คืนนั้นที่โรงแรมที่ซิดนีย์
หลังจากที่เขาได้คุยงานกับลูคัสหุ้นส่วนเรียบร้อยแล้วเขาจึงกลับมาพักที่โรงแรมวันนี้การคุยเรื่องธุรกิจของเขากับหุ้นส่วนที่อยู่ที่นี่เป็นไปด้วยดีดูท่าว่าอีกฝ่ายจะพอใจในแผนงานของเขาเป็นอย่างมากและทั้งสองเองก็คุยกันอย่างถูกคออีกด้วยเมื่อดื่มสังสรรค์กันนิดหน่อยในคลับเขาก็เห็นว่ามันเริ่มดึกมากแล้วเขาจึงขอตัวมาพักผ่อน
RrrrrrrrrrrrrRrrrrrrrrr
“สวัสดีคุณแอนเดอสันนี่ผมเองลูคัส”
“...ว่าไงลูคัส”
เมื่อภูผามาถึงโรงแรมแล้วเขาเตรียมจะพักผ่อนจู่ๆก็มีสายเข้ามาพอดีเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครเขาจึงกดรับทันทีเพราะคิดว่าจะมีเรื่องด่วน
“คือพอดีผมเห็นคุณมาคุยงานที่นี่กับลูกน้องแค่สองคนไม่มีสาวๆมาด้วยผมกลัวว่าคุณจะเหงาผมเลยส่งสาวๆสวยๆไปเสริฟอาหารให้คุณเพื่อเป็นการคลายเหงาให้ดีไหมครับ”
“อืมคือวันนี้ผมขอพักผ่อนก่อนดีกว่าขอบคุณที่กลัวว่าผมจะเหงานะลูคัส”
โถ่เอ้ยคิดว่าจะมีเรื่องด่วนอะไรรู้แบบนี้เขาตั้งใจจะไม่รับสายดีกว่าชายหนุ่มสบถในใจเพราะวันนี้เขาอยากที่จะพักผ่อนไม่ได้ต้องการสาวๆที่ไหนมาผ่อนคลายให้เขาด้วยคำว่าเสริฟอาหารเขาก็พอรู้อยู่หรอกว่าลูคัสหมายความว่าอะไร
“แต่ผมอยากให้คุณผ่อนคลายสักหน่อยน่าถือว่าของขวัญจากเพื่อนอย่าปฏิเสธผมเลยนะคุณแอนเดอสัน”
“โอเค..โอเค”
ชายหนุมตอบตกลงอย่างจำใจเพราะในเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าเป็นของขวัญจากเพื่อนสำหรับเขาเมื่อมีเพื่อนทางธุรกิจยื่นข้อเสนออะไรให้ก็ควรที่จะรับไว้ก่อนเพื่อเป็นการให้เกียรติอีกฝ่ายเขาจำเป็นต้องรักษาน้ำใจของหุ้นส่วนคนสำคัญนี้ไว้เพื่อผลดีทางธุรกิจของเขานั่นเอง
“ว้าว55555...มันต้องอย่างนี้สิ...ขอให้สนุกกับอาหารอันโอชะนะคุณแอนเดอสัน”
เมื่อปลายสายส่งเสียงหัวเราะชอบใจทำเอาภูผาต้องลอบถอนหายใจเบาๆในใจของเขาคิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วเขาก็ขอตัวไปอาบน้ำแต่งตัวรอแม่เสือสาวที่ลูคัสส่งมาเลยแล้วกัน
“ชาร์ลเดี๋ยวนายไปพักได้เลยนะเดี๋ยวลูคัสส่งคนมาดูแลฉันเอง”
ภูผาบอกปัดมือพร้อมบอกให้ชาร์ลลูกน้องของเขาให้ไปพักเพราะวันนี้เขามีคนดูแลแล้ว
“เอ่อแล้ววันนี้คุณภูจะพักผ่อนไม่ใช่เหรอครับ”
ชาร์ลเห็นว่าก่อนกลับเจ้านายของเขายังบ่นอยากพักผ่อนอยู่เลยไหงตอนนี้อยากจะใช้แรงขึ้นมาอีกล่ะชาร์ลรู้ดีว่าคำว่าคนดูแลของชายหนุ่มแปลว่าอะไร
