ณ โรงพยาบาลเจียงโจวหลี่เหวินเชาที่นอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลส่งเสียงร้องอย่างโอดครวญแขนของเขาถูกดามด้วยเฝือก ไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อยดวงตาของจางกุ้ยหลานเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เธอกล่าวออกมาพร้อมกับสีหน้าที่เจ็บปวด “เหวินเชา นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ใครทำร้ายลูกจนต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ห้ะ?”หวางเส้าหลงพูดอย่างโกรธเคือง “เหวินเชา ใครทำร้ายนาย บอกฉันมา ฉันจะไปล้างแค้นให้นาย”หลี่เหวินเชาร้องอย่างโอดครวญ “จะเป็นใครไปได้ ก็ไอ้สารเลวหลินเฟิงนั่นแหละ”หลี่ฮุ่ยหรานชะงัก “คืนนี้หลินเฟิงอยู่ที่โรงแรมเทียนหวาตลอด” “เขาส่งลูกน้องมาทำร้ายผมไง!”หลี่เหวินเชากัดฟันพูดตอนแรกเขาอยู่ที่โรงแรมกำลังเตรียมตัวจะไปงานเลี้ยง แต่แล้วไอ้สารเลวเหลยเปียวนั่นก็โผล่เข้ามาทุบตีเขาอย่างรุนแรงเขาบอกเองว่าหลินเฟิงส่งเขามาเพียงแต่ว่าหลี่เหวินเชาไม่ได้บอกเรื่องที่เขาส่งคนไปทำร้ายตีแขนของหลินเฟิงก่อน”หลี่ฮุ่ยหรานกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลก ๆ “ทำไมหลินเฟิงต้องหาคนมาทำร้ายนาย?”เท่าที่เธอรู้จักเขาเขาไม่ได้เป็นคนที่คิดเล็กคิดน้อยแบบนั้น?เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเพราะแค่เห็นน้องชายของเธอขัดหูขัดตา แล้วถึงกับจะต้อง
หลินเฟิงส่ายหน้าบอก "ไม่ใช่"หลี่ฮุ่ยหรานโล่งอกไปทีแค่แป๊บเดียว จากกำปั้นที่แน่นของเธอค่อยๆคลายออก เหมือนกับยกภูเขาออกจากอก"หลินเฟิง ฉันต้องขอโทษแทนน้องฉันด้วยจริงๆ เหวินเชาไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อย่าเอามาใส่ใจเลยนะ"ใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจตอนนี้ทั้งสองหย่ากันแล้ว เรื่องทั้งหมดก็เจ๊ากันไปเธอไม่อยากให้ครอบครัวของเธอไปหาเรื่องเขา"ผมขี้เกียจจะยุ่งกับเขา ถ้าเขาลำนึกแล้ว ก็อย่ามายุ่งกับผมอีก""ฉันจะเตือนเขาเอง"หลี่ฮุ่ยหรานก็ยอมรับเรื่องนี้เมื่อเอายาสมุนไพรเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็จะออกไปหลินเฟิงไม่ได้ทำการยื้อเวลาใด ๆภาพด้านหลังของหลี่ฮุ่ยหรานค่อยๆ ห่างออกไปจากนั้น ชายหนุ่มที่ย้อมผมสีเหลืองคนหนึ่งมาขวางทางของเธอเอาไว้เขายิ้มตาหยีและพูดว่า "รอก่อนนะครับคุณหลี่"หลี่ฮุ่ยหรานมองชายผมเหลืองที่ทำท่าทางทะลึ่งและถามอย่างระมัดระวังว่า "คุณเป็นใคร""ผมเป็นใครมันไม่สำคัญหรอก"ชายผมเหลืองทำท่าทะเล้น "พี่ใหญ่ของเราชื่นชมคุณหลี่มานานแล้ว อยากเชิญคุณไปพบหน่อย"หลี่ฮุ่ยหรานมองดูเขาแวบหนึ่งเขาผู้นี้มีผมสีเหลืองอร่าม ใส่ต่างหูสะดุดตาคู่หนึ่ง สักรอยสักที่มี
