หลินเฟิงมองดูคุณปู่หลี่ที่น่าสงสารถึงแม้เขาสามารถยอมรับตัวเองได้ แต่ตระกูลหลี่ไม่สามารถยอมรับได้การสมรสไม่ใช่เรื่องระหว่างคนสองคน แต่เป็นเรื่องระหว่างสองครอบครัว “คุณปู่ ผมหมดวาสนากับตระกูลหลี่แล้ว ช่างเถอะครับ”พูดจบ หลินเฟิงก็เดินจากไปอย่างไม่คิดจะหันหลังกลับหลี่ไห่ซานเดินโซเซสักพักหนึ่ง เกือบจะล้มลงกับพื้นโชคดีที่หลี่ฮุ่ยหรานมองเห็นทัน และก้าวไปข้างหน้าจับเขาไว้ทันดวงตาของหลี่ไห่ซานเสียสติ พึมพําอย่างต่อเนื่องในปากว่า "ตายแล้ว ตายแล้ว ตระกูลหลี่ต้องพังแล้ว"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ “คุณปู่ นี่คุณพูดอะไรกัน” “บอกจริงๆนะ วันนี้หวางเส้าหลงยังตั้งใจช่วยฉันในการสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลถังด้วย” “อีกไม่นาน ตระกูลหลี่ก็จะกลายเป็นตระกูลชั้นนําของเจียงโจว” “ฮาฮา...”คุณปู่หลี่หลังจากได้ยินก็หัวเราะอย่างเย็นชา “คุณหวางคนนั้นหน่ะเหรอ” “ใช่ค่ะ” “เมื่อเทียบกับหลินเฟิงแล้ว หวางเส้าหลงคนนั้นไม่มีอะไร”คุณปู่หลลี่สะบัดแขนเสื้อ ไม่มีอารมณ์จะทานข้าวแล้ว กลับไปที่ห้องด้วยความโกรธหลี่ฮุ่ยหรานถอนหายใจยาว “ก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณปู่ให้ความสำคัญกับหลินเ
หลินเฟิงยิ้ม “ผมก็ไม่ได้จีบเธอ จะอิจฉาผมทำไม” “แม้ว่าจะพูดอย่างนี้ก็เถอะ แต่พี่หว่านเอ๋อมีคู่หมั้นอยู่แล้ว คุณสามารถรับประกันได้ไหมว่าเขาจะไม่คิดอะไรเกินเลย”ฉินอิ๋งถอนหายใจ “คู่หมั้นของพี่หว่านเอ๋อเป็นนายน้อยของตระกูลหรงในเมืองหลวง” “คนนี้ใจร้ายมาก ผู้ชายทั้งหมดที่เคยพยายามเข้าใกล้พี่หว่านเอ๋อ ไม่รู้ว่าตายยังไง”ในฐานะที่เป็นบอดี้การ์ดของถังหว่าน ความลับเหล่านี้เธอก็รู้มาบ้างเธอก็ไม่หวังว่าอัจฉริยะศิลปะการต่อสู้อย่างหลินเฟิงจะตายในมือของตระกูลเย่ไม่ว่ายังไงคนที่เก่งกว่าหลินเฟิงมีเยอะในเจียงโจว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุณหรงที่เมื่องหลวงตัวฉันเองเตือนคุณด้วยความใจดี “ฮึ่ม”หลินเฟิงออกเสียงเย็นฮึ่ม ดวงตาเต็มไปด้วยความดูถูก “ไม่มายั่วยุผมก็พอ” “หากกล้ามายั่วยุผม มังกรแท้ๆก็เปลี่ยนกลายเป็นหนอนได้”ฉินอิ๋งกลืนน้ําลาย น้ำเสียงนี้หยิ่งผยองมากจริงๆก็ไม่รู้ว่าพอถึงตระกูลหรงมาจริงๆ เขายังคงหยิ่งผยองแบบนี้อยู่หรือเปล่าแต่ว่าในเมื่อพูดเป็นแบบนี้แล้ว เธอไม่มีอะไรจะพูดอีกเช้าวันรุ่งขึ้น หลี่ฮุ่ยหรานเพิ่งตื่นนอน ก็ได้รับข่าวของหวางเส้าหลง “ฮุ่ยหราน ข่าวดีนะ คุณหญิงใหญ่ตระกูลถังเมื
