ยกถ้วยซุบขึ้นซดอีกครั้ง
“อาจารย์” เอื้อมมือยื้อถ้วยน้ำแกงไว้ มองสบตาดวงตาใส น่าเอ็นดูยิ่งนักปู้ตานซินปล่อยมือ หยางหว่านดึงมันออกมา บรรจงเป่าเบาๆ ไปที่นำซุบที่มีไอร้อนลอยอ้อยอิ่ง
“มันร้อนไปนี่เอง หยางหว่านไม่ทันระวังทำเอาอาจารย์สำลัก ให้หยางหว่านเปาให้มันอุ่น อาจารย์จะได้กินได้สะดวกหน่อย”ปู้ตานซินถอนหายใจ
“อาจารย์จะต้องกินบ่อยๆ หยางหว่านจะต้องมาให้อาจารย์กินทุกวัน ฮ่วยซัวช่วยบำรุงกำลังดีไม่น้อย อาจารย์จะได้แข็งแรง มีแรง…..สอนศิษย์ต่อไป”
เสียวท้องน้อยวาบ เด็กสาวอายุสิบสี่ ใบหน้าผุดผาดแก้มสีชมพูสดใส ริมฝีปากอวบอิ่ม แล้วยังทรวดทรงองค์เอวที่กำลังมองเห็นเด่นชัด ปู้ตานซินกลืนน้ำลายลงคอ จะใช้เคล็ดวิชาอ่านใจ ก็กลัวคำตอบที่ได้จะทำให้เจ็บปวดใจ หากนางแค่เพียงห่วงใยเขาเพราะเขาเป็นอาจารย์ หยางหว่านครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมาทั้งๆ ที่เขาเห็นได้ชัดว่า นางตัวติดกันกับจี้โม่
“ไม่ต้องลำบาก”
กัดฟันพูดความจริงอยากให้หยางหว่านแวะเวียนมาทุกวันแต่...อีกใจกลับกลัวว่านางจะมาไม้ไหน เขาจะรับมือหยางหว่านได้หรือในเมื่อใจเขาทั้งใจมีนางอยู่ในนั้นแล้ว
“อาจารย์หยางหว่านเต็มใจ ได้ทำอะไรเพื่ออาจารย์บ้างเพราะอาจารย์เป็นเหมือนบิดาของหยางหว่านอยู่แล้ว”
บิดาเลยเหรอนี่หยางหว่านเห็นเขาเป็นดังบิดา เช่นนั้นนางก็เคารพเขาเกินกว่าจะคิดเกินเลย กระดกน้ำซุบลงคอ อย่างรวดเร็ว
“เจ้าไปเสีย”น้ำเสียงเรียบเฉย หยางหว่านทำหน้าเง้า
“อาจารย์ ไปเดินเล่นที่สะพานชมจันทร์กันจะดีกว่าไหม หลายปีมานี้อาจารย์ทุ่มเทเพื่อสำนักสั่งสอนพวกเราจนเป็นยอดฝีมือ แต่อาจารย์กลับไร้คน..เคียงข้างเอาใจ”เลิกคิ้วสูง คำพูดของหยางหว่านทำเอาหัวใจพองโตทั้งๆที่หมดหวังไปแล้ว เมื่อหยางหว่านเอาเขาไปเปรียบกับศิษย์พี่ป้อคุนบิดาของนาง
ลุกขึ้นยืน ตั้งใจเดินนำไปยังสะพานชมจันทร์ หยางหว่านคว้าแขนไว้ทันทีคิดว่าปู้ตานซินจะปลีกตัวไปเสีย
“อาจารย์ อย่าเฉยชานักเลย หยางหว่านเห็นว่าอาจารย์ทำเช่นนี้เกรงว่าจะไร้ซึ่ง คู่ครอง ศิษย์พี่จูจ้านก็บอกกับข้าว่า ตั้งแต่อาจารย์ก่อตั้งสำนักมา ไม่เคยเห็นว่าอาจารย์จะชายตามองหญิงใดทั้งๆ ที่อาจารย์ออกจะหล่อเหลาปานนี้แล้วยังเป็นถึงปรมาจารย์ มีหรือที่จะไม่สามารถเลือกเฟ้นคู่ครองที่เหมาะสม”
ยุ่ง ทำไมนางต้องเจ้ากี้เจ้าการเรื่องของเขา หรือว่ารู้ว่าเขามีใจให้นางต้องการหาเมียให้เพื่อที่นางจะได้ครองรักกับจี้โม่ อย่างปลอดโปร่ง
เดินออกจากห้องไปยังสะพานชมจันทร์ หยางหว่านยิ้ม