มุมปากของเขาเผยอขึ้นโดยไม่รู้ตัวเขาแอบยิ้มในใจ "สวรรค์ช่วยผมจริงๆ เป็นฮีโร่ที่ช่วยสาวงามมันช่างเพอร์เฟคอะไรอย่างนี้ คุณตกหลุมรักผมรึเปล่า?"ชายผมเหลืองจับหน้าอกตัวเองที่พึ่งถูกเตะไป และรู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวางเส้าหลงเขาชี้ไปที่หน้าของหวางเส้าหลงและพูดอย่างโกธรแค้นว่า "มีปัญญาแค่นี้หรอ คอยดูเถอะ""รอให้พี่ใหญ่ของกูมาจัดการกับมึง"หวางเส้าหลงเท้าสะเอวและพูดตะเบ่งเสียงออกมาว่า "กูจะรอมึงอยู่ที่นี่ ถ้ามึงไม่มานะ มึงก็เป็นหลานชายของผมแล้ว"ชายผมสีเหลืองไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะแข็งแกร่งแบบนี้ เขาจึงรีบกลับไปเรียกคนมา"ฮื้อ"หวางเส้าหลงส่งเสียงอย่างหงุดหงิด และหันไปดูหลี่ฮุ่ยหรานเขาถามเธอด้วยความใส่ใจ "ฮุ่ยหราน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้าไปมา แต่ดวงตาของเธอมองไปตรงหลินเฟิงที่ห่างไปไม่ไกลเธอคิดว่าหลินเฟิงจะเป็นคนที่ช่วยเหลือเธอได้ในช่วงวิกฤตแต่ในที่สุดเขาก็ยืนไม่สนใจอยู่ตรงนั้นความผิดหวังเกิดขึ้นในใจของเธอเธออาจจะไม่มีตัวตนในสายตาของเขาแล้วหวางเส้าหลงมองตามสายตาของเธอไปแล้วก็เห็นว่าหลินเฟิงอยู่ที่นี่สายตาที่อ่อนนุ่มนั้นกลายเป็นเย็นชาไปในทันที "คนแซ
ในแผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเมืองเจียงโจวหลี่ฮุ่ยหรานเอนตัวและก้มหน้าลงครุ่นคิดอะไรบางอย่างในทางเดินหวางเส้าหลงเข้ามาและถามอย่างอ่อนโยน "ฮุ่ยหราน คุณกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"หวางเส้าหลงถามหยั่งเชิง "ไม่ใช่ว่าคิดถึงหลินเฟิงอยู่เหรอ?"หลี่ฮุ่ยหรานฝืนยิ้มและส่ายหน้า "ฉันจะคิดถึงเขาทำไม""ใช่ครับ ไอ้ขยะนี่ คุณรีบลืมเขาไปเถอะ"หวางเส้าหลงดูถูกเขาและพูดต่อว่า "แม้ว่าคุณจะเป็นภรรยาเก่าของเขา แต่พอเห็นว่าคุณตกอยู่ในอันตราย เขาก็กลับไม่กล้าเข้าไปช่วย""ผู้ชายแบบนี้ไว้ใจไม่ได้เลย"หลี่ฮุ่ยหรานพยักหน้าคุณหวางถือโอกาสหยิบแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋าของเขาเขามองเธออย่างรักใคร่ "ฮุ่ยหราน นี่คือรุ่นล่าสุดของห้างเทียนเป่าหวีอวี้หางเลยนะ ผมตั้งใจซื้อมาให้คุณโดยเฉพาะ""เดิมทีอยากซื้อเป็นของขวัญสำหรับความร่วมมือกับตระกูลถัง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสจะให้คุณเมื่อวานนี้"หลี่ฮุ่ยหรานตกใจมาก "คุณหวาง มันหมายถึงอะไร""ฮุ่ยหราน คุณไม่รู้ความหมายของน้ำใจของผมจริงๆหรอ?" สายตาของหวางเส้าหลงร้อนผ่าวมาก และจ้องมองเธออย่างตั้งใจหลี่ฮุ่ยหรานไม่กล้าสบตากลับ "คุณหวาง น้ำใจคุณฉันรับไว้แล้ว แต่ฉันคิด
