“ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า...ที่แผลยังเจ็บอยู่ไหม”
เมื่อเห็นว่าดาวลดาดูโอเคขึ้นแล้วเขาจึงถามอาการของเธอว่าเป็นยังไงบ้างด้วยความเป็นห่วงแต่เขาก็ได้รับแต่ความเงียบกลับมาจากหญิงสาวอีกทั้งเธอยังนอนตะแคงหันหลังให้เขาอีกด้วยเขารู้ว่าหญิงสาวคงจะโกรธเขามากซึ่งเขาก็ทำใจยอมรับในเรื่องนี้มาแล้ว
ดาวลดาเองตอนนี้เธอรู้สึกปวดหัวอยู่บ้างแต่ก็โอเคกว่าตอนที่ยังไม่ได้ทานยาเธอรู้ว่าชายหนุ่มคอยเช็ดตัวให้เธออยู่ตลอดแต่เธอเองไม่ได้สนใจอะไรเธอทำเหมือนเขาเป็นอากาศและหน้าของเขาตอนนี้เธอก็ไม่อยากจะมองมันด้วยเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มมาทำดีกับเธอเพราะอะไรแต่เธอไม่ได้ต้องการมันทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนตบหัวแล้วมาลูบหลังอย่างไงอย่างงั้น
“ดาว...พี่ขอโทษ...พี่รู้แล้วว่าดาวกับมาคัสไม่ได้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เบลจบชีวิตตัวเองลง..พี่ขอโทษ”
แดเนียลนั่งก้มหน้ายอมรับผิดเขาพูดขอโทษหญิงสาวออกมาจากหัวใจอย่างไม่ถือศักดิ์ศรีของตัวเองลูกผู้ชายอย่างเขาเมื่อเขารู้ตัวว่าเขาทำผิดเขาก็ยอมรับผิดอยู่แล้วแต่คนที่เขาทำผิดด้วยนั้นจะให้อภัยเขาหรือเปล่านั่นมันก็สุดแล้วแต่
ดาวลดาค่อยๆหันมามองชายหนุ่มที่กำลังนั่งก้มหน้ายอมรับผิดอยู่เธอจ้องเขาด้วยสายตาที่สงสัยเล็กน้อยเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปรู้อะไรมาจากไหนถึงมาพูดกับเธอแบบนี้
“ตอนที่ดาวบอกพี่แดนไม่เห็นจะเชื่อดาว...ตอนนี้ทำไมเปลี่ยนใจล่ะคะ”
ดาวลดาอดที่จะประชดประชันชายหนุ่มไม่ได้ทั้งที่เธอเองก็ไม่ค่อยที่จะทำนิสัยแบบนี้ใส่ใครสักเท่าไรนักแต่มันอดไม่ได้จริงๆ
“พี่ขอโทษ...พี่มันโง่เอง...”
