Share

Chapter 10.  เกิดเรื่องอะไรขึ้น

            “เข่อซิง”

            หญิงสาวได้ยินเสียงที่คุ้นเคย นางลุกขึ้นจากเตียงแต่ไร้เรี่ยวแรงและนึกได้ว่าหูกับหางจิ้งจอกแดงโผล่ออกมาแล้ว นางอยากขยับตัวหาที่ซ่อนแต่ก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงยกมือขึ้นปิดหูของตน

            “เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

            หลิวชิงเซียงและหานหรงเหยาเอ่ยออกมาแทบพร้อมกัน หลิวชิงเซียงปรายตามองทางชายหนุ่มด้วยความประหลาดใจ ดูท่าทางเขาห่วงใยเจ้าตัวโง่งมนั้นจริงจัง

            เอ๊ะ? เขารู้หรือไม่ว่านางเป็น....

            หานหรงเหยาไม่ได้สนใจใครอื่น  ในสายตาของเขามีเพียงเจ้าจิ้งจอกแดงตัวน้อยที่นั่งบนเตียงและยกมือขึ้นปิดหู  เขาสาวเท้าเข้าไปอย่างรวดเร็วไม่สนใจท่าทีตื่นตะลึงของซุนเจ้าเฟิง รีบถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกคลี่คลุมศีรษะของนาง แล้วโน้มหน้าลงประกบริมฝีปากกับหญิงสาวที่เบิกตากว้าง ลมหายใจอุ่นร้อนไหลเวียนเข้ามาในกายพร้อมกับพลังชีวิตทำให้หลิวเข่อซิงที่แทบหมดแรงสูดลมหายใจของเขาไปเฮือกใหญ่ นางหิวโหยและละโมบจนต้องยกมือขึ้นประกบใบหน้าของเขาไว้ไม่ยอมให้ถอยหนี

            ก็นางหิวนี่...หิวมากๆ

            ซุนเจ้าเฟิงอ้าปากค้าง เขาไม่เคยเห็นสหายจู่โจมสตรีเช่นนี้มาก่อน อย่าว่าแต่จุมพิตเลย แค่เข้าใกล้ก็ยังไม่เคย แต่นี้...นี่จะ..จูบ ...จูบต่อหน้าผู้อื่นนี่นะ!

            เพราะไม่ใช่ครั้งที่ถูกเจ้าจิ้งจอกแดงตัวน้อยกลืนกินพลังชีวิตของเขา แต่อาจเพราะครั้งนี้ยาวนานกว่าครั้งก่อนและ ริมฝีปากของนางสัมผัสริมฝีปากของเขา มือใหญ่ยกมือขึ้นลูบศีรษะของนางเบาๆ ทำให้รู้ว่าหูของนางกลับมาเป็นปกติแล้ว

            “อา...รอดแล้ว”

            หลิวเข่อซิงถอนริมฝีปาก และปล่อยมือจากใบหน้าเกลี้ยงเกลา นางแลบลิ้นเลียริมฝีปากราวกับเพิ่งได้กินของเอร็ดอร่อย ดวงตางดงามจ้องมองเขาพร้อมรอยยิ้ม

            “ขอบคุณเจ้ามาก”

            เขายิ้มอย่างเอ็นดู “ดีขึ้นแล้วใช่ไหม”

            “อื้ม!” นางพยักหน้าหงึกหงัก “เจ้าช่วยข้าอีกแล้ว”

            หานหรงเหยาเห็นนางดีขึ้นแล้วจริงๆ ก็ยอมถอยออกมา ทว่ากลับเพิ่งสังเกตว่าอาภรณ์ที่นางสวมใส่บางเบาดุจปีกจั๊กจั่นที่เปิดเผยเรือนร่างเย้ายวน เขาถึงกับกระแอมไอแล้วหมุนตัวหันหลังให้ แต่นางยังทำหน้าซื่อตาใสไม่เข้าใจใบหน้าที่ฝาดสีเลือดของเขา

            เมื่อหานหรงเหยาหันกลับมา จึงปะทะกับสายตาของหลิวชิงเซียงและซุนเจ้าเฟิง ทั้งสองมีสีหน้าตื่นตะลึงไม่แพ้กัน

            “นี่เจ้ากับแม่นางน้อยผู้นั้น...”  ซุนเจ้าเฟิงไม่อยากจะเชื่อเลยว่า บุรุษที่ทำตัวเหมือนนักพรตอย่างหานหรงเหยาจะพ่ายแพ้กับสตรีตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ เอ่อ...งดงามไม่น้อย เมื่อคิดว่านั้นคือสตรีของสหายจึงย้ายสายตาไปทางอื่นแทน

            หลิวชิงเซียงได้สติก็คลี่ยิ้มอ่อนหวาน เดินเข้าไปหาพลางกวาดตามองอย่างเปิดเผย  

“ที่แท้...ที่ปรึกษาหานรู้จักสนิทสนมกับเข่อซิงมาก่อน”

            “อื้มๆ”  หลิวเข่อซิงพยักหน้ารับ “เขาจะฆ่าตัวตาย แต่ข้าห้ามไว้ก่อน”

            “ฆ่าตัวตาย!” ซุนเจ้าเฟิงถึงกับหันขวับมามองทันที

            “เรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น” หานหรงเหยาอธิบายด้วยรอยยิ้ม

            “แต่ข้าช่วยเจ้าไว้จริงๆ นะ”  เข่อซิงเผลอยื่นมือมาจับแขนเสื้อของหานหรงเหยาและเขย่า ทำให้ชายหนุ่มต้องหันไปมองแล้วยิ้มอ่อนโยน

            “ก็จริง เจ้าช่วยข้าไว้”

