แชร์

แลก

“อาจารย์ หยางหว่านอย่างเรียนเคล็ดวิชานั้นกับอาจารย์”

เขาแสยะยิ้มพลิกร่างบางลงใต้ร่างเขาเสพสมจนพอใจ แลกกับเคล็ดวิชา แต่เรื่องนี้ หยางหว่านหารู้ไม่ว่าเขามิได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้จนเสร็จสมบูรณ์เพียงแค่ผิวเผิน เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้นแลกกับร่างกายของนางให้เขาเสพสมจนอิ่มหนำหากจะได้ทั้งหมดจะต้องแลกด้วยความภักดี เสียงครางนามของจี้โม่ยังติดอยู่ในใจ เรื่องใดกันในเมื่อนางไม่จริงใจเหตุใดเขาต้องจริงใจตอบ

ปู้ตานซินหลับตาลงช้าๆ สลายร่างคงพลังทิพย์ ด้านมืดสลายหายไปเขากลับเป็นปู้ตานซินคนเดิมก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำที่ผนึกฉูฉาง หากว่าต้องเข้าไปที่นั่นอีกครั้งเขาจะต้องจัดการเช่นไรตอนนี้ยังคิดไม่ออก ในตอนนั้นเขาถึงกับฆ่าศิษย์พี่ทั้งสอง ฆ่าทุกคนไร้ซึ่งเมตตา และทำทุกอย่างให้ได้ครอบครองยุทธภพและหยางหว่าน แต่ครั้งนี้เขากลับมาแก้ไข แต่จอมมารฉูฉางยังอยู่ที่นั่น แม้เขาจะหาทางเลี่ยงแต่ผนึกก็ปริแตก ปู้ตานซินคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดี

ในตอนนั้นปู้ตานซิน อ่อนหัดยิ่งนักแม้จะผ่านเรื่องราวมา อีกครั้งก็ยังคิดว่าตัวเองไม่ได้แข็งแกร่งเพียงนั้น แค่เพียงสร้างเกราะขึ้นมาก็เท่านั้น ตอนนั้นเขาไม่ลังเลที่จะฆ่าปีศาจพรายน้ำให้ตายลงต่อหน้าทั้งๆที่ศิษย์พี่ทั้งสองห้ามปราม แต่กลับมาในครั้งนี้เขาเลือกที่จะผนึกปีศาจตนนั้นให้สำนึกผิดอยู่ในผนึกแก้ว ที่มองเพียงผิวเผินเหมือนหิน รอวันที่จิตใจฝ่ายดีสลายผนึกด้วยตัวมันเอง ผนึกที่เขาสร้างขึ้นมาใหม่ในครั้งนี้ เพียงแค่ผู้ที่ถูกผนึกลดละความชั่ว มุ่งเข้าสู้ด้านคุณธรรมก็จะสามารถสลายผนึกเองได้ ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก

แต่กับจอมมารฉูฉาง ตอนนี้ผนึกนั้นปริแตกเป็นใครกันที่เข้าไปทำลายผนึก ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยเฉียดกรายเข้าใกล้ถ้ำแห่งนั้นเลย อีกอย่างอีกสามปีจึงจะถึงวันที่เขาและศิษย์พี่กับหลงตั๋วเข้าไปในถ้ำ เมื่อก่อนหน้านั้น จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีใคร สามารถทำลายผนึกให้ปริแตกได้นอกจากเขา

จอมมารฉูฉางรู้ว่าเขาคือ ปรมาจารย์กงล้งกลับชาติมาเกิด หรือว่าเป็นเพราะเขาไปยุ่งกับห้วงเวลาทุกอย่างจึงบิดเบี้ยวไปเสียหมด

“ศิษย์น้อง”

“ท่านพ่อ” หยางหว่านวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของบิดาป้อก้านของนางที่นั่งลงรอรับบุตรี

“เจ้าเป็นเด็กดีใช่หรือไม่ อาจารย์ของเจ้าจึงพาเจ้าลงเขามาเยี่ยมพ่อ”

“แน่นอนท่านพ่อหยางหว่านตั้งใจฝึกวิชา”

“อืมดีแล้วศิษย์น้องข้ามีเรื่องไม่สู้ดีปรึกษากับเจ้าเชิญข้างใน”

