“นี่คุณหยุดเลิกเล่นบทเด็กสาวบริสุทธิ์ซะทีได้ไหมทำหน้าที่ขายบริการของคุณให้มันเสร็จๆไปเลิกดิ้นเราจะมาสนุกกันโอเคไหมเพราะผมไม่ชอบฟิวนี้หรืออยากจะโก่งค่าตัวเงินที่หุ้นส่วนผมจ้างคุณมันไม่พอใช่ไหมเอางี้ทำตามใจผมแล้วคุณจะได้เงินพิเศษก้อนโตโอเค๊”
ชายหนุ่มพูดใส่หน้าหญิงสาวเสียงแข็งอยากให้เธอเลิกเล่นบทเด็กส่งของสาวบริสุทธิ์นี้ซะทีเพราะเขาเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาแล้วจากการที่ได้ใกล้ตัวหญิงสาวกลิ่นตัวเธอช่างหอมในแบบที่ไม่เหมือนใครจริงๆและกลิ่นนี้ก็ปลุกอารมณ์ความเป็นชายในตัวของเขาได้ดีชะมัดเขาต้องการให้บทรักของเขาดำเนินไปอย่างเรียบง่ายไม่จำเป็นต้องมีลูกเล่นอะไรเยอะเพราะเขาไม่อยากที่จะใช้พลังงานมากแต่หญิงสาวก็ช่างอินในบทเหลือเกินเขาจึงต้องดุปรามเธอหน่อย
“เงินบ้าอะไรฉันไม่อยากได้แล้วฉันก็ไม่ได้ขายตัวด้วยปล่อยฉันไปเถอะ...ฮือๆๆๆ..ฉันไหว้ล่ะ”
ชายหนุ่มรู้สึกทึ่งในตัวผู้หญิงคนนี้เหลือเกินที่ทำท่าทางอาการกลัวได้สมจริงยิ่งนักในเมื่อเธอยังอินกับการแสดงแบบนี้ก็ปล่อยให้เธออินต่อไปเพราะตอนนี้เข้เริ่มข่มอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ไหวแล้ว
“โถ่เอ้ยยย....เงียบ...ไม่ชอบฟังเสียงร้องให้เข้าใจไหม...ไม่ชอบ...ไม่ชอบ...ไม่ชอบบบบบบ...ถ้าไม่หยุดผมจะเอาเสื้ออุดปากคุณไว้”
ชายหนุ่มรำคาญหญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างของเขาที่กำลังร้องให้สะอึกสะอื้นได้สมจริงจนน่ารำคาญแล้วก็ยังทำตัวสั่นสมจริงเสียด้วยเขาเลยแผดเสียงใส่เธอแล้วจ้องหน้าเธอตาเขม็งเพื่อเป็นการเตือนว่าเขาไม่ชอบและอะไรที่เขาไม่ชอบก็อย่าทำและมันก็ทำให้หญิงสาวถึงกับเอามือปิดปากตัวเองเงียบแต่ก็ยังตัวสั่นอยู่เหมือนเดิมแววตาที่ดูตื่นกลัวที่มีน้ำตาคลออยู่ทำให้เขาต้องหันไปมองส่วนอื่นของเธอแทนเพราะเขาไม่ชอบแววตาที่แบบนี้นี้สักเท่าไรอยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะเล่นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไร
ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าของหญิงสาวออกหมดภายในเวลาอันรวดเร็วถึงจะมีมือเธอปัดป้องอยู่ก็ตามแต่แรงของผู้หญิงตัวเล็กๆของเธอหรือจะสู้แรงของเขาได้เรือนร่างของหญิงสาวทำให้สะกดสายตาของชายหนุ่มได้ดียิ่งนักยิ่งมองยิ่งไม่อยากหยุดมองหญิงสาวที่ดิ้นอยู่คราแรกเมื่อได้รับสัมผัสจากเขาก็จะดูโอนอ่อนตามบ้างเป็นบางครั้งชายหน่มไม่รู้ว่าอาการแบบนี้เป็นมารยาของเธอหรือป่าวแต่เขารู้สึกว่าชอบมาก
