“หนูชื่อแพรไหมใช่ไหมไหนมาใกล้ๆย่าหน่อยซิ”
เอมิลี่นั่งมองหญิงสาวอยู่ที่หัวโต้ะรู้สึกอยากจะมองหน้าหญิงสาวตัวเล็กบอบบางที่ช่างกล้าหาญตรงนี้เสียจริง
เมื่อหญิงสาวถูกผู้เป็นย่าของชายหนุ่มเรียกให้เธอเข้าไปหาใกล้ๆเธอจึงค่อยๆคลานเข่าเข้าไปหาด้วยความนอบน้อมตามที่ยายของเธอเคยสอนมาหญิงสาวยิ้มให้หญิงแก่ตรงหน้าอย่างจริงใจเธอรู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างดูอบอุ่นทำให้เธอนึกถึงยายของเธอที่นอนป่วยอยู่ตอนนี้เหลือเกิน
“ไหนขอย่าดูหน้าใกล้ๆหน่อยซิ...น่ารักจังเลยนะเราอายุเท่าไรแล้วจ๊ะหนูแพร”
“22เข้า23แล้วค่ะคุณย่า”
แพรไหมรู้สึกหายใจทั้งท้องขึ้นมาทันทีที่คุณย่าของชายหนุ่มไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาบอกเลยสักนิดแถมยังดูเอ็นดูเธออีกด้วย
“อย่างนั้นเรอะ...อืม..อย่าหาว่าย่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะแล้วท้องรึยังล่ะ”
"พรวดดดดด......"
ภูผากำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเมื่อได้ยินคนเป็นย่าถามคำถามว่าที่หลานสะใภ้ทำเอาเขาสำลักน้ำพุ่งพรวดออกมาทันควันเขาไม่คิดว่าคุณย่าของเขาจะถามตรงไปตรงมาแบบนี้เมื่อเขาหันไปดูหญิงสาวตอนนี้เธอก็ดูมีสีหน้าที่ตกใจไม่ต่างจากเขาเช่นกัน
“คุณแม่คะ”
พิมพาเมื่อได้ยินคนเป็นแม่สามีถามหญิงสาวตรงไปตรงมาแบบนั้นเธอเองก็ต้องรีบเข้าไปจับแขนของหญิงสูงวัยทันทีเป็นการร้องขอให้ถามคำถามที่เบาลงกว่านี้หน่อยเพราะดูจากหน้าหญิงสาวแล้วคงจะตกใจอยู่ไม่น้อย
“คริๆๆๆๆ..5555”
เพลงพิณนั่งกลั้นขำกับคำถามของคนเป็นย่าของเธอไม่คิดว่าคุณย่าของเธอจะเรียลได้ขนาดนี้ยิ่งเห็นหน้าพี่ชายของเขาที่ดูตกใจขนาดนั้นยิ่งตลกไปใหญ่
“คุณย่าครับผมพึ่งคบกันเองนะครับยังไม่ได้คิดเรื่องแต่งงานมีลูกด้วย”
เอมิลี่เห็นสีหน้าของหลานชายก็อดขำไม่ได้ที่เธอถามหญิงสาวแบบนั้นเพราะเธอรู้ว่าอะไรเป็นอะไรคิดว่าจะเล่นเกมส์ก็เล่นไปเธอก็ขอแจมด้วยละกันอยากจะเห็นสีหน้าคนที่ตัวเองคิดว่าเป็นผู้ชนะนักว่าจะมีทีท่าอย่างไรเมื่อเธอโพร่งคำถามแบบนี้ใส่แฟนหลอกๆขอหลานชาย
“ย่าเข้าใจนะว่าหนูแพรพึ่งคบกับตาภูแค่เดือนสองเดือนแต่ย่าก็เข้าใจย่าหน่อยนะว่าย่าอยากอุ้มเหลนแย่แล้วร้อยวันพันปีตาภูไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านก็มีแต่หนูแพรนี่แหละและหนูแพรก็คงจะเป็นคนที่ตาภูเลือกให้เป็นแม่ของลูกแล้วหละถ้าอย่างนั้นรีบแต่งงานมีเหลนให้ย่าไวๆเลยนะ”
