แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: เสี่ยวฉู่
ตอนนี้หลินเฟิงกําลังหลับตาพักผ่อนอยู่บนรถ

เสียงโทรศัพท์ปลุกให้เขาตื่น

คาดไม่ถึงว่าหลี่ฮุ่ยหรานจะโทรมา

เขารับสายก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาชองเธอ “หลินเฟิง คุณกำลังอยู่กับประธานจ้าวเหรอ”

“หลินเฟิงมองไปที่จ้าวเทียนหวาที่อยู่ข้างๆเขา “ใช่”

หลี่ฮุ่ยหรานหายใจเข้าลึกๆ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

หลี่เหวินเชาไม่ได้โกหก

“หลินเฟิง คุณทำให้ฉันผิดหวังมาก คุณมีอะไรไม่พอใจสามารถพูดกับฉันตรงๆได้”

“ทำไหมถึงต้องใส่ร้ายตระกูลหลี่ลับหลังแบบนี้หรอ”

หลินเฟิงนวดขมับและพูดว่า “ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ใส่ร้ายตระกูลหลี่ คุณจะเชื่อผมไหม”

หลี่ฮุ่ยหราน “งั้นทำไมประธานจ้าวมาถึงที่ตระกูลหลี่แล้วจู่ๆก็ออกไปล่ะ แถมยังต้องการยุติความร่วมมือกับตระกูลหลี่ด้วย”

“จ้าวเทียนหวาจะเลือกทำอะไรเป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับผม”

หลี่ฮุ่ยหรานโกรธมาก คิดว่าหลินเฟิงกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ

เธอกัดฟันแล้วพูดทีละคำว่า “ฉันดูคุณผิดไปจริงๆ”

น้ำเสียงของหลินเฟิงเย็นลง “คุณเชื่อแต่ตัวเองอยู่ตลอด ไม่เคยคิดจะเข้าใจความจริง”

“ผมไม่รู้ว่าหลี่เหวินเชาได้พูดอะไรกับคุณ และก็ไม่อยากอธิบายเรื่องนี้ด้วย”

“ต่อไปอย่าเอาเรื่องแบบนี้มายุ่งผม”

พูดจบ เขาก็วางสาย

เส้นเลือดสีเขียวที่แขนโปนยกขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

สามปีที่ผ่านมา คาดไม่ถึงเลยว่าตัวเองไม่เคยได้รับความไว้วางใจจากหลี่ฮุ่ยหรานเลย

แค่ความสงสัยเล็กน้อยก็โทษเขาทั้งหมด

ในใจเธอคงคิดว่าเขาเป็นคนกากๆที่เกาะผู้หญิงกินมั้ง

จากบทสนทนาเมื่อกี้ จ้าวเทียนหวาก็เดาได้เลยว่าคือตระกูลหลี่โทรมา

เขาถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณหลิน ต้องให้บทเรียนกับตระกูลหลี่บ้างไหม”

หลินเฟิงถอนหายใจและโบกมือ “ช่างเถอะ ต่อไปอยู่ให้ห่างจากตระกูลหลี่ก็พอแล้ว”

เขาไม่ได้อยากทำร้ายตระกูลหลี่ ที่เหลือก็ปล่อยให้พวกเขาทำเองรับเองไปเถอะ

รถยนต์โรลส์-รอยซ์ขับเข้ายังมิด-เลเวลวิลล่าอย่างช้าๆ

ดูเหมือนว่าคนรับใช้จะได้รับแจ้งมาแล้ว จึงต้อนรับทั้งสองคนเข้าไปห้องรับแขกทันที

“ท่านทั้งสองรออยู่ที่นี่สักพักนะคะ ฉันจะไปแจ้งคุณปู่ว่าพวกท่านมาแล้ว”

หลังจากเทชาให้เขาทั้งสองเสร็จ คนรับใช้ก็หันหลังขึ้นไปชั้นบน

หลินเฟิงมองไปรอบๆแล้วพูดเบาๆว่า “ตระกูลถังดูเหมือนไม่ค่อยมีคนนะ”

จ้าวเทียนหวา: “คุณหลินอย่าดูถูกตระกูลหลินมาก ถังว่านหลี่เป็นเพียงตัวแทนของตระกูลถังในเจียงโจวเท่านั้น”

“ครอบครัวของเขามีอำนาจยิ่งใหญ่ในเมืองกลาง”

“คุณหนูของตระกูลถัง ถังหว่าน ก็มีความสามารถมากเหมือนกัน ก่อตั้งการค้าข้ามชาติด้วยตัวคนเดียวเมื่อห้าปีก่อน มีสินทรัพย์หลายหมื่นล้าน”

“ยิ่งเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของหัวหน้าเจียงโจว ศิลปะการต่อสู้ยอดเยี่ยมเกินคนทั่วไป ถ้าไม่ใช่เพราะป่วยหนัก คงจะเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ของเจียงโจว” หลินเฟิง จิบชาแล้วยิ้ม:“คุณชื่นชมคุณหนูตระกูลถังมากเลยนะ”

“หลี่ฮุ่ยหรานเป็นอย่างไรเมื่อเปรียบเทียบกับเธอ”

“ฮ่าๆๆ...”

จ้าวเทียนหวาหัวเราะ “ก็เหมือนกับเอานกกาเหว่าไปเปรียบเทียบกับฟีนิกซ์”

ยังไงหลินเฟิงก็หย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว เขาก็พูดตรงๆโดยไม่เกรงใจ”

ทันใดนั้นจ้าวเทียนหวาก็กลอกตาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณหลินหล่อ จิตใจแข็งแกร่งและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างใจกว้าง เป็นคนยอดเยี่ยมมากคนหนึ่ง”

“คุณหนูตระกูลถังเป็นคนสวยและมีความสามารถ”

“หากคุณทั้งสองได้แต่งงานกัน จะต้องเป็นเรื่องที่ดีและเป็นมงคลมาก”

“คุณหลินถ้าสนใจ ผมยอมเป็นพ่อสื่อ”

“คึกๆ”

หลินเฟิงเกือบจะสําลักน้ำชาตาย จ้องมองเขาแวบหนึ่ง

“เรื่องผมคุณอย่ากังวลเลย สนใจเรื่องตัวเองก็พอ”

