หลัวปินชี้ไปที่พื้นและพูดทีละคำว่า "คุกเข่าขอโทษกูซะ กูจะไว้ชีวิตให้"หลังจากเขาพูดจบ หลินเฟิงยกมือขึ้นตบเขาอีกหนึ่งฉาดตบจนฟันด้านหลังสองซี่ของเขาลอยขึ้นฟ้าออกมา"กูไม่สนว่ามึงเป็นใคร""กล้าแตะหลี่ฮุ่ยหราน แม้แต่พ่อมึงมาก็ไม่เว้น"หลัวปินอึ้งไป เขาไม่เคยคิดว่าเด็กคนนี้จะกล้าโจมตีเขาหลังจากที่เขาประกาศชื่อของตัวเองไปดวงตาของเขากลายเป็นสีเลือดและเขาก็คำรามด้วยความโกรธ"แม่มึงนี่ ... วันนี้กูไม่ใช่แค่จะจัดการมึงเท่านั้น""กูยังจะทรมานหลี่ฮุ่ยหรานด้วย""รนหาที่ตายนัก"เมื่อเห็นว่าเขากล้าที่จะดุเดือดจนถึงสุด หลินเฟิงกำหมัดจนแน่นและจนเส้นเลือดปูดขึ้นมาหวางเส้าหลงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง "คุณหลิน หยุดเดี๋ยวนี้เถอะ"หลังจากหลินเฟิงได้ยินคำพูดนี้ เขาตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองหวางเส้าหลงและพูดว่า "อะไรนะ นี่คุณอยากขอร้องให้ผมไว้ชีวิตเขางั้นหรอ"หวางเส้าหลงมองไปที่ดวงตาของเขาและพูดอย่างจริงจังว่า "คนๆนี้เป็นลูกชายของหลัวเฟยหู่ ถ้าเกิดอะไรเกิดขึ้นกับเขา พวกเราทุกคนไม่รอดแน่"จางกุ้ยหลานพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างเห็นด้วย "ใช่แล้ว หลัวเฟยหู่เป็นคนที่เราไม่ควรไปยุ่ง"หลินเฟิงจ้องมองจา
หลัวปินยังไม่ตาย แต่กระดูกสันหลังของเขาหัก และร่างกายส่วนล่างของเขาก็พิการอย่างสมบูรณ์ทุกคนจ้องมองไปที่หลัวปินที่อยู่บนผนังพร้อมกับเบิกตากว้าง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจหลินเฟิงหยิบยาสมุนไพรขึ้นมาแล้วหันหลังกลับ ไม่มีใครอย่างชายผมเหลืองหรือคนอื่นๆ กล้าหยุดเขาไว้"หลินเฟิง"หลี่ฮุ่ยหรานมองไปที่ด้านหลังของเขาและตะโกนเรียกเสียงดังหลินเฟิงไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองชายผมเหลืองมองไปที่พี่ใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง และไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรตอนนี้มีแต่แจ้งให้ท่านหลัวทราบเรื่องนี้เท่านั้น"พวกมึง ... รอดูเถอะ ว่าพ่อพี่ใหญ่จะจัดการกับพวกมึงอย่างไร"ชายผมเหลืองพูดด้วยคำพูดที่โกธรแค้น ก่อนจะพาหลัวปินและลูกน้องคนอื่น ๆ จากไปอย่างรีบร้อนจางกุ้ยหลานเกือบจะเป็นลมเมื่อเธอได้ยินคำนี้เธอก็เคยได้ยินชื่อของหลัวเฟยหู่ได้ยินว่ามีอันธพาลคนหนึ่งลวนลามผู้หญิงของเขา หลัวเฟยหู่ตัดแขนและขาของอันธพาลคนนั้นเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนลงแม่น้ำเพื่อเป็นอาหารให้ปลาคนที่ฆ่าไม่เลือกแบบนี้ ถ้าเขากลับมาแก้แค้นตระกูลหลี่ทำยังไงดีล่ะ?"คุณหวาง คุณหวาง คุณต้องช่วยตระกูลหลี่นะ ตอนนี้ตระกูลหลี่หวังพึ่งคุณแล้วนะ"จางก
