เช้าวันต่อมา
แพรไหมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะว่ารู้สึกว่าหมอนข้างที่เธอกอดอยู่นั้นมันทำไมแข็งแปลกๆเมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าไอ้ที่เธอกอดอยู่มันไม่ใช่หมอนข้างกลับเป็นชายหนุ่มที่มาหาเธอเมื่อวานแทนหญิงสาวไม่รู้ว่าเขามานอนที่ตียงของเธอตั้งแต่เมื่อไรทำเอาทำเอาเธอแทบจะกรี๊ดแต่ก็ต้องเอามือปิดปากเอาไว้แล้วค่อยๆเขยิบออกห่างจากตัวชายหนุ่ม
แพรไหมเริ่มคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานว่าเขามานอนห้องเธอได้ยังไงเธอจำได้ว่าเมื่อวานเขานั่งทำแผลให้เธออยู่หลังจากนั้นภาพก็ตัดไปตื่นมาอีกทีก็เจอเขานอนอยู่ตรงนี้แล้วเธอพยายามคิดว่าเป็นเธอเองเหรอที่ชวนเขามานอนด้วยแต่เอ…ออ.ก็ไม่น่าจะใช่
พลันสายตาของเธอก็หันไปมองหน้าของชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ตอนนี้พอดีหญิงสาวคิดว่าตอนที่เขาหลับก็หล่อดีเหมือนกันแฮะเธอค่อยๆลองใช้มือน้อยๆของเธอยื่นไปจับเคราของเขาเล่นเบาๆพร้อมยื่นหน้าเข้าไปมองเขาใกล้ๆ
ตอนนี้เธอรู้สึกว่าใจของเธอเต้นแรงแปลกๆหน้าที่ซีดเซียวจากการตื่นนอนก็เริ่มมีสีแดงระเรื่อยิ่งเธอมองเขาใกล้ๆความหล่อของเขานี่ชนะพวกนายแบบหน้าปกนิตยาสารดังๆขาดเลยนะเนี่ยยย
“จะลักหลับผมเหรอ”
จู่ๆชายหนุ่มก็ลืมตาพรึ่บขึ้นมาทำเอาหญิงสาวผละออกแทบไม่ทันชายหนุ่มต้องขำให้กับอาการตกใจแรงของเธอที่เขาแค่แกล้งเธอนิดเดียวเองอันที่จริงเขาตื่นก่อนเธอตั้งนานแล้วแต่เห็นว่ายังเช้าอยู่แล้วหญิงสาวก็ยังกอดเขาไม่ปล่อยด้วยเลยอยากจะให้เวลาที่ดีแบบนี้อยู่เขานานๆเลยนอนต่อแต่ก็ไม่ได้หลับสนิทเขารู้ตัวทุกอย่างว่าหญิงสาวตื่นขึ้นมาทำอะไรแต่แค่อยากแกล้งเธอเล่นเท่านั้น
“ปะ...ป่าวซะหน่อยแล้วคุณมานอนที่ห้องแพรได้ไงเนี่ยบ้านตัวเองมีทำไมไม่กลับเล่าห้ะ”
หญิงสาวตีเนียนแกล้งโวยวายกลบอาการเขิน
“ผมไม่อยากให้คุณอยู่คนเดียวผมเป็นห่วง”
คำว่าเป็นห่วงจากปากชายหนุ่มทำเอาหญิงสาวรู้สึกดีแปลกๆแต่ก็ต้องรีบสลัดความรู้สึกนี้ออกจากหัวและบอกตัวเองว่าเขาก็แค่ผู้ชายที่ทำร้ายเธอวันนั้นอย่าหวั่นไหวกับคำพูดและการกระทำดีๆและหน้าหล่อๆของเขาเป็นอันขาด
“คุณไม่ต้องห่วงหรอกแพรอยู่ได้เอ่อ…แล้วคุณก็กลับไปได้แล้วเรื่องค่ารักษายายของแพรเดี๋ยวแพรจะรีบหาเงินมาคืนคุณให้เร็วที่สุด.....ละ...แล้วต่อไปนี้เราไม่ต้องเจอกันก็ได้ติดต่อกันทางมือถือก็พอเนอะ”
