หลินเฟิงออกจากคฤหาสน์ของตระกูลหลี่ มองสถานที่ที่เขาเคยใช้ชีวิตมาสามปีครั้งสุดท้ายตอนมาก็มาอย่างโดดเดี่ยว และจากไปด้วยมือเปล่ารถโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งที่ขับมาแต่ไกลจอดตรงหน้าเขาเมื่อประตูรถเปิดออก ชายวัยกลางที่สวมสูทคนหนึ่งลงจากรถ “คุณหลิน....”ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม วิ่งเหยาะๆไปที่หลินเฟิง “คุณมาได้อย่างไร” หลินเฟิงมองอย่างตั้งใจ คนที่มานั้นเป็นประธานบริษัทเทียนหัวอินเตอร์เนชั่นแนลจ้าวเทียนหวากล่าวตามความจริง “ช่วงนี้ผมกำลังวิจัยโครงการพัฒนาของเขตซีเฉิงกับนางหลิน วันนี้ตั้งใจจะมาหานางหลินเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องรายละเอียดหลินเฟิงพยักหน้า “ไม่ต้องปรึกษาแล้ว” “หลี่ฮุ่ยหรานมีตระกูลหวางเป็นที่พึ่งแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ต้องการความสนับสนุนของเราแล้ว” “และก็ไม่ใช่นางหลินอีกต่อไป” “อ๋า”จ้าวเทียนหวาตกใจมาก “นี่...นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น”หลินเฟิงพูดแบบไม่ได้ปิดบัง “ผมหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว” “ต่อจากนี้ไป ผมจะไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับตระกูลหลี่อีก”หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวา ตบไหล่เขาเบาๆ “จ้าว สามปีมานี้คุณงานหนักแล้วนะ”ธุรกิจของจ้าวเทียนหวาอยู่ที่ต่างประเทศทั้ง
ตอนนี้หลินเฟิงกําลังหลับตาพักผ่อนอยู่บนรถเสียงโทรศัพท์ปลุกให้เขาตื่นคาดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโทรมาเขารับสายก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาชองเธอ “หลินเฟิง คุณกำลังอยู่กับประธานจ้าวเหรอ” “หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวาที่อยู่ข้างๆเขา “ใช่”หลี่ฮุ่ยหรานหายใจเข้าลึกๆ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นรวดเร็วหลี่เหวินเชาไม่ได้โกหก “หลินเฟิง คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก คุณมีอะไรไม่พอใจสามารถพูดกับฉันตรงๆได้” “ทำไหมถึงต้องใส่ร้ายตระกูลหลี่ลับหลังแบบนี้หรอ”หลินเฟิงนวดขมับและพูดว่า “ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ใส่ร้ายตระกูลหลี่ คุณจะเชื่อผมไหม”หลี่ฮุ่ยหราน “งั้นทำไมประธานจ้าวมาถึงที่ตระกูลหลี่แล้วจู่ๆก็ออกไปล่ะ แถมยังต้องการยุติความร่วมมือกับตระกูลหลี่ด้วย” “จ้าวเทียนหวาจะเลือกทำอะไรเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับผม”หลี่ฮุ่ยหรานโกรธมาก คิดว่าหลินเฟิงกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับเธอกัดฟันแล้วพูดทีละคำว่า “ฉันดูคุณผิดไปจริงๆ”น้ำเสียงของหลินเฟิงเย็นลง “คุณเชื่อแต่ตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยคิดจะเข้าใจความจริง” “ผมไม่รู้ว่าหลี่เหวินเชาได้พูดอะไรกับคุณ และก็ไม่อยากอธิบายเรื่องนี้ด้วย” “ต่อไปอย่าเอาเรื่องแบบนี้มายุ่งผม”