“อาจารย์ดวงจันทร์คืนนี้สวยยิ่งนักหากมีคนรู้ใจ อยู่ข้างกายคงเป็นสุขไม่น้อย”
“ข้าไม่หวังให้ผู้ใดรู้ใจข้า ในเมื่อข้าเองไม่อาจรู้ใจเขา”หยางหว่านถอนหายใจ
“หยางหว่านชอบดวงจันทร์คืนนี้เสียจริง”
ปู้ตานซิน คิดในใจยิ่งได้มาชมจันทร์เคียงข้างจี้โม่ใช่ไหม ปู้ตานซินลอบมองเสี้ยวหน้าหวานละมุน ด้วยสายตาที่จ้องจับผิด หยางหว่านหันมายิ้มหวาน
“อาจารย์ …….ชอบ...หญิงงามที่มีอุปนิสัยเช่นไรกัน”
ฮึคงกำลังจะหา ว่าที่เมียให้เขา นางถึงลงทุนเช่นนี้ ตอนนี้เขารู้แล้วว่านางทำไมไม่ลงเขาไปกับจี้โม่ ที่จริงแล้วนางต้องการอยู่ที่นี่ เพื่อหาทางโน้มน้าวเขาให้หาคู่ครอง หากจี้โม่กลับมาอีกทีนางก็จะแต่งกับจี้โม่ อย่างไร้ข้อกังขาและเสียงครหา
“เจ้าจะรู้ไปทำไมกัน”
“อาจารย์ท่านก็เป็นเสียอย่างนี้ ร้อยวันพันปี ไม่เคยจะมีวี่แววว่าจะมีหญิงใดที่เป็นที่ชื่นชอบ หยางหว่านรู้ว่าท่านใช้เวลาส่วนมากอยู่กับการเตรียมการณ์ เมื่อจอมมารฉูฉางจะออกมาจากผนึกเสียได้ ถึงใครจะว่าอาจารย์ ว่าไม่ออกหน้าแต่หยางหว่านรู้ดีว่าอาจารย์มิใช่คนที่ชอบออกหน้า แต่จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนอื่นไม่หวังคำสรรเสริญ หยางหว่านยังจำเมื่อสิบปีก่อนได้ที่อาจารย์กำจัดปีศาจพรายน้ำยังยกความชอบให้กับศิษย์น้องหลงตั๋ว อาจารย์เป็นคนเช่นนั้น”
“เจ้าไม่ต้องยุ่ง”
“อาจารย์ต่อแต่นี้อาจารย์วางมือจากจอมมารฉูฉางนั่นเสีย แล้วหันมาสนใจเรื่องของตัวเองเสียบ้าง จะสนใจเรื่องของจอมมารนั่นไปทำไมกันในเมื่อปรมาจารย์อาวุโสหลายสำนัก ต่างผนึกกำลังกันแล้วอาจารย์ก็ไม่จำเป็นต้องกังวล ปล่อยพวกเขาจัดการกันไป อาจารย์ อาจารย์อายุยี่สิบห้าแล้วควรมีภรรยาและคนคอยดูแล”ปู้ตานซินเดินหลบ ออกจากตรงนั้น
“อาจารย์”คว้าข้อมือใหญ่กระตุกอย่างแรง หยางหว่านที่ปู้ตานซินรู้จักนางเป็นคนไม่ยอมคน ร่างสูงเซถลา
หันมาตั้งใจจะซัดฝ่ามือใส่หยางหว่านด้วยความลืมตัวหยางหวานพลิกตัวหลบ พลิ้วไหว หันหลังกลับพาตัวเองซุกเข้าไปในอ้อมแขนของปู้ตานซิน เอี่ยวคอมองสบตา อาจารย์หนุ่มปล่อยมือปล่อยอ้อมกอด ก้มหน้าเดินเข้าห้องไปทันทีหยางหว่านยิ้ม
“อาจารย์หยางหว่านไม่มีทางยอมแพ้”
ปู้ตานซินถอนหายใจผลักไสเขาให้คนอื่น แม้จะเลี้ยงดูนางมา สุดท้ายแล้วนางก็ยังไม่มีใจให้เขาอยู่ดี