แดเนียลไม่รู้ว่าเขาต้องทำยังไงตอนนี้สิ่งที่ดีที่สุดที่เขาทำได้ก็น่าจะต้องขอโทษเธอก่อนเป็นอันดับแรกหลังจากนั้นหญิงสาวจะตบจะตีเขาหรือทำอะไรกับเขาชายหนุ่มจะไม่ว่าอะไรสักคำเพราะมันน่าจะไม่มีอะไรเทียบได้กับสิ่งที่เขาทำกับเธอ
ครั้นเขาจะขอรับผิดชอบในตัวของเธอหญิงสาวก็คงจะเกลียดขี้หน้าเขาจนไม่อยากจะเห็นหน้าเพราะอย่างนั้นคำว่ารับผิดชอบในตัวของเธอคำนี้เขาขอเก็บมันไว้ดีกว่าเพราะรู้ว่าหญิงสาวคงไม่อยากอยู่กับคนที่ทำเลวๆกับเธอไว้อย่างแน่นอน
ดาวลดาหมดคำจะพูดกับชายหนุ่มเพราะตอนนี้เธอรู้สึกจุกอยู่ที่อกที่ชายหนุ่มรังแกเธอจนตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรแล้วเขาให้เธอได้แค่คำว่าขอโทษอย่างนั้นหรือแล้วคำว่าขอโทษมันทำให้เธอทวงอะไรที่เธอต้องเสียไปกลับมาบ้างล่ะหญิงสาวได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลรินยอมรับในความโชคร้ายของตัวเองอยู่อย่างนั้น
“ดาวอยากกลับบ้าน...ปล่อยดาวไปเถอะ...ฮือๆๆ”
ดาวลดาพูดกับชายหนุ่มทั้งน้ำตาว่าเธออยากกลับบ้านอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีความหมายเพราะถึงเธอไม่ขอกลับเองเขาก็น่าจะส่งเธอกลับอยู่ดีเพราะฉะนั้นเธอขอเป็นคนพูดเองดีกว่า
หญิงสาวรู้สึกว่าหัวใจเธอตอนนี้มันส่งเสียงเรียกร้องแปลกๆสมองของเธอสั่งว่าเป็นสิ่งที่ถูกแล้วที่เธอจะต้องกลับแต่หัวใจของเธอมันกลับทำงานตรงข้ามกับสมอง เธอรู้สึกเจ็บหน่วงที่หัวใจเมื่อรู้ว่าตัวเองจะได้กลับเมืองไทยอันที่จริงใจใจของเธอมันอยากที่จะอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือหญิงสาวยังเฝ้าถามใจตัวเอง
หญิงสาวยังไม่เข้าใจตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงอยากอยู่ที่นี่ต่อเมื่อเธอเองก็รู้ว่าตัวเธอนั้นไม่ได้มีความหมายอะไรกับชายหนุ่มเลยสักนิดที่เธอมาที่นี่เพราะว่าเป็นเครื่องมือให้เขาแก้แค้นเท่านั้น เมื่อความจริงปรากฏเธอเองก็แค่ผู้หญิงที่ชายหนุ่มเห็นว่าเป็นแค่คนที่รู้จักคนเดียวเท่านั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษที่จะทำให้เขาต้องหันมาสนใจเธอสักหน่อยเธอควรที่จะเกลียดเขาที่ทำร้ายเธอถึงจะถูกแต่หัวใจดวงน้อยของเธอกลับเกลียดเขาไม่ลงเสียอย่างนั้น
“อืมม...ไว้ดาวหายดีแล้วค่อยว่ากัน...ดาวนอนพักเถอะพี่ไม่กวนแล้ว”
แดเนียลรู้ตัวว่าหญิงสาวคงจะไม่อยากที่จะเห็นหน้าของเขาแล้วเขาจึงต้องรีบขอตัวออกไปก่อนเพื่อที่จะให้เธอได้พักผ่อนอันที่จริงแล้วชายหนุ่มจะส่งเธอกลับตอนนี้เลยก็ได้เพราะเขาสามารถพาเธอกลับโดยเครื่องบินส่วนตัวได้แต่ทำไมหัวใจของเขามันสั่งให้ยังหาเหตุผลรั้งเธอเอาไว้เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทั้งที่ก็รู้ตัวอยู่ว่าหญิงสาวไม่อยากจะเห็นหน้าของเขาแต่เขาก็ยังทำเหมือนจะยัดเยียดความลำบากใจนี้ให้เธอ
ประเทศไทย
“เนียนยัยดาวได้บอกไหมว่าจะกลับวันไหน”
“เอ่อ...คุณหนูไม่ได้บอกอะไรเนียนเลยค่ะ”
ดนัยกลับบ้านมาหลังจากคืนนั้นที่ลูกสาวของเขาได้ออกจากบ้านไปเขาได้รับข้อความจากดาวลดาว่าเธอจะขอไปเที่ยวกับเพื่อนสักพักเท่านั้นเองแต่ก็ยังไม่ได้บอกกับเขาจะกลับวันไหนข้อความที่ส่งจากมือถือของดาวลดาไปให้ดนัยนั้นเป็นฝีมือของแดเนียลนั่นเอง
“ปกติยัยดาวไปไหนก็ต้องบอกกันก่อนทำแบบนี้ได้ที่ไหนกัน”
ดนัยบ่นลูกสาวอุกเพราะปกติแล้วเธอจะไปไหนจะต้องบอกก่อนยิ่งทำแบบนี้แถมติดต่อไม่ได้ด้วยเขายิ่งเป็นห่วง
“คุณดาวคงไม่อยากรบกวนคุณท่านน่ะค่ะ”
จำเนียนเองเห็นดนัยบ่นแบบนี้มาหลายวันเธอกลัวว่าคุณหนูของเธอกลับมาคงจะโดนว่าชุดใหญ่เธอจึงช่วยหาเหตุผลที่มันฟังดูขึ้นให้กับดนัยได้ฟัง
“เห้ออ...ให้มันได้อย่างนี้สิลูกสาวฉัน”
ปาย
06.30 น.