“ปัง ๆ ๆ” เสียงระเบิดที่ต่อเนื่องกันดังขึ้นลมฝ่ามือของฉินอิ๋งเหมือนมีดพลังแข็งแกร่งและเผด็จการทั้งสองได้เผชิญหน้าแลกเปลี่ยนกันมากกว่าสิบกระบวนท่าหลินเฟิงไม่มีความคิดที่จะฆ่าเธอ แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้นแม้ว่าการบำเพ็ญของเขายังไม่ฟื้นตัว แต่ฉินอิ๋งก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา “ฉินอิ๋ง หยุดนะ”ในเวลานี้ ถังหว่านที่อยู่บนเตียงตะโกนอย่างรุนแรงฉินอิ๋งได้ยินแล้วจึงหยุดการโจมตีทันทีมองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ “พี่หว่านเอ๋อ เด็กคนนี้...” “พอแล้ว”ถังหว่านพูดเบาๆว่า “หมอเทวดาหลินมารักษาโรค อย่าหยาบคายใส่เขา”คุณพ่อของฉินอิ๋งเป็นอาจารย์ของเธอเอง คำพูดของหลินเฟิงทำให้เธอไม่สบายใจแต่ในฐานะที่เป็นคนแรกในสามรุ่นของตระกูลถัง เป็นอัจฉริยะทางศิลปะการต่อสู้ คิดอย่างใจเย็นเป็นสิ่งที่เธอควรทำ ในการต่อสู้ที่เมื่อกี้ถังหว่านก็สามารถดูออกว่าหลินเฟิง ดูคล่องตัว ความสามารถไม่ธรรมดาแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สู้กับฉินอิ๋งอย่างเต็มที่ถ้าเขาสู้เต็มที่ ฉินอิ๋งต้องแพ้แน่ และนี่คือสาเหตุที่เธอพูดให้หยุดสำหรับคำสั่งของถังหว่าน ฉินอิ๋งไม่กล้าไม่ทำตาม จึงได้แต่ถอยหลังไปอย่างเงียบๆถังหว่า
“ดูพอหรือยัง”ฉินอิ๋งที่อยู่ข้างๆเห็นเขาจ้องมองถังหว่านอย่างตั้งใจ อดไม่ได้ที่พูดแม้ว่าศิลปะการต่อสู้ของหลินเฟิงจะเก่งมาก แต่เธอก็ยังสงสัยว่าวิธีการรักษาด้วยถอดเสื้อผ้านี่เขาคนนี้ตั้งใจอยากจะเอาเปรียบถังหว่านหรือเปล่าหลินเฟิงยิ้มเบาๆ สีหน้าไม่มีความอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อยและชื่นชมจากใจจริงว่า “คุณถังสวยมากๆครับ ผมอดไม่ได้ที่จะดูไปหลายครั้ง” “ฮา ฮา”ถังหว่านยิ้ม “หมอเทวดาหลินก็พูดตรงไปตรงมามากนะ”เธอไม่คิดว่าหลินเฟิงจะยอมรับอย่างใจกว้างขนาดนี้ไม่เหมือนพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นสุภาพบุรุษ กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ “ตราบใดที่หมอเทวดาหลินสามารถรักษาโรคฉันหาย อยากดูอย่างไรก็ได้”ถังหว่านสายตาอ่อนโยนมีเสน่ห์ มุมปากมีรอยยิ้มที่น่าสนใจ “ไม่จำเป็นหรอก ของที่สวยงามดูเพียงครั้งเดียวก็ประทับใจมากเพียงพอแล้ว”หลินเฟิงส่ายหัวเอาเข็มเงินเข็มออกมาปลายนิ้วผ่านหน้าอกถังหว่าน สัมผัสได้ถึงความเย็นบนผิวที่เรียบเนียนและละเอียดอ่อนเข็มหนึ่งฝังในจุดเฟิงฝู่ถังหว่านหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายสั่นอย่างควบคุมไม่ได้หลินเฟิงเอาเข็มเงินหนึ่งออก กดนิ้วมือลงไปเรื่อยๆผ่านท้องน้อยของเธอ ฝังเข็มอีกหนึ