หญิงสาวหันมาพูดกับชายหนุ่มพร้อมยิ้มแหยๆเธอรู้สึกขอบคุณเขามากที่ช่วยเรื่องยายของเธอแต่การกระทำเขาครั้งนั้นเธอไม่อาจทำใจลืมมันได้จริงๆเฮ้ออออใช้วิธีติดต่อกันทางมือถือแหละดีแล้ว
“เฮ้อ...เมื่อวานก็ไล่วันนี้ก็ไล่อยากให้ผมไปจากคุณมากเลยว่างั้น”
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความคิดของหญิงสาวนี่เธอไม่เห็นความรู้สึกดีๆที่เขามีต่อเธอบ้างเลยหรือไง
“แพรไม่ได้ไล่ค่ะ...ก้อออออ..แค่บอกว่าเราไม่ต้องเจอกันอีกติดต่อกันทางมือถือก็พอ”
หญิงสาวเริ่มมีน้ำเสียงที่อ่อนลงและพูดโดยที่ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่ม
“ก็นี่แหละคุณเค้าเรียกว่าไล่”
ชายหนุ่มแทบกุมขมับเธอยังกล้าเถียงเขาข้างๆคูๆอีก
“ถ้าผมจะบอกว่าผมชอบคุณอยากรับผิดชอบคุณจะเชื่อไหม”
ชายหนุ่มลองตัดสินใจบอกความในใจของเขาไปดูซิเธอจะพูดว่ายังไงยังจะกล้าไล่เขาอีกหรือป่าว
“คะ..คุณชอบแพร....เอ่อ...ถ้าคุณพูดเพราะรู้สึกผิดเรื่องวันนั้นไม่ต้องก็ได้ค่ะแพรเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดแพรจะพยายามลืมมันให้เร็วที่สุดแต่ทางเดียวที่แพรคิดว่าจะลืมมันได้....คือ...คือ..เราไม่ต้องเจอกันอีกจะดีที่สุดค่ะ”
แพรไหมคิดว่าที่ชายหนุ่มพูดออกมาแบบนั้นเพราะเขาอาจจะรู้สึกผิดที่ทำร้ายเธอมันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเจอกันไม่กี่ครั้งจะมาบอกชอบเธอยังไงเธอก็ไม่เชื่อเขาเด็ดขาด
“หึ”
ภูผาสบถขำออกมาให้กับความคิดของเธอดูคิดเข้ายัยบ๊องเอ๊ยไม่นึกเสียดายความบริสุทธิ์ของเธอบ้างหรือไงแถมปฏิเสธคนอย่างเขาไม่เหลือเยื่อใย..นี่ใคร ภูผา แอนเดอสันเนี่ยนะที่เธอกล้าปฎิเสธ...เธอจะคิดยังไงก็แล้วแต่เธอเลยแต่เขาจะไม่ยอมเลิกยุ่งกับเธอเด็ดขาด
“เอ่อ…ว่าแต่แพรยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยค่ะคุณชื่ออะไรเหรอคะเวลาแพรติดต่อคุณจะได้เรียกถูกค่ะ”
ชายหนุ่มรีบนั่งเสยผมเมื่อได้ยินคำถามของหญิงสาวที่ส่งสายตาใสซื่อมาถามเขาพึ่งคิดจะถามชื่อกันหรือไงนี่เขากำลังชอบผู้หญิงแบบไหนกันนะ
“ผมชื่อ ภูผา แอนเดอสัน เรียกว่าภูเฉยๆก็ได้ผมอายุ 36 ปี”
ชายหนุ่มหันมาจ้องหน้าพร้อมบอกหญิงสาวทั้งชื่อและอายุของเขาเธอจะได้รู้เอาไว้กว่าจะถามชื่อเขาออกมาได้เขานึกว่าจะเรียกเขาชื่อคุณไปตลอดเสียอีก
“ค่ะคุณภู...อืม..ถ้าคุณแก่กว่านี้อีกไม่กี่ปีคุณเป็นพ่อแพรได้เลยนะคะเนี่ย..แฮ่ะๆ..”
