“เค้าชื่อว่าหมูหยองเป็นชื่อที่ฉันตั้งให้เค้าเองคือที่ฉันบอกไม่รู้จักคือตอนที่ฉันเจอเค้าความจำของเขาเสื่อมฉันเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ในเมื่อเขายังจำอะไรไม่ได้ฉันเลยให้เค้าอยู่กับฉันไปก่อนแต่พอนานวันเข้าที่ทำให้ฉันรักเค้าคือความห่วงใยความใส่ใจความดีและความรักที่เค้ามีให้ฉันมันทำให้ฉันมอบทั้งตัวและหัวใจให้เค้าไปหมดแล้วแต่วันนึงเขาก็หายตัวไปฉันตามหาเท่าไรก็หาไม่เจอจนตอนนี้ฉันคิดว่าเค้าตายไปแล้วด้วยซ้ำแต่วันนี้.....ช่างมันเถอะเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”
น้ำเมยเล่าจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนสาวของเธอที่ตอนนี้นั่งอ้าปากพร้อมทำสีหน้าเศร้าตามเรื่องที่เธอเล่าเธอเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
น้ำเมยเองตั้งใจไว้ว่าจะเล่าเพียงแค่นี้เพราะเธอไม่อยากพาดพิงถึงชายหนุ่มอีกแล้ววันนี้เธอรู้สถานะของเขาแล้วว่าเขาและเธออยู่ห่างกันขนาดไหนตอนนี้ใจของเธอคิดว่าดีแล้วที่ชายหนุ่มจำเธอไม่ได้
อีกอย่างชายหนุ่มก็มีคู่หมั้นที่เหมาะสมกันอยู่แล้วอีกต่างหากในเมื่อโชคชะตามันพาเธอเดินมาทางนี้ถึงแม้เธอจะน้อยใจในโชคชะตาบ้างแต่เธอก็พร้อมจะยอมรับมันละจะเลี้ยงลูกของเธอคนเดียวให้ดีที่สุดอย่างน้อยเธอก็มีหนึ่งสิ่งที่อยู่ในตัวเธอเป็นตัวแทนความรักระหว่างเธอและเขาแค่นี้เธอก็พอใจแล้ว
“เศร้าเนอะ..หมูหยองเหรอ..อ๋อที่แกละเมอคิดว่าบอสเป็นนายหมูหยองของแกนั่นเหรอว่าแต่หน้าเขาทั้งสองคนเหมือนกันขนาดนั้นเลย...แกถึงเข้าไปกอดบอสเค้าแบบนั้นน่ะ”
อิงฟ้านึกขึ้นได้ว่าเรื่องที่เธอคาใจเธอก็ได้รู้แล้วว่าที่เพื่อนสาวของเธอเรียกท่านประธานใหญ่เมื่อกลางวันนี้ว่าหมูหยองเป็นเพราะอะไรแต่เธอก็ยังคาใจอีกอยู่ดีว่านายหมูหยองของเพื่อนเธอกับท่านประทานใหญ่จะเหมือนกันขนาดที่จำทำให้เพื่อนเธอเบลอจนกอดคนผิดขนาดนั้นเลยเหรอ
“อะ...เอ่อ...ก็ไม่เหมือนหรอกเพียงแค่ตอนนั้นฉันเบลอๆมั้งเลยเห็นบอสเป็นหมูหยองคนรักของฉันน่ะ”
น้ำเมยจำเป็นต้องโกหกเพื่อนเธอเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายเพราะเธอเองตัดสินใจดีแล้วว่าต่อจากนี้เธอจะใช้ชีวิตแบบที่ไม่นึกถึงชายหนุ่มอีกถึงตอนนี้เธอจะยังทำใจไม่ได้แต่มันก็ต้องมสักวันที่เธอทำใจได้ก็แล้วกัน
“เรื่องลูกแกถึงจะไม่มีพ่อก็ไม่ต้องเป็นห่วงหลานคนเดียวฉันเลี้ยงได้อยู่แล้ว”
“ขอบใจนะแก”
“เออ..ฉันลืมไปว่าเรื่องที่แกท้องก่อนเข้าทำงานห้ามให้รู้ถึงหูบอสเป็นอันขาดเลยนะเพราะกฎของบริษัทห้ามรับคนที่ท้องก่อนเข้าทำงานและแกพึ่งเข้าทำงานได้สองเดือนเองแต่ท้องสามเดือนแล้วถ้าบอสรู้มีหวังทั้งแกและก็ฉันโดนเด้งแน่”
อิงฟ้ารู้ดีว่าน้ำเมยไม่รู้ตัวก่อนเข้ามาทำงานแน่ๆแต่ถ้าเรื่องนี้ถึงหูท่านประธานใหญ่ว่าหญิงสาวท้องก่อนที่จเข้ามาทำงานแถมเธอเองยังเป็นหัวหน้างานรับมาอีกด้วยมีหวังโดนดีทั้งสองคนเป็นแน่