แอบด่าในใจว่าจางกุ้ยหลานมันปัญญาอ่อนซะจริงๆพวกมันมีคนมากมายขนาดนั้น ตัวเขาเองจะไปต่อสู้ได้อย่างไรตอนนี้เขาจะวิ่งหนีก็ไม่ได้ ไม่หนีก็ไม่ได้ชายผมเหลืองนึกขึ้นได้ว่ามีคนหนึ่งจึงชี้ไปที่หวางเส้าหลงที่อยู่ด้านหลังและพูดว่า "พี่ใหญ่ ไอ้เหี้ยนี่ที่ตีผมเอง"ชั่วครู่หนึ่ง สายตาของคนพวกนี้ก็มองตรงไปที่เขาหวางเส้าหลงรู้สึกพะว้าพะวังอย่างมากเขากัดฟันเดินไปข้างหน้าหลี่ฮุ่ยหรานเพื่อปกป้องเธอให้หลบอยู่ข้างหลังเขาเขาจำใจต้องพูดว่า "ทุกคนต่างก็มีหน้ามีตาในสังคม""ตอนนี้เราก็อยู่ในสังคม ใช้มีดใช้ขวานมาตีกันแบบมันไม่ดีนะ ทุกคนไว้หน้าผมบ้าง ผมจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลของน้องชายคุณให้แล้วกันดีไหม""เรื่องนี้ช่างมันเถอะ""ฉาด" พี่ใหญ่ยกมือตบหน้าเขาหนึ่งทีตบหวางเส้าหลงจนมึนงงรู้สึกเวียนหัวและตาลาย"มึงคือใครวะต้องไว้หน้ามึง?"หวางเส้าหลงรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เพราะเขาถูกตบหน้าสามครั้งแล้วภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวันเขาพูดด้วยความโกรธว่า "ผมเป็นหวางเส้าหลงของตระกูลหวาง""หวางเส้าหลงอะไรวะ กูไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน จัดการมันซะ!"พอพี่ใหญ่ออกคำสั่งลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขาก็รีบพุ่งเข้าไป
"ปังๆๆ"มีเสียงหนักอู้อี้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องกลุ่มอันธพาลล้มลงตามเสียงไม่มีใครต้านทานหมัดของหลินเฟิงได้เหมือนรถถังในรูปแบบมนุษย์ และกำลังจะมาชนพี่ใหญ่"ขวาง ... ขวางเขา ขวางเขา" พี่ใหญ่สะดุ้งเจ้านี้มันเหมือนหมาบ้า มันน่ากลัวมากเกินไปแล้ว กลุ่มลูกน้องกลุ่มหนึ่งอยากยื่นมือเข้ามาขวาง แต่แค่โดนชนเบาๆ ของหลินเฟิง แขนของพวกเขาก็หักทันทีหลินเฟิงมาตรงหน้าของพี่ใหญ่ ใช้มือที่มันเหมือนสร้างจากเหล็กของเขาค้ำคอของพี่ใหญ่"วู ... "พี่ใหญ่รู้สึกว่าจู่ๆ ตัวเองหายใจก็ลำบาก เขาปล่อยหลี่ฮุ่ยหรานไปโดยไม่รู้ตัวอีกมือหนึ่งก็รีบเอามือไปข้างหลังของเขาดึงมีดสปริงออกมาคมมีดเงาๆ ส่งความรู้สึกหนาวเย็นเขาด่าทอว่า "ไปตายซะ""ระวัง" หลี่ฮุ่ยหรานตะโกนเธออยากห้ามเขา แต่มันก็สายเกินไปชั่วอึดใจเดียว มืออีกข้างของหลินเฟิงบีบข้อมือของเขาอย่างแรงมีดคมกริบอยู่ห่างจากท้องของหลินเฟิงเพียงหนึ่งนิ้ว แต่มันก็ยากที่จะให้ไปไกลกว่านี้หลินเฟิงถือโอกาสบิด"ก๊อก" มีเสียงดังขึ้นแขนของพี่ใหญ่หมุนหนึ่งร้อยแปดสิบองศาแขนถูกบิดจนเสียรูป"อ้า ... มือของกู ... มือของกู ... "หลี่ฮุ่ยหรานกลืนน้ำลาย
หลัวปินชี้ไปที่พื้นและพูดทีละคำว่า "คุกเข่าขอโทษกูซะ กูจะไว้ชีวิตให้"หลังจากเขาพูดจบ หลินเฟิงยกมือขึ้นตบเขาอีกหนึ่งฉาดตบจนฟันด้านหลังสองซี่ของเขาลอยขึ้นฟ้าออกมา"กูไม่สนว่ามึงเป็นใคร""กล้าแตะหลี่ฮุ่ยหราน แม้แต่พ่อมึงมาก็ไม่เว้น"หลัวปินอึ้งไป เขาไม่เคยคิดว่าเด็กคนนี้จะกล้าโจมตีเขาหลังจากที่เขาประกาศชื่อของตัวเองไปดวงตาของเขากลายเป็นสีเลือดและเขาก็คำรามด้วยความโกรธ"แม่มึงนี่ ... วันนี้กูไม่ใช่แค่จะจัดการมึงเท่านั้น""กูยังจะทรมานหลี่ฮุ่ยหรานด้วย""รนหาที่ตายนัก"เมื่อเห็นว่าเขากล้าที่จะดุเดือดจนถึงสุด