เมื่อเขาคิดว่าต้องใช้เวลาครึ่งชีวิตหลังจากนี้โดยอาศัยรถเข็นผู้ป่วย เขาแทบอยากจะฆ่าหลินเฟิงแล้วก็ถลกหนังเลาะเส้นเอ็นเขาออกมา"ใครที่กล้าทำร้ายลูกชายผมจนเป็นแบบนี้?"ชายผมเหลืองพูดอ้ำอึ้งว่า "ชายที่ชื่อว่าหลินเฟิง""เด็กชายคนนี้เป็นใคร""เด็กชายคนนี้ไม่มีอิทธิพลอะไร สิ่งเดียวที่เกี่ยวข้องกับเขาคือประธานของตระกูลหลี่ในเมืองเจียงโจว คนนี้เป็นภรรยาเก่าของเขา""ภรรยาเก่าหรอ?" หลัวเฟยหู่ตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินชายผมเหลืองไม่กล้าปิดบัง จึงบอกหลัวเฟยหู่ถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงเรื่องที่หลัวปินจีบหลี่ฮุ่ยหรานและขอให้เธอมานอนกับตัวเองหลัวเฟยหู่ทุบกำแพงด้วยหมัดเมื่อเขาได้ยินมีหลุมลึกปรากฏบนผนังบ็อกซ์"ลูกชายผมชอบเธอ นั่นถือเป็นบุญของเธอแล้ว"หลังจากพูดจบ ดวงตาที่แหลมคมคู่หนึ่งจ้องไปที่ชายผมเหลือง "ทำไมพวกแกถึงปกป้องเจ้านายน้อยไม่ได้""คือ ... ผม" ชายผมเหลืองพูดตะกุกตะกักหลัวเฟยหู่ออกคำสั่ง “โยนเขาลงไปในแม่น้ำเป็นอาหารให้ปลา”ทันทีที่พูดจบ ชายที่แข็งแกร่งสองคนจับชายผมเหลืองไว้แล้วก็ลากเขาออกไปชายผมเหลืองตะโกนเสียงแหบ "ยกโทษ ยกโทษให้ผมได้ไหมท่านหลัว สามีเก่าของหลี่ฮุ่ยหรานเขาเก่ง
ในวิลล่าของตระกูลถัง ถังหว่านกำลังนั่งอยู่และดูเอกสารในห้องหนังสือเมื่อเธอได้ยินคำพูดของหลี่ฮุ่ยหราน เธอก็ตกตะลึงไปพักนึงแล้วถามว่า "คุณหมายความว่ายังไง"หลี่ฮุ่ยหรานไม่กล้าปิดบัง จึงบอกถังหว่านถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เธอพูดด้วยเสียงร้องขอ "คุณถังคะ ตอนนี้มีเพียงคุณที่ช่วยหลินเฟิงได้เท่านั้น"ถังหว่านหรี่ตาที่สวยงามของเธอและลูบคางด้วยนิ้วเรียวยาวตกอยู่ในการไตร่ตรองอีกสักครู่เธอพูดขึ้นว่า "หลินเฟิงต้องเจอกับปัญหาใหญ่เช่นนี้เพราะช่วยคุณ ตอนนี้คุณไม่คิดหาวิธีช่วยเขาแต่กลับมาหาฉันงั้นเหรอ?"มันมากเกินไปหรือป่าว?"หลี่ฮุ่ยหรานถูกเธอด่าจนเงียบกริบ "ฉันรู้ว่าเกิดเรื่องเพราะฉัน แต่ฉันช่วยหลินเฟิงไม่ได้จริงๆ""คุณช่วยไม่ได้มันเกี่ยวอะไรกับฉัน"หลี่ฮุ่ยหรานงงเป็นไก่ตาแตกในทันที "คุณ ... คุณจะสามารถนั่งดูหลินเฟิงเผชิญกับเรื่องนี้เพียงลำพังได้เหรอคะ"“ หลินเฟิงจะอยู่หรือตายมันเกี่ยวอะไรกับฉัน” ถังหว่านพูดอย่างไม่แยแส"คุณ ... ถ้างั้นคุณถังไม่เต็มใจช่วยก็ช่างมันเถอะ" หลี่ฮุ่ยหรานวางสายโทรศัพท์อย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรฉินอิ๋งที่อยู่ด้านข้างถามอย่างระมัดระวังว่า "พี่หว่านเอ๋อ เ
