“เออ...จริงด้วยคุณก็มัวแต่หลอกถามให้ฉันคุยเพลินรีบไปที่ห้องฉันเร็ว”
อิงฟ้าที่มัวแต่เล่าเรื่องของเพื่อนเธอเพลินจนลืมไปเลยว่าตอนนี้เธอต้องรีบไปหาเพื่อนสาวของเธอนี่นาเมื่อนึกขึ้นได้ดังนั้นเธอเองก็โทษชายหนุ่มเป็นการใหญ่ที่ชวนคุยเธอจนเธอคุยเพลินไปเลย
คอนโดอิงฟ้า
ติ๊งงงงงง
“อิงฟ้าเหรอ..ทำไมกลับมาเร็วจัง”
น้ำเมยที่กำลังกวาดพื้นอยู่เมื่อได้ยินเสียงออดที่หน้าห้องเธอก็รีบเดินมาเปิดประตูหญิงสาวแปลกใจว่าทำไมวันนี้เพื่อนของเธอกลับมาเร็วผิดปกติเพราะตอนนี้มันยังเช้าอยู่เลย
“บอส!!!”
น้ำเมยถึงกับตาโตเบิกโพรงทันทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใครแล้วเธอก็พอจะเดาออกด้วยว่าที่เขามาถึงที่นี่สาเหตุน่าจะเป็นเพราะอะไรคงจะเป็นเพราะหนังสือลาออกของเธอเป็นแน่เมื่อหญิงสาวรู้ดังนั้นจึงรีบที่จะปิดประตูหนีชายหนุ่มทันที
“ไม่ต้องหนีผมเลยเล่นเขียนใบลาออกมาด่าผมเป็นหน้าๆคิดว่าผมจะอยู่เฉยเหรอ”
มาคัสเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะปิดประตูเพื่อหนีหน้าเขาชายหนุ่มจึงใช้แขนแกร่งดันประตูเอาไว้อย่างไม่สะทกสะท้านในแรงผลักของหญิงสาวพร้อมก้าวเข้าห้องของเธออย่างหน้าตาเฉย
“ผมต้องการคุยกับคุณ”
“นี่...คุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะคุณไม่ได้เป็นเจ้านายฉันแล้วคุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งอะไรฉันอีก”
หญิงสาวรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่เขาค่อนข้างที่จะเอาแต่ใจเธอจึงต้องพูดเตือนให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้เป็นพนักงานของเขาแล้วเขาไม่มีสิทธิ์มาสั่งอะไรเธออีก
“ผมมีสิทธิ์เพราะผมยังไม่ได้เซ็นอนุมัติให้คุณ”
ชายหนุ่มถือวิสาสะเข้ามานั่งที่โซฟาในห้องของเธอในท่าไขว่ห้างพร้อมมองมาทางหญิงสาวด้วยสีหน้าที่กวนประสาทหญิงสาวอย่างเห็นได้ชัด
“ก็เซ็นเดี๋ยวนี้เลยสิ”
จากที่หญิงสาวไม่พอใจเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วตอนนี้มันยิ่งทำให้อารมณ์ของเธอเดือดมากยิ่งขึ้นเธอเลยแผดเสียงใส่เขาให้เขาเซ็นอนุมัติให้เธอให้เรียบร้อยจะได้จบๆไปเสียที
“อืมม..ผมลืมเอกสารไว้ที่ไหนไม่รู้ด้วยสิ”
ชายหนุ่มเองยิ่งเห็นหญิงสาวโมโหเขายิ่งชอบใจที่ปั่นประสาทเธอได้แถมยังกวนประสาทเธอต่อหน้าตาเฉยบอกกับเธอว่าทำเอกสารของเธอหายอีกต่างหาก
“นี่คุณ”