หลินเฟิงเพิ่งเดินออกจากประตูใหญ่ของตระกูลถัง โรลส์-รอยซ์คันหนึ่งขับมาจากข้างหลังและจอดอยู่ข้างๆเขาประตูรถเปิดออก ถังหว่านเดินลงมา “บ้านคุณหลินอยู่ที่ไหนคะ ให้ฉันไปส่งไหม”หลินเฟิงคิดสักพักแล้วถอนหายใจ “ตอนนี้ไม่มีที่อยู่ คิดว่าจะพักที่โรงแรม”ตัวเขาเองอยู่ที่เจียงโจวไม่ได้ซื้อบ้านไว้เลย เมื่อหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้วเขาก็จะไม่กลับไปตระกูลหลี่อีก “อึม...”ถังหว่านอึ้ง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเยอะ “นี่พอดีเลย ตระกูลถังเรามีโรงแรมห้าสิบกว่าแห่งในเจียงโจว” “ให้ฉันจัดการให้คุณหลินเถอะ เมื่อเสวียนหลิงโสมถึงแล้ว ก็พอดีส่งไปให้คุณเลย” “ก็ได้”หลินเฟิงคิดไปคิดมาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเขานั่งที่เบาะข้างหลังกับถังหว่าน ฉินอิ๋งเป็นคนขับรถเมื่อถึงประตูเขตวิลล่า ฉินอิ๋งก็จอดรถ “เกิดอะไรขึ้น”ถังหว่านถาม “ข้างหน้ามีรถคันหนึ่ง ไม่รู้ทำไมช้า”ฉินอิ๋งบ่นหลินเฟิงมองไปข้างนอกผ่านหน้าต่างรถ เห็นมีชายสวมชุดสูทคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูห้องรักษาความปลอดภัย “แจ้งคุณปู่ถัง ว่าหวางเส้าหลง นายน้อยของตระกูลหวางในเจียงโจวขอมาเยี่ยม”พูดจบก็เอาเงินสดก้อนหนึ่งยื่นให้พนักงานรักษาความปลอดภัยพนักงานรักษาความปล
หลี่เหวินเชาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย พูดเสียงดังว่า “คนกากๆอย่างคุณกล้ามาชี้นิ้วสั่งผมเหรอ” “วันนี้กูต้องให้บทเรียนมึงแทนพี่สาวกู”หลินเฟิงเตะท้องของเขาด้วยขาเดียวหลี่เหวินเชาบินออกไปเหมือนโดนระเบิด “อา”แฟนสาวตัวเล็กของหลี่เหวินเชากลัวจนหน้าซีดวิ่งโซซัดโซเซไปยังข้างๆของหลี่เหวินเชา ถามด้วยความกลัว ที่รัก คุณเป็นอย่างไรบ้าง”สีหน้าถังหว่านมีรอยยิ้มที่เย็นชาเด็กชายคนนี้กล้าต่อสู้กับหลินเฟิงด้วย ช่างกล้าหาญเกินแต่สิ่งที่เธออยากรู้อยากเห็นมากคือ หลี่ฮุ่ยหรานที่หลินเฟิงพูดถึงเป็นใคร “ไอเหี้ย”หลี่เหวินเชาใบหน้าบิดเบี้ยว ที่ท้องมีความเจ็บปวดที่รุนแรง รู้สึกลําไส้เกือบจะถูกเตะจนด้วยดวงตาที่มืดมนจ้องไปที่หลินเฟิง “คุณ...คุณกล้าเตะผมเหรอ”หลินเฟิงใจเย็นลง “แต่ก่อนคือเห็นแก่พี่สาวคุณ ผมจึงไม่ได้จริงจังกับคุณ” “ตอนนี้ผมไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลหลี่อีกต่อไปแล้ว หากคุณยังกล้าหยาบคายต่อหน้าผมแบบนี้อีก ผมจะเอาคุณตาย”มองดูสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของหลินเฟิงหลี่เหวินเชาสั่น คําสบถที่อยากจะพูดถูกกลืนลงไปหันหน้ามองไปที่ถังหว่านและตะโกน “นี่คุณมาทำอะไร กูมาใช้บริการที่นี่
