ปู้ตานซินกลับออกมาจากถ้ำ ที่ผนึกฉูฉางไว้
“ศิษย์น้องเจ้าเป็นอย่างไรบ้างข้ากับป้อคุนหลงไปอีกฝั่งของถ้ำไม่สามารถหาทางกลับไปได้”
“ไม่เป็นไรข้าแค่ตกใจกับสิ่งที่พบ จอมมารฉูฉางน่ากลัว อีกทั้งมีลมปราณที่แข็งแกร่งข้าอยู่ใกล้แล้วรู้สึกไม่ค่อยดี”
“เจ้าปลอดภัยก็ดีแล้ว ไว้คราวหลังเราทั้งหมดค่อยให้เจ้านำไปที่นั่นอีกครั้ง”
“เรื่องเล่าเหล่านั้นหามีความจริงไม่ ศิษย์พี่ทั้งสองเลิกล้มความตั้งใจเสียเถิด มีเพียงการมุ่งมั่นในการคัดสรรศิษย์และสั่งสอนพวกเขาให้ดี เรื่องเล่าของสำนักเราคงโด่งดังเช่นกัน และย่อมจะมีคนอยากมาคารวะเป็นศิษย์”
“อืมเจ้าพูดมีเหตุผลว่าแต่เราจะรับใครเป็นศิษย์ในเมื่อสำนักเราเพิ่งจะก่อตั้งขึ้นมาไม่นาน”
“ตอนนี้ ปีศาจกินคนพรายน้ำกำลังอาละวาดจับผู้คนไปเมืองบาดาล ข้าเห็นว่าเราควรปราบปีศาจตนนั้นเสีย แล้วชาวบ้านจึงซาบซึ้งบุญคุณล้วนกล่าวขานชื่นชม เมื่อนั้นจึงจะสร้างชื่อเสียง”
“ความคิดของเจ้าไม่เลว ไม่มีใครคิดได้เช่นเจ้าใครก็ล้วนไม่อยากเอาตัวเองไปเสี่ยงแต่สำนักเกาซิ่งของเรา หวังสร้างชื่อเสียง เราทั้งสามคงต้องทำเหมือนที่เจ้าบอก”
ในครั้งนั้น ปู้ตานซินปล่อยให้ปีศาจพรายน้ำอาละวาดจับชาวบ้านเป็นอาหารถึงสามปี เพิ่งจะออกโรงปกป้องชาวบ้านก็ต่อเมื่อต้องการผลประโยชน์
“อาจารย์”หยางหว่าน เดินเข้ามากระตุกมือเบาๆ ปู้ตานซินกลับสู่ความเป็นจริง
“เมื่อไหร่เราจะกลับขึ้นเขากันเสียทีข้าคิดถึงศิษย์น้องจี้โม่เขาต้องเหงาและคิดถึงข้าไม่น้อย เราสองคนขึ้นเขามาพร้อมกันเป็นดังพี่น้อง”
ปู้ตานซิน ยิ้มแม้จะกลับมาเปลี่ยนแปลงหลายอย่างแต่ทว่าบางอย่างก็ไม่อาจเปลี่ยนมันได้
“บอกลาฮ่องเต้แล้วกลับขึ้นเขา”
“แล้วศิษย์น้องไท่จือเล่า”
“เขาก็ต้องลาทุกคนเช่นกัน”
“แต่ หยางหว่านเห็นว่า ศิษย์น้องไท่จือ กับพี่สาวแสนสวย….อาจารย์มิสู้ปล่อยให้เขาร่ำลากันอาจารย์แวะไปที่สำนัก..ป้อซิ่ง..ของท่านพ่อข้า”
“อืม”
หยางหว่านนางไม่เคยเปลี่ยนไปแต่เดิมเป็นเช่นไรตอนนี้นางก็ยังเหมือนเดิม ความคิดอ่านโตเกินตัวแล้วยังช่วยชี้แนะเขาได้ไม่น้อยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตัวเขาถึงชื่นชอบหยางหว่าน จะเลี้ยงดูนางอย่างไรให้นางชื่นชอบเขาตอบบ้างคงไม่มีทาง
