“ห๊า....คนนี่...เลือดเต็มเลยยย...ตายหรือยังเนี่ยย”
หญิงสาวเดินไปแหวกพงหญ้าดูด้วยแสงอาทิตย์ที่เริ่มส่องมาแล้วทำให้เธอเห็นว่าสิ่งที่เจ้าขาวตามให้เธอมาถึงที่นี่เพื่อที่จะเธอมาดูคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ตรงนี้หญิงสาวเองตอนนี้นั่งมองร่างชายหนุ่มที่นอนหงายใบหน้าและศรีษะมีแต่เลือดอยู่เธอไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าจึงเอื้อมมือจับชีพจรของเขาดูอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ยังไม่ตายนี่...”
หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มที่นอนจมกองเลือดอยู่เขายังมีชีวิตอยู่เธอจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวของเขาไปรักษาอย่างเร็วที่สุดเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปโดนอะไรมาถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนี้
โรงพยาบาลXXX
“คุณเป็นญาติกับคนไข้หรือเปล่าคะ”
“เอ่อ...คือฉันเป็นคนเจอเค้านอนสลบอยู่ที่ริมแม่น้ำน่ะค่ะ...ฉันไม่รู้จักเค้า”
น้ำเมยตอบพยาบาลไปตามความจริงเพราะเธอพึ่งจะเจอชายหนุ่มนอนจมกองเลือดอยู่เมื่อเช้านี้เองแถมน่าตาท่าทางชายหนุ่มจะไม่ใช่คนแถวนี้อีกด้วยเพราะหน้าลูกออกลูกครึ่งเสียขนาดนั้นแถวที่เธออยู่คงไม่มี
“งั้นเป็นไรค่ะ..เรื่องประวัติของคนไข้เดี๋ยวทางเราให้ทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”
“ค่ะๆ”
พยาบาลเห็นว่าตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะหาประวัติของคนไข้ได้และอีกอย่างชายหนุ่มที่บาดเจ็บมาก็ไม่รู้ว่าเหตุนั้นเกิดจากอะไรทางโรงพยาบาลจึงต้องประสานงานกับตำรวจสืบหาประวัติของชายหนุ่มและตามหาญาติของคนไข้ต่อไป
“เอ่อ...แล้วตอนนี้ผู้ชายคนนั้นเค้าเป็นยังไงบ้างคะ”
“ตอนนี้คนไข้อาการยังทรงๆอยู่ค่ะคุณหมอกำลังดูอาการอยู่ในห้องฉุกเฉินอีกสักครู่น่าจะพาเข้าไปที่ห้องเอ็กซเรย์เดี๋ยวฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“ค่ะ..ยังไงถ้ายังหาญาติของเค้าไม่เจอเดี๋ยวฉันขอรับเป็นเจ้าของไข้เองนะคะ”
“ค่ะ..ยังไงถ้าหาญาติของคนไข้ไม่เจอจริงๆเดี๋ยวดิฉันจะจัดการให้นะคะ”
“ขอบคุณค่ะ”
น้ำเมยเองวันนี้เธอก็ต้องงดขายขนมไปอีกหนึ่งวันเพราะมัวแต่วุ่นวายอยู่กับการช่วยชายหนุ่มตอนนี้เธอเองก็ยังไม่ได้กลับไปที่บ้านเพราะยังอยากรอฟังอาการของชายหนุ่มจากปากของหมอ
หญิงสาวคิดเอาไว้แล้วว่าถ้าชายหนุ่มไม่มีญาติที่ไหนเธอก็จะขอรับเป็นเจ้าของไข้ของเขาเองเพราะเธอรู้ว่าคนที่อยู่ตัวคนเดียวเวลาเจ็บป่วยอะไรมันมักหาที่พึ่งลำบากเหมือนกับเธอนั่นเองเธอรู้สึกสงสารชายหนุ่มจับใจเพราะไม่รู้ว่าชายหนุ่มบาดเจ็บขนาดนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรแต่เท่าที่เธอดูอาการของเขาตอนที่เจอแล้วมันเหมือนการถูกทำร้ายมากกว่าการเกิดอุบัติเหตุ
18.00 น.
“หมอคะตกลงผู้ชายคนนั้นเค้าเป็นยังไงบ้างคะ”
น้ำเมยที่รอชายฟังข่าวอาการของชายหนุ่มอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดตอนนี้เธอเริ่มใจไม่ดีสักเท่าไรตั้งแต่ตอนรู้ว่าชายหนุ่มต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนและตอนที่เธอคุยกับตำรวจตอนนี้ตำรวจเองก็ยังไม่สามารถที่จะสืบค้นประวัติหรือติดต่อญาติของเขาได้เธอเองเลยต้องรับเป็นเจ้าของไข้อย่างที่ตั้งใจไว้
“หมอทำการผ่าตัดและทำแผลให้คนไข้เรียบร้อยแล้วนะครับตอนนี้ก็เหลือแค่ดูอาการของคนไข้ต่อไปแล้วก็รอคนไข้ฟื้นหลังจากนั้นหมอคงต้องเชคอีกทีครับว่าผลกระทบที่เกิดจากที่คนไข้ได้รับบาดเจ็บมามันจะมีผลอะไรอีกบ้างตอนนี้หมอเองไม่รับปากนะครับว่าเมื่อคนไข้ฟื้นขึ้นมาแล้วสมองของคนไข้จะเหมือนเดิมหรือเปล่าเพราะมันได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมาก”
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”
หลังจากที่น้ำเมยคุยกับหมอเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงขออนุญาตหมอเข้าไปเยี่ยมชายหนุ่มก่อนกลับ
“เฮ้อ...โชคดีนะที่คุณยังรอดมาได้...”
น้ำเมยเปลี่ยนชุดฆ่าเชื้อเข้าเยี่ยมชายหนุ่มตอนนี้เธอเห็นหน้าของเขาชัดเจนขึ้นถึงแม้ว่ามันยังมีรอยแผลรอยช้ำอยู่บ้างก็ยังไม่สามารถบดบังใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาได้หญิงสาวยืนมองชายหนุ่มที่นอนหลับตาพริ้มมีผ้าพันแผลอยู่ที่หัวอยู่ครูหนึ่งเธอโล่งใจที่ชายหนุ่มปลอดภัยแล้วในใจก็ภาวนาว่าให้ชายหนุ่มฟื้นขึ้นมาไวๆเพราะว่าเธอจะได้ถามที่ไปที่มาของเขาเสียที
“ฉันกลับก่อนนะคุณเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาเยี่ยมใหม่”
น้ำเมยเข้าเยี่ยมชายหนุ่มได้ครู่หนึ่งเมื่อได้เห็นว่าชายหนุ่มได้รับการรักษาที่ดีแล้วเธอก็โล่งใจและตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องกลับได้แล้วเพราะวันนี้เธอยุ่งมาทั้งวันหญิงสาวต้องรีบกลับไปทำขนมไว้เพื่อขายในวันพรุ่งนี้เพราะเธอรู้ว่าตอนนี้เธอยังต้องมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะไหนจะต้องมีเงินไว้สำรองระหว่างที่รักษาชายหนุ่มไหนจะต้องหาเงินเพื่อจ่ายดอกเบี้ยของเจ้าหนี้ที่ยายของเธอเอาบ้านไปจำนองเพื่อเอาเงินมาลงทุนตอนที่ยายเธอยังอยู่อีก
เช้าวันต่อมา
05.00 น.
“วันนี้ลงขนมน้อยจังเลยน้ำเมย”
ป้าบัวหญิงชราข้างบ้านของหญิงสาวที่จะมาตั้งแผงขายข้าวแกงข้างร้านขนมของเธอทุกวันวันนี้เห็นหญิงสาวลงขนมขายน้อยกว่าทุกวันอีกทั้งเมื่อวานยังไม่ได้มาขายอีกจึงถามไถ่กันตามประสาคนที่ค้าขายด้วยกัน
“พอดีเมื่อวานยุ่งๆเลยทำได้น้อยค่ะป้าบัว”
น้ำเมยตอบพร้อมส่งยิ้มหวานให้หญิงชราเช่นเคยแต่ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดมากมายว่ายุ่งเพราะอะไรเพราะเธอไม่ได้มีเหตุผลที่จะต้องบอกกับคนอื่น
วันนี้น้ำเมยขายของหมดเร็วกว่าทุกวันที่เคยขายเพราะว่าวันนี้มีขนมแค่ไม่กี่อย่างและอย่างละไม่มากเมื่อหญิงสาวเก็บร้านเรียบร้อยแล้วเธอจึงกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะเข้าไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมชายหนุ่มที่เธอช่วยไว้เมื่อวาน
09.00 น.
