แต่งงานมาสามปี เธอโรจน์รุ่งพุ่งแรง แต่รังเกียจสามีไร้ความสามารถ หลังจากหย่าแล้วถึงรู้ว่าสามีที่ถูกมองว่าไร้อนาคตคนนี้กลับเป็นคนที่สูงเกินเอื้อมสำหรับเธอ
View Moreแข็งแกร่งกว่ากัวโหย่วคังด้วยซ้ำบอร์ดบริหารเหล่านี้ตอบสนองทันทีวิธีที่ดีที่สุดในขณะนี้คือรีบก้มหัวและขอโทษ หวังว่าอีกฝ่ายจะจ้างพวกเขาต่อไปการมอบอำนาจต่อรองให้กับเธอโดยเต็มใจเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาทรัพย์สินและตำแหน่งของพวกเขาไว้ได้ แทนที่จะสูญเสียทรัพย์สินและสถานะทั้งหมดไปอาจกล่าวได้ว่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจ แต่ไม่มีใครกล้าที่จะยืนหยัดต่อต้านหลี่ฮุ่ยหรานในขณะนี้ความดูถูกเหยียดหยามทั้งหมดก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลายเป็นความกลัว และการทำใจจำยอม“ฮึ่ม เนื่องจากทัศนคติของคุณจริงใจมาก ฉันจึงจะละเว้นคุณอย่างไม่เต็มใจ”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองหลินเฟิงแล้วหันไปหากรรมการเหล่านี้แล้วพูดว่า“ฉันสัญญาว่า จะไม่ทำเรื่องสกปรกที่คุณเคยทำมาก่อน แต่ต้องชดใช้ให้ฉันเต็มจำนวนสำหรับการสูญเสียที่กรุ๊ปและบริษัทต้องเผชิญ”“แน่นอน เมื่อฉันเข้ารับช่วงต่อหลี่ซื่อกรุ๊ป ฉัน หลี่ฮุ่ยหรานก็ต้องการนำหลี่ซื่อกรุ๊ปให้ใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น”“ฉันรับรองกับคุณได้ว่า ถ้าพวกคุณติดตามฉัน จะไม่มีขาดทุน และยังจะทำเงินได้มากมายอีก”“เป็นไง ทำได้ไหม?”บอร์ดบริหารรู้สึกขอบคุณสำหรับความเมตตาของเธอ จึงกราบลงและขอบคุณเธอ
เพราะตราบใดที่หลี่ฮุ่ยหรานต้องการ ก็สามารถส่งพวกเขาทั้งหมดเข้าคุกได้ทุกเมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าหลี่ฮุ่ยหรานหาจุดอ่อนของพวกเขาเจอได้อย่างไร แถมยังรู้อย่างชัดเจน ดังนั้นพวกเขารู้สึกหงุดหงิดและหมดหนทาง และตำหนิโจวคุนที่ทรยศต่อพวกเขาทุกคนมีสีหน้าไม่สู้ดีเดิมทีพวกเขาต้องการใช้ประโยชน์จากวันนี้ เพื่อเตือนประธานกรรมการคนใหม่ แต่ไม่คิดว่าจะโดนเล่นงานเข้าซะเองเธอมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับพวกเขาอยู่ในมือเห็นได้ชัดว่าประธานกรรมการหญิงคนนี้ไม่ใช่แค่หุ่นเชิด เธอเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงที่เตรียมตัวมาอย่างดี“โอเค ฉันพูดจบแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานกางมือและพูดอย่างใจเย็น"ตอนนี้พวกคุณออกไปได้แล้ว ฉันจะไม่หยุดคุณ และฉันจะไม่ขอร้องให้พวกคุณอยู่ต่อด้วย""ฉันจะส่งเอกสารทั้งหมดนี้ให้คุณ ส่วนใครที่ฉันจะส่งให้ คุณทุกคนคงพอจะรู้แล้ว"“เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นและหาคนมาแทนที่คุณ และคุณ โปรดชดใช้สำหรับการกระทำที่โง่เขลาของคุณอย่างเชื่อฟัง”เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้ความปราณีของหลี่ฮุ่ยหราน ในที่สุดบอร์ดบริหารก็เริ่มกลัวกรรมการหวัง ซึ่งเคยทำให้หลี่ฮุ่ยหรานต้องอับอายหลายครั้ง ได้คุกเข่า
