“สวสดีครับคุณป้า...คนเจ็บเป็นอะไรมาครับ”
เมื่ออัคนีเห็นแม่ของเพื่อนเข้ามาก็รีบเข้ามาสวัสดีแต่เมื่อเหลือบไปเห็นหญิงสาวที่มีเลือดออกอยู่ก็ต้องเอ่ยถามยกใหญ่ว่าเธอเป็นอะไรมา
“โดนโจรทำร้ายน่ะสิ”
“งั้นเชิญคุณที่ห้องทำแผลเลยครับ”
“ค่ะ”
แพรไหมที่ยืนกุมแผลตัวเองอยู่ตอนนี้ได้เดินตามหมอหนุ่มไปที่ห้องทำแผลตามที่เขาบอกเธอรู้สึกว่าเห็นเลือดตัวเองแล้วจะเป็นลมเพราะเธอกลัวเลือดเป็นที่สุดอยากจะให้หมอทำแผลแล้วเช็ดเลือดออกเร็วๆ
“แล้วคุณแม่เป็นอะไรหรือป่าวคะ”
เพลงพิณเมื่อเห็นหญิงสาวเข้าไปที่ห้องทำแผลแล้วจึงหันมาดูอาการแม่ของตนเองที่พึ่งจะโดนคนร้ายกระชากกระเป๋ามาว่าเป็นยังไงบ้าง
“แม่ไม่เป็นอะไรหรอกแม่หนูคนนั้นมาช่วยได้ทันจนตัวเองบาดเจ็บนั่นแหละ”
พิมพาเองไม่ได้เป็นอะไรมากเพราะแพรไหมมาช่วยเธอได้ทันนึกสงสารหญิงสาวที่กล้าหาญจนเกินผู้หญิงจนทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ
“แล้วนี่เราออกเวรตั้งแต่เมื่อไรถึงมาที่นี่ได้มีเวรถึงจนถึงเย็นไม่ใช่เหรอ”
พิมพาทักลูกสาวของตนที่เป็นหมอสูตินารีแพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งว่ามาทำไมถึงมาที่นี่ได้เห็นวันนี้บอกมีเวรถึงเย็น
“ก็พี่ชายสิคะมาคุยเรื่องรับพนักงานหน้าเคาท์เตอร์ใหม่ไม่ได้เพลงก็เลยต้องมาคุยแทนเลยต้องขอลามาที่นี่ก่อนน่ะค่ะ”
เพลงพิณตอบคนเป็นแม่ด้วยสีหน้าบูดๆนิดหน่อยที่พี่ชายของเธออยู่ดีๆก็มาสั่งให้มาดูงานที่นี่แทนซะงั้น
“คุณพิมครับนี่เอกสารของผู้หญิงคนที่ช่วยคุณพิมไว้ครับ”
สมหมายหยิบแฟ้มมาจากในรถเห็นว่าเป็นของหญิงสาวเลยนำมาให้เจ้านายของเขาแล้วเดินกลับไปรอที่รถต่อ
“นั่นเอกสารอะไรคะคุณแม่...เพลงขอดูหน่อยค่ะ”
“หืมเราจะไปดูของเค้าได้ยังไงกัน....ไม่มีมารยาท”
“โหนิดเดียวเองค่ะคุณแม่”
“อื้ออๆ”
พิมพาเห็นว่าในแฟ้มน่าจะไม่มีอะไรเลยให้ลูกสาวของเธอดูตัดรำคาญเพราะเธอรู้ดีว่าถ้าเธอไม่ให้ดูยัยลูกสาวตัวแสบของเธอก็จะคะยั้นคะยออยู่แบบนั้น
“นี่มันเรซูเม่สมัครงานนี่คะ...แสดงว่าผู้หญิงที่ช่วยคุณแม่ไว้ต้องหางานอยู่แน่เลย”
“คิดอะไรอยู่ยัยเพลง”
พิมพาเห็นสีหน้าของลูกสาวเธอที่ทำสีหน้าเจ้าเล่ห์ก็ดูออกว่าเพลงพิณต้องคิดอะไรแผลงๆอีกแน่
“ป่าวค่ะเพลงแค่คิดว่าถ้าผู้หญิงคนนี้หางานอยู่เพลงก็จะให้เธอทำงาที่นี่คุณแม่ว่าดีไหมคะ”
พิมพาลองคิดตามที่ลูกสาวของเธอพูดถ้าหญิงสาวที่ช่วยเธอเอาไว้กำลังหางานอยู่จริงๆจะให้เธอทำงานที่นี่ก็ดีเหมือนกันเป็นการตอบแทนที่หญิงสาวช่วยเธอไว้ด้วยแต่ยังไงก็ต้องถามความสมัครใจจากหญิงสาวก่อนอยู่ดีเพราะเธอไม่ชอบบังคับใคร
“แม่ว่าก็ดีนะคนดีๆสมัยนี้ก็หายากอยู่ด้วยแต่แม่ว่าก็ต้องถามความสมัครใจจากเธอก่อนนะลูก”
“เรื่องนี้ไม่มีปัญหาค่ะคุณแม่เดี๋ยวเพลงจัดการคุยกับเธอเอง”
เพลงพิณรู้ว่าถ้าเธอพูดยังไงหญิงสาวคนนั้นก็ต้องใจอ่อนกับเธออยู่แล้วเรื่องนี้เธอขอจัดการเองเลยละกันเพราะถ้าให้เธอมามัวนั่งสัมภาษณ์พนักงานทีละคนแทนพี่ชายเธอเธอก็ขอไม่เอาด้วยปวดหัวตาย
“อ้าวพี่หมอออกมาแล้วค่ะคุณแม่”
“แล้วแม่หนูคนนั้นล่ะตาอัค”
เมื่อพิมพาเห็นอัคนีเดินออกมาแล้วก็ถามหาหญิงสาวที่เข้าไปทำแผลว่าทำไมถึงไม่ออกมาพร้อมกัน
“เอ่อเธอเห็นเลือดตัวเองแล้วเกิดเป็นลมขึ้นมาน่ะครับผมเลยให้นอนพักอยู่ด้านใน”