ตอนนี้ชายหนุ่มถูกย้ายออกมาที่ห้องพักฟื้นเรียบร้อยแล้วเพราะอาการของเขาเริ่มดีขึ้นแล้ว
“วันนี้ยังโอเคกว่าเมื่อวานหน่อยนะคุณ..”
น้ำเมยเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มที่ตอนนี้ก็ยังนอนหลับอยู่เธอมองหน้าของเขาพร้อมอมยิ้มและกล่าวทักทายคนที่นอนนิ่งอยู่เพราะเธอเห็นว่าสีหน้าของเขาดีขึ้นกว่าเมื่อวานอย่างมาก
น้ำเมยอยู่ดูชายหนุ่มอยู่ได้พักใหญ่ก็ได้เวลาทีเธอจะต้องกลับแล้วเพราะเธอยังมีธุระที่ต้องทำไหนจะต้องรีบไปซื้อของมาทำขนมขายและยังต้องลงมือทำขนมคนเดียวและยังมีงานบ้านที่ต้องจัดแจงอีกมากมายที่ยังค้างคาอยู่เธอจึงต้องรีบกลับ
3วันต่อมา
หลังจากน้ำเมยขายขนมตอนเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็จะอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวไปเยี่ยมชายหนุ่มอยู่ทุกวันแล้วค่อยกลับมาจัดการงานของเธอต่อเธอทำแบบนี้มาสี่วันติดแล้ว
“นี่คุณสี่วันแล้วนะที่คุณนอนนิ่งอยู่แบบนี้..ฟื้นได้แล้วฉันจะได้รู้ว่าคุณเป็นใครซะที”น้ำเมยนั่งลงอยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพร้อมนั่งพุดคุยกับเขาเป็นปกติแบบนี้ทุกวันถึงเธอจะรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้รับรู้สิ่งที่เธอพูดแต่เธอเองก็อยากจะพูดให้เขาฟังเป็นการคลายเหงากลายๆให้เธอนั่นเอง“คุณ..”หญิงสาวถึงกับเบิกตาโพรงขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่ามือของชายหนุ่มเริ่มขยับและเขาก็กำลังจะยกมันมากุมหัวของตัวเองอยู่เธอจึงรีบกดออดเรียกพยาบาลทันทีตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงมากที่เห็นว่าชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วทำให้เธอเริ่มมีความหวังในใจว่าเธอจะได้รู้เสียทีว่าเขาเป็นใครและบาดเจ็บจากอะไรมาดีไม่ดีเธอจะได้ช่วยเขาตามหาญาติให้มารับเขากลับไปอีกด้วยเมื่อหญิงสาวกดเรียกพยาบาลได้สักพักหมอก็เข้ามาตรวจอาการของชายหนุ่มทันทีตอนนี้หญิงสาวได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆเพราะไม่อยากไปรบกวนเวลาที่หมอตรวจชายหนุ่มอยู่“คุณยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่าครับ”“คือ..ตอนนี้ผมปวดหัวนิดหน่อยครับ”“คุณชื่ออะไรจำได้ไหมครับ”หมอเริ่มตรวจอาการภายนอกของชายหนุ่มพร้อมกับลองถามคำขามของเขาเพื่อเชคอาการภายใน“เอ่อ..ผม...ผมไม่รู้”ตอนนี้สีหน้าชายหนุ่มดูมึนงงอยู่อย
“เอ่อ..พ่อหนุ่มทานหมดนี่ก็ต้องจ่ายเงินนะ”หญิงชราก็เพิ่งเคยเห็นว่าคนที่ทานไวทานเยอะก็วันนี้นี่แหละอย่างมากสองถึงสามห่อก็อิ่มแล้วสำหรับการทานข้าวเหนียวของคนทั่วไปจนลืมบอกชายหนุ่มไปว่าถ้าจะชิมเยอะขนาดนี้ก็ต้องจ่ายเงินแล้วเพราะหญิงชราก็มองไม่ออกว่าชายหนุ่มในชุดคนป่วยจะมีเงินจ่ายไหมเลยรีบพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้“เงินเหรอครับ..เอ่อ..ผม”ชายหนุ่มหยุดทานพร้อมทำหน้าครุ่นคิดถึงเรื่องเงินเพราะตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาก็มีแต่ตัวกับเสื้อผ้าในชุดผู้ป่วยเท่านั้นเอง“เอ่อ..