เอมิลี่พูดไปยิ้มไปเธอรู้สึกเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้าอยู่เหมือนกันซึ่งเธอเองก็พอจะรู้ประวัติคร่าวๆอยู่บ้างเพราะคนอย่างเธอไม่ใช่ยายแก่คร่ำครึที่ไม่ทันหลานชายเธอเอก็ต้องจ้างสายสืบให้สืบเรื่องหลานชายของเธออยู่เหมือนกันว่าหลานชายของเธอกำลังเล่นอะไรอยู่จึงรู้ว่าหลานชายของเธอน่าจะอยากที่จะจริงจังกับสาวน้อยตรงหน้าของเธออยู่ไม่น้อยแต่ติดตรงเธอไม่อยากเล่นด้วยเอาเสียนี่ดูยังไงก็รู้ว่าหลานของเธอต้องใช้แผนไม่ดีบังคับเธอแน่นอน
และในเมื่อหลานชายของเธอเลือกที่จะเอาชนะเธอแบบนี้เธอก็จะขอตีเนียนแกล้งทำไม่รู้ร่วมด้วยทำให้แผนควงแฟนปลอมๆของหลานชายดำเนินไปด้วยดีและก็แอบหวังว่าหลานชายของเธอจะเอาชนะใจสาวน้อยตรงหน้านี้ได้เร็วๆละกันเธอคิดว่าเกมส์นี้เธอชนะขาดหลานชายไปเรียบร้อยแล้วแต่คนที่แพ้ยังไม่รู้ตัวก็เท่านั้นให้มันรู้กันไปว่าใครมันจะเกมส์ก่อนใคร
“เอ่อ...คือแพรคือ...ตอนนี้แพร”
หญิงสาวทำหน้าลำบากใจและยังคิดคำตอบที่จะตอบคนตรงหน้าไม่ได้เลยหันหน้าของเธอที่คิ้วกำลังขมวดชนกันมาหาชายหนุ่มเพื่อเป็นการขอความช่วยเหลือ
“คือแพรเธออยากจะทำงานอีกสักปีสองปีน่ะครับคุณย่าเรื่องนั้นค่อยว่ากันอีกที”
“ใช่ๆค่ะ”
แพรไหมถอนหายใจเฮือกใหญ่โล่งใจที่ชายหนุ่มช่วยเธอเอาไว้ทันตอนนี้เธอเริ่มรู้แล้วว่าที่ชายหนุ่มบอกว่าคุณย่าของเขาน่ากลัวนั้นน่ะมันน่ากลัวแบบไหนเมื่อกี้ใจเธอก็แทบจะเต้นหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว
“น้องแพรแล้วแผลดีขึ้นไหมจ๊ะ”
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะพี่เพลงอีกสองวันแพรน่าจะไปทำงานได้แล้วค่ะ”
หลังจากที่แพรไหมลุกขึ้นมานั่งที่โต้ะข้างชายหนุ่มทุกคนก็เริ่มนั่งทานอาหารกันไปคุยกันไปมีแต่หญิงสาวเท่านั้นแหละที่ทานอะไรไม่ค่อยลงเพราะว่าความรู้สึกผิดมันจุกแน่นอยู่ในอกเธอจึงนั่งทานกับข้าวอย่างละนิดอย่างละหน่อยเพื่อเป็นพิธีละเธอก็นั่งคุยกับเพลงพิณตามประสาสาวๆไปเรื่อยการได้คุยกับเพลงพิณทำให้ความรู้สึกอึดอัดของเธอลดลงอย่างมาก
“แล้วคุณยายสบายดีไหมจ๊ะพี่ว่าจะเข้าไปหาอยู่พอดีเลย”
“เอ่อ..ยายแพรเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ”
“ตายจริงทำไมไม่บอกพี่เลย”
เพลงพิณมีสีหน้าตกใจเมื่อรู้ว่าคุณยายของหญิงสาวเข้าโรงพยาบาล
“คือแพรไม่อยากรบกวนพี่เพลงน่ะค่ะ”
แพรไหมจำได้ว่าเพลงพิณเคยบอกว่าถ้ามีเรื่องให้ช่วยอะไรบอกได้ทันทีแต่เธอเองรู้สึกเกรงใจหญิงสาวที่พึ่งรู้จักกันถ้าจะขอร้องให้ช่วยเธอก็เกรงใจเธอจึงไม่ได้บอกเรื่องที่ยายของเธอเข้าโรงพยาบาลกับเพลงพิณแล้วอีกอย่างชายหนุ่มก็รับผิดชอบเป็นเจ้าของไข้ไปแล้วด้วย