ตอนหัวค่ำ หลินเฟิงได้นั่งแท็กซี่มาถึงวิลล่าบรรพบุรุษของตระกูลหลี่ไม่คิดว่าจางกุ้ยหลานได้รออยู่ที่ประตูตั้งนานแล้วเมื่อเห็นหลินเฟิงมาถึง เธอก้าวเข้าไปเตือนทันทีว่า “หลินเฟิง เดี๋ยวเมื่อเห็นคุณปู่ อะไรควรพูด และอะไรไม่ควรพูด ฉันหวังว่าคุณรู้ดี” “หากคุณกังวลขนาดนี้จริงๆ งั้นก็ไล่ผมไปดีกว่า” หลินเฟิงยิ้ม “คุณ....”จางกุ้ยหลานจ้องมองหลินเฟิง ไม่คิดว่าเขากล้าพูดอย่างนี้กับเธอหลินเฟิงไม่สนใจเธอ เดินเข้าตรงวิลล่าไปในหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว นอกจากคุณปู่หลี่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจใครพอเข้าไปถึง ก็เห็นคุณปู่คาดผ้ากันเปื้อนที่เอวและได้จัดอาหารไว้เต็มโต๊ะ “คุณปู่ วันนี้เป็นวันอะไรนะ ทำอาหารไว้เยอะจัง”หลี่ไห่ซานพอเห็นหลินเฟิงก็รีบดึงมือเขา ยิ้มและพูดว่า “เสี่ยวเฟิงนะ คุณมาแล้ว” “เดี๋ยวคุณก็รู้”สองคนนั่งคุยกัน จางกุ้ยหลานคอยจับจ้องหลินเฟิง กลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่ไม่ควรพูดสักพักหนึ่ง หลี่ฮุ่ยหรานก็มาถึงหลินเฟิงอยู่ที่นี่ด้วย อย่างที่เธอคาดไว้เมื่อก่อนก็คือคุณปู่สนับสนุนอย่างเต็มที่ที่ให้เธอแต่งกับเขาคุณปู่ของเธอเองให้ความสำคัญกับเขามากเนื่องจากรู้ถึงจุดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานจ
หลินเฟิงมองดูคุณปู่หลี่ที่น่าสงสารถึงแม้เขาสามารถยอมรับตัวเองได้ แต่ตระกูลหลี่ไม่สามารถยอมรับได้การสมรสไม่ใช่เรื่องระหว่างคนสองคน แต่เป็นเรื่องระหว่างสองครอบครัว “คุณปู่ ผมหมดวาสนากับตระกูลหลี่แล้ว ช่างเถอะครับ”พูดจบ หลินเฟิงก็เดินจากไปอย่างไม่คิดจะหันหลังกลับหลี่ไห่ซานเดินโซเซสักพักหนึ่ง เกือบจะล้มลงกับพื้นโชคดีที่หลี่ฮุ่ยหรานมองเห็นทัน และก้าวไปข้างหน้าจับเขาไว้ทันดวงตาของหลี่ไห่ซานเสียสติ พึมพําอย่างต่อเนื่องในปากว่า "ตายแล้ว ตายแล้ว ตระกูลหลี่ต้องพังแล้ว"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ “คุณปู่ นี่คุณพูดอะไรกัน” “บอกจริงๆนะ วันนี้หวางเส้าหลงยังตั้งใจช่วยฉันในการสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลถังด้วย” “อีกไม่นาน ตระกูลหลี่ก็จะกลายเป็นตระกูลชั้นนําของเจียงโจว” “ฮาฮา...”คุณปู่หลี่หลังจากได้ยินก็หัวเราะอย่างเย็นชา “คุณหวางคนนั้นหน่ะเหรอ” “ใช่ค่ะ” “เมื่อเทียบกับหลินเฟิงแล้ว หวางเส้าหลงคนนั้นไม่มีอะไร”คุณปู่หลลี่สะบัดแขนเสื้อ ไม่มีอารมณ์จะทานข้าวแล้ว กลับไปที่ห้องด้วยความโกรธหลี่ฮุ่ยหรานถอนหายใจยาว “ก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณปู่ให้ความสำคัญกับหลินเ