หญิงสาวพูดสิ่งที่เธอคิดพร้อมหัวเราะออกมาให้เขาเบาๆแต่เมื่อเห็นสีหน้าของชายหนุ่มไม่ตลกด้วยเธอจึงหุบยิ้มแล้วหันหลบหน้าเขาแทบไม่ทัน
“อืม”
ชายหนุ่มถึงกับต้องส่งสายตาพิฆาตออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของเธอดูซิช่างคิดได้ในสมองเขาตอนนี้คิดว่าเธอหลอกด่าเขาหรือเธอคิดจริงกันแน่
“เอ่อ…แล้วคุณภูจะกลับตอนไหนคะ..อ้อ..แพรขอเบอคุณไว้ด้วยค่ะเวลาที่แพรจะใช้หนี้คุณเดี๋ยวแพรโทรหา”
หญิงสาวรีบพูดขอเบอติดต่อเขาไว้กลัวว่าเธอจะลืมเวลาที่เธอมีเงินใช้หนี้เขาจะได้โทรหา
“ไม่ต้องหรอกคุณผมถือซะว่าผมไถ่โทษเรื่องที่ผมทำกับคุณวันนั้นแล้วกัน”
ชายหนุ่มคิดว่าถ้าเขาไม่พูดแบบนี้เธอก็ยังยืนยันที่จะใช้หนี้เขาอยู่ดีเลยใช้เหตุผลวันนั้นเป็นข้ออ้างก็แล้วกันแต่เมื่อพูดเสร็จนึกอยากตีปากตัวเองยิ่งนักที่ทำให้หญิงสาวเริ่มหน้าเสียเพราะคำพูดของเขาอีกจนได้
“เอ่อเรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกันค่ะงั้นถ้าคุณไม่อยากให้แพรใช้หนี้คุณแพรก็ขอตอบแทนคุณหนึ่งเรื่องแล้วกันค่ะถ้าคุณมีอะไรให้แพรช่วยแพรจะยอมช่วยคุณหนึ่งเรื่องโอเคไหมคะ”
ที่หญิงสาวพูดออกไปแบบนั้นเพราะไม่อยากเอาเปรียบคนที่ช่วยเหลือเธอสักเท่าไรในเมื่อเขาเองยืนยันที่จะไม่รับเงินคืนเธอก็ให้ข้อเสนอนี้แก่เขาก็แล้วกันแค่หนึ่งเรื่องเท่านั้นเธอจะได้ไม่ต้องรู้สึกติดหนี้บุญคุณเขาอีก
“อืม..อย่างนั้นก็ได้”
ชายหนุ่มคิดว่าก็ดีเหมือนกันที่เธอให้ข้อเสนอนี้มาวันนี้เขาเองก็คงต้องกลับไปก่อนเพื่อที่จะหาวิธีเข้าหาเธอใหม่เพราะขืนถ้าคุยกับเธอตอนนี้ว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอหญิงสาวคงไม่เชื่อเขาเป็นแน่เขาคงต้องใช้เวลาพิสูจน์ให้เธอเห็นว่าเขาไม่ใช่แค่รู้สึกผิดแต่เขาชอบเธอจริงๆต่างหากไม่เช่นนั้นคงไม่ตามเธอมาจนถึงที่นี่หรอก
บ้าน แอนเดอสัน“หายไปไหนมาทั้งคืนตาภู”“คุณย่า….มาตั้งแต่เมื่อไรครับ”ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านมาก็ได้ยินเสียงคนเป็นย่าของเขาบ่นขึ้นทันทีทำเอาชายหนุ่มถึงกับหน้าตาตื่นเมื่อเห็นคนเป็นย่าของเขากลับมาคงจะไม่พ้นเรื่องจับคู่ให้เขาอีกสินะความพยายามของคุณย่าเขาไม่มีลดละเลยจริงๆรู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถบังคับเขาได้ก็ยังไม่ยอมเลิกคิดแผนจับคู่ให้เขาซะที“ยังไม่ได้ตอบคำถามย่าเลยว่าหายไปไหนมาอย่าบอกว่าไปค้างคืนกับพวกแม่นางแบบพวกนั้นมาอีกล่ะ”เอมมิลี่เค้นเอาคำตอบจากหลานชายตัวดีของเธอว่าหายไปไหนมาทั้งคืนเพราะเธอบินกลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