หญิงสาวอยากจะเข้าไปจิกหน้าชายหนุ่มแล้วข่วนแล้วข่วนอีกใจจะขาดแต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้ว่าอย่ามีอารมณ์โกรธมากเพราะมันไม่ดีต่อลูกในท้องของเธอ
“เรียกผมว่าบอสเหมือนเดิม”
ชายหนุ่มสั่งหญิงสาวเสียงแข็งเพราะตอนนี้เขาต้องการที่จะเอาชนะเธอละเขาก็คิดไว้แล้วว่าคนอย่างเขาไม่มีวันแพ้คนอย่างหญิงสาวเป็นแน่
“ไม่”
เมื่อได้ยินประโยคคำสั่งอย่างเสียงแข็งจากชายหนุ่มหญิงสาวเองก็ตอบกลับเขาด้วยน้ำเสียงที่แข็งเช่นกันเป็นการยืนยันว่าเธอเองก็ไม่ยอมเขาเช่นกัน
“ผมไม่ให้คุณออก”
ชายหนุ่มนึกหงุดหงิดใจกับแม่สาวจอมพยศตรงหน้าเสียเหลือเกินคนอย่างเขามาตามเธอกลับไปทำงานแบบนี้ควรที่จะดีใจสิไม่ใช่มาปฏิเสธเขาเสียงแข็งแบบนี้
“จะให้ออกหรือไม่ให้ออกก็แล้วแต่คุณแต่ฉันไม่ไปทำงานที่โรงแรมของคุณอีกแล้ว”
หญิงสาวยังดึงดันยืนเถียงกับชายหนุ่มอย่างไม่มีใครยอมใครเธอเองไม่ชอบคนเผด็จการและก็ไม่คิดด้วยว่าชายหนุ่มจะมีนิสัยที่เอาแต่ใจขนาดนี้หญิงสาวภาวนาอยู่ในใจว่าอย่าให้ลูกของเธอได้นิสัยของคนเป็นพ่อตอนนี้เลยเธออยากให้นิสัยของลูกเธอเหมือนหมูหยองคนเดิมคนที่แสนดีและรักเธอคนนั้นมากกว่า
“อืมมม...งั้นผมว่าถ้าเพื่อนคุณต้องโดนไล่ออกเพราะคุณคงไม่ดีแน่”
ชายหนุ่มคิดว่าถ้าเขาขู่เธอโดยเอาเพื่อนเธอมาอ้างหญิงสาวคงต้องยอมเขาเป็นแน่เพราะคิดว่าคนอย่างหญิงสาวเองคงไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนเพราะเธอหรอกเขาหวังว่าความคิดเขาจะถูกนะชายหนุ่มคิดในใจ
“มันไม่เกี่ยวอะไรกับเพื่อนฉันเลย.....นี่คุณทำไมนิสัยเสียแบบนี้เนี่ยฮะ”
หญิงสาวเองแทบจะเอามือกุมขมับดูท่าทางว่าชายหนุ่มจะเอาชนะเธอให้ได้เลยหญิงสาวไม่คิดเลยว่าเขาต้องการที่จะเอาชนะเธอจนต้องใช้วิธีสกปรกๆแบบนี้
ทำไมร้ายอย่างนี้นะหมูหยองงงง น้ำเมยกรีดร้องอยู่ในใจแต่ก็ยังพยายามปรับสีหน้าให้นิ่งเฉย
“ก็ผมแค่อยากให้คุณทำงานกับผมต่อไปไงคุณจะได้ทนอยู่กับเจ้านายเผด็จการเจ้านายปากเสียเอาแต่ใจแบบผมอีกไง”
ชายหนุ่มลุกขึ้นมาใกล้ๆกับหญิงสาวพร้อมกระซิบข้างหูของเธอด้วยถ้อยคำประชดประชันคำเดียวกับที่เธอเขียนด่าเขาพร้อมอมยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อเขารู้ว่ายังไงเขาก็ชนะหญิงสาวอยู่ดีนี่เป็นการลงโทษที่หญิงสาวกล้ามาท้าทายอำนาจของเขาในเมื่อยิ่งรู้ว่าหญิงสาวไม่ชอบในนิสัยของเขาเขาก็ยิ่งอยากแกล้งเธอมากขึ้นทุกวัน
“หื้มมม...”