“อืมม....ฉันว่าจะทำงานอีกสักเดือนสองเดือนก็ลาออกแล้วหละเพราะฉันว่าฉันจะทำขนมขายส่งตามร้านแกว่าดีไหม”
“ก็ดีนะแกงานที่โรงแรมมันไม่ค่อยมีเวลาได้พักเท่าไร..ออกมาทำงานของตัวเองเหนื่อยก็พักเอาเท่าที่ไหวแล้วถ้าแกกลัวว่าเงินแกจะไม่พอใช้ไม่ต้องห่วงฉันซัพพอร์ตแกเอง”
“ขอบใจนะแก...ถ้าฉันไม่เจอแกป่านนี้ไม่รู้ว่าชีวิตชั้นจะเป็นยังไงเลย”
“หื้มมม..อย่ามาทำซึ้งเลยเราเพื่อนกันนี่นา”
สองสาวนั่งคุยกันได้พักใหญ่ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปนอนแม่ของอิงฟ้าได้ทิ้งสมบัติชิ้นสุดท้ายเอาไว้ให้เธอก่อนที่จะเสียเป็นคอนโดที่นี่เองทำให้หญิงสาวมีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งไม่ต้องไปเช่าที่อื่นให้เสียเงินตอนนี้เธอจึงมีเงินเก็บอยู่ไม่น้อยแต่ก็ไม่มากซะจนไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย
น้ำเมยเองเมื่อเข้าห้องมาได้เธอก็เอาแต่กอดหมอนแล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลรินออกมาอย่างน้อยใจโชคชะตาของตัวเองเธอบอกกับตัวเองว่าให้ปล่อยความเสียใจออกมาให้หมดแล้ววันพรุ่งนี้เธอจะเป็นคนใหม่คนที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อลูกของเธอนั่นเอง
เรื่องราวในอดีตเมื่อห้าหกเดือนก่อน
เช้าที่ปาย
วันนี้เป็นอีกวันที่น้ำเมยตื่นขึ้นมาตั้งแต่ช่วงตีสามตีสี่เพื่อที่จะลุกขึ้นมาเตรียมขนมขายเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงชีวิตตัวคนเดียวของเธอพร้อมทั้งยังต้องส่งเงินให้พวกเก็บเงินกู้นอกระบบอีกต่างหากเธอเองไม่ได้เรียนสูงหรือมีงานประจำทำอย่างคนอื่นเธอจึงไม่สามารถที่จะทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารได้
ยังดีที่ถึงแม้เธอเองจะเรียนจบแค่ ม.6 แต่ก็ยังได้วิชาการทำขนมจากยายของเธอที่ช่วยยายเธอขายขนมมาตั้งแต่เด็กๆเป็นมรดกตกทอดให้เป็นอาชีพของเธอเพื่อเลี้ยงตัวเธอเองได้มาจนถึงทุกวันนี้
น้ำเมยกำลังจะเดินกลับมาจากการซื้อวัตถุดิบมาทำขนมขายเป็นประจำทุกวันในช่วงเช้ามืดช่วงนี้เธอต้องจัดการการทำขนมขายคนเดียวอีกเช่นเดิมเพราะเอิงเอยไม่ได้อยู่ช่วยเธอขายขนมแล้วแต่ตอนนี้กลับมีลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เธอทำงานหนักกว่าเดิมเป็นสองเท่าแต่กระนั้นหญิงสาวกลับดีใจเสียอีกที่จะได้เงินมากขึ้นไปอีกด้วย
“โฮ่งๆๆๆ....โฮ่งๆๆๆๆๆ”
“มีอะไรเจ้าขาว”
ในขณะที่หญิงสาวกำลังเดินลัดเลาะริมแม่น้ำที่เกือบจะถึงบ้านของเธออยู่นั้นเจ้าขาวสุนัขที่เธอให้อาหารมันอยู่ประจำก็วิ่งมาดักที่หน้าของเธอพร้อมกับเห่าเสียงดังจนเธอตกใจแถมเจ้าขาวยังวิ่งมากัดดึงที่ชายกางเกงขายาวของเธอเหมือนกับว่ามันต้องการให้เธอตามมันไปที่ไหนสักที่หนึ่ง
“จะไปไหน..เดี๋ยวๆอย่ากัดสิกางเกงฉันขาดหมดแล้ว”
หญิงสาวจำต้องเดินตามเจ้าขาวไปอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะเธอคิดว่าจะต้องมีอะไรแน่นอนเพราะเจ้าขาวเป็นสุนัขที่ฉลาดมันคงจะเจออะไรเป็นแน่ถึงได้เข้ามาเรียกให้เธอไปดูอย่างตกอกตกใจแบบนั้น