หลินเฟิงล้วงมือทั้งสองข้างเข้าไปในกระเป๋า และขึ้นไปนั่งบนรถอย่างใจเย็นถังหว่านที่นั่งอยู่ตรงฝั่งข้างคนขับกลับยังคงมองเขาอยู่“คุณหลิน หลี่เหวินเชาคนนั้นคือใคร?”หลินเฟิงก็ไม่ได้เลือกที่จะปิดบัง พูดอย่างตรงไปตรงมา “น้องชายของภรรยาเก่าฉัน”“อ๋อ......แบบนี้นี่เอง”ทันใดนั้นถังหว่านก็ตระหนักขึ้นได้ว่า “ถ้าอย่างนั้นหลี่ฮุ่ยหรานก็คือภรรยาเก่าของคุณ”หลินเฟิงพยักหน้าตอบรับถังหว่านถามด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าระหว่างคุณหลินกับภรรยาเก่าคุณจะจบแบบไม่สวยเท่าไรนัก!”“ต้องการให้ฉันช่วยคุณแก้ปัญหาไหมคะ?”หลินเฟิงเหลือบไปมองเธอ หากให้เธอลงมือ เธอสามารถทำให้ตระกูลหลี่หายไปจากเจียงโจวได้อย่างไร้ร่องรอยถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะเกลียดตระกูลหลี่ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะฆ่าพวกเขาทิ้งทั้งหมดยิ่งไปกว่านั้นคุณปู่ก็ยังอยู่ ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไรก็ยังต้องรักษาหน้าของคุณปู่ไว้“เรื่องของผมเอง ผมจัดการได้ คงไม่ต้องทำให้คุณถังลำบากใจหรอก”ถังหว่านยิ้มเล็กน้อย “เข้าใจแล้ว แต่ถ้าคุณหลินพบเจอกับปัญหาอะไรสามารถเรียกฉันได้ตลอดเวลา”เวลาพลบค่ำประตูทางเข้าหลักโรงแรมเทียนอวี่หลี่ฮุ่ยหรานสวมชุดราตรีสีน้ำเงินสวยเพื่อเข้าร่วมงาน
สาวสวยท่านนี้ คุณไม่สนใจผมเกินไปแล้ว”หวางเส้าหลงโกรธขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคก่อนหน้านี้ฉันเป็นถึงคุณชายผู้สูงส่งแห่งตระกูลหวาง สู้คนไร้ค่าอย่างหลินเฟิงไม่ได้ตรงไหน?ถังหว่านพูดอย่างดูถูก “เพราะแบบนี้ไงฉันถึงไม่สนใจคุณ”มุมปากของหวางเส้าหลงกระตุก มือกำหมัดจนเส้นเลือดขึ้น “คนสวย ผมบอกคุณตรง ๆ นะ นายนี่จนถึงตอนนี้แม้แต่งานจะทำยังไม่มีเลย” “ไม่อย่างนั้นหลี่ฮุ่ยหรานคงไม่หย่ากับเขาหรอก” “นอกจากหน้าตาที่พอไปวัดไปวาได้แล้ว เขาสามารถให้อะไรกับคุณได้บ้าง?”ทันทีที่ได้ยินถังหว่านก็หันไปมองหลินเฟิง และชมว่า “คุณหลินขาดแค่เวลาเท่านั้น ฉันเชื่อว่าแค่ให้เวลาเขาสักหน่อย” “ก้าวนำหน้าตระกูลหวางภายในหนึ่งเดือน ไม่ใช่เรื่องยากเลย” “ฮ่าฮ่าฮ่า...”หวางเส้าหลงรู้สึกขบขันและหัวเราะเสียงดังหนึ่งเดือน เริ่มต้นจากศูนย์และก้าวนำหน้าตระกูลหวาง เป็นเรื่องที่เหลวไหลไร้สาระที่สุดในโลก “คนสวยคุณนี่พูดจาได้ตลกจริง ๆ”ถังหว่านยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่ได้ล้อคุณเล่นนะ งั้นเรามาพนันกันไหมล่ะ?” “ถ้าคุณหลินก้าวนำหน้าตระกูลหวางได้ภายในหนึ่งเดือน คุณจะต้องคุกเข่าลงและขอโทษฉัน”หวางเส้าหลงหรี่ตาลงเล็กน้อย และเริ่มรู้ส
ถังหว่านเดินเข้ามาใกล้ ๆ ท่ามกลางฝูงคนที่รายล้อมหลี่ฮุ่ยหรานตกใจจนตัวแข็งเมื่อเห็นพฤติกรรมที่คนรอบตัวปฏิบัติต่อเธอ บุคคลนี้แท้จริงแล้วก็คือคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลถังหลี่ฮุ่ยหรานที่ก่อนหน้านี้ยังปฏิบัติต่อเธออย่างดูถูกเหยียดหยามก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันทีผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีแค่รูปร่างหน้าตาที่ดีและเพียบพร้อมกว่าฉันเท่านั้น ขนาดฐานะทางบ้านของเธอฉันเองยังเทียบไม่ติดเลยสักนิดตอนนี้เธอเพิ่งจะเข้าใจประโยคที่ถังหว่านบอกว่าตัวเธอเองนั่นแหละที่จะต้องขายหน้านั้นหมายความว่าอย่างไรถ้ามีเธออยู่ ฉันจะสามารถคว้าโครงการของตระกูลถังมาได้ยังไงหวางเส้าหลงพูดจาตะกุกตะกักไปในทันที “คุณ... คุณคือคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลถังหรอ?” “ทำไม ฉันเป็นคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลถัง ทำให้คุณผิดหวังมากเลยหรอ?”