“นี่คือภาพที่กล้องวงจรปิดถ่าย”ขณะที่หลี่ฮุ่ยหรานเปิดเอกสารต่อหน้า ผู้จัดการจั๋วหัวล้านก็อ้าปากกว้างหลี่ฮุ่ยหรานไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?เรื่องนี้ควรจะเป็นความลับภายในบริษัท ซึ่งมีเพียงเขาและโจวคุนเท่านั้นที่รู้ ซึ่งเป็นผู้ดูแลบัญชีค่าใช้จ่ายของเขาผู้จัดการจั๋วจ้องไปที่โจวคุนโดยไม่ละสายตา ราวกับว่าไฟกำลังจะปะทุขึ้นในดวงตาของเขา“แน่นอนว่านอกจากคุณแล้ว ปัญหาใหญ่ที่สุดในกลุ่มก็คือกัวโหย่วคัง กรรมการกัว”“ในฐานะ CFO รักษาการของกลุ่ม ความคิดสร้างสรรค์ของคุณนั้นไม่มีใครเทียบได้จริง ๆ”หลี่ฮุ่ยหรานเดินไปหากัวโหย่วคัง และวางแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะตรงหน้าเขา พร้อมพูดอย่างใจเย็นว่า“ก่อนที่จะมาถึงมือคุณ งบการเงินประจำปีนั้น มีแต่ได้กำไร แต่เมื่อคุณลงมือจัดการ ไม่เพียงแต่ไม่มีกำไรเท่านั้น แต่ยังขาดทุนอีกด้วย”“ที่แย่กว่านั้นก็คือตระกูลหลี่ของฉัน ยังต้องเอาเงินมาโป๊ะตัวแดงเหล่านั้นอีก”“ต้องบอกว่า คุณกล้ามาก”“ฉันได้ตรวจสอบบัญชีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และหากคุณมีคำถามใด ๆ โปรดอย่าลังเลที่จะปรึกษาฉันได้ตลอดเวลา”หลี่ฮุ่ยหรานตบไหล่กัวโหย่วคังและในขณะนี้ ดวงตาของกัวโหย่วคังก็กระตุก และเหงื่
“ฮึ่ม อย่าคิดว่าคุณจะทำให้เรากลัวได้ ลาออกก็ลาออก!”กัวโหย่วคังหรี่ตาลงและเผยรอยยิ้มชั่วร้าย“ฉันอยากรอดูจริง ๆ ถ้าบริษัทนี้ไม่มีเรา คุณจะทำให้กลุ่มบริษัทใหญ่ขนาดนี้ไปรอดได้ยังไง?”“ใช่แล้ว พี่กัว พวกเราไปกันเถอะ!”“ดูสิว่า เธอทำให้กลุ่มบริษัทดำเนินงานต่อไปได้ยังไง!”“แล้วเธอจะต้องคุกเข่าลงและขอร้องพวกเรา!”บอร์ดบริหารอาวุโสหลายคนก็ลุกขึ้นยืนเช่นกันภายใต้การนำของพวกเขา บอร์ดบริหารเกือบทั้งหมดลุกขึ้นยืนมีเพียงชายวัยกลางคนรูปร่างผอมบางสวมแว่นตา โจวคุน เท่านั้นที่ดูประหม่า เขาอยากลุกขึ้นยืนเช่นกัน แต่เขารู้สึกถึงสายตาอันเฉียบคมของหลี่ฮุ่ยหราน จึงไม่กล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่นท้ายที่สุดแล้ว แผนกที่เขาดูแลนั้นพิเศษเกินไปแผนกบัญชีซึงมีหน้าที่จัดการบัญชีภายในและรวบรวมบันทึกทางการเงินทั้งหมดของบริษัทเขามักจะช่วยบอร์ดบริหารเหล่านี้ ฟอกบัญชีของพวกเขาเป็นประจำทุกวัน หากหลี่ฮุ่ยหรานสืบสวนจริง ๆ ชีวิตของเขาจะคงจบสิ้นชีวิตที่เหลืออาจจะต้องไปกินข้าวแดงในคุกจนตายดังนั้นเขาจึงไม่กล้าขัดใจหลี่ฮุ่ยหรานแต่คนอื่นก็ไม่สนใจท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากหลี่ฮุ่ยหรานไปแล้ว เมื่อพ