“ศิษย์พี่ใหญ่เชิญว่ามา”

“จอมมารฉูฉางเจ้าคงเคยได้ยิน ตอนนี้ผนึกปริแตก เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายต่างหวาดหวั่นว่าจะสร้างความเดือดร้อนไปทั่งยุทธภพ ในฐานะที่เจ้าเป็นถึงปรมาจารย์มีความคิดเห็นเช่นไร”

“ข้าจะทำเรื่องใดเพียงลำพังคงไม่เหมาะ จะออกหน้าหรือก็ไม่เข้าที ศิษย์พี่ข้าอายุ 15ปีในปีนี้ คงต้องอาศัยสำนักต่างๆร่วมออกความเห็นจึงดี ข้าเพียงคอยช่วยเหลือดูจะเหมาะกว่า”

“อืมคงต้องหารือเหล่าอาจารย์อาวุโสของสำนักต่างๆ เพื่อให้มีการชุมนุมชาวยุทธ์เพื่อจัดการกับจอมมาร”

“ศึกครั้งนี้ท่านไม่จำเป็นต้องออกหน้า ถึงเราจะเป็นศิษย์เอกของปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงแต่ทว่าเราก็แค่เพียงผู้น้อย ไม่อาจนำหรือออกความเห็นได้มากไปกว่า อาวุโสทั้งหลาย”

“เจ้าพูดมาก็ถูกปู้ตานซิน เจ้าคิดจะไม่ออกหน้าเรื่องนี้ใช่หรือไม่”

“เดิมข้าลงมาจากเขาเพื่อพาไท่จือมาเยี่ยมเยือนฝ่าบาทหาได้มีจุดประสงค์อื่น”จะบอกได้อย่างไรว่าเขามานี่เพื่อใช้ไท่จือเป็นตัวหลอกล่อในการ ปราบปีศาจพรายน้ำที่กำลังอาละวาด

“แต่เสียงร่ำลือเรื่องเจ้าปราบเจ้าปีศาจพรายน้ำกินคน ทำให้ชาวบ้านต่างยกย่อง ปรมาจารย์ปู้ตานซิน”

“ศิษย์พี่ท่านควรจะคิดว่ามันแค่เรื่องบังเอิญ ข้าหรือจะอยากออกหน้าให้สำนักอื่นครหาว่าต้องการการยกย่อง ข้าแค่เพียงผ่านไปทางนั้นแล้วบังเอิญ เจ้าปีศาจจับไท่จือที่เป็นศิษย์ของข้า ศิษย์พี่คิดว่าข้าจะละเลยให้ลูกศิษย์ถูกปีศาจกินเป็นอาหารหรือไร”

แก้ตัวเพราะรู้ดีว่าความอิจฉามักทำร้ายทั้งตัวเองและผู้อื่น และคนที่ถูกอิจฉามักจะถูกโดดเดี่ยว

“ข้าก็คิดว่าต้องเป็นเช่นนั้นด้วยอายุเจ้ายังน้อย  ถูกยกย่องให้เป็นถึงปรมาจารย์”

ปู้ตานซินรู้ดีตัวเองเป็นปรมาจารย์กงล้งกลับชาติมาเกิดหากมีใครสักคนรู้เรื่องนี้จะต้องมีคนโยนหน้าที่รับผิดชอบให้เขา ในการผนึกจอมมารฉูฉางอีกครั้ง ถึงจะเป็นปรมาจารย์กงล้งกลับชาติมาเกิดก็เพียงแค่ทำให้ปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงยอมมอบเคล็ดวิชาแล้วเขายังมีความสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าคนอื่น ทว่าปู้ตานซินรู้ดีว่าตัวเองในตอนนี้ ไม่อาจต่อกรกับจอมมารฉูฉางคงต้องรออีกสิบปีเป็นอย่างน้อย

“ศิษย์พี่ข้ามาครั้งนี้เพราะหยางหว่านคิดถึงพวกท่าน เดิมตั้งใจจะขึ้นเขาในเย็นวันนี้แต่คืนนี้คงต้องรบกวนท่านเสียแล้ว”

ตัดบทเสียดื้อๆ จริงอย่างที่คิด ป้อก้านไม่ได้เซ้าซี้ปู้ตานซินอีก

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status