ก่อนหน้านั้น
ร่างสูงของปู้ตานซินทาบทับร่างเล็กบอบบางของหยางหว่านไว้ทั้งตัว
“อาจารย์ได้โปรดปล่อยศิษย์ไปเถอะ”
“ข้าไม่เห็นความสำคัญจะต้องปล่อยเจ้าไป หยางหว่านเราแต่งกันแล้วเจ้ายัง ยื้อเวลาไม่ยอมรวมแท่นนอนกับข้า”
“อาจารย์หยางหว่านเพิ่งจะแต่งกับท่านไม่นาน จะหักหาญน้ำใจข้าแล้วหรือ”ดันร่างเล็กลงบนแท่นนอน
“หยางหว่านข้ารักเจ้า”บางอย่างในกายร้อนฉ่า ไม่อาจระงับยับยั้งใจ จิตใจของเขาถูกครอบงำด้วยด้านมืด ไม่ว่าจะรักโลภโกรธหลง ล้วนสั่งสมเป็นปู้ตานซินในตอนนี้ จากการที่เข้าไปในถ้ำพบกับจอมมารฉูฉาง ด้านมืดของเขาถูกจอมมารฉูฉางดึงมันออกมา
“อาจารย์”
แม้จะเกลียดชังเพียงใดหยางหว่านก็ไม่อาจพูดความจริง สุดยอดเคล็ดวิชาที่ปู้ตานซินมีหยางหว่านต้องการมันยิ่งนัก หากทำเรื่องนี้สำเร็จหยางหว่านกับจี้โม่จึงจะได้ครองคู่กันเช่นนั้นจึงอย่าเพิ่งมอบกายให้กับปู้ตานซินเพียงแค่ตามใจเขาบ้าง แล้วหลอกล่อเขาเพื่อเคล็ดวิชา ตามที่ตกลงกับจี้โม่
“อาจารย์”ทำท่าทีเอียงอาย ก่อนจะบรรจงจุมพิตที่ปากของปู้ตานซินเบาๆ แต่อีกคนกับรวบร่างบางอ้อนแอ้น กดริมฝีปากเร่งเร้า ดูดดื่มปลดเปลื้องอาภรณ์ออก
“ข้ารักเจ้าเป็นของข้าเสียเถิด”
จะว่าไม่ยอม แต่มีหรือจะหนีพ้นเมื่อหยางหว่านเองก็ใช่ว่าไม่เคยต้องมือชาย กับจี้โม่นางไปถึงไหนถึงไหน รักกันจนมอบร่างพลีกายให้เขาเชยชม จะผิดอะไรในเมื่อกายนี้เป็นของจี้โม่ก่อนหน้านั้นแล้ว ปู้ตานซินแค่เพียงรับเศษเดนของจี้โม่ไปก็เท่านั้น ปู้ตานซินกอดร่างบางแนบแน่นร่างเล็กสะท้อนขึ้นลงบนแท่นนอน ใต้ร่างของปู้ตานซิน อาจารย์หนุ่มกลัดมันที่รักและถนอมหยางหว่านยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง ไม่สงสัยแม้แต่น้อยว่านางมิได้พิสุทธิ์สดสะอาด เพียงร่างบางร้องครางเสแสร้งแกล้งทำว่าเจ็บปวด ปู้ตานซินก็ยิ้มสุขใจ เป็นเขาที่พลาดไปเหตุใดไม่ใช้เคล็ดวิชาอ่านใจในเมื่อร่างเล็กที่บิดตัวไปมาใต้ร่างเขา หลับตาด้วยความเป็นสุขนั้นกลับจินตนาการ ว่าร่วมรักกับจี้โม่อยู่ในอ้อมกอดของจี้โม่หาใช่ปู้ตานซินที่รักและถนอมหยางหว่านในอ้อมแขนของเขา