ถังหว่านมองเขาอย่างหยอกล้อ “เมื่อกี้คุณใช่ไหมที่ดูถูกคุณหลิน?” “หึเขาไม่มีอะไรดีสักอย่างก็สมควรแล้วที่ผมจะดูถูก”หวางเส้าหลงพูดหน้าตาเฉยในสายตาของเขาหลินเฟิงก็เป็นแค่ขยะไร้ค่าเท่านั้นปีนสูงขึ้นไปเทียบขั้นคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลถัง ก็คงจะเป็นได้แค่ของเล่นของถังหว่านเท่านั้นถ้าหากว่าถังหว่านถึงกับยอมออกหน้าเพื่อปกป้อ
สุดท้ายบทเรียนในอดีตก็ได้สอนบางอย่างให้กับเราทำให้เธอนึกถึงก่อนที่เธอจะเข้าไปในงานเลี้ยง คำพูดที่ถังหว่านพูดกับเธอโครงการที่ซีเฉิงในครั้งนี้ ตัวเธอเองคงจะพลาดไปแล้วจริง ๆเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะหน้ามืดขึ้นมาทันทีหวางเส้าหลงในเวลานี้พูดด้วยสีหน้ามึนตึง “ไม่ต้องกังวล ไอ้ขยะนั่นเป็นได้แค่ผู้ชายที่เกาะถังหว่านกินเท่านั้น” “และอีกอย่างพ่อของผมกับคุณปู่ตระกูลถังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน แค่เพียงโทรเจรจานิดหน่อย คุณปู่ตระกูลถังจะต้องเข้าใจเรื่องทั้งหมดอย่างแน่นอน”จางกุ้ยหลานเพิ่งจะนึกได้ว่า ยังมีหวางเส้าหลงอยู่นี่“ในช่วงเวลาวิกฤต ยังไงก็ต้องดูแลคุณหวางให้ดี!”หลี่ฮุ่ยหรานที่ในตอนนี้หันไปมองเขาอย่างน่าสงสาร “คุณหวางครั้งนี้คงต้องลำบากคุณแล้วจริง ๆ”ตอนนี้เธอไม่กล้าฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่หลินเฟิงแล้วโครงการที่ซีเฉิงเกี่ยวข้องกับการพัฒนาในอนาคตของหลี่ซื่อกรุ๊ป ดังนั้นเธอจึงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษหวางเส้าหลงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา หามุมเงียบสงบเพื่อโทรหาพ่อของเขาไม่ช้าเสียงของหวางเจิ้นไห่ผู้นำตระกูลหวางก็ดังมาจากปลายสายอีกด้าน “เฮ้ มีเรื่องอะไร? โทรมาหาฉันดึกข
หลังจากที่คิดทบทวนอยู่หลายครั้งหลินเฟิงสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า “การตัดช่องทางการทำเงินของคนอื่น ก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าพ่อแม่ตัวเอง”“ในเมื่อคุณถังก็พิจารณาหลี่ซื่อกรุ๊ปไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แล้วผมจะไปทำให้เรื่องมันวุ่นวายไปอีกทำไม”ถังหว่านมองไปที่หลินเฟิงอย่างยิ้ม ๆ “ฉันว่าคุณหลินน่าจะไม่อยากทำให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้มากกว่าใช่ไหมคะ” “เพราะว่าคุณยังรักคุณหลี่อยู่ใช่ไหม?”