หลินเฟิงกำหมัดจนแน่นและจนเส้นเลือดปูดขึ้นมาหวางเส้าหลงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง "คุณหลิน หยุดเดี๋ยวนี้เถอะ"หลังจากหลินเฟิงได้ยินคำพูดนี้ เขาตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองหวางเส้าหลงและพูดว่า "อะไรนะ นี่คุณอยากขอร้องให้ผมไว้ชีวิตเขางั้นหรอ"หวางเส้าหลงมองไปที่ดวงตาของเขาและพูดอย่างจริงจังว่า "คนๆนี้เป็นลูกชายของหลัวเฟยหู่ ถ้าเกิดอะไรเกิดขึ้นกับเขา พวกเราทุกคนไม่รอดแน่"จางกุ้ยหลานพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างเห็นด้วย "ใช่แล้ว หลัวเฟยหู่เป็นคนที่เราไม่ควรไปยุ่ง"หลินเฟิงจ้องมองจา
หลัวปินยังไม่ตาย แต่กระดูกสันหลังของเขาหัก และร่างกายส่วนล่างของเขาก็พิการอย่างสมบูรณ์ทุกคนจ้องมองไปที่หลัวปินที่อยู่บนผนังพร้อมกับเบิกตากว้าง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจหลินเฟิงหยิบยาสมุนไพรขึ้นมาแล้วหันหลังกลับ ไม่มีใครอย่างชายผมเหลืองหรือคนอื่นๆ กล้าหยุดเขาไว้"หลินเฟิง"หลี่ฮุ่ยหรานมองไปที่ด้านหลังของเขาและตะโกนเรียกเสียงดังหลินเฟิงไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองชายผมเหลืองมองไปที่พี่ใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง และไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรตอนนี้มีแต่แจ้งให้ท่านหลัวทราบเรื่องนี้เท่านั้น"พวกมึง ... รอดูเถอะ ว่าพ่อพี่ใหญ่จะจัดการกับพวกมึงอย่างไร"ชายผมเหลืองพูดด้วยคำพูดที่โกธรแค้น ก่อนจะพาหลัวปินและลูกน้องคนอื่น ๆ จากไปอย่างรีบร้อนจางกุ้ยหลานเกือบจะเป็นลมเมื่อเธอได้ยินคำนี้เธอก็เคยได้ยินชื่อของหลัวเฟยหู่ได้ยินว่ามีอันธพาลคนหนึ่งลวนลามผู้หญิงของเขา หลัวเฟยหู่ตัดแขนและขาของอันธพาลคนนั้นเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนลงแม่น้ำเพื่อเป็นอาหารให้ปลาคนที่ฆ่าไม่เลือกแบบนี้ ถ้าเขากลับมาแก้แค้นตระกูลหลี่ทำยังไงดีล่ะ?"คุณหวาง คุณหวาง คุณต้องช่วยตระกูลหลี่นะ ตอนนี้ตระกูลหลี่หวังพึ่งคุณแล้วนะ"จางก
ดูเหมือนว่าอันธพาลแก๊งหมาป่าสีเลือดพวกนี้ต้องการที่จะหนีหลินเฟิงก้าวไปข้างหน้าขัดขวางทางหลบหนีของท่านจิ่วก็เลยได้แต่บอกว่าหลินเฟิงชื่นชมท่านจิ่วอย่างมากเขายอมรับว่า หมัดที่ตัวเขาเองเพิ่งจะปล่อยออกไปนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะหมดนี้ท่านจิ่วกลับสามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของตัวเขาเองได้ในทันที และตัดสินว่าพวกเขานั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเฟิงการยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไม่มีขอบเขตหากพูดจากมุมมองนี้ ท่านจิ่วก็เป็นคนที่ตรงไปตรงมาคนหนึ่ง“คิดจะหนี? จบแล้ว”หลินเฟิงพูดซ้ำกับสิ่งที่ท่านจิ่วเคยพูดไว้เหมือนเดิมทุกประการกลับคืนไป จากนั้นเขาก็ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า :“ท่านจิ่ว...