“จะเดินตามมาดีๆหรือจะให้ผมอุ้ม”
มาคัสต้องเดินกลับมาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆรถเขาเห็นว่าเธอไม่ยอมมาเสียทีเขาจึงต้องใช้คำพูดเพื่อขู่เธอบ้างซึ่งใจจริงเขาไม่ได้แค่ขู่แต่ถ้าเธอไม่ยอมแต่โดยดีเขาทำจริงเป็นแน่อุตส่าห์พาเธอมาถึงที่นี่เขาไม่ยอมให้วันนี้มันเสียเปล่าแน่อีกอย่างก็นัดกับญาติผู้ใหญ่ของเขาเอาไว้แล้วด้วย
“ตามคุณมาร์คไปเถอะครับคุณน้ำเมยคุณก็น่าจะรู้ว่าคุณมาร์คพูดจริงทำจริง”
เจมส์เองเมื่อเห็นว่าหญิงสาวทำท่าที่จะไม่ยอมเลยช่วยเจ้านายหนุ่มของเขาพูดอีกแรงว่าถ้าหากหญิงสาวไม่ยอมเจ้านายหนุ่มของเขาทำตามที่พูดแน่เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งยากให้เธอยอมเดินเข้าไปง่ายๆเสียดีกว่า
“อ้าว...นั่นไงมากันแล้ว”
มาเรียมกล่าวทักทายหลานชายของตนเองและหญิงสาวที่เดินตามเข้ามาที่น่าจะเป็นว่าที่หลานสะใภ้ของเธอจะว่าเป็นว่าที่หลานสะใภ้ก็คงจะไม่ได้เพราะตอนนี้เธอได้มีลูกกับหลานชายของเธอแล้วจากคำที่หลานชายเธอเคยเกริ่นๆมาก็คงจะต้องเรียกเธอว่าหลานสะใภ้แต่ติดแค่ยังไม่ได้แต่งงานเท่านั้นเอง
“สวัสดีค่ะ”
น้ำเมยเองคราแรกเข้ามาในบ้านที่เป็นห้องโถงใหญ่มีคนนั่งกันอยู่ถึงจะไม่เยอะมากแต่เธอก็รู้สึกประหม่าอยู่ดีแต่เมื่อกล่าวสวัสดีทุกคนไปเธอกลับได้รับรอยยิ้มจากทุกคนกลับมาทำให้ตอนนี้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
อีกทั้งตอนนี้เธอยังได้รับรอยยิ้มจากดาวลดาที่ส่งยิ้มอย่างจริงใจมาให้เธออีกด้วยตอนนี้เธอรู้สึกผิดในใจอย่างไรบอกไม่ถูกเพราะมันเหมือนกับว่าเธอไปแย่งคู่หมั้นของหญิงสาวมาอย่างไงอย่างงั้น
“ไหว้พระเถอะจะ...มานั่งกันก่อนลูก”
มาเรียมเรียกทั้งสองให้นั่งกันก่อนเพราะจะได้พูดคุยกันอย่างสะดวกอีกอย่างเธอก็อยากถามความเป็นไปเป็นมาของทั้งสองว่าที่มีเหลนของเธออยู่ในท้องของหญิงสาวได้มันเป็นยังไงมายังไง
หลังจากที่มาคัสแนะนำให้น้ำเมยได้รู้จักกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นพ่อของเขาพ่อของดาวลดาและคุณยายของเขาเรียบร้อยแล้วจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ทุกคนได้ฟังพร้อมขอถอนหมั้นกับดาวลดาต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายซึ่งทั้งสองฝ่ายก็เห็นดีเห็นงามด้วยว่าควรที่จะทำเรื่องให้มันถูกต้อง
เรื่องนี้คนที่จะดีใจในการถอนหมั้นที่สุดก็คงจะเป็นดาวลดาเพราะว่าเธอเองไม่ได้อยากหมั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่เป็นเพราะที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเพราะอยากให้สองครอบครัวที่สนิทกันมานานแล้วเป็นทองแผ่นเดียวกันแต่หลังจากนี้เธอก็แอบหวั่นใจว่าพ่อของเธอจะจับเธอหมั้นกับใครอีกหรือเปล่าเพราะตอนนี้เธอคงไม่มีคนกันท่าให้แล้ว
“อายินดีด้วยนะมาร์ค”
“ขอบคุณครับอาดนัย”