ตอนนี้หญิงสาวเองเริ่มเก็บอารมณ์ไม่อยู่แล้วจึงเงื้อมมือหมายที่จะฟาดไปที่หน้าของเขาเพื่อที่จะระบายอารมณ์
“อ้ะ..ถ้าตบผมจูบนะคุณจะได้ลองชิมไงว่ารสชาติปากของคนปากเสียมันเป็นยังไง”
ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวคงจะโมโหถึงขีดสุดถึงกล้าที่จะเงื้อมมือมาตบเขาอย่างนั้นด้วยความไวของเขาจึงจับมือเธอเอาไว้ก่อนที่ฝ่ามือของเธอจะลงมาฟาดที่หน้าของเขาพร้อมบอกกับเธอว่าถ้าเธอตบเขาก็จะจูบเธอทันทีทำให้หญิงสาวรีบดึงมือของเธอกลับไปอย่างเร่งด่วนพร้อมถอยห่างเว้นระยะออกจากชายหนุ่ม
“คุณ”
ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวก้าวถอยหลังออกไปแบบโซเซนิดหน่อยแล้วเธอก็ล้มลงดีที่เขาประคองเธอเอาไว้ได้ทัน
โรงพยาบาล
“หมอครับเธอเป็นยังไงบ้างครับ”
มาคัสพาหญิงสาวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรร้ายแรงเขารู้สึกว่าเขาไม่น่าหาเรื่องกวนประสาทเธอแบบนั้นเลยเพราะความไม่ยอมคนของเขาจริงๆเลยที่แก้เท่าไรก็แก้ไม่หายเสียที
ชายหนุ่มตำหนิตัวเองอยู่ในใจเมื่อเห็นหมออกมาจากห้องที่ตรวจหญิงสาวแล้วเขาก็เข้าไปถามอาการของเธอจากหมอทันที
“เป็นอาการปกติของคนท้องน่ะครับไม่มีอะไรต้องกังวลแค่ให้ภรรยาของคุณพักผ่อนให้เพียงพอทานอาหารที่มีประโยชน์ให้มากๆครับแล้วก็อย่าปล่อยให้คนไข้มีภาวะเครียดมันจะไม่ส่งผลดีต่อเด็กในท้องนะครับ”
“ทะ..ท้อง...งง...เหรอครับ”มาคัสรู้สึกตกใจอย่างมากที่รู้ว่าหญิงสาวที่เขาไปหาเรื่องเธอถึงที่ห้องเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่“ใช่ครับนี่คุณพ่อยังไม่รู้เหรอครับคนไข้น่าจะตั้งครรภ์ได้ประมาณสามเดือนกว่าแล้วยังไงดีใจด้วยนะครับหมอต้องขอตัวก่อน”“ครับคุณหมอ”ชายหนุ่มไม่มีเวลาที่จะปฏิเสธว่าหญิงสาวไม่ใช่ภรรยาของเขาเพราะว่าเขากำลังคิดตามเรื่องที่หมอบอกกับเขาอยู่ว่าหญิงสาวท้องได้ประมาณสามเดือนกว่าแล้วแต่ที่เขาดูประวัติเธอที่ทำงานหญิงสาวพึ่งจะเข้ามาทำงานได้เพียงแค่สองเดือนกว่าๆเองแบบนี้ก็เท่ากับว่าหญิงสาวท้องก่อนที่จะเข้าทำงานเป็นแน่10 นาทีต่อมา“อืมมม....คุณ”น้ำเมยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อมองเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่ที่ข้างเตียงของเธอหญิงสาวรู้สึกใจหายวาบทันทีในใจคิดในแง่ดีอยู่ว่าชายหนุ่มอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ว่าอาการที่เธอเป็นอยู่มันเกิดจากสาเหตุอะไรไม่อย่างนั้นเพื่อนสาวของเธอซวยแน่เพราะชายหนุ่มคงต้องซักกันยาว“ตื่นแล้วเหรอ...