ยักเห็นหลานชายอยู่บ้านเธอรอจนดึกดื่นก็ไม่เห็นกลับครั้นถามเอาคำตอบกับชาร์ลรายนั้นก็บอกกับเธอว่ารอถามคุณชายเองจะดีกว่าเอมมิลี่คิดว่ายังไงก็คงจะไม่ได้คำตอบจากชาร์ลอยู่ดีจึงไม่ได้ซักไซร้อะไรมากเพราะคิดว่าทั้งสองเจ้าเล่ห์พอกันทั้งเจ้านายและลูกน้องมีหวังคำตอบที่ได้ก็เป็นคำตอบที่คลุมเครือทำให้เธอไม่เข้าใจอยู่ดี“ป่าวซะหน่อยครับคุณย่ามาๆผมหอมหน่อยไม่เจอกันตั้งนานคิดถึงจังเลยครับ”ชายหนุ่มแสร้งเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่ได้อยากจะตอบคำถามผู้เป็นย่ามากนัก“ไม่ต้องมาทำเป็นรักย่าเล
21.00 นกุกกักๆ เพล้งงงงง“เสียงอะไรนะ”แพรไหมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนของเธอเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆก็เห็นท่าว่าไม่ดีหญิงสาวจึงไปหยิบไม้เบสบอลที่เธอแอบซื้อเก็บไว้ในตู้แล้วเดินย่องออกมาด้านนอกเพื่อดูว่าเสียงที่เธอได้ยินนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ถ้าเป็นโจรเธอก็พร้อมจะสู้ตายเหมือนกัน“หยุดนะไอ้ขี้ขโมย….นี่แน่ะๆๆๆๆ”ตุบ..ตุบหญิงสาวเห็นเงาตะคุ่มๆที่ชั้นล่างของบ้านเธอก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นขโมยแน่ๆหนอยรู้จักแพรไหมน้อยไปคนอย่างเธอไม่มีวันให้ใครมาขโมยของบ้านเธอได้หรอกของรักของหวงของเธอทั้งนั้นเธอจะรักษาเท่าชีวิตเลยคอยดูเมื่อหญิงสาวเดินมาใกล้เงานั้นก็ใช้ไม้เบสบอลที่ถืออยู่ในมือฟาดลงที่คนที่เธอคิดว่าเป็นขโมยอย่างไม่ยั้งมือ“โอ้ยๆคุณนี่ผมเอง”“คุณภู”เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มร้องโอดโอยเธอกพอจะเดาออกว่าเป็นเสียงใครเลยยั้งมือการฟาดไม้เบสบอลไปที่คนที่ตัวเธอเองคิดว่าเป็นโจรทันที“โอ้ยยยเบาๆคุณผมเจ็บ”“สมน้ำหน้าอยากเล่นอะไรพิเรนเอง”เมื่อหญิงสาวรู้ว่าคนที่แอบย่องเข้าบ้านเธอเป็นใครเธอจึงเดินไปเปิดไฟเพื่อจะได้คุยกับชายหนุ่มให้รู้เรื่องว่าเขาเข้ามาทำอะไรแต่เมื่อแสงไฟสว่างขึ้นหญิงสาวเห็นว่าหัวขอ
เช้าวันต่อมาRrrrrrrrrrr“เสร็จหรือยังคุณผมรออยู่ข้างล่าง”“แพรกำลังจะลงไปค่ะ”หญิงสาวรีบหยิบกระเป๋าแล้วเตรียมตัวจะลงไปข้างล่างเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะรอนาน“ไปกันเถอะค่ะคุณภูแพรพร้อมแล้วค่ะ”ชายหนุ่มยืนมองชื่นชมความร่มรื่นที่หน้าบ้านของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงของเธอเรียกจากด้านหลังจึงรีบหันมาภาพตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มย้มกว้างออกมาอย่างง่ายดายเขาคิดไว้แล้วว่าชุดนี้ที่เขาเลือกเองกับมือต้องเข้ากับเธอแน่ๆวันนี้แพรไหมดูสวยสะกดสายตาเขาเอามากๆด้วยสีของชุดที่เข้ากับผิวของเธอและยังหุ่นที่มันพอดีกับชุดยิ่งดูยิ่งน่ากอดชะมัดไหนจะใบหน้าของเธอที่ปัดเครื่องสำอางเบาๆมันทำให้เช้านี้ของเขาช่างดูสดใสเสียจริง“ยืนยิ้มอยู่ทำไมคะคุณภูเราจะไปกันหรือยังคะ”เมื่อแพรไหมเห็นคนตรงหน้าเอาแต่ยืนยิ้มไม่พูดอะไรเสียทีเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้นจนเธอต้องเอ่ยปากถามว่าตกลงจะไปกันได้หรือยัง“เอ่อ..เดี๋ยวเรามานั่งตกลงกันก่อนโอเคไหม”ชายหนุ่มใช้สองมือจับบ่าหญิงสาวแล้วดันให้เธอนั่ลงที่โซฟาเพื่อคุยกับเขาก่อนขืนเธอไปเจอครอบครัวเขาแล้วไม่เตี๊ยมกันไว้ก่อนมีหวังย่าของเขาจับได้แน่จับผิดเก่งซะขนาดนั้น“คะ...ตกลง...ตกลงเรื่องอะไรคะ”“
“หนูชื่อแพรไหมใช่ไหมไหนมาใกล้ๆย่าหน่อยซิ”เอมิลี่นั่งมองหญิงสาวอยู่ที่หัวโต้ะรู้สึกอยากจะมองหน้าหญิงสาวตัวเล็กบอบบางที่ช่างกล้าหาญตรงนี้เสียจริงเมื่อหญิงสาวถูกผู้เป็นย่าของชายหนุ่มเรียกให้เธอเข้าไปหาใกล้ๆเธอจึงค่อยๆคลานเข่าเข้าไปหาด้วยความนอบน้อมตามที่ยายของเธอเคยสอนมาหญิงสาวยิ้มให้หญิงแก่ตรงหน้าอย่างจริงใจเธอรู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างดูอบอุ่นทำให้เธอนึกถึงยายของเธอที่นอนป่วยอยู่ตอนนี้เหลือเกิน“ไหนขอย่าดูหน้าใกล้ๆหน่อยซิ...น่ารักจังเลยนะเราอายุเท่าไรแล้วจ๊ะหนูแพร”“22เข้า23แล้วค่ะคุณย่า”แพรไหมรู้สึกหายใจทั้งท้องขึ้นมาทันทีที่คุณย่าของชายหนุ่มไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาบอกเลยสักนิดแถมยังดูเอ็นดูเธออีกด้วย“อย่างนั้นเรอะ...อืม..อย่าหาว่าย่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะแล้วท้องรึยังล่ะ”"พรวดดดดด......"ภูผากำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเมื่อได้ยินคนเป็นย่าถามคำถามว่าที่หลานสะใภ้ทำเอาเขาสำลักน้ำพุ่งพรวดออกมาทันควันเขาไม่คิดว่าคุณย่าของเขาจะถามตรงไปตรงมาแบบนี้เมื่อเขาหันไปดูหญิงสาวตอนนี้เธอก็ดูมีสีหน้าที่ตกใจไม่ต่างจากเขาเช่นกัน“คุณแม่คะ”พิมพาเมื่อได้ยินคนเป็นแม่สามีถามหญิงสาวตรงไปตรงมาแบบนั้นเธอเองก็ต้