จี้โม่ ในอาภรณ์สีขาวสะอาดตา รูปร่างสูงโปร่งในแบบจอมยุทธ์เจ้าสำอางจะว่าไปบุคลิกบางส่วนล้วนถอดแบบมาจากปู้ตานซิน ก็เขาเห็นอาจารย์วางตัวเช่นนี้มาแต่อ้อนแต่ออก แล้วมันก็ช่างงดงามสมกับเป็นปรมาจารย์หนุ่ม สิ่งที่เขาใฝ่ฝันอันดับสองคือการองอาจเช่นเดียวกับอาจารย์วางท่าได้เช่นเดียวกับอาจารย์ (อันดับหนึ่งคือการได้เป็นเจ้าสำนักต่อจากอาจารย์ แต่คงจะแห้วก็กว่าปู้ตานซินจะแก่จะตาย ตอนนี้เพิ่งจะยี่สิบห้าปีอีกกี่ปีกว่าจะยกสำนักให้เขา)“จอมยุทธ์ท่านนี้”สายตานับสิบคู่ของเหล่าจอมยุทธ์จากสำนักต่างๆ ที่แวะเวียนกันเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของจอมมารฉูฉาง ณ.เรือนอารักขาร่วมกับเหล่าองครักษ์จากวังหลวง จ้องมองมายังจี้โม่ที่กอดกระบี่ไว้กับอกด้วยท่าที มาดมั่นเหลือเกิน“ข้าน้อยจี้โม่ ศิษย์คนที่325ของสำนักเกาซิ่ง”“อือหือ ศิษย์ของปรมาจารย์ปู้ตานซิน ไม่น่าเชื่อว่าคนที่นิ่งเฉยเช่นท่านปรมาจารย์จะส่งศิษย์ของเขาลงมา เฝ้าสังเกตการณ์ด้วย”“อาจารย์และสำนักเกาซิ่งของเรา ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ที่ผ่านมาล้วนคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่จะลงเขามาเพื่อเฝ้าระวัง”“นับว่าท่านปรมาจารย์ ช่างรอบคอบเสียจริง มิน่าที่ผ่านมานิ่งเฉยเพี่อที่จะส่งศิษย์เอกมาใ
หยางหว่านยิ้มแหย๋ๆไม่แน่ใจตัวเองนักยิ่งเมื่อศิษย์พี่คาดหวังถึงขนาดนี้ ไม่เท่ากับเทใจมาที่หยางหว่านกันหมดแล้วหรือ“ศิษย์พี่ใหญ่ท่านคาดหวังในตัวข้ามากไปหรือเปล่า”พึมพัมเบาๆ“ข้าเชื่อ หยางหว่านเจ้าจะต้องทำได้...อย่างแน่นอน”“ว่าแล้วข้าก็เคี่ยวฮ่วยซัวเรียบร้อยแล้ว หยางหว่านถึงเวลาที่เจ้าต้องยกไปให้อาจารย์แล้ว แล้วอย่าลืมที่ตกลงกันไว้ อย่าเผลอพูดไปว่าพวกเราลงขันกัน เจ้าต้องบอกว่าเจ้าเพียงคนเดียว แล้วก็เรื่องเคี่ยวยาเป็นเจ้าที่เคี่ยวเอง อาจารย์จะได้เกรงใจเจ้า ดื่มมันเสียหมด”หวังต้าฉินสอนสั่ง“ทำไม ...ข้าไม่เข้าใจ”“อาจารย์อ่อนโยนกับเจ้าแม้อาจารย์รู้ว่าพวกเรายุ่งเรื่องส่วนตัวของอาจารย์ อาจารย์ก็จะยิ่งเฉยชา แต่หากเป็นเจ้าคนเดียวข้าคิดว่าอาจารย์ไม่กล้าโกรธเคือง”คนอื่นมองจากด้านนอกจึงรู้ว่าปู้ตานซิน ยกให้หยางหว่านเป็นคนสำคัญแต่อนิจจากลับคิดว่าปู้ตานซินคิดกับหย่างหว่านแค่เพียง บุตรี“อาจารย์”หยางหว่านเดินเข้าไปในห้องของปู้ตานซินลืมตาขึ้นช้าๆ จ้องมองใบหน้างดงามที่สองวันมานี้ เขาต้องพบหน้านางทุกวัน หลังจากที่หลายปีผ่านใช้เคล็ดวิชา สอดแนมแอบติดตามมองนางผ่านดวงจิตก็เท่านั้น“วางไว้ แล้วออกไปเสีย”หลั
