“ปล่อยดาวเดี๋ยวนี้พี่แดนดาวจะกลับห้อง”
ดาวลดาพยายามที่จะออกไปจากอ้อมกอดของชายหนุ่มเพราะเธอไม่ค่อยชอบสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไร
“ขอพี่อยู่แบบนี้สักพักได้ไหม...วันนี้พี่ไปจัดการกับคนที่มันทำร้ายเบลมา...พี่เกลียดมัน”
แดเนียลรู้สึกโหยหาอ้อมกอดของหญิงสาวอย่างมากตอนนี้เขาอยากเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เอได้ฟังว่าวันนี้เขาไปเจออะไรมาและเขารู้สึกอย่างไรเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากที่จะคุยกับเธอแต่ที่เขารู้คือเขารู้สึกสบายใจเมื่อเขาได้กลับมาเห็นใบหน้าหวานๆของเธอรอเขาอยู่ที่บ้านทุกวัน
“ดาวจะบอกพี่แดนเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ...ว่าการแก้แค้นมันไม่ส่งผลดีต่อฝ่ายใดเลยสักนิด”
ดาวลดาถึงกับถอนหายใจในความเจ้าคิดเจ้าแค้นของชายหนุ่มเธอรู้ว่าเขาโกรธที่มีคนทำกับน้องสาวของเขาแบบนั้นอันที่จริงก็ไม่ได้เป็นเพราะคนที่ทำร้ายเบลล่าเพียงฝ่ายเดียวแต่มันรวมกับเบลล่าหาทางออกโดยที่จะจบแบบนี้อีกด้วย
ที่จริงแล้วเธอเองก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเบลล่าที่เลือกทางนี้เพราะเธอคิดว่าถ้าหากเพื่อนสาวของเธอยอมสู้อีกสักนิดเธอว่าชีวิตของเพื่อนเธอตอนนี้คงจะมีแต่รอยยิ้มแน่นอนเพราะว่าเพื่อนสาวของเธอมีคนที่รักรออยู่มากขนาดนี้คนที่รักเธอจะทำให้เธอมีความสุขได้อย่างแน่นอนแต่มันก็ไม่ทันแล้ว
แดเนียลยังคงเงียบใส่หญิงสาวเพราะเขาเองรู้ว่าการแก้แค้นไม่ได้ส่งผลดีต่อใครเพราะตอนนี้ใจของเขาเองก็เป็นทุกข์เหมือนกันตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองหมดพลังยิ่งตัวเขาถลำลึกเรื่องนี้มากเท่าไรมันก็ทำให้เขาจมกับอดีตมากเท่านั้น
“เอ่อ...พี่แดนคะ...ที่ดาวรอพี่แดนกลับมาวันนี้เพราะดาวจะคุยเรื่องที่เมื่อไรพี่แดนจะส่งดาวกลับไทยล่ะคะ”
ดาวลดาพูดไปกลั้นน้ำตาของตัวเองไปเธอไม่รู้ว่าทำไมเธอต้องเสียใจกับคำพูดของเธอด้วยพูดตามหลักความจริงแล้วการที่เธอจะกลับเมืองไทยมันไม่ได้ยากสำหรับเธอเลยเพราะตอนนี้เอสามารถติดต่อกับใครก็ได้แต่ตัวเธอเองก็ยังรอคำตอบจากชายหนุ่มอยู่ว่าเขาต้องการจะให้เธอนั้นกลับไปเมื่อไรแค่นั้นเอง
“เรื่องนี้สินะที่ทำให้ดาวรอพี่...ที่ยอมพูดกับพี่ก็เพราะต้องการเรื่องนี้ใช่ไหม”
แดเนียลถึงกับใจห่อเหี่ยวโดยทันทีเมื่อรู้เหตุผลว่าหญิงสาวรอพูดกับเรื่องอะไรและวันนี้ที่จู่ๆหญิงสาวเข้ามาดูแลยอมพูดคุยกับเขาทั้งๆที่หลายวันมานี้เธอไม่อยากจะคุยและมองหน้าเขาด้วยซ้ำและนี่ก็คงจะเป็นเหตุผลเดียวกันที่ทำให้เธอต้องฝืนใจยอมพูดกับเขา
“เอ่อ...คือ...”
