลูกให้ใคร นาฬิกาบอกเวลาใกล้จะเที่ยงคืนแปรมธวัชยังคงไม่กลับมาแต่วันนี้มินตราตั้งใจว่าเธ
ตอนที่ 10กว่าจะรู้“คุณแม่ครับมิ้นไปไหน” วันนี้เป็นวันแรกที่เปรมธวัชกลับมาทันกินข้าวเย็นหลังจากที่ 2 เดือนที่ผ่านเขาจะกลับมาถึงบ้านก็หลังเที่ยงคืนเท่านั้น “พ่อให้มิ้นกับยุพาไปจากที่นี่แล้ว” ธานินทร์ตอบด้วยท่าทางไม่สนใจยังคงก้มหน้าก้มตากิน ข้าวคลุกกะปิอาหารมื้อสุดท้ายที่ครอบครัวของมินตราได้ทำไว้ให้คนที่บ้านหลังนี้ได้กิน “คุณพ่อหมายความว่าอย่างไรครับไปจากที่นี่” เปรมธวัชวางช้อนในมือเขาถามบิดาด้วยเสียงที่สูงและดูมีอารมณ์อยู่ในนั้นเพราะอย่างไรมินตราก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาการที่เธอจะไปไหนเขาควรจะต้องมีส่วนรู้ด้วย “ก็เปรมจะแต่งงานกับรินไม่ใช่หรือ แล้วจะให้มินตราอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรพ่อก็เลยให้เขาไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ยุพาเองก็ทำงานที่นี่มานานก็ถึงเวลาต้องปลดระวางไปใช้ชีวิตอิสระของเธอบ้างและทำไมจะต้องมาโมโหแบบนี้ในเมื่อลูกเลือกเองว่าจะแต่งงานกับรินแล้วจะเก็บมินตราไว้ทำไมอย่าเห็นแก่ตัวนักสิ” ชายหนุ่มเป็นอันต้องเลิกกินข้าวสองมือกอดอกมองสบตาทั้งพ่อและแม่ที่ดูเหมือนไม่มีใครจะอยู่ข้างเขาในเวลานี้ “มินตราเป็นผู้