บ้านแอนเดอสัน
เย็นของวันต่อมา
“ว้าว….สวยจังเลยแพรพี่ว่าแล้วว่าแพรต้องใสชุดนี้สวยแน่ๆ”
เพลงพิณยืนยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่พึ่งแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเธอคิดไม่ผิดที่เลือกชุดสีขาวนี้ให้กับเธอเพราะพออยู่บนตัวหญิงสาวแล้วมันช่างเข้ากับเธอมากที่สุดรวมทั้งทรงผมที่รวบตึงมัดหางม้าลุคนี้ทำให้แพรไหมดูลุคเป็นสาวที่มีรสนิยมมากขึ้น
“ขอบคุณค่ะ”
แพรไหมยืนยิ้มให้ตัวเองในกระจกเธอไม่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้หลังจากที่แต่งหน้าทำผมเสร็จเธอเองยังตะลึงคนในกระจกอยู่เลย
“งั้นถ้าเรียบร้อยแล้วเราไปกันเถอะ…อ้อ…แล้วถ้ารู้สึกเวียนหัวหน้ามืดบอกพี่ได้นะ”
“ค่ะ”
เพลงพิณยังเป็นห่วงหญิงสาวกลัวว่าเธอจะมีอาการแบบเมื่อวานอีก
“เรียบร้อยแล้วค่ะเราไปกันเถอะ”
เพลงพิณพูดขึ้นหลังจากที่เห็นทุกคนยืนรออยู่ข้างล่างกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วภูผาหันมาตามเสียงของคนเป็นน้องสาวพลันสายตาก็เหลือบไปจ้องมองคนที่เดินตามหลังน้องสาวเขาทันทีภาพตรงหน้าช่างสะกดสายตาของเขาให้มองไปทางไหนไม่ได้วันนี้แพรไหมสวยแปลกตามากสวยมากจนเขาหยุดมองไม่ได้ทั้งชุดและการแต่งหน้าทำผมทำให้เธอดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“น้องแพรสวยใช่ไหมล่ะคะพี่ชาย”
เมื่อเพลงพิณเห็นคนเป็นพี่ชายมองหญิงสาวตาเป็นมันก็เลยขอแซวหยอกพี่ชายเธอเล่นหน่อยเล่นมองจ้องจนหญิงสาวเขินจนทำหน้าไม่ถูกแล้ว
แพรไหมรู้สึกเขินแปลกๆที่ชายหนุ่มเอาแต่จ้องมองเธอขนาดนั้นแถมวันนี้ชายหนุ่มยังดูดีมากๆอีกด้วยทั้งชุดที่เขาใส่และทรงผมที่ปัดเรียบเข้ากับหน้าลูกครึ่งของเขาได้อย่างดีมันทำให้ใจเธอเต้นผิดจังหวะแปลกๆเธอยอมรับเลยว่าวันนี้ชายหนุ่มดูดีมากจริงๆ
หญิงสาวนอนคิดทั้งคืนว่าจะหาโอกาสบอกเขาเรื่องลูกกับเขายังไงดีเธอตัดสินใจแล้วว่ายังไงวันนี้เธอก็ต้องคุยกับชายหนุ่มเรื่องลูกในท้องเธอให้รู้เรื่องเมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้ยังไงเธอก็จะต้องบอกชายหนุ่มให้รู้ตัวแล้วหละว่าเขากำลังจะเป็นพ่อคน
ที่ผ่านมาสิ่งที่เขาพยายามทำดีกับเธอหญิงสาวคิดว่าถึงจะเป็นแค่การที่เขารู้สึกผิดแต่ยังไงสิ่งที่เขาทำดีกับเธอคอยช่วยเหลือดูแลเธอมาตลอดเธอเองก็เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่เลวร้ายอะไรมากมายยังไงเขาก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูกเธอเธอเองก็จะขอลองให้โอกาศเขาสักครั้งเพื่อที่ลูกของเธอเกิดมาจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์