บทรักของทั้งสองค่อยๆเป็นไปตามอารมณ์อย่างไม่เร่งรีบคราแรกชายหนุ่มคิดว่าเขาเองจะอยู่กับเธอไม่นานแล้วจะให้เธอกลับเพื่อที่เขาจะได้พักผ่อนต่อแต่เมื่อสัมผัสตัวเธอแล้วทำให้เขาหยุดไม่ได้จริงๆไม่รู้ว่าเขาเอาแรงมาจากไหนนักหนาหรืออาจจะเป็นเพราะหญิงสาวคนนี้เล่นบทเด็กสาวบริสุทธิ์ได้เสมอต้นเสมอปลายล่ะมั้ง
เขาไม่คิดว่าหญิงสาวที่ขายบริการจะทั้งสวยทั้งหอมหวานแถมยังแน่นไปทั้งตัวราวกับไม่เคยกับเรื่องแบบนี้ปกติเขาจะไม่ใช้ปากสัมผัสเนื้อตัวของหญิงขายบริการคนไหนแต่กับเธอเหมือนทำให้เขาเสียการควบคุมบางอย่างไปโดยปริยายแม้แต่สิ่งป้องกันเขาก็ยังไม่ไม่คิดที่จะหยิบมาสวมใส่
หญิงสาวใต้ร่างที่ร้องขอให้เขาหยุดอยู่หลายครั้งแต่การร้องขอของเธอกลับเป็นพลังให้เขามีแรงที่จะร่วมรักกับเธออยู่หลายๆรอบจนหญิงสาวหมดแรงแล้วหลับไปเอง
เขากะว่าจะโทรไปขอบคุณหุ้นส่วนของเขาสักหน่อยที่ส่งของดีพรีเมี่ยมมาให้แบบนี้และกะว่าจะขอให้เธออยู่ต่อจนกว่าเขาจะกลับที่เมืองไทยโดยยอมจ่ายตามที่เธอร้องขอแบบไม่อั้นอีกด้วย
เช้าของอีกวันชายหนุ่มตื่นขึ้นมาพบว่าไม่เจอหญิงสาวอยู่ในห้องแล้วทั้งเสื้อผ้ากระเป๋าของเธอก็ไม่อยู่คาดว่าเธอน่าจะกลับไปแล้วเขานึกเสียดายเธอน่าจะอยู่เพื่อที่จะคุยกับเขาก่อนเพราะเขามีข้อเสนอดีๆที่เขาจะยื่นให้แต่ในเมื่อเธอไปแล้วเขาก็ไม่ได้คิดที่จะตามเพราะก็คิดซะว่าเป็นช่วงเวลาที่เธอทำให้เขาประทับใจตามหน้าที่เท่านั้นเมื่อนึกได้ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจะต้องโทรไปขอบคุณคนที่ส่งเธอมาให้สักหน่อย
เมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นเตรียมที่จะไปเข้าห้องน้ำชำระล้างร่างกายก็พบว่าที่หน้าขาของเขามีแต่รอยเลือดเต็มไปหมดเขาเองตกใจชะงักไปชั่วขณะเมื่อเปิดผ้านวมออกดูก็พบว่ามีรอยเลือดเต็มที่นอนทำเอาชายหนุ่มถึงกับหน้าเสียรู้สึกผิดที่ทำอะไรรุนแรงกับหญิงสาวที่ไม่เคยกับเรื่องแบบนี้ก็ใครจะไปคิดว่าเธอบริสุทธิ์อยู่เพราะในเมื่อขึ้นชื่อว่าผู้หญิงขายบริการก็ต้องผ่านมาพอสมควรนั่นแหละ
Rrrrrrrrrrr
“ว่าไงลูคัสผมกำลังจะโทรหาคุณอยู่พอดี”
“คุณปฎิเสธผมได้ลงคอเชียวนะคุณแอนเดอสันเมื่อวานเด็กของผมบอกว่าพยายามติดต่อหาคุณแล้วแต่คุณไม่รับสาย”
“หือ...ก็คุณส่งคนมาให้ผมแล้วนี่เธอเป็นคนไทยเมื่อคืนเธอก็อยู่กับผมทั้งคืนผมกะว่าจะโทรมาขอบคุณคุณอยู่พอดีเลย”
ชายหนุ่มรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆที่เขาไม่รู้เป็นแน่
