“ยังโกรธผมอยู่เหรอ....”
เมื่อเห็นหญิงสาวไม่ตอบเขาจึงค่อยๆคลายอ้อมกอดออกแล้วหันหน้ามาใกล้ๆเธอแต่หญิงสาวก็ยังหันหน้าหนีเขาจึงต้องใช้สองมือของเขาจับใบหน้าของเธอให้หันมาจ้องตาของเขาเพื่อที่หญิงสาวจะได้เห็นเวลาที่เขาพูดว่าเขาไม่ได้เสแสร้ง
“คุณฟังผมนะ...ผมสัญญาว่าเหตุการณ์บ้าๆนั่นจะไม่เกิดขึ้นกับคุณอีก...ผมรักคุณแล้วตอนนี้เราก็กำลังจะมีลูกด้วยกันผมอยากทำให้ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ที่สุดอะไรที่มันทำให้คุณหายโกรธผมได้ในตอนนี้คุณก็บอกมาเลยหรือจะตบจะตีผมก็ได้ผมยอม...ยอมทุกอย่างเพื่อที่จะให้คุณอยู่กับผม”
เมื่อเห็นหญิงสาวยังทำหน้าบึ้งตึงเดาอารมณ์ไม่ออกใส่เขาอยู่เขาจึงรวบรวมความรู้สึกที่มีพูดกับเธอในใจเขาเองหวังว่าเธอคงจะเชื่อที่เขาพูดบ้างและอะไรที่ทำให้เธอหายโกรธเขาได้เขาก็พร้อมที่จะทำขออย่างเดียวของให้เธออย่าไปจากเขาเท่านั้น
เพี๊ยะ.....ปั้กๆ...ๆๆๆ......
“หึ....อึกก...ฮือๆๆๆๆ..อืออ”
เมื่อสิ้นคำพูดของชายหนุ่มหญิงสาวก็ฟาดฝ่ามือไปที่หน้าของเขาทันทีพร้อมทั้งทุบทั้งตีไปที่ตัวของชายหนุ่มเพื่อระบายความโกรธนั้นออกมาแต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆเธอเป็นอะไรที่ทุบตีเขาเท่าไรเธอกลับเหมือนว่าตัวเธอเจ็บเสียเองยิ่งเห็นเขาไม่ต่อต้านเธอก็ทุบเขาไปด้วยร้องให้สะอึกสะอื้นไปด้วยจนชายหนุ่มทนดูเธอร้องให้ไม่ไหวต้องรีบดึงตัวเธอเข้ามากอดปลอบใจแทน
“ฮือๆๆๆทำไม...ทำไมต้องยอมแพรไม่เจ็บหรือไงเล่า.....ทำไมแพรต้องใจอ่อนให้คุณด้วยนะ”
ชายหนุ่มกอดหญิงสาวที่กำลังสะอึกสะอื้นเขาต้องอมยิ้มเพราะคำพูดที่ดูสับสนของเธอแต่ก็พอจะเดาออกว่าเธอให้อภัยเขาแล้ว
“เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ”
“อื้อ....เริ่มก็เริ่ม”
เมื่อเธอถูกชายหนุ่มสวมกอดเธอยิ่งสะอื้นหนักคิดว่าการที่เธอทำร้ายชายหนุ่มมันอาจทำให้เขาโมโหเธอขึ้นมาอีกมันจะได้ทำให้เธอแน่ใจที่จะไม่ให้อภัยเขาแต่ไม่เลยเขายอมให้เธอทำเขาเจ็บอยู่แบบนั้นจนทำให้ตอนนี้คนที่เธอรู้สึกโมโหตัวเองที่ยอมใจอ่อนให้เขาจนได้
หญิงสาวร้องให้จนหลับไปในอ้อมกอดของชายหนุ่ม เมื่อเห็นหญิงสาวหลับสนิทแล้วเขาจึงอุ้มเธอนอนบนเตียงของเขาแบบดีๆพร้อมนั่งเฝ้าเธออยู่ไม่ห่างเขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจู่ๆก็จะได้เป็นพ่อคนแบบกะทันหันเมื่อก่อนเขาไม่เคยนึกชอบเด็กสักเท่าไรแต่พอได้รู้ว่าเขากำลังจะมีลูกกับเธอมันกลับทำให้เขารู้สึกรักลูกทั้งที่ยังไม่เคยพบหน้ามาก่อนนี่สินะสัญชาติญาณความเป็นพ่อ
“พ่อรักลูกนะครับ...แล้วก็รักแม่ของลูกมากด้วย”
ชายหนุ่มค่อยๆก้มลงไปจูบที่หน้าท้องน้อยๆของหญิงสาวที่หลับอยู่ตอนนี้มันยังแบนราบอยู่เมื่อเขานึกถึงเจ้าตัวเล็กที่อยู่ข้างในนั้นมันช่างน่ามหัศจรรย์สำหรับเขาเสียจริง
11.30 น.