ชายหนุ่มเลือกที่จะขับรถไปเองกับหญิงสาวส่วนเพลงพิณพิมพาและเอมิลี่ให้ชาร์ลเป็นคนขับรถพาไปที่งานอีกคันทั้งหมดมาถึงที่งานก็เป็นเวลาที่ใกล้งานเริ่มพอดี
“เป็นอะไรเหรอคุณ…”
ภูผาขับรถเข้าไปจอดรถที่จอดรถของแขก VIP เมื่อชายหนุ่มจอดรถเรียบร้อยเขาก็หันมามองงหญิงสาวเห็นว่าเธอเริ่มทำสีหน้ากังวลอีกแล้วเขาจึงยื่นมือของเขาไปจับมือของเธอเป็นการให้กำลังใจเขารู้ว่าเธอคงจะไม่คุ้นชินกับงานนี้แต่เขาเองจะคอยอยู่ข้างๆเธอไม่ยอมให้เธอรู้สึกกลัวแน่นอน
“แพรแค่ไม่เคยมางานแบบนี้น่ะค่ะ”
หญิงสาวตอบเสียงอ่อยด้วยสีหน้าที่ยังเป็นกังวลถ้าเกิดเธอเข้าไปในงานที่มีแต่ผู้ดีมีชาติตระกูลส่วนเธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนนึงเธอกลัวว่าจะทำให้ครอบครัวเขาขายหน้าป่าวๆ
“ฟังผมนะวันนี้คุณสวยมาก…สวยกว่าไฮโซหรือดาราบางคนซะอีก…เดินเข้าไปในงานพร้อมผมจับมือผมไว้คุณจะได้ไม่กลัวโอเคไหม”
ชายหนุ่มรู้ว่าเธอไม่มั่นใจเขาจึงขอพูดเพิ่มความมั่นใจให้กับเธอพร้อมกำชับบอกกับเธอว่าเขาจะอยู่ข้างๆเธอตลอดเพื่อที่หญิงสาวจะได้ไม่ต้องกลัว
“อืม..”
ทั้งสองเดินจับมือเข้างานพร้อมกันเมื่อช่างภาพและพวกนักข่าวเห็นว่านักธุรกิจหนุ่มหล่อชื่อดังกำลังเดินจูงมือหญิงสาวปริศนาเข้างานก็พากันกรูเข้ามารุมถ่ายภาพและขอสัมภาษณ์กันยกใหญ่ต่างก็พากันสัมภาษณ์ถามถึงสาวปริศนาคนนี้คือใครละเป็นอะไรกัน
“คุณภูผาคะไม่ทราบว่าสาวสวยคนนี้ใครคะหรือว่าจะเป็นหวานใจ”
“ใช่ค่ะ/ใช่ค่ะ”
นักข่าวสาวสายบันเทิงคนหนึ่งโพร่งถามคำถามที่ทุกคนอยากรู้ทำเอานักข่าวคนอื่นที่อยากถามประเด็นเดียวกันเอ่ยสมทบ
“เธอเป็นคู่หมั้นของผมครับ…..ขอตัวเข้างานก่อนนะครับ”
ภูผาตอบประโยคสั้นๆแก่นักข่าวแล้วรีบดึงมือหญิงสาวฝ่ากลุ่มนักข่าวแล้วเดินเข้างานทันที
“เดี๋ยวค่ะหมั้นแล้วจะแต่งเมื่อไรคะ”
“แล้วคุณกับเธอคบกันได้ยังไงคะ”
นักข่าวยังตะโกนถามคำถามชายหนุ่มไม่เลิกแม้ชายหนุ่มจะเดินออกมาแล้วก็ตาม
“พี่ชายคะทางนี้ค่ะงานใกล้จะเริ่มแล้ว”
เพลงพิณเห็นพี่ชายของเธอและหญิงสาวพึ่งเดินฝ่ากลุ่มนักข่าวออกมาเธอจึงรีบดึงมือพี่ชายเธอเข้ามาที่โซนของแขก VIP โดยด่วนเพราะโซนนี้นักข่าวจะตามเข้ามาไม่ได้
“น้องแพรเป็นอะไรจ๊ะไหวไหม”
เพลงพิณเห็นสีหน้าของแพรไหมที่ดูจะตื่นนักข่าวเมื่อครู่แถมตอนนี้สีหน้าเธอก็เริ่มซีดเผือดเธอจึงเอ่ยถามเธอว่ายังโอเคไหม
“ค่ะ”