คุณ”หลังจากที่หญิงสาวจัดการธุระของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินออกมาหาชายหนุ่มที่สวนหย่อมทันทีเธอเห็นว่าเขากำลังนั่งอยู่กับหญิงชราคนหนึ่งและเขาก็กำลังทานอะไรสักอย่างอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วยเธอจึงต้องรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้ยังให้เขาทานอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้และตัวเขาเองก็คงยังไม่รู้ตัวด้วย“แม่หนูเป็นญาติของพ่อหนุ่มคนนี้ใช่ไหม...พอดีเขาทานไปข้าวเหนียวยายไปหลายห่อเลยจะ”หญิงชราทำหน้าเหมือนเกรงใจหญิงสาวเพราะมันเหมือนเธอมาหลอกขายของคนป่วยเสียหลายห่อแต่อันที่จริงหญิงชราคิดว่าชายหนุ่มคงจะทานเพียงแค่ห่อสองห่อเท่านั้นเอง
“ขอบคุณนะคุณที่ช่วยคนไร้หนทางอย่างผม”ชายหนุ่มรู้สึกซึ้งในน้ำใจของหญิงสาวที่เธอยื่นมือเข้ามาช่วยคนไร้สิ้นหนทางอย่างเขาที่แม้แต่ชื่อตัวเองเขายังจำไม่ได้“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอะไรที่ช่วยได้ฉันพร้อมที่จะช่วยอยู่แล้ว”หญิงสาวส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มพร้อมเก็บของและพาชายหนุ่มเดินออกมารอที่ด้านนอกห้องพักผู้ป่วยหญิงสาวจัดแจงธุระทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรับยาและจ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้วทั้งสองจึงพากันกลับมาที่บ้านของหญิงสาว17.00 น“ถึงแล้วคุณ..”หญิงสาวพาชายหนุ่มนั่งสองแถวจากที่โรงพยาบาลมาที่บ้านกว่าจะมาถึงก็เย็นพอดีตอนนี้ในมือของหญิงสาวมีแต่ของใช้ที่พึ่งซื้อมาใหม่เอาไว้ให้ชายหนุ่มไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวต่างๆ“บ้านคุณเหรอน่าอยู่มากเลย..”ชายหนุ่มยืนมองบ้านไม้ชั้นเดียวที่ค่อนข้างจะเก่าแต่ก็ยังคงสภาพที่ดีอยู่แถมบรรยากาศที่นี่ก็ยังดีอีกด้วยทำให้เขารู้สึกชอบที่นี่ตั้งแต่แรกเห็น“เข้าบ้านกันเถอะเดี๋ยวฉันต้องไปทำกับข้าวอีก..ปะ”หญิงสาวเห็นชายหนุ่มยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าบ้านเธอจึงถือวิสาสะดึงมือของชายหนุ่มเพื่อให้เขาเดินเข้ามาในบ้านเพราะเธอยังต้องเข้าไปจัดการทำอาหารเย็นต่อ
“เป็นอะไรนายหัวหยองแกล้งฉันจนเหนื่อยแล้วเหรอ..ฮ่าๆๆๆ...อื้ม..”หญิงสาวยังคงหัวเราะเพราะตลกอาการของชายหนุ่มที่คิดว่าเขาสู้เธอไม่ได้เลยทำนิ่งใส่แต่จู่ๆชายหนุ่มที่ทำหน้านิ่งอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบเขาก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆจนตอนนี้ริมฝีปากปากของเขามันมาแตะอยู่ที่ริมฝีปากของเธอและแล้วก็ค่อยๆบดเบียดเข้ามาเรื่อยๆจนหญิงสาวต้องร้องท้วงเพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่สนุกกับการแกล้งเขาเสียแล้วในตอนนี้ชายหนุ่มบดจูบหญิงสาวอยู่เนิ่นนานจนตอนนี้อาการที่ร้องท้วงของเธอกลับกลายเป็นยอมอ่อนให้กับเขาโดยง่ายดายเพราะเธอเองก็เริ่มที่จะมีใจให้ชายหนุ่มบ้างแล้วการที่อยู่ด้วยกันทุกวันแถมทุกวันทั้งสองก็ยังสร้างรอยยิ้มให้กันได้บ่อยๆอีกด้วยชายหนุ่มเองเมื่อเขาหายดีเขาก็แบ่งเบาภาระของหญิงสาวได้เยอะอีกทั้งยังช่วยเธอได้ทุกอย่างจากที่ชายหนุ่มเห็นเธอทำกับข้าวให้เขาทานในคราแรกเขาจึงขอหญิงสาวช่วยหัดสอนให้เขาทำเป็นเพื่อที่เขาจะได้ช่วยเธอและงานบ้านก็เช่นกันเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวยุ่งๆเขาก็จัดการทำเองทุกอย่างเมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มมีอาการเครียดเขาก็จะคอยเป็นตัวตลกให้หญิงสาวได้ยิ้มอยู่ตลอดเวลาแล้วแบบนี้จะให้หญิงสาว
“ป้าคะมันเกิดอะไรขึ้นคะ”เมื่อน้ำเมยมาถึงที่หน้าบ้านก็เห็นหญิงชรายืนเก็บข้าวของให้เธออยู่เธอจึงรีบเดินเข้าไปถามเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่บ้านของเธอกันแน่“น้ำเมยไปไหนมาลูกหมูหยองโดนไอ้พวกชุดดำพวกนั้นทำร้ายแล้วก็จับขึ้นรถตู้ไปแล้วป้าเองก็ไม่ค่อยได้เห็นเหตุการณ์เท่าไรหรอกเพราะกลัวเสียงปืน”“อะไรนะคะ”หญิงสาวได้ยินคำจากหญิงชราที่เล่าเหตุการณ์อย่างหน้าตาตื่นให้เธอฟังหญิงสาวเองถึงกับเข่าทรุดทันทีเธอไม่รู้ว่าคนพวกนั้นมาจับตัวชายหนุ่มไปเพราะเหตุใดแต่ตอนนี้หัวใจของเธอสลายหมดแล้วเพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะช่วยชายหนุ่มด้วยวิธีใด“บอล..บอล..พาพี่ไปแจ้งความหน่อยเดี๋ยวนี้เลย”“ครับพี่น้ำเมย”หญิงสาววิ่งรนรานมาหาเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์เธอรีบบอกให้เด็กหนุ่มพาเธอไปแจ้งความทันทีเพราะตอนนี้ที่พึ่งเดียวของเธอก็น่าจะเป็นตำรวจจนแล้วจนรอดนี่ก็ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์ที่หญิงสาววิ่งอยู่ที่โรงพักกับบ้านของเธอแถมยังออกตามหาเบาะแสเองอีกต่างห่างจนตอนนี้เธอเองก็เริ่มที่จะท้อแล้วก็หมดกำลังใจแล้วแต่เธอก็ยังไม่หมดหวังที่ว่าจะหาเขาเจอ“ช่วยบอกเสี่ยว่าหนูขอเวลาอีกนิดได้ไหมคะ”“ไม่ได้หรอกน้องเสี่ยเ
“ฉันเข้าไปได้แล้วใช่ไหมคะ.?...คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ”น้ำเมยเห็นว่าชายหนุ่มเลขาของท่านประธานกำลังมองหน้าเธออย่างสงสัยเธอจึงถามเขาออกไปว่ามีอะไรที่จะบอกเธอหรือเปล่า“อ๋อ..เอ่อ..ปะ..เปล่าครับเชิญคุณเข้าไปได้เลยครับ”เจมส์เองมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขากำลังตามหาอยู่เป็นแน่แต่ก็เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจก่อนเพราะเขาคิดว่าจะรอให้หญิงสาวเข้าไปหาเจ้านายหนุ่มของเขาด้านในก่อนแล้วเขาค่อยถามคำถามที่คาใจกับเธอทีหลังเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอเป็นพนักงานที่นี่อยู่แล้วคงตามตัวได้ไม่ยากก๊อกๆๆ“ขออนุญาตค่ะ”หญิงสาวเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องตามมารยาทตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆแบบไม่สามารถบังคับตัวเองได้เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าถ้าเห็นใบหน้าของชายหนุ่มอีกเธอจะปล่อยน้ำตาลงมาอย่างง่ายดายน่ะสิ“สวัสดีค่ะบอส...สวัสดีค่ะคุณดาว”น้ำเมยองเห็นแล้วว่าใครอยู่ในห้องบ้างเธอเห็นว่าหญิงสาวอยู่กับชายหนุ่มกำลังนั่งคุยกันอย่างสนิทสนมภาพนั้นมันทำให้เธอต้องเดินก้มหน้าไม่หันมองทั้งคู่พร้อมยกมือสวัสดีทั้งสองอย่างเสียงแผ่วเบา“สวัสดีค่ะ...ดาวอยากเจอคุณตั้งนานแล้ววันนี้ได้เจอกันซะทีนะคะขนมของคุณอร่อยมากเลยค่ะ”ดาวลดาก
