“แอร๊...แอ้...”
เด็กหญิงที่นอนกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ในเปลสีชมพูส่งเสียงทักทายคนมาใหม่ราวกับอยากที่จะร่วมวงสนธนาด้วย
“ว่าไงจ้ะสาวน้อย...อาซื้อชุดสวยมาฝากเพียบเลยนะคะ...เราไปดูชุดสวยกันดีกว่าเนอะ”
“แอร๊...อร้า..คิกๆๆ”
ดาวลดาอุ้มหลานสาวของเธอออกมาจากเปลเด็กพร้อมไปนั่งที่โซฟาเล่นกันกับหลานสองคนอย่างไม่สนใจใครแล้วในตอนนี้เพราะว่าเธอคิดถึงมาก
“น้องดาวท่าทางน่าจะเลี้ยงเด็กเป็นแล้วนะ...นายไม่คิดจะมีลูกบ้างเหรอ”
มาคัสเห็นว่าทั้งสองแต่งงานกันมาตั้งนานแล้วก็ก็ไม่ยักจะเห็นมีลูกเสียทีและเขาก็เห็นว่าดาวลดาเองก็มีความพร้อมที่จะเป็นแม่คนมากแล้วด้วย
“ใครว่าไม่อยากมีล่ะแต่ยังไม่มามากกว่าฉันเองให้หมอตรวจดูแล้วนะหมอบอกว่าร่างกายของดาวยังอ่อนแอคงต้องรอให้เธอแข็งแรงอีกนิดตอนนี้ชั้นก็พยายามบำรุงเธอทุกอย่างเลย”
แดเนียลตอบมาคัสไปด้วยแววตาที่เศร้าหมองแต่เขาก็ยังพยายามฝืนยิ้มเขาเองอยากจะมีลูกใจจะขาดแต่ก็ต้องดูสุขภาพภรรยาของเขาด้วยตอนนี้เขาคิดว่าถ้าภรรยาเขาแข็งแรงเมื่อไรลุกก็คงจะมาเองตอนนี้เขาก็พยายามบำรุงหญิงสาวสุดขีด
“จริงสิ...น้องดาวป่วยบ่อยตั้งแต่เด็กๆแล้วยังไงฉันก็เอาใจช่วยนายนะฉันไปอาบน้ำก่อนเชิญนายตามสบายนะ”
มาคัสลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเสียสนิทอันที่จริงเขาก็รู้อยู่ว่าน้องสาวของเขาร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็กแล้วแต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบให้มีลูกยากอีกด้วยตอนนี้เขาก็ทำได้แต่เอาใจช่วยทั้งสองให้สมหวังเร็วๆเพราะเขารู้ว่าการมีพ่อแม่ลุกที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันมันมีความสุขแค่ไหน
“สู้ๆนะคะคุณแดเนียล”
“ครับ...คุณน้ำเมย”
น้ำเมยเองรู้สึกเห็นใจทั้งคู่เธอเองก็คงจะรู้สึกแย่เหมือนกันถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์ของทั้งสองตอนนี้เธอก็ขอเอาใจช่วยพวกเขาอีกแรงให้สมหวังดั่งตั้งใจก็แล้วกัน
19.00 น.
