“ป้าคะมันเกิดอะไรขึ้นคะ”
เมื่อน้ำเมยมาถึงที่หน้าบ้านก็เห็นหญิงชรายืนเก็บข้าวของให้เธออยู่เธอจึงรีบเดินเข้าไปถามเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่บ้านของเธอกันแน่
“น้ำเมยไปไหนมาลูกหมูหยองโดนไอ้พวกชุดดำพวกนั้นทำร้ายแล้วก็จับขึ้นรถตู้ไปแล้วป้าเองก็ไม่ค่อยได้เห็นเหตุการณ์เท่าไรหรอกเพราะกลัวเสียงปืน”
“อะไรนะคะ”
หญิงสาวได้ยินคำจากหญิงชราที่เล่าเหตุการณ์อย่างหน้าตาตื่นให้เธอฟังหญิงสาวเองถึงกับเข่าทรุดทันทีเธอไม่รู้ว่าคนพวกนั้นมาจับตัวชายหนุ่มไปเพราะเหตุใดแต่ตอนนี้หัวใจของเธอสลายหมดแล้วเพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะช่วยชายหนุ่มด้วยวิธีใด
“บอล..บอล..พาพี่ไปแจ้งความหน่อยเดี๋ยวนี้เลย”
“ครับพี่น้ำเมย”
หญิงสาววิ่งรนรานมาหาเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์เธอรีบบอกให้เด็กหนุ่มพาเธอไปแจ้งความทันทีเพราะตอนนี้ที่พึ่งเดียวของเธอก็น่าจะเป็นตำรวจ
จนแล้วจนรอดนี่ก็ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์ที่หญิงสาววิ่งอยู่ที่โรงพักกับบ้านของเธอแถมยังออกตามหาเบาะแสเองอีกต่างห่างจนตอนนี้เธอเองก็เริ่มที่จะท้อแล้วก็หมดกำลังใจแล้วแต่เธอก็ยังไม่หมดหวังที่ว่าจะหาเขาเจอ
“ช่วยบอกเสี่ยว่าหนูขอเวลาอีกนิดได้ไหมคะ”
“ไม่ได้หรอกน้องเสี่ยเค้าให้เวลาน้องมามากแล้วเสี่ยบอกว่าอีกหนึ่งอาทิตย์ให้ย้ายของออกไปให้หมดไม่อย่างนั้นหนูก็รู้นะว่าเสี่ยเค้าเป็นคนเอาจริง”
เหมือนเคราะห์ซ้ำกำซัดโคชะตาของหญิงสาวในตอนนี้เธอไม่เหลือทั้งบ้านทั้งคนรักตอนนี้เธอเองไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครดีเมื่อคนพวกนั้นกลับไปเธอก็ได้แต่นั่งร้องให้อยู่ที่ในบ้านของเธออยู่แบบนั้นเป็นนานสองนาน
“น้ำเมย..อยู่หรือเปล่า”
“อิงฟ้า”
หญิงสาวนั่งกอดเข่าร้องให้อยู่ในบ้านได้สักพักก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงเรียกชื่อเธออยู่ที่หน้าบ้านเมื่อเธอเดินออกมาดูพบว่าเป็นอิงฟ้าเพื่อสาวคนสนิทของเธอที่เคยเรียนด้วยกันตั้งแต่เด็กๆนั่นเองหญิงสาวรีบปาดน้ำตาแล้วออกมาต้อนรับเพื่อนของเธอทันที
“แกเป็นอะไรหรือเปล่าคุยกับฉันได้นะ”
“อิงฟ้า..”
