แชร์

ข้าเลือกเจ้า

“เกรงใจแล้ว ไท่จือไม่จำเป็นจะต้องเรียกข้าว่าอาจารย์ก็ได้ ในเมื่อไท่จือสูงส่งเพียงนี้”

“ที่ข้าเลือกอาจารย์ให้เป็นอาจารย์ของข้าด้วยท่าทีของท่านช่างต้องตาข้า ท่านท่าทีองอาจเกินใครอีกทั้งมีบางอย่างที่ข้าไม่อาจรู้ได้ว่าท่านมีสิ่งใดซ่อนอยู่ภายในต้องเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน”

ทำสีหน้าเรียบเฉย เขานะหรือ มีสุดยอดเคล็ดวิชาของอาจารย์อย่างไรเล่า โดยที่ศิษย์พี่ทั้งสองของเขาไม่มี

“วันนี้ข้ายังไม่อยากจะร่ำเรียนสิ่งใด ความจริงบอกไว้ก่อนที่ข้ายอมเลือกอาจารย์เพราะว่าไม่อยากให้เสด็จพ่อที่คอยเร่งเร้าให้ข้าเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ข้า ยังรักการเที่ยวเล่น เป็นไท่จือจะต้องทำเรื่องอื่นทำไมกันรอให้นั่งบัลลังก์ก็ต้องทำเพื่อคนอื่น ตอนนี้ขอทำเพื่อตัวเอง ข้ามานี่เพื่อเข้าไปในถ้ำอาจารย์มาก็ดีแล้วข้าอยากรู้ว่าในถ้ำที่หลายชั่วคนต้องลงทุน สร้างเรือนอารักขาไว้ คอยเฝ้าเพื่อจุดประสงค์ใดกันแน่ แล้วยังเรื่องเล่าที่บอกว่าเก็บเคล็ดวิชาไว้เพื่อไท่จือ ข้าก็เป็นไท่จือจึงเหมาะที่จะได้เคล็ดวิชานั้นไปไม่จำเป็นต้องฝึกฝนให้เหนื่อยหนัก” 

ปู้ตานซินเหลือบตามองหลงตั๋ว ช่างใจตรงกันกับศิษย์พี่ทั้งสองของเขา วันอื่นมากมายไม่เข้ามาวันนี้หลงตั๋วมีสิ่งใดดลใจให้อยากเข้าไปในถ้ำค้นหาเคล็ดวิชา

“ไม่เหมาะที่จะเข้าไปตอนนี้ ข้า...พาไท่จือไปทัศนาค่ายกลของสำนักเราจะดีกว่า”

"ทัศนาค่ายกล..ไม่เลว ทว่าวันนี้ข้าตั้งใจเข้าไปในถ้ำ ข้าชักสงสัยแล้วตลอดทางมานี่มีแต่คนห้ามปราม อาจารย์ท่านจะห้ามข้าอีกคนหรือไร” ปู้ตานซินเกลียดที่สุดก็คนที่รู้ทันความคิดของเขาไท่จืองี่เง่าเอาแต่ใจโง่งมไม่แบ่งใคร เหตุใดถึงรู้ว่าเขาจะห้าม

“เชิญ”

ผายมือให้กับหลงตั๋ว อย่างเจ้านี่จะเข้าไปได้ไกลแค่ไหนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แล้วยังไร้ซึ่งความพยายามป่านนี้ศิษย์พี่ทั้งสองคงไปถึงไหนถึงไหนแล้ว

หลงตั๋วเลิกคิ้วทำสีหน้าที่คนหลงตัวเองชอบทำย้ำว่าเฉพาะคนที่หลงตัวเองเท่านั้นที่ชอบทำ

“อาจารย์จะเข้าไปด้วยหรือไม่”

“ข้าไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปในนั้น”

“ตามธรรมดาท่านเป็นอาจารย์ข้า ทางที่ดีท่านไม่ควรปล่อยข้าไปเผชิญอันตราย” 