“คนที่ผมส่งไปเธอไม่ใช่คนไทยนะคุณแอนเดอสันแล้วเธอผมก็ไม่ได้บอกเธอด้วยว่าคุณอยู่ที่ไหนเพราะผมให้เธอติดต่อแล้วนัดเจอกับคุณเอง”
“งั้นเดี๋ยวผมว่าคงต้องมีเรื่องอะไรเข้าใจผิดแน่ๆเดี๋ยวผมติดต่อกลับ”
“โอเค”
ชายหนุ่มรู้สึกงงไปหมดในเมื่อหญิงสาวคนเมื่อคืนไม่ใช่คนที่ลูคัสส่งมาให้แล้วเธอเป็นใครล่ะเขานั่งคิดวนไปวนมาอยู่หลายรอบหรือว่าเธอจะเป็นเด็กส่งอาหารจริงๆถ้างั้นเมื่อคืนมันก็ไม่ใช่การแสดงน่ะสิโถ่เอ้ยยยนี่เขาทำอะไรลงไปเนี่ยแถมเขายังเป็นคนแรกของผู้หญิงคนนั้นอีกเขาอยากจะบ้าไม่มีครั้งไหนที่เขาคิดว่าตัวเองไม่เป็นสุภาพบุรุษเท่าครั้งนี้เลย
“ใช่สิ...ส่งอาหาร”
ชายหนุ่มจำได้ว่าที่กล่องของอาหารมีชื่อร้านอาหารบอกอยู่เธอต้องมาจากที่นี่แน่ๆชายหนุ่มจัดการอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยและให้ชาร์ลพาเขาไปที่ร้านอาหารแห่งนั้นแต่เมื่อไปก็พบว่าเธอไม่อยู่ที่นั่นแล้วจากคำบอกของพนักงานรู้เพียงแค่ชื่อของเธอว่าชื่อแพรไหมแต่ไม่รู้ว่าเธอไปไหนเหมือนกัน
แถมพนักงานยังต่อว่าเธอให้เขาฟังอีกว่าให้หญิงสาวเอาหารไปส่งลูกค้าตั้งแต่เมื่อคืนแต่เธอก็หายไปพร้อมอาหารทำให้ลูกค้าโทรมาโวยวายที่ร้านยกใหญ่เธอออกไปได้ก็ดีแล้วอยู่ที่ร้านก็พาแต่จะทำความเสียหายเขาเองอยากตอกกลับหน้าพนักงานคนนั้นนักว่าเธอไม่ได้ผิดเขาที่ผิดเอง
ชายหนุ่มนั่งคิดเรื่องนี้อยู่ในห้องพักใหญ่พร้อมพ่นลมหายใจออกมาเบาๆเขาอยากจะเจอเธออีกเหลือเกิน
21.00 น.“ยายจ๋าก่อนนอนกินยาหรือยังจ๊ะ”แพรไหมเดินส่งเสียงเจื้อยแจ้วตั้งแต่หน้าห้องเพื่อถามว่ายายของเธอกินยายหรือยังเพราะกลัวว่าคนเป็นยายจะลืมอีก“กินแล้วลูกแล้วนี่แขนเป็นไงบ้างแพร”ทับทิมรู้ว่าหลานสาวของเธอต้องเข้ามาถามแบบนี้อยู่เป็นประจำทุกวันอยู่แล้วเธอจึงพยายามบอกตัวเองว่าอย่าลืมกินยาเสมอโดยใช้วิธีขีดที่ปฎิทินเล่มเล็กบนหัวเตียงหลานสาวของเธอจะได้ไม่เป็นห่วงพร้อมถามถึงอาการที่แขนของเธอด้วย“ดีขึ้นแล้วจ๊ะยายแพรกินยาแก้ปวดกับแก้อักเสบที่หมอให้มาแล้วจ๊ะ”“งั้นไปนอนพักผ่อนเถอะยายก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”“เดี๋ยวแพรปิดไฟเลยนะจ๊ะยาย”เมื่อเห็นผู้เป็นยายพยักหน้ารับหญิงสาวก็ปิดไฟแล้วปิดประตูห้องของยายเธอแล้วจึงเดินเข้ามาที่ห้องของตัวเองหญิงสาวจะเดินไปหยิบหนังสือที่โต้ะวางของของเธอขึ้นมาอ่านแต่ตาก็ดันเหลือบไปเห็นแฟ้มเรซูเม่ของตัวเองพลันทำให้นึกถึงเรื่องที่เธอเข้าไปสัมภาษณ์งานกับผู้ชายใจร้ายคนนั้นแล้วภาพเหตุการณ์ร้ายๆที่ออสเตรเลียก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธออีกครั้งในคืนนั้นที่ร้านอาหารไทยในซิดนี่ย์“แพรจะกลับแล้วเหรอพี่ฝากส่งอาหารให้ลูกค้าที่โรงแรมใกล้ๆนี่หน่อยสิลูกค้าเป็นคนไทย”สาลี่เจ๊เจ้าของร้านอา
หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอถึงเมื่อไรมารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเช้าเมื่อเห็นชายหนุ่มยังหลับสนิทอยู่เธอจึงค่อยๆลุกขึ้นมาแต่งตัวแล้วหยิบกระเป๋าออกจากห้องไปโดยเร็วด้วยร่างกายที่อ่อนล้าและจิตใจของเธอที่กำลังอ่อนแอทำให้หญิงสาวนึกถึงบ้านที่เมืองไทยเธอจึงเก็บกระเป๋าแล้วกลับเมืองไทยแบบที่ไม่ไดบอกใครเพราะทำใจอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆเมื่อแพรไหมนั่งคิดถึงเรื่องอดีตได้สักพักก็สลัดความคิดออกจากหัวละทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเธอทันทีเธอหวังว่าสมองที่ไม่ดีของเธอจะทำให้ลืมเรื่องนี้ได้ไวๆก็แล้วกันเช้าวันต่อมาก๊อกๆๆๆๆ“ยายจ๋าตื่นหรือยังจ๊ะ”แพรไหมเห็นว่าวันนี้ยายของเธอไม่ได้อยู่ที่ครัวตอนเช้าเหมือนเช่นทุกวันเธอจึงคิดว่ายายยังต้องนอนอยู่ในห้องแน่ๆจึงเคาะประตูเรียกเมื่อหญิงสาวเห็นว่าไม่มีคนมาเปิดจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปดูว่ายายเธออยู่ในนี้เหมือนที่เธอคิดหรือป่าว“ยายจ๋ายาย....ยายยยยยยยย”หญิงสาวเรียกยายของเธอที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยน้ำเสียงสั่นๆปนร้อนรนเพราะเธอเขย่าตัวยายของเธอแล้วแต่ก็ไม่มีท่าท่ว่ายายของเธอจะตื่นขึ้นมา“ฮัลโหลรถพยาบาลเหรอคะ”หญิงสาวหยิบมือถือโทรเรียกรถพยาบาลทันทีดีที่ครั้งก
ภูผาจากที่หันหน้ามองไปทางอื่นอยู่ก็ต้องหันกลับมามองเธออย่างตกใจคิดว่านี่เธอเสียใจที่เจอเขาขนาดนี้เลยเหรอชายหนุ่มนั่งหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนขนาดนั้นเขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอแล้วรวบตัวเธอมากอดไว้พร้อมลูบหัวหญิงสาวเบาๆคราแรกคิดว่าเธอจะขัดขืนแต่เมือเขาเข้าไปกอดเธอก็ดันตัวมาซบที่อกของเขาจนตอนนี้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาใส่มาเปียกน้ำตาเธอหมดแล้ว“ฮือๆๆๆ...”