จ้าวเทียนหวาเกาหัวอย่างอึดอัดใจ ไม่คิดว่าคุณหลินไม่ได้มีความคิดอะไรเลย

เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังขึ้น

จ้าวเทียนหวาลุกขึ้นต้อนรับด้วยรอยยิ้มทันที “คุณปู่ถัง”

ถังว่านหลี่จับมือเขาไว้และพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พี่จ้าว หมอเทวดาที่คุณพูดอยู่ที่ไหน”

จ้าวเทียนหวารีบแนะนำขึ้น “ท่านผู้นี้คือหลินเฟิง คุณหลิน เคยอาศัยอยู่ที่ทะเลจีนใต้เพื่อหลีกเลี่ยงโลกและปฏิบัติธรรม มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม

ถังว่านหลี่เห็นหลินเฟิงยังหนุ่มขนาดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็หยุดทันที พูดด้วยเสียงเบาๆว่า “พี่จ้าว คุณไม่ได้ล้อเล่นกับผมใช่มั้ย

“คนนี้หนุ่มเกินไปมั้ง”

จ้าวเทียนหวารีบขัดเขา และพูดอย่างจริงจังว่า “คุณปู่ถัง ที่ผมพูดเป็นความจริง ถ้าคุณหลินรักษาโรคของคุณถังไม่ได้”

“ในโลกนี้คงไม่มีใครสามารถรักษาได้อีก”

ในใจถังว่านหลี่ไม่เชื่อเลยว่าหลินเฟิงเป็นหมอเทวดา แต่ในเมื่อจ้าวเทียนหวารับประกัน

เขามีแต่ต้องลองดู

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ขอเชิญคุณหลินตามผมมาเถอะ”

หลินเฟิงพูดเบาๆ “ขอเชิญคุณปู่ถังนำทางด้วย”

เขาทั้งสองเดินตามถังว่านหลี่

เดินมายังห้องผู้ป่วยชั้นสองห้องหนึ่ง

หลินเฟิงมองไปและเห็นบนเตียงมีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่

ผิวขาวเหมือนหิมะไร้ที่ติ

มีดวงตาสดใส สันจมูกสูงและหน้าตาสวยงามมีเสน่ห์

อย่างที่จ้าวเทียนหวาพูดไว้จริงๆ ช่างสวยงามมากๆ

แม้ว่าร่างกายของเธอจะผอมบางและป่วย แต่ก็ยากที่จะปกปิดอารมณ์ที่เย็นชาและสูงส่ง

ตรงกันข้ามกลับมีเพิ่มความสวยงามบางอย่าง

ข้างเตียงยังมีผู้หญิงในชุดสูทคนหนึ่งยืนอยู่ ดูเหมือนบอดี้การ์ด

ถังว่านหลี่รีบเดินมาในข้างๆของลูกสาวและปลอบใจว่า “หว่านเอ๋อ คุณลุงจ้าวได้หาหมอเทวดาคนหนึ่งมา ครั้งนี้โรคของคุณต้องรักษาหายแน่”

ถังหว่านมีรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย “ขอบคุณคุณลุงมากค่ะ”

โรคของตัวเธอเองเธอรู้ดีที่สุด ห้าปีมานี้มีหมอเทวดามากมายมารักษาก็ช่วยอะไรไม่ได้

ครั้งนี้เธอก็ไม่ได้มีความคาดหวังอะไร แค่แสดงความขอบคุณในเชิงสัญลักษณ์

“คุณถังเกรงใจมาก”

จ้าวเทียนหวามองไปที่หลินเฟิง “คุณหลิน อาการป่วยของคุณถังฝากให้คุณแล้วนะ"

หลินเฟิงพยักหน้า ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงใจและวางมือบนข้อมือของถังหว่าน

ถังหว่านอึ้ง ไม่คิดว่าหมอเทวดาที่พวกเขาพูดจะหนุ่มขนาดนี้

หลินเฟิงบางทีก็ขมวดคิ้ว บางทีก็ผ่อนคลาย

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถามว่า “คุณถังชอบฝึกศิลปะการต่อสู้”

ถังหว่านเปิดปากตอบเบาๆ “ตอนเด็กได้ฝึกศิลปะการต่อสู้นิดหน่อยกับอาจารย์ แต่ก็เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นเท่านั้น”

“ฝึกถึงระดับพลังไหนแล้วครับ”

ถังหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย “ระดับสูงสุด”

“หมอเทวดาทำไมไม่สอบถามอาการป่วยฉัน แต่กลับถามความสำเร็จของศิลปะการต่อสู้ของฉันล่ะ”

หลินเฟิงยิ้มอย่างมั่นใจ “เพราะโรคของคุณก็เนื่องจากการฝึกศิลปะการต่อสู้จึงป่วย”

“อะไรนะ”ทุกคนตกใจมาก

การฝึกศิลปะการต่อสู้สามารถทำให้คนป่วยด้วยเหรอ

“พูดจาไร้สาระ”

หญิงสาวในชุดสูทตะโกนออกมา “ศิลปะการต่อสู้ที่พี่หว่านเอ๋อฝึกเป็นหัตถ์สายฟ้าของบ้านฉัน ถ้าเป็นเพราะการฝึกศิลปะการต่อสู้แล้วทำไมคุณพ่อของฉันไม่ได้ป่วยล่ะ”

“เทคนิคกังฟูไม่ใช่ใครๆก็สามารถฝึกได้เลย”

หลินเฟิงพูดเบาๆ “ที่ถังหว่านฝึกนั้นเป็นกังฟูที่หยางสุด แต่ร่างกายผู้หญิงเป็นที่หยินสุด ทั้งสองแรงขัดแย้งกัน ก็จะทำให้ชี่และเลือดไหลย้อนและเส้นเลือดอุดตัน”

“และระดับศิลปะการต่อสู้ของคุณถังก็ไม่ต่ำนัก และเธอก็ฝึกถึงระดับสูงสุดแล้ว ทั้งสองแรงไม่สามารถย้อนกลับได้

“ตอนนี้เป็นอัมพาตอยู่บนเตียงก็ถือเป็นอาการเบาแล้ว อาการหนักคือชี่ของตันเถียนหายหมด เส้นลมปราณระเบิด การบำเพ็ญก็สูญเสียหมด และชีวิตก็ตกอยู่ในอันตราย