ดนัยเป็นเพื่อนของโทนี่พ่อของมาคัสมานานแล้วทั้งสองอยากที่จะเป็นทองแผ่นเดียวกันเลยจับให้ลูกชายและลูกสาวของตนหมั้นกันอันที่จริงทั้งมาคัสและดาวลดารักกันเหมือนพี่เหมือนน้องมากกว่าเพราะว่ารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆแต่ที่มาคัสยอมหมั้นในตอนนั้นเพราะเขาเห็นว่ามันเป็นความต้องการของผู้ใหญ่
อีกอย่างทั้งเขาและดาวลดาเองก็ยังตกลงกันไว้อีกว่าถ้าหากแต่งงานกันไปแล้วก็ยังจะต่างคนต่างใช้ชีวิตเพราะไม่ได้รักกันอย่างคนรักทั่วไปและที่ดาวลดายอมหมั้นกับมาคัสเพราะว่าเบื่อที่พ่อของเธอชอบหานักธุรกิจที่มีหน้าตาทางสังคมมาให้เธอได้รู้จักบ่อยๆขืนดาวลดาไม่ยอมหมั้นกับมาคัสให้มันจบๆไปเธอก็คงจะไม่พ้นได้หมั้นกับคนอื่นอยู่ดี
ดนัยเองก็เห็นว่าเรื่องนี้ทันเป็นเหตุที่ห้ามหรือบังคับกันไม่ได้แล้วอีกอย่างเขาเองก็เห็นว่าดีแล้วที่มาคัสมาคุยกับเขาตรงๆแบบนี้เรื่องถอนหมั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรดีกว่ามาบอกทีหลังแล้วลูกสาวของเขากลายเป็นคนที่แย่งสามีคนอื่นนี่สิยิ่งแย่ไปกว่า
“หนูน้ำเมย”
“คะ..คุณยาย”
“ยายอยากรู้ว่าตอนที่ตามาร์คอยู่ที่ปายกับหนูเค้าเป็นยังไงบ้างเหรอ”
หลังจากที่คุยกันได้พักใหญ่และต่างฝ่ายต่างตกลงเรื่องราวอะไรกันเรียบร้อยแล้วมาคัสโทนี่และดนัยขอตัวไปคุยงานกันต่อทิ้งให้สองสาวเล็กและอีกหนึ่งสาวใหญ่นั่งคุยกันตามลำพังมาเรียมเองในฐานะที่เป็นยายก็อยากรู้เรื่องราวให้ละเอียดของหลานชายมากกว่าที่หญิงสาวเล่ามาเมื่อครู่เพราะดูแล้วหญิงสาวน่าจะมีเรื่องเล่ามากกว่านั้น
“จริงค่ะคุณน้ำเมยดาวก็อยากรู้ฟังจากที่คุณน้ำเมยเล่าคร่าวๆเมื่อกี้ดูพี่มาร์คจะนิสัยน่ารักกว่าตอนจำความได้เยอะเลยนะคะ..อิๆๆ”
ดาวลดาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าพี่ชายของเธอตอนที่ได้รับบาดเจ็บความจำเสื่อมเขานิสัยเป็นยังไงเพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเธอแทบจะไม่เห็นโมเม้นที่หญิงสาวเล่ามาคร่าวๆเลยแม้แต่นิดเดียวและเธอก็ยังตลกในชื่อเรียกที่น้ำเมยใช้เรียกพี่ชายของเธอในตอนนั้นอีกด้วย
“คือ.......”
น้ำเมยเล่าเรื่องราวทุกอย่างตั้งแต่ตอนที่เจอชายหนุ่มนอนจมกองเลือดอยู่จนกระทั่งการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นและการเป็นอยู่ของชายหนุ่มแต่ละวันว่าเค้ามีการใช้ชีวิตเป็นและกินอยู่อย่างไรอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ทุกคนต้องแปลกใจคือนิสัยที่เป็นมิตรกับผู้คนของชายหนุ่มที่ทำให้ทั้งมาเรียมและดาวลดาไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อเพราะเท่าที่เห็นๆนิสัยของชายหนุ่มค่อนข้างที่จะเข้ากับคนยากเสียหน่อย
“นี่ดาวไม่คิดเลยนะคะคุณน้ำเมยว่าพี่มาร์คจะทานง่ายอยู่ง่ายขนาดนั้นแถมยังชอบทานข้าวเหนียวหมูหยองจนเป็นที่มาของชื่ออีก...”