“ตื่นแล้วเหรอ....หิวหรือป่าว”
ภูผาเห็นหญิงสาวขยับตัวตื่นจึงเข้าไปช่วยพยุงตัวเธอให้นั่งพิงกับหมอนที่หัวเตียงของเขาพร้อมถามว่าหญิงสาวหิวหรือยังเพราะนี่มันก็ใกล้เที่ยงแล้ว
“ไม่ค่ะแพรยังไม่หิว”
หญิงสาวที่พึ่งตื่นขึ้นมายังรู้สึกวิงเวียนอยู่แต่เธอยังไม่รู้สึกหิว
“ได้ยังไงคุณนี่มันก็จะเที่ยงแล้วอย่าลืมสิว่าคุณต้องทานอาหารให้ตรงเวลานะเดี๋ยวคุณไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดี๋ยวผมพาไปหาอะไรทาน”
ชายหนุ่มพูดพร้อมลูบไปที่หน้าท้องของเธอพร้อมกับยิ้มให้กับหญิงสาวตอนนี้หน้าของเขาและเธออยู่ใกล้กันไม่ถึงคืบรอยยิ้มของเขาทำเอาหญิงสาวเริ่มหน้าแดงขึ้นมาทันที
“เอ่อ...ก็ได้ค่ะ”
แพรไหมลืมไปซะสนิทเลยว่าตอนนี้เธอต้องทานอาหารห้ครบทุกมื้อแล้วก็ต้องมีสารอาหารครบถ้วนด้วยเพื่อที่ลูกน้อยของเธอจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรง
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณภู”
เมื่อหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินมาเรียกชายหนุ่มที่นั่งรอเธออยู่บนโซฟา
“เราไปกันเลยไหมคุณภู”
“เดี๋ยว”
ชายหนุ่มรั้งเธอมานั่งที่ตักของเขาพร้อมกอดไว้หลวมๆ
“มีอะไรหรือป่าวคะ”
“ลองเรียกว่าพี่ภูให้ชินปากหน่อยสิแพร”
ชายหนุ่มกระซิบที่ข้างหูหญิงสาวแผ่วเบาทำเอาหญิงสาวถึงกับขนลุกซุ่ขึ้นมาทันทีทำไมเขาต้องทำเสียงเซ็กซี่ใส่เธอด้วยนะ
“คะ.....เอ่อ..พี่ภู”
หญิงสาวเรียกชายหนุ่มด้วยท่าทีขัดเขินไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเรียกแต่ตอนนั้นเธอต้องเรียกเพราะเล่นละครต่างหากซึ่งแตกต่างจากตอนนี้สิ้นเชิงทั้งยังสรรพนามที่เขาเรียกชื่อเธอว่าแพรแทนคุณอีกมันดูจั๊กจี้หัวใจของเธอแปลกๆ
ทั้งสองใช้เวลาไม่นานก็มาถึงห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง
“แพรอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม”
ภูผาเดินมาถึงโซนร้านอาหารก็เอ่ยถามหญิงสาวขึ้นว่าเธออยากจะทานอะไรเพราะตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยากทานอะไรเหมือนกันแค่อยากพาหญิงสาวมาทานอาหารให้ตรงเวลาและพาออกมาซื้อของใช้จำเป็นด้วยเท่านั้น
แพรไหมเลือกเข้าร้านสเต็คเพราะเธอรู้สึกว่ามันน่ากินมากไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเมื่อเห็นรูปที่หน้าร้านก็อยากทานขึ้นมาทันทีทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยจะชอบทานสเต็คเท่าไรแถมยังเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่เธอจะเลือกมาเป็นเมนูอาหารกลางวันอีกด้วย