หลินเฟิงลงจากรถ พร้อมกับอิ่นนั่วเจีย มองดูรอยไหม้ที่บนท้องถนนทีละรอย"เอ๊ะ?"หลินเฟิงพบกระดุมเม็ดหนึ่งที่ตกหล่นอยู่บนพื้นหญ้าริมถนนซึ่งไม่มีใครสังเกตเห็น“นี่คือ......”ดวงตาของอิ่นนั่วเจียเบิกกว้าง ริมฝีปากสีแดงของเธอเปิดออก ใบหน้าตกตะลึงกระดุมเม็ดเล็กขนาดนี้ หลินเฟิงเห็นได้ยังไง?“รูปแบบของกระดุมแบบนี้... อืม ผมเดาดูนะ มันคงหลุดออกโดยไม่ได้ตั้งใจในตอนที่เขาเอื้อมมือไปดึงคนขับออกจากรถ สุดท้ายก็กลิ้งตกไปที่ข้างถนน”หลินเฟิงทำท่าทำทางบางอย่างภายใต้การจ้องมองของอิ่นนั่วเจียจากนั้นเขาจึงตรวจสอบอีกครั้งสุดท้ายก็พบว่าคนเหล่านี้ระมัดระวังมากพอจริงๆ นอกจากกระดุมที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเม็ดนี้แล้ว ก็ไม่มีร่องรอยใดๆ เหลืออยู่เลยจริงๆแต่แค่กระดุมเม็ดเดียวก็เพียงพอแล้วหลินเฟิงขับรถพาอิ่นนั่วเจียกลับเมืองเจิ้งเต๋อทันที และไปหาบริษัทออกแบบเสื้อผ้าเครือข่ายใหญ่แห่งหนึ่งภายใต้อิทธิพลของอำนาจเงินผู้หญิงที่ดูเหมือนผู้จัดการเอ่ยปากพูด“รูปแบบของกระดุมเม็ดนี้มีความพิเศษมาก มันคือกระดุมบนแขนเสื้อสูท จากการเปรียบเทียบของเรา กระดุมเม็ดนี้ได้รับการออกแบบมาจากโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหลงชิ่งในเมื
“คุณอย่าเพิ่งตื่นตระหนก”หลินเฟิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง และพูดความสงสัยของตัวเองออกมา:“นอกจากการข่มขู่แล้ว คนเหล่านี้รู้เวลาและสถานที่ส่งมอบสินค้าที่แน่ชัดของบริษัทได้อย่างไร?”"คุณเคยคิดเรื่องนี้บ้างไหม?""จริงด้วย!"อิ่นนั่วเจียอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี ดังนั้นสติปัญญาของเธอจึงไม่ได้แย่ เธอเข้าใจความหมายของหลินเฟิงได้ทันทีมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือมีหนอนบ่อนไส้หนอนบ่อนไส้ได้เปิดเผยเวลาและสถานที่ที่ชัดเจนในการจัดส่งให้โลกภายนอกทราบหากไม่เช่นนั้นคงไม่ทำให้พวกเขาทำสำเร็จได้ง่ายๆ"แต่ว่า......"อิ่นนั่วเจียรู้สึกลำบากใจ“เนื่องจากช่วงนี้บริษัทบันเทิงได้ขยายขนาดและจ้างพนักงานจำนวนมาก จึงทำให้มีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่ในบริษัท ยากที่จะทำการคัดกรอง”“ผมจะไปที่นั่นหน่อย เจอหน้าแล้วไว้คุยกัน”หลินเฟิงวางสายโทรศัพท์ และขับรถบูกัตติ เวย์รอนไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่ทางเหนือของเมืองเจิ้งเต๋อทั้งสวนถูกหลี่ซื่อกรุ๊ปซื้อเอาไว้หมดแล้วแม้ว่าสถานที่แห่งนี้ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วมีสตูดิโอถ่ายทำโดยเฉพาะ อาคารบันทึกเสียง ห้อง
“อาจารย์หลิน คุณมีบุญคุณต่อฉันอย่างใหญ่หลวง ฉันอวี๋จื่อเสวียนไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณได้ ไม่สู้ถวายตัวให้...”"เอ่อ?"สาวๆ ที่มารวมตัวกันอยู่รอบโต๊ะอาหาร รวมถึงหลี่ฮุ่ยหราน หลินเสวี่ยฮุ่ย จ้าวหลิงเยว่และคนอื่น ๆ ทุกคนต่างมองไปที่อวี๋จื่อเสวียนอย่างไม่เป็นมิตร“พวก…พวกคุณมองฉันทำไม?”อวี๋จื่อเสวียนรู้สึกอึดอัดที่ถูกมอง จึงเกาหัวแล้วพูดว่า:“อาจารย์ศิษย์รักกันไม่ได้เหรอ?”“อาจารย์กับศิษย์...”หลินเฟิงไออย่างรุนแรงและจ้องมองอวี๋จื่อเสวียนอย่างดุดัน“เด็กเมื่อวานซืน เธอพูดเหลวไหลอะไรน่ะ?!”