“ไม่ต้องห่วงหรอกเพลงเรื่องคุณยายของแพรพี่ดูแลแล้ว”
เมื่อชายหนุ่มเห็นน้องสาวของเขาตั้งท่าเป็นห่วงจนออกนอกหน้าซะขนาดนั้นเขาจึงอกว่าเขาเป็นคนจัดการเรื่องนี้เองเธอจะได้สบายใจ
“แล้วแบบนี้หนูแพรก็อยู่คนเดียวสิจ๊ะอันตรายแย่เลย”
พิมพานึกเป็นห่วงหญิงสาวตัวเล็กๆที่อยู่บ้านคนเดียวมันคงอันตรายน่าดู
“แบบนั้นหนูแพรก็ย้ายมาอยู่ที่นี่ซะเลยสิจนกว่ายายหนูแพรจะหาย”
เอมิลี่เห็นว่าเรื่องนี้ค่อนข้างเข้าทางแผนของเธอที่จะให้หลานชายมีทายาทจึงบอกให้หญิงสาวมาอยู่ที่นี่ซะเลยเผื่อสัมพันธ์ของทั้งคู่จะดีขึ้นเธอก็จะได้มีเหลนอุ้มสมใจเสียที
“แต่ว่า.....”
“ไม่ต้องแต่หรอกจ๊ะหนูแพรยังไงๆอีกหน่อยเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ที่นี่จะปลอดภัยกว่านะ”
แพรไหมยังพูดไม่ทันจบคนเป็นย่าของชายหนุ่มก็พูดแทรกคะยั้นคะยอให้เธออยู่ที่นี่ทันที
“คุณ”
“อืม..ก็ดีนะที่รักอย่างน้อยอยู่ที่นี่ก็ปลอดภัยกว่าอยู่ที่บ้าน”
หญิงสาวใช้ปลายนิ้วดึงชายเสื้อชายหนุ่มเพื่อเป็นการร้องขอให้ช่วยเธออีกครั้งเพราะเธอเองไม่ได้อยากอยู่ที่นี่ยิ่งอยู่นานเธอยิ่งรู้สึกผิดแต่ชายหนุ่มกลับไปเสริมทัพคุณย่าของเขาเสียนี่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเธอโดนรุมเป็นหมาจนตรอกเข้าแล้วล่ะสิ
ชายหนุ่มรู้สึกรักคนเป็นย่าขึ้นมาทันทีที่คำสั่งของคุณย่าเขามันช่างเข้าทางเขาเสียจริง
“โอ้ยยยยย”
เมื่อหญิงสาวรู้สึกว่ายังไงเธอก็ปฏิเสธไม่ได้แล้วแต่ก็ขอทำอะไรระบายความโมโหชายหนุ่มหน่อยเถอะเธอจึงค่อยๆสอดมือไปบิดเอวของเขาให้ระบายอารมณ์หน่อยเถอะเจ้าเล่ห์ดีนัก
“เป็นอะไรคะพี่ชายยยย”
“ปะ...ป่าวววว”
เพลงพิณดูออกว่าพี่ชายเธอร้องเพราะอะไรเธอก็แกล้งถามไปงั้นเพราะตอนนี้เธอเริ่มจะรู้แล้วว่าอนาคตพี่ชายเธอต้องสยบให้สาวน้อยคนนี้แน่นอน
บ้านแพรไหมหลังจากทานข้าวเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงขับรถพาหญิงสาวกลับบ้านมาเพื่อเก็บเสื้อผ้าไปอยู่ที่บ้านของเขาเพราะคนเป็นย่าของชายหนุ่มได้จัดการให้คนจัดห้องให้เธอเรียบร้อยแล้วดูเหมือนคนเป็นย่าจะจงใจให้อยู่ใกล้ห้องหลานชายเขาเหลือเกินงานนี้ถ้ายายเธอรู้จะเป็นยังไงเนี่ย“คุณภูคะวันนี้แพรขอนอนที่นี่คืนนึงได้ไหม...นะคะขอนอนทำใจคืนนึง”หญิงสาวทำหน้าขอร้องให้คนตรงหน้าเห็นใจเธอไม่กล้าปฏิเสธผู้ใหญ่ในบ้านของเขาเลยเปลี่ยนมาเป็นขอร้องเขาแทนเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้ช่วยเธอพูดเรื่องนี้แทนเธอ“อืมมม..