“เลิกคิดแบบนั้นได้เลยค่ะคุณภูแพรไม่มีทางคบกับคุณได้หรอก....”
แพรไหมพูดพร้อมตักข้าวเข้าปากและเบนหน้าหนีชายหนุ่มไปกดเปิดทีวีดูเธอรู้ตัวเองดีว่าเธอและเขายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ถึงแม้ว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรขนาดนั้นก็เถอะฐานะของเธอและเขาต่างกันแค่ไหนเธอรู้ดีและอีกอย่างไอ้ที่เขาทำดีกับเธอก็คงเป็นเรื่องที่เขารู้สึกผิดกับเธอมากกว่า
“อ๋อ...อืมมม”
ชายหนุ่มหน้าเสียเล็กน้อยจากที่เมื่อครู่ยังทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวอยู่เลยเขาคิดว่าเขาต้องทำยังไงเพื่อให้เธอเห็นว่าเขาจริงใจกับเธอไอ้ที่เธอพูดเมื่อครู่เธอจะรู้ตัวหรือป่าวว่าคำพูดของเธอบีบหัวใจเขาเเค่ไหน
เมื่อทังสองทานข้าวเสร็จแล้วแพรไหมจึงให้ชายหนุ่มนอนที่ห้องรับแขกด้านล่างที่เธอเตรียมไว้ให้เมื่อจัดแจงเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงมานอนที่ห้องของเธอละไม่ลืมที่จะล็อคประตูเพราะเธอไม่ไว้ใจชายหนุ่มที่อยู่ข้างล่างสักเท่าไร
“อะไรเนี่ยแพร....อย่าลืมสิว่าเขาเคยทำอะไรกับเราไว้...เลิกคิดๆๆๆๆๆๆๆ”
เมื่อทิ้งตัวลงนอนหญิงสาวก็กลับนอนไม่หลับเมื่อนึกถึงเรื่องชายหนุ่มที่เข้ามาทำดีกับเธอแถมสถานการณ์ตอนนี้เธอยังคงต้องอยู่ใกล้ชิดเขาบ่อยๆด้วยเธอกลัวใจตัวเองเหลือเกินกลัวว่าจะแอบมีใจให้เขาเพราะว่าเขาทำดีด้วยจึงภาวนาว่าให้แผนนี้จบลงโดยเร็วเธอจะได้ไม่ต้องเจอเขาอีก
ทางด้านชายหนุ่มเมื่ออาบน้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่ห้องรับแขกบ้านของเธอชายหนุ่มลืมไปเสียสนิทว่าเตียงที่นี่ไม่ได้นิ่มเหมือนกับที่บ้านของเขาการที่ทิ้งตัวลงไปแรงๆแบบนั้นมันทำให้เขาจุกอยู่ไม่น้อยนึกขำตัวเองนี่ถ้าไม่ใช่เพราะห่วงหญิงสาวมีหรือที่เขาจะต้องมาทนลำบากอยู่แบบนี้อ่างแช่น้ำแบบที่บ้านเขาก็ไม่มีแถมเครื่องฟอกอากาศยังไม่มีด้วยคนที่เจ้าระเบียบและต้องเป้ะทุกอย่างแบบเขาก็รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปมากเหมือนกันเมื่อได้มาเจอหญิงสาว
ก๊อกๆๆๆ
“คุณ”
ก๊อกๆๆๆๆ
“มีอะไรเหรอคะคุณภู”
เมื่อแพรไหมได้ยินที่ชายหนุ่มเคาะประตูเรียกเธอจึงเดินออกมาเปิดประตูดูว่าดึกดื่นป่านนี้เขามีธุระอะไรกับเธออีก
“คือๆๆ...ผมกลัวผีขอนอนด้วยคนนะ”
ชายหนุ่มพูดพร้อมแทรกตัวเดินเข้ามาด้านใน
“กลัวผี...คุณอย่ามาพูดเรื่องผีอะไรตอนนี้นะ”
หญิงสาวหน้าเสียทันทีเมื่อชายหนุ่มพูดถึงเรื่องผีเพราะสิ่งที่เธอกลัวที่สุดก็คือคำว่าผีนี่แหละถึงแม้จะไม่เคยเจอก็เถอะอยากจะตีปากเขาจริงๆที่มาพูดเรื่องบนี้กับเธอเวลานี้เนี่ย
“คือผมได้ยินเสียงแปลกๆแบบว่...”