“จี้โม่….อ่า”เสียงครางแผ่วเบา ปู้ตานซินสะดุ้งสุดตัว สำนึกรู้ในทันที ทว่าอารมณ์พิศวาสกับโลดแล่นจนถึงขีดสุดไม่อาจสะดุดหยุดลงได้แล้ว เขายิ่งโหมกระหนำไฟรักให้ลุกโซนด้วยอารมณ์ภายใน
“อาจารย์หยางหว่านเป็นของท่านแล้ว แล้วอาจารย์ยังไม่คิดจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาของอาจารย์ปู่ให้กับหยางหว่านอีกหรือ”
กอดเอวใหญ่ไว้แน่นซบหน้าลงบนอกกว้างเปลือยเปล่าลูบไล้มือบางไปบนอกเปลือยยั่วเย้าอารมณ์ คำพูดตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมที่ปู้ตานซินคิดว่าหยางหว่านจริงใจเหลือเกิน ริมฝีปากบางจุมพิตไปบนอกกว้างไล่ต่ำลงเรื่อยๆ
“อาจารย์ หยางหว่านอย่างเรียนเคล็ดวิชานั้นกับอาจารย์”เขาแสยะยิ้มพลิกร่างบางลงใต้ร่างเขาเสพสมจนพอใจ แลกกับเคล็ดวิชา แต่เรื่องนี้ หยางหว่านหารู้ไม่ว่าเขามิได้ถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้จนเสร็จสมบูรณ์เพียงแค่ผิวเผิน เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้นแลกกับร่างกายของนางให้เขาเสพสมจนอิ่มหนำหากจะได้ทั้งหมดจะต้องแลกด้วยความภักดี เสียงครางนามของจี้โม่ยังติดอยู่ในใจ เรื่องใดกันในเมื่อนางไม่จริงใจเหตุใดเขาต้องจริงใจตอบปู้ตานซินหลับตาลงช้าๆ สลายร่างคงพลังทิพย์ ด้านมืดสลายหายไปเขากลับเป็นปู้ตานซินคนเดิมก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำที่ผนึกฉูฉาง หากว่าต้องเข้าไปที่นั่นอีกครั้งเขาจะต้องจัดการเช่นไรตอนนี้ยังคิดไม่ออก ในตอนนั้นเขาถึงกับฆ่าศิษย์พี่ทั้งสอง ฆ่าทุกคนไร้ซึ่งเมตตา และทำทุกอย่างให้ได้ครอบครองยุทธภพและหยางหว่าน แต่ครั้งนี้เขากลับมาแก้ไข แต่จอมมารฉูฉางยังอยู่ที่นั่น แม้เขาจะหาทางเลี่ยงแต่ผนึกก็ปริแตก ปู้ตานซินคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดีในตอนนั้นปู้ตานซิน อ่อนหัดยิ่งนักแม้จะผ่านเรื่องราวมา อีกครั้งก็ยังคิดว่าตัวเองไม่ได้แข็งแกร่งเพียงนั้น แค่เพียงสร้างเกราะขึ้นมาก็เท่านั้น ตอนนั้นเขาไม่ลังเลที่จะฆ่าปีศาจพรายน้ำให้ตายลงต่อ