หมออัคนีพูดปนอมยิ้มเขารู้สึกทั้งถูกชะตาละเอ็นดูหญิงสาวตัวเล็กคนนี้เหลือเกินอุตส่าห์กล้าหาญถึงขนาดต่อสู้กับโจรแต่มาเป็นลมเพราะเห็นเลือดตัวเอง
“อย่างนั้นเองเหรอ...งั้นให้เธอนอนพักก่อนก็แล้วกัน”“งั้นเพลงว่าคงต้องเลื่อนการให้ปากคำที่โรงพักแล้วล่ะค่ะคุณแม่...งั้นเดี๋ยวเพลงจัดการให้นะคะ”“ก็ดีเหมือนกัน”“เพลงว่าคุณแม่กลับไปพักที่บ้านก่อนนะคะถ้าเธอฟื้นแล้วเดี๋ยวเพลงไปส่งเธอที่บ้านเองค่ะ”“เอาอย่างนั้นก็ได้จ๊ะ”พิมพารู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวจึงกะว่านั่งรอจนกว่าหญิงสาวจะฟื้นแต่เมื่อเพลงพิณเกรงว่าคนเป็นแม่จะนั่งรอนานจึงบอกให้กลับไปก่อนเดี๋ยวเธอจะเป็นคนจัดการทางนี้เองไม่ต้องเป็นห่วง20นาทีต่อมา“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ”เมื่อเพลงพิณเห็นหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มขยับตัวลืมตาเธอจึงเขยิบเข้าไปทักทายใกล้ๆ“เอ่อคุณ...”แพรไหมลืมตาตื่นแบบสลึมสลือเธอจำได้ว่าหญิงสาวที่นั่งข้างเตียงเธอเป็นคนที่เจอเมื่อตอนที่มาถึงแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร“ฉันชื่อเพลงพิณจ่ะเป็นลูกสาวของคนที่เธอช่วยไว้น่ะ”เมือเพลงพิณเห็นแพรไหมทำหน้างงเลยเอ่ยแนะนำตัวเองก่อนว่าเป็นลูกสาวของผู้หญิงที่หญิงสาวช่วยไว้“ค่ะ...ฉันแพรไหมค่ะ”“เรียกพี่ว่าพี่เพลงก็ได้พี่เห็นในแฟ้มเรซูเม่ของแพรแล้วแพรอายุน้อยกว่าพี่แล้วแพรกำลังหางานอยู่ใช่ไหมจ๊ะ”เพลงพิณถือโอกาศตีสนิทกับแพรไหมทันทีเพราะเธออยากที่
“อ้าวแพรนั่นพาใครมาด้วยน่ะแล้วแขนไปโดนอะไรมาลูก”ทับทิมเมื่อเห็นหลานสาวยืนคุยกับหญิงสาวที่เธอไม่เคยห็นหน้าเลยเดินเข้ามาถามเมื่อเห็นว่าแขนของแพรไหมมีผ้าพันแผลก็รีบเข้ามาดูว่าหลานสาวของเธอเป็นอะไร“แพรว่าเราไปนั่งคุยกันข้างในดีกว่าค่ะ”แพรไหมเห็นว่าคงต้องคุยกันยาวเลยรีบบอกให้ทั้งสองเข้าไปคุยที่ด้านในน่าจะดีกว่าเพราะขืนยืนอยู่ตรงนี้กว่าจะคุยรู้เรื่องคงจะเมื่อยกันไปข้างนึง“นี่พี่เพลงเป็นเจ้านายของแพรค่ะยาย”“สวัสดีค่ะคุณยายหนูชื่อเพลงพิณเรียกเพลงเฉยๆก็ได้ค่ะ”ทั้งสามนั่งคุยกันพักใหญ่เกี่ยวกับเรื่องบาดแผลของแพรไหมว่ามาได้อย่างไรทำเอาคนเป็นยายต้องนั่งกุมหัวใจของเธอยกใหญ่เพราะเมื่อได้ยินว่าหลานไปต่อสู้กับผู้ร้ายโดยที่ไม่ห่วงตัวเองทำเอาคนเป็นยายถึงกับจะเป็นลมเพราะเป็นห่วงหลานสาวแต่ก็มีเรื่องให้ดีใจก็ที่แพรไหมได้งานที่ดีๆทำแถมยังใกล้บ้านอีกด้วยทำให้เธอสบายใจไปอีกเรื่อง“ยายต้องขอบใจหนูเพลงมากเลยนะคะที่รับยัยแพรเข้าทำงานถึงหลานยายจะดูซื่อบื้อหน่อยแต่ก็ขยันนะคะ”“หือออ..ยายอ้า”เพลงพิณนั่งขำสองยายหลานที่เขาหยอกกันน่าเอ็นดูเสียจริงถึงทั้งครอบครัวของแพรไหมจะเหลือกันอยู่แค่สองคนแต่เพลงพิณก็รู้สึกถ
“ก็น้องแพรกำลังหางานอยู่พอดีนี่คะแถมยังนิสัยดีอีกด้วย”เพลงพิณบอกกับพี่ชายเธอทั้งที่มือยังเขี่ยมือถือแล้วตายังจ้องหน้าจออยู่“เราพึ่งรู้จักเธอคนนั้นได้แปปเดียวเองมั่นใจแค่ไหนว่าเธอเป็นคนดี”ภูผาอดหมั่นใส้ในความมั่นอกมั่นใจของน้องสาวเขามากที่เจอผุ้หญิงคนนั้นแค่ชั่วครู่ก็บอกว่าเธอดีอย่างนั้นดีอย่างนี้แล้ว“มั่นใจล้านเปอร์เซ็นแล้วคุณยายของน้องแพรก็ทำกับข้าวอร่อยยยม้ากกกมากกกก”ครั้งนี้เพลงพิณละจากมือถือหันมาจ้องหน้าตอบคำถามของพี่ชายเธอด้วยความมั่นใจ“แล้วพี่จะคอยดู..