ชายหนุ่มเห็นสีหน้าของเธอก็ดูออกว่าแผนที่เขาคิดไว้สำเร็จผู้หญิงอย่างเธอต้องกลัวผีแน่นอนอิๆๆๆๆขอบคุณในความฉลาดของเขาจริงๆเมื่อเห็นหญิงสาวยืนอึ้งอยู่เขาจึงแกล้งพูดเรื่องที่ทำให้เธอกลัวต่อ
“หยุดพูดเลยคุณภู”
หญิงสาวเห็นว่าเขากำลังจะพูดสิ่งที่ทำให้เธอกลัวเลยยกมือปิดปากของเขาไว้ไม่ให้พูดออกมา
“ผมขอนอนด้วยนะผมกลัวอะคุณ”
หญิงสาวมองอาการของชายหนุ่มแล้วเธอไม่คิดว่าเขาจะกลัวผีกับเค้าด้วยอย่างเธอกลัวมันก็ไม่น่าแปลกแถมยังมาขอนอนกับเธอด้วยเธอชั่งใจว่าระหว่างผีกับชายหนุ่มเธอกลัวชายหนุ่มมากกว่า
“ไม่อะคุณภูมันคงไม่มีอะไรหรอกมั้งคุณกลับไปนอนที่ห้องคุณเถอะ”
ตอนแรกชายหนุ่มคิดว่าเขาจะได้นอนที่นี่อยู่แล้วเชียวแต่ไหนเธอมาย้อนกลับว่าไม่น่ามีอะไรล่ะแบบนี้เสียแผนหมดแต่ไม่เป็นไรคนอย่างเขาเตรียมแผนสำรองไว้เสมอ
“คุณแต่ผมกลัวจริงๆนะงั้นเอางี้คุณไปดูที่ห้องข้างล่างเป็นเพื่อนผมถ้ามันไม่มีอะไรจริงๆผมจะไม่กวนคุณแล้ว”
“อืมม..งั้นก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวเดินลงตามชายหนุ่มมาอย่างกล้าๆกลัวๆภาวนาอย่าให้มีอะไรโผล่มาเลยไม่อย่างนั้นคืนนี้เธอต้องไม่ได้นอนแน่ๆเธอยังจำได้ตอนมัธยมเธอเคยอ่านเรื่องผีเพราะอยากลองท้าความกลัวของเธอเองมันทำให้เธอหลอนไปเป็นอาทิตย์
“เข้าไปสิคุณ”
ชายหนุ่มเปิดประตูห้องที่ยังเปิดไฟอยู่ให้เธอเดินเข้าไปแล้วเขาค่อยๆเดินตามหลังเธอพร้อมปิดประตูเมื่อเห็นหญิงสาวเดินสำรวจอยู่เขาก็ถือโอกาศปิดไฟทันที
“ว้ายยยยยย”
เมื่อเขาปิดไฟแล้วจึงเข้าไปรวบตัวหญิงสาวลงมานอนกอดที่เตียงทำเอาหญิงสาวร้องเสียงดังเพราะตกใจตอนนี้เขาได้ยินเสียงหัวใจเธอที่เต้นจนจะกระเด็นออกมาแล้วคงจะกลัวมากสินะ
“นี่คุณภูปล่อยแพรเลยนะ..อ๋อ...นี่มันเป็นแผนของคุณใช่มะ..ไอ้คนเจ้าเล่ห์”
เพี๊ยยยะๆๆๆๆๆ
หญิงสาวใช้สองมือตีแขนของเขาที่กอดเธออยู่เป็นการระบายความโมโหที่เสียรู้คนอย่างเขาอีกจนได้
“แผนอะไรเล่าคุณผมกลัวจริงๆถ้าผมไม่ใช้วิธีนี้คุณก็ไม่ยอมนอนเป็นเพื่อนผมนี่นา”
ชายหนุ่มยังคงใช้กลอุบายแถพูดกับเธอต่อไปเพื่อที่เธอจะได้ยอมนอนเป็นเพื่อนเขา
“แพรไม่เชื่อคุณภูแล้ว..ตัวโตยังกะควายมากลัวผี..”