“สำนักของข้า อาจดูคับแคบแต่หวังว่าศิษย์น้องจะไม่ถือสา”ยิ้มบางๆ ก้าวเท้าเดิน เข้าไปในห้องพักนั่งลงเดินลมปราณ เพื่อทดสอบกำลังของตัวเอง ตั้งใจถอดวิญญาณ ไปยังถ้ำที่ผนึกจอมมารฉูฉางเพื่อตรวจดูว่าผนึกที่ปริแตกเสียหายมากน้อยแค่ไหน“อาจารย์”หยางหว่านเดินหอบหมอนเข้ามาข้างใน“เจ้าไม่นอนกับมารดาหรือไร ไหนบ่นว่าคิดถึงพ่อกับแม่”อดที่จะทอดเสียอ่อนโยนเสียไม่ได้ ในเมื่อภาพความทรงจำเก่าๆ ที่หยางหว่านเสแสร้งเป็นว่า รักและภักดีกับเขา ยังวนเวียนในหัว“หยางหว่านอนไม่หลับ ต้องให้ใครสักคนตบตูด”“แม่ของเจ้าเล่า”“อาจเป็นเพราะห่างบ้านไปเสียนาน อาจารย์หยางหว่านคุ้นชินกับการนอนกับท่านเสียมากกว่า”ปู้ตานซินถอนหายใจยาวนางเสแสร้งหรือไม่ในเมื่อเพิ่งจะสี่ขวบแล้วเขาจะเชื่อคำพูดนางได้มากน้อยแค่ไหนในเมื่อที่ผ่านมาเขาไม่อาจแยกแยะว่าจริงหรือหลอก“กลับไปนอนกับแม่ของเจ้าเสียหยางหว่านอาจารย์มีเรื่องจะต้องทำในคืนนี้ ไม่ว่างมาทำเรื่อง แบบนั้นเพื่อเจ้า”“แง…..ฮืออออออออาจารย์ใจร้ายอาจารย์ใจร้ายที่สุดดดด”หยางหว่านวิ่งออกจากห้องไป ปู้ตานซินถอนหายใจเรื่องราวก่อนนั้น“อาจารย์ ข้านอนไม่หลับ”ปู้ตานซินลุกขึ้นจากแท่นนอน ตบมือลงบนแท่น
“ศิษย์ลงเขาไปครั้งนี้แม้ไม่อันตรายเท่าไหร่ ทว่าบนเขายังมีเรื่องให้ต้องห่วง”ไม่ต้องเอ่ยปากปู้ตานซินก็เข้าใจว่าจี้โม่ห่วงใยหยางหว่านกลัวว่านางจะคิดถึงเขา เหอะ ไม่มีทางข้าจะทำให้นางลืมเลือน ม้าไม้ไผ่เช่นเจ้าไปเสีย“บนเขาปลอดภัยยิ่งมีสิ่งใดให้ห่วงใย”แสร้งทำเป็นไขสือ“ข้าห่วงยิ่งคืออาจารย์ ที่จะขาดคนคอยปรนนิบัติ อีกทั้งคนอื่นอาจไม่ถูกใจทันใจเช่นจี้โม่ ครั้งนี้หวังว่าศิษย์พี่จะรับปากปรนนิบัติอาจารย์แทนข้า ข้าจึงวางใจลงไปทำหน้าที่แทนศิษย์ทั้งหลายของสำนักเกาซิ่ง อย่างดีที่สุด”ปู้ตานซินอยากจะใช้เคล็ดวิชาอ่านใจ ก่อนจะยิ้ม ห่วงข้าเจ้าแน่ใจหรือว่าห่วงข้ามิได้ห่วงหยางหว่าน“ศิษย์น้องจี้โม่เจ้าไม่ต้องห่วงอาจารย์ ศิษย์พี่ต้าฉินจะปรนนิบัติอาจารย์แทนเจ้าลงเขาไปด้วยความวางใจเจ้าทำเพื่อสำนักของเรา ล้วนเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง”ปู้ตานซินลืมตาขึ้นช้าๆ“หยางหว่านข้าดูแลนางแทนเจ้าไม่ต้องห่วง นางเป็นศิษย์พี่ของเจ้า นางก็เป็นศิษย์ของข้าเช่นกัน”พูดในสิ่งที่อ่านใจได้มา จี้โม่ซ่อนยิ้มบางๆ เมื่ออาจารย์ล่วงรู้สิ่งที่เก็บงำในใจ“ข้าห่วงนางเพียงส่วนหนึ่งในเมื่อข้ากับนาง ขึ้นเขาพร้อมกัน ตอนนี้วรยุทธ์ของเราสองก็ก้าวหน้า
