ดาวลดาเองไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเบลล่าจึงคิดสั้นทั้งที่กำลังท้องอยู่แต่มันไม่ใช่อย่างที่แดเนียลกล่าวหาเธอกับมาคัสแน่นอนที่แดเนียลคิดว่าเป็นเพราะข่าวการหมั้นหมายของเธอและมาคัสจึงทำให้น้องสาวเธอต้องฆ่าตัวตาย แดเนียลคิดว่ามาคัสไม่ยอมรับลูกในท้องของเบลล่าและยังกล่าวหาว่าเธอทรยศหักหลังเบลล่าไปหมั้นกับมาคัสทั้งที่รู้ว่าเบลล่าท้องลูกของมาคัสอยู่เรื่องนี้เธอก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะอธิบายให้แดเนียลได้เข้าใจเพราะตั้งแต่วันนั้นเธอเองก็ไม่เคยเจอชายหนุ่มอีกเลย หญิงสาวรู้ว่าแดเนียลคงจะเกลียดเธอมากแต่สำหรับเธอนั้นชายหนุ่มเป็นรักแรกของเธอและยังอยู่ในใจของเธอตลอดมาโดยที่เรื่องนี้ก็ไม่มีใครรู้เช่นกันยกเว้นแต่เบลล่าเพื่อนสาวคนสนิทของเธอเท่านั้น
20.30น.
“คุณหนูคะวันนี้คุณท่านโทรมาบอกว่าน่าจะไม่กลับนะคะ”
“ค่ะ...ป้าเนียน”
จำเนียนแม่บ้านที่บ้านของดาวลดาขึ้นมาบอกกับหญิงสาวเรื่องที่ว่าคืนนี้พ่อของเธอจะไม่ได้กลับบ้านซึ่งเรื่องนี้เธอเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอไปแล้วที่คุณพ่อของเธอจะกลับบ้านบ้างไม่กลับบ้างจนเธอชินแล้ว
22.00 น.
“นายครับไฟที่ห้องของเธอดับลงแล้วครับ”
“อืมม...เริ่มจัดการตามแผนได้”
“ครับนาย”
แดเนียลกับเจสันเฝ้าดูที่บ้านของดาวลดามาพักใหญ่แล้วยังไงวันนี้เขาก็จะต้องทำแผนการแก้แค้นครั้งนี้ให้สำเร็จจนได้ในเมื่อเขาพลาดกับมาคัสมาถึงสองครั้งสองคราครั้งนี้เขามั่นใจว่ามันจะทำให้มาคัสนั้นเจ็บปวดเหมือนตายทั้งเป็นแน่นอน
“หึ...มาคัสในเมื่อฉันทำอะไรแกไม่ได้ฉันก็ขอทำให้แกเจ็บเจียนตายโดยการเสียคนที่รักไปเช่นกัน”
แดเนียลเชื่อในมือของเจสันเลยให้มือขวาของเขาพาลูกน้องเข้าไปเพื่อที่จะจับตัวหญิงสาวออกมาโดยที่ตัวของเขานั่งรออยู่บนรถอย่างผู้ชนะ
“อื้อ...”