ตอนนี้หญิงสาวเริ่มควันออกหูนี่เขาเห็นเธอเป็นตัวอะไรถึงได้ถือโอกาศฉวยโอกาศอยู่เรื่อย
“ควายเหรอ...หืม” ฟอด..
“ว้ายยย....นี่คุณภู”
หญิงสาวเริ่มดิ้นประท้วงการกอดของเขาพร้อมแผดเสียงใส่..เธอโมโหที่เขายังมีหน้ามาฉวยโอกาศหอมแก้มเธอแล้วยังทำไม่รู้ไม่ชี้อีก
เพี๊ยะๆๆๆๆ
เมื่อหญิงสาวรู้ตัวว่าดิ้นอย่างเดียวคงไม่หลุดเธอเลยใช้ทั้งสองมือฟาดไปที่แขนของเขาอย่างรัวๆ
“นี่คุณนอนเถอะนี่มันก็ดึกมากแล้วถ้าคุณยังไม่หยุดแล้วนอนเฉยๆผมทำมากกว่าหอมแน่”
ชายหนุ่มกระซิบเบาๆข้างหูหญิงสาวเพื่อเป็นการขู่เบาๆเมื่อเธอได้ยินเช่นนั้นก็หยุดการกระทำของเธอทันทีตอนนี้เธอรู้สึกว่าโมโหจนอยากจะร้องให้ที่ทำอะไรเขาไม่ได้เพราะเธอรู้ว่ายังไงเธอก็ไม่ชนะเขาอยู่ดีตอนนี้เธอทำได้แค่นอนเฉยๆแล้วรอให้เช้าไวๆเท่านั้นหญิงสาวค่อนขอดในใจเมื่อเขาเห็นเธอซื่อหน่อยก็หลอกได้หลอกดีเหลือเกินอย่าให้ถึงทีเธอบ้างก็แล้วกัน
เช้าวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจภาพตรงหน้าเพราะตอนนี้หน้าของเธออยู่ห่างจากชายหนุ่มไม่ถึงคืบเมื่อเธอได้มองเขาใกล้ๆขนาดนี้อีกครั้งทำให้เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆจนเธอต้องเอามือกุมหัวใจตัวเองพร้อมรีบผละออกแล้วเดินออกมานอกห้องนั้นอย่างรวดเร็วก่อนที่ชายหนุ่มจะตื่นขึ้นมา08.00 น.“เก็บของเสร็จแล้วเหรอคุณเมื่อเช้าตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกผม”เมื่อเห็นหญิงสาวเดินถือกระเป๋าลงมาชายหนุ่มจึงทักเธอขึ้นแต่หญิงสาวกลับทำเหมือนเขาเป็นอากาศที่ลอยอยู่ซะงั้นสงสัยคงจะงอนเขาอยู่เป็นแน่“ยังโกรธผมอยู่เหรอคุณ...ผมขอโทษ..ก็ผมกลัวนี่นา”ชายหน่มยังแถใช้มุขกลัวผีไม่เลิก“เอาเป็นว่าผมรู้ว่าคุณโกรธแต่ตอนนี้เรามาสงบศึกกันก่อนดีกว่าเพราะว่าวันนี้เราต้องเล่นบทเป็นคู่รักกันคุณอย่าลืมนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินเข้าไปช่วยหญิงสาวถือของมาที่รถ“อืมม...แพรไม่ลืมหรอกค่ะว่าต่อหน้าครอบครัวของคุณภูแพรต้องทำตัวแบบไหน”หยิงสาวพูดพร้อมทำหน้างอเธอเดินผ่านหน้าชายหนุ่มแล้วเปิดประตูไปนั่งรอเขาบนรถหน้าตาเฉยทำเอาชายหนุ่มต้องส่ายหัวเบาๆให้กับอาการพยศของเธอบ้านแอนเดอสัน“เก็บของมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมหนูแพร”พิมพา