เมื่อแพรไหมพยักหน้าตอบรับเธอเพลงพิณจึงโล่งอกคิดว่าอาการหน้ามืดเป็นลมเธอจะกำเริบมาเสียอีก
“หิวหรือยังจ๊ะหนูแพร….ทานนี่หน่อยนะ”
พิมพายื่นถาดขนมให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอเพราะเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ได้ทานอะไรกลัวว่าเธอจะหิวเพราะคนท้องต้องทานอาหารให้ครบทุกมื้อ
“ขอบคุณค่ะคุณแม่”
แพรไหมรับขนมจากพิมพาแล้วเธอจึงรีบตักใส่ปากคำโตๆทันทีเพราะตอนนี้เธอรู้สึกหิวอยู่เหมือนกันแต่เพราะความตื่นเต้นที่จะได้มางานเลยไม่ได้ทานอะไรก่อนมา
“ทานเก่งจังนะคุณชอบเหรอ…อะนี่มีอีก”
ภูผาเห็นหยิงสาวทานเค้กที่แม่ของเขาส่งให้เธอเกือบหมดในเวลาอันรวดเร็วเขาจึงหยิบที่จานของเขาให้เธออีกเขาไม่คิดว่าตัวเล็กๆอย่างเธอจะทานจุเหมือนกันนะชายหนุ่มได้แต่นั่งอมยิ้มให้กับหญิงสาวที่ทานอย่างไม่ห่วงสวยดูซิเลอะแก้มไปหมดจนเขาต้องหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดให้กับเธอ
“เลอะแก้มหมดแล้วคุณ”
“หืมมม”
ชายหนุ่มใช้มือจับคางของเธอแล้วค่อยๆเช็ดลอยเลอะออกทำเอาหญิงสาวรู้สึกหน้าร้อนผ่าวแก้มแดงขึ้นมาทันทีคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าเธอก็มีมุมที่ดูอ่อนโยนกับเขาบ้างเหมือนกันนะ
“แย่แล้วค่ะคุณท่าน”
ซินดี้หญิงสาววัยกลางคนที่ยังสวยเปรี้ยวเป็นโปรดิวเซอร์จัดงานนี้ให้กับงานการกุศลวันนี้เดินหน้าตาตื่นมาหาคนที่จ้างเธอจัดงาน
“เป็นอะไรซินดี้”
เอมิลี่เห็นซินดี้เดินลุกลี้ลุกลนมาหาเธอก็คิดว่าคงมีเรื่องด่วนแน่ๆไม่อย่างนั้นคงจะไม่รบกวนเธอหรอก
“ก็นางแบบที่จะเดินคู่กับคุณดินแดนวันนี้สิคะเกิดอุบัติเหตุกะทันหันมาไม่ได้ค่ะตอนนี้ยังหานางแบบแทนไม่ได้เลยค่ะเราจะทำยังไงกันดีคะ”
ซินดี้พูดด้วยสีหน้าที่ร้อนรนเพราะตอนนี้งานจะเริ่มแล้วเธอเองยังหานางแบบมาแทนไม่ได้เลย
“คุณซินดี้ครับตกลงงานวันนี้ผมไม่ต้องเดินแล้วใช่ไหมครับในเมื่อไม่มีนางแบบ”ดินแดนเดินตามหญิงวัยกลางคนมาถึงโซน VIP คราแรกว่าจะขอตัวกลับตั้งแต่อยู่ในห้องแต่งตัวแต่เมื่อรู้ว่านางแบบที่จะเดินด้วยมาไม่ได้เมื่อเขาจะเดินมาบอกซินดี้ว่าจะขอตัวกลับเธอกลับเดินดุ่มๆตรงมาที่นี่ซะงั้นทำให้เขาต้องเดินตามมาถึงที่นี่เขาเองไม่ได้อยากจะเดินแบบงานนี้สักเท่าไรแต่ติดตรงคุณแม่ของเขาเป็นคนขอร้องให้ช่วยเพราะเป็นงานการกุศลถ้าเป็นงานอย่างอื่นเขาไม่ยอมช่วยแน่เขาไม่ชอบสังคมแบบนี้เลยสักนิดชอบอยู่กับป่าอยู่กับเขามากกว่า“เอ่อใจเย็นๆค่ะคุณดินแดนอยู่ช่วยซินดี้ก่อนนะคะอย่าพึ่งหนีงานไปอีกคนเลยนะไม่