ดาวลดาที่กำลังจะเคลิ้มหลับเธอรู้สึกได้ว่ากำลังโนมือของใครสักคนเอาอะไรมาปิดจมูกของเธอเอาไว้อยู่หญิงสาวพยามที่จะดิ้นหนีอย่างสุดชีวิตแต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับยาสลบชั้นดีที่เจสันจัดหามาเพื่องานนี้โดยเฉพาะเพราะว่าเขาจะต้องพาเธอเดินทางไปอีกไกล
“เรียบร้อยแล้วครับนาย”
“หึ...ดีงั้นเรากลับกันตอนนี้เลย”
“ครับ”
แดเนียลเห็นเจสันอุ้มหญิงสาวออกมาเขานั่งแสยะยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดีที่แผนการของเขามันสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีชายหนุ่มเห็นว่าได้ตัวหญิงสาวที่ต้องการแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่พาตัวเธอกลับไปกับเขาด้วยก็เท่านั้นละต่อไปเขาก็จะรอดูความกระวนกระวายใจของคนที่นี่อย่างสบายอารมณ์
เช้าวันต่อมา
“นี่คุณตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ....เข้ามานอนห้องฉันตั้งแต่ตอนไหนฮะ”
น้ำเมยตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพบว่ามาคัสกำลังนอนกอดเธออย่างสบายอารมณ์ทั้งที่ตกลงกันอย่างดิบดีแล้วว่าจะนอนคนละห้องจนกว่าชายหนุ่มจะจำความได้
“นี่คุณ...ผมก็แค่อยากนอนกอดลูกบ้างก็เท่านั้นเอง”
มาคัสยังคงตีเนียนรอนกอดหญิงสาวต่อโดยที่ไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้นเขาแอบเข้าห้องหญิงสามาเพื่อนอนกอดเธอตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนแล้ว
“ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่...”
“ก็การที่ผมอยู่ใกล้คุณบ่อยๆอาจจะทำให้ผมจำเรื่องราวได้ไวขึ้นก็ได้”
มาคัสไม่ปล่อยให้หญิงสาวพูดอะไรมาแย้งเขาอีกเลยให้เหตุผลที่มันน่าจะฟังดูขึ้นให้หญิงสาวได้ฟัง
“ผมอยากจำเรื่องเราได้เร็วๆผมจะได้รู้ว่าตอนนั้นผมรู้สึกอย่างไรบ้าง...คุณต้องช่วยผมนะ”
ชายหนุ่มยังนอนกอดหญิงสาวตีเนียนทำเสียงออกอ้อนปนขอร้องเขาคิดว่าวิธีการใช้ไม้อ่อนนี้คงจะทำให้หญิงสาวใจอ่อนกับเขาบ้าง
“อะ...เอ่อ..ก็ได้..แต่คุณต้องเอาแขนคุณออกจากตัวฉันก่อนตอนนี้ฉันอึดอัด”
น้ำเมยรู้สึกงงกับอารมณ์ของชายหนุ่มที่อยู่ดีๆเปลี่ยนมาใช้น้ำเสียงออกอ้อนแทนน้ำเสียงแข็งกร้าวแบบเดิมที่ชอบออกคำสั่งกับเธอเสียอย่างนั้นแต่หญิงสาวคิดว่ามันก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะมันทำให้คำพูดคำจาของชายหนุ่มน่าฟังยิ่งขึ้น ในเมื่อชายหนุ่มอยากที่จะให้เธอช่วยในการรื้อฟื้นความจำโดยการพูดเชิงขอร้องกบเธอหญิงสาวเองก็พร้อมช่วยถ้าเกิดเขาพูดในเชิงบังคับเธอละก็อย่าหวังเลย
“ฉันถามคุณจริงๆคุณไม่มีเค้าเลือนรางที่จะนึกถึงเรื่องราวในตอนนั้นได้เลยเหรอ”
“อืมมม...จริงๆก็ผมเองก็เคยฝันเห็นบ้านของคุณที่ปายอยู่บ่อยๆ...แล้วก็ก่อนที่ผมจะเจกับคุณผมเองฝันเห็นผู้หญิงคนนึงในฝันผมกับเธอชอบพูดคุยหัวเราะด้วยกันแต่ผมก็ไม่เห็นหน้าเธอชัดสักทีจนมาเจอคุณความฝันของผมมันก็ปรากฎชัดเจนยิ่งขึ้นว่าผู้หญิงคนนั้นคือคุณ”
“จริงเหรอ..แล้วคุณฝันอะไรอีก...หรือว่ารู้สึกอะไรบ้างหรือเปล่า”
น้ำเมยได้ยินเรื่องราวที่ชายหนุ่มเล่าให้เธอได้ฟังก็ถึงกับมีสีหน้าที่แสดงออกถึงการมีความหวังทันทีพร้อมตั้งใจที่จะถามชายหนุ่มต่อว่ารู้สึกอะไรกับมันบ้างหรือเปล่า
“คือ...ความรู้สึกผมทุกครั้งที่ฝัน...ผมคิดว่ามันก็เป็นแค่ฝันไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจอะไร”
มาคัสเองตอบด้วยสีหน้าที่ดูครุ่นคิดใจจริงเขาไม่ได้อยากตอบความจริงนี้ออกมาสักเท่าไรเพราะรู้ว่าหญิงสาวคงจะต้องผิดหวังเป็นแน่แต่เขาเองก็ไม่อยากที่จะโกหกเธอเท่านั้นเอง
“อ่อ...อืม”
น้ำเมยถึงกับหุบยิ้มและมีสีหน้าที่ผิดหวังทันทีเธอคิดว่าเธอคงหวังมากเกินไปเธอลืมคิดว่ามันก็เป็นเพียงเรื่องที่ชายหนุ่มฝันเป็นเธอถ้าหากจำอะไรไม่ได้เธอเองก็คงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องความฝันขนาดนั้นหรอกหญิงสาวพยายามปลอบใจตัวเอง
08.30น.