ดาวลดาถึงกับให้คำตอบไม่ถูกเพราะตอนนี้เธอเองทำไมเหมือนรู้สึกว่าชายหนุ่มกำลังเข้าใจเธอผิดล่ะเธอไม่ได้ยอมพูดกับเขาเพราะแค่เรื่องนี้ซะหน่อยเขาต่างหากที่ไม่ยอมมาพูดมาคุยกับเธอเองนี่นา
“อื้มมมม”
แดเนียลดึงตัวหญิงสาวนอนลงที่เตียงของเขาพร้อมบดจูบหญิงสาวอย่างดูดดื่มแตกต่างจากครั้งแรกที่เขาจูบเธอชายหนุ่มทำตามความต้องการของหัวใจตัวเองโดยไม่สนว่ามันจะถูกหรือผิดแต่เขารู้สึกว่าเขาไม่อยากให้เธอไปต่อไปนี้เขาจะไม่กลัวอีกแล้วและตั้งใจไว้ว่ายังไงเขาก็จะต้องรับผิดชอบในตัวของหญิงสาว
“อื้ออ..”
ดาวลดาเองยังดิ้นร้องท้วงชายหนุ่มเธอไม่เข้าใจว่าเขาจะทำแบบนี้กับเธออีกทำไมทั้งๆที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเลยสักนิด
ปั้กกๆๆ เพี๊ยยยะ
“ทำบ้าอะไรของพี่...ดาวไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของพี่แดนนะ”
ดาวลดาผลักชายหนุ่มออกจากตัวของเธอพร้อมตบหน้าเขาไปหนึ่งฉาดเป็นการเรียกสติของเขากลับมา
“พี่ไม่ให้ดาวไป...พี่ไม่อยากให้ดาวกลับไป...อยู่กับพี่ที่นี่นะ”
แดเนียลยังคงกอดหญิงสาวไม่ปล่อยพร้อมทั้งบอกถึงความในใจของเขาที่เขานั้นไม่อยากให้เธอกลับไปหัวใจของเขามันคงปล่อยเธอไปไม่ได้ยิ่งรู้ว่าถ้าเธอกลับไปแล้วเธอจะต้องไปแต่งงานกับคนอื่นเขาทนไม่ได้แน่มันไม่ใช่เพราะหวงก้างแต่เพราะเขาพึ่งรู้ว่าหัวใจของเขามันอยู่ที่เธอไปแล้ว
“ทำไม”
ดาวลดาเองรู้สึกว่าคำที่เขาร้องขอให้เธออยู่ต่อนั้นทำให้ในใจของเธอยิ้มได้แต่เธอเองแค่อยากที่จะฟังเหตุผลจากเขาว่าทำไมถึงขอร้องให้เธออยู่ต่อ
“พี่ไม่ยอมให้หัวใจของพี่มันหนีพี่ไปไหนหรอก”
แดเนียลจ้องหน้าหญิงสาวพร้อมตอบคำถามที่เธออยากรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ยอมให้เธอกลับไปเขายอมเป็นคนเห็นแก่ตัวในสายตาของเธอแต่ตอนนี้เขาปล่อยเธอไปไม่ได้จริงๆ
“อื้ออ”
ในขณะที่หญิงสาวยังมีสีน้าที่นิ่งเฉยเดาใจไม่ออกอยู่นั้นแดเนียลเองก็ทนฟังเสียงเรียกร้องจากหัวใจของเขาไม่ไหวอีกต่อไปชายหนุ่มบรรจงจูบหญิงสาวอย่างนุ่มนวลครั้งนี้ไม่มีเสียงร้องท้วงจากหญิงสาวอีกต่อไปเธอยอมอ่อนให้เขาโดยง่ายเพราะตอนนี้ทั้งตัวและหัวใจของเธอมันเป็นของเขาไปตั้งนานแล้ว
บทรักของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างนุ่มนวลเป็นที่น่าประทับใจของหญิงสาวสัมผัสของชายหนุ่มที่แตกต่างจากครั้งแรกที่เธอได้รับมันทำให้เธอมีความสุขจนลืมครั้งนั้นไปเสียสนิทตอนนี้บนเตียงของชายหนุ่มอบอวลไปด้วยความรักที่ทั้งสองต่างมอบให้กันและกันเนิ่นนานเสียจนหญิงสาวหลับคาอ้อมอกของชายหนุ่มพร้อมเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเปี่ยมสุข
เช้าวันต่อมา
“พี่แดนมานั่งทำอะไรที่นี่คะ”
ดาวลดาตื่นมานช่วงสายเกือบเที่ยงเพราะเมื่อคืนเธอเองกว่าจะได้นอนก็เกือบจะรุ่งสางหญิงสาวตื่นมาไม่เจอชายหนุ่มไม่เจอชายหนุ่มเธอเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะวันนี้เขาน่าจะออกไปทำงานแล้ว
ช่วงสายเมื่อเธออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเธอกะว่าจะไปหาหนังสืออ่านแก้เบื่อเสียหน่อยเมื่อเข้ามาในห้องก็เห็นว่าชายหนุ่มกำลังนั่งอยู่ในห้องหนังสือเธอจึงแปลกใจว่าเขามัวมานั่งทำอะไรที่นี่ทั้งที่วันนี้น่าจะเป็นวันทำงานของเขาไม่ใช่เหรอ
“ตื่นแล้วเหรอ...มานี่สิพี่มีอะไรให้ดูด้วย”
แดเนียลส่งยิ้มให้หญิงสาวพร้อมเดินมากอดเธอจากด้านหลังในมือของเขามีสมุดไดอารี่สีหวานเล่มเล็กอยู่ในมืออีกด้วย
“ถ้าดาวเดาไม่ผิดน่าจะเป็นไดอารีของเบลใช่ไหมคะ”ดาวลดาจำได้ว่าเบลลล่าจะชอบเขียนไดอารี่แทบจะทุกวันแถมยังมีหลายๆเล่มที่เป็นสีเดียวกันรูปแบบเดียวกันอีกด้วยเธอเห็นไดอารี่ในมือของชายหนุ่มมันทำให้เธอจำได้ทันทีว่าน่าจะเป็นของเพื่อนสาวเธอ“อืมม.เล่มนี้.เบลเขียนเกี่ยวกับตัวเธอและก็เพื่อนรักของเธอไว้อย่างละเอียดเลยหละ”แดเนียลกระซิบข้างหูของหญิงสาวว่ามันถูกต้องแบบที่เธอคิดและในไดอารี่ของน้องสาวของเขามันก็ทำให้เขาได้รู้เรื่องราวอะไรมากมายที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย“อืมม..ละเอียด..เลย..เหรอคะ”ดาวลดารู้สึกหน้าร้อนผ่าวถ้าในไดอารี่มันเขียนละเอียดแสดงว่าตอนนี้ชายหนุ่มก็ต้องรู้ความลับของเธอแล้วล่ะสิ“เก่งนะเราปิดพี่ได้ตั้งนาน...แถมของขวัญวันวาเลนไทน์กับวันเกิดที่ส่งมาให้พี่ทุกปีก็เป็นฝีมือเราเองสินะ”แดเนียลเองสงสัยอยู่ตั้งนานว่าใครจะรู้วันเกิดของเขานอกเสียจากคนในครอบครัววันนี้มันทำให้เขารู้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นใครเขายอมรับในหัวใจของหญิงสาวจริงๆที่ปกปิดความรู้สึกของตัวเองได้นานอย่างนี้ นี่ถ้าเกิดว่าหญิงสาวยอมบอกความในใจกับเขาตั้งแต่ตอนนั้นป่านี้เขาอาจจะขอเธอแต่งงานไปแล้วก็ได้เพราะว่าในต
