“เดิมเป็นปรมาจารย์กงล้งที่ผนึกจอมารฉูฉางไว้จนตัวเองสละร่างพาวิญญาณล่องลอยสู่สรวงสวรรค์ กระนั้นก็ยังประกาศว่าจะกลับมาในรอบสีพันปีเพื่อผนึกจอมมารฉูฉางเมื่อถึงเวลาอีกครั้ง”
“อาจารย์แล้วทำไมเราไม่ค้นหาร่างอวตารของท่านปรมาจารย์กงล้ง”
รีบหลบตาทันที ความลับนี้มีเพียงเขาและท่านปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงที่รู้ผู้อื่นไม่มีใครสืบรู้เรื่องนี้ด้วย อาจารย์ของเขาปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงเป็นผู้ที่มีเคล็ดวิชาท่องกาลเวลาจึงสืบรู้ได้ว่าใครกันที่เป็นร่างอวตารของปรมาจารย์กงล้งเขาจึงได้รับเคล็ดวิชามาจากอาจารย์ทั้งหมดหาใช่เรื่องบังเอิญที่เหล่าจอมยุทธ์หรือศิษย์พี่ของเขาพูดกันไม่ อาจารย์ต้องการมอบเคล็ดวิชาให้เขาเพื่อจะได้ ผนึกจอมมารฉูฉางไว้อีกครั้ง นั่นเอง
“อาจารย์ข้านึกออกแล้ว หวังต้าฉินอาสาสืบเสาะหาร่างอวตารของปรมาจารย์กงล้งดีไหม”
“เดี๋ยว”ยกมือห้ามทันควัน
“อาจารย์ อย่าห้ามศิษย์เลยถ้าปล่อยให้จอมมารฉูฉาง ทำลายผนึกออกมาได้ย่อมไม่เป็นเรื่องดี”
เขาตอนนี้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ฝึกลมปราณในทุกวัน หาวิธีสร้างผนึกที่แข็งแกร่ง นับว่าเขาประสบความสำเร็จไม่น้อย เดิมเขาสังหารปีศาจพรายน้ำ แต่ตอนนี้อดีตที่ผ่านมาทำให้เขาคิดค้นวิธีสร้างผนึกที่แข็งแกร่ง หากจิตใจและด้านมืดของผู้ถูกผนึก เข้าสู่ด้านดีมีคุณธรรมจึงจะสามารถเปิดผนึกเองได้ แต่ปู้ตานซินไม่แน่ใจว่า ผนึกที่เขาสร้างขึ้นมาใหม่นี้จะแข็งแกร่งพอที่จะผนึกจอมารฉูฉางได้หรือไม่
“อย่าเพิ่ง ข้ากำลังตรวจจับดวงชะตาของร่างอวตารของปรมาจารย์กงล้ง”
โกหก รู้ดีว่าหวังต้าฉินไม่มีทางจะรู้ว่าปู้ตานซิน เป็นปรมาจารย์กงลังกลับชาติมาเกิดเพราะเขาปิดบังดวงชะตาบิดเบือนร่างจริงไว้เสียเป็นหนึ่งในเคล็ดวิชาที่อาจารย์ส่งต่อมายังเขา เป็นเขาที่สะเพร่าก่อนหน้านั้นไม่ยอมปิดบังดวงชะตาบิดเบือนร่างจริงทำให้จอมมารฉูฉางจำเขาได้จึงส่งผลร้ายจนเขาต้อง สละร่างย้อนเวลาอีกครั้ง
“อาจารย์ห้าสำนักใหญ่มักจะปรามาสสำนักเกาซิ่งว่ามีปรมาจารย์หนุ่มแน่น แต่ไม่ยอมให้ความร่วมมือช่วยเหลือไม่ออกหน้าในเรื่องนี้”ปู้ตานซินยิ้ม
“ข้าเพิ่งจะยี่สิบห้า เจ้าคิดว่าคำเรียกขานปรมาจารย์จะต้องแก่เฒ่าหรือจะต้องออกหน้าทุกงานหรือไร”
“อาจารย์หลายปีมานี้ สำนักของเราซบเซาเพราะไม่ออกหน้าช่วยเหลือเหล่าจอมยุทธ์ในการ ร่วมมือร่วมใจกัน จัดการกับจอมมารฉูฉาง”
