หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอถึงเมื่อไรมารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเช้าเมื่อเห็นชายหนุ่มยังหลับสนิทอยู่เธอจึงค่อยๆลุกขึ้นมาแต่งตัวแล้วหยิบกระเป๋าออกจากห้องไปโดยเร็วด้วยร่างกายที่อ่อนล้าและจิตใจของเธอที่กำลังอ่อนแอทำให้หญิงสาวนึกถึงบ้านที่เมืองไทยเธอจึงเก็บกระเป๋าแล้วกลับเมืองไทยแบบที่ไม่ไดบอกใครเพราะทำใจอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆ
เมื่อแพรไหมนั่งคิดถึงเรื่องอดีตได้สักพักก็สลัดความคิดออกจากหัวละทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเธอทันทีเธอหวังว่าสมองที่ไม่ดีของเธอจะทำให้ลืมเรื่องนี้ได้ไวๆก็แล้วกัน
เช้าวันต่อมา
ก๊อกๆๆๆๆ
“ยายจ๋าตื่นหรือยังจ๊ะ”
แพรไหมเห็นว่าวันนี้ยายของเธอไม่ได้อยู่ที่ครัวตอนเช้าเหมือนเช่นทุกวันเธอจึงคิดว่ายายยังต้องนอนอยู่ในห้องแน่ๆจึงเคาะประตูเรียกเมื่อหญิงสาวเห็นว่าไม่มีคนมาเปิดจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปดูว่ายายเธออยู่ในนี้เหมือนที่เธอคิดหรือป่าว
“ยายจ๋ายาย....ยายยยยยยยย”
หญิงสาวเรียกยายของเธอที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยน้ำเสียงสั่นๆปนร้อนรนเพราะเธอเขย่าตัวยายของเธอแล้วแต่ก็ไม่มีท่าท่ว่ายายของเธอจะตื่นขึ้นมา
“ฮัลโหลรถพยาบาลเหรอคะ”
หญิงสาวหยิบมือถือโทรเรียกรถพยาบาลทันทีดีที่ครั้งก่อนคนขับรถให้เบอส่วนตัวโดยตรงมาให้เธอเพราะเขาเห็นยายของเธอค่อนข้างที่จะเข้าโรงพยาบาลบ่อยแถมมีกันแค่สองคนยายหลานอีกต่างหาก
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถพยาบาลก็พาสองยายหลานมาถึงโรงพยาบาลหญิงสาวนั่งใจจดใจจ่อรอผลตรวจของยายเธอจากหมอจากหมอที่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างเป็นกังวลตอนนี้เธอกลัวเหลือเกินว่าจะเสียยายของเธอไป
“หมอคะยายของแพรเป็นยังไงบ้างคะ”
“ตอนนี้อาการของคุณทับทิมพ้นขีดอันตรายแล้วครับแต่ยังคงที่อยู่หมอต้องให้คุณทับทิมนอนดูอาการก่อนครับส่วนคุณกลับบ้านก่อนเลยก็ได้นะครับเพราะตอนนี้ยังเข้าเยี่ยมไม่ได้ถ้ามีอะไรผมจะโทรบอกครับ”
“ค่ะ...ขอบคุณค่ะหมอ”
หญิงสาวนั่งรถเมย์กลับมาที่บ้านด้วยใจที่ห่อเหี่ยวเธออยากจะรักษายายเธอให้หายเหลือเกินแต่ติดตรงที่เธอไม่มีเงินนี่แหละทำไมโชคชะตาถึงไม่เข้าข้างเธอบ้างนะตอนนี้เธอเหลือแค่ยายคนเดียวแล้วอย่าให้ยายของเธอเป็นอะไรไปอีกเลย
บ้านแอนเดอสัน
“ชาร์ลไปเตรียมรถ”
“ครับคุณภู”
ชายหนุ่มรีบบอกให้ชาร์ลไปเตรียมรถเพื่อที่จะไปที่บ้านของหญิงสาวทันทีวันนี้ยังไงเขาก็ต้องเจอเธอให้ได้ยังไงเธอก็ไม่มีวันหนีคนอย่างเขาพ้น
แพรไหมเดินเข้ามาในบ้านด้วยใจที่ห่อเหี่ยวหญิงสาวเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแล้วกะว่าจะไปเก็บเสื้อผ้าไว้เผื่อว่าจะได้ไปเฝ้ายายของเธอที่โรงพยาบาลหญิงสาวเปิดดูเงินในกระเป๋าของเธอนับธนบัตรในกระเป๋าแล้วมันยิ่งทำให้เธอยิ่งคิดหนัก