อิงฟ้าเห็นสีหน้าของเพื่อนสาวที่เดินออกมาต้อนรับเธอไม่สู้ดีสักเท่าไรด้วยความที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆถึงจะห่างกันในช่วงที่เธอไปเรียนต่อและทำงานก็เถอะแต่เธอก็มองออกอยู่ดีว่าตอนนี้เพื่อนของเธอไม่โอเคและยังน้ำเสียงที่สั่นเครือที่เพื่อนสาวเธอเรียกชื่อของเธอนั่นอีก
เป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงที่หญิงสาวสองคนได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันอิงฟ้าเองรู้สึกเห็นใจน้ำเมยอยู่มากที่เหลือตัวคนเดียวแล้วยังจะมาโดนยึดบ้านอีกเธอจึงเสนอให้เพื่อนสาวของเธอไปทำงานกับเธอที่กรุงเทพ
น้ำเมยเห็นว่าเธอไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้วไหนๆก็จะไม่มีที่อยู่แล้วก็ขอไปตายเอาดาบหน้าก็แล้วกันโชคยังดีที่ตอนนี้เธอได้เจอกับอิงฟ้าเพราะอย่างน้อยก็ทำให้เธอได้มีที่พึ่งอยู่บ้าง
หลังจากที่น้ำเมยเข้ากรุงเทพมาพร้อมกับอิงฟ้าหญิงสาวก็มาสมัครงานที่โรงแรมที่อิงฟ้าทำงานอยู่ทันทีโดยมาสมัครในตำแหน่งที่ว่างอยู่ตอนนี้คือคนทำขนมหวานเป็นลูกน้องอยู่ในแผนกของอิงฟ้าจนถึงปัจจุบันนี้ก็เป็นเวลาสองเดือนกว่าแล้ว
ปัจจุบัน
2วันต่อมา
“แกโอเคที่จะไปทำงานแล้วใช่ไหม”
“อืมม...ฉันว่าฉันพร้อมอยู่นะ”
อิงฟ้าถามเพื่อนสาวของเธอที่นั่งหน้าซีดอยู่เพราะตื่นมาอาเจียนตั้งแต่เช้าว่าไปทำงานไหวหรือเปล่าไม่อย่างนั้นเธอก็จะให้หญิงสาวลาเพิ่มอีก
น้ำเมยเห็นว่าเธอหยุดมาสองวันแล้วเธอไม่อยากอยู่เฉยๆในเมื่อเธอยังสามารถทำงานได้เธอก็อยากทำงานที่เธอรักได้เต็มที่นั่นคือการไปเป็นเชฟทำขนมในวันนี้นั่นเอง
โรงแรมXXX
08.30 น.
“อาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหมอิงฟ้า”
“เรียบร้อยแล้วค่ะพี่นุดี...วันนี้มาเช้าจังเลยนะคะ”
วันนี้เป็นอีกวันที่นุดีต้องมาตรวจความเรียบร้อยตามแผนกต่างๆแต่อิงฟ้าสังเกตว่านุดีมาเช้าเกินไปเพราะนี่มันยังไม่ถึงเวลาเข้างานของเธอเลยด้วยซ้ำ
“วันนี้บอสเข้าน่ะเห็นว่าอยากจะชิมของหวานของโรงแรมเราด้วยนะเพราะลูกค้าที่มาพักที่นี่ต่างก็มีฟีดแบคที่ดีสำหรับอาหารของเรามากแถมลูกค้าเดิมก็กลับมาพักเพราะอาหารของที่นี่เป็นซะส่วนใหญ่...เดี๋ยวขอเมนูของหวานที่ลูกค้าชอบสั่งทานสักสี่ห้าอย่างเตรียมให้บอสไว้ด้วยนะอิงฟ้า”
“ค่ะพี่นุดี”
น้ำเมยเองได้ยินที่สองคนนั้นคุยกันก็แอบอมยิ้มที่ไม่ว่าใครได้ชิมขนมฝีมือของเธอต่างก็ต้องชมเป็นสียงเดียวกันเธอรู้สึกขอบคุณยายของเธอมากที่ได้ทิ้งวิชาที่ดีนี้ไว้ให้เธอเป็นการหล่อเลี้ยงชีพได้อย่างดีเลยทีเดียว
10.00 น.
“อร่อยใช่ไหมคะพี่มาร์ค”
ดาวลดาเองได้ลองชิมขนมฝีมือของเชฟขนมหวานคนนี้หลายครั้งแล้วทำให้เธอกล้าการันตีได้ว่ามันอร่อยจริงแต่เธอเองก็ไม่ยักรู้จักเชฟว่าเป็นคนไหนที่ทำและเธอก็คงไม่กล้าเข้าไปถามด้วยเพราะแต่ละวันงานของทุกคนที่แผนกของอาหารก็ยุ่งกันมากแทบที่จะไม่ได้พัก
“อืม...ก็โอเคนะ”
ชายหนุ่มชิมบัวลอยไข่หวานเป็นอย่างแรกเมื่อเขาตักบัวลอยเข้าปากรสสัมผัสนั้นมันทำให้เขารู้สึกว่าขนมถ้วยนี้เขาเคยทานมาก่อนแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออกเพราะขนมรสชาติแบบนี้เขาไม่เคยหาซื้อมาทานเองเป็นแน่เพราะเขาไม่ค่อยชอบการทานของหวานสักเท่าไร
ก็อกๆๆ
“เชฟมาแล้วครับคุณมาร์ค”
“เจมส์มือขวาของมาคัสและพ่วงตำแหน่งเลขาของเขาไปด้วยเขาเห็นว่าหญิงสาวที่เป็นเชฟของหวานของที่นี่ขึ้นมาถึงแล้วจึงเคาะประตูบอกกับคนเป็นเจ้านาย
“ให้เข้ามาได้”
“ครับคุณมาร์ค”
เมื่อได้คำตอบจากเจ้านายหนุ่มเรียบร้อยแล้วเขาจึงเดินเข้าไปหาหญิงสาวเพื่อที่จะบอกให้เธอเข้าไปที่ด้านใน
“เอ่อ...”