บ้านแพรไหมหลังจากทานข้าวเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงขับรถพาหญิงสาวกลับบ้านมาเพื่อเก็บเสื้อผ้าไปอยู่ที่บ้านของเขาเพราะคนเป็นย่าของชายหนุ่มได้จัดการให้คนจัดห้องให้เธอเรียบร้อยแล้วดูเหมือนคนเป็นย่าจะจงใจให้อยู่ใกล้ห้องหลานชายเขาเหลือเกินงานนี้ถ้ายายเธอรู้จะเป็นยังไงเนี่ย“คุณภูคะวันนี้แพรขอนอนที่นี่คืนนึงได้ไหม...นะคะขอนอนทำใจคืนนึง”หญิงสาวทำหน้าขอร้องให้คนตรงหน้าเห็นใจเธอไม่กล้าปฏิเสธผู้ใหญ่ในบ้านของเขาเลยเปลี่ยนมาเป็นขอร้องเขาแทนเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้ช่วยเธอพูดเรื่องนี้แทนเธอ“อืมมม..ได้แต่ผมต้องอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่ด้วย”ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวคงจะอยากมีเวลาเก็บของเต็มที่เขาจึงไม่ปฏิเสธแต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องอยู่ด้วยเพราะเขาเองก็รู้สึกเป็นห่วงเธออยู่เหมือนกันไม่อยากให้อยู่คนเดียวและอีกอย่างที่บ้านเขาคงต้องว่าเขาแน่ๆถ้าเขาปล่อยให้เธออยู่คนเดียว“แพรอยู่ได้ค่ะคุณไม่ต้องห่วงหรอก....คุณกลับไปเถอะ”หญิงสาวรีบปฏิเสธความหวังดีของเขาที่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนทันทีเพราะให้เธออยู่คนเดียวยังรู้สึกว่าปลอดภัยกว่าอยู่กับเขาซะอีก“ไม่ต้องปฏิเสธเลยคุณ...ขืนผมกลับไปแล้วปล่อยให้คุณอยู่ที่นี่คนเดียวมีหวังคุณย่
“เลิกคิดแบบนั้นได้เลยค่ะคุณภูแพรไม่มีทางคบกับคุณได้หรอก....”แพรไหมพูดพร้อมตักข้าวเข้าปากและเบนหน้าหนีชายหนุ่มไปกดเปิดทีวีดูเธอรู้ตัวเองดีว่าเธอและเขายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ถึงแม้ว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรขนาดนั้นก็เถอะฐานะของเธอและเขาต่างกันแค่ไหนเธอรู้ดีและอีกอย่างไอ้ที่เขาทำดีกับเธอก็คงเป็นเรื่องที่เขารู้สึกผิดกับเธอมากกว่า“อ๋อ...อืมมม”ชายหนุ่มหน้าเสียเล็กน้อยจากที่เมื่อครู่ยังทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวอยู่เลยเขาคิดว่าเขาต้องทำยังไงเพื่อให้เธอเห็นว่าเขาจริงใจกับเธอไอ้ที่เธอพูดเมื่อครู่เธอจะรู้ตัวหรือป่าวว่าคำพูดของเธอบีบหัวใจเขาเเค่ไหนเมื่อทังสองทานข้าวเสร็จแล้วแพรไหมจึงให้ชายหนุ่มนอนที่ห้องรับแขกด้านล่างที่เธอเตรียมไว้ให้เมื่อจัดแจงเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงมานอนที่ห้องของเธอละไม่ลืมที่จะล็อคประตูเพราะเธอไม่ไว้ใจชายหนุ่มที่อยู่ข้างล่างสักเท่าไร“อะไรเนี่ยแพร....อย่าลืมสิว่าเขาเคยทำอะไรกับเราไว้...เลิกคิดๆๆๆๆๆๆๆ”เมื่อทิ้งตัวลงนอนหญิงสาวก็กลับนอนไม่หลับเมื่อนึกถึงเรื่องชายหนุ่มที่เข้ามาทำดีกับเธอแถมสถานการณ์ตอนนี้เธอยังคงต้องอยู่ใกล้ชิดเขาบ่อยๆด้วยเธอกลัวใจตัวเองเหลือเกินกลัวว่าจะแ
