“เดี๋ยวพ่อจะดูฤกษ์แต่งที่เร็วที่สุดให้แล้วกันนะเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ครับคุณพ่อ”
“หืมม...ฤกษ์แต่ง”
ดาวลดาถึงกับทำหน้างงที่จู่ๆทั้งสองดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียอย่างนั้นตอนนี้เธอรู้สึกสับสนไปหมดแล้ว
อันที่จริงดนัยเองก็รู้สึกโกรธมากในครั้งแรกที่รู้เรื่องแต่พอมองเรื่องราวอย่างที่เขาเคยอาบน้ำร้อนมาก่อนเขาถือว่าชายหนุ่มมีความรับผิดชอบและใจถึงมากเลยทีเดียวที่กล้าเข้ามาพูดต่อหน้าเขาอย่างไม่ยำเกรง
และที่เขายอมยกลูกสาวสุดที่รักให้ชายหนุ่มไปง่ายๆไม่ใช่เพราะว่าทั้งคู่เสียกันไปแล้วแต่เป็นเพราะว่าเขามองออกว่าลูกสาวของเขามีความสุขและยิ้มด้วยหัวใจเมื่ออยู่กับชายหนุ่ม
และเขารู้ดีว่าชายหนุ่มทำเรื่องแบบนี้ไปเพราะความเข้าใจผิดและยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายอีกอย่างเขาก็พร้อมที่จะยกลูกสาวของเขาให้ก็เพราะว่าเขารู้ว่าถ้าลูกสาวของเขาแต่งงานกับชายหนุ่มไปชีวิตของเธอไม่ลำบากแน่นอนเพราะชื่อเสียงของชายหนุ่มในแวดวงธุรกิจถือว่ารู้จักกันดีในฐานะนักธุรกิจหนุ่มที่เก่งและโปรไฟล์ดีอยู่ไม่น้อยคนเป็นพ่อออย่างเขาคงไม่ต้องห่วงอะไรมาก
“ร้ายนักนะพี่แดนที่ทำให้พ่อดาวใจอ่อนได้”
ดาวลดาอดแซวชายหนุ่มไม่ได้ที่ไม่รู้เข้าไปคุยกับพ่อเธอท่าไหนจนได้ใจอ่อนได้ง่ายขนาดนี้
“พี่ก็แค่ใช้ความจริงใจของพี่เข้าหาท่านก็เท่านั้น”
แดเนียลตอบไปตามความจริงเพราะเขาไม่ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอะไรเลยเขาแค่เอาความจริงใจของเขาที่มีเข้าหาพ่อของหญิงสาวก็เท่านั้น
บ้านมาคัส
“คุณดาวว่าคุณมาร์คจะโกรธคุณแดเนียลขนาดไหนคะ”
น้ำเมยตอนนี้มีสีหน้าที่กังวลอย่างเห็นได้ชัดเพราะชายหนุ่มทั้งสองหายไปกันนานสองนานแล้ว
เรื่องที่เธอได้รับรู้มามันก็ค่อนข้างหนักเธอเองถึงจะได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของมาคัสก็จริงแต่เธอก็ไม่ได้รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆเธอจึงหันไปถามดาวลดาที่มีสีหน้าเป็นกังวลไม่ต่างจากเธอว่าตอนนี้คิดว่าทั้งสองหนุ่มเขาจะเคลียกันอย่างไร
“ดาวก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะคุณน้ำเมย...ตอนนี้ดาวเดาใจพี่มาร์คไม่ออกจริงๆค่ะ”
ตอนนี้ทั้งน้ำเมยและดาวลดานั่งกุมมือกันอยู่ที่ในบ้านเพราะเป็นกังวลกับการพูดคุยของชายหนุ่มทั้งสองอย่างมาก
“ว้าย/ว้ายย”
ทั้งน้ำเมยและดาลดาต่างก็ตกใจที่มาคัสพยุงร่างของแดเนียลที่ใบหน้ามีแต่รอยฟกช้ำเข้ามาในบ้านและมาวางชายหนุ่มที่บาดเจ็บให้นอนกองอยู่ที่โซฟา
“ทำไมคุณแดเนียลเป็นแบบนี้ล่ะคะ”
น้ำเมยหันไปถามสามีของเธอตาเขียวว่าทำไมชายหนุ่มถึงมีสภาพเป็นแบบนี้เพราะเธอคิดว่าคงเป็นฝีมือของสามีของเธอแน่นอน