พลันสายตามองออกไปที่หน้าบ้านเห็นว่ามีคนเดินเข้ามาเมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอถึงกับมีอาการตกใจสุดขีดหญิงสาวนั่งตาโตมองดูชายหนุ่มที่เดินเข้ามาแบบตัวชาเธอไม่รู้ว่าเขารู้ว่าเธออยู่ที่นี่ได้อย่างไรและก็ไม่คิดว่าเขาจะตามมาหลอกหลอนเธอถึงที่นี่ด้วย
“คุณเข้ามาได้ไง”
แพรไหมกลั้นใจถามชายหนุ่มที่เดินเข้ามานั่งตรงหน้าเธอแบบกล้าๆกลัวๆไม่รู้ว่าเขาจะตามมาหลอกหลอนเธออีกทำไมเธอว่าจะทำใจลืมหน้าเขาให้ได้อยู่แล้วเชียว
“ผมตามมาขอโทษคุณและผมก็อยากจะรับผิดชอบเรื่องคืนนั้น...ที่ผมเข้าใจคุณผิด”
ภูผาดูออกว่าหญิงสาวกำลังเกิดอาการกลัวเขาอยู่เขาเลยพยายามที่จะเข้าหาเธอแบบนุ่มนวลที่สุดเขาเองไปนั่งอยู่ตรงหน้าของเธอพร้อมพูดขอโทษเธอแบบจริงใจและไม่อ้อมค้อมแต่ดูท่าว่าหญิงสาวจะยิ่งทวีความกลัวเขามากขึ้นดูจากอาการที่จะเริ่มตาแดงมีน้ำตาคลอออกมาอีกแล้ว
“เอ่อ...เอาเป็นว่าถ้าคุณจะ..ขอโทษแล้วคุณก็กลับไปได้แล้ว.....แล้วเราก็ไม่ต้องเจอกันอีก”
แพรไหมพูดจาติดๆขัดๆเพราะว่าเธอเริ่มที่จะสะอื้นออกมาแต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้พร้อมพูดกับเขาเสร็จเธอก็เอามือปิดปากเพื่อที่จะไม่ให้ชายหนุ่มได้ยินเสียงที่เธอจะกำลังสะอื้นเพราะเธอจำได้ว่าชายหนุ่มไม่ชอบเสียงร้องให้ถ้าขืนเขาได้ยินเธอคงจะโดนเขาดุอีกเป็นแน่เธอไม่อยากให้เหตุการณ์ที่เธอโดนดุแบบนั้นเกิดขึ้นซ้ำสองเพราะมันจะทำให้เธอนึกภาพของวันนั้นขึ้นมาอีก
“จะร้องให้ใช่ไหม”
ภูผายังไม่ยอมกลับไปตามคำบอกของหญิงสาวเรื่องอะไรเขาจะกลับไปง่ายๆในเมื่อตามเธอมาถึงที่นี่แล้วชายหนุ่มเห็นอาการของหญิงสาวเขาเองก็พอจะดูออกว่าเธอทำไมต้องฝืนตัวเองไม่ให้ร้องให้ออกมาแบบนั้นคงจะเป็นเพราะกลัวเขาสินะบ้าจริงเขาทำให้เธอกลัวฝังใจขนาดนั้นเลยหรือไงเธอคงจะไม่ชอบเขาเอามากๆเลยสินะ
“อืมมม..อืออออ”
แพรไหมที่ใช้มือปิดปากกลั้นเสียงร้องให้อยู่พยักหน้าตอบคำถามของชายหนุ่มตอนนี้เธอแทบจะกลั้นไม่อยู่แล้วหญิงสาวคิดในใจว่าทำไมเขาไม่ออกไปให้พ้นๆสักทีนะเรื่องวันนั้นเธอคิดว่าเมื่อมันเสียไปแล้วก็ให้มันเสียไปแต่ถ้าชายหนุ่มไม่มาสะกิดให้บาดแผลมันเปิดอีกเธอก็คงไม่มีอาการแบบนี้หรอกกำลังพยายามลืมอยู่แล้วเชียว
“ถ้าอยากจะร้องก็ร้องเลยไม่ต้องกลัวผมจะดุคุณหรอกเดี๋ยวผมหันหน้ามองไปทางอื่นก็ได้”
ภูผาพูดพร้อมแสร้งหันหน้าไปมองทางอื่นเขาเองก็ไม่ได้อยากเห็นน้ำตาของเธอเท่าไรนักแต่แค่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนเธอตอนนี้เท่านั้น
“ร้องได้ด้วยเหรอ...คุณจะ..มะ...ไม่ดุใช่ไหมฮึกๆ”
หญิงสาวเห็นชายหนุ่มนั่งหันหน้าไปทางอื่นแลวเธอกลัวว่าถ้าเธอร้องให้ออกมาจริงๆเขาจะทนไม่ได้แล้วดุเธออีกจึงถามเพื่อความแน่ใจว่าเธอสามารถร้องได้จริงๆใช่ไหม
“อื้อฮึกๆๆๆๆๆ......หื้อออออ..อออ...อ.อ.อ.อ...อ.”
เมื่อสิ้นคำอนุญาติของชายหนุ่มหญิงสาวก็สื้นตัวโยนปล่อยโฮออกมาเต็มที่ด้วยความรู้สึกที่หลากหลายและปัญหาต่างๆที่ประดังประเดเข้ามาหาเธอพร้อมๆกันเธอรู้สึกว่าตอนนี้ทั้งตัวและจิตใจของเธออ่อนแอเหลือเกิน
ภูผาจากที่หันหน้ามองไปทางอื่นอยู่ก็ต้องหันกลับมามองเธออย่างตกใจคิดว่านี่เธอเสียใจที่เจอเขาขนาดนี้เลยเหรอชายหนุ่มนั่งหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนขนาดนั้นเขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอแล้วรวบตัวเธอมากอดไว้พร้อมลูบหัวหญิงสาวเบาๆคราแรกคิดว่าเธอจะขัดขืนแต่เมือเขาเข้าไปกอดเธอก็ดันตัวมาซบที่อกของเขาจนตอนนี้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาใส่มาเปียกน้ำตาเธอหมดแล้ว“ฮือๆๆๆ...”แพรไหมเริ่มสะอื้นอ่อนลงเมื่อชายหนุ่มเข้ามาปลอบเธอคราแรกหญิงสาวก็รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อยที่อยู่ดีๆเขาก็เข้ามากอดปลอบเธอหญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มอาจจะรู้สึกสงสารหรือไม่ก็สมเพชเธอล่ะมั้งแต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกันที่มีใครสักคนอยู่ปลอบใจเธอเพราะจิตใจเธอตอนนี้อ่อนแอเหลือเกินภูผากอดหญิงสาวอยู่แบบนั้นจนเธอเริ่มที่จะสะอื้นน้อยลงแต่เมื่อก้มมองคนที่เขากอดอยู่พบว่าเธอค่อนข้างที่จะเหม่อลอยแปลกๆเขาคิดว่าตัวหญิงสาวเองคงต้องมีเรื่องอื่นที่ทำให้เธอกังวลใจอยู่เป็นแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่ดูเศร้าหนักขนาดนี้หรอกแต่เขาเองก็ไม่ได้ถามอะไรเธอออกไปเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอแย่ไปกว่านี้อีกได้แต่กอดเธอแล้วลูบหัวเบาๆปลอบเธอไปเท่านั้นR
ภูผายื่นหน้าไปใกล้ๆเธอแล้วบอกกับเธอว่าเขาคุยเรียบร้อยแล้วทำเอาหญิงสาวถึงกับทำตาโตแล้วจ้องเขากลับหญิงสาวจะรู้ตัวหรือป่าวนะว่าสายตานี้ทำให้เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อยจนต้องก้มหน้าลง“ผมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดของคุณยายคุณเองคุณยายของคุณจะได้หายสักทีไง”ชายหนุ่มพูดพร้อมเอามือยีหัวหญิงสาวที่นั่งทำหน้าแปลกใจอยู่“ขอบคุณ...คุณมากเลยนะคะค่ารักษาเท่าไรเดี๋ยวแพรจะหาเงินมาคืนคุณทุกบาททุกสตางค์เลยค่ะคุณจะคิดดอกก็ได้นะคะ”แพรไหมรีบยกมือไหว้ชายหนุ่มยกใหญ่เธอไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่เธอมองว่าเขาเป็นคนที่ใจร้ายเขาจะมีความใจดีอยู่บ้างจากที่อยากให้เขาไปให้พ้นๆตอนนี้เธอรู้สึกขอบคุณเขามากๆจากใจจริงของเธอ“55555ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก"ภูผาขำท่าทางของหญิงสาวที่อยู่ดีๆก็ยกมือไหว้เขาซะงั้นแถมเธอเห็นเขาเป็นนายทุนหน้าเลือดหรือไงมีคิดดอกเบี้ยด้วยชาร์ลที่ยืนเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ห่างๆเมื่อเห็นเจ้านายของตนหัวเราะร่าเพราะหญิงสาวเขาเองรู้สึกแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นใครทำเจ้านายของเขาหัวเราะแบบนี้มานานมากแล้ว“คุณจะกลับบ้านเลยไหมเดี๋ยวผมไปส่งเพราะยังไงวันนี้คุณก็นอนเฝ้ายายคุณไม่ได้อยู่ดี”ภูผาเห็นว่าหญิงสาวยังไงก็ไม่