เมื่อทั้งสองทานอาหารกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยแล้วภูผาจึงพาหญิงสาวมาหาซื้อของใช้จำเป็นมีทั้งเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าซึ่งมันก็ไม่ได้จำเป็นสำหรับเธอเท่าไรเพราะของพวกนี้เธอยังมีใช้อยู่แต่ชายหนุ่มนี่สิเล่นเลือกซื้อให้เธอเองแทบทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ชุดชั้นในจนเธอเริ่มอายพนักงานที่จ้องมองมายังเธอและเขาตาเดียวซะแล้วสิ
“เอ่อ...พี่ภูคะ...ซื้อมาทำไมเยอะแยะคะพอแล้วค่ะ”
หญิงสาวตองรีบดึงมือชายหนุ่มออกจากการเดินเลือกซื้อชุดชั้นในเพราะจากที่เธอเห็นเขาหยิบมันดูจะเยอะเกินความจำเป็นแถมทั้งสีและรูปแบบก็ดูจะสยิวพิกลไม่ใช่แบบที่เธอชอบเลยสักนิดแต่เพื่อม่ให้ชายหนุ่มอยู่ตรงนี้นานเธอเลยต้องลากเขามาจ่ายเงินที่เคาเตอร์แล้วรีบไปก่อน
“พี่ยังเลือกไม่เสร็จเลยแพร”
ชายหนุ่มยังทำหน้างงเพราะอยู่ดีๆหญิงสาวก็ลากเขาออกมาจากร้านซะงั้นเขายังเพลินกับการเลือกชุดชั้นในให้เธออยู่เลย
“พอแล้วค่ะไม่อายบ้างหรือไงคะเดินเลือกชุดชั้นในอยู่ได้”
“จะอายอะไรก็ของเมีย”
ชายหนุ่มแกล้งพูดกระซิบใกล้ๆหญิงสาวทำเอาเธอเริ่มหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบเมื่อชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงอมยิ้มขึ้นมาทันทีเพราะเวลาที่หญิงสาวเขินมันดูน่ารักมากๆสำหรับเขา
“เย็นนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมเดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านทำไว้ให้”“อืมมมแพรอยากทานข้าวผัดปูค่ะ”“งั้นเดี๋ยวพี่โทรบอกคุณแม่ดีกว่าว่าแพรอยากทานเผื่อคุณแม่จะเป็นคนลงมือทำเองเพราะแม่พี่ทำข้าวผัดปูอร่อยที่สุดสำหรับพี่เลย”ชายหนุ่มพูดพร้อมยกนิ้วทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวทำเอาเธอต้องกลั้นขำกับท่าทางทะเล้นของเขายกใหญ่“แพรมาทางนี้”“คะ......”จู่ๆชายหนุ่มก็เดินจูงมือเธอเข้าร้านเครื่องเพชรทำเอาหญิงสาวแทบตั้งตัวไม่ทัน“แพรอยากได้วงไหนเลือกเลย”ชายหนุ่มยืนค้ำกับตู้กระจกที่มีเครื่องเพชรรายรอบอยู่ข้างในพร้อมผายมือให้หญิงสาวเลือกได้ตามใจชอบ“เอ่อ....มันคงไม่เหมาะกับแพรมั้งคะ”หญิงสาวตอบพร้อมยิ้มแหยๆเพราะคิดว่าเครื่องประดับพวกนี้ไม่ค่อยจะเหมาะกับตัวเธอสักเท่าไร“รบกวนช่วยเลือกแหวนเพชรที่น้ำงามที่สุดให้เธอด้วยนะครับราคาเท่าไรผมไม่มีปัญหา”“ได้เลยค่ะ....