หลินเฟิงพูดจบก็มองไปที่หญิงสาวในชุดสูท “คุณก็หยุดฝึกต่อดีกว่า ไม่งั้นไม่เกินสามปี จะเป็นอัมพาตแน่นอน

“ไอเหี้ย”

หญิงสาวในชุดสูทตะโกนด้วยความโกรธและตบหน้าหลินเฟิง

เธอเองกับถังหว่านใกล้ชิดกันเหมือนพี่สาว ไม่เพียงฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยกันตามคุณพ่อ แม้ถังหว่านป่วย ตัวเองก็อยู่เคียงข้างเธอเสมอ

เด็กคนนี้จงใจทำร้ายความสัมพันธ์ระหว่างเราแน่นอน

เธอไม่เชื่อคำพูดของหลินเฟิงเลย

เห็นได้ชัดว่าเขาบอกว่าเทคนิคกังฟูของบ้านเธอเป็นกังฟูวิชามาร

ถ้าไม่ให้บทเรียนกับเขาสักหน่อย ก็จะไม่สามารถปลดปล่อยความเกลียดชังภายในใจ

“หยุด” จ้าวเทียนหวาตกใจมาก

ไม่คาดคิดว่าบอดี้การ์ดของถังหว่านจะกล้าลงมือกับหลินเฟิง

เขาไม่ได้เป็นห่วงหลินเฟิง แต่เป็นห่วงเด็กสาวคนนี้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 4

    “ปัง ๆ ๆ” เสียงระเบิดที่ต่อเนื่องกันดังขึ้นลมฝ่ามือของฉินอิ๋งเหมือนมีดพลังแข็งแกร่งและเผด็จการทั้งสองได้เผชิญหน้าแลกเปลี่ยนกันมากกว่าสิบกระบวนท่าหลินเฟิงไม่มีความคิดที่จะฆ่าเธอ แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้นแม้ว่าการบำเพ็ญของเขายังไม่ฟื้นตัว แต่ฉินอิ๋งก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา “ฉินอิ๋ง หยุดนะ”ในเวลานี้ ถังหว่านที่อยู่บนเตียงตะโกนอย่างรุนแรงฉินอิ๋งได้ยินแล้วจึงหยุดการโจมตีทันทีมองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจ “พี่หว่านเอ๋อ เด็กคนนี้...” “พอแล้ว”ถังหว่านพูดเบาๆว่า “หมอเทวดาหลินมารักษาโรค อย่าหยาบคายใส่เขา”คุณพ่อของฉินอิ๋งเป็นอาจารย์ของเธอเอง คำพูดของหลินเฟิงทำให้เธอไม่สบายใจแต่ในฐานะที่เป็นคนแรกในสามรุ่นของตระกูลถัง เป็นอัจฉริยะทางศิลปะการต่อสู้ คิดอย่างใจเย็นเป็นสิ่งที่เธอควรทำ ในการต่อสู้ที่เมื่อกี้ถังหว่านก็สามารถดูออกว่าหลินเฟิง ดูคล่องตัว ความสามารถไม่ธรรมดาแต่ดูเหมือนเขาไม่ได้สู้กับฉินอิ๋งอย่างเต็มที่ถ้าเขาสู้เต็มที่ ฉินอิ๋งต้องแพ้แน่ และนี่คือสาเหตุที่เธอพูดให้หยุดสำหรับคำสั่งของถังหว่าน ฉินอิ๋งไม่กล้าไม่ทำตาม จึงได้แต่ถอยหลังไปอย่างเงียบๆถังหว่า

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 5

    “ดูพอหรือยัง”ฉินอิ๋งที่อยู่ข้างๆเห็นเขาจ้องมองถังหว่านอย่างตั้งใจ อดไม่ได้ที่พูดแม้ว่าศิลปะการต่อสู้ของหลินเฟิงจะเก่งมาก แต่เธอก็ยังสงสัยว่าวิธีการรักษาด้วยถอดเสื้อผ้านี่เขาคนนี้ตั้งใจอยากจะเอาเปรียบถังหว่านหรือเปล่าหลินเฟิงยิ้มเบาๆ สีหน้าไม่มีความอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อยและชื่นชมจากใจจริงว่า “คุณถังสวยมากๆครับ ผมอดไม่ได้ที่จะดูไปหลายครั้ง” “ฮา ฮา”ถังหว่านยิ้ม “หมอเทวดาหลินก็พูดตรงไปตรงมามากนะ”เธอไม่คิดว่าหลินเฟิงจะยอมรับอย่างใจกว้างขนาดนี้ไม่เหมือนพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นสุภาพบุรุษ กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ “ตราบใดที่หมอเทวดาหลินสามารถรักษาโรคฉันหาย อยากดูอย่างไรก็ได้”ถังหว่านสายตาอ่อนโยนมีเสน่ห์ มุมปากมีรอยยิ้มที่น่าสนใจ “ไม่จำเป็นหรอก ของที่สวยงามดูเพียงครั้งเดียวก็ประทับใจมากเพียงพอแล้ว”หลินเฟิงส่ายหัวเอาเข็มเงินเข็มออกมาปลายนิ้วผ่านหน้าอกถังหว่าน สัมผัสได้ถึงความเย็นบนผิวที่เรียบเนียนและละเอียดอ่อนเข็มหนึ่งฝังในจุดเฟิงฝู่ถังหว่านหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายสั่นอย่างควบคุมไม่ได้หลินเฟิงเอาเข็มเงินหนึ่งออก กดนิ้วมือลงไปเรื่อยๆผ่านท้องน้อยของเธอ ฝังเข็มอีกหนึ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 6