เจ้าขาวพาหญิงสาวมาถึงที่ริมแม่น้ำปายแล้วมันจึงปล่อยปากจากชายกางเกงของเธอพร้อมเดินไปวนรอบๆอยู่ที่ข้างพงหญ้าเป็นการบอกให้เธอรู้ว่าสิ่งที่มันจะให้เธอได้ดูมันอยู่ตรงนี้
“ห๊า....คนนี่...เลือดเต็มเลยยย...ตายหรือยังเนี่ยย”หญิงสาวเดินไปแหวกพงหญ้าดูด้วยแสงอาทิตย์ที่เริ่มส่องมาแล้วทำให้เธอเห็นว่าสิ่งที่เจ้าขาวตามให้เธอมาถึงที่นี่เพื่อที่จะเธอมาดูคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ตรงนี้หญิงสาวเองตอนนี้นั่งมองร่างชายหนุ่มที่นอนหงายใบหน้าและศรีษะมีแต่เลือดอยู่เธอไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าจึงเอื้อมมือจับชีพจรของเขาดูอย่างกล้าๆกลัวๆ“ยังไม่ตายนี่...”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มที่นอนจมกองเลือดอยู่เขายังมีชีวิตอยู่เธอจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวของเขาไปรักษาอย่างเร็วที่สุดเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปโดนอะไรมาถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนี้โรงพยาบาลXXX“คุณเป็นญาติกับคนไข้หรือเปล่าคะ”“เอ่อ...คือฉันเป็นคนเจอเค้านอนสลบอยู่ที่ริมแม่น้ำน่ะค่ะ...ฉันไม่รู้จักเค้า”น้ำเมยตอบพยาบาลไปตามความจริงเพราะเธอพึ่งจะเจอชายหนุ่มนอนจมกองเลือดอยู่เมื่อเช้านี้เองแถมน่าตาท่าทางชายหนุ่มจะไม่ใช่คนแถวนี้อีกด้วยเพราะหน้าลูกออกลูกครึ่งเสียขนาดนั้นแถวที่เธออยู่คงไม่มี“งั้นเป็นไรค่ะ..เรื่องประวัติของคนไข้เดี๋ยวทางเราให้ทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”“ค่ะๆ”พยาบาลเห็นว่าตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะหาประวัติของคนไข้ได้และอ
“นี่คุณสี่วันแล้วนะที่คุณนอนนิ่งอยู่แบบนี้..ฟื้นได้แล้วฉันจะได้รู้ว่าคุณเป็นใครซะที”น้ำเมยนั่งลงอยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพร้อมนั่งพุดคุยกับเขาเป็นปกติแบบนี้ทุกวันถึงเธอจะรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้รับรู้สิ่งที่เธอพูดแต่เธอเองก็อยากจะพูดให้เขาฟังเป็นการคลายเหงากลายๆให้เธอนั่นเอง“คุณ..”หญิงสาวถึงกับเบิกตาโพรงขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่ามือของชายหนุ่มเริ่มขยับและเขาก็กำลังจะยกมันมากุมหัวของตัวเองอยู่เธอจึงรีบกดออดเรียกพยาบาลทันทีตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงมากที่เห็นว่าชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วทำให้เธอเริ่มมีความหวังในใจว่าเธอจะได้รู้เสียทีว่าเขาเป็นใครและบาดเจ็บจากอะไรมาดีไม่ดีเธอจะได้ช่วยเขาตามหาญาติให้มารับเขากลับไปอีกด้วยเมื่อหญิงสาวกดเรียกพยาบาลได้สักพักหมอก็เข้ามาตรวจอาการของชายหนุ่มทันทีตอนนี้หญิงสาวได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆเพราะไม่อยากไปรบกวนเวลาที่หมอตรวจชายหนุ่มอยู่“คุณยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่าครับ”“คือ..ตอนนี้ผมปวดหัวนิดหน่อยครับ”“คุณชื่ออะไรจำได้ไหมครับ”หมอเริ่มตรวจอาการภายนอกของชายหนุ่มพร้อมกับลองถามคำขามของเขาเพื่อเชคอาการภายใน“เอ่อ..ผม...ผมไม่รู้”ตอนนี้สีหน้าชายหนุ่มดูมึนงงอยู่อย