ดาวลดานั่งฟังที่น้ำเมยเล่าถึงพี่ชายของเธอใบหน้าของหญิงสาวเปื้อนรอยยิ้มตลอดเวลาที่เล่าเรื่องราวทั้งหมดทำให้เธอรับรู้ได้เลยว่าหญิงสาวตรงหน้าของเธอรักพี่ชายของเธอมากจริงๆ แต่เธอเองก็เบี่ยงประเด็นการพูดเป็นเรื่องการเป็นอยู่ของชายหนุ่มแทนซึ่งมันเป็นเรื่องที่ที่เธอคิดว่าถ้าเธอได้เห็นพี่ชายเธอตอนนั้นคงแปลกน่าดูรวมถึงที่มาของชื่อที่ใครรู้ก็เป็นจะต้องอมยิ้มไปตามๆกันเลยทีเดียว
“ใช่ค่ะคุณดาวตอนเช้าหลังจากที่ขายขนมเสร็จแล้วคุณมาคัสก็จะต้องทานข้าวเหนียวหมูหยองทุกวันเลยล่ะค่ะ”“ดีนะตอนนั้นที่ตามาร์คได้เจอกับหนูน้ำเมยไม่อย่างนั้นยายก็ไม่รู้ว่าตามาร์คจะมีชะตากรรมเป็นอย่างไรบ้างเลยนี่เพราะตามาร์คแท้ๆเลยทำให้หนูต้องมาพลอยลำบากขนาดนี้”มาเรียมรู้สึกว่าหญิงตรงหน้าเธอที่เรียกได้ว่าตอนนี้เป็นหลานสะใภ้เธอแล้วจะเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ขนาดนี้เธอเองยังรู้สึกเลยว่าถ้าหากวันนั้นหลายชายของเขาไม่เจอกับหญิงสาวป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง“ไม่เป็นไรเลยค่ะ...ที่หนูช่วยคุณมาคัสในตอนนั้นก็เพราะหนูรู้ว่าคนที่ไม่มีที่ไปหรือไร้ญาติพี่น้องในตอนนั้นมันลำบากขนาดไหน”“นี่ตามาร์คจะรู้ไหมเนี่ยว่ามีคนที่รักเค้าด้วยหัวใจขนาดนี้”มาเรียมเองอยากให้หลานชายของเขาได้มาฟังหญิงสาวพูดถึงตัวหลานชายของเธอในตอนนี้เหลือเกินเพราะดูเวลาที่เธอได้พูดถึงหลานชายเธอในตอนนั้นแววตาของหญิงสาวบ่งบอกถึงว่ามีความสุขอย่างมากภายในใจเธอก็ภาวนาว่าอยากให้หลานชายเธอจำความในตอนนั้นได้ในเร็ววันเพราะคิดว่าทั้งหญิงสาวและหลานชายของเขาคงจะรักกันมากน่าดู“หืม...โรแมนติกจังเลยนะคะดาวดีใจแทนพี่มาร์คจริงๆที่มีคนที่รักพี่มาร์คขนาดนี้ค่ะ”ดาว
ดาวลดาเองไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเบลล่าจึงคิดสั้นทั้งที่กำลังท้องอยู่แต่มันไม่ใช่อย่างที่แดเนียลกล่าวหาเธอกับมาคัสแน่นอนที่แดเนียลคิดว่าเป็นเพราะข่าวการหมั้นหมายของเธอและมาคัสจึงทำให้น้องสาวเธอต้องฆ่าตัวตาย แดเนียลคิดว่ามาคัสไม่ยอมรับลูกในท้องของเบลล่าและยังกล่าวหาว่าเธอทรยศหักหลังเบลล่าไปหมั้นกับมาคัสทั้งที่รู้ว่าเบลล่าท้องลูกของมาคัสอยู่เรื่องนี้เธอก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะอธิบายให้แดเนียลได้เข้าใจเพราะตั้งแต่วันนั้นเธอเองก็ไม่เคยเจอชายหนุ่มอีกเลย หญิงสาวรู้ว่าแดเนียลคงจะเกลียดเธอมากแต่สำหรับเธอนั้นชายหนุ่มเป็นรักแรกของเธอและยังอยู่ในใจของเธอตลอดมาโดยที่เรื่องนี้ก็ไม่มีใครรู้เช่นกันยกเว้นแต่เบลล่าเพื่อนสาวคนสนิทของเธอเท่านั้น20.30น.“คุณหนูคะวันนี้คุณท่านโทรมาบอกว่าน่าจะไม่กลับนะคะ”“ค่ะ...ป้าเนียน”จำเนียนแม่บ้านที่บ้านของดาวลดาขึ้นมาบอกกับหญิงสาวเรื่องที่ว่าคืนนี้พ่อของเธอจะไม่ได้กลับบ้านซึ่งเรื่องนี้เธอเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอไปแล้วที่คุณพ่อของเธอจะกลับบ้านบ้างไม่กลับบ้างจนเธอชินแล้ว22.00 น.“นายครับไฟที่ห้องของเธอดับลงแล้วครับ”“อืมม...เริ่มจัดการตามแผนได้”“ครับนาย”แดเนียลกั