ได้แต่ผมต้องอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่ด้วย”ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวคงจะอยากมีเวลาเก็บของเต็มที่เขาจึงไม่ปฏิเสธแต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องอยู่ด้วยเพราะเขาเองก็รู้สึกเป็นห่วงเธออยู่เหมือนกันไม่อยากให้อยู่คนเดียวและอีกอย่างที่บ้านเขาคงต้องว่าเขาแน่ๆถ้าเขาปล่อยให้เธออยู่คนเดียว“แพรอยู่ได้ค่ะคุณไม่ต้องห่วงหรอก....คุณกลับไปเถอะ”หญิงสาวรีบปฏิเสธความหวังดีของเขาที่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนทันทีเพราะให้เธออยู่คนเดียวยังรู้สึกว่าปลอดภัยกว่าอยู่กับเขาซะอีก“ไม่ต้องปฏิเสธเลยคุณ...ขืนผมกลับไปแล้วปล่อยให้คุณอยู่ที่นี่คนเดียวมีหวังคุณย่
“เลิกคิดแบบนั้นได้เลยค่ะคุณภูแพรไม่มีทางคบกับคุณได้หรอก....”แพรไหมพูดพร้อมตักข้าวเข้าปากและเบนหน้าหนีชายหนุ่มไปกดเปิดทีวีดูเธอรู้ตัวเองดีว่าเธอและเขายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ถึงแม้ว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรขนาดนั้นก็เถอะฐานะของเธอและเขาต่างกันแค่ไหนเธอรู้ดีและอีกอย่างไอ้ที่เขาทำดีกับเธอก็คงเป็นเรื่องที่เขารู้สึกผิดกับเธอมากกว่า“อ๋อ...อืมมม”ชายหนุ่มหน้าเสียเล็กน้อยจากที่เมื่อครู่ยังทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวอยู่เลยเขาคิดว่าเขาต้องทำยังไงเพื่อให้เธอเห็นว่าเขาจริงใจกับเธอไอ้ที่เธอพูดเมื่อครู่เธอจะรู้ตัวหรือป่าวว่าคำพูดของเธอบีบหัวใจเขาเเค่ไหนเมื่อทังสองทานข้าวเสร็จแล้วแพรไหมจึงให้ชายหนุ่มนอนที่ห้องรับแขกด้านล่างที่เธอเตรียมไว้ให้เมื่อจัดแจงเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงมานอนที่ห้องของเธอละไม่ลืมที่จะล็อคประตูเพราะเธอไม่ไว้ใจชายหนุ่มที่อยู่ข้างล่างสักเท่าไร“อะไรเนี่ยแพร....อย่าลืมสิว่าเขาเคยทำอะไรกับเราไว้...เลิกคิดๆๆๆๆๆๆๆ”เมื่อทิ้งตัวลงนอนหญิงสาวก็กลับนอนไม่หลับเมื่อนึกถึงเรื่องชายหนุ่มที่เข้ามาทำดีกับเธอแถมสถานการณ์ตอนนี้เธอยังคงต้องอยู่ใกล้ชิดเขาบ่อยๆด้วยเธอกลัวใจตัวเองเหลือเกินกลัวว่าจะแ
เช้าวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจภาพตรงหน้าเพราะตอนนี้หน้าของเธออยู่ห่างจากชายหนุ่มไม่ถึงคืบเมื่อเธอได้มองเขาใกล้ๆขนาดนี้อีกครั้งทำให้เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆจนเธอต้องเอามือกุมหัวใจตัวเองพร้อมรีบผละออกแล้วเดินออกมานอกห้องนั้นอย่างรวดเร็วก่อนที่ชายหนุ่มจะตื่นขึ้นมา08.00 น.