"คุณหลิน ต้องการให้ผมแจ้งพี่น้องของผมไหม?" จ้าวเทียนหวาถามหลินเฟิงขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโหดร้าย"ไม่จำเป็น ผมจะไปที่ไนต์คลับเทียนตู""ถ้าหลี่ฮุ่ยหรานเกิดเรื่อง ผมก็จะฆ่าพวกเขาทั้งหมด"หลินเฟิงวางสายลุกขึ้นทันทีประตูของห้องเพรสซิเดนสูทถูกเปิดออกด้วยมือของเขาพายุไซโคลนที่มองไม่เห็นหมุนอย่างรวดเร็วในร่างกายของเขากำลังภายในร่างกายไม่สามารถระงับได้แล้ว……หลี่ฮุ่ยหรานลงจากรถลูกน้องของไนต์คลับเทียนตูดูเหมือนจะได้รับการแจ้งการมาของเธอมาก่อนแล้วเมื่อเห็นหลี่ฮุ่ยหราน พวกเขาก็พาเธอไปที่สำนักงานชั้นบนสุดทันทีหลังจากเปิดประตู หลี่ฮุ่ยหรานก็มองเห็นหลอเฟยหู่ที่ยืนอยู่หน้าหน้าต่างยาวสูงหกฟุต ร่างใหญ่ มีรอยแผลลึกบนใบหน้าของเขาทอดยาวจากด้านบนของศีรษะไปจนมุมปากทำให้เห็นแล้วเสียวสันหลังหลอปินนั่งอยู่บนรถเข็นจ้องมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานดวงตาที่เย็นชาของหลอเฟยหู่กวาดสายตามองเธอ "คุณก็คือหลี่ฮุ่ยหรานใช่ไหม"หลี่ฮุ่ยหรานโค้งคำนับอย่างลึกซึ้ง "ท่านหลอคะ เรื่องวันนี้ต้องบอกขอโทษจริงๆ""ฉันมาเพื่อต้องการขอโทษกับท่านด้วยตัวเอง""มึงคิดว่าแค่คำขอโทษจะมีประโยชน์อะไรเหรอ"
ควันค่อยๆ กระจายออกไป ร่างของหลินเฟิงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้คนหลัวเฟยหูหรี่ตาลงเล็กน้อย และจ้องมองไปที่หลินเฟิง"คุณคือใคร?"หลินเฟงไม่ตอบ แต่มองไปที่ หลีฮุ่ยหรานที่อยู่บนพื้นถามด้วยเสียงเย็นชา "คุณทำร้ายเธอหรือเปล่า?"หลัวปินที่นั่งอยู่บนรถเข็นเห็นหลินเฟิง มุมตากระตุก ชี้ไปที่เขาแล้วตะโกนด่า "พ่อ นี่คือไอ้สารเลวที่ทำร้ายผม"“วันนี้ห้ามปล่อยให้เขาหนีไปเด็ดขาด”หลัวเฟยหูหายใจเข้าลึกๆ ดวงตาแฝงไปด้วยเจตนาฆ่า "เด็กดี ผมไม่ได้ไปหาคุณ แต่จริงๆแล้วคุณมาหาผมที่หน้าประตูบ้าน"ดวงตาของหลินเฟิงแดงกร่ำ สองมือกำหมัดแน่นตอบทีละคำทีละประโยค "ฉันถามคุณอยู่นะ""ฮึ่ย"หลัวเฟยหูตะคอก "ถ้าผมทำร้ายแล้วยังไง?""รนหาที่ตายนะ"หลินเฟิงตะโกนด้วยความโกรธ รีบวิ่งไปหาหลัวเฟิงหูเหมือนลูกกระสุนปืนใหญ่ ทำให้เกิดลมกระโชกแรง"แก......"ดวงตาของหลัวเฟิงหูเบิกกว้าง รู้สึกเหลือเชื่อ เด็กคนนี้เร็วเกินไปแล้วแต่เขาใช้ชีวิตบนเส้นทางนี้หลายปี ไม่ได้อ่อนแอไร้ความสามารถพริบตาเดียวก็ดึงดาบบนโต๊ะทำงานออกมาไม่ทันจับร่างของหลินเฟิง ก็ฟันออกไปโดยไม่รู้ตัวหลินเฟิงหลบทัน ใบมีดคมก็กรีดเสื้อผ้าของเขาหมัดฟาดเ
หลินเฟิงไร้ความปราณี ยกมีดขึ้น และสังหารหลัวเฟยหูเพียงฉับเดียวกษัตริย์รุ่นหนึ่งแห่งเขตซีเฉิง ก็ล่มสลายหลัวปินที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็สั่นไปทั้งตัวมองดูศพของพ่อตัวเอง เขารู้สึกว่าทั้งหมดเป็นเรื่องไม่ช่ความจริงพ่อของตัวเองเป็นคนที่รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้งมาตายเอาตอนนี้เหรอ?หลัวปินหมุนล้อรถเข็นของเขาอย่างสิ้นหวัง พยายามหลบหนีจากสำนักงานที่เหมือนกับนรกบนดินนี้หลินเฟิงเตะเขาลงไปกองบนพื้น"ไว้ชีวิต ไว้ชีวิตด้วยหลินเฟิง... ผมรู้ว่าผมคิดผิด ผมไม่ควรทำร้ายหลี่ฮุ่ยหราน ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ..."