    หลินเฟิงเพิ่งเดินออกจากประตูใหญ่ของตระกูลถัง โรลส์-รอยซ์คันหนึ่งขับมาจากข้างหลังและจอดอยู่ข้างๆเขาประตูรถเปิดออก ถังหว่านเดินลงมา “บ้านคุณหลินอยู่ที่ไหนคะ ให้ฉันไปส่งไหม”หลินเฟิงคิดสักพักแล้วถอนหายใจ “ตอนนี้ไม่มีที่อยู่ คิดว่าจะพักที่โรงแรม”ตัวเขาเองอยู่ที่เจียงโจวไม่ได้ซื้อบ้านไว้เลย เมื่อหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้วเขาก็จะไม่กลับไปตระกูลหลี่อีก “อึม...”ถังหว่านอึ้ง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเยอะ “นี่พอดีเลย ตระกูลถังเรามีโรงแรมห้าสิบกว่าแห่งในเจียงโจว” “ให้ฉันจัดการให้คุณหลินเถอะ เมื่อเสวียนหลิงโสมถึงแล้ว ก็พอดีส่งไปให้คุณเลย” “ก็ได้”หลินเฟิงคิดไปคิดมาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเขานั่งที่เบาะข้างหลังกับถังหว่าน ฉินอิ๋งเป็นคนขับรถเมื่อถึงประตูเขตวิลล่า ฉินอิ๋งก็จอดรถ “เกิดอะไรขึ้น”ถังหว่านถาม “ข้างหน้ามีรถคันหนึ่ง ไม่รู้ทำไมช้า”ฉินอิ๋งบ่นหลินเฟิงมองไปข้างนอกผ่านหน้าต่างรถ เห็นมีชายสวมชุดสูทคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูห้องรักษาความปลอดภัย “แจ้งคุณปู่ถัง ว่าหวางเส้าหลง นายน้อยของตระกูลหวางในเจียงโจวขอมาเยี่ยม”พูดจบก็เอาเงินสดก้อนหนึ่งยื่นให้พนักงานรักษาความปลอดภัยพนักงานรักษาความปล

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 7

    หลี่เหวินเชาไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย พูดเสียงดังว่า “คนกากๆอย่างคุณกล้ามาชี้นิ้วสั่งผมเหรอ” “วันนี้กูต้องให้บทเรียนมึงแทนพี่สาวกู”หลินเฟิงเตะท้องของเขาด้วยขาเดียวหลี่เหวินเชาบินออกไปเหมือนโดนระเบิด “อา”แฟนสาวตัวเล็กของหลี่เหวินเชากลัวจนหน้าซีดวิ่งโซซัดโซเซไปยังข้างๆของหลี่เหวินเชา ถามด้วยความกลัว ที่รัก คุณเป็นอย่างไรบ้าง”สีหน้าถังหว่านมีรอยยิ้มที่เย็นชาเด็กชายคนนี้กล้าต่อสู้กับหลินเฟิงด้วย ช่างกล้าหาญเกินแต่สิ่งที่เธออยากรู้อยากเห็นมากคือ หลี่ฮุ่ยหรานที่หลินเฟิงพูดถึงเป็นใคร “ไอเหี้ย”หลี่เหวินเชาใบหน้าบิดเบี้ยว ที่ท้องมีความเจ็บปวดที่รุนแรง รู้สึกลําไส้เกือบจะถูกเตะจนด้วยดวงตาที่มืดมนจ้องไปที่หลินเฟิง “คุณ...คุณกล้าเตะผมเหรอ”หลินเฟิงใจเย็นลง “แต่ก่อนคือเห็นแก่พี่สาวคุณ ผมจึงไม่ได้จริงจังกับคุณ” “ตอนนี้ผมไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลหลี่อีกต่อไปแล้ว หากคุณยังกล้าหยาบคายต่อหน้าผมแบบนี้อีก ผมจะเอาคุณตาย”มองดูสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของหลินเฟิงหลี่เหวินเชาสั่น คําสบถที่อยากจะพูดถูกกลืนลงไปหันหน้ามองไปที่ถังหว่านและตะโกน “นี่คุณมาทำอะไร กูมาใช้บริการที่นี่

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 8

    ตอนหัวค่ำ หลินเฟิงได้นั่งแท็กซี่มาถึงวิลล่าบรรพบุรุษของตระกูลหลี่ไม่คิดว่าจางกุ้ยหลานได้รออยู่ที่ประตูตั้งนานแล้วเมื่อเห็นหลินเฟิงมาถึง เธอก้าวเข้าไปเตือนทันทีว่า “หลินเฟิง เดี๋ยวเมื่อเห็นคุณปู่ อะไรควรพูด และอะไรไม่ควรพูด ฉันหวังว่าคุณรู้ดี” “หากคุณกังวลขนาดนี้จริงๆ งั้นก็ไล่ผมไปดีกว่า” หลินเฟิงยิ้ม “คุณ....”จางกุ้ยหลานจ้องมองหลินเฟิง ไม่คิดว่าเขากล้าพูดอย่างนี้กับเธอหลินเฟิงไม่สนใจเธอ เดินเข้าตรงวิลล่าไปในหย่ากับหลี่ฮุ่ยหรานแล้ว นอกจากคุณปู่หลี่ เขาก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจใครพอเข้าไปถึง ก็เห็นคุณปู่คาดผ้ากันเปื้อนที่เอวและได้จัดอาหารไว้เต็มโต๊ะ “คุณปู่ วันนี้เป็นวันอะไรนะ ทำอาหารไว้เยอะจัง”หลี่ไห่ซานพอเห็นหลินเฟิงก็รีบดึงมือเขา ยิ้มและพูดว่า “เสี่ยวเฟิงนะ คุณมาแล้ว” “เดี๋ยวคุณก็รู้”สองคนนั่งคุยกัน จางกุ้ยหลานคอยจับจ้องหลินเฟิง กลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่ไม่ควรพูดสักพักหนึ่ง หลี่ฮุ่ยหรานก็มาถึงหลินเฟิงอยู่ที่นี่ด้วย อย่างที่เธอคาดไว้เมื่อก่อนก็คือคุณปู่สนับสนุนอย่างเต็มที่ที่ให้เธอแต่งกับเขาคุณปู่ของเธอเองให้ความสำคัญกับเขามากเนื่องจากรู้ถึงจุดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานจ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 9