หมอให้คุณพักอีกสักพัก..เดี๋ยวผมกลับไปส่งคุณที่ห้องเอง”ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวพึ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนนี้เขาเองยังไม่อยากที่จะถามคำถามอะไรให้หญิงสาวเกิดอาการ
“อย่าโทษอิงฟ้าเลยค่ะฉันเองก็พึ่งจะรู้เรื่องที่ตัวเองท้องไม่นานมานี้เรื่องนี้ฉันขอเป็นคนรับผิดชอบเองค่ะ”น้ำเมยเห็นว่าชายหนุ่มต่อว่าเพื่อนของเธอซึ่งเรื่องนี้สาเหตุมันก็มาจากเธอดังนั้นเธอจะปล่อยให้เพื่อนเธอโดนต่อว่าอยู่อย่างเดียวไม่ได้เธอจึงออกตัวปกป้องเพื่อนของเธอว่าเพื่อนของเธอไม่รู้เรื่องและขอรับผิดชอบเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว“ผมไม่ได้เรียกคุณสองคนมาคุยเพื่อที่จะให้ใครรับผิดชอบแต่ผมแค่อยากจะตักเตือนอิงฟ้าเพราะเธอเป็นถึงหัวหน้าแผนกการรับคนสกรีนคนต้องละเอียดรอบคอบอีกอย่างถึงพวกคุณจะรู้เรื่องนี้เพียงไม่นานแต่เมื่อรู้แล้วก็ควรที่จะบอกกับผมหรือไม่ก็แจ้งฝ่ายบุคคล”มาคัสเห็นว่าทั้งสองเห็นการตักเตือนของเขาเป็นการต่อว่าใจจริงที่เขาตั้งกฎขึ้นมาแต่แรกก็เพื่อความปลอดภัยของตัวพนักงานเองต่างหากและอีกอย่างถึงคนที่ท้องจะไม่ใช่น้ำเมยแต่เป็นคนอื่นที่อิงฟ้ารับเข้ามาโดยที่ไม่ตรวจสอบประวัติให้ดีก่อนอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาตามมาก็ได้เขาจึงต้องตักเตือนเพื่อให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่างให้ทั้งสองได้คิดตาม“เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมจะปล่อยผ่านไปก็แล้วกัน.....แต่คุณ..น้ำเมยผมขอคุยกับคุณส่วนตัว”มาคัสเองไม่อยากให้เรื่อ
เจมส์เล่าให้เจ้านายของเขาฟังว่าอันที่จริงเขาไม่ได้รู้จากปากน้ำเมยเรื่องที่หญิงสาวท้องแต่รู้มาจากอิงฟ้าที่หลุดปากพูดออกมาต่างหากเขาเล่าให้เจ้านายเขาฟังว่าน้ำเมยคงจะไม่ได้บอกอิงฟ้าว่าพ่อของเด็กเป็นใครแต่น้ำเมยเล่าให้อิงฟ้าฟังแค่ว่าเธอรักกับผู้ชายที่เธอช่วยชีวิตเอาไว้และท้องกับผู้ชายคนนั้นและตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็หายตัวไปแล้วเท่าที่เจมส์ปะติดปะต่อเรื่องราวก็ทำให้เขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่ายังไงลูกในท้องของน้ำเมยก็ต้องเป็นลูกของเจ้านายหนุ่มของเขาเป็นแน่“ฉันไม่คิดเลยว่าน้ำเมยจะไม่บอกอะไรฉันเรื่องนี้สักคำ...