เจมส์เดินเข้ามาใกล้หญิงสาวที่นั่งรออยู่บนโซฟาเมื่อเขาเห็นหน้าหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาเขาถึงกับแทบจะหยุดหายใจไปชั่วขณะเพราะใบหน้าของเธอช่างคล้ายกับคนที่เขากำลังตามหาอยู่ตอนนี้
“ฉันเข้าไปได้แล้วใช่ไหมคะ.?...คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ”น้ำเมยเห็นว่าชายหนุ่มเลขาของท่านประธานกำลังมองหน้าเธออย่างสงสัยเธอจึงถามเขาออกไปว่ามีอะไรที่จะบอกเธอหรือเปล่า“อ๋อ..เอ่อ..ปะ..เปล่าครับเชิญคุณเข้าไปได้เลยครับ”เจมส์เองมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขากำลังตามหาอยู่เป็นแน่แต่ก็เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจก่อนเพราะเขาคิดว่าจะรอให้หญิงสาวเข้าไปหาเจ้านายหนุ่มของเขาด้านในก่อนแล้วเขาค่อยถามคำถามที่คาใจกับเธอทีหลังเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอเป็นพนักงานที่นี่อยู่แล้วคงตามตัวได้ไม่ยากก๊อกๆๆ“ขออนุญาตค่ะ”หญิงสาวเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องตามมารยาทตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆแบบไม่สามารถบังคับตัวเองได้เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าถ้าเห็นใบหน้าของชายหนุ่มอีกเธอจะปล่อยน้ำตาลงมาอย่างง่ายดายน่ะสิ“สวัสดีค่ะบอส...สวัสดีค่ะคุณดาว”น้ำเมยองเห็นแล้วว่าใครอยู่ในห้องบ้างเธอเห็นว่าหญิงสาวอยู่กับชายหนุ่มกำลังนั่งคุยกันอย่างสนิทสนมภาพนั้นมันทำให้เธอต้องเดินก้มหน้าไม่หันมองทั้งคู่พร้อมยกมือสวัสดีทั้งสองอย่างเสียงแผ่วเบา“สวัสดีค่ะ...ดาวอยากเจอคุณตั้งนานแล้ววันนี้ได้เจอกันซะทีนะคะขนมของคุณอร่อยมากเลยค่ะ”ดาวลดาก
“คือ...คุณเจมส์คะ”“ค..ครับ”น้ำเมยเองถึงกับมีสีหน้าที่ตกใจและเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดเธอภาวนาว่าอย่าให้เรื่องนี้ไปถึงหูของมาคัสเลยไม่ทันที่เจมส์จะพูดจบเธอก็พูดตัดบทของเขาขึ้นมาทันทีจนเจมส์เองถึงกับมีน้ำเสียงและสีหหน้าที่สงสัย“เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้ใช่ไหมคะ..แล้วยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แล้วใช่ไหม”หญิงสาวรัวคำถามกับชายหนุ่มเพราะตอนนี้ในใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วตอนนี้เธอไม่ได้อยากให้ใครมาขอบคุณเธอทั้งนั้นเพราะไม่อยากให้ครอบครัวของมาคัสรู้เรื่องนี้มันจะทำให้เธอไปจากเขาลำบากขึ้นอีกแถมยังคงต้องมีคำถามมากมายตามมาชวนให้เธอคิดถึงเรื่องอดีตอีกด้วย“เอ่อ..ยังครับยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แต่ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่ามีผู้หญิงที่ช่วยคุณมาร์คเอาไว้ตอนก่อนที่พวกผมจะไปเจอ”“เฮ้อ...ค่อยโล่งอกฉันจะบอกความจริงว่าฉันช่วยเจ้านายของคุณเอาไว้ก็ได้”หญิงยกมือขึ้นทาบอกของเธอทันทีเมื่อได้ยินคำตอบที่ทำให้เธอสบายใจ“ผมว่าแล้วว่ายังไงก็ต้องเป็นคุณ”เจมส์รู้สึกว่าวันนี้งานที่เขาต้องสะสางมันมาถึงผลสำเร็จแล้วเพราะวันนี้เขาเจอตัวหญิงสาวที่ช่วยเจ้านายหนุ่มของเขาเอาไว้ได้แล้วด้วยเจ้านายของเขาจำไม่ได้ว่าตอนที่อยู่ที่ปายใครช