“ถูกต้องแล้ว สำนักเรา แม้ไม่ช่วยแต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ข้าหลายปีมานี้ฝึกฝนศิษย์เพื่อให้พวกเขาออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน ไม่รับงานใหญ่แต่เข้าใจหัวอกความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน ยังกล้ามาว่ากันอีกหรือ เรื่องแบบนี้ไม่ช่วยใช่ว่าจะผิด เพียงแค่ข้าไม่อยากออกหน้าเพราะมีเหตุผล”
“อาจารย์เหตุผลใดกัน”
“เจ้าคิดดูหวังต้าฉิน….หากข้าซึ่งเป็นปรมาจารย์อายุน้อยบังเอิญปราบจอมมารฉูฉางได้เจ้าคิดว่าสำนักเราจะต้องรับภาระหนักแค่ไหนต่อไปหากมีจอมมารฉูฉางคนที่สองสามสี่มาอีกครั้งเรามิต้องออกหน้าร่ำไปหรือ อีกอย่างเหล่าปรมาจารย์อาวุโสจะพาลไม่ชอบใจที่เราข้ามหน้าข้ามตาเขา”
หวังต้าฉินพยักหน้าเห็นด้วย
“ไม่ผูกมิตร แต่ไม่สร้างศัตรู หวังต้าฉินเข้าใจแล้วอาจารย์ช่างคิดไปไกล เป็นศิษย์ที่โง่เขลาไปเอง”
“อาจารย์”หยางหว่านเข้ามามาในห้องพร้อมกับถ้วยซุบหอมกรุ่น ปู้ตานซินสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน
“หยางหว่าน”
“ศิษย์ขึ้นไปเก็บ สมุนไพรได้หัวฮ่วยซัวมานำไปตุ๋นกับถั่วแดง หยดน้ำผึ้ง นำมาให้อาจารย์กินบำรุงกำลัง”
หวังต้าฉิน เลิกคิ้วสูงอ้าปากค้าง (ฮ่วยซัว หรือซานเหย้าบำรุงกำลังเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลังให้ปึ๋งปั๋ง แก้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ พวกฝันเปียกน้ำกามเคลื่อนหลั่งเร็ว)
“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่จู้จ้านตักใส่ถ้วยไว้ให้ท่านเช่นกัน รีบไปเดี๋ยวนางโมโหเททิ้งเสียสิ้น”หวังต้าฉินรีบ ประสานมือออกไป
ปู้ตานซินหน้าแดง หากจะเอายาสมุนไพรที่มีสรรพคุณแบบนี้มาให้ นางกำลังคิดอะไรตั้งใจจะหลอกล่ออะไรเขาอีก ปกติหยางหว่านหาใช่คนที่เอาใจใคร
“อาจารย์ความจริงสมุนไพรฮ่วยซัว มีสรรพคุณบำรุงกำลัง หยางหว่านเห็นว่าอาจารย์พักนี้พักผ่อนน้อย อีกทั้งศิษย์น้องจี้โม่ลงเขาขาดคนคอยปรนนิบัติ หยางหว่านเลยตั้งใจ ต้มฮ่วยซัวมาให้ท่าน”
“อืม ออกไปเถอะ”
“อาจารย์หยางหว่านตั้งใจชวนอาจารย์เดินชมจันทร์ที่สะพานชมจันทร์ในค่ำคืนนี้”ปู้ตานซิน ขมวดคิ้วจะมาไม้ไหนกัน
“อร่อยไหมคะ” ปู้ตานซินสำลักตุ๋นฮ่วยซัวด้วยตกใจกับน้ำเสียงหวานนั้น หยางหว่านรีบลุกมาล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าที่ติดตัวมาเช็ดที่ริมฝีปากให้เบาๆ ตาสบตาปู้ตานซินรีบหลบตา หยางหว่าน อ่า...นี่เขาเป็นอะไรไปทำไมต้องรู้สึกเขินอาย หรือว่าเป็นเพราะหยางหว่านดีกับเขาเกินไปเกินกว่าที่เขาคาดคิด