“เจ้าอยากให้ข้า..ลองพิสูจน์ดูไหมว่าการดื่มฮ่วยซัวฝีมือของจูจ้านกับพวกเจ้าที่วางแผนการให้ข้าดื่มจะส่งผลดีต่อข้าเพียงใด”หยางหว่านยิ้มเบี่ยงตัวหลบเอามือยันอกกว้างไว้ปู้ตานซินอมยิ้ม ปล่อยมือ“ไม่อยากรู้ก็ไปเสีย”“อาจารย์ท่านแกล้งข้า ไหนใครเขาบอกว่าอาจารย์มีเคล็ดวิชาอ่านใจเช่นไรจึงไม่รู้ว่าหยางหว่านจริงใจแค่ไหน”คว้ากิ่งไผ่ตวัดมือเพียงพริบตากิ่งไผ่แหลมจ่อที่คอหอยของหยางหว่าน“ใครกันช่างเอาเรื่องโกหกเหล่านั้นไปเล่าให้เจ้าฟัง หยางหว่านเจ้าเป็นศิษย์เกาซิ่งเพียงหนึ่งในสองที่ข้าวางใจ สิบปีที่ผ่านมาฝึกฝนจนสำเร็จวิชาของเกาซิ่งมีเพียงเจ้ากับจี้โม่ที่ข้าจะวางใจให้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก เช่นนั้นสิ่งที่เจ้าควรคิดถึงอันดับแรกคือการมุ่งมั่นที่จะฝึกตน และทำทุกวิถีทางให้ข้าวางใจมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้เจ้า เลิกเล่นสนุกอย่างที่ผ่านมาได้แล้ว”ดวงตาที่มองไปยังหยางหว่านมีแววตำหนิชัดเจน“อาจารย์ อาจารย์ใจร้ายที่สุด”วิ่งออกจากตรงนั้นไปด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจทั้งน้อยใจและเสียใจที่ถูกตำหนิและโมโหที่อาจารย์มองตัวเองเป็นเด็กเล่นสนุก ปู้ตานซินถอนหายใจ ถ้อยคำที่เขานำมันออกมาปกปิดความเขินอายที่ใกล้ชิดหยางหว่าน แล
ปู้ตานซินปิดตัวเองไม่รับมันพยายามกลับมาแก้ไขด้วยตัวเขาเอง มีจิตใจคุณธรรมจึงยากที่ดวงจิตมารจะเข้าครอบงำแม้จะหลงใหลไปเพียงชั่วครู่ชั่วคราวทว่าสลัดทิ้งจนสิ้นไป นับว่ากล้าหาญไม่น้อย แต่ปู้ตานซินกับคาดไม่ถึงส่งศิษย์เอกที่มีดวงจิตมารเข้าใกล้จอมมารฉูฉางเสียแล้วยากจะแก้ไขเห็นที่นำเล็งกกก๋ง จะไม่อาจดูดายสำนักเกาซิ่งหวังต้าฉิน ถือพัดในมือเดินสำรวจตรวจตรา ศิษย์น้องที่กำลังร่ายรำเพลงกระบี่บ้างก็รวบรวมลมปราณทั้งบุกและตั้งรับ สิบกว่าปีมานี้อาจารย์แทบจะไม่ออกมาดูการฝึกสอนแค่เพียงจัดให้มีการประลองในแต่ละเดือนเฟ้นหาสุดยอดในบรรดาศิษย์แต่ละรุ่น ด่านค่ายกลของอาจารย์ล้วนพลิกผันไม่แน่นอน วันดีคืนดีก็ให้เขาพาศิษย์น้องทั้งหลายเข้าสู่ค่ายกลเพื่อที่จะฟันฝ่าออกมาเหมือนการลับคมมีด อีกทั้งยังสร้างความสามัคคี“จอมยุทธ์”เสียงแหบแห้งเรียกหวังต้าฉินจากด้านหลังร่างสูงหันมองนำเส็งกกก๋ง ด้วยสายตาฉงนสนเท่ห์ดวงตามืดบอด 🤢🤢🤢🤢🤢มือเหี่ยวใช้คลำไปตามทางแทนดวงตาไม้เท้าโค้งงอเขี่ยมาที่ตัว หวังต้าฉินเบาๆ“อาวุโส”“ข้าหลงทางมา หลายวันไม่มีสิ่งใดตกถึงท้อง”หวังต้าฉินใช่โง่งมเพียงอมยิ้มในหน้า ตามืดบอดทว่ารู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ อ