    หลินเฟิงมองดูคุณปู่หลี่ที่น่าสงสารถึงแม้เขาสามารถยอมรับตัวเองได้ แต่ตระกูลหลี่ไม่สามารถยอมรับได้การสมรสไม่ใช่เรื่องระหว่างคนสองคน แต่เป็นเรื่องระหว่างสองครอบครัว “คุณปู่ ผมหมดวาสนากับตระกูลหลี่แล้ว ช่างเถอะครับ”พูดจบ หลินเฟิงก็เดินจากไปอย่างไม่คิดจะหันหลังกลับหลี่ไห่ซานเดินโซเซสักพักหนึ่ง เกือบจะล้มลงกับพื้นโชคดีที่หลี่ฮุ่ยหรานมองเห็นทัน และก้าวไปข้างหน้าจับเขาไว้ทันดวงตาของหลี่ไห่ซานเสียสติ พึมพําอย่างต่อเนื่องในปากว่า "ตายแล้ว ตายแล้ว ตระกูลหลี่ต้องพังแล้ว"เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ “คุณปู่ นี่คุณพูดอะไรกัน” “บอกจริงๆนะ วันนี้หวางเส้าหลงยังตั้งใจช่วยฉันในการสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลถังด้วย” “อีกไม่นาน ตระกูลหลี่ก็จะกลายเป็นตระกูลชั้นนําของเจียงโจว” “ฮาฮา...”คุณปู่หลี่หลังจากได้ยินก็หัวเราะอย่างเย็นชา “คุณหวางคนนั้นหน่ะเหรอ” “ใช่ค่ะ” “เมื่อเทียบกับหลินเฟิงแล้ว หวางเส้าหลงคนนั้นไม่มีอะไร”คุณปู่หลลี่สะบัดแขนเสื้อ ไม่มีอารมณ์จะทานข้าวแล้ว กลับไปที่ห้องด้วยความโกรธหลี่ฮุ่ยหรานถอนหายใจยาว “ก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณปู่ให้ความสำคัญกับหลินเ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 10

    หลินเฟิงยิ้ม “ผมก็ไม่ได้จีบเธอ จะอิจฉาผมทำไม” “แม้ว่าจะพูดอย่างนี้ก็เถอะ แต่พี่หว่านเอ๋อมีคู่หมั้นอยู่แล้ว คุณสามารถรับประกันได้ไหมว่าเขาจะไม่คิดอะไรเกินเลย”ฉินอิ๋งถอนหายใจ “คู่หมั้นของพี่หว่านเอ๋อเป็นนายน้อยของตระกูลหรงในเมืองหลวง” “คนนี้ใจร้ายมาก ผู้ชายทั้งหมดที่เคยพยายามเข้าใกล้พี่หว่านเอ๋อ ไม่รู้ว่าตายยังไง”ในฐานะที่เป็นบอดี้การ์ดของถังหว่าน ความลับเหล่านี้เธอก็รู้มาบ้างเธอก็ไม่หวังว่าอัจฉริยะศิลปะการต่อสู้อย่างหลินเฟิงจะตายในมือของตระกูลเย่ไม่ว่ายังไงคนที่เก่งกว่าหลินเฟิงมีเยอะในเจียงโจว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคุณหรงที่เมื่องหลวงตัวฉันเองเตือนคุณด้วยความใจดี “ฮึ่ม”หลินเฟิงออกเสียงเย็นฮึ่ม ดวงตาเต็มไปด้วยความดูถูก “ไม่มายั่วยุผมก็พอ” “หากกล้ามายั่วยุผม มังกรแท้ๆก็เปลี่ยนกลายเป็นหนอนได้”ฉินอิ๋งกลืนน้ําลาย น้ำเสียงนี้หยิ่งผยองมากจริงๆก็ไม่รู้ว่าพอถึงตระกูลหรงมาจริงๆ เขายังคงหยิ่งผยองแบบนี้อยู่หรือเปล่าแต่ว่าในเมื่อพูดเป็นแบบนี้แล้ว เธอไม่มีอะไรจะพูดอีกเช้าวันรุ่งขึ้น หลี่ฮุ่ยหรานเพิ่งตื่นนอน ก็ได้รับข่าวของหวางเส้าหลง “ฮุ่ยหราน ข่าวดีนะ คุณหญิงใหญ่ตระกูลถังเมื

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 11

    หลินเฟิงล้วงมือทั้งสองข้างเข้าไปในกระเป๋า และขึ้นไปนั่งบนรถอย่างใจเย็นถังหว่านที่นั่งอยู่ตรงฝั่งข้างคนขับกลับยังคงมองเขาอยู่“คุณหลิน หลี่เหวินเชาคนนั้นคือใคร?”หลินเฟิงก็ไม่ได้เลือกที่จะปิดบัง พูดอย่างตรงไปตรงมา “น้องชายของภรรยาเก่าฉัน”“อ๋อ......แบบนี้นี่เอง”ทันใดนั้นถังหว่านก็ตระหนักขึ้นได้ว่า “ถ้าอย่างนั้นหลี่ฮุ่ยหรานก็คือภรรยาเก่าของคุณ”หลินเฟิงพยักหน้าตอบรับถังหว่านถามด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าระหว่างคุณหลินกับภรรยาเก่าคุณจะจบแบบไม่สวยเท่าไรนัก!”“ต้องการให้ฉันช่วยคุณแก้ปัญหาไหมคะ?”หลินเฟิงเหลือบไปมองเธอ หากให้เธอลงมือ เธอสามารถทำให้ตระกูลหลี่หายไปจากเจียงโจวได้อย่างไร้ร่องรอยถึงแม้ว่าตัวเขาเองจะเกลียดตระกูลหลี่ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะฆ่าพวกเขาทิ้งทั้งหมดยิ่งไปกว่านั้นคุณปู่ก็ยังอยู่ ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไรก็ยังต้องรักษาหน้าของคุณปู่ไว้“เรื่องของผมเอง ผมจัดการได้ คงไม่ต้องทำให้คุณถังลำบากใจหรอก”ถังหว่านยิ้มเล็กน้อย “เข้าใจแล้ว แต่ถ้าคุณหลินพบเจอกับปัญหาอะไรสามารถเรียกฉันได้ตลอดเวลา”เวลาพลบค่ำประตูทางเข้าหลักโรงแรมเทียนอวี่หลี่ฮุ่ยหรานสวมชุดราตรีสีน้ำเงินสวยเพื่อเข้าร่วมงาน