ถ้าเธอต้องการทำแบบนี้เหมือนจงใจจะพรากลูกฉันไปยังไงยังงั้น”มาคัสรู้สึกน้อยใจน้ำเมยอยู่มากลูกของเขาอยู่ในท้องของเธอทั้งคนแต่เธอไม่เคยคิดที่จะปริปากบอกอะไรเขาสักคำยังไงเรื่องนี้เขาก็จะม่ยอมเด็ดขาด“ผมว่าคุณน้ำเมยน่าจะมีเหตุผลของเธอนะครับคุณมาร์ค”เจมส์เองเขาเข้าใจน้ำเมยดีที่คิดว่าตัวเองมีฐานะแตกต่างจากเจ้านายหนุ่มของเขาแต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดมาถึงขนาดนี้เขาก็ยังคิดไม่ออกว่าหญิงสาวคิดอะไรอยู่แต่เขาก็ยังเก็บความคาใจของเขาเอาไว้ไม่ได้พูดออกมาได้เพียงแต่พูดเป็นกลางเท่านั้น“เหตุผลอะไรของเธอ....ฉั
“เจมส์จัดการไถ่บ้านหลังนี้คืนด้วย”“ครับคุณมาร์ค”มาคัสคิดว่าสิ่งแรกที่เขาจะตอบแทนหญิงสาวและเป็นการไถ่โทษให้ตัวเองด้วยก็คือซื้อบ้านหลังนี้คืนมาให้เธอนั่นเองเจมส์เองเมื่อได้รับคำสั่งของเจ้านายหนุ่มเขาก็ไปจัดการเรื่องนี้โดยทันทีอย่างไม่รีรอชายหนุ่มนั่งอยู่ที่บ้านของน้ำเมยอยู่สักพักเขาพยายามทบทวนตัวเองแต่ยิ่งพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกแต่เขารู้สึกได้ว่าตัวของเขาเองผูกพันธ์กับบ้านหลังนี้คอนโดอิงฟ้า21.00 น.ติ๊งงงงงง“บอส!!!...มาถึงที่นี่ซะดึกเลยมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”อิงฟ้าที่ยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ยังไม่ได้เข้าห้องไปนอนเมื่อได้ยินเสียงออดที่หน้าห้องดังเธอจึงรีบไปเปิดประตูเมื่อพบว่าเป็นใครเธอถึงกับแปลกใจว่าทำไมประธานหนุ่มถึงมาที่ห้องของเธอเวลานี้กัน“ใครมาเหรอ..อิงฟ้า..คุณ!!!”น้ำเมยเดินออกมาจากห้องนอนเพราะได้ยินเสียงกดออดเช่นกันเพราะหญิงสาวคิดว่าอิงฟ้าน่าจะเข้าห้องนอนไปแล้วเธอจึงออกมาดูหญิงสาวรู้สึกงงไปตามๆกันกับเพื่อนของเธอว่าชายหนุ่มมาที่คอนโดของพวกเธอเวลานี้ทำไม“เดี๋ยวๆคุณจะพาฉันไปไหน”จู่ๆมาคัสก็เข้ามาดึงตัวของน้ำเมยออกไปจากห้องหน้าตาเฉยโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำจนหญิงสาวเองต้องหั
“มีอะไรก็ว่ามาค่ะนี่มันดึกแล้ว”“คุณเป็นคนที่ช่วยชีวิตผมไว้ตอนที่ผมบาดเจ็บที่ปายทำไมคุณถึงไม่บอกผม”เมื่อหญิงสาวนั่งลงที่โซฟาเขาก็เปิดประเด็นถามคำถามที่ทำให้หญิงสาวได้อึ้งในทันที“อะ..เอ่ออ...ก็..ก็ตอนแรกคุณจำฉันไม่ได้เองนี่ฉันก็ไม่เห็นจำเป็นต้องบอกคุณเลย..อีกอย่างก็แค่ช่วยฉันไม่ได้หวังอะไรหรอกปกติฉันก็ช่วยหมาช่วยแมวประจำอยู่แล้วมีเรื่องจะถามแค่นี้ใช่ไหมงั้นฉันกลับก่อนนะ”น้ำเมยตัวชาเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มรู้ความจริงเรื่องที่เธอเคยช่วยเขาเอาไว้แล้วเธอเชื่อว่าเขาต้องรู้จากปากคนอื่นเป็นแน่ไม่ใช่เขาจำความในตอนนั้นได้แน่นอนเพราะพฤติกรรมที่แข็งกร้าวผิดกับหมูหยองในตอนนี้ทำให้เธอรับรู้ได้ หญิงสาวไม่คิดจะให้ชายหนุ่มได้ถามต่อเพราะกลัวเหลือเกินที่เขาจะถามเรื่องที่เธอไม่ได้อยากให้เขารู้อีกหนึ่งเรื่องจึงรีบบอกว่าเธอแค่ช่วยไม่ได้หวังผลตอบแทนพร้อมลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินออกไปจากตรงนี้โดยทันที“เดี๋ยว...”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวกำลังที่จะหนีปัญหาเขาจึงใช้อ้อมแขนของเขารวบตัวเธอเอาไว้จากด้านหลังอย่างฉับไวยังไงเขาก็ไม่ยอมให้เธอหนีเขาไปตอนนี้แน่นอนเพราะยังคุยกันไม่จบ“อะไรของคุณอีกเล่า...เฮ้ออ”น้ำเมยถึงกับต้องทำเ
“คุณมีเงินร้อยล้านพันล้านผมก็ไม่ให้คุณซื้อคืนนอกเสียจากว่าคุณจะแต่งงานกับผม”มาคัสคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงหญิงสาวก็ต้องเอ่ยคำนี้ออกมาแต่มีหรือว่าคนอย่างเขาจะยอมขายให้หญิงสาวง่ายๆมันก็ต้องแลกกับข้อแลกเปลี่ยนที่เขาอยากได้อยู่แล้ว“แล้วเราจะแต่งงานกันได้ยังไงในเมื่อเราไม่ได้รักกัน...คุณคิดดีๆนะคนที่อยู่แบบไม่ได้รักกันยังไงคำว่าครอบครัวมันก็ไปไม่รอดหรอก..อีกอย่างคุณก็มีคู่หมั้นแล้วด้วย”น้ำเมยเองเห็นว่าชายหนุ่มยังไงก็ยังดึงดันจะแต่งงานกับเธอให้ได้เธอจึงพยายามทำใจเย็นและพูดคุยกับเขาด้วยเหตุผลว่าตอนนี้เขาไม่ได้รักเธอฐานะการใช้ชีวิตหรืออะไรหลายๆอย่างมันแตกต่างกันมากยังไงแต่งงานมีครอบครัวไปก็ไปไม่รอดอยู่ดี“แต่ผมเชื่อว่าคุณรักผม...และอีกไม่นานผมก็ต้องจำเรื่องราวของเราได้แน่...และเรื่องน้องดาวที่เราหมั้นกันเพราะผู้ใหญ่อีกอย่างเรารักกันเหมือนพี่เหมือนน้องไม่มีอะไรเกินเลย”มาคัสเองเริ่มที่จะคุยเป็นงานเป็นการหลังจากเมื่อครู่เขายังแกล้งเธอเล่นอยู่เขารู้ว่ายังไงหญิงสาวก็ยังรักเขาอยู่เป็นแน่ไม่ว่าจะเป็นนายหมูหยองที่แสนดีหรือนายมาคัสที่ร้ายกาจคนนี้ก็เถอะแล้วเขาก็มั่นใจว่าอีกไม่นานเขาต้องจำเรื่องราวทุกอย