“เดิมเป็นปรมาจารย์กงล้งที่ผนึกจอมารฉูฉางไว้จนตัวเองสละร่างพาวิญญาณล่องลอยสู่สรวงสวรรค์ กระนั้นก็ยังประกาศว่าจะกลับมาในรอบสีพันปีเพื่อผนึกจอมมารฉูฉางเมื่อถึงเวลาอีกครั้ง”“อาจารย์แล้วทำไมเราไม่ค้นหาร่างอวตารของท่านปรมาจารย์กงล้ง”รีบหลบตาทันที ความลับนี้มีเพียงเขาและท่านปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงที่รู้ผู้อื่นไม่มีใครสืบรู้เรื่องนี้ด้วย อาจารย์ของเขาปรมาจารย์เตี่ยงเลี่ยงเป็นผู้ที่มีเคล็ดวิชาท่องกาลเวลาจึงสืบรู้ได้ว่าใครกันที่เป็นร่างอวตารของปรมาจารย์กงล้งเขาจึงได้รับเคล็ดวิชามาจากอาจารย์ทั้งหมดหาใช่เรื่องบังเอิญที่เหล่าจอมยุทธ์หรือศิษย์พี่ของเขาพูดกันไม่ อาจารย์ต้องการมอบเคล็ดวิชาให้เขาเพื่อจะได้ ผนึกจอมมารฉูฉางไว้อีกครั้ง นั่นเอง“อาจารย์ข้านึกออกแล้ว หวังต้าฉินอาสาสืบเสาะหาร่างอวตารของปรมาจารย์กงล้งดีไหม”“เดี๋ยว”ยกมือห้ามทันควัน“อาจารย์ อย่าห้ามศิษย์เลยถ้าปล่อยให้จอมมารฉูฉาง ทำลายผนึกออกมาได้ย่อมไม่เป็นเรื่องดี” เขาตอนนี้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ฝึกลมปราณในทุกวัน หาวิธีสร้างผนึกที่แข็งแกร่ง นับว่าเขาประสบความสำเร็จไม่น้อย เดิมเขาสังหารปีศาจพรายน้ำ แต่ตอนนี้อดีตที่ผ่านมาทำให้เขาคิดค้นวิธีสร้างผ
ยกถ้วยซุบขึ้นซดอีกครั้ง“อาจารย์” เอื้อมมือยื้อถ้วยน้ำแกงไว้ มองสบตาดวงตาใส น่าเอ็นดูยิ่งนักปู้ตานซินปล่อยมือ หยางหว่านดึงมันออกมา บรรจงเป่าเบาๆ ไปที่นำซุบที่มีไอร้อนลอยอ้อยอิ่ง“มันร้อนไปนี่เอง หยางหว่านไม่ทันระวังทำเอาอาจารย์สำลัก ให้หยางหว่านเปาให้มันอุ่น อาจารย์จะได้กินได้สะดวกหน่อย”ปู้ตานซินถอนหายใจ“อาจารย์จะต้องกินบ่อยๆ หยางหว่านจะต้องมาให้อาจารย์กินทุกวัน ฮ่วยซัวช่วยบำรุงกำลังดีไม่น้อย อาจารย์จะได้แข็งแรง มีแรง…..