“เดี๋ยวพ่อจะดูฤกษ์แต่งที่เร็วที่สุดให้แล้วกันนะเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง”“ครับคุณพ่อ”“หืมม...ฤกษ์แต่ง”ดาวลดาถึงกับทำหน้างงที่จู่ๆทั้งสองดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียอย่างนั้นตอนนี้เธอรู้สึกสับสนไปหมดแล้วอันที่จริงดนัยเองก็รู้สึกโกรธมากในครั้งแรกที่รู้เรื่องแต่พอมองเรื่องราวอย่างที่เขาเคยอาบน้ำร้อนมาก่อนเขาถือว่าชายหนุ่มมีความรับผิดชอบและใจถึงมากเลยทีเดียวที่กล้าเข้ามาพูดต่อหน้าเขาอย่างไม่ยำเกรงและที่เขายอมยกลูกสาวสุดที่รักให้ชายหนุ่มไปง่ายๆไม่ใช่เพราะว่าทั้งคู่เสียกันไปแล้วแต่เป็นเพราะว่าเขามองออกว่าลูกสาวของเขามีความสุขและยิ้มด้วยหัวใจเมื่ออยู่กับชายหนุ่มและเขารู้ดีว่าชายหนุ่มทำเรื่องแบบนี้ไปเพราะความเข้าใจผิดและยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายอีกอย่างเขาก็พร้อมที่จะยกลูกสาวของเขาให้ก็เพราะว่าเขารู้ว่าถ้าลูกสาวของเขาแต่งงานกับชายหนุ่มไปชีวิตของเธอไม่ลำบากแน่นอนเพราะชื่อเสียงของชายหนุ่มในแวดวงธุรกิจถือว่ารู้จักกันดีในฐานะนักธุรกิจหนุ่มที่เก่งและโปรไฟล์ดีอยู่ไม่น้อยคนเป็นพ่อออย่างเขาคงไม่ต้องห่วงอะไรมาก“ร้ายนักนะพี่แดนที่ทำให้พ่อดาวใจอ่อนได้”ดาวลดาอดแซวชายหนุ่มไม่ได้ที่ไม่รู้เข้าไปคุยกับ
“แอร๊...แอ้...”เด็กหญิงที่นอนกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ในเปลสีชมพูส่งเสียงทักทายคนมาใหม่ราวกับอยากที่จะร่วมวงสนธนาด้วย“ว่าไงจ้ะสาวน้อย...อาซื้อชุดสวยมาฝากเพียบเลยนะคะ...เราไปดูชุดสวยกันดีกว่าเนอะ”“แอร๊...อร้า..คิกๆๆ”ดาวลดาอุ้มหลานสาวของเธอออกมาจากเปลเด็กพร้อมไปนั่งที่โซฟาเล่นกันกับหลานสองคนอย่างไม่สนใจใครแล้วในตอนนี้เพราะว่าเธอคิดถึงมาก“น้องดาวท่าทางน่าจะเลี้ยงเด็กเป็นแล้วนะ...นายไม่คิดจะมีลูกบ้างเหรอ”มาคัสเห็นว่าทั้งสองแต่งงานกันมาตั้งนานแล้วก็ก็ไม่ยักจะเห็นมีลูกเสียทีและเขาก็เห็นว่าดาวลดาเองก็มีความพร้อมที่จะเป็นแม่คนมากแล้วด้วย“ใครว่าไม่อยากมีล่ะแต่ยังไม่มามากกว่าฉันเองให้หมอตรวจดูแล้วนะหมอบอกว่าร่างกายของดาวยังอ่อนแอคงต้องรอให้เธอแข็งแรงอีกนิดตอนนี้ชั้นก็พยายามบำรุงเธอทุกอย่างเลย”แดเนียลตอบมาคัสไปด้วยแววตาที่เศร้าหมองแต่เขาก็ยังพยายามฝืนยิ้มเขาเองอยากจะมีลูกใจจะขาดแต่ก็ต้องดูสุขภาพภรรยาของเขาด้วยตอนนี้เขาคิดว่าถ้าภรรยาเขาแข็งแรงเมื่อไรลุกก็คงจะมาเองตอนนี้เขาก็พยายามบำรุงหญิงสาวสุดขีด“จริงสิ...น้องดาวป่วยบ่อยตั้งแต่เด็กๆแล้วยังไงฉันก็เอาใจช่วยนายนะฉันไปอาบน้ำก่อนเชิญนายตามสบาย