หลินเฟิงเหลือบมองไปที่เธอ “ถ้าคุณคิดแบบนี้ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด” “ตอนนี้คุณหลินก็โสดแล้ว ไม่คิดจะมีรักครั้งใหม่บ้างหรอคะ?”หลินเฟิงส่ายหน้า “ไม่อยาก” “คุณหลินนี่น่าเบื่อจริง ๆ”ถังหว่านทำปากมุ่ยน่าผิดหวังอยู่ไม่น้อยแต่เธอก็ไม่ได้ซักไซ้เรื่องนี้ต่อหลินเฟิงเพิ่งจะหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานได้สองวัน เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถเร่งรีบได้เธอใช้มือเปิดกล่องผ้าอย่างสบาย ๆ “ฉันว่าคุณหลินสนใจเรื่องยาสมุนไพรมากกว่า” “ถ้าอย่างนั้นเห็ดหลินจืออายุร้อยปีนี้ก็ให้คุณละกัน”ทันทีที่เปิดกล่องผ้า กลิ่นหอมจาง ๆ ก็กระทบเข้ากับจมูกหลินเฟิงเริ่มมีแรงจูงใจขึ้นมาทันที ดวงตาทั้งคู่ค่อย ๆ สังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนถังหว่านยักไหล่ข
นี่ถึงทำให้เธอพบว่ามีกล้องวงจรปิดติดอยู่ด้านบนศีรษะของเธอจุดไฟสีแดงกระพริบอย่างต่อเนื่อง “บอกตามตรง ฉันไม่อยากให้คุณรับผิดชอบโครงการพัฒนาที่ซีเฉิงเลยจริง ๆ” “แต่น่าเสียดายมีคนไม่อยากให้หลี่ซื่อกรุ๊ปของคุณต้องล่มสลาย ฉันเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้!” “สองวันหลังจากนี้มาที่อาคารสำนักงานใหญ่ถังซวนเพื่อเซ็นสัญญาละกัน”เมื่อได้ยินว่าถังหว่านให้ตัวเองเข้าไปเซ็นสัญญาหลี่ฮุ่ยหรานดีใจไม่ออกไปพักหนึ่งเธอพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “คุณถัง คุณตามดูคนอื่นลับหลังแบบนี้ก็ไม่ดีหรือเปล่า?”ถังหว่านที่อยู่ในห้องวงจรปิดยิ้มเยาะ “ตราบใดที่ฉันต้องการ ทั้งวันคุณเข้าห้องน้ำกี่ครั้งฉันก็สามารถรู้ได้” “ครั้งนี้ ฉันจะยกโทษให้ ครั้งหน้าถ้ายังกล้าพูดถึงฉันไม่ดีลับหลังอีก ระวังฉันจะไม่เกรงใจ” “ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด”หลี่ฮุ่ยหรานค่อย ๆ วางสายโทรศัพท์ลงจางกุ้ยหลานถามด้วยความสังสัย “ใครหรอ?” “ถังหว่าน” “คุณถังพูดว่าอย่างไรบ้าง?” จางกุ้ยหลานถามด้วยแววตาเป็นประกายทั้งสองข้าง “เธอบอกว่ามีคนไม่อยากให้หลี่ซื่อกรุ๊ปต้องล่มสลาย หลังจากนี้สองวันให้ฉันเข้าไปเซ็นสัญญาที่ตึกสำนักงานใหญ่ถังซวน”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างเหนื่อยใจถึงแม
“แม่งเอ๊ย พวกแกบังอาจมาก กล้าแตะต้องฉัน พวกแกรู้ไหมว่าลุงของฉันเป็นใคร?”“คนที่อยู่เบื้องหลังคุณลุงของฉันคือตระกูลหลง ถ้าหากพวกแกกล้าลงมือต่อฉันที่นี่…”ได้ยินสยงก้วนยังกล้าพูดข่มขู่ทุกคนอยู่ตรงนี้ ดินไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าไปเหยียบนิ้วมือของสยงก้วนโดยตรงเสียงดังแกร่กเหยียบจนนิ้วมือแตกหัก“อ๊ากกกกก!”นิ้วมือเชื่อมต่อหัวใจความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้สยงก้วนกุมฝ่ามือของตัวเองเอาไว้ นอนหมอบอยู่บนพื้นกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวด“คุณชายสยง ตอนนี้อยากจะคุยกับผมดีๆ แล้วยัง?”