สอนศิษย์ต่อไป”เสียวท้องน้อยวาบ เด็กสาวอายุสิบสี่ ใบหน้าผุดผาดแก้มสีชมพูสดใส ริมฝีปากอวบอิ่ม แล้วยังทรวดทรงองค์เอวที่กำลังมองเห็นเด่นชัด ปู้ตานซินกลืนน้ำลายลงคอ จะใช้เคล็ดวิชาอ่านใจ ก็กลัวคำตอบที่ได้จะทำให้เจ็บปวดใจ หากนางแค่เพียงห่วงใยเขาเพราะเขาเป็นอาจารย์ หยางหว่านครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมาทั้งๆ ที่เขาเห็นได้ชัดว่า นางตัวติดกันกับจี้โม่“ไม่ต้องลำบาก”กัดฟันพูดความจริงอยากให้หยางหว่านแวะเวียนมาทุกวันแต่...อีกใจกลับกลัวว่านางจะมาไม้ไหน เขาจะรับมือหยางหว่านได้หรือในเมื่อใจเขาทั้งใจมีนางอยู่ในนั้นแล้ว“อาจารย์หยางหว่านเต็มใจ ได้ทำอะไรเพื่ออาจารย์บ้างเพราะอาจารย์เป็นเห
จี้โม่ ในอาภรณ์สีขาวสะอาดตา รูปร่างสูงโปร่งในแบบจอมยุทธ์เจ้าสำอางจะว่าไปบุคลิกบางส่วนล้วนถอดแบบมาจากปู้ตานซิน ก็เขาเห็นอาจารย์วางตัวเช่นนี้มาแต่อ้อนแต่ออก แล้วมันก็ช่างงดงามสมกับเป็นปรมาจารย์หนุ่ม สิ่งที่เขาใฝ่ฝันอันดับสองคือการองอาจเช่นเดียวกับอาจารย์วางท่าได้เช่นเดียวกับอาจารย์ (อันดับหนึ่งคือการได้เป็นเจ้าสำนักต่อจากอาจารย์ แต่คงจะแห้วก็กว่าปู้ตานซินจะแก่จะตาย ตอนนี้เพิ่งจะยี่สิบห้าปีอีกกี่ปีกว่าจะยกสำนักให้เขา)“จอมยุทธ์ท่านนี้”สายตานับสิบคู่ของเหล่าจอมยุทธ์จากสำนักต่างๆ ที่แวะเวียนกันเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของจอมมารฉูฉาง ณ.เรือนอารักขาร่วมกับเหล่าองครักษ์จากวังหลวง จ้องมองมายังจี้โม่ที่กอดกระบี่ไว้กับอกด้วยท่าที มาดมั่นเหลือเกิน“ข้าน้อยจี้โม่ ศิษย์คนที่325ของสำนักเกาซิ่ง”“อือหือ ศิษย์ของปรมาจารย์ปู้ตานซิน ไม่น่าเชื่อว่าคนที่นิ่งเฉยเช่นท่านปรมาจารย์จะส่งศิษย์ของเขาลงมา เฝ้าสังเกตการณ์ด้วย”“อาจารย์และสำนักเกาซิ่งของเรา ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ที่ผ่านมาล้วนคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่จะลงเขามาเพื่อเฝ้าระวัง”“นับว่าท่านปรมาจารย์ ช่างรอบคอบเสียจริง มิน่าที่ผ่านมานิ่งเฉยเพี่อที่จะส่งศิษย์เอกมาใ