เช้าวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจภาพตรงหน้าเพราะตอนนี้หน้าของเธออยู่ห่างจากชายหนุ่มไม่ถึงคืบเมื่อเธอได้มองเขาใกล้ๆขนาดนี้อีกครั้งทำให้เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆจนเธอต้องเอามือกุมหัวใจตัวเองพร้อมรีบผละออกแล้วเดินออกมานอกห้องนั้นอย่างรวดเร็วก่อนที่ชายหนุ่มจะตื่นขึ้นมา08.00 น.“เก็บของเสร็จแล้วเหรอคุณเมื่อเช้าตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกผม”เมื่อเห็นหญิงสาวเดินถือกระเป๋าลงมาชายหนุ่มจึงทักเธอขึ้นแต่หญิงสาวกลับทำเหมือนเขาเป็นอากาศที่ลอยอยู่ซะงั้นสงสัยคงจะงอนเขาอยู่เป็นแน่“ยังโกรธผมอยู่เหรอคุณ...ผมขอโทษ..ก็ผมกลัวนี่นา”ชายหน่มยังแถใช้มุขกลัวผีไม่เลิก“เอาเป็นว่าผมรู้ว่าคุณโกรธแต่ตอนนี้เรามาสงบศึกกันก่อนดีกว่าเพราะว่าวันนี้เราต้องเล่นบทเป็นคู่รักกันคุณอย่าลืมนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินเข้าไปช่วยหญิงสาวถือของมาที่รถ“อืมม...แพรไม่ลืมหรอกค่ะว่าต่อหน้าครอบครัวของคุณภูแพรต้องทำตัวแบบไหน”หยิงสาวพูดพร้อมทำหน้างอเธอเดินผ่านหน้าชายหนุ่มแล้วเปิดประตูไปนั่งรอเขาบนรถหน้าตาเฉยทำเอาชายหนุ่มต้องส่ายหัวเบาๆให้กับอาการพยศของเธอบ้านแอนเดอสัน“เก็บของมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมหนูแพร”พิมพา
“ใช่ฉันเองแล้วนี่ก็หลานสะใภ้ฉัน”เอมิลี่ยืนกุมมือแพรไหมแล้วป่าวประกาศให้เธอได้รู้ว่าคนที่หญิงสาวพึ่งดูถูกคือหลานสะใภ้ของเธอเอง“ไหนคุณท่านบอกว่าอยากได้เพนนีไปเป็นหลานสะใภ้ไงคะทำไมถึงเลือกยัยเฉิ่มคนนี้แทนล่ะคะ”เมื่อได้ยินหญิงชราแนะนำตัวหญิงสาวที่เธอพึ่งดูถูกไปหมาดๆว่าเป็นหลานสะใภ้ก็เท่ากับหักหน้าเธอทำให้เธอเริ่มอารมณ์ขึ้นในเมื่อไม่ไว้หน้าเธอเธอเองก็จะไม่ไว้หน้าใครเหมือนกัน“ฉันไม่ได้เป็นคนเลือกเองแต่หลานชายฉันเค้าเลือกแล้วเค้าก็รักของเค้ามากด้วย”เอมิลี่พูดเสียงดังฟังชัดและหวังว่าคนตรงหน้าจะเข้าใจที่เธอพูดเธอรู้สึกไม่ชอบใจอย่างมากที่หญิงสาวตรงหน้ามาแผดเสียงและถลึงตาใส่เธอ“นังนี่เหรอคะไม่มีอะไรที่เทียบเพนนีได้สักนิดแต่งตัวก็เฉิ่มๆเชยๆ”เพนนียังไม่หยุดที่จะดูถูกหญิงสาวในเมื่อเธอไม่ได้สิ่งที่ต้องการเธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงใจใครอีกแล้ว“ก็ยังดีกว่าแต่งตัวดูดีแต่เพราะใช้เงินจากการกินน้ำใต้ศอกคนอื่นหรอกนะ”เอมิลี่ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้หญิงสาวพร้อมเดินออกไปจากร้านอย่างผู้ชนะเธอรู้สึกว่าเพนนีไม่มีสัมมาคารวะเอาเสียเลยนี่ถ้าไม่เห็นแก่พ่อของเธอเอมิลี่ทำมากกว่าแค่ค่อนขอดเธอแน่“คุณย่านี่สุดย