เช้าวันต่อมาแพรไหมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะว่ารู้สึกว่าหมอนข้างที่เธอกอดอยู่นั้นมันทำไมแข็งแปลกๆเมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าไอ้ที่เธอกอดอยู่มันไม่ใช่หมอนข้างกลับเป็นชายหนุ่มที่มาหาเธอเมื่อวานแทนหญิงสาวไม่รู้ว่าเขามานอนที่ตียงของเธอตั้งแต่เมื่อไรทำเอาทำเอาเธอแทบจะกรี๊ดแต่ก็ต้องเอามือปิดปากเอาไว้แล้วค่อยๆเขยิบออกห่างจากตัวชายหนุ่มแพรไหมเริ่มคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานว่าเขามานอนห้องเธอได้ยังไงเธอจำได้ว่าเมื่อวานเขานั่งทำแผลให้เธออยู่หลังจากนั้นภาพก็ตัดไปตื่นมาอีกทีก็เจอเขานอนอยู่ตรงนี้แล้วเธอพยายามคิดว่าเป็นเธอเองเหรอที่ชวนเขามานอนด้วยแต่เอ…ออ.ก็ไม่น่าจะใช่พลันสายตาของเธอก็หันไปมองหน้าของชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ตอนนี้พอดีหญิงสาวคิดว่าตอนที่เขาหลับก็หล่อดีเหมือนกันแฮะเธอค่อยๆลองใช้มือน้อยๆของเธอยื่นไปจับเคราของเขาเล่นเบาๆพร้อมยื่นหน้าเข้าไปมองเขาใกล้ๆตอนนี้เธอรู้สึกว่าใจของเธอเต้นแรงแปลกๆหน้าที่ซีดเซียวจากการตื่นนอนก็เริ่มมีสีแดงระเรื่อยิ่งเธอมองเขาใกล้ๆความหล่อของเขานี่ชนะพวกนายแบบหน้าปกนิตยาสารดังๆขาดเลยนะเนี่ยยย“จะลักหลับผมเหรอ”จู่ๆชายหนุ่มก็ลืมตาพรึ่บขึ้นมาทำเอาหญิงสาวผละออกแทบไม่ทันชายห
บ้าน แอนเดอสัน“หายไปไหนมาทั้งคืนตาภู”“คุณย่า….มาตั้งแต่เมื่อไรครับ”ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านมาก็ได้ยินเสียงคนเป็นย่าของเขาบ่นขึ้นทันทีทำเอาชายหนุ่มถึงกับหน้าตาตื่นเมื่อเห็นคนเป็นย่าของเขากลับมาคงจะไม่พ้นเรื่องจับคู่ให้เขาอีกสินะความพยายามของคุณย่าเขาไม่มีลดละเลยจริงๆรู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถบังคับเขาได้ก็ยังไม่ยอมเลิกคิดแผนจับคู่ให้เขาซะที“ยังไม่ได้ตอบคำถามย่าเลยว่าหายไปไหนมาอย่าบอกว่าไปค้างคืนกับพวกแม่นางแบบพวกนั้นมาอีกล่ะ”เอมมิลี่เค้นเอาคำตอบจากหลานชายตัวดีของเธอว่าหายไปไหนมาทั้งคืนเพราะเธอบินกลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ยักเห็นหลานชายอยู่บ้านเธอรอจนดึกดื่นก็ไม่เห็นกลับครั้นถามเอาคำตอบกับชาร์ลรายนั้นก็บอกกับเธอว่ารอถามคุณชายเองจะดีกว่าเอมมิลี่คิดว่ายังไงก็คงจะไม่ได้คำตอบจากชาร์ลอยู่ดีจึงไม่ได้ซักไซร้อะไรมากเพราะคิดว่าทั้งสองเจ้าเล่ห์พอกันทั้งเจ้านายและลูกน้องมีหวังคำตอบที่ได้ก็เป็นคำตอบที่คลุมเครือทำให้เธอไม่เข้าใจอยู่ดี“ป่าวซะหน่อยครับคุณย่ามาๆผมหอมหน่อยไม่เจอกันตั้งนานคิดถึงจังเลยครับ”ชายหนุ่มแสร้งเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่ได้อยากจะตอบคำถามผู้เป็นย่ามากนัก“ไม่ต้องมาทำเป็นรักย่าเล
