Share

บทที่ 12

Author: เสี่ยวฉู่
สาวสวยท่านนี้ คุณไม่สนใจผมเกินไปแล้ว”

หวางเส้าหลงโกรธขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคก่อนหน้านี้

ฉันเป็นถึงคุณชายผู้สูงส่งแห่งตระกูลหวาง สู้คนไร้ค่าอย่างหลินเฟิงไม่ได้ตรงไหน?

ถังหว่านพูดอย่างดูถูก “เพราะแบบนี้ไงฉันถึงไม่สนใจคุณ”

มุมปากของหวางเส้าหลงกระตุก มือกำหมัดจนเส้นเลือดขึ้น

“คนสวย ผมบอกคุณตรง ๆ นะ นายนี่จนถึงตอนนี้แม้แต่งานจะทำยังไม่มีเลย”

“ไม่อย่างนั้นหลี่ฮุ่ยหรานคงไม่หย่ากับเขาหรอก”

“นอกจากหน้าตาที่พอไปวัดไปวาได้แล้ว เขาสามารถให้อะไรกับคุณได้บ้าง?”

ทันทีที่ได้ยินถังหว่านก็หันไปมองหลินเฟิง และชมว่า “คุณหลินขาดแค่เวลาเท่านั้น ฉันเชื่อว่าแค่ให้เวลาเขาสักหน่อย”

“ก้าวนำหน้าตระกูลหวางภายในหนึ่งเดือน ไม่ใช่เรื่องยากเลย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า...”

หวางเส้าหลงรู้สึกขบขันและหัวเราะเสียงดัง

หนึ่งเดือน เริ่มต้นจากศูนย์และก้าวนำหน้าตระกูลหวาง เป็นเรื่องที่เหลวไหลไร้สาระที่สุดในโลก

“คนสวยคุณนี่พูดจาได้ตลกจริง ๆ”

ถังหว่านยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่ได้ล้อคุณเล่นนะ งั้นเรามาพนันกันไหมล่ะ?”

“ถ้าคุณหลินก้าวนำหน้าตระกูลหวางได้ภายในหนึ่งเดือน คุณจะต้องคุกเข่าลงและขอโทษฉัน”

หวางเส้าหลงหรี่ตาลงเล็กน้อย และเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

“แล้วถ้าก้าวนำหน้าไม่ได้ล่ะ?”

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะคุกเข่าลงและขอโทษคุณ” ถังหว่านพูดอย่างไม่ร้อนใจ

“ได้ นั้นพวกเราก็ตกลงตามนี้เลย” หวางเส้าหลงตอบกลับทันที

กลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียใจ

หลินเฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย และมองไปที่ถังหว่าน

ผู้หญิงคนนี้ชอบทำให้มีเรื่องจริง ๆ

เขาไม่อยากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปะทะฝีปากของคนพวกนี้

เขาหันหลังกลับแล้วเดินไปที่ห้องจัดเลี้ยง

“คุณหลิน รอฉันด้วยสิคะ” เมื่อถังหว่านเห็นแบบนั้นก็รีบเดินตามเขาไปทันที

เธอคว้าแขนของหลินเฟิงมาควงไว้

“เมื่อกี้ฉันเดิมพันไว้ว่าคุณจะชนะ คุณต้องให้กำลังใจฉันบ้าง”

“ผมไม่สนใจที่จะเป็นเดิมพันของพวกคุณ หลินเฟิงกล่าวเรียบ ๆ

ถังหว่านพูดอย่างอ้อน ๆ “ถ้าอย่างนั้นคุณจะยอมทนเห็นฉันไปคุกเข่าต่อหน้าชายนิสัยไม่ดีคนนั้นหรอ”

มองไปแล้วยิ่งเหมือนกับคู่รักที่กำลังง้องอนกันอยู่

“หลินเฟิง ฉันอยากคุยกับคุณสักหน่อย” จู่ ๆ หลี่ฮุ่ยหรานก็พูดขึ้น

“เรื่องอะไร พูดเถอะ”

“พวกเราไปคุยกันตามลำพังได้ไหม? แค่พวกเราสองคน”

หลินเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา “ตามลำพังงั้นหรออย่าเลย เดี๋ยวจะถูกคนอื่นนินทาเอาได้”

พูดจบ เขาก็เดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง

“คุณ...”

หลี่ฮุ่ยหรานคิดไม่ถึงว่าเขาจะเมินเฉยต่อเธอถึงเพียงนี้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอขอให้เขาช่วยอะไรแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะพยายามทำตามคำขอของเธออย่างสุดความสามารถ

ถังหว่านยิ้มอย่างมีเลศนัย “ดูเหมือนว่าคุณหลินจะไม่อยากคุยกับคุณนะ!”

“คุณหลี่ควรไปให้ความสนใจกับโครงการของตระกูลถังเถอะค่ะ อย่าไปสนใจความคิดของคุณหลินเลย”

หลี่ฮุ่ยหรานกัดฟันพูด “เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ”

ถังหว่านล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มั่นใจ

“ฉันแค่กังวลว่าตระกูลหลี่ของพวกคุณจะไม่สามารถคว้าโครงการของตระกูลถังมาได้ และเมื่อถึงตอนนั้นคุณจะขายหน้า”

หลังจากที่ถังหว่านพูดจบ เธอก็หันหลังกลับและเดินตามหลินเฟิงไป

มองดูด้านหลังของทั้งสองคนที่จากไป

หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกผิดหวังลึก ๆ ในใจอย่างมาก

กำมือทั้งสองข้างแน่น ไม่ยอมปล่อย

ตั้งแต่ต้นจนจบ หลินเฟิงไม่ได้หันมาสบตาเธอตรง ๆ เลยสักครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่คิดที่จะอธิบายเกี่ยวกับผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาให้เธอฟังเลยด้วยซ้ำ

หรือว่าเขาลืมความรู้สึกตลอดสามปีที่ผ่านมาหมดแล้วจริง ๆ?

หวางเส้าหลงที่ตอนนี้เดินเข้ามาด้วยความพอใจอย่างมาก

“ฮุ่ยหรานคุณไม่ต้องกังวล หลังจากนี้หนึ่งเดือน ผมจะให้ผู้หญิงคนนี้คุกเข่าและขอโทษคุณ”

เวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งเดือน อยากจะก้าวนำหน้าตระกูลหวาง? เป็นฝันของคนโง่เท่านั้นแหละ

หลี่ฮุ่ยหรานกลับไม่ได้พูดอะไรในครั้งนี้

เธอกลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นแปลก ๆ

ท่าทางเย็นชา และรอยยิ้มที่มั่นใจนั้นยังคงติดอยู่ในใจของหลี่ฮุ่ยหราน

ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันไม่มีอารมณ์จะมาใจเย็นขนาดนั้น

ผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่กิ๊กของหลินเฟิงจริง ๆ หรอ?

“ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไร”

โรงแรมเทียนอวี่ ณ ห้องจัดเลี้ยงอัมพร 1

ในเวลานี้ภายในงานเลี้ยงมีนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงจำนวนไม่น้อยถยอยเข้ามา

ในฐานะที่ถังหว่านเป็นคนสำคัญหลักในงานเลี้ยงนี้ทำให้เธอไม่สามารถอยู่กับหลินเฟิงได้ตลอดเวลา

“คุณหลิน กรุณานั่งรอก่อนสักครู่ ฉันขอไปรับแขกคนอื่นก่อน”

หลินเฟิงพยักหน้า “คุณตามสบายเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงผม”

เขานั่งบนเก้าอี้ และเริ่มตักอาหารบนโต๊ะกินด้วยตนเอง

เขาไม่รู้จักเถ้าแก่ใหญ่เหล่านี้เลยสักคน และก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคุยกับพวกเขา

ในเวลานี้ หลี่ฮุ่ยหรานกับอีกสองคนก็เดินเข้ามาในงานเลี้ยง

เถ้าแก่หลายคนเมื่อเห็นดังนั้นก็หยิบแก้วไวน์เดินเข้าไปห้อมล้อมทันที

“คุณหลี่ ยินดีด้วย ตอนนี้คุณถังหายจากอาการป่วยหนักแล้ว ตระกูลหลี่ครั้งนี้คงจะสำเร็จแบบก้าวกระโดดเป็นแน่”

“ทีนี้โครงการในซีเฉิงจะเป็นของใครไปได้นอกจากตระกูลหลี่”

“ใช่แล้ว หลังจากนี้คุณหลี่ได้โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ”

หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มกว้างจนจะถึงหู และค่อย ๆ ปิดริมฝีปากสีแดงของเธอ “ไม่หรอก ฉันก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถ”

หัวใจของเธอเบิกบานอย่างมีความสุข

เมื่อเช้านี้ได้รับข่าวว่าคุณถังหายจากอาการป่วยหนัก เธอรีบสั่งให้เลขากระจายข่าวออกไปทันที

ตอนนี้สิ่งที่ตัวเธอเองปรารถนา ได้มีแสงสว่างจากผู้มีพระคุณอย่างคุณถังมาช่วยชีวิตไว้

ใครจะสามารถทำแบบเธอได้?

ฝ่ากลุ่มคนที่รายล้อม หลี่ฮุ่ยหรานเดินมาถึงแถวหน้าแล้ว

ร่างของคนที่ไม่เข้าพวกปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ

“หลินเฟิง ใครให้นายมานั่งตรงนี้ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้” หวางเส้าหลงตะโกนด้วยความโกรธ

นี่คือโต๊ะรับรองหลักของตระกูลถัง และคนที่มีสิทธิ์จะนั่งตรงนี้ได้มีแค่หลี่ฮุ่ยหรานเท่านั้น

หลินเฟิงวางตะเกียบลง แล้วเช็ดครีมออกจากปาก “คุณถังให้ฉันนั่งตรงนี้ นายมีข้อโต้แย้งอะไรไหม”

“เหอะ...”

หวางเส้าหลงพูดอย่างเหยียดหยาม “นายนี่มันอวดดีจริง ๆ ทำไมคุณถังต้องให้นายนั่งตรงนี้”

“นายมีคุณสมบัติพอที่จะพบคุณถังหรอ?”

“คนนี้เป็นใครกัน?”

เถ้าแก่ทุกคนต่างมองไปที่หลินเฟิงอย่างสงสัย

หวางเส้าหลงกลอกตาแล้วพูดว่า “คนนี้ก็คือสามีเก่าของคุณหลี่ เขาไม่มีงานทำมาสามปีแล้ว วันทั้งวันก็อาศัยคุณหลี่เลี้ยง”

“ตอนนี้คุณหลี่หย่ากับเขาแล้ว เขาก็ยังตามมาสร้างเรื่องถึงที่นี่”

หลังจากที่ได้ฟัง ทุกคนต่างก็เริ่มพูดกัน “อะไรกัน? บนโลกใบนี้ยังมีคนที่ไร้ยางอายแบบนี้อยู่อีกหรอ?”

“ให้ตายเถอะ คิดว่าเขาเป็นคนแบบไหนกัน”

“ขนาดมีดกับส้อมยังใช้ไม่เป็นเลย แค่มองแวบเดียวก็เหมือนคนบ้านนอก มีสิทธิ์อะไรถึงมารบกวนคุณหลี่?”

ตอนนี้ตระกูลหลี่มีอิทธิพล แน่นอนว่าทุกคนก็ต้องเข้าข้างตระกูลหลี่เป็นธรรมดา

เมื่อหลี่ฮุ่ยหรานเห็นว่าทุกคนต่างกล่าวหาหลินเฟิง ก็รีบก้าวไปด้านหน้าพร้อมกับพูดเสียงเบาว่า “หลินเฟิง คุณควรออกไปก่อนดีกว่า”

หลินเฟิงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น “ทำไม? แม้แต่คุณก็จะไล่ผมออกไปเหรอ?”

หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้ว “คุณคิดว่ามันยังขายหน้าไม่พอหรอ?”

“ขายหน้า?”

หลินเฟิงพูดอย่างเหยียดหยาม “เป็นเพราะคุณกลัวว่าผมจะทำให้ตระกูลหลี่ต้องขายหน้าละสิ? ตลอดสามปีที่ผ่านมานี้ผมอยู่ในตระกูลหลี่ของพวกคุณยังมีหน้าให้พูดถึงอยู่อีกหรอ?”

จางกุ้ยหลานดึงหลี่ฮุ่ยหรานกลับมา “เธอไปพูดเรื่องไร้สาระอะไรกับเขากัน!”