“เก็บของเสร็จแล้วเหรอคุณเมื่อเช้าตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกผม”เมื่อเห็นหญิงสาวเดินถือกระเป๋าลงมาชายหนุ่มจึงทักเธอขึ้นแต่หญิงสาวกลับทำเหมือนเขาเป็นอากาศที่ลอยอยู่ซะงั้นสงสัยคงจะงอนเขาอยู่เป็นแน่“ยังโกรธผมอยู่เหรอคุณ...ผมขอโทษ..ก็ผมกลัวนี่นา”ชายหน่มยังแถใช้มุขกลัวผีไม่เลิก“เอาเป็นว่าผมรู้ว่าคุณโกรธแต่ตอนนี้เรามาสงบศึกกันก่อนดีกว่าเพราะว่าวันนี้เราต้องเล่นบทเป็นคู่รักกันคุณอย่าลืมนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินเข้าไปช่วยหญิงสาวถือของมาที่รถ“อืมม...แพรไม่ลืมหรอกค่ะว่าต่อหน้าครอบครัวของคุณภูแพรต้องทำตัวแบบไหน”หยิงสาวพูดพร้อมทำหน้างอเธอเดินผ่านหน้าชายหนุ่มแล้วเปิดประตูไปนั่งรอเขาบนรถหน้าตาเฉยทำเอาชายหนุ่มต้องส่ายหัวเบาๆให้กับอาการพยศของเธอบ้านแอนเดอสัน“เก็บของมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมหนูแพร”พิมพา
“ใช่ฉันเองแล้วนี่ก็หลานสะใภ้ฉัน”เอมิลี่ยืนกุมมือแพรไหมแล้วป่าวประกาศให้เธอได้รู้ว่าคนที่หญิงสาวพึ่งดูถูกคือหลานสะใภ้ของเธอเอง“ไหนคุณท่านบอกว่าอยากได้เพนนีไปเป็นหลานสะใภ้ไงคะทำไมถึงเลือกยัยเฉิ่มคนนี้แทนล่ะคะ”เมื่อได้ยินหญิงชราแนะนำตัวหญิงสาวที่เธอพึ่งดูถูกไปหมาดๆว่าเป็นหลานสะใภ้ก็เท่ากับหักหน้าเธอทำให้เธอเริ่มอารมณ์ขึ้นในเมื่อไม่ไว้หน้าเธอเธอเองก็จะไม่ไว้หน้าใครเหมือนกัน“ฉันไม่ได้เป็นคนเลือกเองแต่หลานชายฉันเค้าเลือกแล้วเค้าก็รักของเค้ามากด้วย”เอมิลี่พูดเสียงดังฟังชัดและหวังว่าคนตรงหน้าจะเข้าใจที่เธอพูดเธอรู้สึกไม่ชอบใจอย่างมากที่หญิงสาวตรงหน้ามาแผดเสียงและถลึงตาใส่เธอ“นังนี่เหรอคะไม่มีอะไรที่เทียบเพนนีได้สักนิดแต่งตัวก็เฉิ่มๆเชยๆ”เพนนียังไม่หยุดที่จะดูถูกหญิงสาวในเมื่อเธอไม่ได้สิ่งที่ต้องการเธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงใจใครอีกแล้ว“ก็ยังดีกว่าแต่งตัวดูดีแต่เพราะใช้เงินจากการกินน้ำใต้ศอกคนอื่นหรอกนะ”เอมิลี่ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้หญิงสาวพร้อมเดินออกไปจากร้านอย่างผู้ชนะเธอรู้สึกว่าเพนนีไม่มีสัมมาคารวะเอาเสียเลยนี่ถ้าไม่เห็นแก่พ่อของเธอเอมิลี่ทำมากกว่าแค่ค่อนขอดเธอแน่“คุณย่านี่สุดย
