Share

Chapter 18. อย่าเพิ่งขยับ เจ้าไม่ได้สวมเสื้อผ้า

            “นายท่าน! เป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ ข้าเห็นจิ้ง...จอก...”

            จูอี้ซินวิ่งตามจิ้กจอกแดง  เห็นชัดเต็มสองตาว่ามันกระโดดเข้ามาทางหน้าต่าง นางจึงรีบเปิดประตูเข้ามาทันทีโดยไม่ได้รายงานก่อน  ทว่าสิ่งที่เห็นคือร่างเปลือยเปล่าของหานหรงเหยาและหลิวเข่อซิงอยู่ในอ่างอาบน้ำเดียวกัน และที่สำคัญ ริมฝีปากของทั้งคู่ประกบกันอยู่

            “กรี๊ดดดด”

            เสียงหวีดร้องของจูอี้ซินทำให้หลิวเข่อซิงได้สติ หานหรงเหยายอมถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย หญิงสาวดิ้นขลุกขลักเพื่อออกจากอ่างน้ำแต่เขาโอบกอดนางมาแนบชิดและยกฝ่ามือขึ้นกดศีรษะนางให้ซบลงซอกคอของเขา พลางส่งเสียงกระซิบ

            “อย่าเพิ่งขยับ เจ้าไม่ได้สวมเสื้อผ้า”

            เข่อซิงได้แต่ทำตัวแข็งทื่อ จะว่าไปนางเปลือยกายต่อหน้าของเขาหลายครั้ง เมื่อนางกลายร่างจากจิ้งจอกแดงมาเป็นมนุษย์ก็ย่อมไม่มีเสื้อผ้าปกปิดอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มีผู้อื่นอยู่ด้วย นางจึงได้แต่อยู่นิ่งๆ ตามที่เขาสั่ง

            “เกิดเรื่องใดขึ้น”  ซุนเจ้าเฟิงที่ฝึกเพลงกระบี่อยู่ไม่ไกลได้ยินเสียงหวีดร้องจึงรีบทะยานเข้ามาดู  เห็นจูอี้ซินยกมือขึ้นปิดหน้า เขามองเลยไปด้านหลังจึงเห็นว่า หานหรงเหยากอดหญิงสาวในอ่างอาบน้ำ เอ๊ะ! หญิงสาวคนนั้น...คุ้นๆ ตาอยู่บ้างนะ

            “ออกไปก่อนได้หรือไม่ มีอะไรคอยคุย”

            “ได้ๆ พวกเจ้าตามสบายไม่ต้องรีบร้อน” ซุนเจ้าเฟิงหัวเราะร่า ในที่สุดหานหรงเหยาก็กลายร่างเป็นสัตว์กินเนื้อแล้วสินะ

            “เจ้าเข้ามาทำอะไรที่นี่ ออกไปแล้ว”  แม่ทัพหนุ่มดุหลานสาวพ่อบ้านจู เขาไม่อยากแตะต้องตัวนางเลยสักนิดแต่จำใจต้องหิ้วคอเสื้อลากนางออกไป เพื่อให้สหายได้สุขสำราญกับสาวงาม

            “ท่านแม่ทัพ...เมื่อครู่...ข้าเห็นจิ้งจอกแดงเจ้าค่ะ เป็นจิ้งจอกแดงจริงๆ ข้าเกรงมันจะทำอันตรายที่ปรึกษาหานจึงเข้ามาดู”

            เพียงได้ยินคำว่า ‘จิ้งจอกแดง’ หลิวเข่อซิงก็เงยหน้าขึ้นสบตากับหานหรงเหยาที่ก้มหน้าลงมองนางพอดี ทว่าสายตาของเขาราวกับมีลูกไฟอยู่ในนั้นทำให้นางเลือกที่จะก้มหน้าลงตามเดิม

            “ที่นี่มีเพียงข้ากับนาง เจ้าเห็นเต็มสองตาแล้วก็ออกไปเสียที”

น้ำเสียงเยือกเย็นของหานหรงเหยาทำให้จูอี้ซินตัวสั่นขึ้นมา คนผู้นี้แม้มีใบหน้าอ่อนโยน แต่ยามอยู่สนามรบมิได้อ่อนโยนเช่นที่เห็น แผนการแยบยลร้ายกาจในสนามรบเป็นฝีมือของเขา

“ข้าเห็นแก่หน้าพ่อบ้านจูมานาน เห็นทีว่าครั้งนี้...” ซุนเจ้าเฟิ่งใช้น้ำเสียงเด็ดขาดราวกับสั่งการทหาร เพียงแค่นี้ก็ทำให้จูอี้ซินเข่าทรุด โขกศีรษะขอความเมตตาทันที

“บ่าวผิดไปแล้ว ขอนายท่านทั้งสองอย่าขับไล่บ่าวไปเลยนะเจ้าค่ะ บ่าวไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ”

“อย่าให้เกิดเรื่องเช่นวันนี้อีก แล้วรีบไสหัวออกไปได้แล้ว” ซุนเจ้าเฟิงตวาดเสียงดังราวฟ้าผ่า จูอี้ซินแทบคลานออกไปทันที เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่  แม้ไม่ได้หันกลับมาแต่ก็ส่งเสียงพูดขึ้น

“เอาล่ะๆ ข้าจัดการไล่คนไปแล้ว พวกเจ้าก็ตามสบาย ตอนเช้าจะให้พ่อครัวทำอาหารบำรุงมาส่ง”

หานหรงเหยาส่ายหน้าไปมา รอจนซุนเจ้าเฟิงปิดประตูแล้วจึงยอมคลายวงแขนที่โอบรัดร่างนุ่มนิ่มออก นางขยับตัวถอยออกห่างไปชิดผนังอ่างอีกฝั่ง เห็นใบหน้าแดงระเรื่อของนางแล้วก็อดยิ้มขำไม่ได้  นางปล้นจุมพิตเขาหลายหนยังไม่เคยเห็นแสดงท่าทีเช่นนี้