“รอให้คุณถังมาก่อน เขาได้ตายโดยไม่รู้ตัวแน่”

หวางเส้าหลงเดินไปหาหลินเฟิงอย่างผู้ชนะ “นี่นาย หนังหน้าของนายนี่มันคงหนามากเลยจริง ๆ สินะ ทุกคนต่างไล่ให้นายออกไป แต่นายกลับยังสามารถนั่งนิ่งเฉยได้อยู่”

“ถ้าฉันเป็นนาย คงไม่รอช้าที่จะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีไปแล้ว”

หลินเฟิงเหลือบมองเขา “เห็นแก่หน้าตระกูลถัง ฉันไม่อยากมีเรื่องในงานเลี้ยง ดังนั้นออกไปซะ”

“เหอะเหอะ อยากจะตีฉันเหรอ? มาเลย ฉันก็อยากรู้ว่านายจะกล้ามากแค่ไหน”

หวางเส้าหลงยิ้มเยาะ และเริ่มที่จะเอาหน้าของเขาเข้ามาใกล้มากขึ้น

พูดด้วยเสียงที่มีแค่พวกเขาสองคนได้ยิน

“ฉันจะบอกนายให้ คืนนี้ฉันได้จองห้องไว้ที่โรงแรมชุนเจียง เพื่อที่จะได้จัดงานฉลองให้กับฮุ่ยหรานในคืนนี้”

“ได้ยินมาว่านายไม่ได้นอนกับหลี่ฮุ่ยหรานเลยตลอดสามปีที่ผ่านมา? นายนี่มันใช้ไม่ได้”

“อยากให้ฉันบันทึกวิดีโอส่งให้นายดูคืนนี้ไหม?”

หลินเฟิงมองด้วยสายตาพิฆาต ความเคียดแค้นพุ่งสูงขึ้นมาในทันที

“เพี๊ยะ” เสียงฝ่ามือฟาดเข้าที่หน้าเขาอย่างรุนแรง

“อ๊ะ...”

หวางเส้าหลงส่งเสียงร้องดังลั่น

แค่รู้สึกเหมือนกับว่าโลกหมุนไปพักหนึ่ง

ตัวทั้งตัวลอยออกไป

“นี่...”

ทันใดนั้น เสียงดังทั้งหมดก็หยุดลงไปในทันที

ทุกคนต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าชายคนนี้จะกล้าทำร้ายใครในงานเลี้ยงตระกูลถัง

“แม่งเอ้ย...”

ใบหน้าของหวางเส่าหลงบิดเบี้ยว ตะเกียกตะกายขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ

รู้สึกปากเบี้ยวไปเล็กน้อย

“คุณหวาง คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

จางกุ้ยหลานตกใจจนหน้าซีด

เธอมองไปที่หลินเฟิงและต่อว่า “นายหลิน นายบ้าไปแล้วหรอ นายกล้าดียังไงมาทำร้ายคุณหวาง?”

หลินเฟิงสะบัดข้อมือของเขาเล็กน้อย “ผมไม่ฆ่าเขาก็ดีเท่าไรแล้ว”

หลี่ฮุ่ยหรานก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะระเบิดอารมณ์ขนาดนี้ จึงพูดขึ้นด้วยความโกรธ “หลินเฟิง ทำไมคุณถึงต้องลงมือทำร้ายคนอื่นด้วย?”

“คุณรีบขอโทษคุณหวางเร็ว”

หลินเฟิงชะงักไปทันที และมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานอย่างเหลือเชื่อ “คุณให้ผมขอโทษเขาอย่างนั้นหรอ”

“เมื่อกี้ตอนที่เขาเป็นคนเริ่มทำให้ผมขายหน้า ทำไมคุณถึงไม่ให้เขาขอโทษผม”

หลี่ฮุ่ยหรานหลบตาเขา “เมื่อสักครู่คุณหวางก็ทำไม่ถูก แต่คุณก็ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายใครได้!”

หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ขอโทษที ฉันก็แค่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ถ้าคุณไม่สบายใจก็มาแก้แค้นแทนเขาได้”

“คุณ...คุณนี่มันเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ” หลี่ฮุ่ยหรานมองเขาด้วยสีหน้าผิดหวัง

“คุณถังมาแล้ว...”

ท่ามกลางฝูงคนไม่รู้ว่าใครส่งเสียงตะโกนขึ้นมา

ทุกคนต่างหลีกทางออกเป็นทางเดิน

หวางเส้าหลงยิ้มขึ้นที่มุมปาก พูดกับหลินเฟิงอย่างเยาะเย้ย

“นายหลิน นายแย่แน่ กล้าที่จะทำร้ายคนในงานเลี้ยงของตระกูลถัง แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถปกป้องนายได้”

เขาหันกลับไปมองท่ามกลางฝูงชน

ทันใดนั้นก็ตาค้างไปทันที
Comments (6)
goodnovel comment avatar
ชนาวุธ ประทุมชาติ
ผมไปล้างโทรศัพท์ทำให้ข้อมูลหายต้องมาเริ่มอ่านใหม่ต้องทำอย่างไร
goodnovel comment avatar
Heart
สนุกดีค่ะ ชอบ
goodnovel comment avatar
เซบายชายสี่ ตระกูลตั้ง
สนุกน่าติดตาม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 13

    ถังหว่านเดินเข้ามาใกล้ ๆ ท่ามกลางฝูงคนที่รายล้อมหลี่ฮุ่ยหรานตกใจจนตัวแข็งเมื่อเห็นพฤติกรรมที่คนรอบตัวปฏิบัติต่อเธอ บุคคลนี้แท้จริงแล้วก็คือคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลถังหลี่ฮุ่ยหรานที่ก่อนหน้านี้ยังปฏิบัติต่อเธออย่างดูถูกเหยียดหยามก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันทีผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีแค่รูปร่างหน้าตาที่ดีและเพียบพร้อมกว่าฉันเท่านั้น ขนาดฐานะทางบ้านของเธอฉันเองยังเทียบไม่ติดเลยสักนิดตอนนี้เธอเพิ่งจะเข้าใจประโยคที่ถังหว่านบอกว่าตัวเธอเองนั่นแหละที่จะต้องขายหน้านั้นหมายความว่าอย่างไรถ้ามีเธออยู่ ฉันจะสามารถคว้าโครงการของตระกูลถังมาได้ยังไงหวางเส้าหลงพูดจาตะกุกตะกักไปในทันที “คุณ... คุณคือคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลถังหรอ?” “ทำไม ฉันเป็นคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลถัง ทำให้คุณผิดหวังมากเลยหรอ?”ถังหว่านมองเขาอย่างหยอกล้อ “เมื่อกี้คุณใช่ไหมที่ดูถูกคุณหลิน?” “หึเขาไม่มีอะไรดีสักอย่างก็สมควรแล้วที่ผมจะดูถูก”หวางเส้าหลงพูดหน้าตาเฉยในสายตาของเขาหลินเฟิงก็เป็นแค่ขยะไร้ค่าเท่านั้นปีนสูงขึ้นไปเทียบขั้นคุณหญิงใหญ่แห่งตระกูลถัง ก็คงจะเป็นได้แค่ของเล่นของถังหว่านเท่านั้นถ้าหากว่าถังหว่านถึงกับยอมออกหน้าเพื่อปกป้อ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 14

