หญิงสาวรู้สึกใจเต้นแรงเธอเห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะเดินเข้าไปในโรงแรมแล้วเธอเองกำลังจะก้าวขาเดินตามแต่เธอกลับล้มฟุบลงไปกับพื้นเสียก่อน
“น้ำเมยย...”
อิงฟ้าถึงกับหน้าเสียที่จู่ๆน้ำเมยก็เป็นลมล้มพับอยู่ข้างๆเธอจึงรีบประคองเพื่อนสาวของเธอขึ้นมาเอาไว้อย่างหลวมๆแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรเพราะกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจของคนอื่นและเพื่อนเธอก็จะโดนตำหนิไปด้วยว่าร่างกายไม่พร้อมแล้วยังฝืนมาทำงานเพราะที่นี่ถือเป็นกฎเหล็กข้อห้ามว่าถ้าพนักงานไม่ไหวให้แจ้งหัวหน้าลาได้ทันทีห้ามฝืนทำงานโดยเด็ดขาดเพราะผลงานที่ออกมาก็จะดูป่วยตามคนทำไปด้วย
“ผมว่าพนักงานที่นี่น่าจะรู้กฎกันดีอยู่นะ”
มาคัสมองเพียงหางตาก็รู้ว่ามีคนกำลังล้มลงถึงพนักงานด้านหน้าจะยืนเรียงรายกันอยู่ก็เถอะแต่ด้วยความสูงของระดับสายตาของเขาเองสามารถเห็นได้ทั่วถึงอยู่แล้ว
ชายหนุ่มเดินหันหลังกลับมาทางที่หญิงสาวกำลังเป็นลมพนักงานทุกคนต่างหลีกทางให้กับเขาโดยอัตโนมัติเพราะรับรู้ได้ถึงอาการน้ำนิ่งไหลลึกของเขา
“พาเธอไปที่ห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้”
“ค่ะๆ...”
ตอนนี้อิงฟ้าหน้าซีดเป็นไก่ต้มเพราะเห็นว่าตอนนี้ทุกคนมองมาทางเธอและเพื่อนสาวของเธอที่เป็นลมอยู่เป็นตาเดียวอีกทั้งที่หนักไปกว่านั้นท่านประธานหนุ่มกลับไล่ให้เธอพาเพื่อนของเธอไปที่ห้องพยาบาล
เธอเองจำต้องพยุงร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของเพื่อนเธอค่อยๆเดินไปที่ห้องพยาบาลคนเดียวอีกต่างหากเธอรู้ว่าถ้าท่านประธานหนุ่มไม่มายืนอยู่ตรงนี้ป่านนี้คนอื่นๆคงจะยื่นมือเข้ามาช่วยเธอแล้วหละ
“เดี๋ยว....ที่นี่ไม่มีผู้ชายกันหรือไง”
ประธานหนุ่มรู้สึกขัดหูขัดตาที่มีเพียงแค่ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้นที่ยืนช่วยพยุงหญิงสาวที่เป็นลมอยู่เขาจึงเอ่ยเสียงเข้มเพื่อให้พนักงานผู้ชายที่ยืนก้มหน้ากันอยู่ได้ยินกลายๆก่อนจะเดินเข้าไปอุ้มหญิงสาวที่เป็นลมขึ้นมาแล้วก้าวยาวๆอย่างสง่างามเพื่อพาหญิงสาวเข้าไปนอนที่ห้องพยาบาลที่ทางโรงแรมจัดเอาไว้ให้สำหรับพนักงานทันที
ห้องพยาบาล
“คุณเป็นหัวหน้าเธอใช่ไหม”
มาคัสจ้องมองหญิงสาวที่เขาพึ่งจะวางลงบนเตียงพยาบาลก่อนจะหันมาถามอิงฟ้าที่เดินตามเขาเข้ามาเมื่อดูจากป้ายที่ติดที่เสื้อของทั้งสองก็รู้ว่าเป็นหัวหน้าลูกน้องกัน
ชายหนุ่มหันกลับมาจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่นอนเป็นลมเพราะว่าเขารู้สึกคุ้นเคยกับใบหน้านี้เหลือเกินแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอเธอที่ไหน
“ค่ะ”
อิงฟ้ายืนหน้าซีดก้มหน้าเมื่อได้ยินท่านประธานใหญ่ถามเธอขึ้นด้วยความที่กังวลจึงทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามของเขา
“ลูกน้องของคุณไม่สบายทำไมถึงไม่ให้เธอได้พักคราวหน้าผมหวังว่าคงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกนะ”
“ค่ะ..บอส”
มาคัสพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่เมื่อมองแววตาของเขาแล้วใครๆก็ดูออกว่าไม่พอใจสักเท่าไรอิงฟ้าเลยทำได้แค่ตอบรับคำของเขาและเดินเข้าไปดูอาการของน้ำเมยพร้อมถือยาดมแกว่งไปมาไว้ใกล้ๆกับจมูกของเพื่อนเธอ
ในใจอิงฟ้าตอนนี้ก็ภาวนาว่าให้อิงฟ้าฟื้นเร็วๆเพราะเธอรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลยที่ทั้งห่วงอาการของเพื่อนเธอทั้งเกร็งที่ท่านประธานใหญ่เอาแต่ยืนจ้องมองเธอและเพื่อนที่นอนเป็นลมอยู่แบบนี้
“อืมมม..อืออ...หมูหยอง....คุณจริงๆด้วยย”
ไม่นานนักน้ำเมยรู้สึกตัวขึ้นมาได้เมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงที่เธอเฝ้าคิดถึงตลอดเวลายืนอยู่ตรงหน้าเธอจึงลุกพรวดและสวมกอดไปที่เอวของเขาทันทีด้วยความคิดถึง
“คุณ..”
มาคัสรู้สึกตกใจอย่างมากที่จู่ๆหญิงสาวก็ลุกพรวดเข้ามากอดเอวเขาเอาไว้เขาจึงรีบจับตัวหญิงสาวให้ผละออกจากเขาทันทีเมื่อมองที่หน้าเธอพบว่าใบหน้าของหญิงสาวตอนนี้เปื้อนคราบน้ำตาอยู่ด้วยเขารู้สึกแปลกใจกับอาการของเธอไม่น้อยและแปลกใจกับชื่อที่เธอเรียกเขาอีกด้วย
“เฮ้ยยยย....น้ำเมย..ใจเย็นๆนี่ท่านประธาน”
อิงฟ้าจำต้องรวบตัวน้ำเมยมากอดเอาไว้เพราะกลัวว่าท่านประธานใหญ่ของเธอจะโกรธถ้าเป็นเช่นนั้นล่ะก็เธอกับเพื่อนเธอเสี่ยงที่จะตกงานเป็นแน่เธอจึงรีบเรียกสติของเพื่อนสาวของเธอว่าคนตรงหน้าที่กอดอยู่เมื่อครู่คือท่านประธานไม่ใช่นายหมูหยองอะไรนั่น
“ค..คุณ..จำฉันไม่ได้เหรอ”
น้ำเมยรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจกับอาการของชายหนุ่มที่เปลี่ยนไปและทำท่าดูห่างเหินกับเธอมากอีกทั้งยังผลักเธอออกจากตัวเขาอีก
“พี่มาร์คคะ...ดอกไม้ต้อนรับการกลับมาทำงานค่ะ”
“ขอบคุณครับน้องดาว”
ระหว่างที่เหตุการณ์ในตอนนี้พาทุกคนงงงวยจู่ๆก็มีหญิงสาวเดินเข้ามาเกาะที่แขนของมาคัสพร้อมทั้งยื่นช่อดอกไม้ช่อใหญ่ให้แก่เขาทั้งสองมีท่าทีที่สนิทสนมกันมากจนน้ำเมยที่นั่งอยู่บนเตียงพยาบาลถึงกับอ้าปากค้างพร้อมทั้งมีน้ำตาที่หลั่งไหลพรั่งพรูออกมาเพราะคนที่เธอเฝ้าคิดถึงเฝ้าตามหาเขาไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับเธอเลยสักนิด
เธอไม่รู้ว่าเขามาเป็นท่านประธานที่โรงแรมนี้ได้ยังไงแต่เธอเห็นเขาแวบแรกก็จำได้ทันทีว่าเป็นนายหมูหยองชายคนรักของเธอที่หายตัวไปแน่ๆ
“ผมว่าคุณพาลูกน้องคุณไปตรวจที่โรงพยาบาลหน่อยเถอะผมให้คุณทั้งสองคนลา2วัน”
มาคัสคิดว่าอาการที่หญิงสาวเป็นเมื่อครู่อาจจะเกิดจากอาการเบลอที่เป็นลมก็ได้เขาจึงไม่ถือสาอะไรพร้อมบอกกับอิงฟ้าให้พาน้ำเมยไปหาหมอและให้วันลาเพื่อพักผ่อนจะได้ไม่ต้องมามีอาการสติหลุดทักคนผิดถูกแบบนี้อีก