“หึ...งั้นผมถามก็ได้ไอ้ที่ธุระที่คุณว่ามันคือธุระอะไร...แล้วนายล่ะเจมส์ตอบฉันได้หรือเปล่าว่ามันคือเรื่องอะไร”ชายหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวพูดว่าตัวเธอเองไม่ได้ทำอะไรผิดแค่มีธุระคุยกันเฉยๆเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าธุระที่ต้องจับไม้จับมือกันขนาดนั้นมันธุระเรื่องอะไรเขาจึงถามเธอออกไปเมื่อไม่ได้คำตอบจากปากหญิงสาวเขาก็นึกแค่นหัวเราะอยู่ในใจว่าเขาคิดถูกพร้อมทำน้ำเสียงและสีหน้ากระหยิ่มหันไปทางเจมส์เลขาของเขาพร้อมถามว่าธุระที่คุยกันมันคือเรื่องอะไรหากเป็นธุระจริงๆอย่างที่ว่าก็คงจะตอบเขาได้“เอ่อ..”เจมส์เองเห็นทั้งสองยืนเถียงกันอย่างไม่ลดลาวาศอกเขาเองคิดว่าคงต้องพูดอะไรขึ้นมาบ้างแล้วไม่เช่นนั้นเจ้านายหนุ่มที่ไม่ชอบให้ใครมาหยามหน้าอย่างเขาคงเถียงกับหญิงสาวไม่เลิกเป็นแน่และดูท่าแล้วหญิงสาวเองก็คงไม่ยอมเจ้านายหนุ่มของเขาด้วยเช่นกันช่างเป็นคู่กัดที่สมกันจริงๆเจมส์คิดในใจ“ไม่มีอะไรหรอกค่ะในเมื่อบอสเห็นว่าเรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีที่พนักงานอย่างฉันเป็นคนทำงั้นฉันขอลาออกค่ะ”น้ำเมยเห็นว่าเจมส์กำลังจะเอ่ยปากพูดเธอกลัวว่าความลับของเธอจะรั่วไหลเสียเหลือเกินจึงชิงพูดขึ้นมาก่อนในเมื่อชายหนุ่มดูท่าจะอยากให
หลังจากที่อิงฟ้าได้อ่านเอกสารที่ประธานหนุ่มยื่นให้เธอแล้วเธอถึงกับกุมขมับทันทีไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะกล้าต่อว่าท่านประธานในหนังสือลาออกได้เจ็บแสบขนาดนี้หญิงสาวรู้ดีว่าคนอย่างประธานหนุ่มไม่ชอบให้ใครมาหยามหรือท้าทายอำนาจอยู่แล้วเธอคิดไม่ออกเลยว่าถ้าน้ำเมยเจอกับท่านประธานหนุ่มอีกครั้งชายหนุ่มจะทำเช่นไร“ผมรู้มาว่าน้ำเมยเป็นเพื่อนของคุณแล้วก็อยู่ที่เดียวกันด้วยใช่ไหม”“เอ่อ..ค่ะ”อิงฟ้าเองรู้อยู่แล้วว่าคนอื่นต้องรู้เรื่องนี้แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าประธานหนุ่มจะถามเธอทำไมในตอนนี้เธอก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจพร้อมก้มหน้ารับฟังคำของประธานหนุ่มต่อว่าเขาจะพูดว่าอะไรอีก“งั้นผมจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้”เมื่อมาคัสได้คำตอบจากปากหญิงสาวแล้วเขาพูดยังไม่ทันขาดคำก็เดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วทันทีทิ้งให้หญิงสาวที่ยืนก้มหน้าอยู่ยืนอยู่คนเดียวแบบนั้น“อ่อ..ค่ะ..ฮะ..อะไรนะคะเดี๋ยวค่ะบอสรอฉันด้วยค่ะ”อิงฟ้าเองคิดว่าประธานหนุ่มก็คงบ่นไปเรื่อยเพราะความไม่พอใจเธอจึงไม่ได้สนใจฟังอะไรมากมายนักแต่เมื่อนึกคำพูดของเขาอีกทีทำให้ตอนนี้ใจเธอเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว เพราะจู่ๆประธานหนุ่มเล่นพูดว่าจะไปหาเพื่อนสาว