ที่นี่น่าจะไม่ใช่สมาชิกของแก๊งหมาป่าสีเลือดทั้งหมดหรอกใช่ไหม?”“อ่ะ?!”เมื่อได้ยินคำถามของหลินเฟิง ท่านจิ่วก็ถูกทำให้ตกใจจนเหงื่อแตกพลั่กหรือว่ายอดฝีมือคนนี้ต้องการจะจัดการกับแก๊งหมาป่าสีเลือด?เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากพร้อมกับกัดฟันและพูดขึ้นว่า:“ท่านยอดฝีมือพูดถูก ที่นี่....ที่นี่เป็นเพียงส่วนเล็ก ๆของแก๊งหมาป่าสีเลือดของพวกเราเท่านั้น”“จริง ๆแล้ว....เมื่อเร็ว ๆนี้แก๊งหมาป่าของพวกเ
เมื่อท่านจิ่วออกคำสั่ง อันธพาลพวกนี้ก็รีบพุ่งเข้าไปเพื่อที่จะฉีกหลินเฟิงเป็นชิ้น ๆ โดยตรง“ไอ้หนู ฉันชื่นชมความกล้าหาญของนายมากนะ ไม่รู้ว่านายเป็นใครมาจากไหนงั้นเหรอ?”ท่านจิ่วหรี่ตาลง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ดูอวดดีและมั่นใจอย่างมากคนนี้ ในใจของเขาก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อยหรือว่าเขาจะเป็นลูกชายของตระกูลที่มีอิทธิพลหรือเปล่า?หรือว่าเป็นลูกศิษย์ของสำนักหนานไห่?“ฉันคือ หลินเฟิง เป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ป”เมื่อหลินเฟิงตะโกนชื่อนี้ออกมาด้วยความมั่นใจ แม้แต่ท่านจิ่วก็เกิดภาพลวงตาบางอย่างขึ้นมาชั่วขณะหนึ่งหลี่ซื่อกรุ๊ป? หลี่ซื่อกรุ๊ปอะไร?หรือว่าที่เขาถึงก็คือหลี่ซื่อกรุ๊ปของเมืองเจิ้งเต๋อ? อ่ะ? หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย?ท่านจิ่วตั้งสติอยู่นาน ถึงได้เข้าใจหลังจากเข้าใจถึงตัวตนของหลินเฟิงแล้ว ความรู้สึกอับอาบขายหน้าก็ผูดขึ้นมาในใจเป็นมอันดับแรก ไอ้หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของหลี่ซื่อกรุ๊ปบ้าอะไรนั้น ก็เป็นแค่ยามเฝ้าประตูไม่ใช่เหรอ? แค่งยามคนเดียวก็กล้าข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?ทันใดนั้นท่านจิ่วก็โกรธขึ้นมาทันที ก่อนจะตะโกนไปทางหลินเฟิงว่า:“ไปเลย
พวกเขาทั้งหมดต่างก็ถือไม้เบสบอลและมีดสปาต้า พร้อมกับปิดกั้นทางของหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานไว้ในชั่วพริบตา อาคารที่พักอาศัยทั้งตึกก็เปลี่ยนจากอาคารร้างเป็นครึกครื้นทันที“ฮึ่ม ฮึ่ม ฮึ่ม!”พร้อมกับเสียงเครื่องยนต์รถจักรยานยนต์และเสียงร้องไม่กี่ครั้ง ก็มีอันธพาลขี่รถจักรยานต์นับสิบคนพุ่งเข้ามาจากด้านนอกของเขตที่พักอาศัยยางล้อรถเสียดสีกับพื้น ก่อนที่สพวกเขาจะหยุดลงที่ข้าง ๆหลินเฟิงและหลี่ฮุ่ยหรานในตอนนี้ทั้งสองคนไม่มีที่ให้ถอยกลับอีกแล้ว ทั้งสี่ทิศทางก็ถูกล้อมไว้อย่างแน่นหนา“ติดจะไปตอนนี้ ก็สายเกินไปแล้ว!”แล้วอันธพาลที่มีทรงผมโมฮอร์กก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง“ฮ่าฮ่าฮ่า....”