    สุดท้ายบทเรียนในอดีตก็ได้สอนบางอย่างให้กับเราทำให้เธอนึกถึงก่อนที่เธอจะเข้าไปในงานเลี้ยง คำพูดที่ถังหว่านพูดกับเธอโครงการที่ซีเฉิงในครั้งนี้ ตัวเธอเองคงจะพลาดไปแล้วจริง ๆเมื่อคิดมาถึงตรงนี้ หลี่ฮุ่ยหรานก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะหน้ามืดขึ้นมาทันทีหวางเส้าหลงในเวลานี้พูดด้วยสีหน้ามึนตึง “ไม่ต้องกังวล ไอ้ขยะนั่นเป็นได้แค่ผู้ชายที่เกาะถังหว่านกินเท่านั้น” “และอีกอย่างพ่อของผมกับคุณปู่ตระกูลถังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน แค่เพียงโทรเจรจานิดหน่อย คุณปู่ตระกูลถังจะต้องเข้าใจเรื่องทั้งหมดอย่างแน่นอน”จางกุ้ยหลานเพิ่งจะนึกได้ว่า ยังมีหวางเส้าหลงอยู่นี่“ในช่วงเวลาวิกฤต ยังไงก็ต้องดูแลคุณหวางให้ดี!”หลี่ฮุ่ยหรานที่ในตอนนี้หันไปมองเขาอย่างน่าสงสาร “คุณหวางครั้งนี้คงต้องลำบากคุณแล้วจริง ๆ”ตอนนี้เธอไม่กล้าฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่หลินเฟิงแล้วโครงการที่ซีเฉิงเกี่ยวข้องกับการพัฒนาในอนาคตของหลี่ซื่อกรุ๊ป ดังนั้นเธอจึงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษหวางเส้าหลงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา หามุมเงียบสงบเพื่อโทรหาพ่อของเขาไม่ช้าเสียงของหวางเจิ้นไห่ผู้นำตระกูลหวางก็ดังมาจากปลายสายอีกด้าน “เฮ้ มีเรื่องอะไร? โทรมาหาฉันดึกข

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 15

    หลังจากที่คิดทบทวนอยู่หลายครั้งหลินเฟิงสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่แล้วพูดว่า “การตัดช่องทางการทำเงินของคนอื่น ก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าพ่อแม่ตัวเอง”“ในเมื่อคุณถังก็พิจารณาหลี่ซื่อกรุ๊ปไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แล้วผมจะไปทำให้เรื่องมันวุ่นวายไปอีกทำไม”ถังหว่านมองไปที่หลินเฟิงอย่างยิ้ม ๆ “ฉันว่าคุณหลินน่าจะไม่อยากทำให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้มากกว่าใช่ไหมคะ” “เพราะว่าคุณยังรักคุณหลี่อยู่ใช่ไหม?”หลินเฟิงเหลือบมองไปที่เธอ “ถ้าคุณคิดแบบนี้ผมก็ไม่มีอะไรจะพูด” “ตอนนี้คุณหลินก็โสดแล้ว ไม่คิดจะมีรักครั้งใหม่บ้างหรอคะ?”หลินเฟิงส่ายหน้า “ไม่อยาก” “คุณหลินนี่น่าเบื่อจริง ๆ”ถังหว่านทำปากมุ่ยน่าผิดหวังอยู่ไม่น้อยแต่เธอก็ไม่ได้ซักไซ้เรื่องนี้ต่อหลินเฟิงเพิ่งจะหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานได้สองวัน เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถเร่งรีบได้เธอใช้มือเปิดกล่องผ้าอย่างสบาย ๆ “ฉันว่าคุณหลินสนใจเรื่องยาสมุนไพรมากกว่า” “ถ้าอย่างนั้นเห็ดหลินจืออายุร้อยปีนี้ก็ให้คุณละกัน”ทันทีที่เปิดกล่องผ้า กลิ่นหอมจาง ๆ ก็กระทบเข้ากับจมูกหลินเฟิงเริ่มมีแรงจูงใจขึ้นมาทันที ดวงตาทั้งคู่ค่อย ๆ สังเกตอย่างละเอียดถี่ถ้วนถังหว่านยักไหล่ข

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 16

    นี่ถึงทำให้เธอพบว่ามีกล้องวงจรปิดติดอยู่ด้านบนศีรษะของเธอจุดไฟสีแดงกระพริบอย่างต่อเนื่อง “บอกตามตรง ฉันไม่อยากให้คุณรับผิดชอบโครงการพัฒนาที่ซีเฉิงเลยจริง ๆ” “แต่น่าเสียดายมีคนไม่อยากให้หลี่ซื่อกรุ๊ปของคุณต้องล่มสลาย ฉันเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้!” “สองวันหลังจากนี้มาที่อาคารสำนักงานใหญ่ถังซวนเพื่อเซ็นสัญญาละกัน”เมื่อได้ยินว่าถังหว่านให้ตัวเองเข้าไปเซ็นสัญญาหลี่ฮุ่ยหรานดีใจไม่ออกไปพักหนึ่งเธอพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “คุณถัง คุณตามดูคนอื่นลับหลังแบบนี้ก็ไม่ดีหรือเปล่า?”ถังหว่านที่อยู่ในห้องวงจรปิดยิ้มเยาะ “ตราบใดที่ฉันต้องการ ทั้งวันคุณเข้าห้องน้ำกี่ครั้งฉันก็สามารถรู้ได้” “ครั้งนี้ ฉันจะยกโทษให้ ครั้งหน้าถ้ายังกล้าพูดถึงฉันไม่ดีลับหลังอีก ระวังฉันจะไม่เกรงใจ” “ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด”หลี่ฮุ่ยหรานค่อย ๆ วางสายโทรศัพท์ลงจางกุ้ยหลานถามด้วยความสังสัย “ใครหรอ?” “ถังหว่าน” “คุณถังพูดว่าอย่างไรบ้าง?” จางกุ้ยหลานถามด้วยแววตาเป็นประกายทั้งสองข้าง “เธอบอกว่ามีคนไม่อยากให้หลี่ซื่อกรุ๊ปต้องล่มสลาย หลังจากนี้สองวันให้ฉันเข้าไปเซ็นสัญญาที่ตึกสำนักงานใหญ่ถังซวน”หลี่ฮุ่ยหรานพูดอย่างเหนื่อยใจถึงแม