“หายไวๆนะคะ”ดาวลดาเห็นว่าพนักงานที่โรงแรมป่วยด้วยความที่อัธยาศัยและจิตใจดีของเธอเลยอวยพรให้หญิงสาวหายป่วยไวๆพร้อมทั้งยังส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวทั้งสองและเดินออกไปจากห้องพร้อมชายหนุ่มทิ้งให้น้ำเมยนั่งปวดหัวใจอยู่ในห้องกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อครู่“ฮึกๆๆ...”“แกเอ้ยย...ดีนะที่บอสเค้าไม่โกรธแกอะ...เค้าไม่ได้ชื่อหมูหยองนั่นคือท่านประธานใหญ่ที่เราเจอเมื่อเช้าไงแล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็คือคู่หมั้นของเขา”อิงฟ้าเองก็ยังคิดว่าที่เพื่อนของเธอไปเรียกชายหนุ่มว่าหมูหยองอะไรนั่นเพราะเป็นอาการเบลอจากอาการป่วยหญิงสาวโล่งใจที่ท่านประธานหนุ่มไม่ได้โกรธอะไรพร้อมทบทวนให้เพื่อนสาวของเธอฟังอีกรอบว่าทั้งสองคนเมื่อครู่เป็นใครเผื่อเพื่อนเธอจะมีสติขึ้นมาบ้าง“คู่หมั้นเหรอ..ฮือๆๆ..ฮึก..ฮืออ”น้ำเมยได้ยินว่าผู้หญิงคนเมื่อครู่ที่ท่าทางสนิทสนมกับชายหนุ่มเป็นใครเธอก็กลั้นเสียงสะอึกสะอื้นเอาไว้ไม่ได้เธออยากให้ตอนนี้มันเป็นแค่ฝันไม่ใช่เรื่องจริงเหลือเกินเพราะตอนนี้เธอยังทำใจยอมรับเรื่องที่ชายหนุ่มจำเธอไม่ได้แถมตอนนี้เขายังควงกับคู่หมั้นหน้าตาชื่นมื่นอีกต่างหาก“ฉันว่าเราไปให้หมอตรวจแกจะดีกว่า..ฉันคิดว่าอาการแกคงหนักแล
“เค้าชื่อว่าหมูหยองเป็นชื่อที่ฉันตั้งให้เค้าเองคือที่ฉันบอกไม่รู้จักคือตอนที่ฉันเจอเค้าความจำของเขาเสื่อมฉันเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ในเมื่อเขายังจำอะไรไม่ได้ฉันเลยให้เค้าอยู่กับฉันไปก่อนแต่พอนานวันเข้าที่ทำให้ฉันรักเค้าคือความห่วงใยความใส่ใจความดีและความรักที่เค้ามีให้ฉันมันทำให้ฉันมอบทั้งตัวและหัวใจให้เค้าไปหมดแล้วแต่วันนึงเขาก็หายตัวไปฉันตามหาเท่าไรก็หาไม่เจอจนตอนนี้ฉันคิดว่าเค้าตายไปแล้วด้วยซ้ำแต่วันนี้.....ช่างมันเถอะเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”น้ำเมยเล่าจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนสาวของเธอที่ตอนนี้นั่งอ้าปากพร้อมทำสีหน้าเศร้าตามเรื่องที่เธอเล่าเธอเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้น้ำเมยเองตั้งใจไว้ว่าจะเล่าเพียงแค่นี้เพราะเธอไม่อยากพาดพิงถึงชายหนุ่มอีกแล้ววันนี้เธอรู้สถานะของเขาแล้วว่าเขาและเธออยู่ห่างกันขนาดไหนตอนนี้ใจของเธอคิดว่าดีแล้วที่ชายหนุ่มจำเธอไม่ได้อีกอย่างชายหนุ่มก็มีคู่หมั้นที่เหมาะสมกันอยู่แล้วอีกต่างหากในเมื่อโชคชะตามันพาเธอเดินมาทางนี้ถึงแม้เธอจะน้อยใจในโชคชะตาบ้างแต่เธอก็พร้อมจะยอมรับมันละจะเลี้ยงลูกของเธอคนเดียวให้ดีที่สุดอย่างน้อยเธอก็มีหนึ่งสิ่งที่อยู่ในตัวเธอเป็นตัวแทนความรัก