“ไม่อยากหักหาญน้ำใจหุ้นส่วนคนนี้สักเท่าไรน่ะ”
“เอ่อ...งั้นผมขอตัวครับ”
เมื่อชาร์ลได้ยินคำตอบของเจ้านายของตนก็รู้ได้ทันทีว่าคนดูแลถูกส่งมาจากใครเขาจึงไม่ถามอะไรต่อเพราะลูคัสกับเจ้านายของเขาพึ่งที่จะเริ่มทำธุรกิจกันและเพื่อที่จะให้มันไปได้สวยก็ไม่ควรที่จะหักหาญน้ำใจกันเป็นดีที่สุด
20 นาทีผ่านไป
ติ๊งต่องๆ
ชายหนุ่มได้ยินเสียงออดหน้าห้องเลยเปิดประตูออกมาทั้งที่ตัวเขายังพันผ้าขนหนูที่ท่อนล่างอยู่ผืนเดียวทำเอาหญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าห้องถึงกับหลบตาลงเล็กน้อย
“อาหารที่สั่งไว้ได้แล้วค่า”
ภูผายืนอมยิ้มให้กับหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าที่ดูท่าน่าจะเป็นคนไทยเพราะเธอพูดไทยใส่เขาชายหนุ่มคิดว่าผู้หญิงที่ลูคัสส่งมาจะอกตู้มหุ่นดีหน้าเป้ะเหมือนนางแบบซะอีกแล้วนี่อะไรเขาคัดเด็กแบบไหนส่งมาให้เขากันเนี่ยแต่มันก็ดูแปลกไปจากผู้หญิงที่เขาเคยลิ้มลองดีเหมือนกันแถมยัยตัวเล็กตรงหน้าเขาก็ช่างเล่นบทเด็กเสริฟได้น่าฟัดชะมัดไหนจะชุดที่ใส่ยังดูมิดชิดอีกผู้หญิงขายบริการที่นี่เขาเปลี่ยนรสนิยมการแต่งตัวกันแล้วหรือเขาเองก็พึ่งรู้
“เข้ามาข้างในสิ”
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาชายหนุ่มจึงเรียกเธอให้เข้ามาในห้องทันทีเพราะเห็นเธอยืนเก้ๆกังๆอยุ่หน้าคงคงจะเป็นเพราะรอให้เขาเรียกเข้าห้องน่ะสิ
“คะ....เอ่อค่ะ”
หญิงสาวเดินตามเขาเข้ามาในห้องแต่โดยดีคราแรกชายหนุ่มเห็นเธอทำหน้าตกใจที่เขาเรียกให้เข้าไปในห้องแต่เธอก็ปรับสีหน้าปกติภายหลังแล้วยอมเดินตามเขาเข้ามในห้องเขาเดินนำหน้าพร้อมอมยิ้มเล็กน้อยให้กับอาการแอ๊บใสของเธอคิดเสียดายว่าเธอยังสาวยังสวยแถมน่าจะยังเด็กอยู่ด้วยน่ามาทำอาชีพนี้เลย
“คุณจะให้วางกล่องอาหารไว้ตรงไหนคะ”
“วางไว้ตรงโต้ะนั่นแหละ”
ชายหนุ่มชี้ให้เธอวางกล่องอาหารที่ถือมาพะลุงพะลังไหนจะกระเป๋าสะพายข้างเธออีก
“เรียบร้อยแล้วงั้นเดี๋ยวหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ”
เมื่อหญิงสาววางของให้เขาเรียบร้อยแล้วจึงหันหน้ามาหาชายหนุ่มแล้วรีบขอตัวกลับทันทีพร้อมเตรียมที่จะเดินออกจากห้องไป
“นี่เดี๋ยวคุณจะไปไหนเล่นบทเด็กเสริฟเสร็จแล้วก็มาทำหน้าที่ของคุณได้แล้วผมจะได้รีบพักผ่อน”
ชายหนุ่มนึกหงุดหงิดใจกับหญิงสาวตรงหน้าเล็กน้อยที่ยังจะสวมบทเป็นเด็กเสริฟส่งอาหารอยู่อีกก็น่าจะเห็นอยู่ตั้งแต่เดินเข้ามาว่าเขาพร้อมตั้งนานแล้วเพราะท่อนล่างก็มีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันอยู่