“ก็แค่ลงโทษกันอย่างลูกผู้ชายใช่ไหมไอ้เสือ”
มาคัสพูดกับผู้เป็นภรรยาพร้อมทั้งยื่นมือจับกันอย่างลูกผู้ชายกับแดเนียลเป็นสัญญาว่าทั้งสองไม่มีอะไรติดใจกันแล้วเพราะมาคัสเองก็ยังคิดว่าในความโชคร้ายของเขาตอนนั้นก็ยังมีความโชคดีเพราะมันทำให้เขาได้เจอกับน้ำเมยหญิงสาวที่เป็นภรรยาที่แสนดีของเขาในตอนนี้
“แต่ก็ไม่เห็นต้องทำกันขนาดนี้เลยนี่คะ...ทั้งที่คุณแดเนียลยอมรับผิดและก็ขอโทษแล้วแล้ว”
น้ำเมยส่งกล่องปฐมพยาบาลให้กับดาวลดาเพื่อที่จะให้เธอทำแผลให้กับชายหนุ่มส่วนเธอก็ยังยืนบ่นคนเป็นสามีที่ทำเกินเหตุเธอรู้ว่าแดเนียลเคยทำร้ายชายหนุ่มจนปางตายแต่เขาก็ยังไม่ตายนี่นาแถมเรื่องมันก็ผ่านไปแล้วอีกอย่างแดเนียลก็ยอมรับผิดแล้วด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณน้ำเมย...ผมทำกับมาคัสไว้เยอะแค่นี้มันยังน้อยไป”
“อย่าทะเลาะกันเลยนะคะ....ดาวขอนะ”
ทั้งแดเนียลและดาวลดาเห็นว่าจากที่เรื่องมันจะดีแล้วกลับทำให้ทั้งน้ำเมยและมาคัสมีปากเสียงกันอีกมทั้งแดเนียลและดาวลดาจึงรีบปรามทั้งคู่เอาไว้ก่อนเพราะแค่นี้ก็กลุ้มใจกันมากพอแล้ว
วันเวลาพ้นผ่านนานร่วมปี
“ว่ายังไงสาวน้อยของคุณพ่อ...คุณพ่อไปทำงานทั้งวันคิดถึงคุณพ่อไหมคะ”
“แอร๊!!”
เสียงเด็กหญิงวัยหกเดือนที่นอนกัดยางกัดเล่นอยู่ในเปลส่งเสียงทักทายคนเป็นพ่ออย่างอารมณ์ดีทำให้คนเป็นพ่อแทบอยากจะลงไปฟัดเสียให้รู้แล้วรู้รอด
หลังจากเลิกงานแล้วมาคัสก็ต้องรีบกลับมาที่บ้านทุกครั้งเพราะเขาทนคิดถึงลูกสาวตัวน้อยและภรรยาสุกที่รักของเขามากนั่นเองเมื่อมาถึงบ้านก็ต้องรีบเดินเข้ามาที่เปลสีชมพูหวานทักทายลูกน้อยของเขาก่อนเป็นอันดับแรก
“คุณพ่อห้ามอุ้มนะคะ...ต้องไปอาบน้ำก่อนค่ะ”
น้ำเมยจะต้องคอยปรามคุณพ่อที่ชอบแอบมาอุ้มลูกสาวโดยที่ยังไม่อาบน้ำแทบทุกวันเธอกลัวว่าลูกของเธอจะแพ้มลพิษที่ชายหนุ่มออกไปทำงานแล้วต้องเจออยู่ทุกวันเพราะลูกสาวของเธอเคยแพ้มาแล้วนะสิ
“ว้ายยย”
“อุ้มลูกไม่ได้อุ้มแม่แทนก็แล้วกัน”
มาคัสถึงกับชะงักและยกแขนของเขากลับทันทีเมื่อได้ยินเสียงของผู้เป็นภรรยาเขาเองก็ชอบลืมตัวอยู่เรื่อยเพราะความคิดถึงลุกจะให้เขาทำยังไงได้ล่ะเมื่อเห็นว่าอุ้มลุกไม่ได้เขาก็เปลี่ยนมาเป็นอุ้มหญิงสาวแทนเขาจงใจแกล้งเธอเพราะว่าเธอชอบสั่งเขานัก
“หวานกันจังเลยนะคะ”
ดาวลดาหลังจากที่แต่งงานกับแดเนียลที่เมืองไทยแล้วเธอก็ย้ายไปอยู่ที่อิตาลีกับสามีของเธอเป็นการถาวรแต่เธอก็กลับมาที่เมืองไทยเป็นระยะๆวันนี้ก็เช่นกันหญิงสาวคิดถึงหลานสาวตัวน้อยของเธอจึงมาหาเมื่อเข้ามาในบ้านก็เห็นทั้งสองกำลังหยอกล้อกันเล่นหวานซะจนน่าอิจฉาเธอเลยอดแซวไม่ได้
“อ้าวน้องดาวจะมาทำไมไม่บอกพี่ก่อน”
มาคัสรีบวางภรรยาของเขาลงพร้อมหันมาทักทายหนุ่มสาวทั้งสองทันที
“บอกก่อนคงไม่มาเห็นฉากหวานๆแบบนี้ล่ะมั้งคะ”
“อีกไม่นานคงจะมีน้องให้ยัยหนูเมนี่ละมั้ง”