“เอ่อ..พ่อหนุ่มทานหมดนี่ก็ต้องจ่ายเงินนะ”หญิงชราก็เพิ่งเคยเห็นว่าคนที่ทานไวทานเยอะก็วันนี้นี่แหละอย่างมากสองถึงสามห่อก็อิ่มแล้วสำหรับการทานข้าวเหนียวของคนทั่วไปจนลืมบอกชายหนุ่มไปว่าถ้าจะชิมเยอะขนาดนี้ก็ต้องจ่ายเงินแล้วเพราะหญิงชราก็มองไม่ออกว่าชายหนุ่มในชุดคนป่วยจะมีเงินจ่ายไหมเลยรีบพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้“เงินเหรอครับ..เอ่อ..ผม”ชายหนุ่มหยุดทานพร้อมทำหน้าครุ่นคิดถึงเรื่องเงินเพราะตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาก็มีแต่ตัวกับเสื้อผ้าในชุดผู้ป่วยเท่านั้นเอง“เอ่อ..คุณ”หลังจากที่หญิงสาวจัดการธุระของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินออกมาหาชายหนุ่มที่สวนหย่อมทันทีเธอเห็นว่าเขากำลังนั่งอยู่กับหญิงชราคนหนึ่งและเขาก็กำลังทานอะไรสักอย่างอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วยเธอจึงต้องรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้ยังให้เขาทานอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้และตัวเขาเองก็คงยังไม่รู้ตัวด้วย“แม่หนูเป็นญาติของพ่อหนุ่มคนนี้ใช่ไหม...พอดีเขาทานไปข้าวเหนียวยายไปหลายห่อเลยจะ”หญิงชราทำหน้าเหมือนเกรงใจหญิงสาวเพราะมันเหมือนเธอมาหลอกขายของคนป่วยเสียหลายห่อแต่อันที่จริงหญิงชราคิดว่าชายหนุ่มคงจะทานเพียงแค่ห่อสองห่อเท่านั้นเอง
“ขอบคุณนะคุณที่ช่วยคนไร้หนทางอย่างผม”ชายหนุ่มรู้สึกซึ้งในน้ำใจของหญิงสาวที่เธอยื่นมือเข้ามาช่วยคนไร้สิ้นหนทางอย่างเขาที่แม้แต่ชื่อตัวเองเขายังจำไม่ได้“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอะไรที่ช่วยได้ฉันพร้อมที่จะช่วยอยู่แล้ว”หญิงสาวส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มพร้อมเก็บของและพาชายหนุ่มเดินออกมารอที่ด้านนอกห้องพักผู้ป่วยหญิงสาวจัดแจงธุระทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรับยาและจ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้วทั้งสองจึงพากันกลับมาที่บ้านของหญิงสาว17.00 น“ถึงแล้วคุณ..”หญิงสาวพาชายหนุ่มนั่งสองแถวจากที่โรงพยาบาลมาที่บ้านกว่าจะมาถึงก็เย็นพอดีตอนนี้ในมือของหญิงสาวมีแต่ของใช้ที่พึ่งซื้อมาใหม่เอาไว้ให้ชายหนุ่มไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวต่างๆ“บ้านคุณเหรอน่าอยู่มากเลย..”ชายหนุ่มยืนมองบ้านไม้ชั้นเดียวที่ค่อนข้างจะเก่าแต่ก็ยังคงสภาพที่ดีอยู่แถมบรรยากาศที่นี่ก็ยังดีอีกด้วยทำให้เขารู้สึกชอบที่นี่ตั้งแต่แรกเห็น“เข้าบ้านกันเถอะเดี๋ยวฉันต้องไปทำกับข้าวอีก..ปะ”หญิงสาวเห็นชายหนุ่มยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าบ้านเธอจึงถือวิสาสะดึงมือของชายหนุ่มเพื่อให้เขาเดินเข้ามาในบ้านเพราะเธอยังต้องเข้าไปจัดการทำอาหารเย็นต่อ