หลัวปินสูญสิ้นความเย่อหยิ่งทั้งหมด คุกเข่าคำนับลงบนพื้นอย่างสิ้นหวังตอนนี้เขาเสียใจจริงๆ น่าจะรู้ตั้งนานแล้วว่าเบื้องหลังหลี่ฮุ่ยหรายมีคนฝีมือดีขนาดนี้ ต่อให้ยืมผู้กล้าสักสิบคน เขาก็ไม่กล้ายั่วยุหลี่ฮุ่ยหรานหลินเฟิงมองลงไป น้ำเสียงของเขาเย็นชาราวกับยมทูต "เสียใจตอนนี้ ก็สายเกินไปแล้ว"ทันทีที่พูดจบ ศีรษะของหลัวปินก็กระเด็นไปอีกจุดหลินเฟิงเก็บดาบ กอดหลี่ฮุ่ยหรานที่หมดสติและออกจากห้องทำงานตอนนี้ ฉินหยิงได้รับคำสั่งให้ไปไนต์คลับเทียนตูเพื่อรับรองความปลอดภัยของหลินเฟิง เธอพาผู้เชี่ยวช
ตอนนี้หวังเส้าหลงก็มารวมกลุ่มกับหลี่ฮุ่ยหรานและมองเธอด้วยความกังวล "ฮุ่ยหรานไม่เป็นไรใช่ไหม?"หลี่ฮุ่ยหรานลูบหัวแล้วพูดว่า“ไม่ใช่เรื่องใหญ่... ฉันจำได้ว่าอยู่ในห้องทำงานของหลัวเฟยหู คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”จางกุ้ยหลานตอบว่า "นี่ยังไม่นับว่ากังวลเหรอ? นี่ถึงขนาดให้หวังเส้าพาฉันมาดูด้วย"“ใช่ คุณหลัวไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม?”หลี่ฮุ่ยหรานแตะแก้มเขาเบาๆจากนั้นก็ลูบๆเสื้อผ้าของตัวเองอีกครั้ง ดูเหมือนว่านอกจากถูกหลัวเฟยหูตีสองสามครั้ง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ“ฉันไม่เป็นไร แต่ทำไมหลัวเฟยหูถึงปล่อยฉันไป?”หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อกี้ชายหนุ่มในออฟฟิศอยากจะฉีกตัวเองเป็นชิ้นๆจู่ๆ จางกุ้ยหลานก็นึกได้ว่า "นี่ต้องขอบคุณหวังเส้าที่ช่วยชีวิตลูกไว้""ดูสิ ไนต์คลับเทียนตูโดนคนจากจวนผู้ว่าการปิดล้อมไว้"หลี่ฮุ่ยหรานจ้องมองแม่ของเธอมีคนมากมายยืนอยู่หน้าไนต์คลับเทียนตูดูจากเครื่องแบบที่พวกเขาสวม คงมาจากจวนผู้ว่าจริงๆจางกุ้ยหลานพูดด้วยท่าทีประจบประแจง "คุณชายหวัง นึกไม่ถึงว่าพ่อของคุณจะเก่งขนาดนี้ ที่แท้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับจวนผู้ว่าด้วย!""เอ่อ......"สีหน้าของหวังเส้าหลง
“มีสามสิ่งที่หลี่ซื่อกรุ๊ปจำเป็นต้องทำอย่างเร่งด่วนตอนนี้ หากสามารถทำสามสิ่งนี้ได้ ฉัน กัวโหย่วคังจะชดใช้หนี้ที่ติดค้างบริษัทในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเดี๋ยวนี้”“และหลังจากนั้น ฉันจะมอบตัว”หลังจากพูดจบ กัวโหย่วคังก็เหลือบมองหลี่ฮุ่ยหรานอย่างดูถูกและพูดอย่างใจเย็น“ว่าไงล่ะ เธอกล้าไหม?”“ทำไมฉันต้องฟังคุณด้วย?”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองกัวโหย่วคังด้วยท่าทีเหมือนคนโง่และพูดอย่างเย็นชา“ตอนนี้ฉันสามารถส่งคุณให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ คุณคิดจริง ๆ เหรอว่าคุณอยู่ในตำแหน่งที่จะต่อรองกับฉันได้?”“ฮ่า ๆ……”ใครก็ตามเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ กัวโหย่วคังไม่เพียงแต่ไม่ตื่นตระหนก แต่ยังหัวเราะอย่างร่าเริงและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วพูดว่า“เธอยังเด็กเกินไป ประธานกรรมการหลี่!”