เช้าวันต่อมา
Rrrrrrrrrrr
“เสร็จหรือยังคุณผมรออยู่ข้างล่าง”
“แพรกำลังจะลงไปค่ะ”
หญิงสาวรีบหยิบกระเป๋าแล้วเตรียมตัวจะลงไปข้างล่างเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะรอนาน
“ไปกันเถอะค่ะคุณภูแพรพร้อมแล้วค่ะ”
ชายหนุ่มยืนมองชื่นชมความร่มรื่นที่หน้าบ้านของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงของเธอเรียกจากด้านหลังจึงรีบหันมาภาพตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มย้มกว้างออกมาอย่างง่ายดายเขาคิดไว้แล้วว่าชุดนี้ที่เขาเลือกเองกับมือต้องเข้ากับเธอแน่ๆ
วันนี้แพรไหมดูสวยสะกดสายตาเขาเอามากๆด้วยสีของชุดที่เข้ากับผิวของเธอและยังหุ่นที่มันพอดีกับชุดยิ่งดูยิ่งน่ากอดชะมัดไหนจะใบหน้าของเธอที่ปัดเครื่องสำอางเบาๆมันทำให้เช้านี้ของเขาช่างดูสดใสเสียจริง
“ยืนยิ้มอยู่ทำไมคะคุณภูเราจะไปกันหรือยังคะ”
เมื่อแพรไหมเห็นคนตรงหน้าเอาแต่ยืนยิ้มไม่พูดอะไรเสียทีเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่แบบนั้นจนเธอต้องเอ่ยปากถามว่าตกลงจะไปกันได้หรือยัง
“เอ่อ..เดี๋ยวเรามานั่งตกลงกันก่อนโอเคไหม”
ชายหนุ่มใช้สองมือจับบ่าหญิงสาวแล้วดันให้เธอนั่ลงที่โซฟาเพื่อคุยกับเขาก่อนขืนเธอไปเจอครอบครัวเขาแล้วไม่เตี๊ยมกันไว้ก่อนมีหวังย่าของเขาจับได้แน่จับผิดเก่งซะขนาดนั้น
“คะ...ตกลง...ตกลงเรื่องอะไรคะ”
“ก็ต้องเตี๊ยมกันไว้ก่อนสิคุณ...ขืนถ้าคนในบ้านผมถามเรื่องของเราคุณจะได้ตอบถูก”
แพรไหมพยักหน้าให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้ามเป็นการเข้าใจแทนคำตอบ
“อย่างแรกคุณต้องเรียกผมว่า..พี่ภูแล้วผมก็จะเรียกคุณว่าน้องแพร...จะได้ดูสนิทสนมกันไง”
ชายหนุ่มพูดพร้อมมองไปที่หน้ของหญิงสาวว่าเธอจะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อเห็นว่าเธอทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยเขาจึงเสริมว่าเพื่อที่จะได้ดูสนิทสนมกันหญิงสาวจึงพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ
“แล้วมีอะไรอีกคะ”
“อืมม...ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออกเอาเป็นว่าถ้าที่บ้านผมถามอะไรก็ผมจะช่วยคุณตอบเองแล้วคุณก็เออๆออๆตามผมไปละกัน”
“อ่อ.โอเคค่ะ”
บ้านแอนเดอสัน
“ลงมาสิคุณ.......มา”
ภูผาเห็นว่าหน้าของหญิงสาวดูเป็นกังวลอย่างมากเขาจึงเรียกให้เธอลงรถตามเขาพร้อมยื่นมือให้เธอเพื่อเนการให้กำลังใจแพรไหมกุมมือของชายหนุ่มทันทีเพราะเธอรู้สึกว่าตอนนี้มีเขาคนเดียวเท่านั้นที่เธอคุ้นเคยเธอไม่รู้ว่าถ้าเธอเข้าไปในบ้านของเขาแล้วเธอจะเจออะไรบ้างเธออยากจะเขกหัวตัวเองชะมัดเมื่อคืนเธอพยายามทำใจได้แล้วเชียวแต่พอถึงสถานการณ์จริงกลับรู้สึกประหม่าแปลกๆ