“ตื่นเร็วคุณอากาศกำลังดีเลย”
น้ำเมยกับมาคัสมาอยู่ที่ปายได้เป็นเวลาสี่ห้าวันแล้วเป็นความต้องการของมาคัสเองที่เขาอยากจะมาที่นี่เพราะว่าต้องการที่จะใช้เวลานี้รื้อฟื้นเรื่องราวให้เร็วที่สุดและมันก็เป็นผลดีต่อชายหนุ่มมากจริงๆเพราะเขาเริ่มที่จะจำอะไรได้มากมายหลายอย่างแล้วไม่ว่าจะผู้คนที่นี่ซึ่งเขาสามารถเรียกชื่อได้อย่างถูกต้องอีกด้วย วันนี้เป็นวันที่อากาศดีมากวันนึงด้วยความที่หญิงสาวตื่นเช้าเป็นประจำอยู่แล้วเธอเลยตื่นขึ้นมาเปิดหน้าต่างเพื่อรับลมพร้อมปลุกชายหนุ่มให้ตื่นอีกด้วยเพราะวันนี้เธอกะว่าจะพาเขาไปเดินเล่นที่ที่ยังไม่ได้พาไปสถานที่ที่ในตอนนั้นมันสำคัญกับเขาและเธอมาก
“เร็วๆสิคุณ”“รอผมด้วยสิ”กว่ามาคัสจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เป็นเวลาเกือบเจ็ดโมงกว่าน้ำเมยพาเขาเดินมายังริมแม่น้ำปายเธอพาเขามาจุดเดิมจุดที่เธอพบเขาในวันนั้นแถมสถานที่ตรงนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญกับเธอและเขาอย่างที่เธอไม่สามารถลืมลงอีกด้วยและเธอก็อยากให้เขาจำเรื่องราวของสถานที่ตรงนี้ได้เหมือนกัน“ห๊าา...สดชื่นมากเลย”น้ำเมยยืนหันหน้ามองอยู่ที่แม่น้ำพร้อมยืนสูดอากาศยามเช้าที่บริสุทธิ์พร้อมยืนลูบท้องนูนของตัวเองเป็นการรับพลังงานที่ดีส่งให้แก่ลูกของเธออีกด้วย“ทำอะไรอยู่อะคุณ...”น้ำเมยเห็นว่ามาคัสมัวแต่นั่งหันหลังทำอะไรอยู่ที่ตรงแนวพงหญ้าเธอจึงหันไปถามชายหนุ่มอย่างสงสัยเพราะแทนที่จะมายืนชมวิวดูบรรยากาศตรงที่เธอยืนอยู่“หัวหยอง...ทำไรอยู่..ฮ่าๆๆ”เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากชายหนุ่มเธอก็เลยเรียกชื่อของเขาแบบที่เธอเคยเรียกเวลาที่ล้อเล่นกับเขาพร้อมหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีตอนนี้เธอรู้ว่าเขาไม่ถือเวลาที่เธอเรียกเขาแบบนี้แล้วเพราะว่าชายหนุ่มเป็นคนบอกเองว่าเขาจำเรื่องราวแทบทั้งหมดได้แล้วทั้งเรื่องที่เธอดูแลเขาตอนที่อยู่โรงพยาบาลทั้งเรื่องที่เธอพาเขามาอยู่ที่นี่ด้วยกันวันๆเขาทำอะไรบ้างแต่เรื่องที