            ‘ช่วยขับไล่ความสงบเงียบไปจากชีวิตของเขา’

            ริมฝีปากที่เคยซีดเซียวเปลี่ยนเป็นสีชาดค่อยๆคลี่ยิ้มกว้าง แล้วหันไปพูดกับหลิวชิงเซียงด้วยท่าทางโอ้อวด

“ข้าช่วยเขาไว้จริงๆ นะ”

พี่เลี้ยงสองคนรวมทั้งหลิวชิงเซียงลอบสบตากัน แล้วฉีกยิ้มออกมา หลิวชิงเซียงยังคงประดับรอยยิ้มอ่อนหวานแล้วเอ่ยขึ้น

“เป็นเช่นนี้เอง ข้าน้อยต้องขอบคุณที่ปรึกษาหานที่ช่วยเข่อ...เอ่อ..น้องเข่อซิงของเราไว้นี่เอง”

“แต่ผู้อื่นคิดจะถลกหนังข้า” เข่อซิงได้ทีรีบฟ้องหลิวชิงเซียงซ้ำยังชี้นิ้วไปยันซุนเจ้าเฟิง

“ข้าเปล่านะ!”  ซุนเจ้าเฟิงส่ายหน้ารัว นางพูดเรื่องอะไรกัน

“เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน”  หานหรงเหยาแก้ไขให้ “ยังไม่ได้อธิบายเจ้าก็จากมาแล้ว จำได้ว่าเจ้าจะมาที่นี่ ข้าเป็นห่วงจึงมาเยี่ยมเยือน”

“เจ้า...เป็นห่วงข้า” 

ดวงตากลมฉายแววประหลาดใจ แต่หัวใจนั้นเต้นผิดปกติ ทำไมนางรู้สึก ‘ดีใจ’ ที่มีคนห่วงใย ถึงขนาดตามหานางทั้งที่.. เขาก็รู้ว่านางไม่ใช่มนุษย์

“ที่ปรึกษาหาน ที่นี่เป็นหอนางโลมหากท่านคิดจะมาเยี่ยมนางก็เห็นที่ว่าต้อง...”

“ข้าเข้าใจ”  หานหรงเหยายังคงเอ่ยอย่างสุภาพ “เมื่อครู่ได้ยินว่า...เข่อซิงต้องออกรับแขก”

“ใช่ๆ ข้าต้องออกรับแขก” นางพูดด้วยความตื่นเต้นและทำเหมือนเป็นเรื่องสนุก “เป็นครั้งแรกของข้า ข้าพยายามเรียนรู้อยู่”

‘พยายามเรียนรู้... เจ้าก็ช่างกล้าใช้ประโยคนี้’

พี่เลี้ยงทั้งสองถึงกับกลอกตามองบน

หานหรงเหยาเห็นแววตาใสซื่อของหลิวเข่อซิง หัวใจของเขากลับเต็มไปด้วยความปวดใจ  เขารู้ดีแก่ใจว่านางต้องกลืนกินพลังชีวิต แต่นางใสซื่อถึงเพียงนี้ จะอยู่ในสถานที่เช่นนี้ได้อย่างไร เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่นางจากเขามาคงยังไม่กินพลังชีวิตจากผู้ใดจึงได้มีสภาพเช่นนั้น

เห็นสีหน้าวิตกระคนทุกข์ใจของสหายรัก ซุนเจ้าเฟิงได้แต่โคลงศีรษะไปมา แล้วตัดสินใจเอ่ยปากแทนหานหรงเหยา

“เช่นนั้นก็ขายนางให้ข้า เอ่อ ไม่ใช่ให้สหายของข้าเสียสิ”

“ท่านแม่ทัพซุนพูดว่าอะไรนะเจ้าคะ”   หลิวชิงเซียงเลิกคิ้วถาม ดูเหมือนคนผู้นี้จะไม่รู้เรื่องอะไรนัก

“ที่นี่หอนางโลมนี่”  เขาเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม “สหายข้าต้องการซื้อแม่นางผู้นั้นออกไปจากที่นี่ ต้องจ่ายเท่าไหร่”

“ซื้อข้า?”  เข่อซิงใช้ปลายนิ้วชี้ที่หน้าตัวเอง แล้วเงยหน้าสบตากับหานหรงเหยาที่กัดริมฝีปากครุ่นคิด

หากให้นางอยู่เช่นนี้เขาก็ไม่วางใจ ไหนๆ ก็มีชีวิตได้ไม่นาน ก็อุทิศพลังชีวิตที่เหลืออยู่ในนางได้ฝึกฝนเป็นปีศาจจิ้งจอกแดงก็แล้ว

“อืม ข้าต้องการซื้อตัวหลิวเข่อซิง ไม่ทราบว่าแม่นางหลิวชิงเซียง คิดเห็นอย่างไร”

หลิวชิงเซียงหรี่ตามองหานหรงเหยา แล้วเอ่ยขึ้น “ท่านรู้เรื่องเข่อซิงดีแค่ไหน นางไม่เหมือนผู้อื่น”

“ข้ารู้และคิดว่าสามารถดูแลนางได้”

“จะให้นางอยู่ในฐานะอะไร”

“ฐานะ...”  เขาไม่ได้คิดเรื่องนั้น แค่อยากช่วยนางออกมาจากสถานที่แห่งนี้

“จะฐานะอะไร ให้นางเป็นสาวใช้ข้างกายสหายข้าอย่างไรเล่า” 

เป็นแค่สตรีในหอนางโลมจะเรียกร้องเอาฐานะอันใดอีก ได้เป็นสาวใช้อุ่นเตียงก็ดีมากแล้ว ซุนเจ้าเฟิงหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status