น้ำเมยเดินออกไปหาซื้อข้าวเหนียวหมูหยองที่ชายหนุ่มชอบทานตอนที่เขาใช้ชีวิตอยู่กับเธอที่ปายในเมื่อชายหนุ่มขอร้องให้เธอช่วยรื้อฟื้นความทรงจำสิ่งแรกที่เธอคิดว่าน่าจะทำให้เขาเริ่มนึกเรื่องราวออกก็คงจะต้องเป็นอาหารที่เขาเคยทานตอนอยู่กับเธอหญิงสาวไม่รู้ว่าทฤษฎีนี้จะใช้ได้หรือไม่แต่เธอก็ของลองดูก่อนถ้าวิธีนี้ไม่ได้ผลก็ค่อยว่ากันอีกที
“อื้มม..”
หญิงสาวแกะห่อข้าวเหนียวหมูหยองพร้อมยื่นให้กับชายหนุ่ม
“ให้ผมทำไมคุณ”
มาคัสเองรู้สึกแปลกใจที่จู่ๆหญิงสาวก็ยื่นก้อนข้าวเหนียวหมูหยองมาให้กับเขาคราแรกเขาคิดว่าเธอจะซื้อมาทานเองเสียอีก
“ข้าเหนียวหมูหยองที่คุณชอบทานไง...ลองทานดูสิเผื่อคุณจะจำอะไรได้บ้าง”
“คุณแน่ใจนะว่าผมจะจำได้...อีกอย่างตอนแรกที่คุณเล่าให้ผมฟังเรื่องที่มาของชื่อผม...ผมไม่คิดเลยว่าผมจะชอบทานไอ้เจ้าก้อนนี้”มาคัสเองไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่าเขาจะชอบทานข้าวเหนียวหมูหยองเพราะอันที่จริงเขารู้สึกไม่ชอบทานข้าวเหนียวสักเท่าไรเพราะมันใช้ช้อนตักยากอีกอย่างคนอย่างเขาปกติแล้วเขาจะไม่ใช้มือหยิบอาหารทานเป็นแน่“จะใช้ช้อนทำไมล่ะคุณใช้มือเลย”น้ำเมยเห็นว่าชาหนุ่มกำลังจะใช้ช้อนกับส้อมตักข้าวเหนียวเข้าปากซึ่งเธอดูมันจะลำบากไปเสียหน่อยเธอรู้ว่าคนเจ้าระเบียบแบบเขาต้องรักษามารยาททุกอย่างแต่เธอเองอยากให้เขาทำตัวสบายๆมากกว่าในเวลาที่อยู่กับเธอ“เอ่อ...จะดีเหรอ”มาคัสยังมีสีหน้าที่ดูว่ามันเหมือนเป็นเรื่องผิดร้ายแรงที่ใช้มือหยิบอาหารขึ้นมาทานเพราะเขาถูกสอนเรื่องมารยาทการวางตัวมาอย่างละเอียดและติดเป็นนิสัยนั่นเอง“ลองดู...ตอนนั้นคุณยังใช้มือจับมันได้เลย”“เอ่อ..”“เอาน่า...อยู่กับฉันไม่ต้องเนี้ยบตลอดเวลาก็ได้”น้ำเมยเองพยายามพูดโน้มน้าวเพื่อให้ชายหนุ่มลดการเป็นคนเจ้าระเบียบลงมาสักหน่อยก็ได้เพื่อให้ชีวิตมันง่ายขึ้น“อืมมม...”มาคัสตัดสินใจทำตามที่หญิงสาวบอกอันที่จริงมันก็ไม่ได้ย่อย่างที่เขาคิด