“แต่ว่า...”น้ำเมยรู้ว่าเรื่องที่ชายหนุ่มพูดถึงมันคือเรื่องอะไรและเธอก็ไม่คิดจะต่อต้านเขาอีกด้วยแต่เรื่องที่เธอต้องยกมาค้านเขาก็คือตอนนี้เธอยังมีลูกน้อยอยู่ในท้องถ้าเกิดว่าเธอจะยอมตามใจชายหนุ่มมันจะเป็นผลกระทบอะไรต่อลูกในท้องหรือเปล่าเท่านั้นเอง“ไม่เป็นไรถ้าคุณกังวลเรื่องนั้นผมศึกษามาแล้วมันไม่มีผลต่อลูกของเราแน่นอน”มาคัสรู้ว่าสิ่งที่หญิงสาวจะพูดคืออะไรเขาจึงแย่งเธอพูดก่อนเพราะว่าเขารู้วิธีการดีว่าต้องเซฟอย่างไรเพราะเขาพอจะปรึกษาหมอมาบ้างและเขาก็อ่านสาระความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเยอะแล้ว“อื้มมมม”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวส่งยิ้มให้เขาเป็นการอนุญาตแล้วชายหนุ่มจึงไม่รีรอเขาจู่โจมไปที่ริมฝีปากของเธออย่างหิวโหยจูบที่ดูดดื่มของเขาปลุกอารมณ์ของหญิงสาวได้ดียิ่งนักจูบนี้เองที่เขาโหยหามานานวันนี้เขาได้ครอบครองมันอีกครั้งตอนนี้ในหัวใจของเขามันมีความสุขจนแทบจะล้นทะลักออกมาแล้ว“อือ...อืมมมม”มือหนาของเขาค่อยๆสอดแรกเข้าไปบีบสองเต้างามของหญิงสาวที่อวบอิ่มและมีน้ำมีนวลเพราะว่ากำลังจะเป็นแม่คนมันช่างเต็มไม้เต็มมือของเขายิ่งนักชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเลื่อนริมฝีปากมาขบเม้มดูดคลึงสองเต้างามสลับกันไปมาจนเรี
“ยอมออกมาแล้วเหรอวะไอ้หมาลอบกัด”เมื่อแม็คคาเอลเห็นแดเนียลเดินออกมาจากห้องได้เขาก็ส่งเสียงด่าทอชายหนนุ่มอย่างเสียงดังเพราะตอนนี้เขาโมโหสุดขีดที่เสียรู้ให้กับแดเนียลจนได้“ฉันไม่ใช่หมา...และฉันก็ไม่เคยทำร้ายใครก่อน...เพราะแกคนเดียวที่ทำให้น้องสาวฉันต้องตาย”แดเนียลตอบกลับอันธพาลตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นเพราะเขาไม่อยากให้เขาเกิดอาการโมโหขึ้นมาเพราะเขาอาจจะพลั้งมือฆ่าคนได้เขาไม่อยากให้มือของเขาต้องแปดเปื้อนเลือดคนสกปรกอย่างแม็คคาเอล“น้องแกมันอยากโง่มาให้ฉันข่มขืนเองทำไมล่ะ”แม็คคาเอลเองยังไม่หยุดที่จะพูดยั่วโมโหอีกฝ่ายเพราะเรื่องนี้ทำให้เขานึกสะใจอยู่ไม่น้อยที่กระตุกต่อมของแดเนียลได้เขาเกลียดแดเนียลที่ทั้งเด่นและดีกว่าเขาไปเสียทุกอย่างแถมตอนนี้เขายิ่งเกลียดเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะแดเนียลทำให้เขาหมดตัวเหมือนหมาจนตรอก“หึ้ยยย...ไอ้สารเลว”ปลั้กกแดเนียลถึงขนาดฟิลขาดเมื่อแม็คคาเอลพูดถึงความเลวระยำที่ทำไว้กับน้องสาวของเขาชายหนุ่มพุ่งเข้าไปปล่อยหมัดใส่หน้าฝ่ายตรงข้ามอย่างหนักหน่วงและไม่มีความปราณีปลั้กก“ดีนะที่ฉลาดแล้วโง่อยู่ตั้งนาน”แม็คคาเอลเองก็ต่อยแดเนียลสวนกลับเหมือนกันแล้วก็ยังไม่พ้