บ้านแอนเดอสันเย็นของวันต่อมา“ว้าว….สวยจังเลยแพรพี่ว่าแล้วว่าแพรต้องใสชุดนี้สวยแน่ๆ”เพลงพิณยืนยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่พึ่งแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเธอคิดไม่ผิดที่เลือกชุดสีขาวนี้ให้กับเธอเพราะพออยู่บนตัวหญิงสาวแล้วมันช่างเข้ากับเธอมากที่สุดรวมทั้งทรงผมที่รวบตึงมัดหางม้าลุคนี้ทำให้แพรไหมดูลุคเป็นสาวที่มีรสนิยมมากขึ้น“ขอบคุณค่ะ”แพรไหมยืนยิ้มให้ตัวเองในกระจกเธอไม่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้หลังจากที่แต่งหน้าทำผมเสร็จเธอเองยังตะลึงคนในกระจกอยู่เลย“งั้นถ้าเรียบร้อยแล้วเราไปกันเถอะ…อ้อ…แล้วถ้ารู้สึกเวียนหัวหน้ามืดบอกพี่ได้นะ”“ค่ะ”เพลงพิณยังเป็นห่วงหญิงสาวกลัวว่าเธอจะมีอาการแบบเมื่อวานอีก“เรียบร้อยแล้วค่ะเราไปกันเถอะ”เพลงพิณพูดขึ้นหลังจากที่เห็นทุกคนยืนรออยู่ข้างล่างกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วภูผาหันมาตามเสียงของคนเป็นน้องสาวพลันสายตาก็เหลือบไปจ้องมองคนที่เดินตามหลังน้องสาวเขาทันทีภาพตรงหน้าช่างสะกดสายตาของเขาให้มองไปทางไหนไม่ได้วันนี้แพรไหมสวยแปลกตามากสวยมากจนเขาหยุดมองไม่ได้ทั้งชุดและการแต่งหน้าทำผมทำให้เธอดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“น้องแพรสวยใช่ไหมล่ะคะพี่ชาย”เมื่อเพลงพิณเห็นคนเป็น
“คุณซินดี้ครับตกลงงานวันนี้ผมไม่ต้องเดินแล้วใช่ไหมครับในเมื่อไม่มีนางแบบ”ดินแดนเดินตามหญิงวัยกลางคนมาถึงโซน VIP คราแรกว่าจะขอตัวกลับตั้งแต่อยู่ในห้องแต่งตัวแต่เมื่อรู้ว่านางแบบที่จะเดินด้วยมาไม่ได้เมื่อเขาจะเดินมาบอกซินดี้ว่าจะขอตัวกลับเธอกลับเดินดุ่มๆตรงมาที่นี่ซะงั้นทำให้เขาต้องเดินตามมาถึงที่นี่เขาเองไม่ได้อยากจะเดินแบบงานนี้สักเท่าไรแต่ติดตรงคุณแม่ของเขาเป็นคนขอร้องให้ช่วยเพราะเป็นงานการกุศลถ้าเป็นงานอย่างอื่นเขาไม่ยอมช่วยแน่เขาไม่ชอบสังคมแบบนี้เลยสักนิดชอบอยู่กับป่าอยู่กับเขามากกว่า“เอ่อใจเย็นๆค่ะคุณดินแดนอยู่ช่วยซินดี้ก่อนนะคะอย่าพึ่งหนีงานไปอีกคนเลยนะไม่งั้นงานพังแน่ๆเลย”ซินดี้อ้อนวอนขอร้องชายหนุ่มสุดชีวิตเพราะถ้าเขาไม่อยู่เดินอีกคนงานคงพังแน่ๆเพราะชายหนุ่มต้องเดินแบบคู่กับหญิงสาวในชุดฟินนาเล่น่ะสิแต่ตอนนี้เธอเองยังหาคนใส่ชุดฟินนาเล่ไม่ได้เลย“พี่ดิน…”แพรไหมนั่งจ้องหน้าชายหนุ่มอยู่สักครู่จึงทักชื่อเขาออกมาทำให้ชายหนุ่มที่ทำหน้าเซ็งอยู่เมื่อครู่เมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่เรียกก็ยิ้มหน้าบานออกมาทันที“น้องแพร…..พี่ไม่คิดว่าจะเจอน้องแพรที่นี่สวยขึ้นมากเลยนะเรา”เมื่อชายหนุ่มจำได้ว