“ยัยหนูล่ะคุณ”
มาคัสอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาจึงรีบวิ่งลงมาด้านล่างเพื่อที่จะมาเล่นกับลูกสาวของเขาเมื่อไม่เห็นว่าลูกสาวของตนอยู่ในเปลก็ถามคนเป็นภรรยาขึ้นว่าลุกอยู่ที่ไหน
“หลับไปแล้วค่ะ”
“อ้าวโถ่...อดเล่นกับลูกเลย”
มาคัสมีสีหน้าที่บูดบึ้งทันทีไหนวันนี้ทำไมลุกของเขาจึงหลับเร็วเขายังไม่ได้เล่นไม่ได้หอมไม่ได้ฟัดเลย
“ก็คุณลงมาช้าเองนี่คะ...มาทานข้าวเร็วค่ะคุณดาวกับคุณแดเนียลรอคุณอยู่”
น้ำเมยขำคนเป็นสามีของเธอเองที่ทำสีหน้าและน้ำเสียงที่ดูจะงี่เง่าใส่เธอเพราะไม่ได้เล่นกับลูกจะให้เธอทำอย่างไรได้ล่ะก็เพราะว่าเขาลงมาช้าเองนี่น่า
“อุ้ปป”
“เป็นอะไรหรือเปล่าดาว”
แดเนียลกำลังนั่งรอน้ำเมยและมาคัสอยู่ที่โต้ะอาหารกับดาวลดาจู่ๆดาวลดาก็มีท่าทางที่ผะอืดผะอมจะอ้วกออกมาเขาจึงถามอาการของเธอว่าเป็นอะไรเพราะดูสีหน้าของเธอตอนนี้มันไม่ค่อยสู้ดีนัก
“เหม็นค่ะ...อุ้ปปป..”
“ดาว”
ดาวลดารีบวิ่งไปที่ห้องน้ำเพราะเธอกำลังจะอาเจียนออกมาเพราะว่าเหม็นอาหารจนแดเนียลต้องรีบวิ่งไปดูอาการของคนเป็นภรรยา
“น้องดาวเป็นอะไรแดเนียล”
ทั้งน้ำเมยและมาคัสรีบวิ่งมาดูอาการของดาวลดาเพราะจู่ๆเธอก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำมาในสีหน้าที่ไม่ดีสักเท่าไร
“ไม่รู้จู่ๆดาวก็จะอาเจียนบอกว่าเหม็นอะไรของเธอไม่รู้”
แดเนียลเองที่กำลังลูบหลังให้ภรรยาเขาที่อาเจียนอยู่ก็ยังไม่รู้ว่าหญิงสาวเป็นอะไรเหมือนกัน
“ไหวไหมคะคุณดาว...อืมม...อาการแบบนี้”
น้ำเมยคิดว่าเธอพอจะเดาออกว่าอาการที่หญิงสาวเป็นมันคืออะไร
“เดี๋ยวน้ำเมยดูคุณดาวให้เองค่ะ...หนุ่มๆทั้งสองไปรอข้างนอกนะคะ”
น้ำเมยคิดว่าสาเหตุของอาการของหญิงสาวต้องเป็นอย่างที่เธอคิดแน่นอนแต่เธอขอตรวจให้แน่ใจก่อนก้แล้วกัน
“ลองตรวจดูค่ะคุณดาว”
น้ำเมยรีบไปหยิบที่ตรวจครรภ์ที่เธอเคยซื้อเอาไว้มาให้หญิงสาวตรวจทันที
“คุณน้ำเมยคิดว่าดาวท้องเหรอคะ”
“อืมฉันว่าน่าจะเดาไม่ผิดนะคะลองดูค่ะเพื่อความแน่ใจ”
5 นาทีต่อมา
“เป็นไงคะคุณดาว”
น้ำเมยยืนใจจดใจจ่อรอดาวลดาอยู่ที่หน้าห้องน้ำเมื่อเห้นหญิงสาวเปิดประตูออกมาเธอจึงถามถึงผลของมันทันทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง
“สองขีดค่ะ..อ๊ายย.ดีใจที่สุดในโลกเลยค่ะ”
“ดีใจด้วยนะคะคุณดาว”
ดาวลดาดีใจจนกรีดร้องลั่นตอนนี้เธอกระโดกอดน้ำเมยจนตัวกลมน้ำเมยเองก็ดีใจกับดาวลดาไม่แพ้กันที่หญิงสาวจะมีทายาทสมใจเสียที
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ”
“ใช่มีเรื่องอะไรกันกรี๊ดซะลั่นเลย”
ทั้งมาคัสและแดเนียลได้ยินเสียงกรี๊ดโวยวายจากตรงห้องน้ำทั้งสองเลยรีบวิ่งมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น
“นี่ค่ะ...พี่แดน”
“จริงเหรอดาว...เย่!!!!!”