“อาจารย์ท่านจะช่วยศิษย์ต่อกรกับจอมมารในครั้งนี้หรือไม่”“ ข้าจะสละร่างในอีกห้าปีต่อจากนี้ คงไม่ทันได้ช่วยผ่อนหนักเบาช่วยเจ้า แต่ในคืนเดือนเพ็ญเดือนสือเอ้อเยว่ในปีที่สี่ ให้เจ้าลงเขาไปพบข้าเพื่อข้าจะถ่ายทอดเคล็ดวิชา”“เรื่องนี้จอมมารฉูฉางจะรับรู้และได้ยินที่เราพูดกันทั้งหมด พลังของเขากล้าแกร่งอยู่ในผนึกยังสามารถดึงพลังลมปราณมาใช้ เพียงแต่ไม่สามารถออกมา เรื่องราวระหว่างท่านปรมาจารย์กงล้งกับจอมมารฉูฉางเมื่อสี่พันปีก่อนเกิดอะไรขึ้นไม่มีใครรู้แน่ชัด มีเพียงจอมมารกับเจ้าเท่านั้นที่รู้เรื่องราวเหล่านี้ดี ปู้ตานซินข้าหวังว่าเจ้าจะใช้เคล็ดวิชาท่องกาลเวลากลับไปยังความขัดแย้งนั้นเพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไปแก้ไขได้ถูก”“ศิษย์น้อมบัญชา อาจารย์อา อาจารย์ที่ผ่านมาครั้งนั้น ปรมาจารย์กงล้งสละร่าง ครั้งนี้ข้าจำเป็นต้องทำแบบนั้นหรือไม่”“เกรงว่าจะต้องเป็นเช่นนั้น เจ้าเท่ากับมีศัตรูถึงสอง ครั้งนี้คงหนีไม่พ้นเช่นกัน”หยางหว่านก้าวขาเข้ามา พร้อมกับจอกชาและกาน้ำร้อนในมือกกก๋ง ถอนหายใจส่ายหน้าไปมา“เรื่องรักใคร่หากยากสลัดทิ้งไป ย่อมส่งผลเสียมากมายตามมา”“อาจารย์ปู่ อาจารย์”ย่อตัวลงช้าๆ“หยางหว่าน อาจารย์ปู่มอบกร
“ความจริงคือข้าไม่เคยรู้ว่ามาก่อนว่ารองเจ้าสำนักกระบี่ฟ้ากงล้ง จะเป็นคนเดียวกับ กวงเสี่ยวอึ้งที่ข้าเคยรู้จัก..และมอบใจให้ ข้าเพียงแต่อยากมาช่วยพูดให้ท่านวางใจว่าฉูฉางจะวางมือด้วยไร้กังวล เขากลัวว่าสหายผู้หนึ่งจะเป็นกังวลเพราะเขา”พูดความจริงไร้การเสแสร้ง“ไม่จริง”ดึงรั้งร่างบางเข้าใกล้กดริมฝีปากบดเบียดอย่างบ้าคลั่ง ฟูเหยี่ยนหยางหว่านสะบัดฝ่ามือลงบนแก้มของกงล้งอย่างแรง“ไหนท่านบอกว่า ท่านตั้งใจฝึกตนเพื่อจะได้ เป็นสุดยอดฝีมือ แล้วยังมาสนใจข้าทำไมกัน เรื่องที่ท่านพูดล้วนปลิ้นปล้อนไม่จริงไปเสียทุกอย่าง ในใจไม่รู้สึกอะไรในเมื่อท่านสูญเสียข้าไป ท่านจึงรู้ว่าแค่เพียงเสียดาย หาได้เสียใจ”“ไม่ หยางหว่านข้ารักเจ้า ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไป หากเจ้าจะไปกับฉูฉางข้าจะฆ่าเขาเสีย”“คนรักกันจากกัน ไม่เจ็บซ้ำเท่ากับคนที่ไม่รักต้องอยู่ใกล้ตา ปล่อยข้ากับฉูฉางไปเสียท่านปรมาจารย์อย่าได้แค้นเคืองเราทั้งสองคนเลย”“เจ้าพูดเองคนรักกันจากกันไม่เจ็บซ้ำเท่าคนไม่รักกันใกล้กัน เช่นนั้นเจ้ากับฉูฉางคงไม่รู้สึกอะไรหากต้องจากกัน”สกัดจุดฟูเหยี่ยนหยางหว่านจนตัวแข็งทือ หอบเอาร่างบางจากไป“ข้าจะผนึกเจ้าจนกว่าฉูฉางจะเลิกตามหาเจ