“เป็นอะไรนายหัวหยองแกล้งฉันจนเหนื่อยแล้วเหรอ..ฮ่าๆๆๆ...อื้ม..”หญิงสาวยังคงหัวเราะเพราะตลกอาการของชายหนุ่มที่คิดว่าเขาสู้เธอไม่ได้เลยทำนิ่งใส่แต่จู่ๆชายหนุ่มที่ทำหน้านิ่งอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบเขาก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆจนตอนนี้ริมฝีปากปากของเขามันมาแตะอยู่ที่ริมฝีปากของเธอและแล้วก็ค่อยๆบดเบียดเข้ามาเรื่อยๆจนหญิงสาวต้องร้องท้วงเพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่สนุกกับการแกล้งเขาเสียแล้วในตอนนี้ชายหนุ่มบดจูบหญิงสาวอยู่เนิ่นนานจนตอนนี้อาการที่ร้องท้วงของเธอกลับกลายเป็นยอมอ่อนให้กับเขาโดยง่ายดายเพราะเธอเองก็เริ่มที่จะมีใจให้ชายหนุ่มบ้างแล้วการที่อยู่ด้วยกันทุกวันแถมทุกวันทั้งสองก็ยังสร้างรอยยิ้มให้กันได้บ่อยๆอีกด้วยชายหนุ่มเองเมื่อเขาหายดีเขาก็แบ่งเบาภาระของหญิงสาวได้เยอะอีกทั้งยังช่วยเธอได้ทุกอย่างจากที่ชายหนุ่มเห็นเธอทำกับข้าวให้เขาทานในคราแรกเขาจึงขอหญิงสาวช่วยหัดสอนให้เขาทำเป็นเพื่อที่เขาจะได้ช่วยเธอและงานบ้านก็เช่นกันเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวยุ่งๆเขาก็จัดการทำเองทุกอย่างเมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มมีอาการเครียดเขาก็จะคอยเป็นตัวตลกให้หญิงสาวได้ยิ้มอยู่ตลอดเวลาแล้วแบบนี้จะให้หญิงสาว
“ป้าคะมันเกิดอะไรขึ้นคะ”เมื่อน้ำเมยมาถึงที่หน้าบ้านก็เห็นหญิงชรายืนเก็บข้าวของให้เธออยู่เธอจึงรีบเดินเข้าไปถามเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่บ้านของเธอกันแน่“น้ำเมยไปไหนมาลูกหมูหยองโดนไอ้พวกชุดดำพวกนั้นทำร้ายแล้วก็จับขึ้นรถตู้ไปแล้วป้าเองก็ไม่ค่อยได้เห็นเหตุการณ์เท่าไรหรอกเพราะกลัวเสียงปืน”“อะไรนะคะ”หญิงสาวได้ยินคำจากหญิงชราที่เล่าเหตุการณ์อย่างหน้าตาตื่นให้เธอฟังหญิงสาวเองถึงกับเข่าทรุดทันทีเธอไม่รู้ว่าคนพวกนั้นมาจับตัวชายหนุ่มไปเพราะเหตุใดแต่ตอนนี้หัวใจของเธอสลายหมดแล้วเพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะช่วยชายหนุ่มด้วยวิธีใด“บอล..บอล..พาพี่ไปแจ้งความหน่อยเดี๋ยวนี้เลย”“ครับพี่น้ำเมย”หญิงสาววิ่งรนรานมาหาเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์เธอรีบบอกให้เด็กหนุ่มพาเธอไปแจ้งความทันทีเพราะตอนนี้ที่พึ่งเดียวของเธอก็น่าจะเป็นตำรวจจนแล้วจนรอดนี่ก็ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์ที่หญิงสาววิ่งอยู่ที่โรงพักกับบ้านของเธอแถมยังออกตามหาเบาะแสเองอีกต่างห่างจนตอนนี้เธอเองก็เริ่มที่จะท้อแล้วก็หมดกำลังใจแล้วแต่เธอก็ยังไม่หมดหวังที่ว่าจะหาเขาเจอ“ช่วยบอกเสี่ยว่าหนูขอเวลาอีกนิดได้ไหมคะ”“ไม่ได้หรอกน้องเสี่ยเ