อันธพาลที่อยู่โดยรอบต่างก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะของผู้คนนับร้อย ดังมากจนทำให้อาคารที่พักอาศัยโดยรอบถึงกับสั่นสะเทือน“พวกคุณคิดจะทำอะไร?!”หลี่ฮุ่ยหรานเข้าใจว่า พวกเขาได้เข้ามาในถ้ำของพวกโจรแล้วถึงแม้ในใจจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของหลินเฟิง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนจำนวนมากขนาดนี้ในเวลาเดียว ก็ทำให้หลี่ฮุ่ยหรานอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า
“ฮ่าฮ่าฮ่า....”แต่คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่หลินเฟิงสำรวจทั้งกลุ่มเสร็จแล้ว จู่ ๆก็หัวเราะออกมาเสียงดังรอยยิ้มนี้ กลับทำให้พวกอันธพาลที่เข้ามาใกล้ ๆตกใจแทน“หลินเฟิง คุณเป็นอะไร?”หลี่ฮุ่ยหรานมองไปทางหลินเฟิงด้วยความกังวล หรือเป็นเพราะว่าจ่ายเงินสองพันห้าร้อยล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินแย่ ๆแบบนี้ ก็เลยโกรธจนสติมีปัญหางั้นเหรอ?หลี่ฮุ่ยหรานที่คาดเดาความเป็นไปได้ต่าง ๆอยู่ในใจแต่เธอเห็นหลินเฟิงหัวกลับมา พร้อมกับยิ้มและกระพริบตาให้เธอและพูดว่า :“ถ้าหากผมเดาไม่ผิดละก็ ครั้งนี้แม่ของคุณจะต้องขาดทุนครั้งใหญ่”“อะไรนะ?”หลี่ฮุ่ยหรานเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจในตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยจริง ๆว่าหลินเฟิงอาจจะมีปัญหาทางจิต“ที่ดินนี้ ไม่ถึงครึ่งเดือนก็ต้องถูกรื้อแล้ว เมืองเจิ้งเต๋อจะสร้างทางหลวงพิเศษที่ต้องผ่านทางจากตรงนี้พอดี!”หลินเฟิงหันหน้าไปมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะพูดขึ้นว่า :“คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร?”ไม่รอให้หลี่ฮุ่ยหรานตอบกลับ หลินเฟิงก็พูดขึ้นกับตัวเองว่า :“นี่หมายความว่า ราคาของที่ดินนี้จะต้องเพิ่มขึ้นมากว่าสิบเท่าอย่างแน่นอน! หึหึ ฮุ่ยหราน ครั้งนี้พวก
เมื่อเห็นที่อยู่ที่นี่ ใจของหลี่ฮุ่ยหรานก็จมดิ่งลงไปกว่าครึ่งการจราจรที่นี่ไม่ค่อยจะสะดวกสบายเท่าไหร่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาคารสำนักงานหรือโรงงานเลย มันไม่มีทางที่จะเปิดได้เช่นกันยิ่งไม่ต้องพูดว่า....หลี่ฮุ่ยหรานยืนอยู่หน้าที่ดินที่อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองแห่งนี้ และภายในต่างก็เต็มไปด้วยอาคารที่พักอาศัยเก่า ๆที่ทรุดโทรมอาคารที่พักอาศัยจำนวนไม่น้อยที่มีอายุการใช้งานที่เกินกำหนดแล้วแม้แต่กำแพงก็ยังมีรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ และมีบางรอยที่ยังเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันทรุดโทรมมาหลายปีโดยไร้การซ่อมแซม“หลินเฟิง ที่อยู่นี่ สองพันห้าร้อยล้านบาทนะ! และตอนนี้มันก็อยู่ในมือของพวกเราแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานถอนหายใจด้วยความหดหู่มองจากมุมของเธอ เดิมทีที่ดินนี่ก็ไม่ได้มีค่าอะไรเลยจนกระทั่งผู้อาศัยภายในอาคารพักอาศัยต่างก็อพยพออกไปมากกว่าครึ่งแล้ว ทำให้บ้านมากมายกลายเป็นบ้านผีสิงไป“หึหึ มันก็ไม่แน่นอนหรอก”หลินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปเขตที่อยู่อาศัยแห่งนี้“รีบวางไพ่เร็วเข้าสิ นายแม่งมองอะไรอยู่ได้?”“เฮยจื่อ นายเห็นผีหรือไง?”ทั้งสองคนยังเดินไปไม่เท่าไหร่ ก็เห
เธอกลัวว่าหลินเฟิงจะกลับคำหากเป็นแบบนั้น การตีสนิทกับรอยยิ้มที่เธอทำมาเกือบครึ่งชั่วโมง ก็สูญเปล่าทั้งหมดแต่เห็นได้ชัดว่า จางกุ้ยหลานคิดมากไปเงินแค่สองพันห้าร้อยล้านบาทเอง หลินเฟิงไม่ได้เห็นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำเขาโทรศัพท์หาจ้าวเทียนหัวทันที ให้เธอโอนเงินเข้าบัญชีของจางกุ้ยหลาน และเซ็นชื่อของเขาลงบนสัญญาหลี่ฮุ่ยหรานที่อยู่ด้านข้างเห็นหลินเฟิงเซ็นชื่อจริงๆ สีหน้าก็ไม่พอใจทันทีจางกุ้ยหลานกลับหน้าตายิ้มแย้ม“เอ๊ะเอ๊ะเอ๊ะ หลินเฟิง ไม่สู้วันนี้นายไม่ต้องกลับไปหรอก มา ฉันเป็นเจ้ามือเอง เลี้ยงข้าวนายกับฮุ่ยหราน”“ไม่ต้องครับ”หลินเฟิงส่ายหน้า พูดเสียงเข้มว่า:“ผมจะถือโอกาสนี้ไปดูที่ดินที่พวกคุณโอนมาให้ผม ผมคิดหาวิธี ดูว่าที่ดินผืนนั้นมีประโยชน์อะไรบ้าง อย่างน้อยก็อย่าขาดทุนเยอะเกินไป”หลินเฟิงตอบอย่างซื่อสัตย์จริงใจ ในตอนนี้จางกุ้ยหลานก็ได้รับข้อความเงินเข้าบัญชีจากทางธนาคารเมื่อเห็นเงินเข้าบัญชี จางกุ้ยหลานก็รู้สึกโล่งใจสักที ทันใดนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นมิตรต่างจากเมื่อคู่นี้“ได้ ในเมื่อนายอยากไปดู งั้นก็ไปเถอะ ฉันไม่รั้งพวกเธอเอาไว้”จางกุ้ยหลานนอนกลับลงไปบนเตียงของเธอ
“หลินเฟิงไม่สนใจ”หลี่ฮุ่ยหรานยืนออกมา ขวางอยู่ตรงหน้าหลินเฟิง จ้องมองไปที่แม่ของตัวเองแล้วพูดตวาด“แม่ หนูรู้ว่าแม่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ในเมื่อนี่เป็นเรื่องที่พวกแม่ทำ งั้นพวกแม่ก็ต้องรับผลที่ตามมาเอง อย่ามาดึงหลินเฟิงเข้าไปเกี่ยวข้อง!”“ฮุ่ยหราน ทำไมลูกถึงเข้าข้างคนนอกล่ะ?”จางฮุ่ยหรานโมโหลูกที่ไม่ได้ดั่งใจจึงพูดว่า:“ถ้าหากที่ดินผืนนี้ขายไม่ออก งั้นวันนี้แม่ก็ทำได้แค่ตายอยู่ตรงนี้ หรือว่าหลินเฟิงอยากแต่งงานกับลูกสาวของฉัน จะไม่แสดงท่าทีสักหน่อยเหรอ?!”“ก่อนหน้านี้หลินเฟิงเคยให้ทับทิมเม็ดหนึ่งกับพวกคุณ แต่กลับถูกพวกคุณทิ้งไปเอง!”หลี่ฮุ่ยหรานเริ่มพูดเรื่องเก่าๆตอนนี้เธอไม่อยากให้คนในครอบครัวของตัวเองสร้างเรื่องวุ่นวายให้หลินเฟิงอีกแล้ว“งั้น...เรื่องหนึ่งก็ส่วนเรื่องหนึ่ง!”จางกุ้ยหลานมีความไม่มั่นใจเล็กน้อย แต่ไม่นานนัก เธอก็หน้าด้านพูดขึ้นมาอีกว่า:“เรื่องอัญมณีทับทิมที่ทำหายเป็นปัญหาของพวกเรา แต่นั่นเป็นเรื่องก่อนหน้านี้!”“ตอนนี้ลูกสาวของฉันค่าตัวไม่เหมือนเดิมแล้ว”“ไม่เพียงมีหลี่ซื่อกรุ๊ปเมืองเจียงโจว ยังมีหลี่ซื่อกรุ๊ปเมืองเจิ้งเต๋อ และก็ยังมีโฮมสเตย์ที่หรูหราอย่าง