“ห๊า....คนนี่...เลือดเต็มเลยยย...ตายหรือยังเนี่ยย”หญิงสาวเดินไปแหวกพงหญ้าดูด้วยแสงอาทิตย์ที่เริ่มส่องมาแล้วทำให้เธอเห็นว่าสิ่งที่เจ้าขาวตามให้เธอมาถึงที่นี่เพื่อที่จะเธอมาดูคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ตรงนี้หญิงสาวเองตอนนี้นั่งมองร่างชายหนุ่มที่นอนหงายใบหน้าและศรีษะมีแต่เลือดอยู่เธอไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าจึงเอื้อมมือจับชีพจรของเขาดูอย่างกล้าๆกลัวๆ“ยังไม่ตายนี่...”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มที่นอนจมกองเลือดอยู่เขายังมีชีวิตอยู่เธอจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวของเขาไปรักษาอย่างเร็วที่สุดเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปโดนอะไรมาถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนี้โรงพยาบาลXXX“คุณเป็นญาติกับคนไข้หรือเปล่าคะ”“เอ่อ...คือฉันเป็นคนเจอเค้านอนสลบอยู่ที่ริมแม่น้ำน่ะค่ะ...ฉันไม่รู้จักเค้า”น้ำเมยตอบพยาบาลไปตามความจริงเพราะเธอพึ่งจะเจอชายหนุ่มนอนจมกองเลือดอยู่เมื่อเช้านี้เองแถมน่าตาท่าทางชายหนุ่มจะไม่ใช่คนแถวนี้อีกด้วยเพราะหน้าลูกออกลูกครึ่งเสียขนาดนั้นแถวที่เธออยู่คงไม่มี“งั้นเป็นไรค่ะ..เรื่องประวัติของคนไข้เดี๋ยวทางเราให้ทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”“ค่ะๆ”พยาบาลเห็นว่าตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะหาประวัติของคนไข้ได้และอ
“นี่คุณสี่วันแล้วนะที่คุณนอนนิ่งอยู่แบบนี้..ฟื้นได้แล้วฉันจะได้รู้ว่าคุณเป็นใครซะที”น้ำเมยนั่งลงอยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพร้อมนั่งพุดคุยกับเขาเป็นปกติแบบนี้ทุกวันถึงเธอจะรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้รับรู้สิ่งที่เธอพูดแต่เธอเองก็อยากจะพูดให้เขาฟังเป็นการคลายเหงากลายๆให้เธอนั่นเอง“คุณ..”หญิงสาวถึงกับเบิกตาโพรงขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่ามือของชายหนุ่มเริ่มขยับและเขาก็กำลังจะยกมันมากุมหัวของตัวเองอยู่เธอจึงรีบกดออดเรียกพยาบาลทันทีตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงมากที่เห็นว่าชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วทำให้เธอเริ่มมีความหวังในใจว่าเธอจะได้รู้เสียทีว่าเขาเป็นใครและบาดเจ็บจากอะไรมาดีไม่ดีเธอจะได้ช่วยเขาตามหาญาติให้มารับเขากลับไปอีกด้วยเมื่อหญิงสาวกดเรียกพยาบาลได้สักพักหมอก็เข้ามาตรวจอาการของชายหนุ่มทันทีตอนนี้หญิงสาวได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆเพราะไม่อยากไปรบกวนเวลาที่หมอตรวจชายหนุ่มอยู่“คุณยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่าครับ”“คือ..ตอนนี้ผมปวดหัวนิดหน่อยครับ”“คุณชื่ออะไรจำได้ไหมครับ”หมอเริ่มตรวจอาการภายนอกของชายหนุ่มพร้อมกับลองถามคำขามของเขาเพื่อเชคอาการภายใน“เอ่อ..ผม...ผมไม่รู้”ตอนนี้สีหน้าชายหนุ่มดูมึนงงอยู่อย
“เอ่อ..พ่อหนุ่มทานหมดนี่ก็ต้องจ่ายเงินนะ”หญิงชราก็เพิ่งเคยเห็นว่าคนที่ทานไวทานเยอะก็วันนี้นี่แหละอย่างมากสองถึงสามห่อก็อิ่มแล้วสำหรับการทานข้าวเหนียวของคนทั่วไปจนลืมบอกชายหนุ่มไปว่าถ้าจะชิมเยอะขนาดนี้ก็ต้องจ่ายเงินแล้วเพราะหญิงชราก็มองไม่ออกว่าชายหนุ่มในชุดคนป่วยจะมีเงินจ่ายไหมเลยรีบพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้“เงินเหรอครับ..เอ่อ..ผม”ชายหนุ่มหยุดทานพร้อมทำหน้าครุ่นคิดถึงเรื่องเงินเพราะตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาก็มีแต่ตัวกับเสื้อผ้าในชุดผู้ป่วยเท่านั้นเอง“เอ่อ..คุณ”หลังจากที่หญิงสาวจัดการธุระของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินออกมาหาชายหนุ่มที่สวนหย่อมทันทีเธอเห็นว่าเขากำลังนั่งอยู่กับหญิงชราคนหนึ่งและเขาก็กำลังทานอะไรสักอย่างอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วยเธอจึงต้องรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้ยังให้เขาทานอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้และตัวเขาเองก็คงยังไม่รู้ตัวด้วย“แม่หนูเป็นญาติของพ่อหนุ่มคนนี้ใช่ไหม...พอดีเขาทานไปข้าวเหนียวยายไปหลายห่อเลยจะ”หญิงชราทำหน้าเหมือนเกรงใจหญิงสาวเพราะมันเหมือนเธอมาหลอกขายของคนป่วยเสียหลายห่อแต่อันที่จริงหญิงชราคิดว่าชายหนุ่มคงจะทานเพียงแค่ห่อสองห่อเท่านั้นเอง
“ขอบคุณนะคุณที่ช่วยคนไร้หนทางอย่างผม”ชายหนุ่มรู้สึกซึ้งในน้ำใจของหญิงสาวที่เธอยื่นมือเข้ามาช่วยคนไร้สิ้นหนทางอย่างเขาที่แม้แต่ชื่อตัวเองเขายังจำไม่ได้“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอะไรที่ช่วยได้ฉันพร้อมที่จะช่วยอยู่แล้ว”หญิงสาวส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มพร้อมเก็บของและพาชายหนุ่มเดินออกมารอที่ด้านนอกห้องพักผู้ป่วยหญิงสาวจัดแจงธุระทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรับยาและจ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้วทั้งสองจึงพากันกลับมาที่บ้านของหญิงสาว17.00 น“ถึงแล้วคุณ..”หญิงสาวพาชายหนุ่มนั่งสองแถวจากที่โรงพยาบาลมาที่บ้านกว่าจะมาถึงก็เย็นพอดีตอนนี้ในมือของหญิงสาวมีแต่ของใช้ที่พึ่งซื้อมาใหม่เอาไว้ให้ชายหนุ่มไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวต่างๆ“บ้านคุณเหรอน่าอยู่มากเลย..”ชายหนุ่มยืนมองบ้านไม้ชั้นเดียวที่ค่อนข้างจะเก่าแต่ก็ยังคงสภาพที่ดีอยู่แถมบรรยากาศที่นี่ก็ยังดีอีกด้วยทำให้เขารู้สึกชอบที่นี่ตั้งแต่แรกเห็น“เข้าบ้านกันเถอะเดี๋ยวฉันต้องไปทำกับข้าวอีก..ปะ”หญิงสาวเห็นชายหนุ่มยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าบ้านเธอจึงถือวิสาสะดึงมือของชายหนุ่มเพื่อให้เขาเดินเข้ามาในบ้านเพราะเธอยังต้องเข้าไปจัดการทำอาหารเย็นต่อ