“ฉันได้เตรียมทางออกสำหรับตัวเองไว้แล้ว เงินที่ฉันได้รับจากบริษัทในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้บริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่ฉันก่อตั้งขึ้นเองในนามของฉันเอง”กัวโหย่วคังหรี่ตาและพูด“และองค์กรการกุศลนี้ก็อยู่ต่างประเทศ!”“ถ้าเธอส่งฉันเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แม้ว่าฉันอาจถูกประหารชีวิต แต่เงินของบริษัทตลอดหลายปีมานี้ สลึงเดียวเธอก็เอากล
“ฉันแนะนำให้ฆ่าเขา….เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู!”“ไม่ ๆ ต้องทำให้เขาคายเงินที่ยักยอกทั้งหมดจากบริษัทในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามาซะ!”“ถูกต้อง คายเงินที่ขโมยมาออกไปก่อน แล้วค่อยจัดการกับเขา!”เมื่อได้ยินเหล่าอดีตพันธมิตรหันหลังให้ กัวโหย่วคังก็โกรธมากแต่ไม่กล้าพูดออกมาเขาแอบมองหลินเฟิงตอนนี้ กัวโหย่วคังเริ่มไตร่ตรองว่า เขาสามารถจับหลี่ฮุ่ยหรานเป็นตัวประกันได้หรือไม่ ก่อนที่หลินเฟิงจะโต้ตอบได้“ฮ่า ๆ….”เมื่อได้ยินคำพูดของเหล่าบอร์ดบริหาร "ความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม" และต้องการฆ่ากัวโหย่วคัง หลี่ฮุ่ยหรานก็เม้มริมฝีปากและยิ้ม จากนั้นก็หันไปมองกัวโหย่วคังและหรี่ตาถามว่า“กรรมการกัว ตอนนี้คุณยอมรับฉันแล้วหรือยัง?”ในขั้นตอนนี้ กัวโหย่วคังรู้สึกประหลาดใจที่เธอยังคงเสียเวลาไปกับคำถามเช่นนี้เนื่องจากสถานการณ์ได้ทวีความรุนแรงจนไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว กัวโหย่วคังเบือนหน้าหนีไปเดินตรงไปยังมุมมืด แล้วพูดอย่างเย็นชา“ฉันยังไม่ยอมรับ!”“เธอหลอกคนโง่พวกนี้ได้ แต่เธอหลอกฉันไม่ได้!”“ตอนนี้เธอกำลังจับพวกเขาเป็นตัวประกันอยู่ เธอไม่กลัวเหรอว่าบริษัทจะเลิกจ้างผู้บริหารจำนวนมากชั่วคราวแ
เมื่อเห็นหลินเฟิงเย่อหยิ่งขนาดนั้นพวกอันธพาลกระหายเลือดเหล่านี้ ต่างตะโกนปลุกขวัญกำลังใจ "ลุย" คนทั้งกลุ่มก็คำรามและวิ่งเข้าหาหลินเฟิง“ปัง!”เมื่อเห็นจังหวะที่เหมาะสม หลินเฟิงก็เตะอันธพาลคนแรกออกไปนอกหน้าต่าง และทำให้กระจกบานใหญ่แตกอีกบานอันธพาลคนอื่น ๆ ก็มีชะตากรรมแบบเดียวกันหลินเฟิงยืนบนโต๊ะ และอันธพาลเหล่านี้ไม่สามารถทนการท้าทายของหลินเฟิงได้ ในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที มีบอดี้การ์ดสิบคนก็บินออกจากหน้าต่างจากตำแหน่งเดียวกันต้องรู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ชั้นที่ 20 และไม่มีวิธีเอาตัวรอด เมื่อถูกโยนออกจากหน้าต่างแค่ได้ยินเสียงกรีดร้องของอันธพาลเหล่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ใครคนหนึ่งสั่นสะท้านแล้วเมื่อเห็นสีหน้าผ่อนคลายของหลินเฟิง