“หน้าที่...เล่นบทอะไรคะฉันงงไปหมดแล้ว”
หญิงสาวยังมีทีท่าหันมาถามเขาด้วยสีหน้างงๆอีกทำให้ตัวชายหนุ่มเองคิดว่าขคงจะต้องเป็นคนที่จะเริ่มก่อนแล้วหละ
“ว้ายย....ทำอะไรของคุณเนี่ยยย....ปล่อยฉันนะ”
เมื่อเห็นหญิงสาวไม่ยอมมาทำหน้าที่ของตัวเองสักทีเขาจึงต้องเป็นคนไปอุ้มเธอเข้ามาแล้วรีบโยนลงบนเตียงนิ่มทันทีนึกรำคาญไอ้บทหญิงสาวเด็กส่งอาหารของเธอเต็มทนแรกๆก็ว่าน่ารักอยู่หรอก
เมื่อหญิงสาวร่างเล็กถูกโยนลงบนเตียงเธอเองก็รีบตะเกียกตะกายหนีลงจากเตียงแล้วรีบวิ่งไปที่ประตูห้องทันทีแต่ขาสั้นๆของเธอหรือจะหนีทันชายหนุ่มเมื่อหญิงสาววิ่งเกือบจะถึงหน้าประตูก็โดนชายหนุ่มรวบตัวเอาไว้ได้ครั้งนี้เขาจับเธอกดลงบนเตียงด้วยตัวของเขาพร้อมประกบจูบไปที่ปากของเธออย่างหนักหน่วง
หญิงสาวใต้ร่างของเขาตอนนี้เธอทั้งดิ้นเอาเป็นเอาตายมือทั้งสองก็ทั้งตบทั้งข่วนชายหนุ่มที่กำลังรังแกเธออยู่จนชายหนุ่มรู้สึกโมโหต้องผละออกจากปากเธอก่อนเพื่อที่จะบอกให้เธอเล่นบทบ้าๆแบบนี้ซะที
“นี่คุณหยุดเลิกเล่นบทเด็กสาวบริสุทธิ์ซะทีได้ไหมทำหน้าที่ขายบริการของคุณให้มันเสร็จๆไปเลิกดิ้นเราจะมาสนุกกันโอเคไหมเพราะผมไม่ชอบฟิวนี้หรืออยากจะโก่งค่าตัวเงินที่หุ้นส่วนผมจ้างคุณมันไม่พอใช่ไหมเอางี้ทำตามใจผมแล้วคุณจะได้เงินพิเศษก้อนโตโอเค๊”ชายหนุ่มพูดใส่หน้าหญิงสาวเสียงแข็งอยากให้เธอเลิกเล่นบทเด็กส่งของสาวบริสุทธิ์นี้ซะทีเพราะเขาเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาแล้วจากการที่ได้ใกล้ตัวหญิงสาวกลิ่นตัวเธอช่างหอมในแบบที่ไม่เหมือนใครจริงๆและกลิ่นนี้ก็ปลุกอารมณ์ความเป็นชายในตัวของเขาได้ดีชะมัดเขาต้องการให้บทรักของเขาดำเนินไปอย่างเรียบง่ายไม่จำเป็นต้องมีลูกเล่นอะไรเยอะเพราะเขาไม่อยากที่จะใช้พลังงานมากแต่หญิงสาวก็ช่างอินในบทเหลือเกินเขาจึงต้องดุปรามเธอหน่อย“เงินบ้าอะไรฉันไม่อยากได้แล้วฉันก็ไม่ได้ขายตัวด้วยปล่อยฉันไปเถอะ...ฮือๆๆๆ..ฉันไหว้ล่ะ”ชายหนุ่มรู้สึกทึ่งในตัวผู้หญิงคนนี้เหลือเกินที่ทำท่าทางอาการกลัวได้สมจริงยิ่งนักในเมื่อเธอยังอินกับการแสดงแบบนี้ก็ปล่อยให้เธออินต่อไปเพราะตอนนี้เข้เริ่มข่มอารมณ์ตัวเองไว้ไม่ไหวแล้ว“โถ่เอ้ยยย....เงียบ...ไม่ชอบฟังเสียงร้องให้เข้าใจไหม...ไม่ชอบ...ไม่ชอบ...ไม่ชอบบบบบบ.