อันที่จริงรู้สึกประหม่าตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาในบ้านของเขาแล้วต่างหากที่มันใหญ่โตกว่าที่เธอคิดไว้เยอะเลยแสดงว่าบ้านของเขาก็คงจะมีแต่ผู้ดีมีชาติตระกูลทั้งนั้นเลยหญิงสาวคิดว่าครอบครัวของชายหนุ่มคงจะไม่ปลื้มเธอแน่เพราะเธอไม่มีอะไรเทียบเขาได้เลยสักนิดแล้วเธอจะช่วยเขาได้ดีไหมเนี่ย
“ผมอยู่ตรงนี้คุณไม่ต้องกลัวนะ”
ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวต้องเกิดอาการประหม่าอย่างแน่นอนดูจากมือของเธอที่บีบมือของเขาอยู่เขาจึงกระซิบใกล้ๆเธอว่าเขาอยู่ตรงนี้ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น
เมื่อแพรไหมได้ยินคำพูดของชายหนุ่มเธอจึงรู้สึกว่าคำปลอบของเขามันได้ผลกับเธอเหมือนกันแฮะตอนนี้เธอรู้สึกว่าอาการประหม่าของเธอเริ่มลดลงมากแล้ว
“เดี๋ยวคุณหยุดก่อน....”
เมื่อทั้งสองเดินกุมมือกันจะถึงหน้าประตูบ้านชายหนุ่มจึงคิดออกว่าเขายังไม่ได้ลองให้เธอทำอะไรบางอย่างที่เขาคิดไว้เลย
“หยุดทำไมคะคุณภู”
หญิงสาวหันกลับมาถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกใจที่จู่ๆก็บอกให้เธอหยุดซะงั้นเกือบจะเข้าไปในบ้านแล้วแท้ๆ
“ไหนคุณลองเรียกผมว่าพี่ภูซิ”
“คะ...เอ่อ...พี่ภู”
“แบบนี้แหละน่ารักที่สุดเลยน้องแพรรรร”
เมื่อชายหนุ่มได้ยินสิ่งที่เขาต้องการได้ยินจากปากหญิงสาวก็ยื่นมือไปหยิกแก้มคนตัวเล็กแล้วก็เดินจูงมือเธอเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดีวันนี้เขาอยากรู้เหลือเกินว่าถ้าคุณย่าของเขาเห็นว่าที่หลานสะใภ้จะว่ายังไงเขาอุตส่าห์พามาหาแบบตัวเป็นๆเลยท้าใครไม่ท้านะคุณย่ามาท้าภูผาคนอย่างเขาไม่เคยแพ้อยู่แล้ว
เมื่อภูผาเดินเข้าไปในบ้านก็เห็นทั้งน้องสาวและแม่ของเขานั่งหันหลังให้เขาอยู่โดยคุยกับผู้เป็นย่าที่ยั่งอยู่หัวโต้ะและตอนนี้ย่าของเขาก็กำลังจ้องมองมาทางเขาและแพรไหมอย่างเขม็งคงจะจ้องดูล่ะสิว่าเขาพาใครมาตอนนี้เขาอยากจะขำออกมาดังๆเหลือเกินที่ชนะคนป็นย่าของเขาได้
“มากันแล้วเหรอ”
“สวัสดีค่ะ”
เมื่อแพรไหมเห็นหญิงสูงอายุที่นั่งอยู่บนหัวโต้ะกล่าวทักเธอคิดว่าคงเป็นคุณย่าที่ชายหนุ่มพูดถึงเป็นแน่จึงรีบยกมือสวัสดี
“อ้าวหนูแพร/น้องแพร”
ทั้งพิมพาและเพลงพิณเมื่อหันมามองคนที่มาพร้อมกับชายหนุ่มต่างก็ตะลึงไม่คิดว่าจะเป็นหญิงสาวที่ทั้งสองรู้จัก