“คือ...คุณเจมส์คะ”“ค..ครับ”น้ำเมยเองถึงกับมีสีหน้าที่ตกใจและเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดเธอภาวนาว่าอย่าให้เรื่องนี้ไปถึงหูของมาคัสเลยไม่ทันที่เจมส์จะพูดจบเธอก็พูดตัดบทของเขาขึ้นมาทันทีจนเจมส์เองถึงกับมีน้ำเสียงและสีหหน้าที่สงสัย“เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้ใช่ไหมคะ..แล้วยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แล้วใช่ไหม”หญิงสาวรัวคำถามกับชายหนุ่มเพราะตอนนี้ในใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วตอนนี้เธอไม่ได้อยากให้ใครมาขอบคุณเธอทั้งนั้นเพราะไม่อยากให้ครอบครัวของมาคัสรู้เรื่องนี้มันจะทำให้เธอไปจากเขาลำบากขึ้นอีกแถมยังคงต้องมีคำถามมากมายตามมาชวนให้เธอคิดถึงเรื่องอดีตอีกด้วย“เอ่อ..ยังครับยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แต่ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่ามีผู้หญิงที่ช่วยคุณมาร์คเอาไว้ตอนก่อนที่พวกผมจะไปเจอ”“เฮ้อ...ค่อยโล่งอกฉันจะบอกความจริงว่าฉันช่วยเจ้านายของคุณเอาไว้ก็ได้”หญิงยกมือขึ้นทาบอกของเธอทันทีเมื่อได้ยินคำตอบที่ทำให้เธอสบายใจ“ผมว่าแล้วว่ายังไงก็ต้องเป็นคุณ”เจมส์รู้สึกว่าวันนี้งานที่เขาต้องสะสางมันมาถึงผลสำเร็จแล้วเพราะวันนี้เขาเจอตัวหญิงสาวที่ช่วยเจ้านายหนุ่มของเขาเอาไว้ได้แล้วด้วยเจ้านายของเขาจำไม่ได้ว่าตอนที่อยู่ที่ปายใครช
“หึ...งั้นผมถามก็ได้ไอ้ที่ธุระที่คุณว่ามันคือธุระอะไร...แล้วนายล่ะเจมส์ตอบฉันได้หรือเปล่าว่ามันคือเรื่องอะไร”ชายหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวพูดว่าตัวเธอเองไม่ได้ทำอะไรผิดแค่มีธุระคุยกันเฉยๆเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าธุระที่ต้องจับไม้จับมือกันขนาดนั้นมันธุระเรื่องอะไรเขาจึงถามเธอออกไปเมื่อไม่ได้คำตอบจากปากหญิงสาวเขาก็นึกแค่นหัวเราะอยู่ในใจว่าเขาคิดถูกพร้อมทำน้ำเสียงและสีหน้ากระหยิ่มหันไปทางเจมส์เลขาของเขาพร้อมถามว่าธุระที่คุยกันมันคือเรื่องอะไรหากเป็นธุระจริงๆอย่างที่ว่าก็คงจะตอบเขาได้“เอ่อ..”เจมส์เองเห็นทั้งสองยืนเถียงกันอย่างไม่ลดลาวาศอกเขาเองคิดว่าคงต้องพูดอะไรขึ้นมาบ้างแล้วไม่เช่นนั้นเจ้านายหนุ่มที่ไม่ชอบให้ใครมาหยามหน้าอย่างเขาคงเถียงกับหญิงสาวไม่เลิกเป็นแน่และดูท่าแล้วหญิงสาวเองก็คงไม่ยอมเจ้านายหนุ่มของเขาด้วยเช่นกันช่างเป็นคู่กัดที่สมกันจริงๆเจมส์คิดในใจ“ไม่มีอะไรหรอกค่ะในเมื่อบอสเห็นว่าเรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีที่พนักงานอย่างฉันเป็นคนทำงั้นฉันขอลาออกค่ะ”น้ำเมยเห็นว่าเจมส์กำลังจะเอ่ยปากพูดเธอกลัวว่าความลับของเธอจะรั่วไหลเสียเหลือเกินจึงชิงพูดขึ้นมาก่อนในเมื่อชายหนุ่มดูท่าจะอยากให