21.00 นกุกกักๆ เพล้งงงงง“เสียงอะไรนะ”แพรไหมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนของเธอเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆก็เห็นท่าว่าไม่ดีหญิงสาวจึงไปหยิบไม้เบสบอลที่เธอแอบซื้อเก็บไว้ในตู้แล้วเดินย่องออกมาด้านนอกเพื่อดูว่าเสียงที่เธอได้ยินนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ถ้าเป็นโจรเธอก็พร้อมจะสู้ตายเหมือนกัน“หยุดนะไอ้ขี้ขโมย….นี่แน่ะๆๆๆๆ”ตุบ..ตุบหญิงสาวเห็นเงาตะคุ่มๆที่ชั้นล่างของบ้านเธอก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นขโมยแน่ๆหนอยรู้จักแพรไหมน้อยไปคนอย่างเธอไม่มีวันให้ใครมาขโมยของบ้านเธอได้หรอกของรักของหวงของเธอทั้งนั้นเธอจะรักษาเท่าชีวิตเลยคอยดูเมื่อหญิงสาวเดินมาใกล้เงานั้นก็ใช้ไม้เบสบอลที่ถืออยู่ในมือฟาดลงที่คนที่เธอคิดว่าเป็นขโมยอย่างไม่ยั้งมือ“โอ้ยๆคุณนี่ผมเอง”“คุณภู”เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มร้องโอดโอยเธอกพอจะเดาออกว่าเป็นเสียงใครเลยยั้งมือการฟาดไม้เบสบอลไปที่คนที่ตัวเธอเองคิดว่าเป็นโจรทันที“โอ้ยยยเบาๆคุณผมเจ็บ”“สมน้ำหน้าอยากเล่นอะไรพิเรนเอง”เมื่อหญิงสาวรู้ว่าคนที่แอบย่องเข้าบ้านเธอเป็นใครเธอจึงเดินไปเปิดไฟเพื่อจะได้คุยกับชายหนุ่มให้รู้เรื่องว่าเขาเข้ามาทำอะไรแต่เมื่อแสงไฟสว่างขึ้นหญิงสาวเห็นว่าหัวขอ
เช้าวันต่อมาRrrrrrrrrrr“เสร็จหรือยังคุณผมรออยู่ข้างล่าง”“แพรกำลังจะลงไปค่ะ”หญิงสาวรีบหยิบกระเป๋าแล้วเตรียมตัวจะลงไปข้างล่างเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะรอนาน“ไปกันเถอะค่ะคุณภูแพรพร้อมแล้วค่ะ”ชายหนุ่มยืนมองชื่นชมความร่มรื่นที่หน้าบ้านของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงของเธอเรียกจากด้านหลังจึงรีบหันมาภาพตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มย้มกว้างออกมาอย่างง่ายดายเขาคิดไว้แล้วว่าชุดนี้ที่เขาเลือกเองกับมือต้องเข้ากับเธอแน่ๆวันนี้แพรไหมดูสวยสะกดสายตาเขาเอามากๆด้วยสีของชุดที่เข้ากับผิวของเธอและยังหุ่นที่มันพอดีกับชุดยิ่งดูยิ่งน่ากอดชะมัดไหนจะใบหน้าของเธอที่ปัดเครื่องสำอางเบาๆมันทำให้เช้านี้ของเขาช่างดูสดใสเสียจริง“ยืนยิ้มอยู่ทำไมคะคุณภูเราจะไปกันหรือยังคะ”เมื่อแพรไหมเห็นคนตรงหน้าเอาแต่ยืนยิ้มไม่พูดอะไรเสียทีเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้นจนเธอต้องเอ่ยปากถามว่าตกลงจะไปกันได้หรือยัง“เอ่อ..เดี๋ยวเรามานั่งตกลงกันก่อนโอเคไหม”ชายหนุ่มใช้สองมือจับบ่าหญิงสาวแล้วดันให้เธอนั่ลงที่โซฟาเพื่อคุยกับเขาก่อนขืนเธอไปเจอครอบครัวเขาแล้วไม่เตี๊ยมกันไว้ก่อนมีหวังย่าของเขาจับได้แน่จับผิดเก่งซะขนาดนั้น“คะ...ตกลง...ตกลงเรื่องอะไรคะ”“