งั้นงานพังแน่ๆเลย”ซินดี้อ้อนวอนขอร้องชายหนุ่มสุดชีวิตเพราะถ้าเขาไม่อยู่เดินอีกคนงานคงพังแน่ๆเพราะชายหนุ่มต้องเดินแบบคู่กับหญิงสาวในชุดฟินนาเล่น่ะสิแต่ตอนนี้เธอเองยังหาคนใส่ชุดฟินนาเล่ไม่ได้เลย“พี่ดิน…”แพรไหมนั่งจ้องหน้าชายหนุ่มอยู่สักครู่จึงทักชื่อเขาออกมาทำให้ชายหนุ่มที่ทำหน้าเซ็งอยู่เมื่อครู่เมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่เรียกก็ยิ้มหน้าบานออกมาทันที“น้องแพร…..พี่ไม่คิดว่าจะเจอน้องแพรที่นี่สวยขึ้นมากเลยนะเรา”เมื่อชายหนุ่มจำได้ว
“ทั้งสองคนแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ….ว้าวววว..น้องเพลงสวยมากเลยค่ะหุ่นดีมาก..งานหน้าต้องขอยืมตัวน้องเพลงมาเดินให้อีกแล้วล่ะค่ะ”ซินดี้เห็นหุ่นหญิงสาวก็อดชมไม่ได้ชุดนี้มันช่างเข้ากับเธอจริงๆไหนจะอกเป็นอกเอวเป็นเอวแล้วก็ขายาวสวยของเธอนั่นอีก“ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวขอบคุณคนที่ชมแบบเอียงอายนิดๆ“คิวต่อไปจะเป็นคิวของคุณดินแดนและน้องเพลงแล้วนะคะเตรียมตัวรอเลยค่ะ”ซินดี้เดินนำหน้าทั้งสองเพื่อที่จะไปรอหลังเวที“เอ่อ…พี่ซินดี้คะเพลงไม่เคยเดินนะคะ”เมื่ออยู่หลังเวทีหญิงสาวรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีพอลองมองออกไปที่หน้าเวทีเห็นคนที่นั่งรอดูอยู่เยอะเธอยิ่งประหม่า“ไม่ต้องกลัวค่ะเดินธรรมชาติเลยค่ะแบบคู่รักค่ะ”ซินดี้หันมาตอบหญิงสาวแบบยิ้มๆและหันไปดูความเรียบร้อยที่หน้างานต่อ“คะ…คู่รัก”หญิงสาวรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ซินดี้บอกไหนตอนพาเธอมาเปลี่ยนชุดไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ“ใช่คุณก็วันนี้เป็นตรีมคู่รักที่เดินกันเป็นคู่…อืมมมคุณก็คิดว่าคุณเดินกับแฟนละกันฟิวประมาณนั้น”ชายหนุ่มลองพูดเพื่อให้หญิงสาวคิดตามว่าเดินแบบวันนี้ฟิวมันจะประมาณไหน“มันฟิวไหนเล่าชั้นไม่เคยมีแฟนนี่”หญิงสาวตอบกลับชายหนุ่มทันควันพร้อมยืนกอ
“ดีสมน้ำหน้าปากสุนัขแบบนี้ให้อยู่เป็นโสดจนตายไปเลยใครได้เป็นแฟนคงรำคาญหูแย่เพราะชอบพูดไม่เข้าหูคนอื่นอยู่เรื่อยย”เพลงพิณพูดหน้าระรื่นนึกสะใจคนที่เคยปากไม่ดีใส่เธอ“เสร็จแล้วเราออกไปกันเถอะจะได้รีบกลับน้องแพรจะได้รีบไปพักผ่อนด้วย"“ค่ะพี่เพลง”ทั้งสองเดินออกมาจากห้องลองก็พบว่านางแบบคนอื่นๆทยอยกลับกันจนจะหมดแล้วเพลงพิณจึงชะเง้อหาซินดี้เพราะเธอจะคืนชุดแต่ไม่ยักจะเห็นว่าอยู่ที่ไหนห้องแต่งตัวนี่ก็กว้างเหลือเกิน“ว้ายน้องแพร”“แพร”จู่ๆแพรไหมก็เกิดวูบขึ้นมาอีกครั้งทำเอาเพลงพิณใจหายวาบดีที่ดินแดนเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเดินออกมาเห็นแพรไหมกำลังจะล้มลงไปพอดีเลยรีบกอดรับไว้ทัน“คุณดูน้องแพรไว้ก่อนนะเดี๋ยวฉันขอไปหายากับพวกยาดมมาให้น้องแพรก่อน”“โอเค”เพลงพิณรีบวิ่งออกมาหวังที่จะไปหายามาให้แพรไหมแต่สายตาเธอดันเหลือบไปเห็นยัยเพนนีที่ยืนอยู่หน้าห้องทำลับๆล่อๆแต่เธอก็ไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปถามอะไรเพราะว่าจะต้องรีบไปหายาให้แพรไหม“ไหวมัยแพรนี่เป็นแบบนี้บ่อยไหมพี่ว่าเราไปหาหมอดีกว่านะ”ดินแดนอุ้มแพรไหมนั่งที่โต้ะพร้อมประครองเธอไว้หลวมๆพร้อมยื่นหน้าเข้าไปถามอาการของหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าจับขมับอยู่“ไหวค่ะเดี
เมื่อหญิงสาวเหม่อมองออกไปด้านนอกก็เห็นว่าทางที่ชายหนุ่มกำลังขับรถพาเธอกลับมันไม่ใช่ทางกลับบ้านของทั้งเขาและเธอและตอนนี้เธอก็พึ่งดูออกว่าเขาน่าจะขับออกนอกเส้นทางมาไกลมากเธอจึงต้องเอ่ยปากถามแต่ก็ได้รับเพียงสายตาโมโหที่มองแล้วดูน่าขนลุกมาแทนแถมเขายังเร่งความเร็วรถจนน่ากลัวจนเธอต้องกุมมือทั้งสองข้างไว้ที่เบลอย่างแน่นอีกต่างหาก“ที่นี่ที่ไหนคะคุณภู”เมื่อเห็นชายหนุ่มขับรถมาจอกที่หน้าบ้านริมน้ำที่กลางเก่ากลางใหม่แต่ดูอบอุ่นมากเธอเห็นคราแรกเธอยังชอบเลยเธอจึงปรับอารมณ์แล้วจึงพยายามไล่อารมณ์ที่ตนเองโมโหชายหนุ่มออกและใช้น้ำเสียงที่อ่อนนุ่มพูดคุยกับเขาเผื่อเขาจะใจเย็นลงแล้วจะได้คุยกับเธอให้รู้เรื่องบ้างว่าเรื่องที่เขาคิดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด“คุณภูคะคือเรื่องรูปแพรอธิบายได้นะคะ…อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดคุณภูน่าจะถามพวกเราก่อนไม่น่าไปทำร้ายพี่ดินแบบนั้นเลย”เมื่อเห็นชายหนุ่มจอดรถแล้วยังนั่งนิ่งอยู่หญิงสาวพยายามจึงค่อยๆอธิบายเพื่อที่จะได้ให้เขาคิดตามว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดและคราวหลังก็ควรที่จะใช้เหตุผลให้มากกว่านี้“หึ….คำก็พี่ดินสองคำก็พี่ดิน”ปึกกกภูผารู้สึกขำตัวเองที่พยายามทำดีกับ
เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านที่หน้าต่างบ้านริมน้ำเข้ามาด้านในห้องนอนที่ทั้งสองนอนกอดกันกลมอยู่ทำให้ภูผารู้สึกตัวตื่นก่อนหญิงสาวเพราะแสงแดดที่ส่องเข้าบวกกับได้ยินเสียงมือถือของตัวเองสั่นอยู่บนโต้ะวางโคมไฟข้างเตียงชายหนุ่มค่อยๆคลายกอดหญิงสาวแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดรับเพราะเห็นว่าเป็นเบอของน้องสาวเขาโทรมาท่าทางจะโทรมาหลายรอบแล้วด้วย“ว่าไงเพลง”“พี่ชายทำไมพึ่งจะรับสายคะแล้วตอนนี้อยู่ไหนแล้วกันคะเนี่ย....