เดี๋ยวคุณผู้หญิงกับคูณผู้ชายรอสักครู่นะคะ”ชายหนุ่มเห็นว่ายังไงหญิงสาวก็คงจะไม่ยอมเลือกของพวกนี้เองแน่ๆและท่าทางก็ไม่ได้อยากได้ซะด้วยถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะเลือกครบเซตไปนานแล้วเขาจึงบอกให้พนักงานเลือกแหวนวงที่เพชรน้ำงามที่สุดมาให้เธอ“พี่ภูคะ....ไม่เอาค่า”หลัง
แอดดเมื่อหญิงสาวทานเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเปิดประตูโผล่หัวออกมาดูว่าชายหนุ่มไปหรือยังเมื่อเห็นว่าเขายังนั่งรอเธอยู่หน้าห้องครัวพร้อมส่งสายตาคาดโทษมาให้เอาทำเอาคิ้วของเธอผูกโบว์กันในทันที“แฮร่ๆๆ.....เอ่อ...แพรทานเสร็จแล้วไปนอนกันดีกว่าเนอะ”หญิงสาวแสร้งยิ้มแหยๆและเดินขึ้นห้องโดยไม่สนใจคนที่นั่งมองเธออยู่เมื่อมาถึงห้องหญิงสาวจึงเข้าไปแปลงฟันในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงเดินออกมาเมื่อก้าวออกจากประตูห้องน้ำก็เห็นชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้วเธอจึงเบาใจที่เขาไม่ได้บ่นอะไรเธออีกหญิงสาวจึงไปปิดไฟแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆเขาเบาๆหวังว่าเขาคงจะไม่โกรธเธอนะก็มันอยากทานจริงๆนี่นา“อุ้ย....พี่ภู”“แสบนักนะแพร...เมื่อกลางวันที่ให้พี่จอดร้านสะดวกซื้อเพื่อลงไปซื้ออาหารขยะนี่มาใช่ไหม”เมื่อเห็นหญิงสาวทิ้งตัวนอนชายหนุ่มเลยรวบตัวเธอมากอดจากด้านหลังพร้อมพูดข้างหูเธอเสียงแข็ง“เอ่อ.....ก็แพรอยากทานจริงๆนี่คะ”หญิงสาวยังเถียงชายหนุ่มข้างๆคูๆเธอรู้ว่าเธอผิดที่ไม่ฟังเขาแต่จะให้ทำยังไงล่ะก็มันอยากทานจริงๆนี่นา“ต่อไปนี้พี่จะดูแลอาหารการกินของแพรทุกมื้อ”ชายหนุ่มพูดเสียงดังฟังชัดเป็นการประกาศว่าเขาเอาจร
20.00 น.“จะอุ้มลูกไปไหนเหรอแพร”ชายหนุ่มที่พึ่งอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาโดยทั้งตัวพันผ้าขนหนูผืนเดียวเมื่อเห็นคนป็นภรรยาของเขาเตรียมของใช้แล้วก็พวกนมใส่กระเป๋าแถมกำลังอุ้มลูกสาวของเขาที่นอนขดตัวกลมอยู่ในเปลเตรียมจะออกไปข้างนอกอีกจึงต้องเอ่ยถามว่าเธอจะไปไหน“คือยายแพรให้พาน้องเพลินไปนอนด้วยน่ะค่ะแกคิดถึง”“อ่อ...งั้นไปเถอะ”ชายหนุ่มเห็นว่ายายของหญิงสาวไม่ได้ไปมาที่นี่บ่อยนักเขาเองก็ยุ่งซะจนไม่ค่อยมีเวลาพาเธอและลูกไปหาก็เลยยอมปล่อยให้ลูกสาวไปนอนกับยายของคนเป็นภรรยาถ้าไม่อย่างนั้นเขาไม่ยอมปล่อยลูกสาวไปแน่เพราะเขาเองต้องนอนกอดเจ้าก้อนของเขาทุกคืน“ทำไมพี่ภูยังไม่ใส่เสื้อผ้าอีกล่ะคะ”หญิงสาวเปิดประตูเข้ามาก็เห็นคนเป็นสามียังนั่งอยู่บนเตียงโดยที่ยังมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันอยู่เธอรู้สึกแปลกใจเพราะเธอก็ออกไปหายายของเธอพักใหญ่แล้วทำไมกลับมาชายหนุ่มยังอยู่สภาพเดิมอยู่เลย“เอ๋...”