ดาวลดาชูผลตรวจให้แดเนียลดูว่าเธอท้องแล้วแดเนียลเองก็ดีใจซะจนอุ้มหญิงสาววิ่งไปทั่วบ้านทำเอาทั้งมาคัสและน้ำเมยยืนขำกับอาการดีใจของทั้งคู่และนี่ก็เป็นเรื่องน่ายินดีกับทั้งสองอย่างยิ่ง
22.00 น.
“ยังทำงานอยู่อีกเหรอคะ”
น้ำเมยเองเห็นว่าสามีของเธอยังนั่งอยู่หน้าโน้ตบุ้คนี่มันก็ดึกแล้วเธอจึงมาถามเขาว่ายังต้องทำงานอยู่อีกเหรอ
“อืมม..เสร็จแล้วหละ”
มาคัสเองรีบปิดโน้ตบุ้คในทันทีเพราะเขาเห็นว่านี่มันก็ดึกแล้วจริงๆและเดินกอดคอหญิงสาวไปนอนที่เตียงด้วยกันโดยไม่ลืมที่จะก้มไปหอมแก้มลูกสาวของเขาที่นอนหลับอยู่ในเปลอีกด้วย
“เบื่อไหมที่วันๆเลี้ยงลูกอยู่แต่ในบ้านบ้าน”
มาคัสเห็นว่าวันๆหญิงสาวไม่ค่อยได้ไปไหนได้แต่เลี้ยงลุกอยู่แต่ในบ้านเขาจึงอยากรู้ความรู้สึกของภรรยาเขาว่ารู้สึกเบื่อกับชีวิตแบบนี้บ้างหรือไม่
“ไม่ค่ะฉันมีความสุขดี..มีสามีที่ดีมีลูกที่น่ารักแค่นี้ฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้วค่ะ”
น้ำเมยตอบสามีของเธอได้ในทันทีเธอไม่เคยนึกเบื่อเลยสักนิดถึงการเลี้ยงลูกมันจะเหนื่อยแต่เธอเองก็มีความสุขการที่เธอมีชีวิตที่ดีแบบนี้ก็ถือว่ามันเป็นเรื่องที่เธอโชคดีกว่าคนอื่นมากแล้วอีกทั้งสามีเธอยังไม่นอกลู่นอกทางอีกด้วยมันทำให้เธอตัดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย
“ผมรักคุณนะ...”
มาคัสจะบอกแบบนี้กับคนเป็นภรรยาทุกวันเพราะเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆผู้หญิงคนนี้ที่เสียสละได้ทุกอย่างเธอเป็นคนที่สวยที่สุดในหัวใจของเขาเสมอ
“ฉันก็รักคุณค่ะหมูหยอง”
“เรียกผมแบบนี้อีกแล้วนะ...อยากรื้อฟื้นคืนฝนตกใช่ม๊า”
จบบริบูรณ์
โรงแรมXXX08.00น.“อุ้ปป...แหวะ...”น้ำเมยมาถึงที่ทำงานได้สักพักก็เกิดอาการเวียนหัวคลื่นไส้ขึ้นมาดื้อๆเสียอย่างนั้นทำเอาเธอวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทันเธอไม่คิดว่าอาการที่เป็นตอนที่ตื่นนอนมันจะยังไม่หาย“โอเคไหมแก...นี่ฉันว่าวันนี้เลิกงานแล้วไปหาหมอหน่อยเถอะ”อิงฟ้าเห็นเพื่อนสาวของเธอคลื่นไส้อาเจียนอยู่บ่อยๆเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วและดูว่าอาการมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยเธอเองบอกให้น้ำเมยไปหาหมอหลายครั้งแล้วแต่หญิงสาวก็กลัวว่ามันจะเสียงานเสียเงินเสียเวลาจนเธอเห็นท่าไม่ดีแล้วยังไงวันนี้เธอก็ต้องลากเพื่อนของเธอไปให้หมอตรวจให้ได้อิงฟ้าและน้ำเมยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆพึ่งจะมาแยกย้ายกันตอนเรียนจบ ม.6 