หยางหว่านยิ้มแหย๋ๆไม่แน่ใจตัวเองนักยิ่งเมื่อศิษย์พี่คาดหวังถึงขนาดนี้ ไม่เท่ากับเทใจมาที่หยางหว่านกันหมดแล้วหรือ“ศิษย์พี่ใหญ่ท่านคาดหวังในตัวข้ามากไปหรือเปล่า”พึมพัมเบาๆ“ข้าเชื่อ หยางหว่านเจ้าจะต้องทำได้...อย่างแน่นอน”“ว่าแล้วข้าก็เคี่ยวฮ่วยซัวเรียบร้อยแล้ว หยางหว่านถึงเวลาที่เจ้าต้องยกไปให้อาจารย์แล้ว แล้วอย่าลืมที่ตกลงกันไว้ อย่าเผลอพูดไปว่าพวกเราลงขันกัน เจ้าต้องบอกว่าเจ้าเพียงคนเดียว แล้วก็เรื่องเคี่ยวยาเป็นเจ้าที่เคี่ยวเอง อาจารย์จะได้เกรงใจเจ้า ดื่มมันเสียหมด”หวังต้าฉินสอนสั่ง“ทำไม ...ข้าไม่เข้าใจ”“อาจารย์อ่อนโยนกับเจ้าแม้อาจารย์รู้ว่าพวกเรายุ่งเรื่องส่วนตัวของอาจารย์ อาจารย์ก็จะยิ่งเฉยชา แต่หากเป็นเจ้าคนเดียวข้าคิดว่าอาจารย์ไม่กล้าโกรธเคือง”คนอื่นมองจากด้านนอกจึงรู้ว่าปู้ตานซิน ยกให้หยางหว่านเป็นคนสำคัญแต่อนิจจากลับคิดว่าปู้ตานซินคิดกับหย่างหว่านแค่เพียง บุตรี“อาจารย์”หยางหว่านเดินเข้าไปในห้องของปู้ตานซินลืมตาขึ้นช้าๆ จ้องมองใบหน้างดงามที่สองวันมานี้ เขาต้องพบหน้านางทุกวัน หลังจากที่หลายปีผ่านใช้เคล็ดวิชา สอดแนมแอบติดตามมองนางผ่านดวงจิตก็เท่านั้น“วางไว้ แล้วออกไปเสีย”หลั
“เจ้าอยากให้ข้า..ลองพิสูจน์ดูไหมว่าการดื่มฮ่วยซัวฝีมือของจูจ้านกับพวกเจ้าที่วางแผนการให้ข้าดื่มจะส่งผลดีต่อข้าเพียงใด”หยางหว่านยิ้มเบี่ยงตัวหลบเอามือยันอกกว้างไว้ปู้ตานซินอมยิ้ม ปล่อยมือ“ไม่อยากรู้ก็ไปเสีย”“อาจารย์ท่านแกล้งข้า ไหนใครเขาบอกว่าอาจารย์มีเคล็ดวิชาอ่านใจเช่นไรจึงไม่รู้ว่าหยางหว่านจริงใจแค่ไหน”คว้ากิ่งไผ่ตวัดมือเพียงพริบตากิ่งไผ่แหลมจ่อที่คอหอยของหยางหว่าน“ใครกันช่างเอาเรื่องโกหกเหล่านั้นไปเล่าให้เจ้าฟัง หยางหว่านเจ้าเป็นศิษย์เกาซิ่งเพียงหนึ่งในสองที่ข้าวางใจ สิบปีที่ผ่านมาฝึกฝนจนสำเร็จวิชาของเกาซิ่งมีเพียงเจ้ากับจี้โม่ที่ข้าจะวางใจให้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก เช่นนั้นสิ่งที่เจ้าควรคิดถึงอันดับแรกคือการมุ่งมั่นที่จะฝึกตน และทำทุกวิถีทางให้ข้าวางใจมอบตำแหน่งเจ้าสำนักให้เจ้า เลิกเล่นสนุกอย่างที่ผ่านมาได้แล้ว”ดวงตาที่มองไปยังหยางหว่านมีแววตำหนิชัดเจน“อาจารย์ อาจารย์ใจร้ายที่สุด”วิ่งออกจากตรงนั้นไปด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจทั้งน้อยใจและเสียใจที่ถูกตำหนิและโมโหที่อาจารย์มองตัวเองเป็นเด็กเล่นสนุก ปู้ตานซินถอนหายใจ ถ้อยคำที่เขานำมันออกมาปกปิดความเขินอายที่ใกล้ชิดหยางหว่าน แล