ทั้งดาวลดาและแดเนียลยังไม่เลิกแซวมาคัสและน้ำเมยที่ความรักยังหวานชื่นกันเหมือนพึ่งจีบกันใหม่ๆไม่เกรงใจยัยหนูเมนี่ที่นอนอยู่ในเปลเลย
“แอร๊...แอ้...”เด็กหญิงที่นอนกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ในเปลสีชมพูส่งเสียงทักทายคนมาใหม่ราวกับอยากที่จะร่วมวงสนธนาด้วย“ว่าไงจ้ะสาวน้อย...อาซื้อชุดสวยมาฝากเพียบเลยนะคะ...เราไปดูชุดสวยกันดีกว่าเนอะ”“แอร๊...อร้า..คิกๆๆ”ดาวลดาอุ้มหลานสาวของเธอออกมาจากเปลเด็กพร้อมไปนั่งที่โซฟาเล่นกันกับหลานสองคนอย่างไม่สนใจใครแล้วในตอนนี้เพราะว่าเธอคิดถึงมาก“น้องดาวท่าทางน่าจะเลี้ยงเด็กเป็นแล้วนะ...นายไม่คิดจะมีลูกบ้างเหรอ”มาคัสเห็นว่าทั้งสองแต่งงานกันมาตั้งนานแล้วก็ก็ไม่ยักจะเห็นมีลูกเสียทีและเขาก็เห็นว่าดาวลดาเองก็มีความพร้อมที่จะเป็นแม่คนมากแล้วด้วย“ใครว่าไม่อยากมีล่ะแต่ยังไม่มามากกว่าฉันเองให้หมอตรวจดูแล้วนะหมอบอกว่าร่างกายของดาวยังอ่อนแอคงต้องรอให้เธอแข็งแรงอีกนิดตอนนี้ชั้นก็พยายามบำรุงเธอทุกอย่างเลย”แดเนียลตอบมาคัสไปด้วยแววตาที่เศร้าหมองแต่เขาก็ยังพยายามฝืนยิ้มเขาเองอยากจะมีลูกใจจะขาดแต่ก็ต้องดูสุขภาพภรรยาของเขาด้วยตอนนี้เขาคิดว่าถ้าภรรยาเขาแข็งแรงเมื่อไรลุกก็คงจะมาเองตอนนี้เขาก็พยายามบำรุงหญิงสาวสุดขีด“จริงสิ...น้องดาวป่วยบ่อยตั้งแต่เด็กๆแล้วยังไงฉันก็เอาใจช่วยนายนะฉันไปอาบน้ำก่อนเชิญนายตามสบาย
โรงแรมXXX08.00น.“อุ้ปป...แหวะ...”น้ำเมยมาถึงที่ทำงานได้สักพักก็เกิดอาการเวียนหัวคลื่นไส้ขึ้นมาดื้อๆเสียอย่างนั้นทำเอาเธอวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทันเธอไม่คิดว่าอาการที่เป็นตอนที่ตื่นนอนมันจะยังไม่หาย“โอเคไหมแก...นี่ฉันว่าวันนี้เลิกงานแล้วไปหาหมอหน่อยเถอะ”อิงฟ้าเห็นเพื่อนสาวของเธอคลื่นไส้อาเจียนอยู่บ่อยๆเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วและดูว่าอาการมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยเธอเองบอกให้น้ำเมยไปหาหมอหลายครั้งแล้วแต่หญิงสาวก็กลัวว่ามันจะเสียงานเสียเงินเสียเวลาจนเธอเห็นท่าไม่ดีแล้วยังไงวันนี้เธอก็ต้องลากเพื่อนของเธอไปให้หมอตรวจให้ได้อิงฟ้าและน้ำเมยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆพึ่งจะมาแยกย้ายกันตอนเรียนจบ ม.6 เพราะว่าอิงฟ้าต้องมาเรียนต่ออยู่ที่กรุงเทพกับแม่ส่วนน้ำเมยหลังจากจบ ม.6 แล้วก็ไม่ได้เรียนต่ออีกเลยเพราะหญิงสาวเองอยู่กับยายเพียงสองคนและยายของเธอก็มีอาชีพเพียงแค่ขายขนมหวานเธอจึงไม่อยากสร้างภาระให้กับยายของเธออีกอย่างยายของน้ำเมยเองก็แก่มากแล้วหญิงสาวจึงตัดสินใจให้ยายของเธอพักแล้วเธอเองเป็นคนมาขายแทนจนวันนึงยายของน้ำเมยเสียหญิงสาวจึงเหลือตัวคนเดียวจนอยู่มาวันหนึ่งหญิงสาวได้พบกับชายหนุ่มแปลกหน