ยกถ้วยซุบขึ้นซดอีกครั้ง“อาจารย์” เอื้อมมือยื้อถ้วยน้ำแกงไว้ มองสบตาดวงตาใส น่าเอ็นดูยิ่งนักปู้ตานซินปล่อยมือ หยางหว่านดึงมันออกมา บรรจงเป่าเบาๆ ไปที่นำซุบที่มีไอร้อนลอยอ้อยอิ่ง“มันร้อนไปนี่เอง หยางหว่านไม่ทันระวังทำเอาอาจารย์สำลัก ให้หยางหว่านเปาให้มันอุ่น อาจารย์จะได้กินได้สะดวกหน่อย”ปู้ตานซินถอนหายใจ“อาจารย์จะต้องกินบ่อยๆ หยางหว่านจะต้องมาให้อาจารย์กินทุกวัน ฮ่วยซัวช่วยบำรุงกำลังดีไม่น้อย อาจารย์จะได้แข็งแรง มีแรง…..สอนศิษย์ต่อไป”เสียวท้องน้อยวาบ เด็กสาวอายุสิบสี่ ใบหน้าผุดผาดแก้มสีชมพูสดใส ริมฝีปากอวบอิ่ม แล้วยังทรวดทรงองค์เอวที่กำลังมองเห็นเด่นชัด ปู้ตานซินกลืนน้ำลายลงคอ จะใช้เคล็ดวิชาอ่านใจ ก็กลัวคำตอบที่ได้จะทำให้เจ็บปวดใจ หากนางแค่เพียงห่วงใยเขาเพราะเขาเป็นอาจารย์ หยางหว่านครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมาทั้งๆ ที่เขาเห็นได้ชัดว่า นางตัวติดกันกับจี้โม่“ไม่ต้องลำบาก”กัดฟันพูดความจริงอยากให้หยางหว่านแวะเวียนมาทุกวันแต่...อีกใจกลับกลัวว่านางจะมาไม้ไหน เขาจะรับมือหยางหว่านได้หรือในเมื่อใจเขาทั้งใจมีนางอยู่ในนั้นแล้ว“อาจารย์หยางหว่านเต็มใจ ได้ทำอะไรเพื่ออาจารย์บ้างเพราะอาจารย์เป็นเห
จี้โม่ ในอาภรณ์สีขาวสะอาดตา รูปร่างสูงโปร่งในแบบจอมยุทธ์เจ้าสำอางจะว่าไปบุคลิกบางส่วนล้วนถอดแบบมาจากปู้ตานซิน ก็เขาเห็นอาจารย์วางตัวเช่นนี้มาแต่อ้อนแต่ออก แล้วมันก็ช่างงดงามสมกับเป็นปรมาจารย์หนุ่ม สิ่งที่เขาใฝ่ฝันอันดับสองคือการองอาจเช่นเดียวกับอาจารย์วางท่าได้เช่นเดียวกับอาจารย์ (อันดับหนึ่งคือการได้เป็นเจ้าสำนักต่อจากอาจารย์ แต่คงจะแห้วก็กว่าปู้ตานซินจะแก่จะตาย ตอนนี้เพิ่งจะยี่สิบห้าปีอีกกี่ปีกว่าจะยกสำนักให้เขา)“จอมยุทธ์ท่านนี้”สายตานับสิบคู่ของเหล่าจอมยุทธ์จากสำนักต่างๆ ที่แวะเวียนกันเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของจอมมารฉูฉาง ณ.เรือนอารักขาร่วมกับเหล่าองครักษ์จากวังหลวง จ้องมองมายังจี้โม่ที่กอดกระบี่ไว้กับอกด้วยท่าที มาดมั่นเหลือเกิน“ข้าน้อยจี้โม่ ศิษย์คนที่325ของสำนักเกาซิ่ง”“อือหือ ศิษย์ของปรมาจารย์ปู้ตานซิน ไม่น่าเชื่อว่าคนที่นิ่งเฉยเช่นท่านปรมาจารย์จะส่งศิษย์ของเขาลงมา เฝ้าสังเกตการณ์ด้วย”“อาจารย์และสำนักเกาซิ่งของเรา ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ที่ผ่านมาล้วนคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่จะลงเขามาเพื่อเฝ้าระวัง”“นับว่าท่านปรมาจารย์ ช่างรอบคอบเสียจริง มิน่าที่ผ่านมานิ่งเฉยเพี่อที่จะส่งศิษย์เอกมาใ