แพรไหมเริ่มสะอื้นอ่อนลงเมื่อชายหนุ่มเข้ามาปลอบเธอคราแรกหญิงสาวก็รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อยที่อยู่ดีๆเขาก็เข้ามากอดปลอบเธอหญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มอาจจะรู้สึกสงสารหรือไม่ก็สมเพชเธอล่ะมั้งแต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกันที่มีใครสักคนอยู่ปลอบใจเธอเพราะจิตใจเธอตอนนี้อ่อนแอเหลือเกินภูผากอดหญิงสาวอยู่แบบนั้นจนเธอเริ่มที่จะสะอื้นน้อยลงแต่เมื่อก้มมองคนที่เขากอดอยู่พบว่าเธอค่อนข้างที่จะเหม่อลอยแปลกๆเขาคิดว่าตัวหญิงสาวเองคงต้องมีเรื่องอื่นที่ทำให้เธอกังวลใจอยู่เป็นแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่ดูเศร้าหนักขนาดนี้หรอกแต่เขาเองก็ไม่ได้ถามอะไรเธอออกไปเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอแย่ไปกว่านี้อีกได้แต่กอดเธอแล้วลูบหัวเบาๆปลอบเธอไปเท่านั้นR
ภูผายื่นหน้าไปใกล้ๆเธอแล้วบอกกับเธอว่าเขาคุยเรียบร้อยแล้วทำเอาหญิงสาวถึงกับทำตาโตแล้วจ้องเขากลับหญิงสาวจะรู้ตัวหรือป่าวนะว่าสายตานี้ทำให้เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อยจนต้องก้มหน้าลง“ผมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดของคุณยายคุณเองคุณยายของคุณจะได้หายสักทีไง”ชายหนุ่มพูดพร้อมเอามือยีหัวหญิงสาวที่นั่งทำหน้าแปลกใจอยู่“ขอบคุณ...คุณมากเลยนะคะค่ารักษาเท่าไรเดี๋ยวแพรจะหาเงินมาคืนคุณทุกบาททุกสตางค์เลยค่ะคุณจะคิดดอกก็ได้นะคะ”แพรไหมรีบยกมือไหว้ชายหนุ่มยกใหญ่เธอไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่เธอมองว่าเขาเป็นคนที่ใจร้ายเขาจะมีความใจดีอยู่บ้างจากที่อยากให้เขาไปให้พ้นๆตอนนี้เธอรู้สึกขอบคุณเขามากๆจากใจจริงของเธอ“55555ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก"ภูผาขำท่าทางของหญิงสาวที่อยู่ดีๆก็ยกมือไหว้เขาซะงั้นแถมเธอเห็นเขาเป็นนายทุนหน้าเลือดหรือไงมีคิดดอกเบี้ยด้วยชาร์ลที่ยืนเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ห่างๆเมื่อเห็นเจ้านายของตนหัวเราะร่าเพราะหญิงสาวเขาเองรู้สึกแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นใครทำเจ้านายของเขาหัวเราะแบบนี้มานานมากแล้ว“คุณจะกลับบ้านเลยไหมเดี๋ยวผมไปส่งเพราะยังไงวันนี้คุณก็นอนเฝ้ายายคุณไม่ได้อยู่ดี”ภูผาเห็นว่าหญิงสาวยังไงก็ไม่
เช้าวันต่อมาแพรไหมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะว่ารู้สึกว่าหมอนข้างที่เธอกอดอยู่นั้นมันทำไมแข็งแปลกๆเมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าไอ้ที่เธอกอดอยู่มันไม่ใช่หมอนข้างกลับเป็นชายหนุ่มที่มาหาเธอเมื่อวานแทนหญิงสาวไม่รู้ว่าเขามานอนที่ตียงของเธอตั้งแต่เมื่อไรทำเอาทำเอาเธอแทบจะกรี๊ดแต่ก็ต้องเอามือปิดปากเอาไว้แล้วค่อยๆเขยิบออกห่างจากตัวชายหนุ่มแพรไหมเริ่มคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานว่าเขามานอนห้องเธอได้ยังไงเธอจำได้ว่าเมื่อวานเขานั่งทำแผลให้เธออยู่หลังจากนั้นภาพก็ตัดไปตื่นมาอีกทีก็เจอเขานอนอยู่ตรงนี้แล้วเธอพยายามคิดว่าเป็นเธอเองเหรอที่ชวนเขามานอนด้วยแต่เอ…ออ.