“หมูหยอง”หญิงสาวรู้สึกใจเต้นแรงเธอเห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะเดินเข้าไปในโรงแรมแล้วเธอเองกำลังจะก้าวขาเดินตามแต่เธอกลับล้มฟุบลงไปกับพื้นเสียก่อน“น้ำเมยย...”อิงฟ้าถึงกับหน้าเสียที่จู่ๆน้ำเมยก็เป็นลมล้มพับอยู่ข้างๆเธอจึงรีบประคองเพื่อนสาวของเธอขึ้นมาเอาไว้อย่างหลวมๆแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรเพราะกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจของคนอื่นและเพื่อนเธอก็จะโดนตำหนิไปด้วยว่าร่างกายไม่พร้อมแล้วยังฝืนมาทำงานเพราะที่นี่ถือเป็นกฎเหล็กข้อห้ามว่าถ้าพนักงานไม่ไหวให้แจ้งหัวหน้าลาได้ทันทีห้ามฝืนทำงานโดยเด็ดขาดเพราะผลงานที่ออกมาก็จะดูป่วยตามคนทำไปด้วย“ผมว่าพนักงานที่นี่น่าจะรู้กฎกันดีอยู่นะ”มาคัสมองเพียงหางตาก็รู้ว่ามีคนกำลังล้มลงถึงพนักงานด้านหน้าจะยืนเรียงรายกันอยู่ก็เถอะแต่ด้วยความสูงของระดับสายตาของเขาเองสามารถเห็นได้ทั่วถึงอยู่แล้วชายหนุ่มเดินหันหลังกลับมาทางที่หญิงสาวกำลังเป็นลมพนักงานทุกคนต่างหลีกทางให้กับเขาโดยอัตโนมัติเพราะรับรู้ได้ถึงอาการน้ำนิ่งไหลลึกของเขา“พาเธอไปที่ห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้”“ค่ะๆ...”ตอนนี้อิงฟ้าหน้าซีดเป็นไก่ต้มเพราะเห็นว่าตอนนี้ทุกคนมองมาทางเธอและเพื่อนสาวของเธอที่เป็นลมอยู่เป็นตาเดียวอีกท
“หายไวๆนะคะ”ดาวลดาเห็นว่าพนักงานที่โรงแรมป่วยด้วยความที่อัธยาศัยและจิตใจดีของเธอเลยอวยพรให้หญิงสาวหายป่วยไวๆพร้อมทั้งยังส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวทั้งสองและเดินออกไปจากห้องพร้อมชายหนุ่มทิ้งให้น้ำเมยนั่งปวดหัวใจอยู่ในห้องกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อครู่“ฮึกๆๆ...”“แกเอ้ยย...ดีนะที่บอสเค้าไม่โกรธแกอะ...เค้าไม่ได้ชื่อหมูหยองนั่นคือท่านประธานใหญ่ที่เราเจอเมื่อเช้าไงแล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็คือคู่หมั้นของเขา”อิงฟ้าเองก็ยังคิดว่าที่เพื่อนของเธอไปเรียกชายหนุ่มว่าหมูหยองอะไรนั่นเพราะเป็นอาการเบลอจากอาการป่วยหญิงสาวโล่งใจที่ท่านประธานหนุ่มไม่ได้โกรธอะไรพร้อมทบทวนให้เพื่อนสาวของเธอฟังอีกรอบว่าทั้งสองคนเมื่อครู่เป็นใครเผื่อเพื่อนเธอจะมีสติขึ้นมาบ้าง“คู่หมั้นเหรอ..ฮือๆๆ..ฮึก..ฮืออ”น้ำเมยได้ยินว่าผู้หญิงคนเมื่อครู่ที่ท่าทางสนิทสนมกับชายหนุ่มเป็นใครเธอก็กลั้นเสียงสะอึกสะอื้นเอาไว้ไม่ได้เธออยากให้ตอนนี้มันเป็นแค่ฝันไม่ใช่เรื่องจริงเหลือเกินเพราะตอนนี้เธอยังทำใจยอมรับเรื่องที่ชายหนุ่มจำเธอไม่ได้แถมตอนนี้เขายังควงกับคู่หมั้นหน้าตาชื่นมื่นอีกต่างหาก“ฉันว่าเราไปให้หมอตรวจแกจะดีกว่า..ฉันคิดว่าอาการแกคงหนักแล