โรงแรมXXX08.00น.“อุ้ปป...แหวะ...”น้ำเมยมาถึงที่ทำงานได้สักพักก็เกิดอาการเวียนหัวคลื่นไส้ขึ้นมาดื้อๆเสียอย่างนั้นทำเอาเธอวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทันเธอไม่คิดว่าอาการที่เป็นตอนที่ตื่นนอนมันจะยังไม่หาย“โอเคไหมแก...นี่ฉันว่าวันนี้เลิกงานแล้วไปหาหมอหน่อยเถอะ”อิงฟ้าเห็นเพื่อนสาวของเธอคลื่นไส้อาเจียนอยู่บ่อยๆเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วและดูว่าอาการมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยเธอเองบอกให้น้ำเมยไปหาหมอหลายครั้งแล้วแต่หญิงสาวก็กลัวว่ามันจะเสียงานเสียเงินเสียเวลาจนเธอเห็นท่าไม่ดีแล้วยังไงวันนี้เธอก็ต้องลากเพื่อนของเธอไปให้หมอตรวจให้ได้อิงฟ้าและน้ำเมยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆพึ่งจะมาแยกย้ายกันตอนเรียนจบ ม.6 เพราะว่าอิงฟ้าต้องมาเรียนต่ออยู่ที่กรุงเทพกับแม่ส่วนน้ำเมยหลังจากจบ ม.6 แล้วก็ไม่ได้เรียนต่ออีกเลยเพราะหญิงสาวเองอยู่กับยายเพียงสองคนและยายของเธอก็มีอาชีพเพียงแค่ขายขนมหวานเธอจึงไม่อยากสร้างภาระให้กับยายของเธออีกอย่างยายของน้ำเมยเองก็แก่มากแล้วหญิงสาวจึงตัดสินใจให้ยายของเธอพักแล้วเธอเองเป็นคนมาขายแทนจนวันนึงยายของน้ำเมยเสียหญิงสาวจึงเหลือตัวคนเดียวจนอยู่มาวันหนึ่งหญิงสาวได้พบกับชายหนุ่มแปลกหน
“หมูหยอง”หญิงสาวรู้สึกใจเต้นแรงเธอเห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะเดินเข้าไปในโรงแรมแล้วเธอเองกำลังจะก้าวขาเดินตามแต่เธอกลับล้มฟุบลงไปกับพื้นเสียก่อน“น้ำเมยย...”อิงฟ้าถึงกับหน้าเสียที่จู่ๆน้ำเมยก็เป็นลมล้มพับอยู่ข้างๆเธอจึงรีบประคองเพื่อนสาวของเธอขึ้นมาเอาไว้อย่างหลวมๆแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรเพราะกลัวว่าจะเป็นจุดสนใจของคนอื่นและเพื่อนเธอก็จะโดนตำหนิไปด้วยว่าร่างกายไม่พร้อมแล้วยังฝืนมาทำงานเพราะที่นี่ถือเป็นกฎเหล็กข้อห้ามว่าถ้าพนักงานไม่ไหวให้แจ้งหัวหน้าลาได้ทันทีห้ามฝืนทำงานโดยเด็ดขาดเพราะผลงานที่ออกมาก็