21.00 น.“ยายจ๋าก่อนนอนกินยาหรือยังจ๊ะ”แพรไหมเดินส่งเสียงเจื้อยแจ้วตั้งแต่หน้าห้องเพื่อถามว่ายายของเธอกินยายหรือยังเพราะกลัวว่าคนเป็นยายจะลืมอีก“กินแล้วลูกแล้วนี่แขนเป็นไงบ้างแพร”ทับทิมรู้ว่าหลานสาวของเธอต้องเข้ามาถามแบบนี้อยู่เป็นประจำทุกวันอยู่แล้วเธอจึงพยายามบอกตัวเองว่าอย่าลืมกินยาเสมอโดยใช้วิธีขีดที่ปฎิทินเล่มเล็กบนหัวเตียงหลานสาวของเธอจะได้ไม่เป็นห่วงพร้อมถามถึงอาการที่แขนของเธอด้วย“ดีขึ้นแล้วจ๊ะยายแพรกินยาแก้ปวดกับแก้อักเสบที่หมอให้มาแล้วจ๊ะ”“งั้นไปนอนพักผ่อนเถอะยายก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”“เดี๋ยวแพรปิดไฟเลยนะจ๊ะยาย”เมื่อเห็นผู้เป็นยายพยักหน้ารับหญิงสาวก็ปิดไฟแล้วปิดประตูห้องของยายเธอแล้วจึงเดินเข้ามาที่ห้องของตัวเองหญิงสาวจะเดินไปหยิบหนังสือที่โต้ะวางของของเธอขึ้นมาอ่านแต่ตาก็ดันเหลือบไปเห็นแฟ้มเรซูเม่ของตัวเองพลันทำให้นึกถึงเรื่องที่เธอเข้าไปสัมภาษณ์งานกับผู้ชายใจร้ายคนนั้นแล้วภาพเหตุการณ์ร้ายๆที่ออสเตรเลียก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธออีกครั้งในคืนนั้นที่ร้านอาหารไทยในซิดนี่ย์“แพรจะกลับแล้วเหรอพี่ฝากส่งอาหารให้ลูกค้าที่โรงแรมใกล้ๆนี่หน่อยสิลูกค้าเป็นคนไทย”สาลี่เจ๊เจ้าของร้านอา
หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอถึงเมื่อไรมารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบเช้าเมื่อเห็นชายหนุ่มยังหลับสนิทอยู่เธอจึงค่อยๆลุกขึ้นมาแต่งตัวแล้วหยิบกระเป๋าออกจากห้องไปโดยเร็วด้วยร่างกายที่อ่อนล้าและจิตใจของเธอที่กำลังอ่อนแอทำให้หญิงสาวนึกถึงบ้านที่เมืองไทยเธอจึงเก็บกระเป๋าแล้วกลับเมืองไทยแบบที่ไม่ไดบอกใครเพราะทำใจอยู่ที่นี่ไม่ได้จริงๆเมื่อแพรไหมนั่งคิดถึงเรื่องอดีตได้สักพักก็สลัดความคิดออกจากหัวละทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเธอทันทีเธอหวังว่าสมองที่ไม่ดีของเธอจะทำให้ลืมเรื่องนี้ได้ไวๆก็แล้วกันเช้าวันต่อมาก๊อกๆๆๆๆ“ยายจ๋าตื่นหรือยังจ๊ะ”แพรไหมเห็นว่าวันนี้ยายของเธอไม่ได้อยู่ที่ครัวตอนเช้าเหมือนเช่นทุกวันเธอจึงคิดว่ายายยังต้องนอนอยู่ในห้องแน่ๆจึงเคาะประตูเรียกเมื่อหญิงสาวเห็นว่าไม่มีคนมาเปิดจึงถือวิสาสะเปิดเข้าไปดูว่ายายเธออยู่ในนี้เหมือนที่เธอคิดหรือป่าว“ยายจ๋ายาย....ยายยยยยยยย”หญิงสาวเรียกยายของเธอที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงด้วยน้ำเสียงสั่นๆปนร้อนรนเพราะเธอเขย่าตัวยายของเธอแล้วแต่ก็ไม่มีท่าท่ว่ายายของเธอจะตื่นขึ้นมา“ฮัลโหลรถพยาบาลเหรอคะ”หญิงสาวหยิบมือถือโทรเรียกรถพยาบาลทันทีดีที่ครั้งก
ภูผาจากที่หันหน้ามองไปทางอื่นอยู่ก็ต้องหันกลับมามองเธออย่างตกใจคิดว่านี่เธอเสียใจที่เจอเขาขนาดนี้เลยเหรอชายหนุ่มนั่งหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นเธอสะอื้นจนตัวโยนขนาดนั้นเขาค่อยๆเดินเข้าไปหาเธอแล้วรวบตัวเธอมากอดไว้พร้อมลูบหัวหญิงสาวเบาๆคราแรกคิดว่าเธอจะขัดขืนแต่เมือเขาเข้าไปกอดเธอก็ดันตัวมาซบที่อกของเขาจนตอนนี้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เขาใส่มาเปียกน้ำตาเธอหมดแล้ว“ฮือๆๆๆ...”แพรไหมเริ่มสะอื้นอ่อนลงเมื่อชายหนุ่มเข้ามาปลอบเธอคราแรกหญิงสาวก็รู้สึกแปลกใจอยู่นิดหน่อยที่อยู่ดีๆเขาก็เข้ามากอดปลอบเธอหญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มอาจจะรู้สึกสงสารหรือไม่ก็สมเพชเธอล่ะมั้งแต่ตอนนี้เธอก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกันที่มีใครสักคนอยู่ปลอบใจเธอเพราะจิตใจเธอตอนนี้อ่อนแอเหลือเกินภูผากอดหญิงสาวอยู่แบบนั้นจนเธอเริ่มที่จะสะอื้นน้อยลงแต่เมื่อก้มมองคนที่เขากอดอยู่พบว่าเธอค่อนข้างที่จะเหม่อลอยแปลกๆเขาคิดว่าตัวหญิงสาวเองคงต้องมีเรื่องอื่นที่ทำให้เธอกังวลใจอยู่เป็นแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่ดูเศร้าหนักขนาดนี้หรอกแต่เขาเองก็ไม่ได้ถามอะไรเธอออกไปเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอแย่ไปกว่านี้อีกได้แต่กอดเธอแล้วลูบหัวเบาๆปลอบเธอไปเท่านั้นR
ภูผายื่นหน้าไปใกล้ๆเธอแล้วบอกกับเธอว่าเขาคุยเรียบร้อยแล้วทำเอาหญิงสาวถึงกับทำตาโตแล้วจ้องเขากลับหญิงสาวจะรู้ตัวหรือป่าวนะว่าสายตานี้ทำให้เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อยจนต้องก้มหน้าลง“ผมรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดของคุณยายคุณเองคุณยายของคุณจะได้หายสักทีไง”ชายหนุ่มพูดพร้อมเอามือยีหัวหญิงสาวที่นั่งทำหน้าแปลกใจอยู่“ขอบคุณ...