“ใช่ฉันเองแล้วนี่ก็หลานสะใภ้ฉัน”เอมิลี่ยืนกุมมือแพรไหมแล้วป่าวประกาศให้เธอได้รู้ว่าคนที่หญิงสาวพึ่งดูถูกคือหลานสะใภ้ของเธอเอง“ไหนคุณท่านบอกว่าอยากได้เพนนีไปเป็นหลานสะใภ้ไงคะทำไมถึงเลือกยัยเฉิ่มคนนี้แทนล่ะคะ”เมื่อได้ยินหญิงชราแนะนำตัวหญิงสาวที่เธอพึ่งดูถูกไปหมาดๆว่าเป็นหลานสะใภ้ก็เท่ากับหักหน้าเธอทำให้เธอเริ่มอารมณ์ขึ้นในเมื่อไม่ไว้หน้าเธอเธอเองก็จะไม่ไว้หน้าใครเหมือนกัน“ฉันไม่ได้เป็นคนเลือกเองแต่หลานชายฉันเค้าเลือกแล้วเค้าก็รักของเค้ามากด้วย”เอมิลี่พูดเสียงดังฟังชัดและหวังว่าคนตรงหน้าจะเข้าใจที่เธอพูดเธอรู้สึกไม่ชอบใจอย่างมากที่หญิงสาวตรงหน้ามาแผดเสียงและถลึงตาใส่เธอ“นังนี่เหรอคะไม่มีอะไรที่เทียบเพนนีได้สักนิดแต่งตัวก็เฉิ่มๆเชยๆ”เพนนียังไม่หยุดที่จะดูถูกหญิงสาวในเมื่อเธอไม่ได้สิ่งที่ต้องการเธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงใจใครอีกแล้ว“ก็ยังดีกว่าแต่งตัวดูดีแต่เพราะใช้เงินจากการกินน้ำใต้ศอกคนอื่นหรอกนะ”เอมิลี่ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้หญิงสาวพร้อมเดินออกไปจากร้านอย่างผู้ชนะเธอรู้สึกว่าเพนนีไม่มีสัมมาคารวะเอาเสียเลยนี่ถ้าไม่เห็นแก่พ่อของเธอเอมิลี่ทำมากกว่าแค่ค่อนขอดเธอแน่“คุณย่านี่สุดย
บ้านแอนเดอสันเย็นของวันต่อมา“ว้าว….สวยจังเลยแพรพี่ว่าแล้วว่าแพรต้องใสชุดนี้สวยแน่ๆ”เพลงพิณยืนยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่พึ่งแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเธอคิดไม่ผิดที่เลือกชุดสีขาวนี้ให้กับเธอเพราะพออยู่บนตัวหญิงสาวแล้วมันช่างเข้ากับเธอมากที่สุดรวมทั้งทรงผมที่รวบตึงมัดหางม้าลุคนี้ทำให้แพรไหมดูลุคเป็นสาวที่มีรสนิยมมากขึ้น“ขอบคุณค่ะ”แพรไหมยืนยิ้มให้ตัวเองในกระจกเธอไม่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้หลังจากที่แต่งหน้าทำผมเสร็จเธอเองยังตะลึงคนในกระจกอยู่เลย“งั้นถ้าเรียบร้อยแล้วเราไปกันเถอะ…อ้อ…แล้วถ้ารู้สึกเวียนหัวหน้ามืดบอกพี่ได้นะ”“ค่ะ”เพลงพิณยังเป็นห่วงหญิงสาวกลัวว่าเธอจะมีอาการแบบเมื่อวานอีก“เรียบร้อยแล้วค่ะเราไปกันเถอะ”เพลงพิณพูดขึ้นหลังจากที่เห็นทุกคนยืนรออยู่ข้างล่างกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วภูผาหันมาตามเสียงของคนเป็นน้องสาวพลันสายตาก็เหลือบไปจ้องมองคนที่เดินตามหลังน้องสาวเขาทันทีภาพตรงหน้าช่างสะกดสายตาของเขาให้มองไปทางไหนไม่ได้วันนี้แพรไหมสวยแปลกตามากสวยมากจนเขาหยุดมองไม่ได้ทั้งชุดและการแต่งหน้าทำผมทำให้เธอดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“น้องแพรสวยใช่ไหมล่ะคะพี่ชาย”เมื่อเพลงพิณเห็นคนเป็น
“คุณซินดี้ครับตกลงงานวันนี้ผมไม่ต้องเดินแล้วใช่ไหมครับในเมื่อไม่มีนางแบบ”ดินแดนเดินตามหญิงวัยกลางคนมาถึงโซน VIP คราแรกว่าจะขอตัวกลับตั้งแต่อยู่ในห้องแต่งตัวแต่เมื่อรู้ว่านางแบบที่จะเดินด้วยมาไม่ได้เมื่อเขาจะเดินมาบอกซินดี้ว่าจะขอตัวกลับเธอกลับเดินดุ่มๆตรงมาที่นี่ซะงั้นทำให้เขาต้องเดินตามมาถึงที่นี่เขาเองไม่ได้อยากจะเดินแบบงานนี้สักเท่าไรแต่ติดตรงคุณแม่ของเขาเป็นคนขอร้องให้ช่วยเพราะเป็นงานการกุศลถ้าเป็นงานอย่างอื่นเขาไม่ยอมช่วยแน่เขาไม่ชอบสังคมแบบนี้เลยสักนิดชอบอยู่กับป่าอยู่กับเขามากกว่า“เอ่อใจเย็นๆค่ะคุณดินแดนอยู่ช่วยซินดี้ก่อนนะคะอย่าพึ่งหนีงานไปอีกคนเลยนะไม่งั้นงานพังแน่ๆเลย”ซินดี้อ้อนวอนขอร้องชายหนุ่มสุดชีวิตเพราะถ้าเขาไม่อยู่เดินอีกคนงานคงพังแน่ๆเพราะชายหนุ่มต้องเดินแบบคู่กับหญิงสาวในชุดฟินนาเล่น่ะสิแต่ตอนนี้เธอเองยังหาคนใส่ชุดฟินนาเล่ไม่ได้เลย“พี่ดิน…”แพรไหมนั่งจ้องหน้าชายหนุ่มอยู่สักครู่จึงทักชื่อเขาออกมาทำให้ชายหนุ่มที่ทำหน้าเซ็งอยู่เมื่อครู่เมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่เรียกก็ยิ้มหน้าบานออกมาทันที“น้องแพร…..พี่ไม่คิดว่าจะเจอน้องแพรที่นี่สวยขึ้นมากเลยนะเรา”เมื่อชายหนุ่มจำได้ว
“ทั้งสองคนแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ….ว้าวววว..น้องเพลงสวยมากเลยค่ะหุ่นดีมาก..งานหน้าต้องขอยืมตัวน้องเพลงมาเดินให้อีกแล้วล่ะค่ะ”ซินดี้เห็นหุ่นหญิงสาวก็อดชมไม่ได้ชุดนี้มันช่างเข้ากับเธอจริงๆไหนจะอกเป็นอกเอวเป็นเอวแล้วก็ขายาวสวยของเธอนั่นอีก“ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวขอบคุณคนที่ชมแบบเอียงอายนิดๆ“คิวต่อไปจะเป็นคิวของคุณดินแดนและน้องเพลงแล้วนะคะเตรียมตัวรอเลยค่ะ”ซินดี้เดินนำหน้าทั้งสองเพื่อที่จะไปรอหลังเวที“เอ่อ…พี่ซินดี้คะเพลงไม่เคยเดินนะคะ”เมื่ออยู่หลังเวทีหญิงสาวรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีพอลองมองออกไปที่หน้าเวทีเห็นคนที่นั่งรอดูอยู่เยอะเธอยิ่งประหม่า“ไม่ต้องกลัวค่ะเดินธรรมชาติเลยค่ะแบบคู่รักค่ะ”ซินดี้หันมาตอบหญิงสาวแบบยิ้มๆและหันไปดูความเรียบร้อยที่หน้างานต่อ“คะ…คู่รัก”หญิงสาวรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ซินดี้บอกไหนตอนพาเธอมาเปลี่ยนชุดไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ“ใช่คุณก็วันนี้เป็นตรีมคู่รักที่เดินกันเป็นคู่…อืมมมคุณก็คิดว่าคุณเดินกับแฟนละกันฟิวประมาณนั้น”ชายหนุ่มลองพูดเพื่อให้หญิงสาวคิดตามว่าเดินแบบวันนี้ฟิวมันจะประมาณไหน“มันฟิวไหนเล่าชั้นไม่เคยมีแฟนนี่”หญิงสาวตอบกลับชายหนุ่มทันควันพร้อมยืนกอ
“ดีสมน้ำหน้าปากสุนัขแบบนี้ให้อยู่เป็นโสดจนตายไปเลยใครได้เป็นแฟนคงรำคาญหูแย่เพราะชอบพูดไม่เข้าหูคนอื่นอยู่เรื่อยย”เพลงพิณพูดหน้าระรื่นนึกสะใจคนที่เคยปากไม่ดีใส่เธอ“เสร็จแล้วเราออกไปกันเถอะจะได้รีบกลับน้องแพรจะได้รีบไปพักผ่อนด้วย"“ค่ะพี่เพลง”ทั้งสองเดินออกมาจากห้องลองก็พบว่านางแบบคนอื่นๆทยอยกลับกันจนจะหมดแล้วเพลงพิณจึงชะเง้อหาซินดี้เพราะเธอจะคืนชุดแต่ไม่ยักจะเห็นว่าอยู่ที่ไหนห้องแต่งตัวนี่ก็กว้างเหลือเกิน“ว้ายน้องแพร”“แพร”จู่ๆแพรไหมก็เกิดวูบขึ้นมาอีกครั้งทำเอาเพลงพิณใจหายวาบดีที่ดินแดนเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเดินออกมาเห็นแพรไหมกำลังจะล้มลงไปพอดีเลยรีบกอดรับไว้ทัน“คุณดูน้องแพรไว้ก่อนนะเดี๋ยวฉันขอไปหายากับพวกยาดมมาให้น้องแพรก่อน”“โอเค”เพลงพิณรีบวิ่งออกมาหวังที่จะไปหายามาให้แพรไหมแต่สายตาเธอดันเหลือบไปเห็นยัยเพนนีที่ยืนอยู่หน้าห้องทำลับๆล่อๆแต่เธอก็ไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปถามอะไรเพราะว่าจะต้องรีบไปหายาให้แพรไหม“ไหวมัยแพรนี่เป็นแบบนี้บ่อยไหมพี่ว่าเราไปหาหมอดีกว่านะ”ดินแดนอุ้มแพรไหมนั่งที่โต้ะพร้อมประครองเธอไว้หลวมๆพร้อมยื่นหน้าเข้าไปถามอาการของหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าจับขมับอยู่“ไหวค่ะเดี