“ปล่อยดาวเดี๋ยวนี้พี่แดนดาวจะกลับห้อง”ดาวลดาพยายามที่จะออกไปจากอ้อมกอดของชายหนุ่มเพราะเธอไม่ค่อยชอบสถานการณ์แบบนี้สักเท่าไร“ขอพี่อยู่แบบนี้สักพักได้ไหม...วันนี้พี่ไปจัดการกับคนที่มันทำร้ายเบลมา...พี่เกลียดมัน”แดเนียลรู้สึกโหยหาอ้อมกอดของหญิงสาวอย่างมากตอนนี้เขาอยากเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เอได้ฟังว่าวันนี้เขาไปเจออะไรมาและเขารู้สึกอย่างไรเขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงอยากที่จะคุยกับเธอแต่ที่เขารู้คือเขารู้สึกสบายใจเมื่อเขาได้กลับมาเห็นใบหน้าหวานๆของเธอรอเขาอยู่ที่บ้านทุกวัน“ดาวจะบอกพี่แดนเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ...ว่าการแก้แค้นมันไม่ส่งผลดีต่อฝ่ายใดเลยสักนิด”ดาวลดาถึงกับถอนหายใจในความเจ้าคิดเจ้าแค้นของชายหนุ่มเธอรู้ว่าเขาโกรธที่มีคนทำกับน้องสาวของเขาแบบนั้นอันที่จริงก็ไม่ได้เป็นเพราะคนที่ทำร้ายเบลล่าเพียงฝ่ายเดียวแต่มันรวมกับเบลล่าหาทางออกโดยที่จะจบแบบนี้อีกด้วยที่จริงแล้วเธอเองก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเบลล่าที่เลือกทางนี้เพราะเธอคิดว่าถ้าหากเพื่อนสาวของเธอยอมสู้อีกสักนิดเธอว่าชีวิตของเพื่อนเธอตอนนี้คงจะมีแต่รอยยิ้มแน่นอนเพราะว่าเพื่อนสาวของเธอมีคนที่รักรออยู่มากขนาดนี้คนที่รักเธอจะทำให้เธอ
“ถ้าดาวเดาไม่ผิดน่าจะเป็นไดอารีของเบลใช่ไหมคะ”ดาวลดาจำได้ว่าเบลลล่าจะชอบเขียนไดอารี่แทบจะทุกวันแถมยังมีหลายๆเล่มที่เป็นสีเดียวกันรูปแบบเดียวกันอีกด้วยเธอเห็นไดอารี่ในมือของชายหนุ่มมันทำให้เธอจำได้ทันทีว่าน่าจะเป็นของเพื่อนสาวเธอ“อืมม.เล่มนี้.เบลเขียนเกี่ยวกับตัวเธอและก็เพื่อนรักของเธอไว้อย่างละเอียดเลยหละ”แดเนียลกระซิบข้างหูของหญิงสาวว่ามันถูกต้องแบบที่เธอคิดและในไดอารี่ของน้องสาวของเขามันก็ทำให้เขาได้รู้เรื่องราวอะไรมากมายที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนอีกด้วย“อืมม..