“คุณพิมพี่เพลง”
เมื่อแพรไหมเห็นทั้งสองที่หันมาเรียกเธอพร้อมกันเธอเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อยไปกว่าทั้งสองเช่นกัน
เมื่อทั้งภูผาและแพรไหมนั่งลงทั้งสามก็ถือโอกาศถามไถ่ทั้งสองว่าไปรู้จักกันตั้งแต่ตอนไหนเมื่อไรอะไรยังไงโดยคนที่ไม่คิดจะสนใจเรื่องของพี่ชายตั้งแต่ตอนแรกอย่างเพลงพิณกลับไถ่ถามจุกจิกทุกอย่างเพราะอยากรู้ว่าทั้งสองไปคบกันตอนไหนและช่างเลือกพี่สะใภ้ได้ถูกใจเธอจริงๆ
“อืมมมแล้วพี่ชายไม่รู้เหรอคะว่าน้องแพรได้งานทำที่คลินิกของพี่ชาย”
เพลงพิณรู้สึกสงสัยถ้าหากว่าแพรไหมได้งานทำที่คลินิกของพี่ชายเขาเองแต่ทำไมพี่ชายเขาถึงมาขอประวัติจากเธอล่ะแล้วแพรไหมจะไม่บอกคนเป็นแฟนกันบ้างเหรอว่าได้งานทำที่ไหน
หืมม
ทั้งแพรไหมและภูผาต่างหันหน้ามองกันอย่างเลิ่กลั่กชายหนุ่มฉุกคิดได้ว่าเขาเคยได้ยินน้องสาวเขาพูดถึงชื่อคนที่พึ่งรับมาเป็นประชาสัมพันธ์อยู่ที่คลินิกอยู่ว่าชื่อแพรเขาไม่คิดว่าจะเป็นคนๆเดียวกันซะอีก
“อะ....อ๋อ..แพรพึ่งบอกพี่น่ะ”
ชายหนุ่มพูดพร้อมหันไปมองหน้าหญิงสาวข้างๆเป็นอันว่ารู้กันตอนนี้เขารู้สึกร้อนๆหนาวๆพิกลเขาผิดเองที่ไม่ได้ถามเรื่องนี้กับเธอตั้งแต่ทีแรก
“เอ่อใช่ค่ะ...คือแพรอยากจะเซอร์ไพรซ์พี่ภูเรื่องที่ได้งานใหม่ทำแล้วค่ะพึ่งคุยกันก่อนมานี่เองแพรก็พึ่งรู้ว่าคลินิกที่แพรจะไปทำงานเป็นของพี่ภูน่ะค่ะ”
แพรไหมตอบพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแหยๆเธอเองไม่อยากโกหกคนบ้านนี้เลยเพราะเธอไม่คิดว่าคนที่เธอต้องโกหกจะป็นคนที่มีเมตตากับเธอน่ะสิแถมพวกเขายังดูไม่รังเกียจทั้งฐานะและตัวเธอเองอีกด้วยตอนนี้ในใจเธอรู้สึกผิดต่อพวกเขาเหลือเกิน
แต่ทำยังไงได้เมื่อขึ้นหลังเสือแล้วก็คงจะลงยากและตอนนี้เธอเองก็ต้องตกใจกับเรื่องใหม่ที่เธอพึ่งรู้ว่าคลินิกที่เธอไปทำงานจะเป็นของชายหนุ่มไม่อย่างนั้นเธอไม่ยอมรับปากเพลงพิณว่าจะทำงานนี้แน่นอน
“หนูชื่อแพรไหมใช่ไหมไหนมาใกล้ๆย่าหน่อยซิ”เอมิลี่นั่งมองหญิงสาวอยู่ที่หัวโต้ะรู้สึกอยากจะมองหน้าหญิงสาวตัวเล็กบอบบางที่ช่างกล้าหาญตรงนี้เสียจริงเมื่อหญิงสาวถูกผู้เป็นย่าของชายหนุ่มเรียกให้เธอเข้าไปหาใกล้ๆเธอจึงค่อยๆคลานเข่าเข้าไปหาด้วยความนอบน้อมตามที่ยายของเธอเคยสอนมาหญิงสาวยิ้มให้หญิงแก่ตรงหน้าอย่างจริงใจเธอรู้สึกว่าคนตรงหน้าช่างดูอบอุ่นทำให้เธอนึกถึงยายของเธอที่นอนป่วยอยู่ตอนนี้เหลือเกิน“ไหนขอย่าดูหน้าใกล้ๆหน่อยซิ...