“เค้าชื่อว่าหมูหยองเป็นชื่อที่ฉันตั้งให้เค้าเองคือที่ฉันบอกไม่รู้จักคือตอนที่ฉันเจอเค้าความจำของเขาเสื่อมฉันเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ในเมื่อเขายังจำอะไรไม่ได้ฉันเลยให้เค้าอยู่กับฉันไปก่อนแต่พอนานวันเข้าที่ทำให้ฉันรักเค้าคือความห่วงใยความใส่ใจความดีและความรักที่เค้ามีให้ฉันมันทำให้ฉันมอบทั้งตัวและหัวใจให้เค้าไปหมดแล้วแต่วันนึงเขาก็หายตัวไปฉันตามหาเท่าไรก็หาไม่เจอจนตอนนี้ฉันคิดว่าเค้าตายไปแล้วด้วยซ้ำแต่วันนี้.....ช่างมันเถอะเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”น้ำเมยเล่าจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนสาวของเธอที่ตอนนี้นั่งอ้าปากพร้อมทำสีหน้าเศร้าตามเรื่องที่เธอเล่าเธอเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้น้ำเมยเองตั้งใจไว้ว่าจะเล่าเพียงแค่นี้เพราะเธอไม่อยากพาดพิงถึงชายหนุ่มอีกแล้ววันนี้เธอรู้สถานะของเขาแล้วว่าเขาและเธออยู่ห่างกันขนาดไหนตอนนี้ใจของเธอคิดว่าดีแล้วที่ชายหนุ่มจำเธอไม่ได้อีกอย่างชายหนุ่มก็มีคู่หมั้นที่เหมาะสมกันอยู่แล้วอีกต่างหากในเมื่อโชคชะตามันพาเธอเดินมาทางนี้ถึงแม้เธอจะน้อยใจในโชคชะตาบ้างแต่เธอก็พร้อมจะยอมรับมันละจะเลี้ยงลูกของเธอคนเดียวให้ดีที่สุดอย่างน้อยเธอก็มีหนึ่งสิ่งที่อยู่ในตัวเธอเป็นตัวแทนความรัก
“ห๊า....คนนี่...เลือดเต็มเลยยย...ตายหรือยังเนี่ยย”หญิงสาวเดินไปแหวกพงหญ้าดูด้วยแสงอาทิตย์ที่เริ่มส่องมาแล้วทำให้เธอเห็นว่าสิ่งที่เจ้าขาวตามให้เธอมาถึงที่นี่เพื่อที่จะเธอมาดูคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ตรงนี้หญิงสาวเองตอนนี้นั่งมองร่างชายหนุ่มที่นอนหงายใบหน้าและศรีษะมีแต่เลือดอยู่เธอไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าจึงเอื้อมมือจับชีพจรของเขาดูอย่างกล้าๆกลัวๆ“ยังไม่ตายนี่...”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มที่นอนจมกองเลือดอยู่เขายังมีชีวิตอยู่เธอจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวของเขาไปรักษาอย่างเร็วที่สุดเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปโดนอะไรมาถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนี้โรงพยาบาลXXX“คุณเป็นญาติกับคนไข้หรือเปล่าคะ”“เอ่อ...คือฉันเป็นคนเจอเค้านอนสลบอยู่ที่ริมแม่น้ำน่ะค่ะ...ฉันไม่รู้จักเค้า”น้ำเมยตอบพยาบาลไปตามความจริงเพราะเธอพึ่งจะเจอชายหนุ่มนอนจมกองเลือดอยู่เมื่อเช้านี้เองแถมน่าตาท่าทางชายหนุ่มจะไม่ใช่คนแถวนี้อีกด้วยเพราะหน้าลูกออกลูกครึ่งเสียขนาดนั้นแถวที่เธออยู่คงไม่มี“งั้นเป็นไรค่ะ..เรื่องประวัติของคนไข้เดี๋ยวทางเราให้ทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”“ค่ะๆ”พยาบาลเห็นว่าตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะหาประวัติของคนไข้ได้และอ