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 17

    หวางเส้าหลงพูดขึ้นทันที “ฮุ่ยหราน พวกเราอย่าเสียเวลาเปลืองน้ำลายไปพูดกับคนบ้านี้เลย” “วันนี้มีเรื่องมากมาย ผมคิดว่าคุณคงเหนื่อยแย่แล้ว” “ผมเปิดห้องวีไอพีไว้ที่โรงแรมเทียนอวี่ คุณกับคุณป้าไปพักผ่อนก่อนดีกว่าไหม?”จางกุ้ยหลานตอบตกลงอยู่หลายครั้ง “ดีเลย ดีเลย วันนี้ฉันเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว” “ลูกสาว พวกเราไปกันเถอะ”จางกุ้ยหลานดึงมือลูกสาวอย่างเร่งเร้าหลี่ฮุ่ยหรานยืนนิ่งอยู่กับที่ “แม่คะช่างมันเถอะ”เธอรู้ดีว่าหวางเส้าหลงกำลังคิดอะไรอยู่แต่ว่าตอนนี้เธอยังไม่พร้อมที่จะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่จางกุ้ยหลานเหลือบมองไปที่หลินเฟิง “ช่างมันอะไรกัน ลูกจะรีบกลับบ้านเร็วไปทำไม? ยังไงเสียที่บ้านก็ไม่มีผู้ชาย”เมื่อหวางเส้าหลงเห็นแบบนั้น เขาก็รีบตีเหล็กในขณะที่ยังร้อนอยู่ “ใช่แล้ว ฮุ่ยหราน ดีเลยคืนนี้พวกเราจะได้คุยกันต่อเรื่องการเซ็นสัญญาในวันพรุ่งนี้”ในเวลานี้ หลินเฟิงลุกขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางเย็นชา แต่น้ำเสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความโกรธ “หลี่ฮุ่ยหราน ผมแนะนำให้คุณรีบกลับบ้านอย่าเถลไถลไปไหน”ภรรยาของตัวเองที่เพิ่งจะหย่าได้สองวัน จะไปเปิดห้องกับชายอื่นเสียแล้วในใจของหลินเฟิงรู้สึกโกรธขึ้นมาอย่างไม

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 18

    ภายในห้องมีโต๊ะอยู่เพียงตัวเดียว ซึ่งในตอนนี้หลายคนก็ได้นั่งไปแล้วถังหว่านยิ้มและพูดว่า “หลินเฟิง ฉันขอแนะนำคุณสักหน่อย” “ท่านนี้คือผู้ว่าเมืองเจียงโจว หลิวกั๋วฮุย”ท่านแรกเป็นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้าทรงเหลี่ยมน่าเกรงขามพยักหน้าให้เล็กน้อยหลินเฟิงยกมือขึ้นคารวะแล้วพูดว่า “ผมเคยพบกับท่านผู้ว่าหลิวแล้ว”จากนั้นเธอก็ค่อย ๆ ไล่แนะนำต่อไปเรื่อย ๆ “ท่านนี้คือประธานหอการค้าเจียงโจว ท่านผู้นำแห่งสำนักเจียงโจวเทียนเตา ท่านผู้นำอุตสาหกรรมยาสมุนไพรเจียงโจว...”หลังจากแนะนำไปแล้วรอบหนึ่ง ผู้คนบนโต๊ะเกือบทั้งหมดต่างก็เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในเมืองเจียงโจวหลินเฟิงคำนับทักทายพวกเขาทีละคนสุดท้ายถังหว่านก็ได้แนะนำเขาให้ทุกคนรู้จัก “ท่านนี้ก็คือหลินเฟิงที่ฉันพูดถึง”ท่านผู้นำแห่งสำนักเจียงโจวเทียนเตากล่าวขึ้นทันที “ดูจากมารยาทของคุณหลินแล้ว คงจะเคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาอยู่บ้าง”หลินเฟิงกล่าวอย่างถ่อมตัว “พอรู้แค่เล็กน้อย ไม่ถึงกับเก่งกาจอะไรหรอกครับ”เกี่ยวกับเรื่องที่หลินเฟิงฝึกพัฒนาหัตถ์สายฟ้า ถังหว่านยังไม่ได้พูดขึ้นมาให้ใครฟังและก็ยังสั่งให้ฉินอิ๋งเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับอย่างเด็ดขาด

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 19

    ระหว่างคิ้วของหลินเฟิงแสดงถึงความมั่นใจอย่างแน่วแน่ “ไม่เพียงเท่านั้น ท่านผู้ว่าหลิวทุกเช้าหลังจากตื่นนอนจะรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อเอวเมื่อยล้า แขนขาอ่อนแรง”หลิวกั๋วฮุยสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ และมองไปที่หลินเฟิงอย่างจริงจัง “คุณรู้ได้อย่างไร?”เจ้าเด็กนี่ยังไม่เคยได้จับชีพจรของเขาเลยสักครั้ง และก็ยังไม่เคยได้ตรวจร่างกายของเขาเลยอาจจะเป็นไปได้ว่าถังหว่านไปเล่าอาการป่วยของตัวเองให้เขารู้ก่อนหน้านี้?”หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อาการเจ็บป่วยทั้งหมดของท่านผู้ว่าหลิวต่างเขียนแสดงอยู่บนใบหน้า แค่มองก็รู้แล้ว”หลิวกั๋วเฟิงหัวเราะเยาะออกมา “แค่มองหน้าฉันก็สามารถรู้อาการของฉันได้หมดเลยหรอ?” “ถ้าอย่างนั้นนายลองบอกมาว่าแท้จริงแล้วฉันเป็นโรคอะไร?”หลินเฟิงตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา “เลือดและลมปราณพร่อง ไฟหยินกำเริบ จัดอยู่ในกลุ่มอาการของหัวใจและปอด” “ท่านผู้ว่าหลิวป่วยเป็นโรคปอดขั้นรุนแรง ถ้าตามการคาดการณ์ของผมอีกไม่เกินสามวัน อาการของเขาจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลงไปอีก” “ควรได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด”ทันทีที่พูดจบ ภายในห้องก็เงียบกริบไปชั่วขณะหนึ่งวินาทีต่อมาก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น “ฮ่าฮ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 20