“นี่คุณขับให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหมฮะ....”อิงฟ้ารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธออย่างมากจึงแผดเสียงใส่ชายหนุ่มที่ขับรถไม่ได้ดั่งใจเธอเพราะใจเธอตอนนี้มันอยู่ที่คอนโดของเธอเรียบร้อยแล้วเธอไม่น่าไปเผลอปากบอกกับท่านประธานว่าน้ำเมยอยู่กับเธอเลยจริงๆ“นี่ก็เร็วแล้วนะคุณแต่รถมันติดจะไปได้ยังไง..รถผมไม่ได้เหาะได้นะคุณ”เจมส์เองรู้สึกรำคาญเสียงของหญิงสาวเต็มทนเพราะตลอดทางที่นั่งรถกับเขามาเธอไม่ได้หยุดพูดแล้วก็ยังนั่งไม่อยู่สุขอีกด้วยเขาไม่รู้ว่าเธอร้อนใจอะไรนักหนา“อือออ...เพื่อนฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”อิงฟ้านั่งกุมมือตัวเองแน่นพร้อมกดมือถือโทรหาเพื่อนของเธอภาวนาในใจว่าอย่าให้เพื่อนของเธอเจอประธานหนุ่มตอนนี้เลยครั้นโทรไปบอกเพื่อนเธอแต่เพื่อนเธอก็ไม่รับสาย“นี่คุณคุณมาร์คก็คงจะไม่ถึงกับฆ่ากับแกงเพื่อนคุณหรอกน่ายังเพื่อนคุณก็เป็นผู้หญิงคุณจะกังวลอะไรนักหนาเนี่ย”เจมส์เองเห็นอาการที่หญิงสาวเป็นห่วงเพื่อนของเธอที่ดูจะเกินเหตุอันที่จริงเขารู้แหละว่าเจ้านายหนุ่มเขาคงจะโกรธน้ำเมยที่ไปเขียนด่าแบบนั้นแต่เขาเชื่อว่าเจ้านายหนุ่มของเขาก็คงจะไม่ถึงกับขั้นลงไม้ลงมือกับผู้หญิงหรอกแต่ถ้าพูดจาส่อเสียดหรือข่มขู่อะ
“เออ...จริงด้วยคุณก็มัวแต่หลอกถามให้ฉันคุยเพลินรีบไปที่ห้องฉันเร็ว”อิงฟ้าที่มัวแต่เล่าเรื่องของเพื่อนเธอเพลินจนลืมไปเลยว่าตอนนี้เธอต้องรีบไปหาเพื่อนสาวของเธอนี่นาเมื่อนึกขึ้นได้ดังนั้นเธอเองก็โทษชายหนุ่มเป็นการใหญ่ที่ชวนคุยเธอจนเธอคุยเพลินไปเลยคอนโดอิงฟ้าติ๊งงงงงง“อิงฟ้าเหรอ..ทำไมกลับมาเร็วจัง”น้ำเมยที่กำลังกวาดพื้นอยู่เมื่อได้ยินเสียงออดที่หน้าห้องเธอก็รีบเดินมาเปิดประตูหญิงสาวแปลกใจว่าทำไมวันนี้เพื่อนของเธอกลับมาเร็วผิดปกติเพราะตอนนี้มันยังเช้าอยู่เลย“บอส!!!”น้ำเมยถึงกับตาโตเบิกโพรงทันทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใครแล้วเธอก็พอจะเดาออกด้วยว่าที่เขามาถึงที่นี่สาเหตุน่าจะเป็นเพราะอะไรคงจะเป็นเพราะหนังสือลาออกของเธอเป็นแน่เมื่อหญิงสาวรู้ดังนั้นจึงรีบที่จะปิดประตูหนีชายหนุ่มทันที“ไม่ต้องหนีผมเลยเล่นเขียนใบลาออกมาด่าผมเป็นหน้าๆคิดว่าผมจะอยู่เฉยเหรอ”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะปิดประตูเพื่อหนีหน้าเขาชายหนุ่มจึงใช้แขนแกร่งดันประตูเอาไว้อย่างไม่สะทกสะท้านในแรงผลักของหญิงสาวพร้อมก้าวเข้าห้องของเธออย่างหน้าตาเฉย“ผมต้องการคุยกับคุณ”“นี่...คุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะคุณไม่ได้เป็นเจ้านา