เอ...ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรนะ”ภูผานึกสะดุดใจตั้งแต่ที่น้องสาวของเขาพูดชื่อหญิงสาวตั้งแต่ทีแรกแล้วจึงถามขึ้นอีกครั้ง“อ๋อ…น้องแพรค่ะชื่อจริ………”Rrrrrrrrrrrrrrเพลงพิณยังไม่ทันได้บอกชื่อจริงของหญิงสาวเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อนเมื่อเห็นว่าป็นเบอจากที่ไหนก็เดินออกไปคุยหน้าบ้าน“สวัสดีค่ะ”“มีเคสผ่าตัดด่วนเหรอคะได้ค่ะเดี๋ยวหมอรีบไปเลยค่ะ”เพลงพิณคุยโทรศัพท์ได้สักแปปก็เดินเข้ามาหยิบกุญแจรถเพื่อที่จะเข้าไปในโรงพยาบาลเพราะมีพยาบาลโทรแจ้งว่ามีเคสฉุกเฉินต้องผ่าตัดทำคลอดด่วน“มีอะไรเหรอเพลง”พิมพาเห็นลูกสาวของเธอดูตกใจตั้งแต่เ
คืนนั้นที่โรงแรมที่ซิดนีย์หลังจากที่เขาได้คุยงานกับลูคัสหุ้นส่วนเรียบร้อยแล้วเขาจึงกลับมาพักที่โรงแรมวันนี้การคุยเรื่องธุรกิจของเขากับหุ้นส่วนที่อยู่ที่นี่เป็นไปด้วยดีดูท่าว่าอีกฝ่ายจะพอใจในแผนงานของเขาเป็นอย่างมากและทั้งสองเองก็คุยกันอย่างถูกคออีกด้วยเมื่อดื่มสังสรรค์กันนิดหน่อยในคลับเขาก็เห็นว่ามันเริ่มดึกมากแล้วเขาจึงขอตัวมาพักผ่อนRrrrrrrrrrrrrRrrrrrrrrr“สวัสดีคุณแอนเดอสันนี่ผมเองลูคัส”“...ว่าไงลูคัส”เมื่อภูผามาถึงโรงแรมแล้วเขาเตรียมจะพักผ่อนจู่ๆก็มีสายเข้ามาพอดีเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครเขาจึงกดรับทันทีเพราะคิดว่าจะมีเรื่องด่วน“คือพอดีผมเห็นคุณมาคุยงานที่นี่กับลูกน้องแค่สองคนไม่มีสาวๆมาด้วยผมกลัวว่าคุณจะเหงาผมเลยส่งสาวๆสวยๆไปเสริฟอาหารให้คุณเพื่อเป็นการคลายเหงาให้ดีไหมครับ”“อืมคือวันนี้ผมขอพักผ่อนก่อนดีกว่าขอบคุณที่กลัวว่าผมจะเหงานะลูคัส”โถ่เอ้ยคิดว่าจะมีเรื่องด่วนอะไรรู้แบบนี้เขาตั้งใจจะไม่รับสายดีกว่าชายหนุ่มสบถในใจเพราะวันนี้เขาอยากที่จะพักผ่อนไม่ได้ต้องการสาวๆที่ไหนมาผ่อนคลายให้เขาด้วยคำว่าเสริฟอาหารเขาก็พอรู้อยู่หรอกว่าลูคัสหมายความว่าอะไร“แต่ผมอยากให้คุณผ่อนคลายสักห
“นี่คุณหยุดเลิกเล่นบทเด็กสาวบริสุทธิ์ซะทีได้ไหมทำหน้าที่ขายบริการของคุณให้มันเสร็จๆไปเลิกดิ้นเราจะมาสนุกกันโอเคไหมเพราะผมไม่ชอบฟิวนี้หรืออยากจะโก่งค่าตัวเงินที่หุ้นส่วนผมจ้างคุณมันไม่พอใช่ไหมเอางี้ทำตามใจผมแล้วคุณจะได้เงินพิเศษก้อนโตโอเค๊”ชายหนุ่มพูดใส่หน้าหญิงสาวเสียงแข็งอยากให้เธอเลิกเล่นบทเด็กส่งของสาวบริสุทธิ์นี้ซะทีเพราะเขาเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาแล้วจากการที่ได้ใกล้ตัวหญิงสาวกลิ่นตัวเธอช่างหอมในแบบที่ไม่เหมือนใครจริงๆและกลิ่นนี้ก็ปลุกอารมณ์ความเป็นชายในตัวของเขาได้ดีชะมัดเขาต้องการให้บทรักของเขาดำเนินไปอย่างเรียบง่ายไม่จำเป็นต้องมีลูกเล่นอะไรเยอะเพราะเขาไม่อยากที่จะใช้พลังงานมากแต่หญิงสาวก็ช่างอินในบทเหลือเกินเขาจึงต้องดุปรามเธอหน่อย“เงินบ้าอะไรฉันไม่อยากได้แล้วฉันก็ไม่ได้ขายตัวด้วยปล่อยฉันไปเถอะ...ฮือๆๆๆ..ฉันไหว้ล่ะ”ชายหนุ่มรู้สึกทึ่งในตัวผู้หญิงคนนี้เหลือเกินที่ทำท่าทางอาการกลัวได้สมจริงยิ่งนักในเมื่อเธอยังอินกับการแสดงแบบนี้ก็ปล่อยให้เธออินต่อไปเพราะตอนนี้เข้เริ่มข่มอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ไหวแล้ว“โถ่เอ้ยยย....เงียบ...ไม่ชอบฟังเสียงร้องให้เข้าใจไหม...ไม่ชอบ...ไม่ชอบ...ไม่ชอบบบบบบ.