“ฉันเข้าไปได้แล้วใช่ไหมคะ.?...คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ”น้ำเมยเห็นว่าชายหนุ่มเลขาของท่านประธานกำลังมองหน้าเธออย่างสงสัยเธอจึงถามเขาออกไปว่ามีอะไรที่จะบอกเธอหรือเปล่า“อ๋อ..เอ่อ..ปะ..เปล่าครับเชิญคุณเข้าไปได้เลยครับ”เจมส์เองมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขากำลังตามหาอยู่เป็นแน่แต่ก็เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจก่อนเพราะเขาคิดว่าจะรอให้หญิงสาวเข้าไปหาเจ้านายหนุ่มของเขาด้านในก่อนแล้วเขาค่อยถามคำถามที่คาใจกับเธอทีหลังเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอเป็นพนักงานที่นี่อยู่แล้วคงตามตัวได้ไม่ยากก๊อกๆๆ“ขออนุญาตค่ะ”หญิงสาวเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องตามมารยาทตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆแบบไม่สามารถบังคับตัวเองได้เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าถ้าเห็นใบหน้าของชายหนุ่มอีกเธอจะปล่อยน้ำตาลงมาอย่างง่ายดายน่ะสิ“สวัสดีค่ะบอส...สวัสดีค่ะคุณดาว”น้ำเมยองเห็นแล้วว่าใครอยู่ในห้องบ้างเธอเห็นว่าหญิงสาวอยู่กับชายหนุ่มกำลังนั่งคุยกันอย่างสนิทสนมภาพนั้นมันทำให้เธอต้องเดินก้มหน้าไม่หันมองทั้งคู่พร้อมยกมือสวัสดีทั้งสองอย่างเสียงแผ่วเบา“สวัสดีค่ะ...ดาวอยากเจอคุณตั้งนานแล้ววันนี้ได้เจอกันซะทีนะคะขนมของคุณอร่อยมากเลยค่ะ”ดาวลดาก
“คือ...คุณเจมส์คะ”“ค..ครับ”น้ำเมยเองถึงกับมีสีหน้าที่ตกใจและเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดเธอภาวนาว่าอย่าให้เรื่องนี้ไปถึงหูของมาคัสเลยไม่ทันที่เจมส์จะพูดจบเธอก็พูดตัดบทของเขาขึ้นมาทันทีจนเจมส์เองถึงกับมีน้ำเสียงและสีหหน้าที่สงสัย“เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้ใช่ไหมคะ..แล้วยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แล้วใช่ไหม”หญิงสาวรัวคำถามกับชายหนุ่มเพราะตอนนี้ในใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วตอนนี้เธอไม่ได้อยากให้ใครมาขอบคุณเธอทั้งนั้นเพราะไม่อยากให้ครอบครัวของมาคัสรู้เรื่องนี้มันจะทำให้เธอไปจากเขาลำบากขึ้นอีกแถมยังคงต้องมีคำถามมากมายตามมาชวนให้เธอคิดถึงเรื่องอดีตอีกด้วย“เอ่อ..ยังครับยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แต่ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่ามีผู้หญิงที่ช่วยคุณมาร์คเอาไว้ตอนก่อนที่พวกผมจะไปเจอ”“เฮ้อ...ค่อยโล่งอกฉันจะบอกความจริงว่าฉันช่วยเจ้านายของคุณเอาไว้ก็ได้”หญิงยกมือขึ้นทาบอกของเธอทันทีเมื่อได้ยินคำตอบที่ทำให้เธอสบายใจ“ผมว่าแล้วว่ายังไงก็ต้องเป็นคุณ”เจมส์รู้สึกว่าวันนี้งานที่เขาต้องสะสางมันมาถึงผลสำเร็จแล้วเพราะวันนี้เขาเจอตัวหญิงสาวที่ช่วยเจ้านายหนุ่มของเขาเอาไว้ได้แล้วด้วยเจ้านายของเขาจำไม่ได้ว่าตอนที่อยู่ที่ปายใครช