“คุณแน่ใจนะว่าผมจะจำได้...อีกอย่างตอนแรกที่คุณเล่าให้ผมฟังเรื่องที่มาของชื่อผม...ผมไม่คิดเลยว่าผมจะชอบทานไอ้เจ้าก้อนนี้”มาคัสเองไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่าเขาจะชอบทานข้าวเหนียวหมูหยองเพราะอันที่จริงเขารู้สึกไม่ชอบทานข้าวเหนียวสักเท่าไรเพราะมันใช้ช้อนตักยากอีกอย่างคนอย่างเขาปกติแล้วเขาจะไม่ใช้มือหยิบอาหารทานเป็นแน่“จะใช้ช้อนทำไมล่ะคุณใช้มือเลย”น้ำเมยเห็นว่าชาหนุ่มกำลังจะใช้ช้อนกับส้อมตักข้าวเหนียวเข้าปากซึ่งเธอดูมันจะลำบากไปเสียหน่อยเธอรู้ว่าคนเจ้าระเบียบแบบเขาต้องรักษามารยาททุกอย่างแต่เธอเองอยากให้เขาทำตัวสบายๆมากกว่าในเวลาที่อยู่กับเธอ“เอ่อ...จะดีเหรอ”มาคัสยังมีสีหน้าที่ดูว่ามันเหมือนเป็นเรื่องผิดร้ายแรงที่ใช้มือหยิบอาหารขึ้นมาทานเพราะเขาถูกสอนเรื่องมารยาทการวางตัวมาอย่างละเอียดและติดเป็นนิสัยนั่นเอง“ลองดู...ตอนนั้นคุณยังใช้มือจับมันได้เลย”“เอ่อ..”“เอาน่า...อยู่กับฉันไม่ต้องเนี้ยบตลอดเวลาก็ได้”น้ำเมยเองพยายามพูดโน้มน้าวเพื่อให้ชายหนุ่มลดการเป็นคนเจ้าระเบียบลงมาสักหน่อยก็ได้เพื่อให้ชีวิตมันง่ายขึ้น“อืมมม...”มาคัสตัดสินใจทำตามที่หญิงสาวบอกอันที่จริงมันก็ไม่ได้ย่อย่างที่เขาคิด
“ตอนนั้นผมก็ปั้นเป็นแบบนี้เหรอ”มาคัสเองเมื่อเห็นหญิงสาวพูดว่าเขายังสอนยากเหมือนเดิมแสดงว่าภาพในหัวเมื่อครู่ของเขามันถูกต้องเพราะตอนนี้เขารู้สึกเห็นภาพที่หญิงสาวนั่งสอนเขามันซ้อนขึ้นมา“..ใช่สิ”“แสดงว่าตอนนั้นผม...ทำแบบนี้ใส่คุณด้วยใช่ไหม”มาคัสทำตามภาพที่อยู่ในหัวของเขาโดยการหยิบผงแป้งขึ้นมาแล้วปาใส่หน้าของหญิงสาวทันทีเป็นการแกล้งหญิงสาวที่ว่าเขาปั้นแป้งบัวลอยเป็นลุกขนมต้มนั่นเอง“ว้ายยยยย....”น้ำเมยเองแทบจะหันหน้าหลบไม่ทันเมื่อจู่ๆชายหนุ่มปาผงแป้งใส่เธอ“ฮ่าๆๆๆ”“นี่คุณจำได้แล้วเหรอ...”ตอนนี้น้ำเมยเองยืนนิ่งต่อหน้าชายหนุ่มเธอไม่ได้โกรธอะไรที่ชายหนุ่มแกล้งเธอแล้วยืนขำแต่เธอจำได้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ที่ชายหนุ่มแกล้งเธอมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วงั้นก็แสดงว่าเขาเริ่มจำอะไรได้แล้วล่ะสิ“ก็พอจะนึกออกนะแต่ก็คับคล้ายคับคลาแต่ผมจะพยามยามนะผมว่าเรามาถูกทางแล้วหละ...เอ่อ...”น้ำเมยดีใจจนน้ำตาคลอจากคราแรกที่ยืนนิ่งงันอยู่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นโผเข้าไปกอดชายหนุ่มแทนอย่างที่เขาเองไม่ทันได้ตั้งตัวมาคัสเองตอนนี้ก็ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นว่าหญิงสาวมีท่าทีดีใจที่เขาพอจะจำอะไรได้แบบนี้เขายิ่งมีกำลังใจที่