    ณ โรงพยาบาลเจียงโจวหลี่เหวินเชาที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลส่งเสียงร้องอย่างโอดครวญแขนของเขาถูกดามด้วยเฝือก ไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อยดวงตาของจางกุ้ยหลานเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เธอกล่าวออกมาพร้อมกับสีหน้าที่เจ็บปวด “เหวินเชา นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ใครทำร้ายลูกจนต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ห้ะ?”หวางเส้าหลงพูดอย่างโกรธเคือง “เหวินเชา ใครทำร้ายนาย บอกฉันมา ฉันจะไปล้างแค้นให้นาย”หลี่เหวินเชาร้องอย่างโอดครวญ “จะเป็นใครไปได้ ก็ไอ้สารเลวหลินเฟิงนั่นแหละ”หลี่ฮุ่ยหรานชะงัก “คืนนี้หลินเฟิงอยู่ที่โรงแรมเทียนหวาตลอด” “เขาส่งลูกน้องมาทำร้ายผมไง!”หลี่เหวินเชากัดฟันพูดตอนแรกเขาอยู่ที่โรงแรมกำลังเตรียมตัวจะไปงานเลี้ยง แต่แล้วไอ้สารเลวเหลยเปียวนั่นก็โผล่เข้ามาทุบตีเขาอย่างรุนแรงเขาบอกเองว่าหลินเฟิงส่งเขามาเพียงแต่ว่าหลี่เหวินเชาไม่ได้บอกเรื่องที่เขาส่งคนไปทำร้ายตีแขนของหลินเฟิงก่อน”หลี่ฮุ่ยหรานกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ “ทำไมหลินเฟิงต้องหาคนมาทำร้ายนาย?”เท่าที่เธอรู้จักเขาเขาไม่ได้เป็นคนที่คิดเล็กคิดน้อยแบบนั้น?เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเพราะแค่เห็นน้องชายของเธอขัดหูขัดตา แล้วถึงกับจะต้อง

Latest chapter

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1364

    ชายร่างใหญ่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟกำลังจะชี้หน้าด่าทอพี่ชายของตัวเองแต่ประโยคที่เรียบง่ายของเฝิงชางในตอนนี้ ทำให้ชายร่างใหญ่มีหนวดเครานิ่งอึ้งทันที“หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊อยู่ที่จวนของเรา”“อะไร? หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊? พี่หมายถึง...”“อืม”จ้องมองสีหน้าเหลือเชื่อของน้องชายตัวเอง เฝิงชางพยักหน้าด้วยความเคร่งขรึม“เธอได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก วิทยายุทธถูกทำลายจนแทบหมดไป”เฝิงชางพูดต่อ“งั้น...ชีพจรมังกร...”“ชีพจรมังกรไม่ได้อยู่ในมือของเธอแล้ว”คำพูดของเฝิงชางทำให้ชายร่างใหญ่เผยสีหน้าสิ้นหวังออกมา“ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันสนับสนุนเธอ ก็มีความคิดที่เหมือนกันกับนาย”เฝิงชางพูดอย่างเรียบเฉย:“แต่ก่อนหน้านี้ เธอได้มอบชีพจรมังกรออกไปแล้ว อีกทั้งนักบู๊จำนวนร้อยกว่าคนที่กลุ่มพันธมิตรบู๊ส่งมาในครั้งนี้ ในกลุ่มพวกเขามีผู้แข็งแกร่งแดนแปรภาพช่วงกลางจำนวนมาก ได้เสียชีวิตทั้งหมด”“มีเพียงแค่เธอที่ยืนหยัดลมหายใจสุดท้ายหนีออกมา”เฝิงชางสีหน้าเคร่งขรึม ถอนหายใจพูดว่า:“ฉันสามารถมองออกได้ว่า ชีพจรมังกรเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเฝิงของเราจะเกี่ยวข้องได้”“บา

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1363

    เธอเขินอายอยู่ครู่หนึ่งประธานหลี่ถึงได้แบกหน้าแดงก่ำ เงยหน้าขึ้นมองไปทางหลินเฟิงที่มีสีหน้างุนงง และพูดติดๆขัดๆ ว่า:“ที่...ที่รัก ฉัน...ฉันก็อยากได้ เหมือนกับถังหว่าน คือ...ว่า...”“ฮ่าฮ่า หลี่ฮุ่ยหราน ฉันว่าแล้ว”ถังหว่านไม่รู้ว่าปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของหลี่ฮุ่ยหรานตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอกอดอก และมีสีหน้าเย้ยหยัน“อยากได้ก็พูดสิ อิดๆ ออดๆ อายุขนาดนี้แล้ว ยังเขินอายอยู่อีกเหรอ? ประธานหลี่?”“เธอไม่ต้องยุ่งเลย!”หลี่ฮุ่ยหรานหันหน้าไป ตอกกลับถังหว่านประโยคหนึ่งทว่าในตอนที่เธอหันหน้ากลับมา ก็พบว่าหลินเฟิงปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเธอแล้วเขาก้มหน้า สัมผัสอบอุ่นหลี่ฮุ่ยหรานลูบหน้าผากของตัวเองอย่างเหม่อลอยเธอเงยหน้าขึ้นมองรอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเฟิงอีกครั้ง ทันใดนั้นก็รู้สึกเขินจนหน้าแดง หันหลังเดินออกไป และพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า:“เอาล่ะเอาล่ะ ทานข้าว ไปทานข้าวกัน!”ไล่ถังหว่านที่หัวเราะเสียงดังเข้าไปในห้อง ถังหว่านหันหน้าไปมองหลินเฟิง“กลับมาเร็วๆ หน่อยนะ”“อืม”หลินเฟิงยิ้มและพยักหน้าไม่นานนัก เสียงสตาร์ทรถก็ส่งเสียงดังอยู่ที่นอกบ้านหลี่ฮุ่ยหรานถือชามข้าวเอาไว้ มอ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1362

    สำหรับน้าจ้าวแล้วลูกสาวเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจิ้งเต๋อลูกชายตอนนี้อยู่ที่ต่างประเทศ ชีวิตก็มีการประกันชีวิตบั้นปลายก็ได้พบคนที่อยู่เคียงข้างน้าจ้าวกับอาอวี๋ พึงพอใจชีวิตของพวกเขาในตอนนี้อย่างมาก สิ่งเดียวที่เป็นกังวลนั่นก็คือ อวี๋จื่อเสวียนเด็กบ้าคนนี้ตอนนี้เธออยู่เมืองเจียงโจว กับอิ่นนั่วเจียได้ยินว่าช่วงนี้กำลังถ่ายภาพยนตร์อยู่กับอิ่นนั่วเจียอาอวี๋ปากพูดว่าทำสิ่งที่ไม่เข้าเรื่อง แต่ความเป็นจริงหน้าตายิ้มแย้มทุกวันทุกอย่างของพวกเขาเป็นฝีมือของคนคนเดียวนั่นก็คือหลินเฟิงดังนั้นหลินเฟิงในตอนนี้ พูดจากบางด้าน ได้กลายเป็นลูกชายที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดของพวกเขาไปแล้ว“จริงด้วยหลินเฟิง ค่ำขนาดนี้แล้วนายยังจะไปไหนอีก?”อาอวี๋หยิบตะเกียบขึ้น และพูดอย่างเป็นกังวล“หึหึ ผมไปที่เมืองหนิงโจวสักหน่อย”หลินเฟิงไม่ได้บอกรายละเอียดว่าไปทำอะไร เพื่อที่จะไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลหลินเฟิงกำลังจะออกจากบ้าน หลี่ฮุ่ยหรานกับถังหว่านที่หน้าตาอ่อนเพลียก็กลับมาแล้ว“ไม่ไหวแล้วสามี หลี่ฮุ่ยหรานเป็นคนบ้างานจริงๆ ต่อไปฉันไม่ทำงานด้วยกันกับเธอแล้ว”เมื่อถังหว่านเข้ามาก็ระบายความทุกข