“ทั้งสองคนแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ….ว้าวววว..น้องเพลงสวยมากเลยค่ะหุ่นดีมาก..งานหน้าต้องขอยืมตัวน้องเพลงมาเดินให้อีกแล้วล่ะค่ะ”ซินดี้เห็นหุ่นหญิงสาวก็อดชมไม่ได้ชุดนี้มันช่างเข้ากับเธอจริงๆไหนจะอกเป็นอกเอวเป็นเอวแล้วก็ขายาวสวยของเธอนั่นอีก“ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวขอบคุณคนที่ชมแบบเอียงอายนิดๆ“คิวต่อไปจะเป็นคิวของคุณดินแดนและน้องเพลงแล้วนะคะเตรียมตัวรอเลยค่ะ”ซินดี้เดินนำหน้าทั้งสองเพื่อที่จะไปรอหลังเวที“เอ่อ…พี่ซินดี้คะเพลงไม่เคยเดินนะคะ”เมื่ออยู่หลังเวทีหญิงสาวรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีพอลองมองออกไปที่หน้าเวทีเห็นคนที่นั่งรอดูอยู่เยอะเธอยิ่งประหม่า“ไม่ต้องกลัวค่ะเดินธรรมชาติเลยค่ะแบบคู่รักค่ะ”ซินดี้หันมาตอบหญิงสาวแบบยิ้มๆและหันไปดูความเรียบร้อยที่หน้างานต่อ“คะ…คู่รัก”หญิงสาวรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ซินดี้บอกไหนตอนพาเธอมาเปลี่ยนชุดไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ“ใช่คุณก็วันนี้เป็นตรีมคู่รักที่เดินกันเป็นคู่…อืมมมคุณก็คิดว่าคุณเดินกับแฟนละกันฟิวประมาณนั้น”ชายหนุ่มลองพูดเพื่อให้หญิงสาวคิดตามว่าเดินแบบวันนี้ฟิวมันจะประมาณไหน“มันฟิวไหนเล่าชั้นไม่เคยมีแฟนนี่”หญิงสาวตอบกลับชายหนุ่มทันควันพร้อมยืนกอ
“ดีสมน้ำหน้าปากสุนัขแบบนี้ให้อยู่เป็นโสดจนตายไปเลยใครได้เป็นแฟนคงรำคาญหูแย่เพราะชอบพูดไม่เข้าหูคนอื่นอยู่เรื่อยย”เพลงพิณพูดหน้าระรื่นนึกสะใจคนที่เคยปากไม่ดีใส่เธอ“เสร็จแล้วเราออกไปกันเถอะจะได้รีบกลับน้องแพรจะได้รีบไปพักผ่อนด้วย"“ค่ะพี่เพลง”ทั้งสองเดินออกมาจากห้องลองก็พบว่านางแบบคนอื่นๆทยอยกลับกันจนจะหมดแล้วเพลงพิณจึงชะเง้อหาซินดี้เพราะเธอจะคืนชุดแต่ไม่ยักจะเห็นว่าอยู่ที่ไหนห้องแต่งตัวนี่ก็กว้างเหลือเกิน“ว้ายน้องแพร”“แพร”จู่ๆแพรไหมก็เกิดวูบขึ้นมาอีกครั้งทำเอาเพลงพิณใจหายวาบดีที่ดินแดนเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเดินออกมาเห็นแพรไหมกำลังจะล้มลงไปพอดีเลยรีบกอดรับไว้ทัน“คุณดูน้องแพรไว้ก่อนนะเดี๋ยวฉันขอไปหายากับพวกยาดมมาให้น้องแพรก่อน”“โอเค”เพลงพิณรีบวิ่งออกมาหวังที่จะไปหายามาให้แพรไหมแต่สายตาเธอดันเหลือบไปเห็นยัยเพนนีที่ยืนอยู่หน้าห้องทำลับๆล่อๆแต่เธอก็ไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปถามอะไรเพราะว่าจะต้องรีบไปหายาให้แพรไหม“ไหวมัยแพรนี่เป็นแบบนี้บ่อยไหมพี่ว่าเราไปหาหมอดีกว่านะ”ดินแดนอุ้มแพรไหมนั่งที่โต้ะพร้อมประครองเธอไว้หลวมๆพร้อมยื่นหน้าเข้าไปถามอาการของหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าจับขมับอยู่“ไหวค่ะเดี