คุณมากเลยนะคะค่ารักษาเท่าไรเดี๋ยวแพรจะหาเงินมาคืนคุณทุกบาททุกสตางค์เลยค่ะคุณจะคิดดอกก็ได้นะคะ”แพรไหมรีบยกมือไหว้ชายหนุ่มยกใหญ่เธอไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มที่เธอมองว่าเขาเป็นคนที่ใจร้ายเขาจะมีความใจดีอยู่บ้างจากที่อยากให้เขาไปให้พ้นๆตอนนี้เธอรู้สึกขอบคุณเขามากๆจากใจจริงของเธอ“55555ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก"ภูผาขำท่าทางของหญิงสาวที่อยู่ดีๆก็ยกมือไหว้เขาซะงั้นแถมเธอเห็นเขาเป็นนายทุนหน้าเลือดหรือไงมีคิดดอกเบี้ยด้วยชาร์ลที่ยืนเฝ้ามองเหตุการณ์อยู่ห่างๆเมื่อเห็นเจ้านายของตนหัวเราะร่าเพราะหญิงสาวเขาเองรู้สึกแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นใครทำเจ้านายของเขาหัวเราะแบบนี้มานานมากแล้ว“คุณจะกลับบ้านเลยไหมเดี๋ยวผมไปส่งเพราะยังไงวันนี้คุณก็นอนเฝ้ายายคุณไม่ได้อยู่ดี”ภูผาเห็นว่าหญิงสาวยังไงก็ไม่
เช้าวันต่อมาแพรไหมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะว่ารู้สึกว่าหมอนข้างที่เธอกอดอยู่นั้นมันทำไมแข็งแปลกๆเมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าไอ้ที่เธอกอดอยู่มันไม่ใช่หมอนข้างกลับเป็นชายหนุ่มที่มาหาเธอเมื่อวานแทนหญิงสาวไม่รู้ว่าเขามานอนที่ตียงของเธอตั้งแต่เมื่อไรทำเอาทำเอาเธอแทบจะกรี๊ดแต่ก็ต้องเอามือปิดปากเอาไว้แล้วค่อยๆเขยิบออกห่างจากตัวชายหนุ่มแพรไหมเริ่มคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานว่าเขามานอนห้องเธอได้ยังไงเธอจำได้ว่าเมื่อวานเขานั่งทำแผลให้เธออยู่หลังจากนั้นภาพก็ตัดไปตื่นมาอีกทีก็เจอเขานอนอยู่ตรงนี้แล้วเธอพยายามคิดว่าเป็นเธอเองเหรอที่ชวนเขามานอนด้วยแต่เอ…ออ.ก็ไม่น่าจะใช่พลันสายตาของเธอก็หันไปมองหน้าของชายหนุ่มที่กำลังหลับอยู่ตอนนี้พอดีหญิงสาวคิดว่าตอนที่เขาหลับก็หล่อดีเหมือนกันแฮะเธอค่อยๆลองใช้มือน้อยๆของเธอยื่นไปจับเคราของเขาเล่นเบาๆพร้อมยื่นหน้าเข้าไปมองเขาใกล้ๆตอนนี้เธอรู้สึกว่าใจของเธอเต้นแรงแปลกๆหน้าที่ซีดเซียวจากการตื่นนอนก็เริ่มมีสีแดงระเรื่อยิ่งเธอมองเขาใกล้ๆความหล่อของเขานี่ชนะพวกนายแบบหน้าปกนิตยาสารดังๆขาดเลยนะเนี่ยยย“จะลักหลับผมเหรอ”จู่ๆชายหนุ่มก็ลืมตาพรึ่บขึ้นมาทำเอาหญิงสาวผละออกแทบไม่ทันชายห
บ้าน แอนเดอสัน“หายไปไหนมาทั้งคืนตาภู”“คุณย่า….