21.00 น.
“ยายจ๋าก่อนนอนกินยาหรือยังจ๊ะ”
แพรไหมเดินส่งเสียงเจื้อยแจ้วตั้งแต่หน้าห้องเพื่อถามว่ายายของเธอกินยายหรือยังเพราะกลัวว่าคนเป็นยายจะลืมอีก
“กินแล้วลูกแล้วนี่แขนเป็นไงบ้างแพร”
ทับทิมรู้ว่าหลานสาวของเธอต้องเข้ามาถามแบบนี้อยู่เป็นประจำทุกวันอยู่แล้วเธอจึงพยายามบอกตัวเองว่าอย่าลืมกินยาเสมอโดยใช้วิธีขีดที่ปฎิทินเล่มเล็กบนหัวเตียงหลานสาวของเธอจะได้ไม่เป็นห่วงพร้อมถามถึงอาการที่แขนของเธอด้วย
“ดีขึ้นแล้วจ๊ะยายแพรกินยาแก้ปวดกับแก้อักเสบที่หมอให้มาแล้วจ๊ะ”
“งั้นไปนอนพักผ่อนเถอะยายก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”
“เดี๋ยวแพรปิดไฟเลยนะจ๊ะยาย”
เมื่อเห็นผู้เป็นยายพยักหน้ารับหญิงสาวก็ปิดไฟแล้วปิดประตูห้องของยายเธอแล้วจึงเดินเข้ามาที่ห้องของตัวเองหญิงสาวจะเดินไปหยิบหนังสือที่โต้ะวางของของเธอขึ้นมาอ่านแต่ตาก็ดันเหลือบไปเห็นแฟ้มเรซูเม่ของตัวเองพลันทำให้นึกถึงเรื่องที่เธอเข้าไปสัมภาษณ์งานกับผู้ชายใจร้ายคนนั้นแล้วภาพเหตุการณ์ร้ายๆที่ออสเตรเลียก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธออีกครั้ง
ในคืนนั้นที่ร้านอาหารไทยในซิดนี่ย์
“แพรจะกลับแล้วเหรอพี่ฝากส่งอาหารให้ลูกค้าที่โรงแรมใกล้ๆนี่หน่อยสิลูกค้าเป็นคนไทย”
สาลี่เจ๊เจ้าของร้านอาหารไทยที่เธอทำงานอยู่วานเดินถือกล่องอาหารมาทางหญิงสาวพร้อมบอกให้เธอช่วยส่งของให้หน่อยเพราะเห็นว่าเป็นคนไทยแพรไหมคงไม่มีปัญหาเรื่องภาษา
“แต่ว่านี่มันเวลาเลิกงานแล้วนะคะ”
หญิงสาวเห็นว่ามันดึกแล้วอีกอย่างก็ถึงเวลาเลิกงานแล้วด้วย
“เอาน่าช่วยพี่หน่อยเดี๋ยวพี่ให้เงินเพิ่มนะๆๆๆๆ...อะนี่ที่อยู่ตามนี้นะไม่ต้องเก็บเงินนะลูกค้าจ่ายมาแล้ว”
“ก็ได้ค่ะ”
หญิงสาวต้องจำใจตอบตกลงเพราะสาลี่ทั้งยัดกล่องอาหารใส่มือเธอพร้อมที่อยู่จัดส่งเธอเห็นว่าถ้าเธอปฎิเสธก็คงต้องเป็นคนอื่นนั้นไปอยู่ดีเธอจึงรับๆมาจะได้จบๆไป
โรงแรมXXXX
หญิงสาวนำที่อยู่ไปถามที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงแรมเมื่อพนักงานอนุญาติให้เธอขึ้นไปส่งของเธอจึงเดินขึ้นลิฟท์ไปชั้นที่ลูกค้าให้ที่อยู่มา
“อืมมม..ห้อง3517..หรือ3577กันแน่เนี่ยพี่สาลี่นะพี่สาลี่เขียนก็ไม่ชัด....”