กรรมการที่เพิ่งสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อหลี่ฮุ่ยหรานต่างก็เงียบและรู้สึกขอบคุณในใจตลอดเวลาโชคดีที่พวกเขาไม่ได้ดื้อรั้นหากเลือกตามกัวโหย่วคัง เพื่อจัดการกับประธานกรรมการคนใหม่หลี่ฮุ่ยหรานไม่เช่นนั้นหากหลี่ฮุ่ยหรานกลายเป็นคนไร้ความปรานี พวกเขาก็จะถูกโยนออกไปจากตึกโดยตรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นไม่ใช่แค่การชดเชยการสูญเสียของบริษัทเท่านั้นชีวิตก็ไม่มีแล้ว
อันธพาลบุกเข้ามาอย่างกล้าหาญ ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นตะลึงชัดเจนว่ากัวโหย่วคังได้ส่งคนเหล่านี้ มารอรอบห้องประชุมล่วงหน้า ตราบใดที่เขาส่งสัญญาณ อันธพาลทั้งหมดเหล่านี้จะรีบวิ่งเข้ามาทั้งโขยงกำจัดทุกคนและปิดปากบอร์ดบริหารที่เพิ่งหันหลังให้กับกัวโหย่วคังหน้าซีดด้วยความกลัว ความรู้สึกหวาดกลัวที่น่ากลัวเติมเต็มหัวใจของพวกเขา“ไม่ต้องห่วง หลี่ฮุ่ยหรานทางไปลงนรกของแกจะไม่เงียบเหงา คนพวกนี้จะไปเป็นเพื่อนร่วมทางแกเอง”"ไปเล่าเรื่องบริษัทใหญ่ให้ยมบาลฟังนะ!""ฮ่า ๆ..."กัวโหย่วคังหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง แสดงท่าทางว่าเขาสามารถควบคุมทุกคนได้อย่างไรก็ตาม เมื่อหลี่ฮุ่ยหรานเห็นพวกอันธพาลรีบเข้ามาอย่างไม่คาดคิด เธอไม่เพียงแต่ไม่ตื่นตระหนก แต่ยังแสดงเสียงหัวเราะเย็นชาด้วย“กัวโหย่วคัง แกไม่ไร้เดียงสาเกินไปหน่อยเหรอ?”"แกคิดว่าฉันไม่รู้ว่าแกจะฉีกหน้าฉันเหรอ?"“ฉันเตรียมใจไว้แล้วสำหรับสถานการณ์แบบนี้มานานแล้ว!”คำพูดของหลี่ฮุ่ยหรานมีจุดประสงค์ เพื่อปลอบใจเหล่าบอร์ดบริหาร ที่กำลังตื่นตระหนกรอบตัวและป้องกันไม่ให้พวกเขาเปลี่ยนใจไปเข้าข้างอีกฝ่ายในทางกลับกัน มันยังช่วยข่มขู่กัวโหย่วคังอีก
แข็งแกร่งกว่ากัวโหย่วคังด้วยซ้ำบอร์ดบริหารเหล่านี้ตอบสนองทันทีวิธีที่ดีที่สุดในขณะนี้คือรีบก้มหัวและขอโทษ หวังว่าอีกฝ่ายจะจ้างพวกเขาต่อไปการมอบอำนาจต่อรองให้กับเธอโดยเต็มใจเป็นหนทางเดียวที่จะรักษาทรัพย์สินและตำแหน่งของพวกเขาไว้ได้ แทนที่จะสูญเสียทรัพย์สินและสถานะทั้งหมดไปอาจกล่าวได้ว่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจ แต่ไม่มีใครกล้าที่จะยืนหยัดต่อต้านหลี่ฮุ่ยหรานในขณะนี้ความดูถูกเหยียดหยามทั้งหมดก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลายเป็นความกลัว และการทำใจจำยอม“ฮึ่ม เนื่องจากทัศนคติของคุณจริงใจมาก ฉันจึงจะละเว้นคุณอย่างไม่เต็มใจ”หลี่ฮุ่ยหรานเหลือบมองหลินเฟิงแล้วหันไปหากรรมการเหล่านี้แล้วพูดว่า“ฉันสัญญาว่า จะไม่ทำเรื่องสกปรกที่คุณเคยทำมาก่อน แต่ต้องชดใช้ให้ฉันเต็มจำนวนสำหรับการสูญเสียที่กรุ๊ปและบริษัทต้องเผชิญ”“แน่นอน เมื่อฉันเข้ารับช่วงต่อหลี่ซื่อกรุ๊ป ฉัน หลี่ฮุ่ยหรานก็ต้องการนำหลี่ซื่อกรุ๊ปให้ใหญ่ขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น”“ฉันรับรองกับคุณได้ว่า ถ้าพวกคุณติดตามฉัน จะไม่มีขาดทุน และยังจะทำเงินได้มากมายอีก”“เป็นไง ทำได้ไหม?”บอร์ดบริหารรู้สึกขอบคุณสำหรับความเมตตาของเธอ จึงกราบลงและขอบคุณเธอ