“อืมมม”น้ำเมยออกมาจากห้องนอนได้ก็เห็นชายหนุ่มนั่งรอเธออยู่ที่โต้ะอาหารแล้วอันที่จริงหญิงสาวตื่นขึ้นมาได้สักพักใหญ่แล้วแต่เธอใช้เวลานั่งทบทวนอยู่พักใหญ่เมื่อได้ข้อสรุปที่เธอคิดว่ามันน่าจะดีแล้วเธอจึงออกมาเพื่อคุยกับชายหนุ่ม“ฉันคิดดูแล้วเรื่องที่คุณต้องการที่จะรับผิดชอบฉันโดยการแต่งงาน”“คุณยอมรับข้อตกลงผม???”“ฟังฉันพูดให้จบก่อนสิคุณ...คือเอาเป็นว่าคุณจำความตอนที่เราอยู่ด้วยกันได้เมื่อไรเรามาคุยเรื่องนี้กันใหม่แต่ฉันจะไม่หนีหน้าคุณไปไหนแน่นอน...ส่วนเรื่องบ้านของฉันมันคนละเรื่องกับเรื่องของเราคุณอย่าเอามันมาเป็นข้อต่อรองเลยฉันขอซื้อคืนเถอะนะ”“แล้วผมจะเชื่อใจคุณได้ยังไงว่าคุณจะไม่หนีผมไปไหนอีก”มาคัสเองไม่ค่อยเชื่อใจหญิงสาวเท่าไรเขากลัวว่าถ้าปล่อยเธอไปแล้วจะไม่ได้เจอเธออีกยิ่งเธอเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งเขาก็ยิ่งหวั่น“ฉันจะหนีคุณไปไหนได้....ยังไงคุณก็คงจะตามฉันเจออยู่ดี”น้ำเมยรู้ว่ายังไงสักวันหนึ่งเธอหนีเขาไปเธอก็ต้องหนีอยู่แบบนั้นเธอรู้ว่าชายหนุ่มต้องตามหาลูกของเขาอย่างไม่ลดลาแน่นอน“งั้น...เอาแบบนี้ผมให้โฉนดบ้านคุณคืนฟรีๆแล้วกัน”“จริงเหรอ..ขอบคุณ..มะ...”“แต่...คุณต้องอยู่กับผมที่นี่.
“จะเดินตามมาดีๆหรือจะให้ผมอุ้ม”มาคัสต้องเดินกลับมาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆรถเขาเห็นว่าเธอไม่ยอมมาเสียทีเขาจึงต้องใช้คำพูดเพื่อขู่เธอบ้างซึ่งใจจริงเขาไม่ได้แค่ขู่แต่ถ้าเธอไม่ยอมแต่โดยดีเขาทำจริงเป็นแน่อุตส่าห์พาเธอมาถึงที่นี่เขาไม่ยอมให้วันนี้มันเสียเปล่าแน่อีกอย่างก็นัดกับญาติผู้ใหญ่ของเขาเอาไว้แล้วด้วย“ตามคุณมาร์คไปเถอะครับคุณน้ำเมยคุณก็น่าจะรู้ว่าคุณมาร์คพูดจริงทำจริง”เจมส์เองเมื่อเห็นว่าหญิงสาวทำท่าที่จะไม่ยอมเลยช่วยเจ้านายหนุ่มของเขาพูดอีกแรงว่าถ้าหากหญิงสาวไม่ยอมเจ้านายหนุ่มของเขาทำตามที่พูดแน่เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งยากให้เธอยอมเดินเข้าไปง่ายๆเสียดีกว่า“อ้าว...นั่นไงมากันแล้ว”มาเรียมกล่าวทักทายหลานชายของตนเองและหญิงสาวที่เดินตามเข้ามาที่น่าจะเป็นว่าที่หลานสะใภ้ของเธอจะว่าเป็นว่าที่หลานสะใภ้ก็คงจะไม่ได้เพราะตอนนี้เธอได้มีลูกกับหลานชายของเธอแล้วจากคำที่หลานชายเธอเคยเกริ่นๆมาก็คงจะต้องเรียกเธอว่าหลานสะใภ้แต่ติดแค่ยังไม่ได้แต่งงานเท่านั้นเอง“สวัสดีค่ะ”น้ำเมยเองคราแรกเข้ามาในบ้านที่เป็นห้องโถงใหญ่มีคนนั่งกันอยู่ถึงจะไม่เยอะมากแต่เธอก็รู้สึกประหม่าอยู่ดีแต่เมื่อกล่