หลินเฟิงพูดดุ แล้วมองไปที่ลุงอวี๋ที่อยู่ข้างๆ “ลุงอวี๋ คุณต้องสั่งสอนลูกสาวของคุณให้ดีๆ นะครับ”"เอ่อ?"ลุงอวี๋กลับหัวเราะแห้งๆ“ลูกสาวของฉันโตแล้ว เธอจะตัดสินใจเลือกเอง ฉันคิดได้แล้ว และในฐานะพ่อของเธอ ฉันควรสนับสนุนการตัดสินใจของเธอ”"พ่อ!"อวี๋จื่อเสวียนน้ำตาคลอมองดูลุงอวี๋"หึหึ......"ลุงอวี๋ก็มองลูกสาวด้วยสายตาที่ชื่นชมเช่นกันเห็นได้ชัดว่า ลุงอวี๋ไม่ได้ต่อต้านหลินเฟิงเลย จากเมื่อก่อนที่ระวังเขา ตอนนี้เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้หลินเฟิงเป็นลูกเขยของเขาแล้ว“......”หลี่ฮุ่ยหรานถือชามแ
“อ๊ะ? ครับ ผมเข้าใจแล้ว”ตู้เผิงรีบตบหน้าอกของตัวเอง เพื่อบอกว่าไว้ใจเขาจัดการได้มีการรับรองจากรองหัวหน้าแก๊งเลี่ยหยาง อวี๋จื่อเสวียนถึงวางใจได้ในที่สุดรอให้ตู้เผิงได้ส่งทั้งสองออกไปอย่างเคารพเขาหันไปมองทางซุนเชี่ยนที่ซ่อนตัวอยู่ในครัว แล้วเผยรอยยิ้มกระอักกระอ่วนพูดว่า:“ไปกันเถอะคุณซุน”“ไป…ไปที่ไหน?”ซุนเชี่ยนแอบสังเกตห้องรับแขกผ่านร่องประตูห้องครัวมาโดยตลอด เมื่อเธอเห็นว่าตู้เผิงหันเป้าหมายมาทางเธอ เธอก็ตกใจกลัวจนสติกระเจิงทันทีต้องรู้ไว้ว่า คนของแก๊งเลี่ยหยางนั้นเป็นคนที่โหดร้ายฆ่าคนโดยไม่กะพริบตา!หากเธอตกไปอยู่ในมือของพวกเขา เกรงว่าอยากตายก็ยังยาก“พาคุณออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะครับ อ่อใช่ ท่านหลินขอให้ผมช่วยประคับประคองคุณ ดังนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะเป็นรองผู้จัดการแก๊งเลี่ยหยางของเราแล้ว!”“อ่อ...ฮะ?! อะไรนะ?!”เมื่อซุนเชี่ยนได้ยินสิ่งที่ตู้เผิงพูด เธอก็ตกใจจนตื่นเต้นไปหมดเธอจะต้องเป็นผู้จัดการของคนไร้ความปราณีที่ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตางั้นเหรอ?!”“ทำไมครับ? คุณซุนไม่เต็มใจเหรอครับ?”แม้ว่าตู้เผิงจะกำลังยิ้มอยู่ แต่จากฟิลเตอร์ที่น่าหวาดกลัวของซุนเชี่ยน เขา
ปู่ของเขาคือหมอเลี่ยวผู้โด่งดังระดับโลกเชียวนะ!หลานชายของหมอเลี่ยวเรียกอาจารย์หลินเฟิงงั้นเหรอ?ตู้เผิงนวดขมับของเขา ความตกตะลึงที่มีต่อหลินเฟิงไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้“ไปที่ห้องข้างๆ ก่อน พาคนที่ฉันจัดการเรียบร้อยแล้วไปด้วย ที่ชั้นบนยังมีอีกคน”หลินเฟิงชี้ไปในทิศทางหนึ่งแล้วพูดว่า:“อ่อใช่ ฉันใช้พลังชี่ของฉันในการเย็บแผลบนร่างกายของพวกเขา ต้องใช้สมุนไพรสมบัติล้ำค่ากว่าร้อยปีเพื่อรักษาพลังชี่ของไว้ประมาณหนึ่งสัปดาห์”“คนที่อยู่ห้องข้างๆ ชื่อฟางเลี่ยง ค่ารักษาที่ต้องใช้จ่ายเรียกเก็บที่ฉันได้ ส่วนคนที่อยู่ชั้นบน เรียกเก็บจากตระกูลซุน”ได้ยินหลินเฟิงใช้คำพูดสั้นๆ อธิบายเรื่องที่น่าหวาดกลัวเลี่ยวจงตัวสั่นสะท้าน ท่าทางของคนทั้งคนก็ถ่อมตัวมากยิ่งขึ้นเลี่ยวจงในตอนนี้ อารมณ์ซับซ้อนอย่างถึงที่สุดอันดับแรกเขาได้ยินชัดเจนว่าหลินเฟิงใช้พลังชี่แท้เย็บแผล พลังชี่แท้จริงสามารถนั้นได้จริงหรือ?แพทย์แผนโบราณประเทศมังกรจะอัศจรรย์เกินไปหน่อยไหม?จากนั้นใช้สมุนไพรสมบัติล้ำค่าหลายร้อยประคองพลังชี่แท้ไว้ เวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ก็สามารถรักษาหายได้?เลี่ยวจงงุนงงไปหมดวิธีการนี้เกินจริงไปหน่อยแ