“ตอนนั้นผมก็ปั้นเป็นแบบนี้เหรอ”มาคัสเองเมื่อเห็นหญิงสาวพูดว่าเขายังสอนยากเหมือนเดิมแสดงว่าภาพในหัวเมื่อครู่ของเขามันถูกต้องเพราะตอนนี้เขารู้สึกเห็นภาพที่หญิงสาวนั่งสอนเขามันซ้อนขึ้นมา“..ใช่สิ”“แสดงว่าตอนนั้นผม...ทำแบบนี้ใส่คุณด้วยใช่ไหม”มาคัสทำตามภาพที่อยู่ในหัวของเขาโดยการหยิบผงแป้งขึ้นมาแล้วปาใส่หน้าของหญิงสาวทันทีเป็นการแกล้งหญิงสาวที่ว่าเขาปั้นแป้งบัวลอยเป็นลุกขนมต้มนั่นเอง“ว้ายยยยย....”น้ำเมยเองแทบจะหันหน้าหลบไม่ทันเมื่อจู่ๆชายหนุ่มปาผงแป้งใส่เธอ“ฮ่าๆๆๆ”“นี่คุณจำได้แล้วเหรอ...”ตอนนี้น้ำเมยเองยืนนิ่งต่อหน้าชายหนุ่มเธอไม่ได้โกรธอะไรที่ชายหนุ่มแกล้งเธอแล้วยืนขำแต่เธอจำได้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ที่ชายหนุ่มแกล้งเธอมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วงั้นก็แสดงว่าเขาเริ่มจำอะไรได้แล้วล่ะสิ“ก็พอจะนึกออกนะแต่ก็คับคล้ายคับคลาแต่ผมจะพยามยามนะผมว่าเรามาถูกทางแล้วหละ...เอ่อ...”น้ำเมยดีใจจนน้ำตาคลอจากคราแรกที่ยืนนิ่งงันอยู่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นโผเข้าไปกอดชายหนุ่มแทนอย่างที่เขาเองไม่ทันได้ตั้งตัวมาคัสเองตอนนี้ก็ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นว่าหญิงสาวมีท่าทีดีใจที่เขาพอจะจำอะไรได้แบบนี้เขายิ่งมีกำลังใจที่
ดาวลดาได้แต่เงียบตอนนี้ให้ชายหนุ่มเข้าใจว่าเธอเป็นคนรักของพี่ชายเธอก็ดีเหมือนกันเพราะถ้าหากเธอปฏิเสธว่าไม่ใช่เขาก็คงต้องสืบหาเรื่องนี้อีกแน่นอนและมันก็จะเป็นอันตรายต่อน้ำเมยและหลานเธอเปล่าๆเธอภาวนาให้แดเนียลยังไม่รู้ว่าพี่ชายเธอกำลังจะมีลูกเพราะกลัวว่าเรื่องราวมันจะไปกันใหญ่เธอไม่อยากให้แดเนียลทำผิดไปมากกว่านี้เธอจะทำอย่างไรดีให้แดเนียลผู้ชายที่แสนดีของเธอกลับมาเป็นคนเดิมตอนนี้ในใจของเขามันมีแต่ความแค้นเท่านั้น“หึๆ”ปังงงแดเนียลรู้สึกฉุนสุดขีดเขาแค่นหัวเราะที่เธอไม่ปฏิเสธเพราะมันเป็นเรื่องจริงเขาไม่อยากมองหน้าคนที่ผิดแต่ไม่ยอมรับผิดจึงไประบายอารมณ์กับประตูห้องของเธอแทนโดยการกระชากปิดมันแรงๆเป็นการประชดหญิงสาวเขารู้ว่าถ้าหากเขาอยู่ที่นี่นานกว่านี้อาจพลั้งมือทำอะไรหญิงสาวก็เป็นได้เพราะเขายังนึกถึงอดีตที่เคยเอ็นดูหญิงสาวเหมือนน้องสาวคนนึงมาก่อนตอนนี้หญิงสาวได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินยอมรับในโชคชะตาของตัวเธอเองอย่างเลี่ยงไม่ได้เธออยากขอให้เขารับฟังที่เธอพูดบ้างเท่านั้นเองเธอไม่คิดว่าเขาจะมองเธอเป็นคนเลวร้ายขนาดนี้คลับหรูกรุงโรม20.00 น.“หึ...แค่ยอมรับผิดมันยากนักหรือไงวะ”แดเนียลนั่ง