21.00 น.“ยายจ๋าก่อนนอนกินยาหรือยังจ๊ะ”แพรไหมเดินส่งเสียงเจื้อยแจ้วตั้งแต่หน้าห้องเพื่อถามว่ายายของเธอกินยายหรือยังเพราะกลัวว่าคนเป็นยายจะลืมอีก“กินแล้วลูกแล้วนี่แขนเป็นไงบ้างแพร”ทับทิมรู้ว่าหลานสาวของเธอต้องเข้ามาถามแบบนี้อยู่เป็นประจำทุกวันอยู่แล้วเธอจึงพยายามบอกตัวเองว่าอย่าลืมกินยาเสมอโดยใช้วิธีขีดที่ปฎิทินเล่มเล็กบนหัวเตียงหลานสาวของเธอจะได้ไม่เป็นห่วงพร้อมถามถึงอาการที่แขนของเธอด้วย“ดีขึ้นแล้วจ๊ะยายแพรกินยาแก้ปวดกับแก้อักเสบที่หมอให้มาแล้วจ๊ะ”“งั้นไปนอนพักผ่อนเถอะยายก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”“เดี๋ยวแพรปิดไฟเลยนะจ๊ะยาย”เมื่อเห็นผู้เป็นยายพยักหน้ารับหญิงสาวก็ปิดไฟแล้วปิดประตูห้องของยายเธอแล้วจึงเดินเข้ามาที่ห้องของตัวเองหญิงสาวจะเดินไปหยิบหนังสือที่โต้ะวางของของเธอขึ้นมาอ่านแต่ตาก็ดันเหลือบไปเห็นแฟ้มเรซูเม่ของตัวเองพลันทำให้นึกถึงเรื่องที่เธอเข้าไปสัมภาษณ์งานกับผู้ชายใจร้ายคนนั้นแล้วภาพเหตุการณ์ร้ายๆที่ออสเตรเลียก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธออีกครั้งในคืนนั้นที่ร้านอาหารไทยในซิดนี่ย์“แพรจะกลับแล้วเหรอพี่ฝากส่งอาหารให้ลูกค้าที่โรงแรมใกล้ๆนี่หน่อยสิลูกค้าเป็นคนไทย”สาลี่เจ๊เจ้าของร้านอา
หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอถึงเมื่อไรมารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเช้าเมื่อเห็นชายหนุ่มยังหลับสนิทอยู่เธอจึงค่อยๆลุกขึ้นมาแต่งตัวแล้วหยิบกระเป๋าออกจากห้องไปโดยเร็วด้วยร่างกายที่อ่อนล้าและจิตใจของเธอที่กำลังอ่อนแอทำให้หญิงสาวนึกถึงบ้านที่เมืองไทยเธอจึงเก็บกระเป๋าแล้วกลับเมืองไทยแบบที่ไม่ไดบอกใครเพราะทำใจอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆเมื่อแพรไหมนั่งคิดถึงเรื่องอดีตได้สักพักก็สลัดความคิดออกจากหัวละทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเธอทันทีเธอหวังว่าสมองที่ไม่ดีของเธอจะทำให้ลืมเรื่องนี้ได้ไวๆก็แล้วกันเช้าวันต่อมาก๊อกๆๆๆๆ“ยายจ๋าตื่นหรือยังจ๊ะ”แพรไหมเห็นว่าวันนี้ยายของเธอไม่ได้อยู่ที่ครัวตอนเช้าเหมือนเช่นทุกวันเธอจึงคิดว่ายายยังต้องนอนอยู่ในห้องแน่ๆจึงเคาะประตูเรียกเมื่อหญิงสาวเห็นว่าไม่มีคนมาเปิดจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปดูว่ายายเธออยู่ในนี้เหมือนที่เธอคิดหรือป่าว“ยายจ๋ายาย....ยายยยยยยยย”หญิงสาวเรียกยายของเธอที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยน้ำเสียงสั่นๆปนร้อนรนเพราะเธอเขย่าตัวยายของเธอแล้วแต่ก็ไม่มีท่าท่ว่ายายของเธอจะตื่นขึ้นมา“ฮัลโหลรถพยาบาลเหรอคะ”หญิงสาวหยิบมือถือโทรเรียกรถพยาบาลทันทีดีที่ครั้งก
ภูผาจากที่หันหน้ามองไปทางอื่นอยู่ก็ต้องหันกลับมามองเธออย่างตกใจคิดว่านี่เธอเสียใจที่เจอเขาขนาดนี้เลยเหรอชายหนุ่มนั่งหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนขนาดนั้นเขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอแล้วรวบตัวเธอมากอดไว้พร้อมลูบหัวหญิงสาวเบาๆคราแรกคิดว่าเธอจะขัดขืนแต่เมือเขาเข้าไปกอดเธอก็ดันตัวมาซบที่อกของเขาจนตอนนี้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาใส่มาเปียกน้ำตาเธอหมดแล้ว“ฮือๆๆๆ...”