“ทะ..ท้อง...งง...เหรอครับ”มาคัสรู้สึกตกใจอย่างมากที่รู้ว่าหญิงสาวที่เขาไปหาเรื่องเธอถึงที่ห้องเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่“ใช่ครับนี่คุณพ่อยังไม่รู้เหรอครับคนไข้น่าจะตั้งครรภ์ได้ประมาณสามเดือนกว่าแล้วยังไงดีใจด้วยนะครับหมอต้องขอตัวก่อน”“ครับคุณหมอ”ชายหนุ่มไม่มีเวลาที่จะปฏิเสธว่าหญิงสาวไม่ใช่ภรรยาของเขาเพราะว่าเขากำลังคิดตามเรื่องที่หมอบอกกับเขาอยู่ว่าหญิงสาวท้องได้ประมาณสามเดือนกว่าแล้วแต่ที่เขาดูประวัติเธอที่ทำงานหญิงสาวพึ่งจะเข้ามาทำงานได้เพียงแค่สองเดือนกว่าๆเองแบบนี้ก็เท่ากับว่าหญิงสาวท้องก่อนที่จะเข้าทำงานเป็นแน่10 นาทีต่อมา“อืมมม....คุณ”น้ำเมยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อมองเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่ที่ข้างเตียงของเธอหญิงสาวรู้สึกใจหายวาบทันทีในใจคิดในแง่ดีอยู่ว่าชายหนุ่มอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ว่าอาการที่เธอเป็นอยู่มันเกิดจากสาเหตุอะไรไม่อย่างนั้นเพื่อนสาวของเธอซวยแน่เพราะชายหนุ่มคงต้องซักกันยาว“ตื่นแล้วเหรอ...หมอให้คุณพักอีกสักพัก..เดี๋ยวผมกลับไปส่งคุณที่ห้องเอง”ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวพึ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนนี้เขาเองยังไม่อยากที่จะถามคำถามอะไรให้หญิงสาวเกิดอาการ
“อย่าโทษอิงฟ้าเลยค่ะฉันเองก็พึ่งจะรู้เรื่องที่ตัวเองท้องไม่นานมานี้เรื่องนี้ฉันขอเป็นคนรับผิดชอบเองค่ะ”น้ำเมยเห็นว่าชายหนุ่มต่อว่าเพื่อนของเธอซึ่งเรื่องนี้สาเหตุมันก็มาจากเธอดังนั้นเธอจะปล่อยให้เพื่อนเธอโดนต่อว่าอยู่อย่างเดียวไม่ได้เธอจึงออกตัวปกป้องเพื่อนของเธอว่าเพื่อนของเธอไม่รู้เรื่องและขอรับผิดชอบเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว“ผมไม่ได้เรียกคุณสองคนมาคุยเพื่อที่จะให้ใครรับผิดชอบแต่ผมแค่อยากจะตักเตือนอิงฟ้าเพราะเธอเป็นถึงหัวหน้าแผนกการรับคนสกรีนคนต้องละเอียดรอบคอบอีกอย่างถึงพวกคุณจะรู้เรื่องนี้เพียงไม่นานแต่เมื่อรู้แล้วก็ควรที่จะบอกกับผมหรือไม่ก็แจ้งฝ่ายบุคคล”มาคัสเห็นว่าทั้งสองเห็นการตักเตือนของเขาเป็นการต่อว่าใจจริงที่เขาตั้งกฎขึ้นมาแต่แรกก็เพื่อความปลอดภัยของตัวพนักงานเองต่างหากและอีกอย่างถึงคนที่ท้องจะไม่ใช่น้ำเมยแต่เป็นคนอื่นที่อิงฟ้ารับเข้ามาโดยที่ไม่ตรวจสอบประวัติให้ดีก่อนอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาตามมาก็ได้เขาจึงต้องตักเตือนเพื่อให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่างให้ทั้งสองได้คิดตาม“เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมจะปล่อยผ่านไปก็แล้วกัน.....แต่คุณ..น้ำเมยผมขอคุยกับคุณส่วนตัว”มาคัสเองไม่อยากให้เรื่อ