เพราะว่าอิงฟ้าต้องมาเรียนต่ออยู่ที่กรุงเทพกับแม่ส่วนน้ำเมยหลังจากจบ ม.6 แล้วก็ไม่ได้เรียนต่ออีกเลยเพราะหญิงสาวเองอยู่กับยายเพียงสองคนและยายของเธอก็มีอาชีพเพียงแค่ขายขนมหวานเธอจึงไม่อยากสร้างภาระให้กับยายของเธออีกอย่างยายของน้ำเมยเองก็แก่มากแล้วหญิงสาวจึงตัดสินใจให้ยายของเธอพักแล้วเธอเองเป็นคนมาขายแทนจนวันนึงยายของน้ำเมยเสียหญิงสาวจึงเหลือตัวคนเดียวจนอยู่มาวันหนึ่งหญิงสาวได้พบกับชายหนุ่มแปลกหน
“หมูหยอง”หญิงสาวรู้สึกใจเต้นแรงเธอเห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะเดินเข้าไปในโรงแรมแล้วเธอเองกำลังจะก้าวขาเดินตามแต่เธอกลับล้มฟุบลงไปกับพื้นเสียก่อน“น้ำเมยย...”อิงฟ้าถึงกับหน้าเสียที่จู่ๆน้ำเมยก็เป็นลมล้มพับอยู่ข้างๆเธอจึงรีบประคองเพื่อนสาวของเธอขึ้นมาเอาไว้อย่างหลวมๆแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรเพราะกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจของคนอื่นและเพื่อนเธอก็จะโดนตำหนิไปด้วยว่าร่างกายไม่พร้อมแล้วยังฝืนมาทำงานเพราะที่นี่ถือเป็นกฎเหล็กข้อห้ามว่าถ้าพนักงานไม่ไหวให้แจ้งหัวหน้าลาได้ทันทีห้ามฝืนทำงานโดยเด็ดขาดเพราะผลงานที่ออกมาก็จะดูป่วยตามคนทำไปด้วย“ผมว่าพนักงานที่นี่น่าจะรู้กฎกันดีอยู่นะ”มาคัสมองเพียงหางตาก็รู้ว่ามีคนกำลังล้มลงถึงพนักงานด้านหน้าจะยืนเรียงรายกันอยู่ก็เถอะแต่ด้วยความสูงของระดับสายตาของเขาเองสามารถเห็นได้ทั่วถึงอยู่แล้วชายหนุ่มเดินหันหลังกลับมาทางที่หญิงสาวกำลังเป็นลมพนักงานทุกคนต่างหลีกทางให้กับเขาโดยอัตโนมัติเพราะรับรู้ได้ถึงอาการน้ำนิ่งไหลลึกของเขา“พาเธอไปที่ห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้”“ค่ะๆ...”ตอนนี้อิงฟ้าหน้าซีดเป็นไก่ต้มเพราะเห็นว่าตอนนี้ทุกคนมองมาทางเธอและเพื่อนสาวของเธอที่เป็นลมอยู่เป็นตาเดียวอีกท
“หายไวๆนะคะ”ดาวลดาเห็นว่าพนักงานที่โรงแรมป่วยด้วยความที่อัธยาศัยและจิตใจดีของเธอเลยอวยพรให้หญิงสาวหายป่วยไวๆพร้อมทั้งยังส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวทั้งสองและเดินออกไปจากห้องพร้อมชายหนุ่มทิ้งให้น้ำเมยนั่งปวดหัวใจอยู่ในห้องกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อครู่“ฮึกๆๆ...”“แกเอ้ยย...ดีนะที่บอสเค้าไม่โกรธแกอะ...เค้าไม่ได้ชื่อหมูหยองนั่นคือท่านประธานใหญ่ที่เราเจอเมื่อเช้าไงแล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็คือคู่หมั้นของเขา”อิงฟ้าเองก็ยังคิดว่าที่เพื่อนของเธอไปเรียกชายหนุ่มว่าหมูหยองอะไรนั่นเพราะเป็นอาการเบลอจากอาการป่วยหญิงสาวโล่งใจที่ท่านประธานหนุ่มไม่ได้โกรธอะไรพร้อมทบทวนให้เพื่อนสาวของเธอฟังอีกรอบว่าทั้งสองคนเมื่อครู่เป็นใครเผื่อเพื่อนเธอจะมีสติขึ้นมาบ้าง“คู่หมั้นเหรอ..