ละเอียด..เลย..เหรอคะ”ดาวลดารู้สึกหน้าร้อนผ่าวถ้าในไดอารี่มันเขียนละเอียดแสดงว่าตอนนี้ชายหนุ่มก็ต้องรู้ความลับของเธอแล้วล่ะสิ“เก่งนะเราปิดพี่ได้ตั้งนาน...แถมของขวัญวันวาเลนไทน์กับวันเกิดที่ส่งมาให้พี่ทุกปีก็เป็นฝีมือเราเองสินะ”แดเนียลเองสงสัยอยู่ตั้งนานว่าใครจะรู้วันเกิดของเขานอกเสียจากคนในครอบครัววันนี้มันทำให้เขารู้แล้วว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นใครเขายอมรับในหัวใจของหญิงสาวจริงๆที่ปกปิดความรู้สึกของตัวเองได้นานอย่างนี้ นี่ถ้าเกิดว่าหญิงสาวยอมบอกความในใจกับเขาตั้งแต่ตอนนั้นป่านี้เขาอาจจะขอเธอแต่งงานไปแล้วก็ได้เพราะว่าในต
“เดี๋ยวพ่อจะดูฤกษ์แต่งที่เร็วที่สุดให้แล้วกันนะเรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง”“ครับคุณพ่อ”“หืมม...ฤกษ์แต่ง”ดาวลดาถึงกับทำหน้างงที่จู่ๆทั้งสองดูเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียอย่างนั้นตอนนี้เธอรู้สึกสับสนไปหมดแล้วอันที่จริงดนัยเองก็รู้สึกโกรธมากในครั้งแรกที่รู้เรื่องแต่พอมองเรื่องราวอย่างที่เขาเคยอาบน้ำร้อนมาก่อนเขาถือว่าชายหนุ่มมีความรับผิดชอบและใจถึงมากเลยทีเดียวที่กล้าเข้ามาพูดต่อหน้าเขาอย่างไม่ยำเกรงและที่เขายอมยกลูกสาวสุดที่รักให้ชายหนุ่มไปง่ายๆไม่ใช่เพราะว่าทั้งคู่เสียกันไปแล้วแต่เป็นเพราะว่าเขามองออกว่าลูกสาวของเขามีความสุขและยิ้มด้วยหัวใจเมื่ออยู่กับชายหนุ่มและเขารู้ดีว่าชายหนุ่มทำเรื่องแบบนี้ไปเพราะความเข้าใจผิดและยอมรับผิดอย่างลูกผู้ชายอีกอย่างเขาก็พร้อมที่จะยกลูกสาวของเขาให้ก็เพราะว่าเขารู้ว่าถ้าลูกสาวของเขาแต่งงานกับชายหนุ่มไปชีวิตของเธอไม่ลำบากแน่นอนเพราะชื่อเสียงของชายหนุ่มในแวดวงธุรกิจถือว่ารู้จักกันดีในฐานะนักธุรกิจหนุ่มที่เก่งและโปรไฟล์ดีอยู่ไม่น้อยคนเป็นพ่อออย่างเขาคงไม่ต้องห่วงอะไรมาก“ร้ายนักนะพี่แดนที่ทำให้พ่อดาวใจอ่อนได้”ดาวลดาอดแซวชายหนุ่มไม่ได้ที่ไม่รู้เข้าไปคุยกับ