หญิงสาวกะว่าจะโทรถามเจ้าของร้านที่ฝากของให้เธอมาส่งอีกครั้งว่าห้องไหนกันแน่แต่มือถือก็ดันมาแบตหมดตอนนี้ซะอีกหญิงสาวจึงขอลองกดออดที่ห้องแรกก่อนละกันถ้าไม่ใช่ก็ค่อยว่ากันอีกทีเธออยากจะส่งๆให้มันเสร็จๆไปแย่แล้ว
ติ๊งต่องๆ
เธอกดออดแล้วยืนรอให้คนมาเปิดครู่หนึ่งก็มีชายหนุ่มที่ดูหน้าฝรั่งที่แทบจะเปลือยเดินมาเปิดประตูทำเอาเธอต้องหลบสายตามองไปทางอื่นเล็กน้อย
“อาหารที่สั่งไว้ได้แล้วค่า”
“เข้ามาข้างในสิ”
“คะ....เอ่อค่ะ”
หญิงสาวเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วเป็นภาษาไทยเมื่อเห็นว่าเขาพูดไทยได้และไม่ได้ปฎิเสธอะไรก็คงจะใช่คนที่โทรสั่งอาหารนั่นแหละเธอพูดพร้อมยื่นถุงอาหารให้กับชายหนุ่มแต่เขากลับไม่รับแถมให้เธอเข้าไปด้านในซะงั้นคราแรกเธอทำหน้าตกใจเล็กน้อยแต่หญิงสาวคิดว่าเขาอาจจะให้เธอไปวางข้างในให้เขาละมั้ง
“คุณจะให้วางกล่องอาหารไว้ตรงไหนคะ”
หญิงสาวเดินเข้ามาด้วยท่าทางเก้ๆกังๆแถมประตูห้องก็ปิดแล้วด้วยเธอคิดว่าเธอคิดผิดหรือคิดถูกเนี่ยที่เดินเข้ามา
“วางไว้ตรงโต้ะนั่นแหละ”
“เรียบร้อยแล้วงั้นเดี๋ยวฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
เมื่อหญิงสาววางของให้เขาเรียบร้อยแล้วจึงหันหน้ามาหาเขาแล้วรีบขอตัวกลับทันทีพร้อมเตรียมที่จะเดินออกจากห้องไป
“นี่เดี๋ยวคุณจะไปไหนเล่นบทเด็กเสริฟเสร็จแล้วก็มาทำหน้าที่ของคุณได้แล้วผมจะได้รีบพักผ่อน”
“หน้าที่...เล่นบทอะไรคะฉันงงไปหมดแล้ว”
แพรไหมหันมาถามชายหนุ่มด้วยสีหน้างงๆคิดว่าเขาพูดอะไรของเขาในหัวสมองของเธอตอนนี้คิดว่าท่าจะไม่ดีแล้วเธอจะต้องออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุดดูท่าทางเจ้าของห้องท่าจะเพี้ยน
“ว้ายย....ทำอะไรของคุณเนี่ยยย....ปล่อยฉันนะ”
จู่ๆชายหนุ่มร่างยักก็มารวบตัวเธอลงไปที่เตียงซะงั้นหญิงสาวรู้ตัวแล้วว่าเธอต้องไม่ปลอดภัยแน่ๆเมื่อร่างของเธอกระแทกกับเตียงนุ่มๆปุ้ปเธอก็รีบหนีหมายจะวิ่งออกไปจากห้องทันทีแต่ก็หนีไม่ทันถูกชายหนุ่มรวบตัวไว้ซะก่อนตอนนี้เธอเริ่มใจไม่ดีเอามากๆตัวเริ่มสั่นน้ำตาเริ่มไหลจู่ๆชายหนุ่มก็กดเธอลงกับเตียงแล้วประกบจูบเธอซะงั้นตอนนี้เธอทั้งดิ้นเอาเป็นเอาตายมือทั้งสองก็ทั้งตบทั้งข่วนชายหนุ่มที่กำลังรังแกเธออยู่จนชายหนุ่มผละออกจากการจูบแล้วมาตะคอกใส่เธอแทน
“นี่คุณหยุดเลิกเล่นบทเด็กสาวบริสุทธิ์ซะทีได้ไหมทำหน้าที่ขายบริการของคุณให้มันเสร็จๆไปเลิกดิ้นเราจะมาสนุกกันโอเคไหมเพราะผมไม่ชอบฟิวนี้หรืออยากจะโก่งค่าตัวเงินที่หุ้นส่วนผมจ้างคุณมันไม่พอใช่ไหมเอางี้ทำตามใจผมแล้วคุณจะได้เงินพิเศษก้อนโตโอเค๊”