หยางหว่านยิ้มแหย๋ๆไม่แน่ใจตัวเองนักยิ่งเมื่อศิษย์พี่คาดหวังถึงขนาดนี้ ไม่เท่ากับเทใจมาที่หยางหว่านกันหมดแล้วหรือ“ศิษย์พี่ใหญ่ท่านคาดหวังในตัวข้ามากไปหรือเปล่า”พึมพัมเบาๆ“ข้าเชื่อ หยางหว่านเจ้าจะต้องทำได้...อย่างแน่นอน”“ว่าแล้วข้าก็เคี่ยวฮ่วยซัวเรียบร้อยแล้ว หยางหว่านถึงเวลาที่เจ้าต้องยกไปให้อาจารย์แล้ว แล้วอย่าลืมที่ตกลงกันไว้ อย่าเผลอพูดไปว่าพวกเราลงขันกัน เจ้าต้องบอกว่าเจ้าเพียงคนเดียว แล้วก็เรื่องเคี่ยวยาเป็นเจ้าที่เคี่ยวเอง อาจารย์จะได้เกรงใจเจ้า ดื่มมันเสียหมด”หวังต้าฉินสอนสั่ง“ทำไม ...ข้าไม่เข้าใจ”“อาจารย์อ่อนโยนกับเจ้าแม้อาจารย์รู้ว่าพวกเรายุ่งเรื่องส่วนตัวของอาจารย์ อาจารย์ก็จะยิ่งเฉยชา แต่หากเป็นเจ้าคนเดียวข้าคิดว่าอาจารย์ไม่กล้าโกรธเคือง”คนอื่นมองจากด้านนอกจึงรู้ว่าปู้ตานซิน ยกให้หยางหว่านเป็นคนสำคัญแต่อนิจจากลับคิดว่าปู้ตานซินคิดกับหย่างหว่านแค่เพียง บุตรี“อาจารย์”หยางหว่านเดินเข้าไปในห้องของปู้ตานซินลืมตาขึ้นช้าๆ จ้องมองใบหน้างดงามที่สองวันมานี้ เขาต้องพบหน้านางทุกวัน หลังจากที่หลายปีผ่านใช้เคล็ดวิชา สอดแนมแอบติดตามมองนางผ่านดวงจิตก็เท่านั้น“วางไว้ แล้วออกไปเสีย”หลั
“เจ้าอยากให้ข้า..ลองพิสูจน์ดูไหมว่าการดื่มฮ่วยซัวฝีมือของจูจ้านกับพวกเจ้าที่วางแผนการให้ข้าดื่มจะส่งผลดีต่อข้าเพียงใด”หยางหว่านยิ้มเบี่ยงตัวหลบเอามือยันอกกว้างไว้ปู้ตานซินอมยิ้ม ปล่อยมือ“ไม่อยากรู้ก็ไปเสีย”“อาจารย์ท่านแกล้งข้า ไหนใครเขาบอกว่าอาจารย์มีเคล็ดวิชาอ่านใจเช่นไรจึงไม่รู้ว่าหยางหว่านจริงใจแค่ไหน”คว้ากิ่งไผ่ตวัดมือเพียงพริบตากิ่งไผ่แหลมจ่อที่คอหอยของหยางหว่าน“ใครกันช่างเอาเรื่องโกหกเหล่านั้นไปเล่าให้เจ้าฟัง หยางหว่านเจ้าเป็นศิษย์เกาซิ่งเพียงหนึ่งในสองที่ข้าวางใจ สิบปีที่ผ่านมาฝึกฝนจนสำเร็จวิชาของเกาซิ่งมีเพียงเจ้ากับจี้โม่ที่ข้าจะวางใจให้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก เช่นนั้นสิ่งที่เจ้าควรคิดถึงอันดับแรกคือการมุ่งมั่นที่จะฝึกตน และทำทุกวิถีทางให้ข้าวางใจมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้เจ้า เลิกเล่นสนุกอย่างที่ผ่านมาได้แล้ว”ดวงตาที่มองไปยังหยางหว่านมีแววตำหนิชัดเจน“อาจารย์ อาจารย์ใจร้ายที่สุด”วิ่งออกจากตรงนั้นไปด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจทั้งน้อยใจและเสียใจที่ถูกตำหนิและโมโหที่อาจารย์มองตัวเองเป็นเด็กเล่นสนุก ปู้ตานซินถอนหายใจ ถ้อยคำที่เขานำมันออกมาปกปิดความเขินอายที่ใกล้ชิดหยางหว่าน แล