ปลั้กกกกกก“โอ้ยยยยย”ดาวลดาดิ้นจนสุดแรงที่มีหญิงสาวใช้ขาของเธอทั้งที่ยังเจ็บอยู่ถีบชายหนุ่มออกไปอย่างสุดตัวพร้อมลุกขึ้นเพื่อที่จะเปิดประตูออกไปยังไงวันนี้เธอก็จะต้องรอดพ้นมือของเขาไปให้ได้“อ๊าย..”“มานี่...จะไปไหน”แดเนียลรวบตัวหญิงสาวเอาไว้ได้ทันพร้อมโยนเธอขึ้นไปที่เตียงและล็อคประตูอย่างแน่นหนาเขาไม่ยอมให้เธอหนีเขาไปง่ายๆอยู่แล้ว“พี่แดนอย่าทำอะไรบ้าๆนะ...ตอนนี้พี่ไม่มีสติ.....อื้อออออ”หญิงสาวรู้ว่าจะเดอะไรขึ้นกับเธอตอนนี้เธอเองเริ่มตัวสั่นอย่างบังคับไม่ได้หญิงสาวพยายามพูดเพื่อเรียกสติไม่ให้ชายหนุ่มทำอะไรบ้าๆกับเธอหญิงสาวรู้ว่าตอนนี้ชายหนุ่มเองยังอยู่ในอาการที่มึนเมาอีกด้วยเธอรับรู้ได้จากกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่มันคละคลุ้งจากตัวของเขาแควกกก…แควกกกแดเนียลฉีกชุดของหญิงสาวด้วยมือข้างเดียวอย่างชำนาญโดยที่ปากของเขาก็ยังบดขยี้อยู่ที่ปากของหญิงสาวชายหนุ่มยอมรับเลยว่าหญิงสาวใต้ร่างของเขาช่างหอมหวานไม่เหมือนคนอื่นที่เขาเคยได้สัมผัสมาก่อนเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวจะบริสุทธิ์ผุดผ่องหรือไม่เพราะเธอได้มีการหมั้นหมายกับมาคัสไปแล้วและเสืออย่างมาคัสจะแค่เลี้ยงเหยื่อไว้ในกรงอย่างเดียวเช่นนั้นหรือไม่มีทางและ
เช้าวันต่อมา“อือ..อื้มม”ดาวลดารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะแสงจากพระอาทิตย์มันส่องมาที่ตาของเธอตอนนี้เธอรู้สึกระบมไปทั้งร่างเมื่อพลิกตัวดูก็พบว่าเธอนั้นนอนอยู่ในห้องนี้เพียงแค่คนเดียวเมื่อเธอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนเธอเองยังนึกสมเพชตัวเองที่ต่อต้านอะไรชายหนุ่มไม่ได้แถมตอนนี้ขาก็ยังทิ้งให้เธออยู่ที่นี่คนเดียวอีกหญิงสาวคิดว่าชายหนุ่มคงจะเกลียดเธอมากดูจากความดิบเถื่อนที่เขามอบให้เธอเมื่อคืนที่ผ่านมาหญิงสาวรู้สึกเจ็บและหน่วงที่หัวใจของเธออย่างบอกไม่ถูก“โอ้ยย”ดาวลดาพยายามพยุงร่างที่บอบช้ำและไรเรี่ยวแรงของเธอเข้าห้องน้ำเพื่อไปชำระล้างร่างกายล้างคราบคาวออกไปให้หมดหญิงสาวปล่อยน้ำตาให้ไหลรินกับเรื่องที่เธอได้รับปล่อยให้มันไหลไปตามน้ำอยู่พักใหญ่เธอถึงออกมาแต่งตัวด้วยใบหน้าที่เหม่อลอยตอนนี้หญิงสาวที่เคยน่ารักสดใสและมีสีหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลาเธอกลายเป็นคนที่มีสีหน้าและแววตาที่เศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดก๊อกๆๆ“ขออนุญาตค่ะ”แอนนาเมดสาวที่แดเนียลจัดมาเพื่อให้ดูแลหญิงสาวโดยเฉพาะเปิดประตูเข้ามาเพราะเธอได้รับหน้าที่มาให้นำอาหารมาให้หญิงสาวจากนายใหญ่ของที่นี่“อาหารค่ะคุณดาว...นี่เป็นจดหมายของคุณแดเนียลฝากไ
“ใครให้เธอเข้ามาในนี้”แดเนียลเข้ามาหาหญิงสาวในห้องหนังสือแต่เขาเองไม่ยักจะเห็นหญิงสาวอยู่ในห้องเมื่อเดินเข้าไปข้างในสุดเขาเห็นว่าประตูที่เชื่อมห้องหนังสือกับห้องของเบลล่าเปิดอยู่เขารู้ในทันทีว่าหญิงสาวอยู่ในห้องของน้องเขาแน่นอนตอนนี้เขาเริ่มมีอาการไม่พอใจหญิงสาวอยู่บ้างแล้วเพล้งงงงง“ว้ายยย”ดาวลาที่กำลังนั่งดูรูปภาพและนึกถึงเรื่องราวระหว่างเธอกับเบลล่าอยู่เมื่อได้ยินเสียงของชายหนุ่มเธอจึงตกใจและทำรูปนั้นหล่นจากมือแตกกระจายในที่สุด“เธอทำอะไรของเธอฮะ!!!...ออกไป”แดเนียลเห็นรูปของน้องสาวเขาแตกต่อหน้าต่อตาโดยฝีมือของหญิงสาวด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจเธอตั้งแต่คราแรกอยู่แล้วตอนนนี้มันยิ่งทวีความโกรธขึ้นไปอีกเขารีบเข้ามาเก็บรูปของน้องสาวของเขาพร้อมไล่หญิงสาวที่กำลังนั่งเก็บเศษกระจกอยู่ให้ออกไปให้พ้นหน้าของเขา“ฉันบอกให้ออกไปไง”พลั่กกก“โอ้ย”แดเนียลรู้สึกไม่พอใจอย่างมากที่หญิงสาวยังตีมึนไม่ยอมฟังคำสั่งของเขาเธอยังเอาแต่มัวนั่งเก็บเศษกระจกจากกรอบรูปที่มันแตกออกอยู่อย่างนั้นชายหนุ่มจึงบันดาลโทสะด้วยการผลักหญิงสาวออกไปทำให้มือของหญิงสาวไปทับกับกระจกที่มันหล่นแตกอยู่แล้วบาดที่มือของเธอ“ไอ้คนใจร้
“ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า...ที่แผลยังเจ็บอยู่ไหม”เมื่อเห็นว่าดาวลดาดูโอเคขึ้นแล้วเขาจึงถามอาการของเธอว่าเป็นยังไงบ้างด้วยความเป็นห่วงแต่เขาก็ได้รับแต่ความเงียบกลับมาจากหญิงสาวอีกทั้งเธอยังนอนตะแคงหันหลังให้เขาอีกด้วยเขารู้ว่าหญิงสาวคงจะโกรธเขามากซึ่งเขาก็ทำใจยอมรับในเรื่องนี้มาแล้วดาวลดาเองตอนนี้เธอรู้สึกปวดหัวอยู่บ้างแต่ก็โอเคกว่าตอนที่ยังไม่ได้ทานยาเธอรู