หลินเฟิงก้มตัวลง ถามด้วยสีหน้านิ่งเฉย“คุย…คุยแม่งสิ! แกคอยดูเถอะ…คอยดูเถอะ!”สยงก้วนเจ็บจนสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง พร้อมทั้งด่าทออย่างบ้าคลั่ง“ยังกล้ากำเริบเสิบสานต่อหน้านายท่านอีกงั้นเหรอ?!”ดินเหยียบลงไปอีกครั้ง ครั้งนี้ทำให้ทั้งฝ่ามือของสยงก้วนแตกละเอียดทันที ครั้งนี้สยงก้วนเจ็บจนเกลือกกลิ้งบนพื้นน้ำเสียงก็อ่อนลงในที่สุดท้าย ถึงขั้นสะอื้นไห้เล็กน้อย“พวกแกจะทำอะไรกันแน่?! พวกแก…พวกแกกล้ามาก่อเรื่องที่ตระกูลสยง พวกแกไม่อยากมีชีวิตแล้วงั้นเหรอ?”“ผมเคยพูดแล้ว คุณชายสยง พวกเรามาซื้อบ้านอย่างเป็นมิตร”
ไม่มีทางสองจิตสองใจหลินเฟิงรู้ว่าคำพูดของสองคนนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือเท่าไหร่นักแต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีที่ไปแล้วไม่เพียงทำภารกิจของตระกูลสยงไม่สำเร็จ ยังเผยความลับของตระกูลสยง ไม่ต้องพูดว่าตระกูลสยงจะยอมรับพวกเขาใหม่ ตระกูลสยงไม่หาคนมาฆ่าพวกเขาสองคนก็ถือว่าเป็นเมตตามากพอแล้วหลงซวี่จวินไม่มีทางปล่อยพวกเขาเอาไว้ประการที่สองคือ ข้อเสนอที่หลินเฟิงให้กับพวกเขานั้นมีแรงดึงดูดอย่างมากในเมื่อนักบู๊ทั่วๆ ไป ไม่มีการถ่ายทอดและสืบสานใดๆ พวกเขาอยากจะฝึกบำเพ็ญ อาศัยศิลปะการต่อสู้ขั้นต่ำที่ซื้อมาจากตลาดมืดด้วยราคาที่แพงมากสำหรับวิชาศิลปะการต่อสู้ระดับสูง ต่างเป็นสมบัติล้ำค่าภายในสำนักไม่มีทางหลุดออกมาถึงตลาดมืดต่อให้มี พวกเขาก็ใช่ว่าจะมีกำลังซื้อแต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้วถ้าหากพวกเขาติดตามหลินเฟิงงั้นหลินเฟิงเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเทพ ศิลปะการต่อสู้ที่เขาถ่ายทอดให้ ไม่มีทางที่จะเป็นขยะที่เอามาขายในตลาดมืด โดยต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลซื้อมาดังนั้นถึงแม้พวกเขาทำเพื่อตัวเอง จึงเกาะติดต้นไม้ใหญ่อย่างหลินเฟิง ถือว่าทำตามความฝันระดับสูงสุดของพวกเขาแล้วไม่มีนักบู๊คนไหนไม่อยากเลื่อนขั้นคว
“พวกนายสองคนหัวเราะอะไร?!”บอดี้การ์ดที่นำหน้ามาจ้องมองดินกับน้ำทั้งสองคนอย่างดุดัน ก่อนที่ทั้งสองจะหยุดยิ้มอย่างรวดเร็ว แล้วส่ายหน้าบ่งบอกว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น แต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าอยู่ในเมื่อคนสี่คนที่ยืนอยู่ต่อหน้าบอดี้การ์ดที่อวดดีกลุ่มนี้ ต่างก็เป็นนักบู๊กันทั้งหมดแถมแต่ละคนก็มีความแข็งแกร่งจนเกินเหตุอีกด้วยคำข่มขู่ของบอดี้การ์ดเหล่านี้ จึงดูตลกมากสำหรับคนทั้งสองคนเพราะอย่างนั้นจึงทนไม่ไหวหลินเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาถ้าหากเป็นไปได้ อันที่จริงเขาไม่อยากเกิดการปะทะกันเขาเพียงอยากจะได้วิลล่าที่เงียบสงบนี้มาครอบครอง และไม่อยากทำให้ที่นี่นองไปด้วยเลือดในเมื่อพรุ่งนี้ยังต้องไปรับเสวี่ยฮุ่ยกับฮุ่ยหรานและคนอื่นๆ มาอยู่ด้วยเพราะอย่างนั้นเขาจึงโบกมือและพาสองสามคนแยกไปทางด้านข้างประตูเหล็ก แล้วกลับไปที่ใกล้ๆรถ ท่ามกลางสายตาที่เหยียดหยามของบอดี้การ์ดพวกนั้น ก่อนจะติดต่อโทรหาเผิงกวงฉี่หลังจากรอจนเขาบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาแล้วเผิงกวงฉี่ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“แม่ง ไอ้สารเลวนั้นมีชื่อว่าสยงก้วน เขาติดหนี้พนันและเป็นฉันที่ช่วยเขาจ่ายหนี้ พ่อของเขาหาเงินมาได้
“แต่หลี่ซื่อกรุ๊ปได้วางแผนไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่ได้ขายให้กับพวกเขา”“หลังจากนั้นพวกเขาก็เสนอความร่วมมือที่จะพัฒนาร่วมกัน แต่ฉันก็ยังไม่ได้ตอบรับพวกเขา”“โอเค ผมรู้แล้ว”หลินเฟิงวางสายโทรศัพท์ พร้อมกับใบหน้าที่แสดงรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมามิน่าล่ะดูเหมือนว่าที่ดินผืนนี้ที่เขาซื้อมาจากจางกุ้ยหลาน คิดไม่ถึงว่าจะได้รับความชอบเป็นพิเศษจริงๆถึงขั้นที่ชีพจรมังกรก็ยังซ่อนอยู่ในนั้นด้วยในเมื่อชีพจรมังกรตกอยู่ในมือของเขาแล้ว งั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องยกให้กับคนอื่นจ่อให้ทำลายชีพจรมังกรเส้นนี้หลินเฟิงก็จะไม่ยกให้หลงซวี่จวินของตระกูลหลงเด็ดขาดหลังจากนั้นไม่นาน รถเก๋งสีดำก็จอดลงที่ข้างทางข้าง ๆกันนั้น ก็เป็นประตูเหล็กขนาดใหญ่ และเป็นวิลล่าเดี่ยวหลังหนึ่งที่มีพื้นที่กว้างขวางด้านหน้าและด้านหลังรายล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ โรงจอดรถ สวนสาธารณะและทุก ๆอย่างที่ต้องการถึงแม้จะไม่ได้หรูหราและใหญ่โตเท่าที่เมืองจิงอย่างตระกูลถังและตระกูลจี แต่ก็มีทำเลทางภูมิศาสตร์ที่ดีอย่างมากเงียบสงบและสง่างามถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลกันมากใช้เวลาขับรถจากอาคารหลั
“แน่นอนว่าที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังวางแผนอะไรบางอย่าง บอกว่าที่ดินผืนหนึ่งมีความสำคัญ และเพิ่งตกไปอยู่ในมือของหลี่ซื่อกรุ๊ปเมื่อไม่นานมานี้”“ตระกูลสยงพยายามที่จะซื้อมันหลายครั้ง แต่หลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ขายให้พวกเขา ดังนั้นถึงได้.....”เมื่อได้ยินแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างในความคลุมเครือ เขาคิดว่าหลงซวี่จวินของตระกูลหลงนี้ จะต้องมีเป้าหมายบางอย่างที่คล้ายคลึงกับหยินหลิงอย่างมากแน่ ๆเขาหันกลับไปมองหยินหลิง ก่อนจะขมวดคิ้วถามว่า :“หยินหลิง ก่อนหน้านี้เธอเคยพูดถึงชีพจรมังกรทางโทรศัพท์ มันเรื่องอะไรกัน?”“ชีพจรมังกร?”ทางฝั่งดินและน้ำที่อยู่ด้านหน้าก็ยืดคอเพื่อแอบฟังด้วยเช่นกันแต่ทว่า ในเวลานี้หยินหลิงกลับแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมา แถมยังรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อยอีกด้วย“หยินหลิง?”หลินเฟิงเรียกชื่อของเธออีกครั้ง หลังจากนั้นเธอถึงตอบสนองกลับมา“ขอโทษ พี่หลินเฟิง ฉันคิดว่า....ตอนนี้พวกเราไม่ควรไปยั่วโมโหตระกูลสยงนะ”ใครจะคิดว่า เธอเปิดปากก็โน้มน้าวให้หลินเฟิงยอมแพ้“ทำไม?”หลินเฟิงตะลึงงัน“หลงซวี่จวิน”หยินหลิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดด้วยแววต