“เจ้าเด็กโง่ หากมิใช่ดวงจิตอวตารของข้า เจ้าคิดว่าจะเข้ามาในนี้ได้ง่ายดายอย่างนั้นหรือต้องมีดวงจิตมารแอบแฝง จึงมองข้ามเรื่องคุณธรรมเสียสิ้น”“ใครกำหนดกันว่า สิ่งไหนคือคุณธรรมสิ่งไหนคือจิตมาร”“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ปลดปล่อยข้าสิแล้วเจ้าจะเข้าใจทุกอย่าง”คำพูดก้องในหัวของ จี้โม๋เหมือนเสียงสะท้อนในหุบเหวลึก ยกมือขึ้นอุดหูเสีย“โอหังเกินไปแล้ว เพียงแค่จอมมารปลายแถว ข้าเป็นถึงศิษย์เอกของท่านปรมาจารย์ปู้ตานซิน เจ้ากล้าโอหังกับข้าหรือ”ซัดฝ่ามือใส่ผนึก บางอย่างหมุนวนเข้าที่เดิม ทั้งพละกำลังและลมปราณที่รวบรวม คล้ายดังลมปราณของปู้ตานซินเมื่อก่อนหน้านั้น ผนึกสีฟ้าใสปริแตกเป็นรอยร้าวยาวเหยียด“ขอบใจที่ทำลายผนึกเพื่อข้า สมกับที่ข้ารอคอยเจ้ามาเนิ่นนาน เจ้ากับข้าไม่ต่างกัน เรารักมั่นกับนางผู้เดียว”“เจ้าหมายถึงเรื่องใดกัน”“จี้โม๋ อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่ได้มีใจให้กับฟูเหยี่ยน หยางหว่าน”“หยางหว่าน เจ้าตั้งใจจะทำอะไร”“นางเกิดมาเพื่อเป็นของข้าและเจ้า”หลงตั๋วขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าองครักษ์ที่เฝ้าถ้ำต่างถูกสกัดจุดจนสิ้น คลายจุดที่สะกัดออกเสีย“ใครกันทำเรื่องเช่นนี้”“ไท่จือ ศิษย์พี่ของท่านจี้โม่เร้นกายเข้าไปข้างใน
หลุดออกมาจากด่านค่ายกล สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอดด้านล่างอากาศบริสุทธิ์ไม่น้อย อาภรณ์ชุดดำที่สวมใส่ทำให้องอาจน่ามอง ต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาก็จะต้องเผชิญมันอย่างเด็ดเดี่ยวและตั้งใจเหมือนเมื่อสี่พันปีที่ผ่านมา“พลั๊ก..."ร่างบอบบางของใครบางคนกระเด็นออกมาชนร่างเขาเข้าเต็มแรง ปู้ตานซินคว้าเอวกิ่วไว้แน่น“อะ อาจารย์”หยางหว่านนั้นเอง นางบุกบั่นฝ่าค่ายกลลงเขามา แต่เขาเพียงแค่โบกมือค่ายกลก็พร้อมจะเปิดอ้า แต่หยางหว่านนางจะใช้ความสามารถทั้งหมดผ่าด่านค่ายกลลงเขา“กลับขึ้นไปเสีย”“อาจารย์จะบ้าหรือ ข้าเพิ่งจะผ่าด่านค่ายกลลงมาแสนจะยากลำบากอาจารย์กลับบอกว่าให้กลับขึ้นไป”ช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนอุ้มไว้ทั้งตัว จะห่างนางกับอยากใกล้ คิดถึงรสจูบและรอยกอด“อาจารย์ท่านจะทำอะไร”เมินหน้าไม่มองหยางหว่านในอ้อมแขน“อาจารย์จะทำอะไร”เสียงเข้ม“ข้าจะพาเจ้ากลับไปส่งที่บนเขา”หยางหว่านดิ้น หลุดจากอ้อมแขนลงมายืนจ้องหน้าปู้ตานซิน“อาจารย์ ต้องเป็นข้าที่โกรธอาจารย์เพราะอาจารย์...จูบข้า”ปู้ตานซินถอนหายใจ หันหลังเดินหนี หยางหวานเดินมายืนเผชิญหน้าเขย่งตัวขึ้นจุมพิตที่ปากของปู้ตานซินอย่างจงใจ“หายกัน อาจารย์จูบข้า ข้าจูบอาจ