ปู้ตานซินปิดตัวเองไม่รับมันพยายามกลับมาแก้ไขด้วยตัวเขาเอง มีจิตใจคุณธรรมจึงยากที่ดวงจิตมารจะเข้าครอบงำแม้จะหลงใหลไปเพียงชั่วครู่ชั่วคราวทว่าสลัดทิ้งจนสิ้นไป นับว่ากล้าหาญไม่น้อย แต่ปู้ตานซินกับคาดไม่ถึงส่งศิษย์เอกที่มีดวงจิตมารเข้าใกล้จอมมารฉูฉางเสียแล้วยากจะแก้ไขเห็นที่นำเล็งกกก๋ง จะไม่อาจดูดายสำนักเกาซิ่งหวังต้าฉิน ถือพัดในมือเดินสำรวจตรวจตรา ศิษย์น้องที่กำลังร่ายรำเพลงกระบี่บ้างก็รวบรวมลมปราณทั้งบุกและตั้งรับ สิบกว่าปีมานี้อาจารย์แทบจะไม่ออกมาดูการฝึกสอนแค่เพียงจัดให้มีการประลองในแต่ละเดือนเฟ้นหาสุดยอดในบรรดาศิษย์แต่ละรุ่น ด่านค่ายกลของอาจารย์ล้วนพลิกผันไม่แน่นอน วันดีคืนดีก็ให้เขาพาศิษย์น้องทั้งหลายเข้าสู่ค่ายกลเพื่อที่จะฟันฝ่าออกมาเหมือนการลับคมมีด อีกทั้งยังสร้างความสามัคคี“จอมยุทธ์”เสียงแหบแห้งเรียกหวังต้าฉินจากด้านหลังร่างสูงหันมองนำเส็งกกก๋ง ด้วยสายตาฉงนสนเท่ห์ดวงตามืดบอด 🤢🤢🤢🤢🤢มือเหี่ยวใช้คลำไปตามทางแทนดวงตาไม้เท้าโค้งงอเขี่ยมาที่ตัว หวังต้าฉินเบาๆ“อาวุโส”“ข้าหลงทางมา หลายวันไม่มีสิ่งใดตกถึงท้อง”หวังต้าฉินใช่โง่งมเพียงอมยิ้มในหน้า ตามืดบอดทว่ารู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ อ
“อาจารย์ท่านจะช่วยศิษย์ต่อกรกับจอมมารในครั้งนี้หรือไม่”“ ข้าจะสละร่างในอีกห้าปีต่อจากนี้ คงไม่ทันได้ช่วยผ่อนหนักเบาช่วยเจ้า แต่ในคืนเดือนเพ็ญเดือนสือเอ้อเยว่ในปีที่สี่ ให้เจ้าลงเขาไปพบข้าเพื่อข้าจะถ่ายทอดเคล็ดวิชา”“เรื่องนี้จอมมารฉูฉางจะรับรู้และได้ยินที่เราพูดกันทั้งหมด พลังของเขากล้าแกร่งอยู่ในผนึกยังสามารถดึงพลังลมปราณมาใช้ เพียงแต่ไม่สามารถออกมา เรื่องราวระหว่างท่านปรมาจารย์กงล้งกับจอมมารฉูฉางเมื่อสี่พันปีก่อนเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้แน่ชัด มีเพียงจอมมารกับเจ้าเท่านั้นที่รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี ปู้ตานซินข้าหวังว่าเจ้าจะใช้เคล็ดวิชาท่องกาลเวลากลับไปยังความขัดแย้งนั้นเพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไปแก้ไขได้ถูก”“ศิษย์น้อมบัญชา อาจารย์อา อาจารย์ที่ผ่านมาครั้งนั้น ปรมาจารย์กงล้งสละร่าง ครั้งนี้ข้าจำเป็นต้องทำแบบนั้นหรือไม่”“เกรงว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น เจ้าเท่ากับมีศัตรูถึงสอง ครั้งนี้คงหนีไม่พ้นเช่นกัน”หยางหว่านก้าวขาเข้ามา พร้อมกับจอกชาและกาน้ำร้อนในมือกกก๋ง ถอนหายใจส่ายหน้าไปมา“เรื่องรักใคร่หากยากสลัดทิ้งไป ย่อมส่งผลเสียมากมายตามมา”“อาจารย์ปู่ อาจารย์”ย่อตัวลงช้าๆ“หยางหว่าน อาจารย์ปู่มอบกร