“เงินบ้าอะไรฉันไม่อยากแล้วฉันก็ไม่ได้ขายตัวด้วยปล่อยฉันไปเถอะ...ฮือๆๆๆ..ฉันไหว้ล่ะ”
เธอรู้สึกงงกับสิ่งที่เขาพูดยิ่งเขาพูดออกมามากเท่าไรเธอยิ่งงงหนักมากขึ้นเท่านั้นเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยหญิงสาวเริ่มกลัวชายหนุ่มคนนี้จับใจและเริ่มสะอึกสะอื้นร้องให้หนักขึ้นเรื่อยๆเธอไม่รู้จะใช้วิธีไหนแล้วตอนนี้เธอได้แต่ยกมือไหว้ร้องขอให้เขาเมตาเธอก็เท่านั้น
“โถ่เอ้ยยย....เงียบ...ไม่ชอบฟังเสียงร้องให้เข้าใจไหม...ไม่ชอบ...ไม่ชอบ...ไม่ชอบบบบบบ...ถ้าไม่หยุดผมจะเอาเสื้ออุดปากคุณไว้”
เมื่อได้ยินเสียงดุของชายหนุ่มเธอถึงกับสะดุ้งรีบเอามือปิดปากตัวเองกลัวว่าเขาจะทำแบบที่ขู่จริงๆตอนนี้เธอรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าเขาจะทำอะไรเธอคงไม่มีแรงขัดขืนเขาได้ได้แต่ภาวนาให้เขาปราณีเธอบ้างก็เท่านั้นเสื้อผ้าของเธอถูกชายหนุ่มจัดการเอาออกจากตัวเธอไปอย่างรวดเร็วแม้เธอจะปัดป้องแล้วแต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้อยู่ดี
เขากอบโกยความสุขจากตัวเธออยู่หลายรอบโดยที่เธอพยายามร้องขอให้หยุดแล้วแต่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตอนนี้เธอรู้สึกระบมไปทั้งตัวรู้สึกเจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจที่ปล่อยให้ผู้ชายแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จักมาพรากความสาวของเธอไปได้เธอไม่ได้เป็นผู้หญิงขายตัวอย่างที่เขาพูดสักหน่อยเธอก็แค่มาส่งอาหารแค่นั้นเองทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับเธอด้วยหญิงสาวนึกน้อยใจในโชคชะตาที่ชอบเล่นตลกกับเธอเสียจริง
หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอถึงเมื่อไรมารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเช้าเมื่อเห็นชายหนุ่มยังหลับสนิทอยู่เธอจึงค่อยๆลุกขึ้นมาแต่งตัวแล้วหยิบกระเป๋าออกจากห้องไปโดยเร็วด้วยร่างกายที่อ่อนล้าและจิตใจของเธอที่กำลังอ่อนแอทำให้หญิงสาวนึกถึงบ้านที่เมืองไทยเธอจึงเก็บกระเป๋าแล้วกลับเมืองไทยแบบที่ไม่ไดบอกใครเพราะทำใจอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆเมื่อแพรไหมนั่งคิดถึงเรื่องอดีตได้สักพักก็สลัดความคิดออกจากหัวละทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเธอทันทีเธอหวังว่าสมองที่ไม่ดีของเธอจะทำให้ลืมเรื่องนี้ได้ไวๆก็แล้วกันเช้าวันต่อมาก๊อกๆๆๆๆ“ยายจ๋าตื่นหรือยังจ๊ะ”แพรไหมเห็นว่าวันนี้ยายของเธอไม่ได้อยู่ที่ครัวตอนเช้าเหมือนเช่นทุกวันเธอจึงคิดว่ายายยังต้องนอนอยู่ในห้องแน่ๆจึงเคาะประตูเรียกเมื่อหญิงสาวเห็นว่าไม่มีคนมาเปิดจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปดูว่ายายเธออยู่ในนี้เหมือนที่เธอคิดหรือป่าว“ยายจ๋ายาย....