“หนูชื่อแพรไหมใช่ไหมไหนมาใกล้ๆย่าหน่อยซิ”เอมิลี่นั่งมองหญิงสาวอยู่ที่หัวโต้ะรู้สึกอยากจะมองหน้าหญิงสาวตัวเล็กบอบบางที่ช่างกล้าหาญตรงนี้เสียจริงเมื่อหญิงสาวถูกผู้เป็นย่าของชายหนุ่มเรียกให้เธอเข้าไปหาใกล้ๆเธอจึงค่อยๆคลานเข่าเข้าไปหาด้วยความนอบน้อมตามที่ยายของเธอเคยสอนมาหญิงสาวยิ้มให้หญิงแก่ตรงหน้าอย่างจริงใจเธอรู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างดูอบอุ่นทำให้เธอนึกถึงยายของเธอที่นอนป่วยอยู่ตอนนี้เหลือเกิน“ไหนขอย่าดูหน้าใกล้ๆหน่อยซิ...น่ารักจังเลยนะเราอายุเท่าไรแล้วจ๊ะหนูแพร”“22เข้า23แล้วค่ะคุณย่า”แพรไหมรู้สึกหายใจทั้งท้องขึ้นมาทันทีที่คุณย่าของชายหนุ่มไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาบอกเลยสักนิดแถมยังดูเอ็นดูเธออีกด้วย“อย่างนั้นเรอะ...อืม..อย่าหาว่าย่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะแล้วท้องรึยังล่ะ”"พรวดดดดด......"ภูผากำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเมื่อได้ยินคนเป็นย่าถามคำถามว่าที่หลานสะใภ้ทำเอาเขาสำลักน้ำพุ่งพรวดออกมาทันควันเขาไม่คิดว่าคุณย่าของเขาจะถามตรงไปตรงมาแบบนี้เมื่อเขาหันไปดูหญิงสาวตอนนี้เธอก็ดูมีสีหน้าที่ตกใจไม่ต่างจากเขาเช่นกัน“คุณแม่คะ”พิมพาเมื่อได้ยินคนเป็นแม่สามีถามหญิงสาวตรงไปตรงมาแบบนั้นเธอเองก็ต้
บ้านแพรไหมหลังจากทานข้าวเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงขับรถพาหญิงสาวกลับบ้านมาเพื่อเก็บเสื้อผ้าไปอยู่ที่บ้านของเขาเพราะคนเป็นย่าของชายหนุ่มได้จัดการให้คนจัดห้องให้เธอเรียบร้อยแล้วดูเหมือนคนเป็นย่าจะจงใจให้อยู่ใกล้ห้องหลานชายเขาเหลือเกินงานนี้ถ้ายายเธอรู้จะเป็นยังไงเนี่ย“คุณภูคะวันนี้แพรขอนอนที่นี่คืนนึงได้ไหม...นะคะขอนอนทำใจคืนนึง”หญิงสาวทำหน้าขอร้องให้คนตรงหน้าเห็นใจเธอไม่กล้าปฏิเสธผู้ใหญ่ในบ้านของเขาเลยเปลี่ยนมาเป็นขอร้องเขาแทนเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้ช่วยเธอพูดเรื่องนี้แทนเธอ“อืมมม..ได้แต่ผมต้องอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่ด้วย”ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวคงจะอยากมีเวลาเก็บของเต็มที่เขาจึงไม่ปฏิเสธแต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องอยู่ด้วยเพราะเขาเองก็รู้สึกเป็นห่วงเธออยู่เหมือนกันไม่อยากให้อยู่คนเดียวและอีกอย่างที่บ้านเขาคงต้องว่าเขาแน่ๆถ้าเขาปล่อยให้เธออยู่คนเดียว“แพรอยู่ได้ค่ะคุณไม่ต้องห่วงหรอก....คุณกลับไปเถอะ”หญิงสาวรีบปฏิเสธความหวังดีของเขาที่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนทันทีเพราะให้เธออยู่คนเดียวยังรู้สึกว่าปลอดภัยกว่าอยู่กับเขาซะอีก“ไม่ต้องปฏิเสธเลยคุณ...ขืนผมกลับไปแล้วปล่อยให้คุณอยู่ที่นี่คนเดียวมีหวังคุณย่