แพรไหมเริ่มสะอื้นอ่อนลงเมื่อชายหนุ่มเข้ามาปลอบเธอคราแรกหญิงสาวก็รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อยที่อยู่ดีๆเขาก็เข้ามากอดปลอบเธอหญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มอาจจะรู้สึกสงสารหรือไม่ก็สมเพชเธอล่ะมั้งแต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกันที่มีใครสักคนอยู่ปลอบใจเธอเพราะจิตใจเธอตอนนี้อ่อนแอเหลือเกินภูผากอดหญิงสาวอยู่แบบนั้นจนเธอเริ่มที่จะสะอื้นน้อยลงแต่เมื่อก้มมองคนที่เขากอดอยู่พบว่าเธอค่อนข้างที่จะเหม่อลอยแปลกๆเขาคิดว่าตัวหญิงสาวเองคงต้องมีเรื่องอื่นที่ทำให้เธอกังวลใจอยู่เป็นแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่ดูเศร้าหนักขนาดนี้หรอกแต่เขาเองก็ไม่ได้ถามอะไรเธอออกไปเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอแย่ไปกว่านี้อีกได้แต่กอดเธอแล้วลูบหัวเบาๆปลอบเธอไปเท่านั้นR
20.00 น.“จะอุ้มลูกไปไหนเหรอแพร”ชายหนุ่มที่พึ่งอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาโดยทั้งตัวพันผ้าขนหนูผืนเดียวเมื่อเห็นคนป็นภรรยาของเขาเตรียมของใช้แล้วก็พวกนมใส่กระเป๋าแถมกำลังอุ้มลูกสาวของเขาที่นอนขดตัวกลมอยู่ในเปลเตรียมจะออกไปข้างนอกอีกจึงต้องเอ่ยถามว่าเธอจะไปไหน“คือยายแพรให้พาน้องเพลินไปนอนด้วยน่ะค่ะแกคิดถึง”“อ่อ...งั้นไปเถอะ”ชายหนุ่มเห็นว่ายายของหญิงสาวไม่ได้ไปมาที่นี่บ่อยนักเขาเองก็ยุ่งซะจนไม่ค่อยมีเวลาพาเธอและลูกไปหาก็เลยยอมปล่อยให้ลูกสาวไปนอนกับยายของคนเป็นภรรยาถ้าไม่อย่างนั้นเขาไม่ยอมปล่อยลูกสาวไปแน่เพราะเขาเองต้องนอนกอดเจ้าก้อนของเขาทุกคืน“ทำไมพี่ภูยังไม่ใส่เสื้อผ้าอีกล่ะคะ”หญิงสาวเปิดประตูเข้ามาก็เห็นคนเป็นสามียังนั่งอยู่บนเตียงโดยที่ยังมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันอยู่เธอรู้สึกแปลกใจเพราะเธอก็ออกไปหายายของเธอพักใหญ่แล้วทำไมกลับมาชายหนุ่มยังอยู่สภาพเดิมอยู่เลย“เอ๋...”หญิงสาวถึงกับทำหน้างงคำถามที่เธอถามเขาเมื่อกี้ยังไม่ได้รับคำตอบจากชายหนุ่มเลยจู่ๆเขาก็ลุกขึ้นเดินมาปิดไฟแล้วดึงมือเธอไปนอนกอดอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้วเธอพอจะเดาออกว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น“เดี๋ยวค่ะพี่ภูแพรยังไม่
แอดดเมื่อหญิงสาวทานเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเปิดประตูโผล่หัวออกมาดูว่าชายหนุ่มไปหรือยังเมื่อเห็นว่าเขายังนั่งรอเธอยู่หน้าห้องครัวพร้อมส่งสายตาคาดโทษมาให้เอาทำเอาคิ้วของเธอผูกโบว์กันในทันที“แฮร่ๆๆ.....เอ่อ...แพรทานเสร็จแล้วไปนอนกันดีกว่าเนอะ”หญิงสาวแสร้งยิ้มแหยๆและเดินขึ้นห้องโดยไม่สนใจคนที่นั่งมองเธออยู่เมื่อมาถึงห้องหญิงสาวจึงเข้าไปแปลงฟันในห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงเดินออกมาเมื่อก้าวออกจากประตูห้องน้ำก็เห็นชายหนุ่มนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้วเธอจึงเบาใจที่เขาไม่ได้บ่นอะไรเธออีกหญิงสาวจึงไปปิดไฟแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างๆเขาเบาๆหวังว่าเขาคงจะไม่โกรธเธอนะก็มันอยากทานจริงๆนี่นา“อุ้ย....พี่ภู”“แสบนักนะแพร...เมื่อกลางวันที่ให้พี่จอดร้านสะดวกซื้อเพื่อลงไปซื้ออาหารขยะนี่มาใช่ไหม”เมื่อเห็นหญิงสาวทิ้งตัวนอนชายหนุ่มเลยรวบตัวเธอมากอดจากด้านหลังพร้อมพูดข้างหูเธอเสียงแข็ง“เอ่อ.....ก็แพรอยากทานจริงๆนี่คะ”หญิงสาวยังเถียงชายหนุ่มข้างๆคูๆเธอรู้ว่าเธอผิดที่ไม่ฟังเขาแต่จะให้ทำยังไงล่ะก็มันอยากทานจริงๆนี่นา“ต่อไปนี้พี่จะดูแลอาหารการกินของแพรทุกมื้อ”ชายหนุ่มพูดเสียงดังฟังชัดเป็นการประกาศว่าเขาเอาจร
“เย็นนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมเดี๋ยวพี่ให้แม่บ้านทำไว้ให้”“อืมมมแพรอยากทานข้าวผัดปูค่ะ”“งั้นเดี๋ยวพี่โทรบอกคุณแม่ดีกว่าว่าแพรอยากทานเผื่อคุณแม่จะเป็นคนลงมือทำเองเพราะแม่พี่ทำข้าวผัดปูอร่อยที่สุดสำหรับพี่เลย”ชายหนุ่มพูดพร้อมยกนิ้วทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวทำเอาเธอต้องกลั้นขำกับท่าทางทะเล้นของเขายกใหญ่“แพรมาทางนี้”“คะ......”จู่ๆชายหนุ่มก็เดินจูงมือเธอเข้าร้านเครื่องเพชรทำเอาหญิงสาวแทบตั้งตัวไม่ทัน“แพรอยากได้วงไหนเลือกเลย”ชายหนุ่มยืนค้ำกับตู้กระจกที่มีเครื่องเพชรรายรอบอยู่ข้างในพร้อมผายมือให้หญิงสาวเลือกได้ตามใจชอบ“เอ่อ....มันคงไม่เหมาะกับแพรมั้งคะ”หญิงสาวตอบพร้อมยิ้มแหยๆเพราะคิดว่าเครื่องประดับพวกนี้ไม่ค่อยจะเหมาะกับตัวเธอสักเท่าไร“รบกวนช่วยเลือกแหวนเพชรที่น้ำงามที่สุดให้เธอด้วยนะครับราคาเท่าไรผมไม่มีปัญหา”“ได้เลยค่ะ....เดี๋ยวคุณผู้หญิงกับคูณผู้ชายรอสักครู่นะคะ”ชายหนุ่มเห็นว่ายังไงหญิงสาวก็คงจะไม่ยอมเลือกของพวกนี้เองแน่ๆและท่าทางก็ไม่ได้อยากได้ซะด้วยถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะเลือกครบเซตไปนานแล้วเขาจึงบอกให้พนักงานเลือกแหวนวงที่เพชรน้ำงามที่สุดมาให้เธอ“พี่ภูคะ....ไม่เอาค่า”หลัง
“ยังโกรธผมอยู่เหรอ....”เมื่อเห็นหญิงสาวไม่ตอบเขาจึงค่อยๆคลายอ้อมกอดออกแล้วหันหน้ามาใกล้ๆเธอแต่หญิงสาวก็ยังหันหน้าหนีเขาจึงต้องใช้สองมือของเขาจับใบหน้าของเธอให้หันมาจ้องตาของเขาเพื่อที่หญิงสาวจะได้เห็นเวลาที่เขาพูดว่าเขาไม่ได้เสแสร้ง“คุณฟังผมนะ...ผมสัญญาว่าเหตุการณ์บ้าๆนั่นจะไม่เกิดขึ้นกับคุณอีก...ผมรักคุณแล้วตอนนี้เราก็กำลังจะมีลูกด้วยกันผมอยากทำให้ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ที่สุดอะไรที่มันทำให้คุณหายโกรธผมได้ในตอนนี้คุณก็บอกมาเลยหรือจะตบจะตีผมก็ได้ผมยอม...ยอมทุกอย่างเพื่อที่จะให้คุณอยู่กับผม”เมื่อเห็นหญิงสาวยังทำหน้าบึ้งตึงเดาอารมณ์ไม่ออกใส่เขาอยู่เขาจึงรวบรวมความรู้สึกที่มีพูดกับเธอในใจเขาเองหวังว่าเธอคงจะเชื่อที่เขาพูดบ้างและอะไรที่ทำให้เธอหายโกรธเขาได้เขาก็พร้อมที่จะทำขออย่างเดียวของให้เธออย่าไปจากเขาเท่านั้นเพี๊ยะ.....ปั้กๆ...ๆๆๆ......“หึ....อึกก...ฮือๆๆๆๆ..อืออ”เมื่อสิ้นคำพูดของชายหนุ่มหญิงสาวก็ฟาดฝ่ามือไปที่หน้าของเขาทันทีพร้อมทั้งทุบทั้งตีไปที่ตัวของชายหนุ่มเพื่อระบายความโกรธนั้นออกมาแต่ก็ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆเธอเป็นอะไรที่ทุบตีเขาเท่าไรเธอกลับเหมือนว่าตัวเธอเจ็บเสียเอ
เมื่อพาหญิงสาวมาถึงโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงยืนรอเธออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินเมื่อหมอพาเธอมาพักที่ห้องพักฟื้นเขาก็ตามเฝ้าเธออยู่ไม่ห่าง“หมอครับตกลงเธอที่เธออาเจียนจนเป็นลมแบบนี้เธอเป็นอะไรเหรอครับ”ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงคนตรงหน้าที่นอนหลับอยู่บนเตียงเขาอยากรู้เหลือเกินว่าเธอเป็นอะไรกันแน่เขาสังเกตุเห็นเธออาการไม่ค่อยดีมาสองสามวันแล้ว“เป็นอาการปกติของคนแพ้ท้องน่ะครับคุณต้องดูแลภรรยาของคุณเรื่องอาหารการกินและเวลาพักผ่อนของเธอด้วยนะครับเพราะเธอพึ่งท้องอ่อนๆต้องดูแลอย่างดีและเท่าที่หมอตรวจดูเธอน่าจะขาดสารอาหารอยู่ด้วยเดี๋ยวหมอให้ยาบำรุงไปนะครับอีกสักพักเธอคงจะฟื้นเดี๋ยวหมอขอตัวก่อนนะครับ”“ค...ครับ..ขอบคุณมากครับหมอ”ชายหนุ่มอึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเมื่อด้ยินหมอบอกว่าหญิงสาวตั้งท้องแล้วถ้าหญิงสาวตั้งท้องอ่อนๆเขาแน่ใจว่าในท้องของเธอนั้นต้องเป็นลูกเขาเขาแน่นอนเพราะคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกันตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกดีใจจนทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าเธอตื่นมาแล้วเธอจะดีใจเหมือนเขาไหมแต่ตอนนี้เขาขอโทรบอกทางบ้านให้มาฟังข่าวดีที่โรงพยาบาลก่อนละกัน20นาทีต่อมา“มีอะไรตาภูย่ากำลังคุยงานอยู่มีเรื่องอะไรถึงเรียกพ
เช้าวันต่อมาแสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านที่หน้าต่างบ้านริมน้ำเข้ามาด้านในห้องนอนที่ทั้งสองนอนกอดกันกลมอยู่ทำให้ภูผารู้สึกตัวตื่นก่อนหญิงสาวเพราะแสงแดดที่ส่องเข้าบวกกับได้ยินเสียงมือถือของตัวเองสั่นอยู่บนโต้ะวางโคมไฟข้างเตียงชายหนุ่มค่อยๆคลายกอดหญิงสาวแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดรับเพราะเห็นว่าเป็นเบอของน้องสาวเขาโทรมาท่าทางจะโทรมาหลายรอบแล้วด้วย“ว่าไงเพลง”“พี่ชายทำไมพึ่งจะรับสายคะแล้วตอนนี้อยู่ไหนแล้วกันคะเนี่ย....แล้วน้องแพรอยู่กับพี่ด้วยหรือป่าว”เพลงพิณรีบถามพี่ชายของตนด้วน้ำเสียงร้อนรนจนคนฟังรู้สึกได้จะไม่ให้เธอร้อนรนได้ยังไงเล่นหายกันไปสองคนติดต่อไม่ได้แบบนี้“พี่อยู่ที่บ้านริมน้ำแพรก็อยู่กับพี่มีอะไรหรือป่าวเพลง”“เฮ้ออ..ค่อยโล่งอกหน่อยแล้วพี่ชายดูคลิปที่เพลงส่งให้หรือยังคะ”“คลิปอะไรพี่พึ่งจะจับโทรศัพท์ตอนที่เพลงโทรมานี่เอง”“รีบเปิดดูเลยค่ะจะได้ทำให้พี่ชายตาสว่างขึ้น...อ้อ...แล้วก็รีบกลับกันมาเลยนะคะเพราะเมื่อเช้าคุณแม่กับคุณย่าถามหาพี่ชายเพลงก็เลยบอกว่าทั้งน้องแพรแล้วก็พี่ยังไม่ตื่นดีนะคะที่คุณแม่กับคุณย่ารีบออกไปคุยงานไม่งั้นถามยาวกว่านี้แน่”“โอเคพี่จะรีบกลับ”ชายหนุ่มวางสายจากน
เมื่อหญิงสาวเหม่อมองออกไปด้านนอกก็เห็นว่าทางที่ชายหนุ่มกำลังขับรถพาเธอกลับมันไม่ใช่ทางกลับบ้านของทั้งเขาและเธอและตอนนี้เธอก็พึ่งดูออกว่าเขาน่าจะขับออกนอกเส้นทางมาไกลมากเธอจึงต้องเอ่ยปากถามแต่ก็ได้รับเพียงสายตาโมโหที่มองแล้วดูน่าขนลุกมาแทนแถมเขายังเร่งความเร็วรถจนน่ากลัวจนเธอต้องกุมมือทั้งสองข้างไว้ที่เบลอย่างแน่นอีกต่างหาก“ที่นี่ที่ไหนคะคุณภู”เมื่อเห็นชายหนุ่มขับรถมาจอกที่หน้าบ้านริมน้ำที่กลางเก่ากลางใหม่แต่ดูอบอุ่นมากเธอเห็นคราแรกเธอยังชอบเลยเธอจึงปรับอารมณ์แล้วจึงพยายามไล่อารมณ์ที่ตนเองโมโหชายหนุ่มออกและใช้น้ำเสียงที่อ่อนนุ่มพูดคุยกับเขาเผื่อเขาจะใจเย็นลงแล้วจะได้คุยกับเธอให้รู้เรื่องบ้างว่าเรื่องที่เขาคิดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด“คุณภูคะคือเรื่องรูปแพรอธิบายได้นะคะ…อันที่จริงมันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดคุณภูน่าจะถามพวกเราก่อนไม่น่าไปทำร้ายพี่ดินแบบนั้นเลย”เมื่อเห็นชายหนุ่มจอดรถแล้วยังนั่งนิ่งอยู่หญิงสาวพยายามจึงค่อยๆอธิบายเพื่อที่จะได้ให้เขาคิดตามว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดและคราวหลังก็ควรที่จะใช้เหตุผลให้มากกว่านี้“หึ….