หลินเฟิงบดขยี้วิทยุสื่อสารที่อยู่ใต้เท้า ก่อนจะมองไฟที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่ทางด้านหลัง ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่หญิงสาวในชุดสีขาวที่เพิ่งจะปรากฏตัวที่หลี่ซื่อกรุ๊ปและไล่ล่าน้ำจนไม่มีทางตันนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหยินหลิงผู้นำคนปัจจุบันของพันธมิตรบู๊ เรื่องราวบังเอิญแบบนี้นี่แหละหยินหลิงกับฉู่ฮวาจิ่นนั้นมีการติดต่อกันอย่างลับ ๆฉู่ฮวาจิ่นได้รู้จากหลินเฟิงว่าตระกูลสยงต้องการที่จะจัดการเขา จึงได้โทรหาหยินหลิงที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อทันทีคราวนี้เป้าหมายของหยินหลิงกับหลงซวี่จวินก็เหมือนกันทั้งหมดนี้ก็เพื่อชีพจรมังกร เมื่อหยินหลิงได้ยินว่าหลินเฟิงอาจจะตกอยู่ในอันตราย จึงรีบเข้ามาทันทีดังนั้นสายเรียกเข้าที่หลินเฟิงได้รับที่โรงจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อสักครู่นั้นก็เป็นหยินหลิงที่โทรมาหาหลินเฟิงจึงมีความคิดเพิ่มขึ้นมาทันทีในเวลานั้นเขาให้หยินหลิงตามมา ช่วยเขาปกป้องหลี่ซื่อกรุ๊ปส่วนเขาก็ไปทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อ เพื่อที่จะดูว่าตระกูลสยงกำลังเล็งเป้าหมายไปที่ใครกันแน่ผลสุดท้ายแล้ว ก็ออกมาเกินความคาดหมายของหลินเฟิงคนของสยงซื่อกรุ๊ปไม่เพียงแต่จะจัดการกับเขาเท่านั้น อ
มีความเชื่อมั่นจากประสบการณ์ที่ผ่านมาพวกเขากล้าที่จะลงมือต่อหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่า ตอนนี้ลมหายใจของหลินเฟิงที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์ยาวเหยียด พูดจาเป็นธรรมชาติอย่าว่าแต่บาดเจ็บจนลมหายใจไม่คงที่แม้แต่ทำให้เขาหายใจหอบสักนิดก็ไม่มีพี่น้องของตัวเองสองคนตายไปแล้วการโจมตีแบบนี้ แทบจะทำให้เขาเสียสติไปในทันที“พี่ใหญ่ พี่มาสักที เร็ว…ช่วยผมด้วยไกลออกไปน้ำที่พกระเบิดอยู่เต็มตัว หายใจหอบวิ่งเข้ามา และที่ด้านหลังของเขา กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งสวมผ้าโปร่งสีขาวถือดาบในมือไล่ตามเขามา“หึ นายก็คือพี่ใหญ่ของเขางั้นเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นหยุดยืนนิ่ง มองดินที่เหม่อลอยอยู่ด้วยความเย็นชา“ฉัน…”ดินอ้าปาก พบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออกทั้งนั้นความสามารถของหลินเฟิง ทำลายความเชื่อมั่นของเขาถ้าหากพูดว่าภายใต้ระเบิดแบบนั้น ยังคงทำร้ายเขาไม่ได้ งั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียว…“นักบู๊ขอบเขตเทพ”กินพูดพึมพำกับตัวเอง“พี่ใหญ่ พี่พูดจาเหลวไหลอะไร? รีบขวางเธอไว้สิ!”น้ำเห็นพี่ใหญ่ของตัวเองยืนเหม่ออยู่ที่เดิมเหมือนกับคนปัญญาอ่อน เขาร้อนใจจนเกือบจะสบถด่าออกมา“ฉันบอกว่า…หลินเฟิงที่เราจะจัดการ คือนักบู๊