บทล่าสุด

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1364

    ชายร่างใหญ่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟกำลังจะชี้หน้าด่าทอพี่ชายของตัวเองแต่ประโยคที่เรียบง่ายของเฝิงชางในตอนนี้ ทำให้ชายร่างใหญ่มีหนวดเครานิ่งอึ้งทันที“หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊อยู่ที่จวนของเรา”“อะไร? หัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊? พี่หมายถึง...”“อืม”จ้องมองสีหน้าเหลือเชื่อของน้องชายตัวเอง เฝิงชางพยักหน้าด้วยความเคร่งขรึม“เธอได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก วิทยายุทธถูกทำลายจนแทบหมดไป”เฝิงชางพูดต่อ“งั้น...ชีพจรมังกร...”“ชีพจรมังกรไม่ได้อยู่ในมือของเธอแล้ว”คำพูดของเฝิงชางทำให้ชายร่างใหญ่เผยสีหน้าสิ้นหวังออกมา“ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันสนับสนุนเธอ ก็มีความคิดที่เหมือนกันกับนาย”เฝิงชางพูดอย่างเรียบเฉย:“แต่ก่อนหน้านี้ เธอได้มอบชีพจรมังกรออกไปแล้ว อีกทั้งนักบู๊จำนวนร้อยกว่าคนที่กลุ่มพันธมิตรบู๊ส่งมาในครั้งนี้ ในกลุ่มพวกเขามีผู้แข็งแกร่งแดนแปรภาพช่วงกลางจำนวนมาก ได้เสียชีวิตทั้งหมด”“มีเพียงแค่เธอที่ยืนหยัดลมหายใจสุดท้ายหนีออกมา”เฝิงชางสีหน้าเคร่งขรึม ถอนหายใจพูดว่า:“ฉันสามารถมองออกได้ว่า ชีพจรมังกรเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่ใช่สิ่งที่ตระกูลเฝิงของเราจะเกี่ยวข้องได้”“บา

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1363

    เธอเขินอายอยู่ครู่หนึ่งประธานหลี่ถึงได้แบกหน้าแดงก่ำ เงยหน้าขึ้นมองไปทางหลินเฟิงที่มีสีหน้างุนงง และพูดติดๆขัดๆ ว่า:“ที่...ที่รัก ฉัน...ฉันก็อยากได้ เหมือนกับถังหว่าน คือ...ว่า...”“ฮ่าฮ่า หลี่ฮุ่ยหราน ฉันว่าแล้ว”ถังหว่านไม่รู้ว่าปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของหลี่ฮุ่ยหรานตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอกอดอก และมีสีหน้าเย้ยหยัน“อยากได้ก็พูดสิ อิดๆ ออดๆ อายุขนาดนี้แล้ว ยังเขินอายอยู่อีกเหรอ? ประธานหลี่?”“เธอไม่ต้องยุ่งเลย!”หลี่ฮุ่ยหรานหันหน้าไป ตอกกลับถังหว่านประโยคหนึ่งทว่าในตอนที่เธอหันหน้ากลับมา ก็พบว่าหลินเฟิงปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของเธอแล้วเขาก้มหน้า สัมผัสอบอุ่นหลี่ฮุ่ยหรานลูบหน้าผากของตัวเองอย่างเหม่อลอยเธอเงยหน้าขึ้นมองรอยยิ้มบนใบหน้าของหลินเฟิงอีกครั้ง ทันใดนั้นก็รู้สึกเขินจนหน้าแดง หันหลังเดินออกไป และพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า:“เอาล่ะเอาล่ะ ทานข้าว ไปทานข้าวกัน!”ไล่ถังหว่านที่หัวเราะเสียงดังเข้าไปในห้อง ถังหว่านหันหน้าไปมองหลินเฟิง“กลับมาเร็วๆ หน่อยนะ”“อืม”หลินเฟิงยิ้มและพยักหน้าไม่นานนัก เสียงสตาร์ทรถก็ส่งเสียงดังอยู่ที่นอกบ้านหลี่ฮุ่ยหรานถือชามข้าวเอาไว้ มอ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1362

    สำหรับน้าจ้าวแล้วลูกสาวเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจิ้งเต๋อลูกชายตอนนี้อยู่ที่ต่างประเทศ ชีวิตก็มีการประกันชีวิตบั้นปลายก็ได้พบคนที่อยู่เคียงข้างน้าจ้าวกับอาอวี๋ พึงพอใจชีวิตของพวกเขาในตอนนี้อย่างมาก สิ่งเดียวที่เป็นกังวลนั่นก็คือ อวี๋จื่อเสวียนเด็กบ้าคนนี้ตอนนี้เธออยู่เมืองเจียงโจว กับอิ่นนั่วเจียได้ยินว่าช่วงนี้กำลังถ่ายภาพยนตร์อยู่กับอิ่นนั่วเจียอาอวี๋ปากพูดว่าทำสิ่งที่ไม่เข้าเรื่อง แต่ความเป็นจริงหน้าตายิ้มแย้มทุกวันทุกอย่างของพวกเขาเป็นฝีมือของคนคนเดียวนั่นก็คือหลินเฟิงดังนั้นหลินเฟิงในตอนนี้ พูดจากบางด้าน ได้กลายเป็นลูกชายที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดของพวกเขาไปแล้ว“จริงด้วยหลินเฟิง ค่ำขนาดนี้แล้วนายยังจะไปไหนอีก?”อาอวี๋หยิบตะเกียบขึ้น และพูดอย่างเป็นกังวล“หึหึ ผมไปที่เมืองหนิงโจวสักหน่อย”หลินเฟิงไม่ได้บอกรายละเอียดว่าไปทำอะไร เพื่อที่จะไม่ให้พวกเขาเป็นกังวลหลินเฟิงกำลังจะออกจากบ้าน หลี่ฮุ่ยหรานกับถังหว่านที่หน้าตาอ่อนเพลียก็กลับมาแล้ว“ไม่ไหวแล้วสามี หลี่ฮุ่ยหรานเป็นคนบ้างานจริงๆ ต่อไปฉันไม่ทำงานด้วยกันกับเธอแล้ว”เมื่อถังหว่านเข้ามาก็ระบายความทุกข