แล้วน้องแพรอยู่กับพี่ด้วยหรือป่าว”เพลงพิณรีบถามพี่ชายของตนด้วน้ำเสียงร้อนรนจนคนฟังรู้สึกได้จะไม่ให้เธอร้อนรนได้ยังไงเล่นหายกันไปสองคนติดต่อไม่ได้แบบนี้“พี่อยู่ที่บ้านริมน้ำแพรก็อยู่กับพี่มีอะไรหรือป่าวเพลง”“เฮ้ออ..ค่อยโล่งอกหน่อยแล้วพี่ชายดูคลิปที่เพลงส่งให้หรือยังคะ”“คลิปอะไรพี่พึ่งจะจับโทรศัพท์ตอนที่เพลงโทรมานี่เอง”“รีบเปิดดูเลยค่ะจะได้ทำให้พี่ชายตาสว่างขึ้น...อ้อ...แล้วก็รีบกลับกันมาเลยนะคะเพราะเมื่อเช้าคุณแม่กับคุณย่าถามหาพี่ชายเพลงก็เลยบอกว่าทั้งน้องแพรแล้วก็พี่ยังไม่ตื่นดีนะคะที่คุณแม่กับคุณย่ารีบออกไปคุยงานไม่งั้นถามยาวกว่านี้แน่”“โอเคพี่จะรีบกลับ”ชายหนุ่มวางสายจากน
เมื่อพาหญิงสาวมาถึงโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงยืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินเมื่อหมอพาเธอมาพักที่ห้องพักฟื้นเขาก็ตามเฝ้าเธออยู่ไม่ห่าง“หมอครับตกลงเธอที่เธออาเจียนจนเป็นลมแบบนี้เธอเป็นอะไรเหรอครับ”ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงคนตรงหน้าที่นอนหลับอยู่บนเตียงเขาอยากรู้เหลือเกินว่าเธอเป็นอะไรกันแน่เขาสังเกตุเห็นเธออาการไม่ค่อยดีมาสองสามวันแล้ว“เป็นอาการปกติของคนแพ้ท้องน่ะครับคุณต้องดูแลภรรยาของคุณเรื่องอาหารการกินและเวลาพักผ่อนของเธอด้วยนะครับเพราะเธอพึ่งท้องอ่อนๆต้องดูแลอย่างดีและเท่าที่หมอตรวจดูเธอน่าจะขาดสารอาหารอยู่ด้วยเดี๋ยวหมอให้ยาบำรุงไปนะครับอีกสักพักเธอคงจะฟื้นเดี๋ยวหมอขอตัวก่อนนะครับ”“ค...ครับ..ขอบคุณมากครับหมอ”ชายหนุ่มอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อด้ยินหมอบอกว่าหญิงสาวตั้งท้องแล้วถ้าหญิงสาวตั้งท้องอ่อนๆเขาแน่ใจว่าในท้องของเธอนั้นต้องเป็นลูกเขาเขาแน่นอนเพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกันตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกดีใจจนทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าเธอตื่นมาแล้วเธอจะดีใจเหมือนเขาไหมแต่ตอนนี้เขาขอโทรบอกทางบ้านให้มาฟังข่าวดีที่โรงพยาบาลก่อนละกัน20นาทีต่อมา“มีอะไรตาภูย่ากำลังคุยงานอยู่มีเรื่องอะไรถึงเรียกพ