หญิงสาวถึงกับทำหน้างงคำถามที่เธอถามเขาเมื่อกี้ยังไม่ได้รับคำตอบจากชายหนุ่มเลยจู่ๆเขาก็ลุกขึ้นเดินมาปิดไฟแล้วดึงมือเธอไปนอนกอดอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้วเธอพอจะเดาออกว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น“เดี๋ยวค่ะพี่ภูแพรยังไม่
บริษัท XXX ในเครือแอนเดอสัน09.00 น.แพรไหมหญิงสาวหน้าหวานนั่งกอดเอกสารสมัครงานด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลที่หน้าห้องของเจ้าของบริษัทเธอมาสมัครงานในตำแหน่งบัญชีถ้าเธอไม่ได้งานที่นี่เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปสมัครงานที่ไหนแล้วเพราะไปที่ไหนก็ไม่มีใครอยากที่จะรับเพราะเกรดเฉลี่ยและประสบการณ์การทำงานของเธอไม่สู้ดีเอาซะเลยแถมรสนิยมการแต่งตัวก็ดูเฉิ่มไปซะอีกหญิงสาวเคยไปทำงานที่เมืองนอกตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆเพราะมีญาติๆชวนไปทำงานเสริฟอาหารร้านอาหารไทยที่โน่นที่เธอยอมไปเพราะว่าญาติที่มาชวนบอกว่าได้เงินดีบวกกับตอนนั้นเธอยังหางานไม่ได้แถมยายเธอก็ดันมาป่วยหนักต้องใช้ค่ารักษาที่สูงเธอจงยอมไปทั้งที่ในใจก็ไม่รู้ว่าจะดีจริงอย่างที่ญาติบอกหรือป่าวแต่ตอนนี้มันก็เป็นทางเดียวที่จะหาเงินมารักษายายของเธอได้หญิงสาวใช้เงินที่ได้จากเงินประกันอุบัติเหตุของพ่อกับแม่เธอที่เก็บไว้หลังจากที่ท่านเสียเดินทางไปทำงานที่ร้านอาหารที่ออสเตรเลียแต่อยู่ทำได้ไม่ถึงสองเดือนเธอก็ต้องกลับมาที่เมืองไทยเพราะมีเรื่องที่ทำให้เธอต้องหนีกลับบ้านโดยด่วนเพราะเธอทำใจที่จะอยู่ที่นั่นต่อไปไม่ได้แล้วซึ่งเรื่องนี้เธอปิดเป็นความลับไม่มีใครรู้ว่าเธอหนีกลั
ภูผาไม่คิดว่าจะได้เจอหญิงสาวที่เขาเคยเจอเมื่อเดือนก่อนเขาได้กระทำล่วงเกินเธอที่ออสเตรเลียในคืนนั้นเพราะเขาเข้าใจผิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่หุ้นส่วนของเขาส่งมาให้ประกอบกับตอนนั้นเขาก็เริ่มเมาจนได้ที่แล้วด้วยเขารู้ตัวว่าเขาเป็นคนแรกของเธอเพราะเห็นจากรอยที่เตียงนอนเมื่อตอนที่เขาตื่นขึ้นมาที่เขารู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงของหุ้นส่วนที่เขาส่งมาเพราะว่าเช้าของวันนั้นหุ้นส่วนของเขาได้โทรมาต่อว่าว่าชายหนุ่มนั้นปฎิเสธน้ำใจของเขาได้อย่างไรที่ไม่ยอมรับผู้หญิงที่เขาส่งไปให้ทำให้เขาได้รู้ว่าคนที่เขานอนด้วยเมื่อคืนไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าเขาจึงรีบสืบหาผู้หญิงคนที่เขาบังคับขืนใจเมื่อคืนนี้อย่างเร็วที่สุดเมื่อรู้ว่าเธอเป็นเด็กเสริฟที่ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งในออสเตรเลียเขาจึงไปตามหาเธอถึงที่แต่ก็ได้คำตอบว่าเธอได้หายไปตั้งแต่คืนนั้นแล้วแล้วก็ไม่มีใครติดต่อเธอได้ด้วยเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาเธอที่ไหนรู้แค่ว่าชื่อแพรไหมเท่านั้นเองความรู้สึกผิดยังแล่นอยู่ในหัวใจเขาถึงทุกวันนี้เลยสำหรับเขาเองก็ผ่านผู้หญิงมามากเขาจะเลือกนอนกับผู้หญิงที่สมยอมกับเขาเท่านั้นแต่สำหรับเธอไม่รู้ทำไมเขาจึงได้บังคับขืนใจเธอแบบนั้นยิ่งนึกถึงเ
20.00น “ชาร์ลฉันได้ที่อยู่ของเธอมาแล้วอยู่ในเมลนายรีบไปสืบประวัติเพิ่มเติมของเธอมาด่วนเลยนะ”“ครับคุณภูผา”ชาร์ลอ่านอีเมลของเจ้านายหนุ่มของเขาถึงกับอมยิ้มปกติเจ้านายหนุ่มของเขาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจประวัติของสาวคนไหนแต่กับเธอคนนี้กลับให้เขาใช้เวลาสืบอยู่นานโดยที่ไม่ยอมลดละความพยายามเขาเองก็ไม่รู้ว่าแม่สาวคนนี้มีอะไรให้เจ้านายของเขาสนใจนักหนาแต่ในเมื่ออยากรู้เขาก็จะสืบให้ตามหน้าที่ในเมื่อได้ที่อยู่มาแล้วคงจะไม่ยากเรื่องการสืบชาร์ลคิดว่าไม่เกินสามวันได้เรื่องแน่นอนเช้าวันต่อมาวันนี้แพรไหมตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปเดินหางานอีกตามเคยหญิงสาวก็ไม่รู้ว่าจะไปหางานที่ไหนแต่ก็ขอออกมาก่อนเพื่อให้คนที่เป็นยายสบายใจ“ว้ายยย..ช่วยด้วยๆๆช่วยด้วยค่าโจรขโมยกระเป๋าค่า”เมื่อหญิงสาวเดินมาถึงหน้าร้านสะดวกซื้อเธอก็ได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วยเมื่อเห็นว่มีโจรผู้ชายกำลังกระชากกระเป๋าของผู้หญิงวัยกลางคนอยู่เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยทันทีแบบไม่คิดชีวิต“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ...คุณตำรวจขาทางนี้ค่ะ....โอ้ยยยยย”แพรไหมรีบวิ่งไปสกัดหน้าผู้ร้ายแล้วแย่งกระเป๋าคืนเมื่อเห็นตำรวจวิ่งมาเธอเลยรีบเรียกให้ตำรวจรีบมาจับผู้ร้ายทำให้ไม่ทัน