้ว่าชายหนุ่มคอยเช็ดตัวให้เธออยู่ตลอดแต่เธอเองไม่ได้สนใจอะไรเธอทำเหมือนเขาเป็นอากาศและหน้าของเขาตอนนี้เธอก็ไม่อยากจะมองมันด้วยเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มมาทำดีกับเธอเพราะอะไรแต่เธอไม่ได้ต้องการมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนตบหัวแล้วมาลูบหลังอย่างไงอย่างงั้น“ดาว...พี่ขอโทษ...พี่รู้แล้วว่าดาวกับมาคัสไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เบลจบชีวิตตัวเองลง..พี่ขอโทษ”แดเนียลนั่งก้มหน้ายอมรับผิดเขาพูดขอโทษหญิงสาวออกมาจากหัวใจอย่างไม่ถือศักดิ์ศรีของตัวเองลูกผู้ชายอย่างเขาเมื่อเขารู้ตัวว่าเขาทำผิดเขาก็ยอมรับผิดอยู่แล้วแต่คนที่เขาทำผิดด้วยนั้นจะให้อภัยเขาหรือเปล่านั่นมันก็สุดแล้วแต่ดาวลดาค่อยๆหันมามองชายหนุ่มที่กำลังนั่งก้มหน้ายอมรับผิดอยู่เธอจ้องเขาด้วยสายตาที่ส
“เร็วๆสิคุณ”“รอผมด้วยสิ”กว่ามาคัสจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลาเกือบเจ็ดโมงกว่าน้ำเมยพาเขาเดินมายังริมแม่น้ำปายเธอพาเขามาจุดเดิมจุดที่เธอพบเขาในวันนั้นแถมสถานที่ตรงนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญกับเธอและเขาอย่างที่เธอไม่สามารถลืมลงอีกด้วยและเธอก็อยากให้เขาจำเรื่องราวของสถานที่ตรงนี้ได้เหมือนกัน“ห๊าา...สดชื่นมากเลย”น้ำเมยยืนหันหน้ามองอยู่ที่แม่น้ำพร้อมยืนสูดอากาศยามเช้าที่บริสุทธิ์พร้อมยืนลูบท้องนูนของตัวเองเป็นการรับพลังงานที่ดีส่งให้แก่ลูกของเธออีกด้วย“ทำอะไรอยู่อะคุณ...”น้ำเมยเห็นว่ามาคัสมัวแต่นั่งหันหลังทำอะไรอยู่ที่ตรงแนวพงหญ้าเธอจึงหันไปถามชายหนุ่มอย่างสงสัยเพราะแทนที่จะมายืนชมวิวดูบรรยากาศตรงที่เธอยืนอยู่“หัวหยอง...ทำไรอยู่..ฮ่าๆๆ”เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากชายหนุ่มเธอก็เลยเรียกชื่อของเขาแบบที่เธอเคยเรียกเวลาที่ล้อเล่นกับเขาพร้อมหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีตอนนี้เธอรู้ว่าเขาไม่ถือเวลาที่เธอเรียกเขาแบบนี้แล้วเพราะว่าชายหนุ่มเป็นคนบอกเองว่าเขาจำเรื่องราวแทบทั้งหมดได้แล้วทั้งเรื่องที่เธอดูแลเขาตอนที่อยู่โรงพยาบาลทั้งเรื่องที่เธอพาเขามาอยู่ที่นี่ด้วยกันวันๆเขาทำอะไรบ้างแต่เรื่องที