“ยังโกรธผมอยู่เหรอ....”เมื่อเห็นหญิงสาวไม่ตอบเขาจึงค่อยๆคลายอ้อมกอดออกแล้วหันหน้ามาใกล้ๆเธอแต่หญิงสาวก็ยังหันหน้าหนีเขาจึงต้องใช้สองมือของเขาจับใบหน้าของเธอให้หันมาจ้องตาของเขาเพื่อที่หญิงสาวจะได้เห็นเวลาที่เขาพูดว่าเขาไม่ได้เสแสร้ง“คุณฟังผมนะ...ผมสัญญาว่าเหตุการณ์บ้าๆนั่นจะไม่เกิดขึ้นกับคุณอีก...ผมรักคุณแล้วตอนนี้เราก็กำลังจะมีลูกด้วยกันผมอยากทำให้ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ที่สุดอะไรที่มันทำให้คุณหายโกรธผมได้ในตอนนี้คุณก็บอกมาเลยหรือจะตบจะตีผมก็ได้ผมยอม...ยอมทุกอย่างเพื่อที่จะให้คุณอยู่กับผม”เมื่อเห็นหญิงสาวยังทำหน้าบึ้งตึงเดาอารมณ์ไม่ออกใส่เขาอยู่เขาจึงรวบรวมความรู้สึกที่มีพูดกับเธอในใจเขาเองหวังว่าเธอคงจะเชื่อที่เขาพูดบ้างและอะไรที่ทำให้เธอหายโกรธเขาได้เขาก็พร้อมที่จะทำขออย่างเดียวของให้เธออย่าไปจากเขาเท่านั้นเพี๊ยะ.....ปั้กๆ...ๆๆๆ......“หึ....อึกก...ฮือๆๆๆๆ..อืออ”เมื่อสิ้นคำพูดของชายหนุ่มหญิงสาวก็ฟาดฝ่ามือไปที่หน้าของเขาทันทีพร้อมทั้งทุบทั้งตีไปที่ตัวของชายหนุ่มเพื่อระบายความโกรธนั้นออกมาแต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆเธอเป็นอะไรที่ทุบตีเขาเท่าไรเธอกลับเหมือนว่าตัวเธอเจ็บเสียเอ
“เย็นนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมเดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านทำไว้ให้”“อืมมมแพรอยากทานข้าวผัดปูค่ะ”“งั้นเดี๋ยวพี่โทรบอกคุณแม่ดีกว่าว่าแพรอยากทานเผื่อคุณแม่จะเป็นคนลงมือทำเองเพราะแม่พี่ทำข้าวผัดปูอร่อยที่สุดสำหรับพี่เลย”ชายหนุ่มพูดพร้อมยกนิ้วทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวทำเอาเธอต้องกลั้นขำกับท่าทางทะเล้นของเขายกใหญ่“แพรมาทางนี้”“คะ......”จู่ๆชายหนุ่มก็เดินจูงมือเธอเข้าร้านเครื่องเพชรทำเอาหญิงสาวแทบตั้งตัวไม่ทัน“แพรอยากได้วงไหนเลือกเลย”ชายหนุ่มยืนค้ำกับตู้กระจกที่มีเครื่องเพชรรายรอบอยู่ข้างในพร้อมผายมือให้หญิงสาวเลือกได้ตามใจชอบ“เอ่อ....มันคงไม่เหมาะกับแพรมั้งคะ”หญิงสาวตอบพร้อมยิ้มแหยๆเพราะคิดว่าเครื่องประดับพวกนี้ไม่ค่อยจะเหมาะกับตัวเธอสักเท่าไร“รบกวนช่วยเลือกแหวนเพชรที่น้ำงามที่สุดให้เธอด้วยนะครับราคาเท่าไรผมไม่มีปัญหา”“ได้เลยค่ะ....เดี๋ยวคุณผู้หญิงกับคูณผู้ชายรอสักครู่นะคะ”ชายหนุ่มเห็นว่ายังไงหญิงสาวก็คงจะไม่ยอมเลือกของพวกนี้เองแน่ๆและท่าทางก็ไม่ได้อยากได้ซะด้วยถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะเลือกครบเซตไปนานแล้วเขาจึงบอกให้พนักงานเลือกแหวนวงที่เพชรน้ำงามที่สุดมาให้เธอ“พี่ภูคะ....ไม่เอาค่า”หลัง