ในวิทยุสื่อสารมีเสียงลูกน้องของตัวเองดังขึ้นมาดินคนนั้นที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่ พยักหน้าพูดว่า:“ทำได้ไม่เลว แต่ยังต้องตรวจสอบต่อไป หลินเฟิงคนนั้นความสามารถไม่ธรรมดา ไม่แน่เขาอาจจะหนีตายไปได้จริงๆ”“วางใจเถอะพี่ใหญ่ ต่อให้เขารอดมาได้ แต่ถูกระเบิดที่รุนแรงโจมตี ต่อให้เพียงพอที่จะรอดมาได้ ก็ไม่มีทางที่จะมีโอกาสต่อต้านอะไรได้แล้ว”ชายวัยกลางคนที่ชื่อว่าลมค่อนข้างสุขุมเขาพูดอย่างเรียบเฉยว่า:“ผมกับไฟจะรออยู่ที่นี่ ตรวจสอบศพด้วยตนเอง”“ดี”พี่ใหญ่ที่ชื่อดินพยักหน้า นี่เป็นวิธีที่รอบคอบที่สุด“น้ำ นายวางระเบิดเป็นยังไงบ้างแล้ว?”“พี่ใหญ่ เชี่ย ผมถูกจับได้แล้ว!”ในวิทยุสื่อสารมีเสียงหายใจหอบ เห็นได้ชัดว่าผู้ชายที่ชื่อน้ำกำลังวิ่งหนีอย่างเต็มแรง“ถูกจับได้แล้ว? นายอยู่ที่ไหน ฉันจะไปหนุนกำลังนาย!”“ผมอยู่ที่บ่อน้ำพุตรงสวนชั้นล่างของหลี่ซื่อกรุ๊ป มีผู้หญิงที่น่าหวาดกลัวมากคนหนึ่ง ตามผมมาตลอด!”“ทำยังไงผมก็สลัดเธอไม่หลุด!”“ผู้หญิงที่น่ากลัวมาก?!”ดินได้ฟังก็นิ่งอึ้งเล็กน้อยต้องรู้ว่า ความสามารถของพวกเขาสี่คนต่างอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุด ถึงขั้นที่เขายังเป็นขั้นเซียนเทียนต้
“ผมจะให้คนของแผนกรักษาความปลอดภัยทั้งหมดตามมา ปกป้องหลี่ซื่อกรุ๊ป ถ้าหากพวกเขาจะจัดการผม ที่นี่ก็จะไม่เป็นอะไร”“แต่ถ้าหากผมออกไปแล้ว พวกเขาจะจัดการหลี่ซื่อกรุ๊ป งั้นก็แสดงว่าพวกเขาพุ่งเป้ามาที่หลี่ซื่อกรุ๊ป“อืม หน่วยลับของตระกูลถังที่ฉันพามาก็จะช่วยปกป้องที่นี่”ถังหว่านพยักหน้าพูด“หน่วยลับ?”หลินเฟิงนึกถึงหน่วยลับของตระกูลถังก่อนหน้านี้ พูดได้ว่าถึงแม้จะมีความสามารถ แต่ภายนอกกลับเละเทะไปหมดดังนั้นเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักแน่นอนว่า ตอนนี้ต่อให้กำลังน้อยแค่ไหนก็ต้องให้ความสำคัญ มีพวกเขาอยู่ ก็มีการรับรองเพิ่มมากขึ้นหลินเฟิงพยักหน้า และไม่ได้เสียเวลา เขานั่งลิฟต์ลงไปยังที่จอดรถใต้ดินโดยตรงในตอนที่เขากำลังจะขึ้นรถ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นไม่นานนัก รถออดี้คันหนึ่งก็ขับออกจากอาคารใหญ่ของหลี่ซื่อกรุ๊ปชายวัยกลางคนใช้ผ้าคลุมหน้ายืนอยู่บนอาคารสูงที่ไหลออกไป และซ่อนตัวอยู่หลังกระจกที่สะท้อนแสง เก็บกล้องส่องทางไกลที่อยู่ในมือเขาหยิบวิทยุสื่อสาร ใช้รหัสลับแจ้งเตือนเพื่อนร่วมแก๊งคนอื่นๆว่า:“หลินเฟิงออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ย้ำ หลินเฟิงเป้าหมายได้ออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว”“ร