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1361

    ระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆ เกือบสองเดือนที่หลินเฟิงนำพาหลี่ซื่อกรุ๊ปซุ่มตัวอยู่ระหว่างนั้นชีพจรมังกรออกจากเมืองเจิ้งเต๋อ ในที่สุดเมืองเจิ้งเต๋อก็กลับมาสงบสุขอีกครั้งหลักฐานที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อ จำนวนนักบู๊ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงอย่างมากเพียงแต่ว่าชีพจรมังกรไม่ใช่ปัญหาที่หลินเฟิงจะให้ความสนใจในตอนนี้ สิ่งเดียวที่เขากังวลเล็กน้อยคือหยินหลิงถึงแม้หยินหลิงจะเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ความสามารถเฉพาะตัวไม่ธรรมดา อีกทั้งมีลูกน้องจำนวนมากแต่ได้ยินว่าชีพจรมังกรเปลี่ยนมือมาหลายครั้งแล้ว ไม่ได้อยู่ในมือของกลุ่มพันธมิตรบู๊อีกต่อไปแล้วแบบนี้จึงทำให้หลินเฟิงเกิดความเป็นกังวลเล็กน้อยขณะที่มีความกังวลแบบนี้ ในที่สุดหลินเฟิงก็ได้รับโทรศัพท์จากอาฝูในช่วงบ่ายวันหนึ่ง นั่นก็คือพ่อของหยินหลิงที่โทรมา“คุณชายหลินเฟิง”น้ำเสียงของอาฝูเหมือนที่ผ่านมา เพียงแต่หลินเฟิงสังเกตได้ถึงความร้อนรนที่แฝงอยู่ในนั้นอย่างฉับไว“ว่าไงครับ”หลังจากผ่านเรื่องชีพจรมังกรไป หลินเฟิงรู้ซึ้งได้ว่าประเทศมังกรนั้นเป็นที่ที่มีคนเก่งกาจซ่อนอยู่มากมาย เขาไม่ได้ทำเรื่องอะไรโดยใช้อารมณ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1360

    พวกเธอทั้งแสดงท่าทางที่ดูถูกต่อหลินเสวี่ยฮุ่ย และแสดงความกังวลออกมาว่า ต่อจากนี้จะไปฝึกงานกันที่ไหนดีเรื่องพวกนี้ต่างก็ถูกหลินเฟิงได้ยินจนหมดแล้ว“อ้าว คนนี้ไม่ใช่พี่ชายของหลินเสวี่ยฮุ่ยหรอกเหรอ?”นักศึกษาสาวที่เป็นคนเริ่มก็เห็นหลินเฟิงเช่นกัน ก่อนที่เธอจะตกตะลึงไปชั่วครู่จากนั้นก็เยาะเย้ยว่า : “เพื่องานของน้องสาวของตัวเอง คุณถึงกับต้องพยายามอย่างมากจริง ๆ!”“ใช่ การเอาน้องสาวของตัวเองไปให้กับชายชรา ความกล้าหาญแบบนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และจะไม่มีวันเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน”การเยาะเย้ยพวกนี้ ทำให้หลินเฟิงสับสนอยู่เล็กน้อยหลังจากฟังพวกเธอพูดคุยและอธิบายอยู่นาน หลินเฟิงก็รู้ว่าพวกเธอนั้นกำลังเข้าใจผิดหลินเสวี่ยฮุ่ยสามารถที่จะเป็นผู้อำนวยการได้ ก็เพราะความสามารถของตัวเองทักษะทางการแพทย์ของเธอก็มีเพียงพอแล้วและไม่ได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดด้วยวิธีที่น่ารังเกียจใด ๆด้วยเมื่อได้ยินคำอธิบายของหลินเฟิง เหล่าเพื่อนร่วมชั้นของหลินเสวี่ยฮุ่ยก็ยังรู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อยหลินเฟิงก็เลยถือโอกาสดึงพวกเธอเอาไว้ และอยากจะไปหาหลินเสวี่ยฮุ่ยด้วย เพื่อให้หลินเสวี่ยฮุ่ยได้อธิบายในเรื่องนี้แต่ทั

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1359

    บริวารของตระกูลซือหม่าคนนี้ที่มีโอกาสรอดเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นเท่านั้นแต่หนึ่งเปอร์เซ็นนี้ ก็ถูกเด็กทั้งสองคนที่เพิ่งเรียนจบ และยังถูกกล่าวหาว่าเป็นคนรักของเผิงกวงฉี่ ได้รักษาจนหาย?แถมตอนนี้ก็สามารที่จะพูดได้แล้วด้วย?หัวหน้าหนงรู้สึกเหมือนโลกของตัวเองพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง เขาที่เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์มาหลายสิบปีโดยเปล่าประโยชน์ และก็คาดไม่ถึงว่าวันนี้จะล้มเพราะเด็กผู้หญิงทั้งสองคนและเหล่าผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างเขา ก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงกันทั้งหมดขนาดหัวหน้าหนงก็ยังทำไม่ได้ แล้วเด็กสาวทั้งสองคนนี้ทำได้อย่างไร?หรือว่าทักษะทางการแพทย์ของเด็กสาวทั้งสองคนนั้น จะสูงกว่าของหัวหน้าหนง ผู้มีประสบการณ์มายาวนานกันนะ?“พวกคุณรู้จักคนที่ชื่อหลินเฟิงหรือเปล่า?”และในตอนนี้ บริวารโจวที่หลับตาอยู่ ก็เอ่ยถามหลินเสวี่ยฮุ่ยและโจวเสี่ยวหางขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง“หลินเฟิง?”หลินเสวี่ยฮุ่ยกับโจวเสี่ยวหางต่างมองหน้ากันและกัน“หลินเฟิงคือพี่ชายของฉัน”“หลินเฟิงคืออาจารย์ของฉัน”เมื่อได้ยินคำตอบของทั้งสองสาว บริวารโจวก็แสดงสีหน้า “เป็นอย่างที่คิดเอาไว้” ออกมา ก่อนที่เขาจะถอนหายใจแ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1358