“ใช่แล้ว เราไม่ยอมรับคุณ”บอร์ดบริหารที่อยู่รอบ ๆ ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า“ถ้าจ้างคนนอกมาเป็นประธาน เราเข้าใจได้ แต่คุณเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง แถมยังเป็นคนนอกของตระกูลหลี่ นอกจากนี้ ยังเป็นคนที่ไม่เคยเหยียบเมืองเจิ้งเต๋อมาก่อน”“พวกเราบอร์ดบริหารไม่ชอบคนประเภทคุณที่สุด วันแรกที่นี่ แทนที่จะแสดงความเคารพ คุณกลับเข้ามาโดยแสดงอำนาจและตั้งกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ ……คุณล้อเล่นใช่ไหม?”“ไม่มีความสามารถ ไม่มีอำนาจ ไม่มีเส้นสาย สิ่งเดียวที่คุณมีก็คือหน้าตาที่สวยงาม อะไรนะ เราควรส่งคุณออกไปต้อนรับลูกค้าและหาคู่ค้าธุรกิจให้เรางั้นเหรอ?”“ฮึฮึ... ฮ่า ๆ…..!”บอร์ดบริหารพูดคุยกันไม่หยุด และคนวัยกลางคนที่แทะโลมภาพลักษณ์ของหลี่ฮุ่ยหรานซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอถูกดูหมิ่นอย่างมาก“พวกคุณพูดจบหรือยัง?”หลี่ฮุ่ยหรานมองพวกเขาโดยไม่แสดงอารมณ์ และเมื่อพวกเขาเกือบจะหัวเราะ เธอจึงยืนอย่างภาคภูมิใจที่โต๊ะประชุมและพูดอย่างใจเย็น“นี่เป็นการตัดสินใจของตระกูลหลี่ที่ให้ฉันรับช่วงต่อกลุ่มการลงทุนในเมืองแห่งนี้ พวกคุณไม่มีสิทธิ์คัดค้าน” “นอกจากนี้ คุณเพิ่งพูดถึงความทุ่มเทของคุณต่อบริษัทหรือเปล่า?”หลี่ฮุ่ยหรานหัวเราะเยาะและพู
กัวโหย่วคังมองไปรอบ ๆ แล้วก็ยิ่งประมาทมากขึ้น จากนั้นจึงถอดรองเท้าแล้ววางขาทั้งสองข้างบนโต๊ะประชุมทำเหมือนว่า กำลังอยู่ในห้องนั่งเล่นของตัวเอง“แล้วประธานกรรมการหลี่ คุณจะเอาหุ้นของฉันคืนได้ยังไง?”“คุณไม่คิดว่าการแค่ขู่ฉันด้วยคำพูดไม่กี่คำจะทำให้ฉันกลัวได้ใช่ไหม? ถ้าคุณมีความสามารถก็เอาไปเลย ฉันอยากดูว่าคุณมีความสามารถที่จะเอาหุ้นของฉันคืนได้หรือไม่”กัวโหย่วคังสีหน้ายังคงไม่สะทกสะท้าน“หลี่ฮุ่ยหราน คุณเป็นเพียงคนนอก หลี่ซื่อกรุ๊ปได้รับการจัดการโดยผู้อำนวยการกัวมาโดยตลอด ฉันแนะนำว่าอย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน!”ณ ตอนนี้ บอร์ดบริหารคนอื่น ๆ เองก็ลุกขึ้นมาแสดงความคิดเห็น“ถูกต้องแล้ว คุณก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น คิดอยากจะเหยียบหัวพวกเราขึ้นไปงั้นเหรอ? คิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติหรือไง!”“ผู้หญิงหน้าใหม่คนนี้ ทำไมคุณถึงหยิ่งยโสขนาดนั้น บอกให้พี่กัวลุกจากที่นั่งงั้นเหรอ เธอควรยืนนิ่ง ๆ ไว้เสียดีกว่า!”“ถ้าเธอไม่มีอะไรทำ ก็ไปชงกาแฟให้พวกเราได้นะ ยังไงก็ตาม และอย่าลืมครีมด้วยล่ะ”เมื่อฟังเสียงหัวเราะของเหล่าบอร์ดบริหารในห้องประชุม แววตาของหลี่ฮุ่ยหรานก็เย็นชาลงเธอคาดการณ์ไว้แล้ว ก่อนนท
“ติ๊ง”หลังจากเสียงใสของลิฟต์ดังขึ้น หลี่ฮุ่ยหรานกับหลินเฟิงเดินออกมาจากลิฟต์เพิ่งจะเดินออกมาหลี่ฮุ่ยหรานก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังสนั่นภายในห้องประชุม เธอสีหน้านิ่งเฉย รักษาความเย็นชากับท่าทางแน่วแน่ เดินผ่านทางเดิน ผลักประตูห้องประชุมออก ก้าวย่างเดินเข้าไปทันใดนั้น ภายในห้องประชุมเงียบสงัดลงหลินเฟิงตามมาติดๆ เขาเห็นสายตาตกตะลึงของผู้ชายโดยรอบที่มีต่อรูปลักษณ์ภายนอกของหลี่ฮุ่ยหราน และยังมีเสียงสูดหายใจเข้าลึกๆ ที่เบาบางพวกหุ้นส่วนเหล่านี้ ถึงแม้จะได้ยินว่าผู้นำตระกูลหลี่คนถัดไปคือสาวสวยคนหนึ่งแต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นสาวสวยที่ภายนอกจะสุดยอดขนาดนี้เค้าโครงหน้าโดดเด่น สาวสวยผู้เย็นชา เป็นคนในฝันที่ผู้ชายอยากจะพิชิตให้ได้!ภายในห้องประชุม ผู้ชายหลายคนจ้องมองหลี่ฮุ่ยหรานอยู่ตลอด และไม่อยากเคลื่อนสายตาออกไปเมื่อเผชิญกับกลิ่นบุหรี่ที่อบอวลในอากาศ หลี่ฮุ่ยหรานไม่ได้แสดงความไม่พอใจออกมามากนัก แต่กลับยกเอกสารกองหนึ่ง เดินเข้าไปที่ด้านข้างที่นั่งของกัวโหย่งคัง“ท่านนี้ก็คือกรรมการกัวสินะ? ไม่มีคนบอกคุณเหรอว่า ตรงนี้คือที่นั่งของประธานบริษัท?”หลี่ฮุ่ยหรานมองกัวโหย่วคังด้วยใบหน้านิ่
ชายอ้วนท้วมวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าพี่กัวกวาดสายตามองทุกคนที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะประชุมด้วยความนิ่งเฉยจากนั้นเขาเผยรอยยิ้มไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรออกมาโบกมือ เรียกเลขาสาวสวยที่อยู่ข้างๆ ให้จุดซิการ์ให้เขามวนหนึ่ง“ฟู่ว...”กัวโหย่วคังพ่นควันออกมา และเงยหน้า ยิ้มพูด:“มีอะไรน่ากังวลใจกัน?”“ก็แค่คนนอกคนหนึ่ง แถมเป็นผู้หญิง ถูกส่งมาที่พวกเรา ก็อยากจะเป็นหัวหน้าของเรางั้นเหรอ?”“เธอมีสิทธิ์อะไรกัน?”กัวโหย่งคังแสยะยิ้มพูดว่า: “เพียงแค่พวกเรารวมกำลังกัน ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว เธอจะสามารถทำอะไรพวกเราได้?”“การลงมติในการประชุมหุ้นส่วน พวกเราต่างคัดค้านเธอ มาตราหรือข้อตกลงใดๆ ที่เธอเสนอออกมาพวกเราไม่ต้องปฏิบัติตาม”“ทรมานเธอหนึ่งเดือน ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะฝืนเอาชนะพวกเราได้ ผลลัพธ์สุดท้ายก็แค่เข้าใจความเป็นจริง เธอมาจากที่ไหนก็ไสหัวกลับไปที่นั่น”ได้ยินข้อเสนอของกัวโหย่วคัง หุ้นส่วนทุกคนต่างพากันยกนิ้วโป้ง พี่กัวนี่แน่จริงๆ เลยนะ!“งั้นพี่กัว ถ้าหากเธอเป็นคนซื่อบื้อ จะฝืนทนพวกเราจะทำยังไง? พวกเราก็ยืดเยื้อไม่ไหวนะ!”ในตอนนี้ชายวัยกลางคนสวมแว่นตา ดูท่าทางสุภาพเรียบร้อยแต่อ่อนแอ ที่เบียด