ปู้ตานซิน เดินนำเข้าไปทันทีเหล่าองครักษ์ต่างตามเข้าไปข้างใน

ถ้ำกว้างทางเดินคดเคี้ยวทอดยาว ปู้ตานซินรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างรีบสาวเท้าเข้าไปข้างในนึกห่วงศิษย์พี่ทั้งสองยิ่งนัก

ผนึกใสดุจน้ำถูกล้อมรอบร่างสูงชะลุดที่ยืนนิ่งหลับตาอยู่ในนั้น ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพสวรรค์ท่าทีองอาจดั่งนักรบหากไม่มีปลายเขาแหลมที่งอกออกมาจากหน้าผากเขาก้คือเทพสวรรค์

ป้อก้านกับป้อคุนไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว หายไปไหนไม่ทราบได้ หลงตั๋วยืนตะลึงมองร่างในผนึกนิ่ง

“จอมมารฉูฉาง”ดวงตาที่หลับสนิท กับเผยอขึ้นในทันทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกแสยะยิ้มแต่ก้ยังเป้นยิ้มที่หล่อเหลา

“ปู้ตานซิน ๆ 555 ในที่สุดเจ้าก็มาในที่สุดความแค้นของข้าก็จะถูกชำระเสียในวันนี้”เสียงดังเหมือนจากที่ไกลแสนไกลทว่าชัดเจนยิ่งนัก

ปู้ตานซินขมวดคิ้ว ฉูฉางรู้ได้อย่างไรว่าเขาคือปู้ตานซิน

ขยับมือเอื้อมมาตรงหน้า กำมือเข้าหากันร่างเล็กของหลงตั๋ว ลอยขึ้นจากพื้นเหมือนถูกมือใหญ่บีบที่ลำคอ ทั้งที่มือนั้นอยู่ห่างออกไป

“อั๊กกก ...ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย" หลงตั๋วส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกล้ว เหล่าองครักษ์ถลาเข้าใส่ผนึกทั้งทุบทั้งตีแต่ไม่มีผล เลือดสดๆไหลออกจากปากของหลงตั๋ว

“อะอะอาจารย์ช่วยข้าด้วย ข้าจะตายอยู่แล้ว”ยอมขอร้อง ปู้ตานซินซัดฝ่ามือใส่ผนึกอย่างแรง

“เพี๊ยววววว”ลำแสงจากฝ่ามือกระทบเข้ากับผนึกสีใสฟ้าใสเกิดรอยปริแตกเป็นทางยาว

“5555ขอบใจที่ช่วย ทำลายเกราะผนึกให้ข้า"วางมือลง ปล่อยร่างหลงตั๋วร่วงลงพื้น เหล่าองครักษ์รีบประครอง

“ความจริงคนอื่นไม่สำคัญ แต่ว่าใครเข้ามาในนี้มีทางเดียวที่จะออกไปได้คือกลายเป็นศพ เจ้าพวกมดปลวกจงตายเสียเถอะ”

พลิกฝ่ามืออีกครั้ง ร่างขององครักษ์นับสิบเซถลาถอยร่นตามแรงมือกระอักเลือดออกมาเป็นทิวแถว

“ไท่จือรีบหนีพ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าองครักษ์รีบพยุงร่างบอบซ้ำของหลงตั๋วออกไปปู้ตานซินขมวดคิ้วเข้าหากัน คนทั้งหมดหนีออกไปหมดแล้วเหลือเพียงแต่เขาที่เผชิญหน้ากับผนึกใส ภายในมีร่างสูงของฉูฉาง

“เจ้าต้องการเคล็ดวิชาใช่หรือไม่”

“ไม่ ข้ารู้แล้วว่าเจ้าทำไมถึงเลือกข้า” ร่องรอยที่ปู้ตานซินซัดฝ่ามือมีรอยปริแตกร้าวไปเรื่อยๆ

“เข้ามาใกล้ๆ ข้าสิปู้ตานซิน ก่อนนั้นเจ้าเป็นปรมาจารย์กงล้งผนึกข้าไว้ ชาตินี้กลับมาอีกครั้ง เราสองคนยังเป็นสหายกันได้”

“ไม่มีทาง”ปู้ตานซินถอยออกห่างราวกับ ว่าฉูฉางเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status