“นี่คุณสี่วันแล้วนะที่คุณนอนนิ่งอยู่แบบนี้..ฟื้นได้แล้วฉันจะได้รู้ว่าคุณเป็นใครซะที”น้ำเมยนั่งลงอยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพร้อมนั่งพุดคุยกับเขาเป็นปกติแบบนี้ทุกวันถึงเธอจะรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้รับรู้สิ่งที่เธอพูดแต่เธอเองก็อยากจะพูดให้เขาฟังเป็นการคลายเหงากลายๆให้เธอนั่นเอง“คุณ..”หญิงสาวถึงกับเบิกตาโพรงขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่ามือของชายหนุ่มเริ่มขยับและเขาก็กำลังจะยกมันมากุมหัวของตัวเองอยู่เธอจึงรีบกดออดเรียกพยาบาลทันทีตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงมากที่เห็นว่าชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วทำให้เธอเริ่มมีความหวังในใจว่าเธอจะได้รู้เสียทีว่าเขาเป็นใครและบาดเจ็บจากอะไรมาดีไม่ดีเธอจะได้ช่วยเขาตามหาญาติให้มารับเขากลับไปอีกด้วยเมื่อหญิงสาวกดเรียกพยาบาลได้สักพักหมอก็เข้ามาตรวจอาการของชายหนุ่มทันทีตอนนี้หญิงสาวได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆเพราะไม่อยากไปรบกวนเวลาที่หมอตรวจชายหนุ่มอยู่“คุณยังเจ็บตรงไหนอยู่หรือเปล่าครับ”“คือ..ตอนนี้ผมปวดหัวนิดหน่อยครับ”“คุณชื่ออะไรจำได้ไหมครับ”หมอเริ่มตรวจอาการภายนอกของชายหนุ่มพร้อมกับลองถามคำขามของเขาเพื่อเชคอาการภายใน“เอ่อ..ผม...ผมไม่รู้”ตอนนี้สีหน้าชายหนุ่มดูมึนงงอยู่อย
“เอ่อ..พ่อหนุ่มทานหมดนี่ก็ต้องจ่ายเงินนะ”หญิงชราก็เพิ่งเคยเห็นว่าคนที่ทานไวทานเยอะก็วันนี้นี่แหละอย่างมากสองถึงสามห่อก็อิ่มแล้วสำหรับการทานข้าวเหนียวของคนทั่วไปจนลืมบอกชายหนุ่มไปว่าถ้าจะชิมเยอะขนาดนี้ก็ต้องจ่ายเงินแล้วเพราะหญิงชราก็มองไม่ออกว่าชายหนุ่มในชุดคนป่วยจะมีเงินจ่ายไหมเลยรีบพูดขึ้นมาเมื่อนึกขึ้นได้“เงินเหรอครับ..เอ่อ..ผม”ชายหนุ่มหยุดทานพร้อมทำหน้าครุ่นคิดถึงเรื่องเงินเพราะตั้งแต่เขาตื่นขึ้นมาก็มีแต่ตัวกับเสื้อผ้าในชุดผู้ป่วยเท่านั้นเอง“เอ่อ..คุณ”หลังจากที่หญิงสาวจัดการธุระของตัวเองเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินออกมาหาชายหนุ่มที่สวนหย่อมทันทีเธอเห็นว่าเขากำลังนั่งอยู่กับหญิงชราคนหนึ่งและเขาก็กำลังทานอะไรสักอย่างอย่างเอร็ดอร่อยอีกด้วยเธอจึงต้องรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างรวดเร็วเพราะตอนนี้ยังให้เขาทานอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้และตัวเขาเองก็คงยังไม่รู้ตัวด้วย“แม่หนูเป็นญาติของพ่อหนุ่มคนนี้ใช่ไหม...พอดีเขาทานไปข้าวเหนียวยายไปหลายห่อเลยจะ”หญิงชราทำหน้าเหมือนเกรงใจหญิงสาวเพราะมันเหมือนเธอมาหลอกขายของคนป่วยเสียหลายห่อแต่อันที่จริงหญิงชราคิดว่าชายหนุ่มคงจะทานเพียงแค่ห่อสองห่อเท่านั้นเอง