ยายยยยยยยย”หญิงสาวเรียกยายของเธอที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยน้ำเสียงสั่นๆปนร้อนรนเพราะเธอเขย่าตัวยายของเธอแล้วแต่ก็ไม่มีท่าท่ว่ายายของเธอจะตื่นขึ้นมา“ฮัลโหลรถพยาบาลเหรอคะ”หญิงสาวหยิบมือถือโทรเรียกรถพยาบาลทันทีดีที่ครั้งก
ภูผาจากที่หันหน้ามองไปทางอื่นอยู่ก็ต้องหันกลับมามองเธออย่างตกใจคิดว่านี่เธอเสียใจที่เจอเขาขนาดนี้เลยเหรอชายหนุ่มนั่งหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนขนาดนั้นเขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอแล้วรวบตัวเธอมากอดไว้พร้อมลูบหัวหญิงสาวเบาๆคราแรกคิดว่าเธอจะขัดขืนแต่เมือเขาเข้าไปกอดเธอก็ดันตัวมาซบที่อกของเขาจนตอนนี้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาใส่มาเปียกน้ำตาเธอหมดแล้ว“ฮือๆๆๆ...”แพรไหมเริ่มสะอื้นอ่อนลงเมื่อชายหนุ่มเข้ามาปลอบเธอคราแรกหญิงสาวก็รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อยที่อยู่ดีๆเขาก็เข้ามากอดปลอบเธอหญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มอาจจะรู้สึกสงสารหรือไม่ก็สมเพชเธอล่ะมั้งแต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกันที่มีใครสักคนอยู่ปลอบใจเธอเพราะจิตใจเธอตอนนี้อ่อนแอเหลือเกินภูผากอดหญิงสาวอยู่แบบนั้นจนเธอเริ่มที่จะสะอื้นน้อยลงแต่เมื่อก้มมองคนที่เขากอดอยู่พบว่าเธอค่อนข้างที่จะเหม่อลอยแปลกๆเขาคิดว่าตัวหญิงสาวเองคงต้องมีเรื่องอื่นที่ทำให้เธอกังวลใจอยู่เป็นแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่ดูเศร้าหนักขนาดนี้หรอกแต่เขาเองก็ไม่ได้ถามอะไรเธอออกไปเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอแย่ไปกว่านี้อีกได้แต่กอดเธอแล้วลูบหัวเบาๆปลอบเธอไปเท่านั้นR
ภูผายื่นหน้าไปใกล้ๆเธอแล้วบอกกับเธอว่าเขาคุยเรียบร้อยแล้วทำเอาหญิงสาวถึงกับทำตาโตแล้วจ้องเขากลับหญิงสาวจะรู้ตัวหรือป่าวนะว่าสายตานี้ทำให้เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อยจนต้องก้มหน้าลง“ผมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดของคุณยายคุณเองคุณยายของคุณจะได้หายสักทีไง”ชายหนุ่มพูดพร้อมเอามือยีหัวหญิงสาวที่นั่งทำหน้าแปลกใจอยู่“ขอบคุณ...