น่ารักจังเลยนะเราอายุเท่าไรแล้วจ๊ะหนูแพร”“22เข้า23แล้วค่ะคุณย่า”แพรไหมรู้สึกหายใจทั้งท้องขึ้นมาทันทีที่คุณย่าของชายหนุ่มไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาบอกเลยสักนิดแถมยังดูเอ็นดูเธออีกด้วย“อย่างนั้นเรอะ...อืม..อย่าหาว่าย่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะแล้วท้องรึยังล่ะ”"พรวดดดดด......"ภูผากำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเมื่อได้ยินคนเป็นย่าถามคำถามว่าที่หลานสะใภ้ทำเอาเขาสำลักน้ำพุ่งพรวดออกมาทันควันเขาไม่คิดว่าคุณย่าของเขาจะถามตรงไปตรงมาแบบนี้เมื่อเขาหันไปดูหญิงสาวตอนนี้เธอก็ดูมีสีหน้าที่ตกใจไม่ต่างจากเขาเช่นกัน“คุณแม่คะ”พิมพาเมื่อได้ยินคนเป็นแม่สามีถามหญิงสาวตรงไปตรงมาแบบนั้นเธอเองก็ต้
บ้านแพรไหมหลังจากทานข้าวเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มจึงขับรถพาหญิงสาวกลับบ้านมาเพื่อเก็บเสื้อผ้าไปอยู่ที่บ้านของเขาเพราะคนเป็นย่าของชายหนุ่มได้จัดการให้คนจัดห้องให้เธอเรียบร้อยแล้วดูเหมือนคนเป็นย่าจะจงใจให้อยู่ใกล้ห้องหลานชายเขาเหลือเกินงานนี้ถ้ายายเธอรู้จะเป็นยังไงเนี่ย“คุณภูคะวันนี้แพรขอนอนที่นี่คืนนึงได้ไหม...นะคะขอนอนทำใจคืนนึง”หญิงสาวทำหน้าขอร้องให้คนตรงหน้าเห็นใจเธอไม่กล้าปฏิเสธผู้ใหญ่ในบ้านของเขาเลยเปลี่ยนมาเป็นขอร้องเขาแทนเพื่อที่ชายหนุ่มจะได้ช่วยเธอพูดเรื่องนี้แทนเธอ“อืมมม..ได้แต่ผมต้องอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่ด้วย”ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวคงจะอยากมีเวลาเก็บของเต็มที่เขาจึงไม่ปฏิเสธแต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องอยู่ด้วยเพราะเขาเองก็รู้สึกเป็นห่วงเธออยู่เหมือนกันไม่อยากให้อยู่คนเดียวและอีกอย่างที่บ้านเขาคงต้องว่าเขาแน่ๆถ้าเขาปล่อยให้เธออยู่คนเดียว“แพรอยู่ได้ค่ะคุณไม่ต้องห่วงหรอก....คุณกลับไปเถอะ”หญิงสาวรีบปฏิเสธความหวังดีของเขาที่อยากจะอยู่เป็นเพื่อนทันทีเพราะให้เธออยู่คนเดียวยังรู้สึกว่าปลอดภัยกว่าอยู่กับเขาซะอีก“ไม่ต้องปฏิเสธเลยคุณ...ขืนผมกลับไปแล้วปล่อยให้คุณอยู่ที่นี่คนเดียวมีหวังคุณย่
“เลิกคิดแบบนั้นได้เลยค่ะคุณภูแพรไม่มีทางคบกับคุณได้หรอก....”แพรไหมพูดพร้อมตักข้าวเข้าปากและเบนหน้าหนีชายหนุ่มไปกดเปิดทีวีดูเธอรู้ตัวเองดีว่าเธอและเขายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ถึงแม้ว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรขนาดนั้นก็เถอะฐานะของเธอและเขาต่างกันแค่ไหนเธอรู้ดีและอีกอย่างไอ้ที่เขาทำดีกับเธอก็คงเป็นเรื่องที่เขารู้สึกผิดกับเธอมากกว่า“อ๋อ...