ฮือๆๆ..ฮึก..ฮืออ”น้ำเมยได้ยินว่าผู้หญิงคนเมื่อครู่ที่ท่าทางสนิทสนมกับชายหนุ่มเป็นใครเธอก็กลั้นเสียงสะอึกสะอื้นเอาไว้ไม่ได้เธออยากให้ตอนนี้มันเป็นแค่ฝันไม่ใช่เรื่องจริงเหลือเกินเพราะตอนนี้เธอยังทำใจยอมรับเรื่องที่ชายหนุ่มจำเธอไม่ได้แถมตอนนี้เขายังควงกับคู่หมั้นหน้าตาชื่นมื่นอีกต่างหาก“ฉันว่าเราไปให้หมอตรวจแกจะดีกว่า..ฉันคิดว่าอาการแกคงหนักแล
“เค้าชื่อว่าหมูหยองเป็นชื่อที่ฉันตั้งให้เค้าเองคือที่ฉันบอกไม่รู้จักคือตอนที่ฉันเจอเค้าความจำของเขาเสื่อมฉันเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ในเมื่อเขายังจำอะไรไม่ได้ฉันเลยให้เค้าอยู่กับฉันไปก่อนแต่พอนานวันเข้าที่ทำให้ฉันรักเค้าคือความห่วงใยความใส่ใจความดีและความรักที่เค้ามีให้ฉันมันทำให้ฉันมอบทั้งตัวและหัวใจให้เค้าไปหมดแล้วแต่วันนึงเขาก็หายตัวไปฉันตามหาเท่าไรก็หาไม่เจอจนตอนนี้ฉันคิดว่าเค้าตายไปแล้วด้วยซ้ำแต่วันนี้.....ช่างมันเถอะเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”น้ำเมยเล่าจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนสาวของเธอที่ตอนนี้นั่งอ้าปากพร้อมทำสีหน้าเศร้าตามเรื่องที่เธอเล่าเธอเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้น้ำเมยเองตั้งใจไว้ว่าจะเล่าเพียงแค่นี้เพราะเธอไม่อยากพาดพิงถึงชายหนุ่มอีกแล้ววันนี้เธอรู้สถานะของเขาแล้วว่าเขาและเธออยู่ห่างกันขนาดไหนตอนนี้ใจของเธอคิดว่าดีแล้วที่ชายหนุ่มจำเธอไม่ได้อีกอย่างชายหนุ่มก็มีคู่หมั้นที่เหมาะสมกันอยู่แล้วอีกต่างหากในเมื่อโชคชะตามันพาเธอเดินมาทางนี้ถึงแม้เธอจะน้อยใจในโชคชะตาบ้างแต่เธอก็พร้อมจะยอมรับมันละจะเลี้ยงลูกของเธอคนเดียวให้ดีที่สุดอย่างน้อยเธอก็มีหนึ่งสิ่งที่อยู่ในตัวเธอเป็นตัวแทนความรัก
“ห๊า....คนนี่...เลือดเต็มเลยยย...ตายหรือยังเนี่ยย”หญิงสาวเดินไปแหวกพงหญ้าดูด้วยแสงอาทิตย์ที่เริ่มส่องมาแล้วทำให้เธอเห็นว่าสิ่งที่เจ้าขาวตามให้เธอมาถึงที่นี่เพื่อที่จะเธอมาดูคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ตรงนี้หญิงสาวเองตอนนี้นั่งมองร่างชายหนุ่มที่นอนหงายใบหน้าและศรีษะมีแต่เลือดอยู่เธอไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าจึงเอื้อมมือจับชีพจรของเขาดูอย่างกล้าๆกลัวๆ“ยังไม่ตายนี่...”