จะดูป่วยตามคนทำไปด้วย“ผมว่าพนักงานที่นี่น่าจะรู้กฎกันดีอยู่นะ”มาคัสมองเพียงหางตาก็รู้ว่ามีคนกำลังล้มลงถึงพนักงานด้านหน้าจะยืนเรียงรายกันอยู่ก็เถอะแต่ด้วยความสูงของระดับสายตาของเขาเองสามารถเห็นได้ทั่วถึงอยู่แล้วชายหนุ่มเดินหันหลังกลับมาทางที่หญิงสาวกำลังเป็นลมพนักงานทุกคนต่างหลีกทางให้กับเขาโดยอัตโนมัติเพราะรับรู้ได้ถึงอาการน้ำนิ่งไหลลึกของเขา“พาเธอไปที่ห้องพยาบาลเดี๋ยวนี้”“ค่ะๆ...”ตอนนี้อิงฟ้าหน้าซีดเป็นไก่ต้มเพราะเห็นว่าตอนนี้ทุกคนมองมาทางเธอและเพื่อนสาวของเธอที่เป็นลมอยู่เป็นตาเดียวอีกท
“หายไวๆนะคะ”ดาวลดาเห็นว่าพนักงานที่โรงแรมป่วยด้วยความที่อัธยาศัยและจิตใจดีของเธอเลยอวยพรให้หญิงสาวหายป่วยไวๆพร้อมทั้งยังส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวทั้งสองและเดินออกไปจากห้องพร้อมชายหนุ่มทิ้งให้น้ำเมยนั่งปวดหัวใจอยู่ในห้องกับภาพตรงหน้าที่เห็นเมื่อครู่“ฮึกๆๆ...”“แกเอ้ยย...ดีนะที่บอสเค้าไม่โกรธแกอะ...เค้าไม่ได้ชื่อหมูหยองนั่นคือท่านประธานใหญ่ที่เราเจอเมื่อเช้าไงแล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้ก็คือคู่หมั้นของเขา”อิงฟ้าเองก็ยังคิดว่าที่เพื่อนของเธอไปเรียกชายหนุ่มว่าหมูหยองอะไรนั่นเพราะเป็นอาการเบลอจากอาการป่วยหญิงสาวโล่งใจที่ท่านประธานหนุ่มไม่ได้โกรธอะไรพร้อมทบทวนให้เพื่อนสาวของเธอฟังอีกรอบว่าทั้งสองคนเมื่อครู่เป็นใครเผื่อเพื่อนเธอจะมีสติขึ้นมาบ้าง“คู่หมั้นเหรอ..ฮือๆๆ..ฮึก..ฮืออ”น้ำเมยได้ยินว่าผู้หญิงคนเมื่อครู่ที่ท่าทางสนิทสนมกับชายหนุ่มเป็นใครเธอก็กลั้นเสียงสะอึกสะอื้นเอาไว้ไม่ได้เธออยากให้ตอนนี้มันเป็นแค่ฝันไม่ใช่เรื่องจริงเหลือเกินเพราะตอนนี้เธอยังทำใจยอมรับเรื่องที่ชายหนุ่มจำเธอไม่ได้แถมตอนนี้เขายังควงกับคู่หมั้นหน้าตาชื่นมื่นอีกต่างหาก“ฉันว่าเราไปให้หมอตรวจแกจะดีกว่า..ฉันคิดว่าอาการแกคงหนักแล
“เค้าชื่อว่าหมูหยองเป็นชื่อที่ฉันตั้งให้เค้าเองคือที่ฉันบอกไม่รู้จักคือตอนที่ฉันเจอเค้าความจำของเขาเสื่อมฉันเป็นคนช่วยเขาเอาไว้ในเมื่อเขายังจำอะไรไม่ได้ฉันเลยให้เค้าอยู่กับฉันไปก่อนแต่พอนานวันเข้าที่ทำให้ฉันรักเค้าคือความห่วงใยความใส่ใจความดีและความรักที่เค้ามีให้ฉันมันทำให้ฉันมอบทั้งตัวและหัวใจให้เค้าไปหมดแล้วแต่วันนึงเขาก็หายตัวไปฉันตามหาเท่าไรก็หาไม่เจอจนตอนนี้ฉันคิดว่าเค้าตายไปแล้วด้วยซ้ำแต่วันนี้.....