อืมมม”ชายหนุ่มหน้าเสียเล็กน้อยจากที่เมื่อครู่ยังทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวอยู่เลยเขาคิดว่าเขาต้องทำยังไงเพื่อให้เธอเห็นว่าเขาจริงใจกับเธอไอ้ที่เธอพูดเมื่อครู่เธอจะรู้ตัวหรือป่าวว่าคำพูดของเธอบีบหัวใจเขาเเค่ไหนเมื่อทังสองทานข้าวเสร็จแล้วแพรไหมจึงให้ชายหนุ่มนอนที่ห้องรับแขกด้านล่างที่เธอเตรียมไว้ให้เมื่อจัดแจงเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงมานอนที่ห้องของเธอละไม่ลืมที่จะล็อคประตูเพราะเธอไม่ไว้ใจชายหนุ่มที่อยู่ข้างล่างสักเท่าไร“อะไรเนี่ยแพร....อย่าลืมสิว่าเขาเคยทำอะไรกับเราไว้...เลิกคิดๆๆๆๆๆๆๆ”เมื่อทิ้งตัวลงนอนหญิงสาวก็กลับนอนไม่หลับเมื่อนึกถึงเรื่องชายหนุ่มที่เข้ามาทำดีกับเธอแถมสถานการณ์ตอนนี้เธอยังคงต้องอยู่ใกล้ชิดเขาบ่อยๆด้วยเธอกลัวใจตัวเองเหลือเกินกลัวว่าจะแ
เช้าวันต่อมาหญิงสาวตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจภาพตรงหน้าเพราะตอนนี้หน้าของเธออยู่ห่างจากชายหนุ่มไม่ถึงคืบเมื่อเธอได้มองเขาใกล้ๆขนาดนี้อีกครั้งทำให้เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงและถี่ขึ้นเรื่อยๆจนเธอต้องเอามือกุมหัวใจตัวเองพร้อมรีบผละออกแล้วเดินออกมานอกห้องนั้นอย่างรวดเร็วก่อนที่ชายหนุ่มจะตื่นขึ้นมา08.00 น.“เก็บของเสร็จแล้วเหรอคุณเมื่อเช้าตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกผม”เมื่อเห็นหญิงสาวเดินถือกระเป๋าลงมาชายหนุ่มจึงทักเธอขึ้นแต่หญิงสาวกลับทำเหมือนเขาเป็นอากาศที่ลอยอยู่ซะงั้นสงสัยคงจะงอนเขาอยู่เป็นแน่“ยังโกรธผมอยู่เหรอคุณ...ผมขอโทษ..ก็ผมกลัวนี่นา”ชายหน่มยังแถใช้มุขกลัวผีไม่เลิก“เอาเป็นว่าผมรู้ว่าคุณโกรธแต่ตอนนี้เรามาสงบศึกกันก่อนดีกว่าเพราะว่าวันนี้เราต้องเล่นบทเป็นคู่รักกันคุณอย่าลืมนะ”ชายหนุ่มพูดพร้อมเดินเข้าไปช่วยหญิงสาวถือของมาที่รถ“อืมม...แพรไม่ลืมหรอกค่ะว่าต่อหน้าครอบครัวของคุณภูแพรต้องทำตัวแบบไหน”หยิงสาวพูดพร้อมทำหน้างอเธอเดินผ่านหน้าชายหนุ่มแล้วเปิดประตูไปนั่งรอเขาบนรถหน้าตาเฉยทำเอาชายหนุ่มต้องส่ายหัวเบาๆให้กับอาการพยศของเธอบ้านแอนเดอสัน“เก็บของมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมหนูแพร”พิมพา