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มที่นอนจมกองเลือดอยู่เขายังมีชีวิตอยู่เธอจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวของเขาไปรักษาอย่างเร็วที่สุดเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปโดนอะไรมาถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนี้โรงพยาบาลXXX“คุณเป็นญาติกับคนไข้หรือเปล่าคะ”“เอ่อ...คือฉันเป็นคนเจอเค้านอนสลบอยู่ที่ริมแม่น้ำน่ะค่ะ...ฉันไม่รู้จักเค้า”น้ำเมยตอบพยาบาลไปตามความจริงเพราะเธอพึ่งจะเจอชายหนุ่มนอนจมกองเลือดอยู่เมื่อเช้านี้เองแถมน่าตาท่าทางชายหนุ่มจะไม่ใช่คนแถวนี้อีกด้วยเพราะหน้าลูกออกลูกครึ่งเสียขนาดนั้นแถวที่เธออยู่คงไม่มี“งั้นเป็นไรค่ะ..เรื่องประวัติของคนไข้เดี๋ยวทางเราให้ทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”“ค่ะๆ”พยาบาลเห็นว่าตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะหาประวัติของคนไข้ได้และอ
“นี่คุณสี่วันแล้วนะที่คุณนอนนิ่งอยู่แบบนี้..ฟื้นได้แล้วฉันจะได้รู้ว่าคุณเป็นใครซะที”น้ำเมยนั่งลงอยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพร้อมนั่งพุดคุยกับเขาเป็นปกติแบบนี้ทุกวันถึงเธอจะรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้รับรู้สิ่งที่เธอพูดแต่เธอเองก็อยากจะพูดให้เขาฟังเป็นการคลายเหงากลายๆให้เธอนั่นเอง“คุณ..”หญิงสาวถึงกับเบิกตาโพรงขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่ามือของชายหนุ่มเริ่มขยับและเขาก็กำลังจะยกมันมากุมหัวของตัวเองอยู่เธอจึงรีบกดออดเรียกพยาบาลทันทีตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงมากที่เห็นว่าชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วทำให้เธอเริ่มมีความหวังในใจว่าเธอจะได้รู้เสียทีว่าเขาเป็นใครและบาดเจ็บจากอะไรมาดีไม่ดีเธอจะได้ช่วยเขาตามหาญาติให้มารับเขากลับไปอีกด้วยเมื่อหญิงสาวกดเรียกพยาบาลได้สักพักหมอก็เข้ามาตรวจอาการของชายหนุ่มทันทีตอนนี้หญิงสาวได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆเพราะไม่อยากไปรบกวนเวลาที่หมอตรวจชายหนุ่มอยู่“คุณยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่าครับ”“คือ..ตอนนี้ผมปวดหัวนิดหน่อยครับ”“คุณชื่ออะไรจำได้ไหมครับ”หมอเริ่มตรวจอาการภายนอกของชายหนุ่มพร้อมกับลองถามคำขามของเขาเพื่อเชคอาการภายใน“เอ่อ..ผม...ผมไม่รู้”ตอนนี้สีหน้าชายหนุ่มดูมึนงงอยู่อย