มาตั้งแต่เมื่อไรครับ”ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านมาก็ได้ยินเสียงคนเป็นย่าของเขาบ่นขึ้นทันทีทำเอาชายหนุ่มถึงกับหน้าตาตื่นเมื่อเห็นคนเป็นย่าของเขากลับมาคงจะไม่พ้นเรื่องจับคู่ให้เขาอีกสินะความพยายามของคุณย่าเขาไม่มีลดละเลยจริงๆรู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถบังคับเขาได้ก็ยังไม่ยอมเลิกคิดแผนจับคู่ให้เขาซะที“ยังไม่ได้ตอบคำถามย่าเลยว่าหายไปไหนมาอย่าบอกว่าไปค้างคืนกับพวกแม่นางแบบพวกนั้นมาอีกล่ะ”เอมมิลี่เค้นเอาคำตอบจากหลานชายตัวดีของเธอว่าหายไปไหนมาทั้งคืนเพราะเธอบินกลับมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วไม่ยักเห็นหลานชายอยู่บ้านเธอรอจนดึกดื่นก็ไม่เห็นกลับครั้นถามเอาคำตอบกับชาร์ลรายนั้นก็บอกกับเธอว่ารอถามคุณชายเองจะดีกว่าเอมมิลี่คิดว่ายังไงก็คงจะไม่ได้คำตอบจากชาร์ลอยู่ดีจึงไม่ได้ซักไซร้อะไรมากเพราะคิดว่าทั้งสองเจ้าเล่ห์พอกันทั้งเจ้านายและลูกน้องมีหวังคำตอบที่ได้ก็เป็นคำตอบที่คลุมเครือทำให้เธอไม่เข้าใจอยู่ดี“ป่าวซะหน่อยครับคุณย่ามาๆผมหอมหน่อยไม่เจอกันตั้งนานคิดถึงจังเลยครับ”ชายหนุ่มแสร้งเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่ได้อยากจะตอบคำถามผู้เป็นย่ามากนัก“ไม่ต้องมาทำเป็นรักย่าเล
21.00 นกุกกักๆ เพล้งงงงง“เสียงอะไรนะ”แพรไหมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอนของเธอเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆก็เห็นท่าว่าไม่ดีหญิงสาวจึงไปหยิบไม้เบสบอลที่เธอแอบซื้อเก็บไว้ในตู้แล้วเดินย่องออกมาด้านนอกเพื่อดูว่าเสียงที่เธอได้ยินนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ถ้าเป็นโจรเธอก็พร้อมจะสู้ตายเหมือนกัน“หยุดนะไอ้ขี้ขโมย….นี่แน่ะๆๆๆๆ”ตุบ..ตุบหญิงสาวเห็นเงาตะคุ่มๆที่ชั้นล่างของบ้านเธอก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นขโมยแน่ๆหนอยรู้จักแพรไหมน้อยไปคนอย่างเธอไม่มีวันให้ใครมาขโมยของบ้านเธอได้หรอกของรักของหวงของเธอทั้งนั้นเธอจะรักษาเท่าชีวิตเลยคอยดูเมื่อหญิงสาวเดินมาใกล้เงานั้นก็ใช้ไม้เบสบอลที่ถืออยู่ในมือฟาดลงที่คนที่เธอคิดว่าเป็นขโมยอย่างไม่ยั้งมือ“โอ้ยๆคุณนี่ผมเอง”“คุณภู”เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มร้องโอดโอยเธอกพอจะเดาออกว่าเป็นเสียงใครเลยยั้งมือการฟาดไม้เบสบอลไปที่คนที่ตัวเธอเองคิดว่าเป็นโจรทันที“โอ้ยยยเบาๆคุณผมเจ็บ”“สมน้ำหน้าอยากเล่นอะไรพิเรนเอง”เมื่อหญิงสาวรู้ว่าคนที่แอบย่องเข้าบ้านเธอเป็นใครเธอจึงเดินไปเปิดไฟเพื่อจะได้คุยกับชายหนุ่มให้รู้เรื่องว่าเขาเข้ามาทำอะไรแต่เมื่อแสงไฟสว่างขึ้นหญิงสาวเห็นว่าหัวขอ