“ใช่แล้ว!”เมื่อได้ยินคำเตือนของจางซิน จางกุ้ยหลานก็ตบที่ศีรษะ และรู้ตัวขึ้นมาทันที ก่อนจะพูดว่า :ทำไมฉันถึงคิดเรื่องนี้ไม่ออกนะ? หรือว่าสมองของจางซินจะปรับตัวได้แล้ว!” “เหอะ นั่นมันแน่นอน เพียงแต่ว่า.....”จางซินทำเสียงเย็นชา พร้อมกับเหลือบไปมองหลี่ฮุ่ยหรานด้วยสายตาคลุมเครือ ก่อนจะเม้มปากและพูดว่า : “แค่มีคนไม่เจียมตัวก็เท่านั้น”หลี่ฮุ่ยหรานรู้ว่าสิ่งที่จางซินพูดอยู่ก็เพื่อให้ตัวเองได้ยินแต่เธอไม่ได้คิดเล็กคิดน้อย แต่พูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า :“ฉันคิดว่าโอกาสที่เรื่องนี้จะสำเร็จมีน้อยมาก เพราะว่าใครก็ตามที่ใช้เงินมากขนาดนั้น จะต้องมีมันสมองที่ไม่ดีแน่ ๆ” “ที่ดินแห่งนี้ แม้ว่าอยากจะหลอกลวงคน แต่ก็ยากที่จะให้หลุดมือไป”“อ่อ ความหมายของคุณก็คือสมองของคุณป้าไม่ดีอย่างนั้นเหรอ? พี่สาว คำพูดของพี่มีเลศนัยจริงๆ !”จางซินกลัวว่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดังนั้นจึงพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ยเมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของจางกุ้ยหลานก็ดูไม่ดีอย่างมากถึงแม้ตัวเองที่เชื่อหลี่เหวินเชาครั้งนี้จะผิดจริง ๆ แต่ลูกสาวของตัวเองที่พูดตำหนิคนหนึ่งอยู่แล้วพูดประชดอีกคน จะทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
ในที่สุดเสียงตะโกนร้องของหลี่ฮุ่ยหรานก็ทำให้กำแพงของจางกุ้ยหลานพังทลายก่อนที่เธอจะกระโดดลงจากเตียงแล้วพุ่งไปที่กำแพง“ฮุ่ยหราน แม่ขอโทษ แม่ก็ไม่มีทางแล้วเหมือนกัน ให้แม่ตายตอนนี้ เพื่อชดใช้หนี้ของลูก...”จางกุ้ยหลานร้องสะอื้น พร้อมทั้งกระแทกใส่กำแพงอย่างแรงกระแทกไปเพียงสองครั้ง ผ้าก๊อซบนหัวของเธอก็เริ่มมีเลือดไหลออกอีกครั้ง“หยุดนะ!”หลี่ฮุ่ยหรานคว้าแม่ของตัวเองไว้ ก่อนจะตะโกนว่า :“แม่เอาการฆ่าตัวตายมาข่มขู่อยู่ตรงนี้ แล้วจะเอาชีวิตมาชดใช้หนี้ของหนูได้ยังไง? แทนที่แม่จะคิดหาวิธีดี ๆว่าควรจะเอาเงินกลับมาได้ยังไง!”“ตอนนี้แม่หาหลี่เหวินเชา ให้เขารีบมาที่นี่!”หลี่ฮุ่ยหรานพูดขึ้นด้วยความโกรธ“ได้ได้ได้....”จางกุ้นหลานเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ก่อนจะรีบต่อสายหาหลี่เหวินเชาทันทีแต่เสียงดังไม่กี่ครั้ง หลี่เหวินเชาก็ตัดสายไป“หืม? เกิดอะไรขึ้น?”หลี่ฮุ่ยหรานมองไปที่หลินเฟิงอย่างสงสัย หรือว่าหลี่เหวินเชาจะถูกน้องชายของโจวเซวียโหลวจับตัวไปแล้ว?“ผมโทรเอง”หลินเฟิงเดินเข้ามา แล้วเอาหมายเลขโทรศัพท์มือถือของหลี่เหวินเชาจากจางกุ้ยหลานและกดโทรออกเสียงดังขึ้นสองครั้ง หลี่เหวินเชา