“ความจริงคือข้าไม่เคยรู้ว่ามาก่อนว่ารองเจ้าสำนักกระบี่ฟ้ากงล้ง จะเป็นคนเดียวกับ กวงเสี่ยวอึ้งที่ข้าเคยรู้จัก..และมอบใจให้ ข้าเพียงแต่อยากมาช่วยพูดให้ท่านวางใจว่าฉูฉางจะวางมือด้วยไร้กังวล เขากลัวว่าสหายผู้หนึ่งจะเป็นกังวลเพราะเขา”พูดความจริงไร้การเสแสร้ง“ไม่จริง”ดึงรั้งร่างบางเข้าใกล้กดริมฝีปากบดเบียดอย่างบ้าคลั่ง ฟูเหยี่ยนหยางหว่านสะบัดฝ่ามือลงบนแก้มของกงล้งอย่างแรง“ไหนท่านบอกว่า ท่านตั้งใจฝึกตนเพื่อจะได้ เป็นสุดยอดฝีมือ แล้วยังมาสนใจข้าทำไมกัน เรื่องที่ท่านพูดล้วนปลิ้นปล้อนไม่จริงไปเสียทุกอย่าง ในใจไม่รู้สึกอะไรในเมื่อท่านสูญเสียข้าไป ท่านจึงรู้ว่าแค่เพียงเสียดาย หาได้เสียใจ”“ไม่ หยางหว่านข้ารักเจ้า ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไป หากเจ้าจะไปกับฉูฉางข้าจะฆ่าเขาเสีย”“คนรักกันจากกัน ไม่เจ็บซ้ำเท่ากับคนที่ไม่รักต้องอยู่ใกล้ตา ปล่อยข้ากับฉูฉางไปเสียท่านปรมาจารย์อย่าได้แค้นเคืองเราทั้งสองคนเลย”“เจ้าพูดเองคนรักกันจากกันไม่เจ็บซ้ำเท่าคนไม่รักกันใกล้กัน เช่นนั้นเจ้ากับฉูฉางคงไม่รู้สึกอะไรหากต้องจากกัน”สกัดจุดฟูเหยี่ยนหยางหว่านจนตัวแข็งทือ หอบเอาร่างบางจากไป“ข้าจะผนึกเจ้าจนกว่าฉูฉางจะเลิกตามหาเจ
“เจ้าเด็กโง่ หากมิใช่ดวงจิตอวตารของข้า เจ้าคิดว่าจะเข้ามาในนี้ได้ง่ายดายอย่างนั้นหรือต้องมีดวงจิตมารแอบแฝง จึงมองข้ามเรื่องคุณธรรมเสียสิ้น”“ใครกำหนดกันว่า สิ่งไหนคือคุณธรรมสิ่งไหนคือจิตมาร”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปลดปล่อยข้าสิแล้วเจ้าจะเข้าใจทุกอย่าง”คำพูดก้องในหัวของ จี้โม๋เหมือนเสียงสะท้อนในหุบเหวลึก ยกมือขึ้นอุดหูเสีย“โอหังเกินไปแล้ว เพียงแค่จอมมารปลายแถว ข้าเป็นถึงศิษย์เอกของท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน เจ้ากล้าโอหังกับข้าหรือ”ซัดฝ่ามือใส่ผนึก บางอย่างหมุนวนเข้าที่เดิม ทั้งพละกำลังและลมปราณที่รวบรวม คล้ายดังลมปราณของปู้ตานซินเมื่อก่อนหน้านั้น ผนึกสีฟ้าใสปริแตกเป็นรอยร้าวยาวเหยียด“ขอบใจที่ทำลายผนึกเพื่อข้า สมกับที่ข้ารอคอยเจ้ามาเนิ่นนาน เจ้ากับข้าไม่ต่างกัน เรารักมั่นกับนางผู้เดียว”“เจ้าหมายถึงเรื่องใดกัน”“จี้โม๋ อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่ได้มีใจให้กับฟูเหยี่ยน หยางหว่าน”“หยางหว่าน เจ้าตั้งใจจะทำอะไร”“นางเกิดมาเพื่อเป็นของข้าและเจ้า”หลงตั๋วขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าองครักษ์ที่เฝ้าถ้ำต่างถูกสกัดจุดจนสิ้น คลายจุดที่สะกัดออกเสีย“ใครกันทำเรื่องเช่นนี้”“ไท่จือ ศิษย์พี่ของท่านจี้โม่เร้นกายเข้าไปข้างใน