แชร์

บทที่ 5

“ดูพอหรือยัง”

ฉินอิ๋งที่อยู่ข้างๆเห็นเขาจ้องมองถังหว่านอย่างตั้งใจ อดไม่ได้ที่พูด

แม้ว่าศิลปะการต่อสู้ของหลินเฟิงจะเก่งมาก แต่เธอก็ยังสงสัยว่าวิธีการรักษาด้วยถอดเสื้อผ้านี่เขาคนนี้ตั้งใจอยากจะเอาเปรียบถังหว่านหรือเปล่า

หลินเฟิงยิ้มเบาๆ สีหน้าไม่มีความอึดอัดใจเลยแม้แต่น้อย

และชื่นชมจากใจจริงว่า “คุณถังสวยมากๆครับ ผมอดไม่ได้ที่จะดูไปหลายครั้ง”

“ฮา ฮา”

ถังหว่านยิ้ม “หมอเทวดาหลินก็พูดตรงไปตรงมามากนะ”

เธอไม่คิดว่าหลินเฟิงจะยอมรับอย่างใจกว้างขนาดนี้

ไม่เหมือนพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นสุภาพบุรุษ กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับ

“ตราบใดที่หมอเทวดาหลินสามารถรักษาโรคฉันหาย อยากดูอย่างไรก็ได้”

ถังหว่านสายตาอ่อนโยนมีเสน่ห์ มุมปากมีรอยยิ้มที่น่าสนใจ

“ไม่จำเป็นหรอก ของที่สวยงามดูเพียงครั้งเดียวก็ประทับใจมากเพียงพอแล้ว”

หลินเฟิงส่ายหัว

เอาเข็มเงินเข็มออกมา

ปลายนิ้วผ่านหน้าอกถังหว่าน สัมผัสได้ถึงความเย็นบนผิวที่เรียบเนียนและละเอียดอ่อน

เข็มหนึ่งฝังในจุดเฟิงฝู่

ถังหว่านหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

หลินเฟิงเอาเข็มเงินหนึ่งออก กดนิ้วมือลงไปเรื่อยๆ

ผ่านท้องน้อยของเธอ ฝังเข็มอีกหนึ่งเข็มเข้าในจุดชี่ไห่

ทั้งหมดสามสิบกว่าเข็มติดต่อกัน การฝังเข็มแต่ละครั้งก็ทำให้ถังหว่านรู้สึกเจ็บปวดเพิ่มขึ้น

นิ้วมือที่ขาวเหมือนหิมะจับผ้าห่มแน่นๆ หน้าผากมีเม็ดเหงื่อ

การหายใจหนักขึ้นเรื่อยๆ หน้าอกขึ้นๆลงๆอย่างไม่หยุด

สายตาของหลินเฟิง

เขาแต่งงานกับหลี่ฮุ่ยหรานมาสามปี แต่แม้ว่าจะพักในบ้านหลังเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยนอนห้องเดียวกัน

เขากำลังเข้าสู่วัยกลางคน มีผู้หญิงที่สวยงามที่สุดในโลกนอนอยู่ตรงหน้าเขา แถมไม่ได้สวมเสื้อผ้าด้วย

หลินเฟิงก็มีกระสับกระส่ายบ้าง

เขารีบกัดปลายลิ้น ใช้ความเจ็บปวดขจัดความคิดที่ฟุ้งซ่านในใจและฝังเข็มต่อ

ฉินอิ๋งที่อยู่เคียงข้างเอาผ้าขนหนูมาเช็ดเหงื่อบนหัวของถังหว่านอย่างไม่หยุด

สักพักใหญ่ ถังหว่านกัดฟันและถามว่า “ยังเหลือกี่เข็มคะ”

“เข็มสุดท้ายแล้ว”

ถังหว่านโล่งอก ความเจ็บปวดนี้ใกล้จะสิ้นสุดแล้วสักที

“งั้นก็ขอหมอเทวดาหลินฝังเข็มโดยเร็วเถอะ”

หลินเฟิงพยักหน้า เขาใช้นิ้วมือกดบนสะดือของเธอและค่อยๆวัดลงไป

ถังหว่านรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเลยรีบถามทันที “เข็มสุดท้ายฝั่งอยู่ที่จุดไหนคะ”

“จุดฉวี่ฉื” ห้านิ้วใต้จุดเสินเชวีย”

ถังหว่านอึ่ง ใบหน้าขาวแดงก่ำขึ้นทันที

จุดเสินเชวียเรียกกันทั่วไปว่าสะดือ ที่ที่ลงไปห้านิ้วนั้น....