“เอานี่ครับ ประธานหลี่ สัญญาขายตัว”หลินเฟิงยิ้มกริ่ม“ฉันขับรถอยู่ อย่าเล่นพิเรนทร์!”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองสัญญาที่อยู่ในมือหลินเฟิง ใบหน้าของเธอก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ใช้เวลาสองชั่วโมงหลี่ฮุ่ยหรานขับรถพาหลินเฟิงมาที่เมืองเจิ้งเต๋อ และก็คือเมืองเอกของมณฑลพวกเขาเข้าสู่ตัวเมือง แทบจะไม่ได้หยุดพักใดๆ ขับรถเข้าอาคารสูงสามสิบชั้นเต็มๆเมื่อลงจากรถนำกุญแจรถโยนไปให้รปภ.ที่เข้ามาต้อนรับ หลี่ฮุ่ยหรานถึงได้บอกเป้าหมายที่มาเมืองเอกในครั้งนี้ให้หลินเฟิงฟัง“ตระกูลหลี่มีบริษัทลงทุนระดับห้าหมื่นล้านบาทแห่งหนึ่งที่เมืองเอก ถือว่าเป็นชีวิตของตระกูลหลี่”“ฉันได้เป็นผู้นำตระกูลหลี่ จึงต้องควบคุมชีวิตเส้นสายนี้ไว้ให้ได้“แต่ผู้บริหารของบริษัท มีคนหลายคนเกาะกลุ่มกันต่อต้านฉัน ปฏิเสธการร่วมมือ รังแกฉันที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง”“ผู้หญิงอ่อนแอ?”หลินเฟิงกวาดตามองหลี่ฮุ่ยหรานในตอนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าชุดทำงานคอวีที่รัดตัว ไหปลาร้าที่ขาวผ่อง เอวบางที่โอบรอบได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งขาคู่สวยเรียวยาวที่สวมถุงน่องสีดำดูอย่างไรก็คือผู้หญิงแกร่งที่มีความสามารถนการทำงาน ออร่าแข็งแกร่ง
ถ้าไม่การคัดค้านอะไร ก็เซ็นใบหย่าเถอะคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ในเจียงโจวสาวงามในชุดกี่เพ้าผลักเอกสารไปตรงหน้าหลินเฟิงหญิงสาวตรงหน้านี้เป็นแม่ยายของเขา จางกุ้ยหลานเมื่อมองใบหย่าที่อยู่ตรงหน้า หลินเฟิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยคุณแม่ นี่หมายความว่าอะไรจางกุ้ยหลานกอดอก พูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนี้ตระกูลหลี่เป็นบริษัทมหาชนแล้ว “ช่องว่างระหว่างคุณกับฮุ่ยหรานก็เริ่มกว้างขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆกับการงานของฮุ่ยหรานเลย” “มีแต่จะฉุดรั้งการพัฒนาของฮุ่ยหราน หากเป็นเช่นนี้ก็หย่ากันเร็วๆดีกว่า”หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ถามกลับว่า”นี่คือความคิดของฮุ่ยหรานหรือความคิดคุณแม่ครับ”จางกุ้ยหลานสีหน้าเย็นลง “นี่คือความคิดทุกคนของตระกูลหลี่เรา” “ที่คุณได้แต่งงานกับฮุ่ยหราน แค่เพราะสัญญาการแต่งงานที่คุณปู่ตั้งไว้” “สามปีมานี้ ที่คุณกินอยู่ในบ้านเรา ตระกูลหลี่เรามีความเมตตาต่อคุณมากแล้ว “ถ้าคุณรู้ตัว ก็รีบเซ็นชื่อ”หลินเฟิงหายใจเข้าลึกๆสามปีก่อน เขาใช้ความสัมพันธ์ทั้งหมดของตัวเองที่มีเพื่อช่วยพัฒนาตระกูลหลี่ช่วยพัฒนาเป็นบริษัทมหาชนจากร้านค้าที่เล็กๆแต่ในสายตาของตระกูลหลี่ เขากลับกลายเป...
Comments