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1361

    ระยะเวลาหนึ่งเดือนกว่าๆ เกือบสองเดือนที่หลินเฟิงนำพาหลี่ซื่อกรุ๊ปซุ่มตัวอยู่ระหว่างนั้นชีพจรมังกรออกจากเมืองเจิ้งเต๋อ ในที่สุดเมืองเจิ้งเต๋อก็กลับมาสงบสุขอีกครั้งหลักฐานที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่โรงพยาบาลเมืองเจิ้งเต๋อ จำนวนนักบู๊ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงอย่างมากเพียงแต่ว่าชีพจรมังกรไม่ใช่ปัญหาที่หลินเฟิงจะให้ความสนใจในตอนนี้ สิ่งเดียวที่เขากังวลเล็กน้อยคือหยินหลิงถึงแม้หยินหลิงจะเป็นหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรบู๊ความสามารถเฉพาะตัวไม่ธรรมดา อีกทั้งมีลูกน้องจำนวนมากแต่ได้ยินว่าชีพจรมังกรเปลี่ยนมือมาหลายครั้งแล้ว ไม่ได้อยู่ในมือของกลุ่มพันธมิตรบู๊อีกต่อไปแล้วแบบนี้จึงทำให้หลินเฟิงเกิดความเป็นกังวลเล็กน้อยขณะที่มีความกังวลแบบนี้ ในที่สุดหลินเฟิงก็ได้รับโทรศัพท์จากอาฝูในช่วงบ่ายวันหนึ่ง นั่นก็คือพ่อของหยินหลิงที่โทรมา“คุณชายหลินเฟิง”น้ำเสียงของอาฝูเหมือนที่ผ่านมา เพียงแต่หลินเฟิงสังเกตได้ถึงความร้อนรนที่แฝงอยู่ในนั้นอย่างฉับไว“ว่าไงครับ”หลังจากผ่านเรื่องชีพจรมังกรไป หลินเฟิงรู้ซึ้งได้ว่าประเทศมังกรนั้นเป็นที่ที่มีคนเก่งกาจซ่อนอยู่มากมาย เขาไม่ได้ทำเรื่องอะไรโดยใช้อารมณ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1360

    พวกเธอทั้งแสดงท่าทางที่ดูถูกต่อหลินเสวี่ยฮุ่ย และแสดงความกังวลออกมาว่า ต่อจากนี้จะไปฝึกงานกันที่ไหนดีเรื่องพวกนี้ต่างก็ถูกหลินเฟิงได้ยินจนหมดแล้ว“อ้าว คนนี้ไม่ใช่พี่ชายของหลินเสวี่ยฮุ่ยหรอกเหรอ?”นักศึกษาสาวที่เป็นคนเริ่มก็เห็นหลินเฟิงเช่นกัน ก่อนที่เธอจะตกตะลึงไปชั่วครู่จากนั้นก็เยาะเย้ยว่า : “เพื่องานของน้องสาวของตัวเอง คุณถึงกับต้องพยายามอย่างมากจริง ๆ!”“ใช่ การเอาน้องสาวของตัวเองไปให้กับชายชรา ความกล้าหาญแบบนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และจะไม่มีวันเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน”การเยาะเย้ยพวกนี้ ทำให้หลินเฟิงสับสนอยู่เล็กน้อยหลังจากฟังพวกเธอพูดคุยและอธิบายอยู่นาน หลินเฟิงก็รู้ว่าพวกเธอนั้นกำลังเข้าใจผิดหลินเสวี่ยฮุ่ยสามารถที่จะเป็นผู้อำนวยการได้ ก็เพราะความสามารถของตัวเองทักษะทางการแพทย์ของเธอก็มีเพียงพอแล้วและไม่ได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดด้วยวิธีที่น่ารังเกียจใด ๆด้วยเมื่อได้ยินคำอธิบายของหลินเฟิง เหล่าเพื่อนร่วมชั้นของหลินเสวี่ยฮุ่ยก็ยังรู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อยหลินเฟิงก็เลยถือโอกาสดึงพวกเธอเอาไว้ และอยากจะไปหาหลินเสวี่ยฮุ่ยด้วย เพื่อให้หลินเสวี่ยฮุ่ยได้อธิบายในเรื่องนี้แต่ทั

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1359

    บริวารของตระกูลซือหม่าคนนี้ที่มีโอกาสรอดเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นเท่านั้นแต่หนึ่งเปอร์เซ็นนี้ ก็ถูกเด็กทั้งสองคนที่เพิ่งเรียนจบ และยังถูกกล่าวหาว่าเป็นคนรักของเผิงกวงฉี่ ได้รักษาจนหาย?แถมตอนนี้ก็สามารที่จะพูดได้แล้วด้วย?หัวหน้าหนงรู้สึกเหมือนโลกของตัวเองพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง เขาที่เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์มาหลายสิบปีโดยเปล่าประโยชน์ และก็คาดไม่ถึงว่าวันนี้จะล้มเพราะเด็กผู้หญิงทั้งสองคนและเหล่าผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างเขา ก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึงกันทั้งหมดขนาดหัวหน้าหนงก็ยังทำไม่ได้ แล้วเด็กสาวทั้งสองคนนี้ทำได้อย่างไร?หรือว่าทักษะทางการแพทย์ของเด็กสาวทั้งสองคนนั้น จะสูงกว่าของหัวหน้าหนง ผู้มีประสบการณ์มายาวนานกันนะ?“พวกคุณรู้จักคนที่ชื่อหลินเฟิงหรือเปล่า?”และในตอนนี้ บริวารโจวที่หลับตาอยู่ ก็เอ่ยถามหลินเสวี่ยฮุ่ยและโจวเสี่ยวหางขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง“หลินเฟิง?”หลินเสวี่ยฮุ่ยกับโจวเสี่ยวหางต่างมองหน้ากันและกัน“หลินเฟิงคือพี่ชายของฉัน”“หลินเฟิงคืออาจารย์ของฉัน”เมื่อได้ยินคำตอบของทั้งสองสาว บริวารโจวก็แสดงสีหน้า “เป็นอย่างที่คิดเอาไว้” ออกมา ก่อนที่เขาจะถอนหายใจแ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1358

