หลินเฟิงส่ายหน้าบอก "ไม่ใช่"หลี่ฮุ่ยหรานโล่งอกไปทีแค่แป๊บเดียว จากกำปั้นที่แน่นของเธอค่อยๆคลายออก เหมือนกับยกภูเขาออกจากอก"หลินเฟิง ฉันต้องขอโทษแทนน้องฉันด้วยจริงๆ เหวินเชาไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อย่าเอามาใส่ใจเลยนะ"ใบหน้าของหลี่ฮุ่ยหรานเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจตอนนี้ทั้งสองหย่ากันแล้ว เรื่องทั้งหมดก็เจ๊ากันไปเธอไม่อยากให้ครอบครัวของเธอไปหาเรื่องเขา"ผมขี้เกียจจะยุ่งกับเขา ถ้าเขาลำนึกแล้ว ก็อย่ามายุ่งกับผมอีก""ฉันจะเตือนเขาเอง"หลี่ฮุ่ยหรานก็ยอมรับเรื่องนี้เมื่อเอายาสมุนไพรเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็จะออกไปหลินเฟิงไม่ได้ทำการยื้อเวลาใด ๆภาพด้านหลังของหลี่ฮุ่ยหรานค่อยๆ ห่างออกไปจากนั้น ชายหนุ่มที่ย้อมผมสีเหลืองคนหนึ่งมาขวางทางของเธอเอาไว้เขายิ้มตาหยีและพูดว่า "รอก่อนนะครับคุณหลี่"หลี่ฮุ่ยหรานมองชายผมเหลืองที่ทำท่าทางทะลึ่งและถามอย่างระมัดระวังว่า "คุณเป็นใคร""ผมเป็นใครมันไม่สำคัญหรอก"ชายผมเหลืองทำท่าทะเล้น "พี่ใหญ่ของเราชื่นชมคุณหลี่มานานแล้ว อยากเชิญคุณไปพบหน่อย"หลี่ฮุ่ยหรานมองดูเขาแวบหนึ่งเขาผู้นี้มีผมสีเหลืองอร่าม ใส่ต่างหูสะดุดตาคู่หนึ่ง สักรอยสักที่มี
มุมปากของเขาเผยอขึ้นโดยไม่รู้ตัวเขาแอบยิ้มในใจ "สวรรค์ช่วยผมจริงๆ เป็นฮีโร่ที่ช่วยสาวงามมันช่างเพอร์เฟคอะไรอย่างนี้ คุณตกหลุมรักผมรึเปล่า?"ชายผมเหลืองจับหน้าอกตัวเองที่พึ่งถูกเตะไป และรู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวางเส้าหลงเขาชี้ไปที่หน้าของหวางเส้าหลงและพูดอย่างโกธรแค้นว่า "มีปัญญาแค่นี้หรอ คอยดูเถอะ""รอให้พี่ใหญ่ของกูมาจัดการกับมึง"หวางเส้าหลงเท้าสะเอวและพูดตะเบ่งเสียงออกมาว่า "กูจะรอมึงอยู่ที่นี่ ถ้ามึงไม่มานะ มึงก็เป็นหลานชายของผมแล้ว"ชายผมสีเหลืองไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะแข็งแกร่งแบบนี้ เขาจึงรีบกลับไปเรียกคนมา"ฮื้อ"หวางเส้าหลงส่งเสียงอย่างหงุดหงิด และหันไปดูหลี่ฮุ่ยหรานเขาถามเธอด้วยความใส่ใจ "ฮุ่ยหราน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"หลี่ฮุ่ยหรานส่ายหน้าไปมา แต่ดวงตาของเธอมองไปตรงหลินเฟิงที่ห่างไปไม่ไกลเธอคิดว่าหลินเฟิงจะเป็นคนที่ช่วยเหลือเธอได้ในช่วงวิกฤตแต่ในที่สุดเขาก็ยืนไม่สนใจอยู่ตรงนั้นความผิดหวังเกิดขึ้นในใจของเธอเธออาจจะไม่มีตัวตนในสายตาของเขาแล้วหวางเส้าหลงมองตามสายตาของเธอไปแล้วก็เห็นว่าหลินเฟิงอยู่ที่นี่สายตาที่อ่อนนุ่มนั้นกลายเป็นเย็นชาไปในทันที "คนแซ
ในแผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเมืองเจียงโจวหลี่ฮุ่ยหรานเอนตัวและก้มหน้าลงครุ่นคิดอะไรบางอย่างในทางเดินหวางเส้าหลงเข้ามาและถามอย่างอ่อนโยน "ฮุ่ยหราน คุณกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"หวางเส้าหลงถามหยั่งเชิง "ไม่ใช่ว่าคิดถึงหลินเฟิงอยู่เหรอ?"หลี่ฮุ่ยหรานฝืนยิ้มและส่ายหน้า "ฉันจะคิดถึงเขาทำไม""ใช่ครับ ไอ้ขยะนี่ คุณรีบลืมเขาไปเถอะ"หวางเส้าหลงดูถูกเขาและพูดต่อว่า "แม้ว่าคุณจะเป็นภรรยาเก่าของเขา แต่พอเห็นว่าคุณตกอยู่ในอันตราย เขาก็กลับไม่กล้าเข้าไปช่วย""ผู้ชายแบบนี้ไว้ใจไม่ได้เลย"หลี่ฮุ่ยหรานพยักหน้าคุณหวางถือโอกาสหยิบแหวนเพชรออกมาจากกระเป๋าของเขาเขามองเธออย่างรักใคร่ "ฮุ่ยหราน นี่คือรุ่นล่าสุดของห้างเทียนเป่าหวีอวี้หางเลยนะ ผมตั้งใจซื้อมาให้คุณโดยเฉพาะ""เดิมทีอยากซื้อเป็นของขวัญสำหรับความร่วมมือกับตระกูลถัง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสจะให้คุณเมื่อวานนี้"หลี่ฮุ่ยหรานตกใจมาก "คุณหวาง มันหมายถึงอะไร""ฮุ่ยหราน คุณไม่รู้ความหมายของน้ำใจของผมจริงๆหรอ?" สายตาของหวางเส้าหลงร้อนผ่าวมาก และจ้องมองเธออย่างตั้งใจหลี่ฮุ่ยหรานไม่กล้าสบตากลับ "คุณหวาง น้ำใจคุณฉันรับไว้แล้ว แต่ฉันคิด
แอบด่าในใจว่าจางกุ้ยหลานมันปัญญาอ่อนซะจริงๆพวกมันมีคนมากมายขนาดนั้น ตัวเขาเองจะไปต่อสู้ได้อย่างไรตอนนี้เขาจะวิ่งหนีก็ไม่ได้ ไม่หนีก็ไม่ได้ชายผมเหลืองนึกขึ้นได้ว่ามีคนหนึ่งจึงชี้ไปที่หวางเส้าหลงที่อยู่ด้านหลังและพูดว่า "พี่ใหญ่ ไอ้เหี้ยนี่ที่ตีผมเอง"ชั่วครู่หนึ่ง สายตาของคนพวกนี้ก็มองตรงไปที่เขาหวางเส้าหลงรู้สึกพะว้าพะวังอย่างมากเขากัดฟันเดินไปข้างหน้าหลี่ฮุ่ยหรานเพื่อปกป้องเธอให้หลบอยู่ข้างหลังเขาเขาจำใจต้องพูดว่า "ทุกคนต่างก็มีหน้ามีตาในสังคม""ตอนนี้เราก็อยู่ในสังคม ใช้มีดใช้ขวานมาตีกันแบบมันไม่ดีนะ ทุกคนไว้หน้าผมบ้าง ผมจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลของน้องชายคุณให้แล้วกันดีไหม""เรื่องนี้ช่างมันเถอะ""ฉาด" พี่ใหญ่ยกมือตบหน้าเขาหนึ่งทีตบหวางเส้าหลงจนมึนงงรู้สึกเวียนหัวและตาลาย"มึงคือใครวะต้องไว้หน้ามึง?"หวางเส้าหลงรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เพราะเขาถูกตบหน้าสามครั้งแล้วภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งวันเขาพูดด้วยความโกรธว่า "ผมเป็นหวางเส้าหลงของตระกูลหวาง""หวางเส้าหลงอะไรวะ กูไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน จัดการมันซะ!"พอพี่ใหญ่ออกคำสั่งลูกน้องที่อยู่ข้างหลังเขาก็รีบพุ่งเข้าไป