หลิวเข่งซิงเห็นเขาไม่รีบขึ้นจากน้ำ  นางก็ไม่กล้าลุกขึ้น ได้แต่ย่อตัวลงไปให้น้ำปริ่มคอหวังให้น้ำช่วยพร่างทรวงอกเปลือยเปล่า

“เจ้าป้อนอะไรให้ข้ากิน”  เขาถามพลางข่มบางสิ่งที่ตื่นอยู่ให้สงบลง ไม่อย่างนั้นเขาก็ออกจากอ่างน้ำในสภาพนี้ไม่ได้เช่นกัน

“ยา...ยา...”

“ยาอะไร?” เขาเลิกคิ้วถาม

“เป็นยาบำรุง ข้าจำได้ว่าที่หอชมบุหลันมียาบำรุงเลือดลมสำหรับบุรุษ จึงย่องกลับไปขโมยมาให้ท่านหนึ่งเม็ด”

“แล้วเหตุใดต้องกลายร่างเป็นจิ้งจอกแดง”

“ก็ข้าไปขโมยมานี่  การใช้ร่างจิ้งจอกแดงไป-มาได้รวดเร็วกว่า”

“ยาบำรุงเลือดลมสำหรับบุรุษ...” เขาพึมพำอย่างอับจนหนทาง

“ถูกต้อง มันต้องดีกับท่านแน่ๆ ข้าจำได้ว่าศิษย์พี่ใหญ่จะให้บุรุษกินเพื่อบำรุงพลังหยาง” นางรีบพูดขึ้น ดวงตาเป็นประกายพราวระยับ

“เจ้าอยากเห็นข้าแข็งแรง”

“ถูกต้อง”

หานหรงเหยาถอนหายใจเบาๆ “เจ้าขึ้นจากอ่างน้ำไปก่อน ประเดี๋ยวข้าจะตามไป”

“ท่านขึ้นก่อนสิ  ข้า...ข้าไม่ได้สวมเสื้อผ้า”

“ข้าก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้า” เขายิ้มอ่อนใจ “ข้าจะหลับตาแล้วเจ้าลุกขึ้นไปก่อน”

“อย่างนั้นก็ได้ ท่าน..ท่านหลับตานะ หลับตาแน่นๆ ห้ามมองข้า”

“รู้แล้ว รีบขึ้นไปเร็ว”

หานหรงเหยาปิดเปลือกตาลง ทว่าประสาทหูกลับเฉียบไวได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวแม้กระทั่งเสียงน้ำกระเซ็น  เขาขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่านางรีบลุกขึ้นจากอ่างน้ำแล้วก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว  หลิวเข่อซิงรีบร้อน จนยกเท้ายังไม่พ้นขอบอ่างก็เสียหลักหน้าคะมำ  ยังไม่ทันหวีดร้องก็มีมือข้างหนึ่งโอบรัดเอวนางไว้ได้ทัน ตามด้วยเสื้อคลุมตวัดห่อหุ้มร่างเปลือยเปล่า

“หลับตา”

เขาสั่งน้ำเสียงเฉียดขาดทำให้หญิงสาวหลับตาทันที หากนางลืมตาคงได้เห็นเขาเปลือยเปล่า รวมทั้งสิ่งที่แข็งขันตั้งตระหง่าน  เพราะเวลานี้เสื้อคลุมของเขาอยู่บนตัวนาง

            “ข้าอุ้มเจ้าไปส่งบนเตียง เจ้าอย่าลืมตาตอนนี้ เข้าใจนะ”

            “อื้มๆ” นางพยักหน้าและหลับตาแน่นขึ้น ปล่อยให้เขาอุ้มนางเดินมาส่งบนเตียงที่อยู่อีกด้านของห้อง

            นานๆ ทีจะเห็นนางเชื่อฟังเขาสักครั้ง หานหรงเหยาส่ายหน้าไปมา นางขึ้นจากน้ำโดยไม่ได้ซับน้ำออกจากร่างทำให้เสื้อคลุมของเขาแนบไปทุกสัดส่วนจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งเย้ายวนตา  เขาหายใจแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ขณะวางนางลงบนเตียงแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมร่างนางพลางพลางกระตุกเอาเสื้อคลุมของตนเองกลับมาคลุมร่างตน

            “ยา...ยานี่ดีจริงๆ”  หลิวเข่อซิงพึมพำแต่ยังปิดเปลือกตาอยู่

            “เจ้าว่าอะไรนะ” เขาถามหลังจากผูกเชือกคาดเอวเรียบร้อย

            “ยาที่ท่านกินไปอย่างไรเล่า”  นางเริ่มทำตัวขยุกขยิกอยากลืมตาแล้ว

            หานหรงเหยาหลุบตามองแก่นกายของตน “เจ้ารู้หรือไม่ว่ายานี้...”

            “ยาบำรุงเลือดลมสำหรับบุรุษ” นางรีบพูดขึ้น และเขายังไม่ให้นางลืมตาจึงยื่นมือเปะปะไปเบื้องหน้า เขาคว้ามือนางไว้ก่อนที่นางจะสัมผัสถูกบางสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้นางแตะต้อง

            “หัวใจท่านเต้นแรงมาก แสดงว่ายานี้ดีจริงๆ”

            “หัวใจข้า...”  

            “ท่านไม่ได้กินยาขมๆ เหล่านั้นมานานแล้ว แต่ท่านก็ต้องบำรุงตัวเองจะละเลยไม่ได้เด็ดขาด”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status