ช่างมันเถอะเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”น้ำเมยเล่าจบเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนสาวของเธอที่ตอนนี้นั่งอ้าปากพร้อมทำสีหน้าเศร้าตามเรื่องที่เธอเล่าเธอเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้น้ำเมยเองตั้งใจไว้ว่าจะเล่าเพียงแค่นี้เพราะเธอไม่อยากพาดพิงถึงชายหนุ่มอีกแล้ววันนี้เธอรู้สถานะของเขาแล้วว่าเขาและเธออยู่ห่างกันขนาดไหนตอนนี้ใจของเธอคิดว่าดีแล้วที่ชายหนุ่มจำเธอไม่ได้อีกอย่างชายหนุ่มก็มีคู่หมั้นที่เหมาะสมกันอยู่แล้วอีกต่างหากในเมื่อโชคชะตามันพาเธอเดินมาทางนี้ถึงแม้เธอจะน้อยใจในโชคชะตาบ้างแต่เธอก็พร้อมจะยอมรับมันละจะเลี้ยงลูกของเธอคนเดียวให้ดีที่สุดอย่างน้อยเธอก็มีหนึ่งสิ่งที่อยู่ในตัวเธอเป็นตัวแทนความรัก
“ห๊า....คนนี่...เลือดเต็มเลยยย...ตายหรือยังเนี่ยย”หญิงสาวเดินไปแหวกพงหญ้าดูด้วยแสงอาทิตย์ที่เริ่มส่องมาแล้วทำให้เธอเห็นว่าสิ่งที่เจ้าขาวตามให้เธอมาถึงที่นี่เพื่อที่จะเธอมาดูคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ตรงนี้หญิงสาวเองตอนนี้นั่งมองร่างชายหนุ่มที่นอนหงายใบหน้าและศรีษะมีแต่เลือดอยู่เธอไม่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่าจึงเอื้อมมือจับชีพจรของเขาดูอย่างกล้าๆกลัวๆ“ยังไม่ตายนี่...”หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มที่นอนจมกองเลือดอยู่เขายังมีชีวิตอยู่เธอจึงรีบโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวของเขาไปรักษาอย่างเร็วที่สุดเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปโดนอะไรมาถึงได้มีสภาพเป็นเช่นนี้โรงพยาบาลXXX“คุณเป็นญาติกับคนไข้หรือเปล่าคะ”“เอ่อ...คือฉันเป็นคนเจอเค้านอนสลบอยู่ที่ริมแม่น้ำน่ะค่ะ...ฉันไม่รู้จักเค้า”น้ำเมยตอบพยาบาลไปตามความจริงเพราะเธอพึ่งจะเจอชายหนุ่มนอนจมกองเลือดอยู่เมื่อเช้านี้เองแถมน่าตาท่าทางชายหนุ่มจะไม่ใช่คนแถวนี้อีกด้วยเพราะหน้าลูกออกลูกครึ่งเสียขนาดนั้นแถวที่เธออยู่คงไม่มี“งั้นเป็นไรค่ะ..เรื่องประวัติของคนไข้เดี๋ยวทางเราให้ทางตำรวจตรวจสอบอีกทีค่ะ”“ค่ะๆ”พยาบาลเห็นว่าตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะหาประวัติของคนไข้ได้และอ