ดาวลดาได้แต่เงียบตอนนี้ให้ชายหนุ่มเข้าใจว่าเธอเป็นคนรักของพี่ชายเธอก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าหากเธอปฏิเสธว่าไม่ใช่เขาก็คงต้องสืบหาเรื่องนี้อีกแน่นอนและมันก็จะเป็นอันตรายต่อน้ำเมยและหลานเธอเปล่าๆเธอภาวนาให้แดเนียลยังไม่รู้ว่าพี่ชายเธอกำลังจะมีลูกเพราะกลัวว่าเรื่องราวมันจะไปกันใหญ่เธอไม่อยากให้แดเนียลทำผิดไปมากกว่านี้เธอจะทำอย่างไรดีให้แดเนียลผู้ชายที่แสนดีของเธอกลับมาเป็นคนเดิมตอนนี้ในใจของเขามันมีแต่ความแค้นเท่านั้น“หึๆ”ปังงงแดเนียลรู้สึกฉุนสุดขีดเขาแค่นหัวเราะที่เธอไม่ปฏิเสธเพราะมันเป็นเรื่องจริงเขาไม่อยากมองหน้าคนที่ผิดแต่ไม่ยอมรับผิดจึงไประบายอารมณ์กับประตูห้องของเธอแทนโดยการกระชากปิดมันแรงๆเป็นการประชดหญิงสาวเขารู้ว่าถ้าหากเขาอยู่ที่นี่นานกว่านี้อาจพลั้งมือทำอะไรหญิงสาวก็เป็นได้เพราะเขายังนึกถึงอดีตที่เคยเอ็นดูหญิงสาวเหมือนน้องสาวคนนึงมาก่อนตอนนี้หญิงสาวได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินยอมรับในโชคชะตาของตัวเธอเองอย่างเลี่ยงไม่ได้เธออยากขอให้เขารับฟังที่เธอพูดบ้างเท่านั้นเองเธอไม่คิดว่าเขาจะมองเธอเป็นคนเลวร้ายขนาดนี้คลับหรูกรุงโรม20.00 น.“หึ...แค่ยอมรับผิดมันยากนักหรือไงวะ”แดเนียลนั่ง
ปลั้กกกกกก“โอ้ยยยยย”ดาวลดาดิ้นจนสุดแรงที่มีหญิงสาวใช้ขาของเธอทั้งที่ยังเจ็บอยู่ถีบชายหนุ่มออกไปอย่างสุดตัวพร้อมลุกขึ้นเพื่อที่จะเปิดประตูออกไปยังไงวันนี้เธอก็จะต้องรอดพ้นมือของเขาไปให้ได้“อ๊าย..”“มานี่...จะไปไหน”แดเนียลรวบตัวหญิงสาวเอาไว้ได้ทันพร้อมโยนเธอขึ้นไปที่เตียงและล็อคประตูอย่างแน่นหนาเขาไม่ยอมให้เธอหนีเขาไปง่ายๆอยู่แล้ว“พี่แดนอย่าทำอะไรบ้าๆนะ...ตอนนี้พี่ไม่มีสติ.....อื้อออออ”หญิงสาวรู้ว่าจะเดอะไรขึ้นกับเธอตอนนี้เธอเองเริ่มตัวสั่นอย่างบังคับไม่ได้หญิงสาวพยายามพูดเพื่อเรียกสติไม่ให้ชายหนุ่มทำอะไรบ้าๆกับเธอหญิงสาวรู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มเองยังอยู่ในอาการที่มึนเมาอีกด้วยเธอรับรู้ได้จากกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่มันคละคลุ้งจากตัวของเขาแควกกก…แควกกกแดเนียลฉีกชุดของหญิงสาวด้วยมือข้างเดียวอย่างชำนาญโดยที่ปากของเขาก็ยังบดขยี้อยู่ที่ปากของหญิงสาวชายหนุ่มยอมรับเลยว่าหญิงสาวใต้ร่างของเขาช่างหอมหวานไม่เหมือนคนอื่นที่เขาเคยได้สัมผัสมาก่อนเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวจะบริสุทธิ์ผุดผ่องหรือไม่เพราะเธอได้มีการหมั้นหมายกับมาคัสไปแล้วและเสืออย่างมาคัสจะแค่เลี้ยงเหยื่อไว้ในกรงอย่างเดียวเช่นนั้นหรือไม่มีทางและ