ในฐานะที่เป็นคุณหนูของตระกูลถัง ได้รับการศึกษาสองประเภทของตะวันออกและตะวันตกตั้งแต่เด็ก

แม้ว่าภายนอกจะดูเปิดเผย แต่ในใจยังมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมแบบตะวันออก

การอนุญาตให้หลินเฟิงใช้วิธีรักษาด้วยถอดเสื้อผ้าก็ถือเป็นขีดจำกัดของเธอแล้ว

ฝังเข็มในที่นั่น เธอจะไม่อายได้อย่างไร

แต่หลินเฟิงไม่ได้สนใจ อย่างไงก็ได้เห็นทุกสิ่งที่เขาต้องการเห็นแล้ว และไม่มีอะไรที่ล้ำเส้นไป

ยังไม่ทันรอถังหว่านตอบสนอง เขาก็ฝังเข็มสุดท้ายลง

ถังหว่านแค่รู้สึกมีความเจ็บป่วยเกิดจากตันเถียนและไหลพุ่งไปทั้งร่างกาย

พลังภายในทั้งหมดพังทลายทันที

แต่เธอกลับกัดฟันอย่างแรงและหลับตา ร่างกายตึงเหมือนกับคันธนู

ความอายทำให้เธออดทนต่อความเจ็บป่วดได้ ไม่ได้ออกเสียงแม้แต่น้อย

หลินเฟิงประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดว่าคนๆนี้จะเข้มแข็งได้ขนาดนี้

การที่เปิดเส้นเมอริเดียนและกระจายชี่ มันเจ็บปวดมาก ผู้หญิงคนนี้สามารถไม่ออกเสียงใดๆ สมกับเป็นอัจฉริยะที่ฝึกศิลปะการต่อสู้จริงๆ

“พี่หว่านเอ๋อ พี่เป็นอย่างไงบ้าง”ฉินอิ๋งที่อยู่ข้างๆพอได้เห็นเธอมีสีหน้าที่บิดเบี้ยว ก็รู้สึกเป็นห่วงมาก

“โฮ.....ไม่ ไม่เป็นอะไร”

เมื่อความเจ็บปวดเริ่มหาย ถังหว่านก็ถอนหายใจออกมา

แม้จะสูญเสียการบำเพ็ญไปสิบปี แต่เธอกลับรู้สึกว่าเส้นเมอริเดียนของตัวเธอเองถูกขยายกว้างเท่าหนึ่ง

แขนขาก็มีความรู้สึกแล้ว

หัตถ์สายฟ้าที่ถูกหลินเฟิงปรับปรุง กลับไปสู่ระดับสูงสุดไม่ใช่เรื่องยากเลย

“คุณหนู คุณหายดีแล้วเหรอ”

เมื่อเห็นถังหว่านยกแขนขึ้นอย่างช้าใบหน้าของฉินอิ๋งก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ค่ะ”

ดวงตาถังหว่านร้อนขึ้น ความรู้สึกที่สามารถควบคุมร่างกายได้อีกครั้งนี้ยอดเยี่ยมมากๆ

เธอมองไปที่หลินเฟิงอย่างช้าๆ “ศัลยกรรมทางการแพทย์ของหมอเทวดาหลินยอดเยี่ยมมากจริงๆ”

หลินเฟิง “คุณถังมีความเพียรเป็นพิเศษ ผมก็ชื่นชมมากเหมือนกัน”

“งั้น....หมอเทวดาหลิน สะดวกที่จะออกไปสักครู่ได้ไหม”

หลินเฟิงพึ่งจะตระหนักได้ว่าถังหว่านยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า ตอนนี้รักษาเสร็จแล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อ

จึงหันหลังออกจากห้องของถังหว่าน

กลับไปที่ห้องรับแขก

ถังว่านหลี่กับจ้าวเทียนหวาได้รออยู่นานแล้ว เมื่อเห็นหลินเฟิงเดินออกมาพวกเขาทั้งสองคนดีใจมาก

“คุณหลิน คุณถังเป็นอย่างไรบ้างครับ”จ้าวเทียนหวารีบถาม

“รักษาหายแล้ว”

ถังว่านหลี่ไม่อยากจะเชื่อ “จริงเหรอ”

ขณะนี้ ถังหว่านได้สวมเสื้อผ้าและเดินออกมาจากห้อง

ถังว่านหลี่เห็นลูกสาวสามารถเดินลงจากเตียว เธอก็น้ำตาคลอทันที

กอดลูกสาวไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่น “หว่านเอ๋อ คุณหายดีจริงๆ...ดีมาก ดีมากเลย...พระเจ้าอวยพรถังว่านหลี่นะ”

“คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วง ฉันหายดีแล้ว”

ถังหว่านยิ้มและพูดว่า “ก็เนื่องจากศัลยกรรมทางการแพทย์ของหมอเทวดาหลินยอดเยี่ยมมาก”

“ฮ่า ๆ ๆ ...”