“ใช่ฉันเองแล้วนี่ก็หลานสะใภ้ฉัน”เอมิลี่ยืนกุมมือแพรไหมแล้วป่าวประกาศให้เธอได้รู้ว่าคนที่หญิงสาวพึ่งดูถูกคือหลานสะใภ้ของเธอเอง“ไหนคุณท่านบอกว่าอยากได้เพนนีไปเป็นหลานสะใภ้ไงคะทำไมถึงเลือกยัยเฉิ่มคนนี้แทนล่ะคะ”เมื่อได้ยินหญิงชราแนะนำตัวหญิงสาวที่เธอพึ่งดูถูกไปหมาดๆว่าเป็นหลานสะใภ้ก็เท่ากับหักหน้าเธอทำให้เธอเริ่มอารมณ์ขึ้นในเมื่อไม่ไว้หน้าเธอเธอเองก็จะไม่ไว้หน้าใครเหมือนกัน“ฉันไม่ได้เป็นคนเลือกเองแต่หลานชายฉันเค้าเลือกแล้วเค้าก็รักของเค้ามากด้วย”เอมิลี่พูดเสียงดังฟังชัดและหวังว่าคนตรงหน้าจะเข้าใจที่เธอพูดเธอรู้สึกไม่ชอบใจอย่างมากที่หญิงสาวตรงหน้ามาแผดเสียงและถลึงตาใส่เธอ“นังนี่เหรอคะไม่มีอะไรที่เทียบเพนนีได้สักนิดแต่งตัวก็เฉิ่มๆเชยๆ”เพนนียังไม่หยุดที่จะดูถูกหญิงสาวในเมื่อเธอไม่ได้สิ่งที่ต้องการเธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเกรงใจใครอีกแล้ว“ก็ยังดีกว่าแต่งตัวดูดีแต่เพราะใช้เงินจากการกินน้ำใต้ศอกคนอื่นหรอกนะ”เอมิลี่ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้หญิงสาวพร้อมเดินออกไปจากร้านอย่างผู้ชนะเธอรู้สึกว่าเพนนีไม่มีสัมมาคารวะเอาเสียเลยนี่ถ้าไม่เห็นแก่พ่อของเธอเอมิลี่ทำมากกว่าแค่ค่อนขอดเธอแน่“คุณย่านี่สุดย
บ้านแอนเดอสันเย็นของวันต่อมา“ว้าว….สวยจังเลยแพรพี่ว่าแล้วว่าแพรต้องใสชุดนี้สวยแน่ๆ”เพลงพิณยืนยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้าที่พึ่งแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเธอคิดไม่ผิดที่เลือกชุดสีขาวนี้ให้กับเธอเพราะพออยู่บนตัวหญิงสาวแล้วมันช่างเข้ากับเธอมากที่สุดรวมทั้งทรงผมที่รวบตึงมัดหางม้าลุคนี้ทำให้แพรไหมดูลุคเป็นสาวที่มีรสนิยมมากขึ้น“ขอบคุณค่ะ”แพรไหมยืนยิ้มให้ตัวเองในกระจกเธอไม่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้หลังจากที่แต่งหน้าทำผมเสร็จเธอเองยังตะลึงคนในกระจกอยู่เลย“งั้นถ้าเรียบร้อยแล้วเราไปกันเถอะ…อ้อ…แล้วถ้ารู้สึกเวียนหัวหน้ามืดบอกพี่ได้นะ”“ค่ะ”เพลงพิณยังเป็นห่วงหญิงสาวกลัวว่าเธอจะมีอาการแบบเมื่อวานอีก“เรียบร้อยแล้วค่ะเราไปกันเถอะ”เพลงพิณพูดขึ้นหลังจากที่เห็นทุกคนยืนรออยู่ข้างล่างกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้วภูผาหันมาตามเสียงของคนเป็นน้องสาวพลันสายตาก็เหลือบไปจ้องมองคนที่เดินตามหลังน้องสาวเขาทันทีภาพตรงหน้าช่างสะกดสายตาของเขาให้มองไปทางไหนไม่ได้วันนี้แพรไหมสวยแปลกตามากสวยมากจนเขาหยุดมองไม่ได้ทั้งชุดและการแต่งหน้าทำผมทำให้เธอดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน“น้องแพรสวยใช่ไหมล่ะคะพี่ชาย”เมื่อเพลงพิณเห็นคนเป็น