เช้าวันต่อมา“อือ..อื้มม”ดาวลดารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะแสงจากพระอาทิตย์มันส่องมาที่ตาของเธอตอนนี้เธอรู้สึกระบมไปทั้งร่างเมื่อพลิกตัวดูก็พบว่าเธอนั้นนอนอยู่ในห้องนี้เพียงแค่คนเดียวเมื่อเธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนเธอเองยังนึกสมเพชตัวเองที่ต่อต้านอะไรชายหนุ่มไม่ได้แถมตอนนี้ขาก็ยังทิ้งให้เธออยู่ที่นี่คนเดียวอีกหญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มคงจะเกลียดเธอมากดูจากความดิบเถื่อนที่เขามอบให้เธอเมื่อคืนที่ผ่านมาหญิงสาวรู้สึกเจ็บและหน่วงที่หัวใจของเธออย่างบอกไม่ถูก“โอ้ยย”ดาวลดาพยายามพยุงร่างที่บอบช้ำและไรเรี่ยวแรงของเธอเข้าห้องน้ำเพื่อไปชำระล้างร่างกายล้างคราบคาวออกไปให้หมดหญิงสาวปล่อยน้ำตาให้ไหลรินกับเรื่องที่เธอได้รับปล่อยให้มันไหลไปตามน้ำอยู่พักใหญ่เธอถึงออกมาแต่งตัวด้วยใบหน้าที่เหม่อลอยตอนนี้หญิงสาวที่เคยน่ารักสดใสและมีสีหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลาเธอกลายเป็นคนที่มีสีหน้าและแววตาที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดก๊อกๆๆ“ขออนุญาตค่ะ”แอนนาเมดสาวที่แดเนียลจัดมาเพื่อให้ดูแลหญิงสาวโดยเฉพาะเปิดประตูเข้ามาเพราะเธอได้รับหน้าที่มาให้นำอาหารมาให้หญิงสาวจากนายใหญ่ของที่นี่“อาหารค่ะคุณดาว...นี่เป็นจดหมายของคุณแดเนียลฝากไ
“ใครให้เธอเข้ามาในนี้”แดเนียลเข้ามาหาหญิงสาวในห้องหนังสือแต่เขาเองไม่ยักจะเห็นหญิงสาวอยู่ในห้องเมื่อเดินเข้าไปข้างในสุดเขาเห็นว่าประตูที่เชื่อมห้องหนังสือกับห้องของเบลล่าเปิดอยู่เขารู้ในทันทีว่าหญิงสาวอยู่ในห้องของน้องเขาแน่นอนตอนนี้เขาเริ่มมีอาการไม่พอใจหญิงสาวอยู่บ้างแล้วเพล้งงงงง“ว้ายยย”ดาวลาที่กำลังนั่งดูรูปภาพและนึกถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับเบลล่าอยู่เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มเธอจึงตกใจและทำรูปนั้นหล่นจากมือแตกกระจายในที่สุด“เธอทำอะไรของเธอฮะ!!!...ออกไป”แดเนียลเห็นรูปของน้องสาวเขาแตกต่อหน้าต่อตาโดยฝีมือของหญิงสาวด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจเธอตั้งแต่คราแรกอยู่แล้วตอนนนี้มันยิ่งทวีความโกรธขึ้นไปอีกเขารีบเข้ามาเก็บรูปของน้องสาวของเขาพร้อมไล่หญิงสาวที่กำลังนั่งเก็บเศษกระจกอยู่ให้ออกไปให้พ้นหน้าของเขา“ฉันบอกให้ออกไปไง”พลั่กกก“โอ้ย”แดเนียลรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่หญิงสาวยังตีมึนไม่ยอมฟังคำสั่งของเขาเธอยังเอาแต่มัวนั่งเก็บเศษกระจกจากกรอบรูปที่มันแตกออกอยู่อย่างนั้นชายหนุ่มจึงบันดาลโทสะด้วยการผลักหญิงสาวออกไปทำให้มือของหญิงสาวไปทับกับกระจกที่มันหล่นแตกอยู่แล้วบาดที่มือของเธอ“ไอ้คนใจร้