ถังว่านหลี่หัวเราะเสียงดัง “หมอเทวดาหลินคุณวางใจ พี่จ้าวได้บอกผมเรื่องเสวียนหลิงโสมแล้ว”

“ผมได้ขนส่งเสวียนหลิงโสมมาจากเมืองกลางแล้ว อีกสามวันก็ต้องเอามาให้คุณแน่”

หลินเฟิงขมวดคิ้ว

ยังไม่รอให้เขาเอ่ยปาก จ้าวเทียนหวาก็รีบก้าวไปตรงหน้าเขาและพูดเสียงเบาว่า “คุณหลินไม่ต้องเป็นห่วง ผมสามารถรับประกันด้วยหัวของผม ตระกูลถังจะไม่ผิดคำพูดแน่”

พอเห็นเขามั่นใจขนาดนี้ คิ้วของหลินเฟิงก็ค่อยๆคลายลง

“ในเมื่อมีประธานจ้าวรับประกัน ผมก็เชื่อตระกูลถังชั่วคราว”

“ตอนนี้คุณถังหายดี ผมก็ไม่จำเป็นอยู่ที่นี่ต่อ”

พูดจบก็หันหลังจะจากไป

ถังหว่านไม่คิดว่าเขาคนนี้จะจากไปเร็วขนาดนี้ หลินเฟิงไม่เพียงแต่เก่งด้านศิลปะการต่อสู้ ศัลยกรรมทางการแพทย์ก็ยอดเยี่ยมมาก

คนที่เก่งแบบนี้จะไม่เก็บไว้ใช้ได้อย่างไร

“คุณหลินหยุดก่อน ฉันจะไปส่งคุณหลินเพื่อแสดงความขอบคุณ”

พูดจบก็รีบพาฉินอิ๋งวิ่งตามออกไป

จ้าวเทียนหวาที่อยู่ข้างๆ ยิ้มมุมปาก สมกับเป็นคนแรกในสามรุ่นของตระกูลถัง ฉลาดมากจริงๆ

“พี่ถัง คุณรู้สึกว่าคุณหลินเป็นอย่างไรบ้าง”

ถังว่านหลี่พยักหน้าและถอนหายใจ “ความสามารถพิเศษด้านศิลปะการต่อสู้ของเขาเก่งมาก ศัลยกรรมทางการแพทย์ก็ยิ่งยอดเยี่ยมมาก เพียงสองจุดนี้ก็สามารถทำให้ลูกของตระกูลใหญ่เหล่านั้นสู้ไม่ได้”

จ้าวเทียนหวาหัวเราะและพูดว่า “จริงๆแล้ว ความสามารถของคุณหลินไม่ได้มีเพียงสองอย่างนี้นะ ทั่วประเทศก็ไม่มีคนเทียบกับคุณหลินได้”

“ผู้หญิงที่สามารถคู่ควรกับคุณหลินก็ยิ่งน้อยนัก แต่ว่าคุณถังนับเป็นคนหนึ่งนะ”

ถังว่านหลี่ตอบสนอง หัวเราะว่า “ขอบคุณคำชมของพี่จ้าวครับ”

“แต่น่าเสียดาย ลูกสาวผมมีการหมั้นหมายไว้แล้ว”

“ฮา ๆๆๆ....”

จ้าวเทียนหวายิ้ม “แต่ยังไม่ได้แต่งงานไม่ใช่เหรอ พี่ถังมีเวลามากกมายที่จะพิจารณา โปรดพิจารณาคุณหลินด้วย”

ถังว่านหลี่ขมวดคิ้ว หันหน้าไปมองที่จ้าวเทียนหวา

“ผมกำลังอยากรู้อยากเห็นมากว่า แต่ก่อนพี่จ้าวเคยทำธุรกิจการค้าขายต่างประเทศ แต่ทำไมตอนนี้ถึงอาศัยอยู่เจียงโจวที่เล็กๆนี้ล่ะ”

“แถมยังเคารพเขาคนนี้เป็นพิเศษ”

การแต่งงานของคนสองคน ต้องเป็นการรวมกันของทั้งสองตระกูลที่แข็งแกร่ง แม้ว่าหลินเฟิงจะมีความสามารถมาก แต่ไม่มีตระกูลคอยเป็นที่พึ่งอยู่เบื้องหลัง

ไม่ช่วยตระกูลถังได้อะไรในอนาคต

จ้าวเทียนหวาเป็นทายาทของตระกูลจ้าว น่าจะรู้จุดนี้ดี

แต่กลับแนะนำหลินเฟิงตลอด น่าแปลกไปหน่อย

“ฮ่าฮ่า พี่ถัง ขออภัยด้วยที่ผมไม่สามารถบอกคุณได้”

จ้าวเทียนหวาประสานมือของเขา “แต่เรื่องที่ผมพูด พี่ถังสามารถเก็บไว้พิจารณาได้นะ”

“เอาล่ะ ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ผมไปก่อนนะ พี่ถังเอาเสวียนหลิงโสมให้คุณหลินโดยเร็วเถอะ ”

เมื่อจ้าวเทียนหวาจากไป ถังว่านหลี่ได้ไตร่ตรองคําพูดของเขามาตลอด

สักพักหนึ่ง เขาก็เรียกเลขามา ให้ตรวจสอบภูมิหลังของหลินเฟิง

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status