เพราะตราบใดที่หลี่ฮุ่ยหรานต้องการ ก็สามารถส่งพวกเขาทั้งหมดเข้าคุกได้ทุกเมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าหลี่ฮุ่ยหรานหาจุดอ่อนของพวกเขาเจอได้อย่างไร แถมยังรู้อย่างชัดเจน ดังนั้นพวกเขารู้สึกหงุดหงิดและหมดหนทาง และตำหนิโจวคุนที่ทรยศต่อพวกเขาทุกคนมีสีหน้าไม่สู้ดีเดิมทีพวกเขาต้องการใช้ประโยชน์จากวันนี้ เพื่อเตือนประธานกรรมการคนใหม่ แต่ไม่คิดว่าจะโดนเล่นงานเข้าซะเองเธอมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับพวกเขาอยู่ในมือเห็นได้ชัดว่าประธานกรรมการหญิงคนนี้ไม่ใช่แค่หุ่นเชิด เธอเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงที่เตรียมตัวมาอย่างดี“โอเค ฉันพูดจบแล้ว”หลี่ฮุ่ยหรานกางมือและพูดอย่างใจเย็น"ตอนนี้พวกคุณออกไปได้แล้ว ฉันจะไม่หยุดคุณ และฉันจะไม่ขอร้องให้พวกคุณอยู่ต่อด้วย""ฉันจะส่งเอกสารทั้งหมดนี้ให้คุณ ส่วนใครที่ฉันจะส่งให้ คุณทุกคนคงพอจะรู้แล้ว"“เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะเรียกประชุมผู้ถือหุ้นและหาคนมาแทนที่คุณ และคุณ โปรดชดใช้สำหรับการกระทำที่โง่เขลาของคุณอย่างเชื่อฟัง”เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้ความปราณีของหลี่ฮุ่ยหราน ในที่สุดบอร์ดบริหารก็เริ่มกลัวกรรมการหวัง ซึ่งเคยทำให้หลี่ฮุ่ยหรานต้องอับอายหลายครั้ง ได้คุกเข่า
“นี่คือภาพที่กล้องวงจรปิดถ่าย”ขณะที่หลี่ฮุ่ยหรานเปิดเอกสารต่อหน้า ผู้จัดการจั๋วหัวล้านก็อ้าปากกว้างหลี่ฮุ่ยหรานไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?เรื่องนี้ควรจะเป็นความลับภายในบริษัท ซึ่งมีเพียงเขาและโจวคุนเท่านั้นที่รู้ ซึ่งเป็นผู้ดูแลบัญชีค่าใช้จ่ายของเขาผู้จัดการจั๋วจ้องไปที่โจวคุนโดยไม่ละสายตา ราวกับว่าไฟกำลังจะปะทุขึ้นในดวงตาของเขา“แน่นอนว่านอกจากคุณแล้ว ปัญหาใหญ่ที่สุดในกลุ่มก็คือกัวโหย่วคัง กรรมการกัว”“ในฐานะ CFO รักษาการของกลุ่ม ความคิดสร้างสรรค์ของคุณนั้นไม่มีใครเทียบได้จริง ๆ”หลี่ฮุ่ยหรานเดินไปหากัวโหย่วคัง และวางแฟ้มเอกสารไว้บนโต๊ะตรงหน้าเขา พร้อมพูดอย่างใจเย็นว่า“ก่อนที่จะมาถึงมือคุณ งบการเงินประจำปีนั้น มีแต่ได้กำไร แต่เมื่อคุณลงมือจัดการ ไม่เพียงแต่ไม่มีกำไรเท่านั้น แต่ยังขาดทุนอีกด้วย”“ที่แย่กว่านั้นก็คือตระกูลหลี่ของฉัน ยังต้องเอาเงินมาโป๊ะตัวแดงเหล่านั้นอีก”“ต้องบอกว่า คุณกล้ามาก”“ฉันได้ตรวจสอบบัญชีในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และหากคุณมีคำถามใด ๆ โปรดอย่าลังเลที่จะปรึกษาฉันได้ตลอดเวลา”หลี่ฮุ่ยหรานตบไหล่กัวโหย่วคังและในขณะนี้ ดวงตาของกัวโหย่วคังก็กระตุก และเหงื่