เมื่อเห็นว่าหลินเฟิงพูดแบบนี้ ตู้เผิงก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆยังไงวันนี้พูดทุกอย่างออกไปแล้ว เขาไม่มีทางที่จะแตะต้องภรรยาของซุนหยวนเหว่ยอีก ดังนั้นตระกูลซุนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งเลี่ยหยางของเขาอีกต่อไปแม้ว่าคนรักของเขาจะขอร้องเขาอย่างสิ้นหวัง แต่ตู้เผิงก็ตอบกลับเธอเพียงคำเดียว"ไสหัวไป!"“ขอร้องล่ะนังหนู เมื่อครู่ฉันผิดเอง เธอขอร้องอาจารย์ของเธอ ให้เขาคืนไตของลูกชายฉันมาได้ไหม ฉันเอาอะไรมาแลกก็ได้”เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ จากตู้เผิงได้เลย ภรรยาของซุนหยวนเหว่ยก็ไม่กล้าที่จะวิงวอนหลินเฟิง ได้แต่หันหัวหอกไปทางอวี๋จื่อเสวียนเท่านั้นกลับไม่รู้เลยว่า อวี๋จื่อเสวียนคือคนที่เกลียดตระกูลซุนของพวกเขามากที่สุดเธอเหลือบมองหญิงวัยกลางคนด้วยความดูถูก ยิ้มเยาะพูดว่า:“ไตของลูกคุณหมายถึงอะไร?”“พวกเราเพิ่งพูดชัดเจนแล้วว่านี่คือไตของฟางเลี่ยง ฟางเลี่ยงมีเมตตา เสียสละตนเองเพื่อช่วยชีวิตลูกชายของคุณ”“แต่ตระกูลซุนของคุณล่ะ? เคยให้ความเคารพแก่ฟางเลี่ยงผู้มีพระคุณคนนี้สักนิดบ้างไหม?”“ฉันกับอาจารย์หลินไม่ใช่คนไร้เหตุผล เงินสองล้านห้าแสนบาทคืนให้พวกคุณแล้ว เรื่องไตของฟางเลี่ยง ต
ภรรยาของซุนหยวนเหว่ยก็ไม่ได้มีเวลาสนใจอะไรขนาดนั้นแล้ว“ก่อนหน้านี้ตอนที่คุณอยู่บนเตียง ก็ไม่เคยทำท่าทางอย่างในวันนี้กับฉันเลยนะ!”“อะไรนะ?!”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ซุนหยวนเหว่ยที่อยู่ไกล ๆก็รู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่าภรรยาของตัวเอง คิดไม่ถึงว่าจะนอกใจตัวเอง.....แววตาของซุนหยวนเหว่ยมืดลงจนแทบจะหมดสติไปและตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่า เพราะอะไรแก๊งเลี่ยหยางถึงได้กระตือรือร้นที่จะปกป้องตัวเองมากขนาดนี้หลังจากวุ่นวายมาครึ่งวัน ก็เป็นภรรยาของตัวเองที่เหยียบเรือสองแคมเมื่อเห็นหญิงสาวคนนี้คอยรังควานตัวเองอยู่ ในขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับหลินเฟิง ตู้เผิงก็รู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อยตู้เผิงไม่ได้โง่ว่าระหว่างหลินเฟิงกับคนรักแล้ว มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคิดอะไรเลยเขาเลือกหลินเฟิงอย่างไม่ลังเลน่าขันถ้าหากช่วยผู้หญิงคนนี้จัดการหลินเฟิงต่อให้ตู้เผิงมีหลายชีวิตก็ไม่เพียงพอที่จะให้หลินเฟิงฆ่าได้ต่อให้วันนี้เขาโชคดีสามารถพาคนรักของตัวเองหนีไปได้แต่หลังจากกลับไปที่แก๊งเลี่ยหยาง พี่ใหญ่ของตัวเอง ตู้ไหวก็จะไม่ยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆอยู่ดีหลินเฟิงกับคนรักดูเหมือนว่าจะต้องเลือกระหว่างท่านหลินก