คุณมากเลยนะคะค่ารักษาเท่าไรเดี๋ยวแพรจะหาเงินมาคืนคุณทุกบาททุกสตางค์เลยค่ะคุณจะคิดดอกก็ได้นะคะ”แพรไหมรีบยกมือไหว้ชายหนุ่มยกใหญ่เธอไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่เธอมองว่าเขาเป็นคนที่ใจร้ายเขาจะมีความใจดีอยู่บ้างจากที่อยากให้เขาไปให้พ้นๆตอนนี้เธอรู้สึกขอบคุณเขามากๆจากใจจริงของเธอ“55555ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก"ภูผาขำท่าทางของหญิงสาวที่อยู่ดีๆก็ยกมือไหว้เขาซะงั้นแถมเธอเห็นเขาเป็นนายทุนหน้าเลือดหรือไงมีคิดดอกเบี้ยด้วยชาร์ลที่ยืนเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ห่างๆเมื่อเห็นเจ้านายของตนหัวเราะร่าเพราะหญิงสาวเขาเองรู้สึกแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นใครทำเจ้านายของเขาหัวเราะแบบนี้มานานมากแล้ว“คุณจะกลับบ้านเลยไหมเดี๋ยวผมไปส่งเพราะยังไงวันนี้คุณก็นอนเฝ้ายายคุณไม่ได้อยู่ดี”ภูผาเห็นว่าหญิงสาวยังไงก็ไม่
เช้าวันต่อมาแพรไหมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะว่ารู้สึกว่าหมอนข้างที่เธอกอดอยู่นั้นมันทำไมแข็งแปลกๆเมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าไอ้ที่เธอกอดอยู่มันไม่ใช่หมอนข้างกลับเป็นชายหนุ่มที่มาหาเธอเมื่อวานแทนหญิงสาวไม่รู้ว่าเขามานอนที่ตียงของเธอตั้งแต่เมื่อไรทำเอาทำเอาเธอแทบจะกรี๊ดแต่ก็ต้องเอามือปิดปากเอาไว้แล้วค่อยๆเขยิบออกห่างจากตัวชายหนุ่มแพรไหมเริ่มคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานว่าเขามานอนห้องเธอได้ยังไงเธอจำได้ว่าเมื่อวานเขานั่งทำแผลให้เธออยู่หลังจากนั้นภาพก็ตัดไปตื่นมาอีกทีก็เจอเขานอนอยู่ตรงนี้แล้วเธอพยายามคิดว่าเป็นเธอเองเหรอที่ชวนเขามานอนด้วยแต่เอ…ออ.ก็ไม่น่าจะใช่พลันสายตาของเธอก็หันไปมองหน้าของชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ตอนนี้พอดีหญิงสาวคิดว่าตอนที่เขาหลับก็หล่อดีเหมือนกันแฮะเธอค่อยๆลองใช้มือน้อยๆของเธอยื่นไปจับเคราของเขาเล่นเบาๆพร้อมยื่นหน้าเข้าไปมองเขาใกล้ๆตอนนี้เธอรู้สึกว่าใจของเธอเต้นแรงแปลกๆหน้าที่ซีดเซียวจากการตื่นนอนก็เริ่มมีสีแดงระเรื่อยิ่งเธอมองเขาใกล้ๆความหล่อของเขานี่ชนะพวกนายแบบหน้าปกนิตยาสารดังๆขาดเลยนะเนี่ยยย“จะลักหลับผมเหรอ”จู่ๆชายหนุ่มก็ลืมตาพรึ่บขึ้นมาทำเอาหญิงสาวผละออกแทบไม่ทันชายห