ก็ไม่น่าจะใช่พลันสายตาของเธอก็หันไปมองหน้าของชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ตอนนี้พอดีหญิงสาวคิดว่าตอนที่เขาหลับก็หล่อดีเหมือนกันแฮะเธอค่อยๆลองใช้มือน้อยๆของเธอยื่นไปจับเคราของเขาเล่นเบาๆพร้อมยื่นหน้าเข้าไปมองเขาใกล้ๆตอนนี้เธอรู้สึกว่าใจของเธอเต้นแรงแปลกๆหน้าที่ซีดเซียวจากการตื่นนอนก็เริ่มมีสีแดงระเรื่อยิ่งเธอมองเขาใกล้ๆความหล่อของเขานี่ชนะพวกนายแบบหน้าปกนิตยาสารดังๆขาดเลยนะเนี่ยยย“จะลักหลับผมเหรอ”จู่ๆชายหนุ่มก็ลืมตาพรึ่บขึ้นมาทำเอาหญิงสาวผละออกแทบไม่ทันชายห
บ้าน แอนเดอสัน“หายไปไหนมาทั้งคืนตาภู”“คุณย่า….มาตั้งแต่เมื่อไรครับ”ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านมาก็ได้ยินเสียงคนเป็นย่าของเขาบ่นขึ้นทันทีทำเอาชายหนุ่มถึงกับหน้าตาตื่นเมื่อเห็นคนเป็นย่าของเขากลับมาคงจะไม่พ้นเรื่องจับคู่ให้เขาอีกสินะความพยายามของคุณย่าเขาไม่มีลดละเลยจริงๆรู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถบังคับเขาได้ก็ยังไม่ยอมเลิกคิดแผนจับคู่ให้เขาซะที“ยังไม่ได้ตอบคำถามย่าเลยว่าหายไปไหนมาอย่าบอกว่าไปค้างคืนกับพวกแม่นางแบบพวกนั้นมาอีกล่ะ”เอมมิลี่เค้นเอาคำตอบจากหลานชายตัวดีของเธอว่าหายไปไหนมาทั้งคืนเพราะเธอบินกลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ยักเห็นหลานชายอยู่บ้านเธอรอจนดึกดื่นก็ไม่เห็นกลับครั้นถามเอาคำตอบกับชาร์ลรายนั้นก็บอกกับเธอว่ารอถามคุณชายเองจะดีกว่าเอมมิลี่คิดว่ายังไงก็คงจะไม่ได้คำตอบจากชาร์ลอยู่ดีจึงไม่ได้ซักไซร้อะไรมากเพราะคิดว่าทั้งสองเจ้าเล่ห์พอกันทั้งเจ้านายและลูกน้องมีหวังคำตอบที่ได้ก็เป็นคำตอบที่คลุมเครือทำให้เธอไม่เข้าใจอยู่ดี“ป่าวซะหน่อยครับคุณย่ามาๆผมหอมหน่อยไม่เจอกันตั้งนานคิดถึงจังเลยครับ”ชายหนุ่มแสร้งเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่ได้อยากจะตอบคำถามผู้เป็นย่ามากนัก“ไม่ต้องมาทำเป็นรักย่าเล