"ปังๆๆ"มีเสียงหนักอู้อี้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องกลุ่มอันธพาลล้มลงตามเสียงไม่มีใครต้านทานหมัดของหลินเฟิงได้เหมือนรถถังในรูปแบบมนุษย์ และกำลังจะมาชนพี่ใหญ่"ขวาง ... ขวางเขา ขวางเขา" พี่ใหญ่สะดุ้งเจ้านี้มันเหมือนหมาบ้า มันน่ากลัวมากเกินไปแล้ว กลุ่มลูกน้องกลุ่มหนึ่งอยากยื่นมือเข้ามาขวาง แต่แค่โดนชนเบาๆ ของหลินเฟิง แขนของพวกเขาก็หักทันทีหลินเฟิงมาตรงหน้าของพี่ใหญ่ ใช้มือที่มันเหมือนสร้างจากเหล็กของเขาค้ำคอของพี่ใหญ่"วู ... "พี่ใหญ่รู้สึกว่าจู่ๆ ตัวเองหายใจก็ลำบาก เขาปล่อยหลี่ฮุ่ยหรานไปโดยไม่รู้ตัวอีกมือหนึ่งก็รีบเอามือไปข้างหลังของเขาดึงมีดสปริงออกมาคมมีดเงาๆ ส่งความรู้สึกหนาวเย็นเขาด่าทอว่า "ไปตายซะ""ระวัง" หลี่ฮุ่ยหรานตะโกนเธออยากห้ามเขา แต่มันก็สายเกินไปชั่วอึดใจเดียว มืออีกข้างของหลินเฟิงบีบข้อมือของเขาอย่างแรงมีดคมกริบอยู่ห่างจากท้องของหลินเฟิงเพียงหนึ่งนิ้ว แต่มันก็ยากที่จะให้ไปไกลกว่านี้หลินเฟิงถือโอกาสบิด"ก๊อก" มีเสียงดังขึ้นแขนของพี่ใหญ่หมุนหนึ่งร้อยแปดสิบองศาแขนถูกบิดจนเสียรูป"อ้า ... มือของกู ... มือของกู ... "หลี่ฮุ่ยหรานกลืนน้ำลาย
หลัวปินชี้ไปที่พื้นและพูดทีละคำว่า "คุกเข่าขอโทษกูซะ กูจะไว้ชีวิตให้"หลังจากเขาพูดจบ หลินเฟิงยกมือขึ้นตบเขาอีกหนึ่งฉาดตบจนฟันด้านหลังสองซี่ของเขาลอยขึ้นฟ้าออกมา"กูไม่สนว่ามึงเป็นใคร""กล้าแตะหลี่ฮุ่ยหราน แม้แต่พ่อมึงมาก็ไม่เว้น"หลัวปินอึ้งไป เขาไม่เคยคิดว่าเด็กคนนี้จะกล้าโจมตีเขาหลังจากที่เขาประกาศชื่อของตัวเองไปดวงตาของเขากลายเป็นสีเลือดและเขาก็คำรามด้วยความโกรธ"แม่มึงนี่ ... วันนี้กูไม่ใช่แค่จะจัดการมึงเท่านั้น""กูยังจะทรมานหลี่ฮุ่ยหรานด้วย""รนหาที่ตายนัก"เมื่อเห็นว่าเขากล้าที่จะดุเดือดจนถึงสุด หลินเฟิงกำหมัดจนแน่นและจนเส้นเลือดปูดขึ้นมาหวางเส้าหลงตะโกนขึ้นมาเสียงดัง "คุณหลิน หยุดเดี๋ยวนี้เถอะ"หลังจากหลินเฟิงได้ยินคำพูดนี้ เขาตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองหวางเส้าหลงและพูดว่า "อะไรนะ นี่คุณอยากขอร้องให้ผมไว้ชีวิตเขางั้นหรอ"หวางเส้าหลงมองไปที่ดวงตาของเขาและพูดอย่างจริงจังว่า "คนๆนี้เป็นลูกชายของหลัวเฟยหู่ ถ้าเกิดอะไรเกิดขึ้นกับเขา พวกเราทุกคนไม่รอดแน่"จางกุ้ยหลานพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างเห็นด้วย "ใช่แล้ว หลัวเฟยหู่เป็นคนที่เราไม่ควรไปยุ่ง"หลินเฟิงจ้องมองจา
หลัวปินยังไม่ตาย แต่กระดูกสันหลังของเขาหัก และร่างกายส่วนล่างของเขาก็พิการอย่างสมบูรณ์ทุกคนจ้องมองไปที่หลัวปินที่อยู่บนผนังพร้อมกับเบิกตากว้าง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจหลินเฟิงหยิบยาสมุนไพรขึ้นมาแล้วหันหลังกลับ ไม่มีใครอย่างชายผมเหลืองหรือคนอื่นๆ กล้าหยุดเขาไว้"หลินเฟิง"หลี่ฮุ่ยหรานมองไปที่ด้านหลังของเขาและตะโกนเรียกเสียงดังหลินเฟิงไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองชายผมเหลืองมองไปที่พี่ใหญ่ที่แขวนอยู่บนผนัง และไม่รู้จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรตอนนี้มีแต่แจ้งให้ท่านหลัวทราบเรื่องนี้เท่านั้น"พวกมึง ... รอดูเถอะ ว่าพ่อพี่ใหญ่จะจัดการกับพวกมึงอย่างไร"ชายผมเหลืองพูดด้วยคำพูดที่โกธรแค้น ก่อนจะพาหลัวปินและลูกน้องคนอื่น ๆ จากไปอย่างรีบร้อนจางกุ้ยหลานเกือบจะเป็นลมเมื่อเธอได้ยินคำนี้เธอก็เคยได้ยินชื่อของหลัวเฟยหู่ได้ยินว่ามีอันธพาลคนหนึ่งลวนลามผู้หญิงของเขา หลัวเฟยหู่ตัดแขนและขาของอันธพาลคนนั้นเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนลงแม่น้ำเพื่อเป็นอาหารให้ปลาคนที่ฆ่าไม่เลือกแบบนี้ ถ้าเขากลับมาแก้แค้นตระกูลหลี่ทำยังไงดีล่ะ?"คุณหวาง คุณหวาง คุณต้องช่วยตระกูลหลี่นะ ตอนนี้ตระกูลหลี่หวังพึ่งคุณแล้วนะ"จางก
เมื่อเขาคิดว่าต้องใช้เวลาครึ่งชีวิตหลังจากนี้โดยอาศัยรถเข็นผู้ป่วย เขาแทบอยากจะฆ่าหลินเฟิงแล้วก็ถลกหนังเลาะเส้นเอ็นเขาออกมา"ใครที่กล้าทำร้ายลูกชายผมจนเป็นแบบนี้?"ชายผมเหลืองพูดอ้ำอึ้งว่า "ชายที่ชื่อว่าหลินเฟิง""เด็กชายคนนี้เป็นใคร""เด็กชายคนนี้ไม่มีอิทธิพลอะไร สิ่งเดียวที่เกี่ยวข้องกับเขาคือประธานของตระกูลหลี่ในเมืองเจียงโจว คนนี้เป็นภรรยาเก่าของเขา""ภรรยาเก่าหรอ?" หลัวเฟยหู่ตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินชายผมเหลืองไม่กล้าปิดบัง จึงบอกหลัวเฟยหู่ถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงเรื่องที่หลัวปินจีบหลี่ฮุ่ยหรานและขอให้เธอมานอนกับตัวเองหลัวเฟยหู่ทุบกำแพงด้วยหมัดเมื่อเขาได้ยินมีหลุมลึกปรากฏบนผนังบ็อกซ์"ลูกชายผมชอบเธอ นั่นถือเป็นบุญของเธอแล้ว"หลังจากพูดจบ ดวงตาที่แหลมคมคู่หนึ่งจ้องไปที่ชายผมเหลือง "ทำไมพวกแกถึงปกป้องเจ้านายน้อยไม่ได้""คือ ... ผม" ชายผมเหลืองพูดตะกุกตะกักหลัวเฟยหู่ออกคำสั่ง “โยนเขาลงไปในแม่น้ำเป็นอาหารให้ปลา”ทันทีที่พูดจบ ชายที่แข็งแกร่งสองคนจับชายผมเหลืองไว้แล้วก็ลากเขาออกไปชายผมเหลืองตะโกนเสียงแหบ "ยกโทษ ยกโทษให้ผมได้ไหมท่านหลัว สามีเก่าของหลี่ฮุ่ยหรานเขาเก่ง
“แม่งเอ๊ย พวกแกบังอาจมาก กล้าแตะต้องฉัน พวกแกรู้ไหมว่าลุงของฉันเป็นใคร?”“คนที่อยู่เบื้องหลังคุณลุงของฉันคือตระกูลหลง ถ้าหากพวกแกกล้าลงมือต่อฉันที่นี่…”ได้ยินสยงก้วนยังกล้าพูดข่มขู่ทุกคนอยู่ตรงนี้ ดินไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าไปเหยียบนิ้วมือของสยงก้วนโดยตรงเสียงดังแกร่กเหยียบจนนิ้วมือแตกหัก“อ๊ากกกกก!”นิ้วมือเชื่อมต่อหัวใจความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้สยงก้วนกุมฝ่ามือของตัวเองเอาไว้ นอนหมอบอยู่บนพื้นกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวด“คุณชายสยง ตอนนี้อยากจะคุยกับผมดีๆ แล้วยัง?”หลินเฟิงก้มตัวลง ถามด้วยสีหน้านิ่งเฉย“คุย…คุยแม่งสิ! แกคอยดูเถอะ…คอยดูเถอะ!”