    “อ๊ะ! พวกเธอมาที่นี่เพื่อมาหาหลินเสวี่ยฮุ่ย”ผู้ช่วยที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า :“เดาว่าพวกเขาเห็นว่าหลินเสวี่ยฮุ่ยได้เป็นผู้อำนวยการแล้ว ก็เลยอยากจะมาฝึกงานที่โรงพยาบาลเจิ้งเต๋อของพวกเรา”“เหอะ!”เมื่อได้ยินอย่างนี้ หัวหน้าหนงก็มองหลินเสวี่ยฮุ่ยอย่างเย็นชา“เธอคิดว่าโรงพยาบาลของพวกเราเป็นอะไร?!”หัวหน้าหนงพูดขึ้นด้วยความโกรธว่า :“ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ใช่สถานที่ที่จะให้เด็กผู้หญิงอย่างพวกเธอมาเลื่อนขั้นได้ ออกไปจากที่นี่ซะ!”“ใครจะอยากอยู่ที่นี่กับพวกคุณ!”สาวที่เป็นคนเริ่มจ้องมองหลินเสวี่ยฮุ่ยอย่างเย็นชา ก่อนจะยิ้มเยาะอย่างดูถูกแล้วหันหลังเดินจากไป“รอเดี๋ยว...”หลินเสวี่ยฮุ่ยทีเพิ่งจะทำการผ่าตัดเสร็จ จึงรู้สึกอ่อนเพลียมาก ดังนั้นก็เลยไม่ค่อยจะมีแรงพูดสักเท่าไหร่“ฉันกำลังคุยผู้อำนวยการหลิน”“แค่มีเธออยู่ที่นี่แค่คนเดียว ฉันก็ลำบากมากพอแล้ว!”“โปรดเข้าใจด้วยว่า ที่นี่คือโรงพยาบาล ไม่ใช่ที่สถานทีที่เผิงกวงฉี่จะเอาผู้หญิงมาซ่อนได้!”ในขณะที่พูดอยู่ หัวหน้าหนงก็ชี้ไปที่บริวารของตระกูลซือหม่าที่นั่งอยู่บนรถก่อนจะพูดด้วยความโกรธว่า :“ดูสิ่งที่เธอทำสิ!”“เธ

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1357

    “ฟู่”ในที่สุด หลังจากการช่วยเหลือมามากกว่าสี่ชั่วโมง หลินเสวี่ยฮุ่ยก็ได้นั่งลงบนเก้าอี้ในห้องผ่าตัดโดยที่มือเปื้อนเลือดอยู่“เสวี่ยฮุ่ย เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”โจวเสี่ยวหางนำผ้าขนหนูมาช่วยเช็ดเหงื่อให้เธอ ในขณะที่หลินเสวี่ยฮุ่ยก็ส่ายหน้า“น่าเสียดาย....”“ใช่ น่าเสียดาย....”โจวเสี่ยวหางจ้องมองตามสายตาของหลินเสวี่ยฮุ่ย ก่อนจะมองไปทางชายที่ถูกเย็บแผลเรียบร้อยแล้วอยู่บนเตียงผ่าตัดพร้อมกับส่ายหน้า“ดีแล้ว เสวี่ยฮุ่ย เธอทำดีที่สุดแล้ว”“ฉันรู้”หลินเสวี่ยฮุ่ยถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยไม่นานหลังจากนั้น บริวารของตระกูลซือหม่าที่อยู่บนเตียงผ่าตัด ก็ถูกวางลงบนรถเข็น และพาออกไปจากห้องผ่าตัด“อุ๊บ หึ น่าหัวเราะจะตายแล้ว พวกคุณรีบมาดูสีหน้าของเด็กผู้หญิงคนนั้นสิ ดูเหมือนว่าจะเสียใจอย่างมากเลยนะ.....”“หึ เด้กสาวทั้งสอง ฉันก็บอกแล้วว่าพวกเธอแค่แกล้งทำ ตอนนี้บริวารของตระกูลซือหม่าตายอยู่บนเตียงผ่าตัดของเธอ คราวนี้คนของตระกูลซือหม่าจะโกรธแล้ว”“ถึงยังไงก็ไม่ได้เกี่ยวกับพวกเรา พวกเราแค่ดูอย่างสนุกสนานก็พอแล้ว”เมื่อได้ยินการสนทนาอันยุ่งวุ่นวายของเหล่าแพทย์ที่อยู่โดยรอบ หลินเสวี

  • หลังหย่ากัน ประธานสาวสวยขอคืนดี   บทที่ 1356

    เมื่อรู้ว่าคนรักตัวน้อยของเขารักษาบริวารของตัวเอง งั้นหลินเสวี่ยฮุ่ยเกรงว่าอาจจะต้องตายเร็วขึ้นอีกนี่ก็คือหลุมพรางที่หัวหน้าหนงวางไว้สำหรับล่อลวงหลินเสวี่ยฮุ่ย ไม่ว่าเธอจะกล้ารับหรือไม่ เธอก็จะต้องโชคร้ายอยู่ดีส่วนหลินเสวี่ยฮุ่ยจะสามารถช่วยชีวิตบริวารคนนี้ได้หรือเปล่า?เดิมทีความเป็นไปได้นี้ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยหัวหน้าหนงยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนหน้าที่หลินเสวี่ยฮุ่ยจะมา ตัวเองได้ทำการตรวจร่างกายบริวารของตระกูลซือหม่าทั้งหมดแล้วทั่วทั้งร่างมีร่องรอยกระดูกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แขนข้างหนึ่งหัก และอวัยวะภายในก็มีเลือดออกเยอะมาก แม้แต่ตัวเลขบนเครื่องช่วยหายใจก็ยังแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแม้แต่คนที่มีประสบการณ์เยอะอย่างหัวหน้าหนงการต้องเผชิญหน้ากับเรื่องร้ายแรงแบบนี้ บาดแผลมันก็ไม่ต่างไปกว่าการถูกรถไฟชนกระแทกเขารู้สึกว่า บริวารของตระกูลซือหม่าไม่อาจจะจะช่วยชีวิตได้แล้วต่อไปก็ถึงเวลาที่จะต้องหาคนโชคร้ายมาเป็นแพะรับบาปแทนแล้วเขาก็ใช้โอกาสนี้ เลือกผู้อำนวยการหลินที่เพิ่งมาใหม่ได้ไม่ถึงวัน“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพิเศษขนาดไหน การช่วยชีวิตผู้ป่วยก็ต้องสำคัญเป็นอันด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status