21.00 นกุกกักๆ เพล้งงงงง“เสียงอะไรนะ”แพรไหมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนของเธอเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆก็เห็นท่าว่าไม่ดีหญิงสาวจึงไปหยิบไม้เบสบอลที่เธอแอบซื้อเก็บไว้ในตู้แล้วเดินย่องออกมาด้านนอกเพื่อดูว่าเสียงที่เธอได้ยินนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ถ้าเป็นโจรเธอก็พร้อมจะสู้ตายเหมือนกัน“หยุดนะไอ้ขี้ขโมย….นี่แน่ะๆๆๆๆ”ตุบ..ตุบหญิงสาวเห็นเงาตะคุ่มๆที่ชั้นล่างของบ้านเธอก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นขโมยแน่ๆหนอยรู้จักแพรไหมน้อยไปคนอย่างเธอไม่มีวันให้ใครมาขโมยของบ้านเธอได้หรอกของรักของหวงของเธอทั้งนั้นเธอจะรักษาเท่าชีวิตเลยคอยดูเมื่อหญิงสาวเดินมาใกล้เงานั้นก็ใช้ไม้เบสบอลที่ถืออยู่ในมือฟาดลงที่คนที่เธอคิดว่าเป็นขโมยอย่างไม่ยั้งมือ“โอ้ยๆคุณนี่ผมเอง”“คุณภู”เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มร้องโอดโอยเธอกพอจะเดาออกว่าเป็นเสียงใครเลยยั้งมือการฟาดไม้เบสบอลไปที่คนที่ตัวเธอเองคิดว่าเป็นโจรทันที“โอ้ยยยเบาๆคุณผมเจ็บ”“สมน้ำหน้าอยากเล่นอะไรพิเรนเอง”เมื่อหญิงสาวรู้ว่าคนที่แอบย่องเข้าบ้านเธอเป็นใครเธอจึงเดินไปเปิดไฟเพื่อจะได้คุยกับชายหนุ่มให้รู้เรื่องว่าเขาเข้ามาทำอะไรแต่เมื่อแสงไฟสว่างขึ้นหญิงสาวเห็นว่าหัวขอ
เช้าวันต่อมาRrrrrrrrrrr“เสร็จหรือยังคุณผมรออยู่ข้างล่าง”“แพรกำลังจะลงไปค่ะ”หญิงสาวรีบหยิบกระเป๋าแล้วเตรียมตัวจะลงไปข้างล่างเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะรอนาน“ไปกันเถอะค่ะคุณภูแพรพร้อมแล้วค่ะ”ชายหนุ่มยืนมองชื่นชมความร่มรื่นที่หน้าบ้านของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงของเธอเรียกจากด้านหลังจึงรีบหันมาภาพตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มย้มกว้างออกมาอย่างง่ายดายเขาคิดไว้แล้วว่าชุดนี้ที่เขาเลือกเองกับมือต้องเข้ากับเธอแน่ๆวันนี้แพรไหมดูสวยสะกดสายตาเขาเอามากๆด้วยสีของชุดที่เข้ากับผิวของเธอและยังหุ่นที่มันพอดีกับชุดยิ่งดูยิ่งน่ากอดชะมัดไหนจะใบหน้าของเธอที่ปัดเครื่องสำอางเบาๆมันทำให้เช้านี้ของเขาช่างดูสดใสเสียจริง“ยืนยิ้มอยู่ทำไมคะคุณภูเราจะไปกันหรือยังคะ”เมื่อแพรไหมเห็นคนตรงหน้าเอาแต่ยืนยิ้มไม่พูดอะไรเสียทีเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้นจนเธอต้องเอ่ยปากถามว่าตกลงจะไปกันได้หรือยัง“เอ่อ..เดี๋ยวเรามานั่งตกลงกันก่อนโอเคไหม”ชายหนุ่มใช้สองมือจับบ่าหญิงสาวแล้วดันให้เธอนั่ลงที่โซฟาเพื่อคุยกับเขาก่อนขืนเธอไปเจอครอบครัวเขาแล้วไม่เตี๊ยมกันไว้ก่อนมีหวังย่าของเขาจับได้แน่จับผิดเก่งซะขนาดนั้น“คะ...ตกลง...ตกลงเรื่องอะไรคะ”“