สยงก้วนเจ็บจนสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง พร้อมทั้งด่าทออย่างบ้าคลั่ง“ยังกล้ากำเริบเสิบสานต่อหน้านายท่านอีกงั้นเหรอ?!”ดินเหยียบลงไปอีกครั้ง ครั้งนี้ทำให้ทั้งฝ่ามือของสยงก้วนแตกละเอียดทันที ครั้งนี้สยงก้วนเจ็บจนเกลือกกลิ้งบนพื้นน้ำเสียงก็อ่อนลงในที่สุดท้าย ถึงขั้นสะอื้นไห้เล็กน้อย“พวกแกจะทำอะไรกันแน่?! พวกแก…พวกแกกล้ามาก่อเรื่องที่ตระกูลสยง พวกแกไม่อยากมีชีวิตแล้วงั้นเหรอ?”“ผมเคยพูดแล้ว คุณชายสยง พวกเรามาซื้อบ้านอย่างเป็นมิตร”
ไม่มีทางสองจิตสองใจหลินเฟิงรู้ว่าคำพูดของสองคนนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือเท่าไหร่นักแต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีที่ไปแล้วไม่เพียงทำภารกิจของตระกูลสยงไม่สำเร็จ ยังเผยความลับของตระกูลสยง ไม่ต้องพูดว่าตระกูลสยงจะยอมรับพวกเขาใหม่ ตระกูลสยงไม่หาคนมาฆ่าพวกเขาสองคนก็ถือว่าเป็นเมตตามากพอแล้วหลงซวี่จวินไม่มีทางปล่อยพวกเขาเอาไว้ประการที่สองคือ ข้อเสนอที่หลินเฟิงให้กับพวกเขานั้นมีแรงดึงดูดอย่างมากในเมื่อนักบู๊ทั่วๆ ไป ไม่มีการถ่ายทอดและสืบสานใดๆ พวกเขาอยากจะฝึกบำเพ็ญ อาศัยศิลปะการต่อสู้ขั้นต่ำที่ซื้อมาจากตลาดมืดด้วยราคาที่แพงมากสำหรับวิชาศิลปะการต่อสู้ระดับสูง ต่างเป็นสมบัติล้ำค่าภายในสำนักไม่มีทางหลุดออกมาถึงตลาดมืดต่อให้มี พวกเขาก็ใช่ว่าจะมีกำลังซื้อแต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้วถ้าหากพวกเขาติดตามหลินเฟิงงั้นหลินเฟิงเป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเทพ ศิลปะการต่อสู้ที่เขาถ่ายทอดให้ ไม่มีทางที่จะเป็นขยะที่เอามาขายในตลาดมืด โดยต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลซื้อมาดังนั้นถึงแม้พวกเขาทำเพื่อตัวเอง จึงเกาะติดต้นไม้ใหญ่อย่างหลินเฟิง ถือว่าทำตามความฝันระดับสูงสุดของพวกเขาแล้วไม่มีนักบู๊คนไหนไม่อยากเลื่อนขั้นคว
“พวกนายสองคนหัวเราะอะไร?!”บอดี้การ์ดที่นำหน้ามาจ้องมองดินกับน้ำทั้งสองคนอย่างดุดัน ก่อนที่ทั้งสองจะหยุดยิ้มอย่างรวดเร็ว แล้วส่ายหน้าบ่งบอกว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น แต่ก็ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าอยู่ในเมื่อคนสี่คนที่ยืนอยู่ต่อหน้าบอดี้การ์ดที่อวดดีกลุ่มนี้ ต่างก็เป็นนักบู๊กันทั้งหมดแถมแต่ละคนก็มีความแข็งแกร่งจนเกินเหตุอีกด้วยคำข่มขู่ของบอดี้การ์ดเหล่านี้ จึงดูตลกมากสำหรับคนทั้งสองคนเพราะอย่างนั้นจึงทนไม่ไหวหลินเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาถ้าหากเป็นไปได้ อันที่จริงเขาไม่อยากเกิดการปะทะกันเขาเพียงอยากจะได้วิลล่าที่เงียบสงบนี้มาครอบครอง และไม่อยากทำให้ที่นี่นองไปด้วยเลือดในเมื่อพรุ่งนี้ยังต้องไปรับเสวี่ยฮุ่ยกับฮุ่ยหรานและคนอื่นๆ มาอยู่ด้วยเพราะอย่างนั้นเขาจึงโบกมือและพาสองสามคนแยกไปทางด้านข้างประตูเหล็ก แล้วกลับไปที่ใกล้ๆรถ ท่ามกลางสายตาที่เหยียดหยามของบอดี้การ์ดพวกนั้น ก่อนจะติดต่อโทรหาเผิงกวงฉี่หลังจากรอจนเขาบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาแล้วเผิงกวงฉี่ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ“แม่ง ไอ้สารเลวนั้นมีชื่อว่าสยงก้วน เขาติดหนี้พนันและเป็นฉันที่ช่วยเขาจ่ายหนี้ พ่อของเขาหาเงินมาได้
“แต่หลี่ซื่อกรุ๊ปได้วางแผนไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นฉันจึงไม่ได้ขายให้กับพวกเขา”“หลังจากนั้นพวกเขาก็เสนอความร่วมมือที่จะพัฒนาร่วมกัน แต่ฉันก็ยังไม่ได้ตอบรับพวกเขา”“โอเค ผมรู้แล้ว”หลินเฟิงวางสายโทรศัพท์ พร้อมกับใบหน้าที่แสดงรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมามิน่าล่ะดูเหมือนว่าที่ดินผืนนี้ที่เขาซื้อมาจากจางกุ้ยหลาน คิดไม่ถึงว่าจะได้รับความชอบเป็นพิเศษจริงๆถึงขั้นที่ชีพจรมังกรก็ยังซ่อนอยู่ในนั้นด้วยในเมื่อชีพจรมังกรตกอยู่ในมือของเขาแล้ว งั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องยกให้กับคนอื่นจ่อให้ทำลายชีพจรมังกรเส้นนี้หลินเฟิงก็จะไม่ยกให้หลงซวี่จวินของตระกูลหลงเด็ดขาดหลังจากนั้นไม่นาน รถเก๋งสีดำก็จอดลงที่ข้างทางข้าง ๆกันนั้น ก็เป็นประตูเหล็กขนาดใหญ่ และเป็นวิลล่าเดี่ยวหลังหนึ่งที่มีพื้นที่กว้างขวางด้านหน้าและด้านหลังรายล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ โรงจอดรถ สวนสาธารณะและทุก ๆอย่างที่ต้องการถึงแม้จะไม่ได้หรูหราและใหญ่โตเท่าที่เมืองจิงอย่างตระกูลถังและตระกูลจี แต่ก็มีทำเลทางภูมิศาสตร์ที่ดีอย่างมากเงียบสงบและสง่างามถึงแม้จะอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลกันมากใช้เวลาขับรถจากอาคารหลั
“แน่นอนว่าที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังวางแผนอะไรบางอย่าง บอกว่าที่ดินผืนหนึ่งมีความสำคัญ และเพิ่งตกไปอยู่ในมือของหลี่ซื่อกรุ๊ปเมื่อไม่นานมานี้”“ตระกูลสยงพยายามที่จะซื้อมันหลายครั้ง แต่หลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ขายให้พวกเขา ดังนั้นถึงได้.....”เมื่อได้ยินแบบนี้ หลินเฟิงก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างในความคลุมเครือ เขาคิดว่าหลงซวี่จวินของตระกูลหลงนี้ จะต้องมีเป้าหมายบางอย่างที่คล้ายคลึงกับหยินหลิงอย่างมากแน่ ๆเขาหันกลับไปมองหยินหลิง ก่อนจะขมวดคิ้วถามว่า :“หยินหลิง ก่อนหน้านี้เธอเคยพูดถึงชีพจรมังกรทางโทรศัพท์ มันเรื่องอะไรกัน?”“ชีพจรมังกร?”ทางฝั่งดินและน้ำที่อยู่ด้านหน้าก็ยืดคอเพื่อแอบฟังด้วยเช่นกันแต่ทว่า ในเวลานี้หยินหลิงกลับแสดงสีหน้าวิตกกังวลออกมา แถมยังรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อยอีกด้วย“หยินหลิง?”หลินเฟิงเรียกชื่อของเธออีกครั้ง หลังจากนั้นเธอถึงตอบสนองกลับมา“ขอโทษ พี่หลินเฟิง ฉันคิดว่า....ตอนนี้พวกเราไม่ควรไปยั่วโมโหตระกูลสยงนะ”ใครจะคิดว่า เธอเปิดปากก็โน้มน้าวให้หลินเฟิงยอมแพ้“ทำไม?”หลินเฟิงตะลึงงัน“หลงซวี่จวิน”หยินหลิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดด้วยแววต