บ้าน แอนเดอสัน“หายไปไหนมาทั้งคืนตาภู”“คุณย่า….มาตั้งแต่เมื่อไรครับ”ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านมาก็ได้ยินเสียงคนเป็นย่าของเขาบ่นขึ้นทันทีทำเอาชายหนุ่มถึงกับหน้าตาตื่นเมื่อเห็นคนเป็นย่าของเขากลับมาคงจะไม่พ้นเรื่องจับคู่ให้เขาอีกสินะความพยายามของคุณย่าเขาไม่มีลดละเลยจริงๆรู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถบังคับเขาได้ก็ยังไม่ยอมเลิกคิดแผนจับคู่ให้เขาซะที“ยังไม่ได้ตอบคำถามย่าเลยว่าหายไปไหนมาอย่าบอกว่าไปค้างคืนกับพวกแม่นางแบบพวกนั้นมาอีกล่ะ”เอมมิลี่เค้นเอาคำตอบจากหลานชายตัวดีของเธอว่าหายไปไหนมาทั้งคืนเพราะเธอบินกลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ยักเห็นหลานชายอยู่บ้านเธอรอจนดึกดื่นก็ไม่เห็นกลับครั้นถามเอาคำตอบกับชาร์ลรายนั้นก็บอกกับเธอว่ารอถามคุณชายเองจะดีกว่าเอมมิลี่คิดว่ายังไงก็คงจะไม่ได้คำตอบจากชาร์ลอยู่ดีจึงไม่ได้ซักไซร้อะไรมากเพราะคิดว่าทั้งสองเจ้าเล่ห์พอกันทั้งเจ้านายและลูกน้องมีหวังคำตอบที่ได้ก็เป็นคำตอบที่คลุมเครือทำให้เธอไม่เข้าใจอยู่ดี“ป่าวซะหน่อยครับคุณย่ามาๆผมหอมหน่อยไม่เจอกันตั้งนานคิดถึงจังเลยครับ”ชายหนุ่มแสร้งเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่ได้อยากจะตอบคำถามผู้เป็นย่ามากนัก“ไม่ต้องมาทำเป็นรักย่าเล
21.00 นกุกกักๆ เพล้งงงงง“เสียงอะไรนะ”แพรไหมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนของเธอเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆก็เห็นท่าว่าไม่ดีหญิงสาวจึงไปหยิบไม้เบสบอลที่เธอแอบซื้อเก็บไว้ในตู้แล้วเดินย่องออกมาด้านนอกเพื่อดูว่าเสียงที่เธอได้ยินนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ถ้าเป็นโจรเธอก็พร้อมจะสู้ตายเหมือนกัน“หยุดนะไอ้ขี้ขโมย….นี่แน่ะๆๆๆๆ”ตุบ..ตุบหญิงสาวเห็นเงาตะคุ่มๆที่ชั้นล่างของบ้านเธอก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นขโมยแน่ๆหนอยรู้จักแพรไหมน้อยไปคนอย่างเธอไม่มีวันให้ใครมาขโมยของบ้านเธอได้หรอกของรักของหวงของเธอทั้งนั้นเธอจะรักษาเท่าชีวิตเลยคอยดูเมื่อหญิงสาวเดินมาใกล้เงานั้นก็ใช้ไม้เบสบอลที่ถืออยู่ในมือฟาดลงที่คนที่เธอคิดว่าเป็นขโมยอย่างไม่ยั้งมือ“โอ้ยๆคุณนี่ผมเอง”“คุณภู”เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มร้องโอดโอยเธอกพอจะเดาออกว่าเป็นเสียงใครเลยยั้งมือการฟาดไม้เบสบอลไปที่คนที่ตัวเธอเองคิดว่าเป็นโจรทันที“โอ้ยยยเบาๆคุณผมเจ็บ”“สมน้ำหน้าอยากเล่นอะไรพิเรนเอง”เมื่อหญิงสาวรู้ว่าคนที่แอบย่องเข้าบ้านเธอเป็นใครเธอจึงเดินไปเปิดไฟเพื่อจะได้คุยกับชายหนุ่มให้รู้เรื่องว่าเขาเข้ามาทำอะไรแต่เมื่อแสงไฟสว่างขึ้นหญิงสาวเห็นว่าหัวขอ