“เป็นอะไรนายหัวหยองแกล้งฉันจนเหนื่อยแล้วเหรอ..ฮ่าๆๆๆ...อื้ม..”หญิงสาวยังคงหัวเราะเพราะตลกอาการของชายหนุ่มที่คิดว่าเขาสู้เธอไม่ได้เลยทำนิ่งใส่แต่จู่ๆชายหนุ่มที่ทำหน้านิ่งอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบเขาก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆจนตอนนี้ริมฝีปากปากของเขามันมาแตะอยู่ที่ริมฝีปากของเธอและแล้วก็ค่อยๆบดเบียดเข้ามาเรื่อยๆจนหญิงสาวต้องร้องท้วงเพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่สนุกกับการแกล้งเขาเสียแล้วในตอนนี้ชายหนุ่มบดจูบหญิงสาวอยู่เนิ่นนานจนตอนนี้อาการที่ร้องท้วงของเธอกลับกลายเป็นยอมอ่อนให้กับเขาโดยง่ายดายเพราะเธอเองก็เริ่มที่จะมีใจให้ชายหนุ่มบ้างแล้วการที่อยู่ด้วยกันทุกวันแถมทุกวันทั้งสองก็ยังสร้างรอยยิ้มให้กันได้บ่อยๆอีกด้วยชายหนุ่มเองเมื่อเขาหายดีเขาก็แบ่งเบาภาระของหญิงสาวได้เยอะอีกทั้งยังช่วยเธอได้ทุกอย่างจากที่ชายหนุ่มเห็นเธอทำกับข้าวให้เขาทานในคราแรกเขาจึงขอหญิงสาวช่วยหัดสอนให้เขาทำเป็นเพื่อที่เขาจะได้ช่วยเธอและงานบ้านก็เช่นกันเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวยุ่งๆเขาก็จัดการทำเองทุกอย่างเมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มมีอาการเครียดเขาก็จะคอยเป็นตัวตลกให้หญิงสาวได้ยิ้มอยู่ตลอดเวลาแล้วแบบนี้จะให้หญิงสาว
“ป้าคะมันเกิดอะไรขึ้นคะ”เมื่อน้ำเมยมาถึงที่หน้าบ้านก็เห็นหญิงชรายืนเก็บข้าวของให้เธออยู่เธอจึงรีบเดินเข้าไปถามเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่บ้านของเธอกันแน่“น้ำเมยไปไหนมาลูกหมูหยองโดนไอ้พวกชุดดำพวกนั้นทำร้ายแล้วก็จับขึ้นรถตู้ไปแล้วป้าเองก็ไม่ค่อยได้เห็นเหตุการณ์เท่าไรหรอกเพราะกลัวเสียงปืน”“อะไรนะคะ”หญิงสาวได้ยินคำจากหญิงชราที่เล่าเหตุการณ์อย่างหน้าตาตื่นให้เธอฟังหญิงสาวเองถึงกับเข่าทรุดทันทีเธอไม่รู้ว่าคนพวกนั้นมาจับตัวชายหนุ่มไปเพราะเหตุใดแต่ตอนนี้หัวใจของเธอสลายหมดแล้วเพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะช่วยชายหนุ่มด้วยวิธีใด“บอล..บอล..พาพี่ไปแจ้งความหน่อยเดี๋ยวนี้เลย”“ครับพี่น้ำเมย”หญิงสาววิ่งรนรานมาหาเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์เธอรีบบอกให้เด็กหนุ่มพาเธอไปแจ้งความทันทีเพราะตอนนี้ที่พึ่งเดียวของเธอก็น่าจะเป็นตำรวจจนแล้วจนรอดนี่ก็ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์ที่หญิงสาววิ่งอยู่ที่โรงพักกับบ้านของเธอแถมยังออกตามหาเบาะแสเองอีกต่างห่างจนตอนนี้เธอเองก็เริ่มที่จะท้อแล้วก็หมดกำลังใจแล้วแต่เธอก็ยังไม่หมดหวังที่ว่าจะหาเขาเจอ“ช่วยบอกเสี่ยว่าหนูขอเวลาอีกนิดได้ไหมคะ”“ไม่ได้หรอกน้องเสี่ยเ