หลินเฟิงบดขยี้วิทยุสื่อสารที่อยู่ใต้เท้า ก่อนจะมองไฟที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่ทางด้านหลัง ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่หญิงสาวในชุดสีขาวที่เพิ่งจะปรากฏตัวที่หลี่ซื่อกรุ๊ปและไล่ล่าน้ำจนไม่มีทางตันนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหยินหลิงผู้นำคนปัจจุบันของพันธมิตรบู๊ เรื่องราวบังเอิญแบบนี้นี่แหละหยินหลิงกับฉู่ฮวาจิ่นนั้นมีการติดต่อกันอย่างลับ ๆฉู่ฮวาจิ่นได้รู้จากหลินเฟิงว่าตระกูลสยงต้องการที่จะจัดการเขา จึงได้โทรหาหยินหลิงที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองเจิ้งเต๋อทันทีคราวนี้เป้าหมายของหยินหลิงกับหลงซวี่จวินก็เหมือนกันทั้งหมดนี้ก็เพื่อชีพจรมังกร เมื่อหยินหลิงได้ยินว่าหลินเฟิงอาจจะตกอยู่ในอันตราย จึงรีบเข้ามาทันทีดังนั้นสายเรียกเข้าที่หลินเฟิงได้รับที่โรงจอดรถชั้นใต้ดินเมื่อสักครู่นั้นก็เป็นหยินหลิงที่โทรมาหาหลินเฟิงจึงมีความคิดเพิ่มขึ้นมาทันทีในเวลานั้นเขาให้หยินหลิงตามมา ช่วยเขาปกป้องหลี่ซื่อกรุ๊ปส่วนเขาก็ไปทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อ เพื่อที่จะดูว่าตระกูลสยงกำลังเล็งเป้าหมายไปที่ใครกันแน่ผลสุดท้ายแล้ว ก็ออกมาเกินความคาดหมายของหลินเฟิงคนของสยงซื่อกรุ๊ปไม่เพียงแต่จะจัดการกับเขาเท่านั้น อ
มีความเชื่อมั่นจากประสบการณ์ที่ผ่านมาพวกเขากล้าที่จะลงมือต่อหลินเฟิงคิดไม่ถึงว่า ตอนนี้ลมหายใจของหลินเฟิงที่อยู่อีกฝ่ายของโทรศัพท์ยาวเหยียด พูดจาเป็นธรรมชาติอย่าว่าแต่บาดเจ็บจนลมหายใจไม่คงที่แม้แต่ทำให้เขาหายใจหอบสักนิดก็ไม่มีพี่น้องของตัวเองสองคนตายไปแล้วการโจมตีแบบนี้ แทบจะทำให้เขาเสียสติไปในทันที“พี่ใหญ่ พี่มาสักที เร็ว…ช่วยผมด้วยไกลออกไปน้ำที่พกระเบิดอยู่เต็มตัว หายใจหอบวิ่งเข้ามา และที่ด้านหลังของเขา กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งสวมผ้าโปร่งสีขาวถือดาบในมือไล่ตามเขามา“หึ นายก็คือพี่ใหญ่ของเขางั้นเหรอ?”ผู้หญิงคนนั้นหยุดยืนนิ่ง มองดินที่เหม่อลอยอยู่ด้วยความเย็นชา“ฉัน…”ดินอ้าปาก พบว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออกทั้งนั้นความสามารถของหลินเฟิง ทำลายความเชื่อมั่นของเขาถ้าหากพูดว่าภายใต้ระเบิดแบบนั้น ยังคงทำร้ายเขาไม่ได้ งั้นก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียว…“นักบู๊ขอบเขตเทพ”กินพูดพึมพำกับตัวเอง“พี่ใหญ่ พี่พูดจาเหลวไหลอะไร? รีบขวางเธอไว้สิ!”น้ำเห็นพี่ใหญ่ของตัวเองยืนเหม่ออยู่ที่เดิมเหมือนกับคนปัญญาอ่อน เขาร้อนใจจนเกือบจะสบถด่าออกมา“ฉันบอกว่า…หลินเฟิงที่เราจะจัดการ คือนักบู๊