คำก็พี่ดินสองคำก็พี่ดิน”ปึกกกภูผารู้สึกขำตัวเองที่พยายามทำดีกับ
“ดีสมน้ำหน้าปากสุนัขแบบนี้ให้อยู่เป็นโสดจนตายไปเลยใครได้เป็นแฟนคงรำคาญหูแย่เพราะชอบพูดไม่เข้าหูคนอื่นอยู่เรื่อยย”เพลงพิณพูดหน้าระรื่นนึกสะใจคนที่เคยปากไม่ดีใส่เธอ“เสร็จแล้วเราออกไปกันเถอะจะได้รีบกลับน้องแพรจะได้รีบไปพักผ่อนด้วย"“ค่ะพี่เพลง”ทั้งสองเดินออกมาจากห้องลองก็พบว่านางแบบคนอื่นๆทยอยกลับกันจนจะหมดแล้วเพลงพิณจึงชะเง้อหาซินดี้เพราะเธอจะคืนชุดแต่ไม่ยักจะเห็นว่าอยู่ที่ไหนห้องแต่งตัวนี่ก็กว้างเหลือเกิน“ว้ายน้องแพร”“แพร”จู่ๆแพรไหมก็เกิดวูบขึ้นมาอีกครั้งทำเอาเพลงพิณใจหายวาบดีที่ดินแดนเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเดินออกมาเห็นแพรไหมกำลังจะล้มลงไปพอดีเลยรีบกอดรับไว้ทัน“คุณดูน้องแพรไว้ก่อนนะเดี๋ยวฉันขอไปหายากับพวกยาดมมาให้น้องแพรก่อน”“โอเค”เพลงพิณรีบวิ่งออกมาหวังที่จะไปหายามาให้แพรไหมแต่สายตาเธอดันเหลือบไปเห็นยัยเพนนีที่ยืนอยู่หน้าห้องทำลับๆล่อๆแต่เธอก็ไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปถามอะไรเพราะว่าจะต้องรีบไปหายาให้แพรไหม“ไหวมัยแพรนี่เป็นแบบนี้บ่อยไหมพี่ว่าเราไปหาหมอดีกว่านะ”ดินแดนอุ้มแพรไหมนั่งที่โต้ะพร้อมประครองเธอไว้หลวมๆพร้อมยื่นหน้าเข้าไปถามอาการของหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าจับขมับอยู่“ไหวค่ะเดี
“ทั้งสองคนแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ….ว้าวววว..น้องเพลงสวยมากเลยค่ะหุ่นดีมาก..งานหน้าต้องขอยืมตัวน้องเพลงมาเดินให้อีกแล้วล่ะค่ะ”ซินดี้เห็นหุ่นหญิงสาวก็อดชมไม่ได้ชุดนี้มันช่างเข้ากับเธอจริงๆไหนจะอกเป็นอกเอวเป็นเอวแล้วก็ขายาวสวยของเธอนั่นอีก“ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวขอบคุณคนที่ชมแบบเอียงอายนิดๆ“คิวต่อไปจะเป็นคิวของคุณดินแดนและน้องเพลงแล้วนะคะเตรียมตัวรอเลยค่ะ”ซินดี้เดินนำหน้าทั้งสองเพื่อที่จะไปรอหลังเวที“เอ่อ…พี่ซินดี้คะเพลงไม่เคยเดินนะคะ”เมื่ออยู่หลังเวทีหญิงสาวรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีพอลองมองออกไปที่หน้าเวทีเห็นคนที่นั่งรอดูอยู่เยอะเธอยิ่งประหม่า“ไม่ต้องกลัวค่ะเดินธรรมชาติเลยค่ะแบบคู่รักค่ะ”ซินดี้หันมาตอบหญิงสาวแบบยิ้มๆและหันไปดูความเรียบร้อยที่หน้างานต่อ“คะ…คู่รัก”หญิงสาวรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ซินดี้บอกไหนตอนพาเธอมาเปลี่ยนชุดไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ“ใช่คุณก็วันนี้เป็นตรีมคู่รักที่เดินกันเป็นคู่…อืมมมคุณก็คิดว่าคุณเดินกับแฟนละกันฟิวประมาณนั้น”ชายหนุ่มลองพูดเพื่อให้หญิงสาวคิดตามว่าเดินแบบวันนี้ฟิวมันจะประมาณไหน“มันฟิวไหนเล่าชั้นไม่เคยมีแฟนนี่”หญิงสาวตอบกลับชายหนุ่มทันควันพร้อมยืนกอ