    “อ๊ะ! พวกเธอมาที่นี่เพื่อมาหาหลินเสวี่ยฮุ่ย”ผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า :“เดาว่าพวกเขาเห็นว่าหลินเสวี่ยฮุ่ยได้เป็นผู้อำนวยการแล้ว ก็เลยอยากจะมาฝึกงานที่โรงพยาบาลเจิ้งเต๋อของพวกเรา”“เหอะ!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ หัวหน้าหนงก็มองหลินเสวี่ยฮุ่ยอย่างเย็นชา“เธอคิดว่าโรงพยาบาลของพวกเราเป็นอะไร?!”หัวหน้าหนงพูดขึ้นด้วยความโกรธว่า :“ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ใช่สถานที่ที่จะให้เด็กผู้หญิงอย่างพวกเธอมาเลื่อนขั้นได้ ออกไปจากที่นี่ซะ!”“ใครจะอยากอยู่ที่นี่กับพวกคุณ!”สาวที่เป็นคนเริ่มจ้องมองหลินเสวี่ยฮุ่ยอย่างเย็นชา ก่อนจะยิ้มเยาะอย่างดูถูกแล้วหันหลังเดินจากไป“รอเดี๋ยว...”หลินเสวี่ยฮุ่ยทีเพิ่งจะทำการผ่าตัดเสร็จ จึงรู้สึกอ่อนเพลียมาก ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยจะมีแรงพูดสักเท่าไหร่“ฉันกำลังคุยผู้อำนวยการหลิน”“แค่มีเธออยู่ที่นี่แค่คนเดียว ฉันก็ลำบากมากพอแล้ว!”“โปรดเข้าใจด้วยว่า ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ใช่ที่สถานทีที่เผิงกวงฉี่จะเอาผู้หญิงมาซ่อนได้!”ในขณะที่พูดอยู่ หัวหน้าหนงก็ชี้ไปที่บริวารของตระกูลซือหม่าที่นั่งอยู่บนรถก่อนจะพูดด้วยความโกรธว่า :“ดูสิ่งที่เธอทำสิ!”“เธ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1357

    “ฟู่”ในที่สุด หลังจากการช่วยเหลือมามากกว่าสี่ชั่วโมง หลินเสวี่ยฮุ่ยก็ได้นั่งลงบนเก้าอี้ในห้องผ่าตัดโดยที่มือเปื้อนเลือดอยู่“เสวี่ยฮุ่ย เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”โจวเสี่ยวหางนำผ้าขนหนูมาช่วยเช็ดเหงื่อให้เธอ ในขณะที่หลินเสวี่ยฮุ่ยก็ส่ายหน้า“น่าเสียดาย....”“ใช่ น่าเสียดาย....”โจวเสี่ยวหางจ้องมองตามสายตาของหลินเสวี่ยฮุ่ย ก่อนจะมองไปทางชายที่ถูกเย็บแผลเรียบร้อยแล้วอยู่บนเตียงผ่าตัดพร้อมกับส่ายหน้า“ดีแล้ว เสวี่ยฮุ่ย เธอทำดีที่สุดแล้ว”“ฉันรู้”หลินเสวี่ยฮุ่ยถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยไม่นานหลังจากนั้น บริวารของตระกูลซือหม่าที่อยู่บนเตียงผ่าตัด ก็ถูกวางลงบนรถเข็น และพาออกไปจากห้องผ่าตัด“อุ๊บ หึ น่าหัวเราะจะตายแล้ว พวกคุณรีบมาดูสีหน้าของเด็กผู้หญิงคนนั้นสิ ดูเหมือนว่าจะเสียใจอย่างมากเลยนะ.....”“หึ เด้กสาวทั้งสอง ฉันก็บอกแล้วว่าพวกเธอแค่แกล้งทำ ตอนนี้บริวารของตระกูลซือหม่าตายอยู่บนเตียงผ่าตัดของเธอ คราวนี้คนของตระกูลซือหม่าจะโกรธแล้ว”“ถึงยังไงก็ไม่ได้เกี่ยวกับพวกเรา พวกเราแค่ดูอย่างสนุกสนานก็พอแล้ว”เมื่อได้ยินการสนทนาอันยุ่งวุ่นวายของเหล่าแพทย์ที่อยู่โดยรอบ หลินเสวี

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1356

    เมื่อรู้ว่าคนรักตัวน้อยของเขารักษาบริวารของตัวเอง งั้นหลินเสวี่ยฮุ่ยเกรงว่าอาจจะต้องตายเร็วขึ้นอีกนี่ก็คือหลุมพรางที่หัวหน้าหนงวางไว้สำหรับล่อลวงหลินเสวี่ยฮุ่ย ไม่ว่าเธอจะกล้ารับหรือไม่ เธอก็จะต้องโชคร้ายอยู่ดีส่วนหลินเสวี่ยฮุ่ยจะสามารถช่วยชีวิตบริวารคนนี้ได้หรือเปล่า?เดิมทีความเป็นไปได้นี้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหัวหน้าหนงยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนหน้าที่หลินเสวี่ยฮุ่ยจะมา ตัวเองได้ทำการตรวจร่างกายบริวารของตระกูลซือหม่าทั้งหมดแล้วทั่วทั้งร่างมีร่องรอยกระดูกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แขนข้างหนึ่งหัก และอวัยวะภายในก็มีเลือดออกเยอะมาก แม้แต่ตัวเลขบนเครื่องช่วยหายใจก็ยังแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแม้แต่คนที่มีประสบการณ์เยอะอย่างหัวหน้าหนงการต้องเผชิญหน้ากับเรื่องร้ายแรงแบบนี้ บาดแผลมันก็ไม่ต่างไปกว่าการถูกรถไฟชนกระแทกเขารู้สึกว่า บริวารของตระกูลซือหม่าไม่อาจจะจะช่วยชีวิตได้แล้วต่อไปก็ถึงเวลาที่จะต้องหาคนโชคร้ายมาเป็นแพะรับบาปแทนแล้วเขาก็ใช้โอกาสนี้ เลือกผู้อำนวยการหลินที่เพิ่งมาใหม่ได้ไม่ถึงวัน“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพิเศษขนาดไหน การช่วยชีวิตผู้ป่วยก็ต้องสำคัญเป็นอันด

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status