ในวิทยุสื่อสารมีเสียงลูกน้องของตัวเองดังขึ้นมาดินคนนั้นที่ถูกเรียกว่าพี่ใหญ่ พยักหน้าพูดว่า:“ทำได้ไม่เลว แต่ยังต้องตรวจสอบต่อไป หลินเฟิงคนนั้นความสามารถไม่ธรรมดา ไม่แน่เขาอาจจะหนีตายไปได้จริงๆ”“วางใจเถอะพี่ใหญ่ ต่อให้เขารอดมาได้ แต่ถูกระเบิดที่รุนแรงโจมตี ต่อให้เพียงพอที่จะรอดมาได้ ก็ไม่มีทางที่จะมีโอกาสต่อต้านอะไรได้แล้ว”ชายวัยกลางคนที่ชื่อว่าลมค่อนข้างสุขุมเขาพูดอย่างเรียบเฉยว่า:“ผมกับไฟจะรออยู่ที่นี่ ตรวจสอบศพด้วยตนเอง”“ดี”พี่ใหญ่ที่ชื่อดินพยักหน้า นี่เป็นวิธีที่รอบคอบที่สุด“น้ำ นายวางระเบิดเป็นยังไงบ้างแล้ว?”“พี่ใหญ่ เชี่ย ผมถูกจับได้แล้ว!”ในวิทยุสื่อสารมีเสียงหายใจหอบ เห็นได้ชัดว่าผู้ชายที่ชื่อน้ำกำลังวิ่งหนีอย่างเต็มแรง“ถูกจับได้แล้ว? นายอยู่ที่ไหน ฉันจะไปหนุนกำลังนาย!”“ผมอยู่ที่บ่อน้ำพุตรงสวนชั้นล่างของหลี่ซื่อกรุ๊ป มีผู้หญิงที่น่าหวาดกลัวมากคนหนึ่ง ตามผมมาตลอด!”“ทำยังไงผมก็สลัดเธอไม่หลุด!”“ผู้หญิงที่น่ากลัวมาก?!”ดินได้ฟังก็นิ่งอึ้งเล็กน้อยต้องรู้ว่า ความสามารถของพวกเขาสี่คนต่างอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นสูงสุด ถึงขั้นที่เขายังเป็นขั้นเซียนเทียนต้
“ผมจะให้คนของแผนกรักษาความปลอดภัยทั้งหมดตามมา ปกป้องหลี่ซื่อกรุ๊ป ถ้าหากพวกเขาจะจัดการผม ที่นี่ก็จะไม่เป็นอะไร”“แต่ถ้าหากผมออกไปแล้ว พวกเขาจะจัดการหลี่ซื่อกรุ๊ป งั้นก็แสดงว่าพวกเขาพุ่งเป้ามาที่หลี่ซื่อกรุ๊ป“อืม หน่วยลับของตระกูลถังที่ฉันพามาก็จะช่วยปกป้องที่นี่”ถังหว่านพยักหน้าพูด“หน่วยลับ?”หลินเฟิงนึกถึงหน่วยลับของตระกูลถังก่อนหน้านี้ พูดได้ว่าถึงแม้จะมีความสามารถ แต่ภายนอกกลับเละเทะไปหมดดังนั้นเขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักแน่นอนว่า ตอนนี้ต่อให้กำลังน้อยแค่ไหนก็ต้องให้ความสำคัญ มีพวกเขาอยู่ ก็มีการรับรองเพิ่มมากขึ้นหลินเฟิงพยักหน้า และไม่ได้เสียเวลา เขานั่งลิฟต์ลงไปยังที่จอดรถใต้ดินโดยตรงในตอนที่เขากำลังจะขึ้นรถ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นไม่นานนัก รถออดี้คันหนึ่งก็ขับออกจากอาคารใหญ่ของหลี่ซื่อกรุ๊ปชายวัยกลางคนใช้ผ้าคลุมหน้ายืนอยู่บนอาคารสูงที่ไหลออกไป และซ่อนตัวอยู่หลังกระจกที่สะท้อนแสง เก็บกล้องส่องทางไกลที่อยู่ในมือเขาหยิบวิทยุสื่อสาร ใช้รหัสลับแจ้งเตือนเพื่อนร่วมแก๊งคนอื่นๆว่า:“หลินเฟิงออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ย้ำ หลินเฟิงเป้าหมายได้ออกจากหลี่ซื่อกรุ๊ปแล้ว”“ร