“ฮึ่ม อย่าคิดว่าคุณจะทำให้เรากลัวได้ ลาออกก็ลาออก!”กัวโหย่วคังหรี่ตาลงและเผยรอยยิ้มชั่วร้าย“ฉันอยากรอดูจริง ๆ ถ้าบริษัทนี้ไม่มีเรา คุณจะทำให้กลุ่มบริษัทใหญ่ขนาดนี้ไปรอดได้ยังไง?”“ใช่แล้ว พี่กัว พวกเราไปกันเถอะ!”“ดูสิว่า เธอทำให้กลุ่มบริษัทดำเนินงานต่อไปได้ยังไง!”“แล้วเธอจะต้องคุกเข่าลงและขอร้องพวกเรา!”บอร์ดบริหารอาวุโสหลายคนก็ลุกขึ้นยืนเช่นกันภายใต้การนำของพวกเขา บอร์ดบริหารเกือบทั้งหมดลุกขึ้นยืนมีเพียงชายวัยกลางคนรูปร่างผอมบางสวมแว่นตา โจวคุน เท่านั้นที่ดูประหม่า เขาอยากลุกขึ้นยืนเช่นกัน แต่เขารู้สึกถึงสายตาอันเฉียบคมของหลี่ฮุ่ยหราน จึงไม่กล้าทำอะไรหุนหันพลันแล่นท้ายที่สุดแล้ว แผนกที่เขาดูแลนั้นพิเศษเกินไปแผนกบัญชีซึงมีหน้าที่จัดการบัญชีภายในและรวบรวมบันทึกทางการเงินทั้งหมดของบริษัทเขามักจะช่วยบอร์ดบริหารเหล่านี้ ฟอกบัญชีของพวกเขาเป็นประจำทุกวัน หากหลี่ฮุ่ยหรานสืบสวนจริง ๆ ชีวิตของเขาจะคงจบสิ้นชีวิตที่เหลืออาจจะต้องไปกินข้าวแดงในคุกจนตายดังนั้นเขาจึงไม่กล้าขัดใจหลี่ฮุ่ยหรานแต่คนอื่นก็ไม่สนใจท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากหลี่ฮุ่ยหรานไปแล้ว เมื่อพ
“ใช่แล้ว เราไม่ยอมรับคุณ”บอร์ดบริหารที่อยู่รอบ ๆ ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า“ถ้าจ้างคนนอกมาเป็นประธาน เราเข้าใจได้ แต่คุณเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง แถมยังเป็นคนนอกของตระกูลหลี่ นอกจากนี้ ยังเป็นคนที่ไม่เคยเหยียบเมืองเจิ้งเต๋อมาก่อน”“พวกเราบอร์ดบริหารไม่ชอบคนประเภทคุณที่สุด วันแรกที่นี่ แทนที่จะแสดงความเคารพ คุณกลับเข้ามาโดยแสดงอำนาจและตั้งกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ ……คุณล้อเล่นใช่ไหม?”“ไม่มีความสามารถ ไม่มีอำนาจ ไม่มีเส้นสาย สิ่งเดียวที่คุณมีก็คือหน้าตาที่สวยงาม อะไรนะ เราควรส่งคุณออกไปต้อนรับลูกค้าและหาคู่ค้าธุรกิจให้เรางั้นเหรอ?”“ฮึฮึ... ฮ่า ๆ…..!”บอร์ดบริหารพูดคุยกันไม่หยุด และคนวัยกลางคนที่แทะโลมภาพลักษณ์ของหลี่ฮุ่ยหรานซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอถูกดูหมิ่นอย่างมาก“พวกคุณพูดจบหรือยัง?”หลี่ฮุ่ยหรานมองพวกเขาโดยไม่แสดงอารมณ์ และเมื่อพวกเขาเกือบจะหัวเราะ เธอจึงยืนอย่างภาคภูมิใจที่โต๊ะประชุมและพูดอย่างใจเย็น“นี่เป็นการตัดสินใจของตระกูลหลี่ที่ให้ฉันรับช่วงต่อกลุ่มการลงทุนในเมืองแห่งนี้ พวกคุณไม่มีสิทธิ์คัดค้าน” “นอกจากนี้ คุณเพิ่งพูดถึงความทุ่มเทของคุณต่อบริษัทหรือเปล่า?”หลี่ฮุ่ยหรานหัวเราะเยาะและพู