“เอ่อ..พ่อหนุ่มทานหมดนี่ก็ต้องจ่ายเงินนะ”หญิงชราก็เพิ่งเคยเห็นว่าคนที่ทานไวทานเยอะก็วันนี้นี่แหละอย่างมากสองถึงสามห่อก็อิ่มแล้วสำหรับการทานข้าวเหนียวของคนทั่วไปจนลืมบอกชายหนุ่มไปว่าถ้าจะชิมเยอะขนาดนี้ก็ต้องจ่ายเงินแล้วเพราะหญิงชราก็มองไม่ออกว่าชายหนุ่มในชุดคนป่วยจะมีเงินจ่ายไหมเลยรีบพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้“เงินเหรอครับ..เอ่อ..ผม”ชายหนุ่มหยุดทานพร้อมทำหน้าครุ่นคิดถึงเรื่องเงินเพราะตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาก็มีแต่ตัวกับเสื้อผ้าในชุดผู้ป่วยเท่านั้นเอง“เอ่อ..คุณ”หลังจากที่หญิงสาวจัดการธุระของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินออกมาหาชายหนุ่มที่สวนหย่อมทันทีเธอเห็นว่าเขากำลังนั่งอยู่กับหญิงชราคนหนึ่งและเขาก็กำลังทานอะไรสักอย่างอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วยเธอจึงต้องรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้ยังให้เขาทานอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้และตัวเขาเองก็คงยังไม่รู้ตัวด้วย“แม่หนูเป็นญาติของพ่อหนุ่มคนนี้ใช่ไหม...พอดีเขาทานไปข้าวเหนียวยายไปหลายห่อเลยจะ”หญิงชราทำหน้าเหมือนเกรงใจหญิงสาวเพราะมันเหมือนเธอมาหลอกขายของคนป่วยเสียหลายห่อแต่อันที่จริงหญิงชราคิดว่าชายหนุ่มคงจะทานเพียงแค่ห่อสองห่อเท่านั้นเอง
“ขอบคุณนะคุณที่ช่วยคนไร้หนทางอย่างผม”ชายหนุ่มรู้สึกซึ้งในน้ำใจของหญิงสาวที่เธอยื่นมือเข้ามาช่วยคนไร้สิ้นหนทางอย่างเขาที่แม้แต่ชื่อตัวเองเขายังจำไม่ได้“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอะไรที่ช่วยได้ฉันพร้อมที่จะช่วยอยู่แล้ว”หญิงสาวส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มพร้อมเก็บของและพาชายหนุ่มเดินออกมารอที่ด้านนอกห้องพักผู้ป่วยหญิงสาวจัดแจงธุระทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรับยาและจ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้วทั้งสองจึงพากันกลับมาที่บ้านของหญิงสาว17.00 น“ถึงแล้วคุณ..”หญิงสาวพาชายหนุ่มนั่งสองแถวจากที่โรงพยาบาลมาที่บ้านกว่าจะมาถึงก็เย็นพอดีตอนนี้ในมือของหญิงสาวมีแต่ของใช้ที่พึ่งซื้อมาใหม่เอาไว้ให้ชายหนุ่มไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวต่างๆ“บ้านคุณเหรอน่าอยู่มากเลย..”ชายหนุ่มยืนมองบ้านไม้ชั้นเดียวที่ค่อนข้างจะเก่าแต่ก็ยังคงสภาพที่ดีอยู่แถมบรรยากาศที่นี่ก็ยังดีอีกด้วยทำให้เขารู้สึกชอบที่นี่ตั้งแต่แรกเห็น“เข้าบ้านกันเถอะเดี๋ยวฉันต้องไปทำกับข้าวอีก..ปะ”หญิงสาวเห็นชายหนุ่มยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าบ้านเธอจึงถือวิสาสะดึงมือของชายหนุ่มเพื่อให้เขาเดินเข้ามาในบ้านเพราะเธอยังต้องเข้าไปจัดการทำอาหารเย็นต่อ