“คุณซินดี้ครับตกลงงานวันนี้ผมไม่ต้องเดินแล้วใช่ไหมครับในเมื่อไม่มีนางแบบ”ดินแดนเดินตามหญิงวัยกลางคนมาถึงโซน VIP คราแรกว่าจะขอตัวกลับตั้งแต่อยู่ในห้องแต่งตัวแต่เมื่อรู้ว่านางแบบที่จะเดินด้วยมาไม่ได้เมื่อเขาจะเดินมาบอกซินดี้ว่าจะขอตัวกลับเธอกลับเดินดุ่มๆตรงมาที่นี่ซะงั้นทำให้เขาต้องเดินตามมาถึงที่นี่เขาเองไม่ได้อยากจะเดินแบบงานนี้สักเท่าไรแต่ติดตรงคุณแม่ของเขาเป็นคนขอร้องให้ช่วยเพราะเป็นงานการกุศลถ้าเป็นงานอย่างอื่นเขาไม่ยอมช่วยแน่เขาไม่ชอบสังคมแบบนี้เลยสักนิดชอบอยู่กับป่าอยู่กับเขามากกว่า“เอ่อใจเย็นๆค่ะคุณดินแดนอยู่ช่วยซินดี้ก่อนนะคะอย่าพึ่งหนีงานไปอีกคนเลยนะไม่งั้นงานพังแน่ๆเลย”ซินดี้อ้อนวอนขอร้องชายหนุ่มสุดชีวิตเพราะถ้าเขาไม่อยู่เดินอีกคนงานคงพังแน่ๆเพราะชายหนุ่มต้องเดินแบบคู่กับหญิงสาวในชุดฟินนาเล่น่ะสิแต่ตอนนี้เธอเองยังหาคนใส่ชุดฟินนาเล่ไม่ได้เลย“พี่ดิน…”แพรไหมนั่งจ้องหน้าชายหนุ่มอยู่สักครู่จึงทักชื่อเขาออกมาทำให้ชายหนุ่มที่ทำหน้าเซ็งอยู่เมื่อครู่เมื่อเห็นหน้าหญิงสาวที่เรียกก็ยิ้มหน้าบานออกมาทันที“น้องแพร…..พี่ไม่คิดว่าจะเจอน้องแพรที่นี่สวยขึ้นมากเลยนะเรา”เมื่อชายหนุ่มจำได้ว
“ทั้งสองคนแต่งตัวกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ….ว้าวววว..น้องเพลงสวยมากเลยค่ะหุ่นดีมาก..งานหน้าต้องขอยืมตัวน้องเพลงมาเดินให้อีกแล้วล่ะค่ะ”ซินดี้เห็นหุ่นหญิงสาวก็อดชมไม่ได้ชุดนี้มันช่างเข้ากับเธอจริงๆไหนจะอกเป็นอกเอวเป็นเอวแล้วก็ขายาวสวยของเธอนั่นอีก“ขอบคุณค่ะ”หญิงสาวขอบคุณคนที่ชมแบบเอียงอายนิดๆ“คิวต่อไปจะเป็นคิวของคุณดินแดนและน้องเพลงแล้วนะคะเตรียมตัวรอเลยค่ะ”ซินดี้เดินนำหน้าทั้งสองเพื่อที่จะไปรอหลังเวที“เอ่อ…พี่ซินดี้คะเพลงไม่เคยเดินนะคะ”เมื่ออยู่หลังเวทีหญิงสาวรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันทีพอลองมองออกไปที่หน้าเวทีเห็นคนที่นั่งรอดูอยู่เยอะเธอยิ่งประหม่า“ไม่ต้องกลัวค่ะเดินธรรมชาติเลยค่ะแบบคู่รักค่ะ”ซินดี้หันมาตอบหญิงสาวแบบยิ้มๆและหันไปดูความเรียบร้อยที่หน้างานต่อ“คะ…คู่รัก”หญิงสาวรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ซินดี้บอกไหนตอนพาเธอมาเปลี่ยนชุดไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ“ใช่คุณก็วันนี้เป็นตรีมคู่รักที่เดินกันเป็นคู่…อืมมมคุณก็คิดว่าคุณเดินกับแฟนละกันฟิวประมาณนั้น”ชายหนุ่มลองพูดเพื่อให้หญิงสาวคิดตามว่าเดินแบบวันนี้ฟิวมันจะประมาณไหน“มันฟิวไหนเล่าชั้นไม่เคยมีแฟนนี่”หญิงสาวตอบกลับชายหนุ่มทันควันพร้อมยืนกอ