เมื่อหญิงสาวเหม่อมองออกไปด้านนอกก็เห็นว่าทางที่ชายหนุ่มกำลังขับรถพาเธอกลับมันไม่ใช่ทางกลับบ้านของทั้งเขาและเธอและตอนนี้เธอก็พึ่งดูออกว่าเขาน่าจะขับออกนอกเส้นทางมาไกลมากเธอจึงต้องเอ่ยปากถามแต่ก็ได้รับเพียงสายตาโมโหที่มองแล้วดูน่าขนลุกมาแทนแถมเขายังเร่งความเร็วรถจนน่ากลัวจนเธอต้องกุมมือทั้งสองข้างไว้ที่เบลอย่างแน่นอีกต่างหาก“ที่นี่ที่ไหนคะคุณภู”เมื่อเห็นชายหนุ่มขับรถมาจอกที่หน้าบ้านริมน้ำที่กลางเก่ากลางใหม่แต่ดูอบอุ่นมากเธอเห็นคราแรกเธอยังชอบเลยเธอจึงปรับอารมณ์แล้วจึงพยายามไล่อารมณ์ที่ตนเองโมโหชายหนุ่มออกและใช้น้ำเสียงที่อ่อนนุ่มพูดคุยกับเขาเผื่อเขาจะใจเย็นลงแล้วจะได้คุยกับเธอให้รู้เรื่องบ้างว่าเรื่องที่เขาคิดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด“คุณภูคะคือเรื่องรูปแพรอธิบายได้นะคะ…อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดคุณภูน่าจะถามพวกเราก่อนไม่น่าไปทำร้ายพี่ดินแบบนั้นเลย”เมื่อเห็นชายหนุ่มจอดรถแล้วยังนั่งนิ่งอยู่หญิงสาวพยายามจึงค่อยๆอธิบายเพื่อที่จะได้ให้เขาคิดตามว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดและคราวหลังก็ควรที่จะใช้เหตุผลให้มากกว่านี้“หึ….คำก็พี่ดินสองคำก็พี่ดิน”ปึกกกภูผารู้สึกขำตัวเองที่พยายามทำดีกับ
เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านที่หน้าต่างบ้านริมน้ำเข้ามาด้านในห้องนอนที่ทั้งสองนอนกอดกันกลมอยู่ทำให้ภูผารู้สึกตัวตื่นก่อนหญิงสาวเพราะแสงแดดที่ส่องเข้าบวกกับได้ยินเสียงมือถือของตัวเองสั่นอยู่บนโต้ะวางโคมไฟข้างเตียงชายหนุ่มค่อยๆคลายกอดหญิงสาวแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดรับเพราะเห็นว่าเป็นเบอของน้องสาวเขาโทรมาท่าทางจะโทรมาหลายรอบแล้วด้วย“ว่าไงเพลง”“พี่ชายทำไมพึ่งจะรับสายคะแล้วตอนนี้อยู่ไหนแล้วกันคะเนี่ย....แล้วน้องแพรอยู่กับพี่ด้วยหรือป่าว”เพลงพิณรีบถามพี่ชายของตนด้วน้ำเสียงร้อนรนจนคนฟังรู้สึกได้จะไม่ให้เธอร้อนรนได้ยังไงเล่นหายกันไปสองคนติดต่อไม่ได้แบบนี้“พี่อยู่ที่บ้านริมน้ำแพรก็อยู่กับพี่มีอะไรหรือป่าวเพลง”“เฮ้ออ..ค่อยโล่งอกหน่อยแล้วพี่ชายดูคลิปที่เพลงส่งให้หรือยังคะ”“คลิปอะไรพี่พึ่งจะจับโทรศัพท์ตอนที่เพลงโทรมานี่เอง”“รีบเปิดดูเลยค่ะจะได้ทำให้พี่ชายตาสว่างขึ้น...อ้อ...แล้วก็รีบกลับกันมาเลยนะคะเพราะเมื่อเช้าคุณแม่กับคุณย่าถามหาพี่ชายเพลงก็เลยบอกว่าทั้งน้องแพรแล้วก็พี่ยังไม่ตื่นดีนะคะที่คุณแม่กับคุณย่ารีบออกไปคุยงานไม่งั้นถามยาวกว่านี้แน่”“โอเคพี่จะรีบกลับ”ชายหนุ่มวางสายจากน