“สวสดีครับคุณป้า...คนเจ็บเป็นอะไรมาครับ”เมื่ออัคนีเห็นแม่ของเพื่อนเข้ามาก็รีบเข้ามาสวัสดีแต่เมื่อเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่มีเลือดออกอยู่ก็ต้องเอ่ยถามยกใหญ่ว่าเธอเป็นอะไรมา“โดนโจรทำร้ายน่ะสิ”“งั้นเชิญคุณที่ห้องทำแผลเลยครับ”“ค่ะ”แพรไหมที่ยืนกุมแผลตัวเองอยู่ตอนนี้ได้เดินตามหมอหนุ่มไปที่ห้องทำแผลตามที่เขาบอกเธอรู้สึกว่าเห็นเลือดตัวเองแล้วจะเป็นลมเพราะเธอกลัวเลือดเป็นที่สุดอยากจะให้หมอทำแผลแล้วเช็ดเลือดออกเร็วๆ“แล้วคุณแม่เป็นอะไรหรือป่าวคะ”เพลงพิณเมื่อเห็นหญิงสาวเข้าไปที่ห้องทำแผลแล้วจึงหันมาดูอาการแม่ของตนเองที่พึ่งจะโดนคนร้ายกระชากกระเป๋ามาว่าเป็นยังไงบ้าง“แม่ไม่เป็นอะไรหรอกแม่หนูคนนั้นมาช่วยได้ทันจนตัวเองบาดเจ็บนั่นแหละ”พิมพาเองไม่ได้เป็นอะไรมากเพราะแพรไหมมาช่วยเธอได้ทันนึกสงสารหญิงสาวที่กล้าหาญจนเกินผู้หญิงจนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ“แล้วนี่เราออกเวรตั้งแต่เมื่อไรถึงมาที่นี่ได้มีเวรถึงจนถึงเย็นไม่ใช่เหรอ”พิมพาทักลูกสาวของตนที่เป็นหมอสูตินารีแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งว่ามาทำไมถึงมาที่นี่ได้เห็นวันนี้บอกมีเวรถึงเย็น“ก็พี่ชายสิคะมาคุยเรื่องรับพนักงานหน้าเคาท์เตอร์ใหม่ไม่ได้เพ
“อย่างนั้นเองเหรอ...งั้นให้เธอนอนพักก่อนก็แล้วกัน”“งั้นเพลงว่าคงต้องเลื่อนการให้ปากคำที่โรงพักแล้วล่ะค่ะคุณแม่...งั้นเดี๋ยวเพลงจัดการให้นะคะ”“ก็ดีเหมือนกัน”“เพลงว่าคุณแม่กลับไปพักที่บ้านก่อนนะคะถ้าเธอฟื้นแล้วเดี๋ยวเพลงไปส่งเธอที่บ้านเองค่ะ”“เอาอย่างนั้นก็ได้จ๊ะ”พิมพารู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวจึงกะว่านั่งรอจนกว่าหญิงสาวจะฟื้นแต่เมื่อเพลงพิณเกรงว่าคนเป็นแม่จะนั่งรอนานจึงบอกให้กลับไปก่อนเดี๋ยวเธอจะเป็นคนจัดการทางนี้เองไม่ต้องเป็นห่วง20นาทีต่อมา“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ”เมื่อเพลงพิณเห็นหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มขยับตัวลืมตาเธอจึงเขยิบเข้าไปทักทายใกล้ๆ“เอ่อคุณ...”แพรไหมลืมตาตื่นแบบสลึมสลือเธอจำได้ว่าหญิงสาวที่นั่งข้างเตียงเธอเป็นคนที่เจอเมื่อตอนที่มาถึงแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร“ฉันชื่อเพลงพิณจ่ะเป็นลูกสาวของคนที่เธอช่วยไว้น่ะ”เมือเพลงพิณเห็นแพรไหมทำหน้างงเลยเอ่ยแนะนำตัวเองก่อนว่าเป็นลูกสาวของผู้หญิงที่หญิงสาวช่วยไว้“ค่ะ...ฉันแพรไหมค่ะ”“เรียกพี่ว่าพี่เพลงก็ได้พี่เห็นในแฟ้มเรซูเม่ของแพรแล้วแพรอายุน้อยกว่าพี่แล้วแพรกำลังหางานอยู่ใช่ไหมจ๊ะ”เพลงพิณถือโอกาศตีสนิทกับแพรไหมทันทีเพราะเธออยากที่