เช้าวันต่อมาRrrrrrrrrrr“เสร็จหรือยังคุณผมรออยู่ข้างล่าง”“แพรกำลังจะลงไปค่ะ”หญิงสาวรีบหยิบกระเป๋าแล้วเตรียมตัวจะลงไปข้างล่างเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะรอนาน“ไปกันเถอะค่ะคุณภูแพรพร้อมแล้วค่ะ”ชายหนุ่มยืนมองชื่นชมความร่มรื่นที่หน้าบ้านของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงของเธอเรียกจากด้านหลังจึงรีบหันมาภาพตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มย้มกว้างออกมาอย่างง่ายดายเขาคิดไว้แล้วว่าชุดนี้ที่เขาเลือกเองกับมือต้องเข้ากับเธอแน่ๆวันนี้แพรไหมดูสวยสะกดสายตาเขาเอามากๆด้วยสีของชุดที่เข้ากับผิวของเธอและยังหุ่นที่มันพอดีกับชุดยิ่งดูยิ่งน่ากอดชะมัดไหนจะใบหน้าของเธอที่ปัดเครื่องสำอางเบาๆมันทำให้เช้านี้ของเขาช่างดูสดใสเสียจริง“ยืนยิ้มอยู่ทำไมคะคุณภูเราจะไปกันหรือยังคะ”เมื่อแพรไหมเห็นคนตรงหน้าเอาแต่ยืนยิ้มไม่พูดอะไรเสียทีเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้นจนเธอต้องเอ่ยปากถามว่าตกลงจะไปกันได้หรือยัง“เอ่อ..เดี๋ยวเรามานั่งตกลงกันก่อนโอเคไหม”ชายหนุ่มใช้สองมือจับบ่าหญิงสาวแล้วดันให้เธอนั่ลงที่โซฟาเพื่อคุยกับเขาก่อนขืนเธอไปเจอครอบครัวเขาแล้วไม่เตี๊ยมกันไว้ก่อนมีหวังย่าของเขาจับได้แน่จับผิดเก่งซะขนาดนั้น“คะ...ตกลง...ตกลงเรื่องอะไรคะ”“
“หนูชื่อแพรไหมใช่ไหมไหนมาใกล้ๆย่าหน่อยซิ”เอมิลี่นั่งมองหญิงสาวอยู่ที่หัวโต้ะรู้สึกอยากจะมองหน้าหญิงสาวตัวเล็กบอบบางที่ช่างกล้าหาญตรงนี้เสียจริงเมื่อหญิงสาวถูกผู้เป็นย่าของชายหนุ่มเรียกให้เธอเข้าไปหาใกล้ๆเธอจึงค่อยๆคลานเข่าเข้าไปหาด้วยความนอบน้อมตามที่ยายของเธอเคยสอนมาหญิงสาวยิ้มให้หญิงแก่ตรงหน้าอย่างจริงใจเธอรู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างดูอบอุ่นทำให้เธอนึกถึงยายของเธอที่นอนป่วยอยู่ตอนนี้เหลือเกิน“ไหนขอย่าดูหน้าใกล้ๆหน่อยซิ...น่ารักจังเลยนะเราอายุเท่าไรแล้วจ๊ะหนูแพร”“22เข้า23แล้วค่ะคุณย่า”แพรไหมรู้สึกหายใจทั้งท้องขึ้นมาทันทีที่คุณย่าของชายหนุ่มไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาบอกเลยสักนิดแถมยังดูเอ็นดูเธออีกด้วย“อย่างนั้นเรอะ...อืม..อย่าหาว่าย่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะแล้วท้องรึยังล่ะ”"พรวดดดดด......"ภูผากำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเมื่อได้ยินคนเป็นย่าถามคำถามว่าที่หลานสะใภ้ทำเอาเขาสำลักน้ำพุ่งพรวดออกมาทันควันเขาไม่คิดว่าคุณย่าของเขาจะถามตรงไปตรงมาแบบนี้เมื่อเขาหันไปดูหญิงสาวตอนนี้เธอก็ดูมีสีหน้าที่ตกใจไม่ต่างจากเขาเช่นกัน“คุณแม่คะ”พิมพาเมื่อได้ยินคนเป็นแม่สามีถามหญิงสาวตรงไปตรงมาแบบนั้นเธอเองก็ต้