หลังจากนั้นไม่นาน ซุนหยวนเหว่ยก็เอามือปิดหน้าของตัวเองเอาไว้ พร้อมกับมองไปทางตู้เผิงด้วยความไม่อยากจะเชื่อ“น้อง...น้องตู้เผิง นาย...นายตบฉันทำไม?”“ตบคุณทำไม? วันนี้ฉันยังอยากจะฆ่าคุณให้ตายด้วยซ้ำ!”ตู้เผิงพุ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของซุนหยวนเหว่ย แล้วผลักเขาลงบนโต๊ะอาหารไม้เนื้อแข็งในบ้านของตัวเอง“ปัง!”ซุนหยวนเหว่ยรับการโจมตีอย่างหนักในครั้งนี้ ริมฝีปากก็ถึงกับมีเลือดออก แล้วฉากตรงหน้าก็เริ่มที่จะพร่ามัวเขาพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้นจากพื้น และไม่รอให้เขาได้พูดอะไร ก็ได้เห็นฉากที่ทำให้หัวใจของเขาเย็นวาบไปถึงกระดูกเพียงแค่เห็นตู้เผิงโบกมือ และเรียกลูกน้องแก๊งเลี่ยหยางทั้งหมดในแก๊งที่ติดตามเขามา ทยอยพากันคุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าหลินเฟิง“สวัสดีครับ ท่านหลิน!”“สวัสดีครับ ท่านหลิน!”ซุนหหยวนเหว่ยที่เพิ่งจะยืนขึ้นได้ ก็ได้ยินเสียงทักทายดังสนั่นพร้อม ๆกัน ทันใดนั้นก็ราวกับว่าพละกำลังทั้งหมดถูกดึงออกไปจนหมด แล้วก็ล้มลงไปกับพื้นพร้อมกับเสียงดังโครม“ท่านหลิน? อะไร.....”ซุนหยวนเหว่ยมองดูฉากตรงหน้าด้วยความตกใจ คนทั้งคนดูงุนงงไปหมดผู้ชายที่เย่อหยิ่งคนนั้น เป็นใครกันแน่?ทำไม...แ
ป้าจางก็กลัวเช่นเดียวกัน เธอไม่เคยเห็นซุนหยวนเหว่ยมีท่าทางที่ดุร้ายอย่างนี้มาก่อนเลยเธอไม่กล้าขัดขืน ก่อนจะรีบกดปุ่มในห้องรับแขกเพื่อเปิดประตูเหล็กที่ด้านนอกคฤหาสน์ทันใดนั้นก็มีเสียงดังวุ่นวายเข้ามาเมื่อรับรู้ถึงเสียงฝีเท้าที่ดังกึกก้องเข้ามาใกล้ที่นี่มากขึ้นเรื่อย ๆ รอยยิ้มอันชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซุนหยวนเหว่ย“ยังอยากจะทำให้ฉันกลัวอยู่อีกเหรอ? แกคิดว่าแกเป็นใครกัน?!”“ล่วงเกินฉัน ก็แสดงว่าหาเรื่องกับตระกูลจีและแก๊งเลี่ยหยางด้วย ฉันอยากจะรู้ว่าเบื้องหลังของแกมีอะไรกันแน่ ใครที่จะสามารถปกป้องแกได้!”เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเสียงคำรามที่ดุดันของซุนหยวนเหว่ย หลินเฟิงก็ส่ายหน้าด้วยความเสียดาย แม้แต่แววตาที่มองไปทางซุนหยวนเหว่ยก็ยังเต็มไปด้วยความสงสาร“ปัง!”เพียงแค่เห็นประตูคฤหาสน์ที่จู่ ๆก็ถูกเตะเปิดออก ก็มีชายหนุ่มในชุดสูทเดินนำหน้าเข้ามาเขาถือแท่งเหล็กอยู่ในมือ ในปากคาบบุหรี่ ทั้งยังสวมแว่นตากันแดดสีฉูดฉาดอีกด้วย ดูมีออร่าไปทั้งตัวอย่างมาก“ซุนหยวนเหว่ย ทำไมเปิดประตูก็ยังต้องใช้เวลานานขนาดนี้อีก? ใครกล้าทำเรื่องบ้า ๆในตระกูลซุนของคุณ?”ในขณะที่ชายในชุดสูทกำลังไต่ถาม