“แอร๊...แอ้...”เด็กหญิงที่นอนกลิ้งคว่ำกลิ้งหงายอยู่ในเปลสีชมพูส่งเสียงทักทายคนมาใหม่ราวกับอยากที่จะร่วมวงสนธนาด้วย“ว่าไงจ้ะสาวน้อย...อาซื้อชุดสวยมาฝากเพียบเลยนะคะ...เราไปดูชุดสวยกันดีกว่าเนอะ”“แอร๊...อร้า..คิกๆๆ”ดาวลดาอุ้มหลานสาวของเธอออกมาจากเปลเด็กพร้อมไปนั่งที่โซฟาเล่นกันกับหลานสองคนอย่างไม่สนใจใครแล้วในตอนนี้เพราะว่าเธอคิดถึงมาก“น้องดาวท่าทางน่าจะเลี้ยงเด็กเป็นแล้วนะ...นายไม่คิดจะมีลูกบ้างเหรอ”มาคัสเห็นว่าทั้งสองแต่งงานกันมาตั้งนานแล้วก็ก็ไม่ยักจะเห็นมีลูกเสียทีและเขาก็เห็นว่าดาวลดาเองก็มีความพร้อมที่จะเป็นแม่คนมากแล้วด้วย“ใครว่าไม่อยากมีล่ะแต่ยังไม่มามากกว่าฉันเองให้หมอตรวจดูแล้วนะหมอบอกว่าร่างกายของดาวยังอ่อนแอคงต้องรอให้เธอแข็งแรงอีกนิดตอนนี้ชั้นก็พยายามบำรุงเธอทุกอย่างเลย”แดเนียลตอบมาคัสไปด้วยแววตาที่เศร้าหมองแต่เขาก็ยังพยายามฝืนยิ้มเขาเองอยากจะมีลูกใจจะขาดแต่ก็ต้องดูสุขภาพภรรยาของเขาด้วยตอนนี้เขาคิดว่าถ้าภรรยาเขาแข็งแรงเมื่อไรลุกก็คงจะมาเองตอนนี้เขาก็พยายามบำรุงหญิงสาวสุดขีด“จริงสิ...น้องดาวป่วยบ่อยตั้งแต่เด็กๆแล้วยังไงฉันก็เอาใจช่วยนายนะฉันไปอาบน้ำก่อนเชิญนายตามสบาย
โรงแรมXXX08.00น.“อุ้ปป...แหวะ...”น้ำเมยมาถึงที่ทำงานได้สักพักก็เกิดอาการเวียนหัวคลื่นไส้ขึ้นมาดื้อๆเสียอย่างนั้นทำเอาเธอวิ่งเข้าห้องน้ำแทบไม่ทันเธอไม่คิดว่าอาการที่เป็นตอนที่ตื่นนอนมันจะยังไม่หาย“โอเคไหมแก...นี่ฉันว่าวันนี้เลิกงานแล้วไปหาหมอหน่อยเถอะ”อิงฟ้าเห็นเพื่อนสาวของเธอคลื่นไส้อาเจียนอยู่บ่อยๆเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วและดูว่าอาการมันจะหนักขึ้นเรื่อยๆอีกด้วยเธอเองบอกให้น้ำเมยไปหาหมอหลายครั้งแล้วแต่หญิงสาวก็กลัวว่ามันจะเสียงานเสียเงินเสียเวลาจนเธอเห็นท่าไม่ดีแล้วยังไงวันนี้เธอก็ต้องลากเพื่อนของเธอไปให้หมอตรวจให้ได้อิงฟ้าและน้ำเมยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆพึ่งจะมาแยกย้ายกันตอนเรียนจบ ม.6 เพราะว่าอิงฟ้าต้องมาเรียนต่ออยู่ที่กรุงเทพกับแม่ส่วนน้ำเมยหลังจากจบ ม.6 แล้วก็ไม่ได้เรียนต่ออีกเลยเพราะหญิงสาวเองอยู่กับยายเพียงสองคนและยายของเธอก็มีอาชีพเพียงแค่ขายขนมหวานเธอจึงไม่อยากสร้างภาระให้กับยายของเธออีกอย่างยายของน้ำเมยเองก็แก่มากแล้วหญิงสาวจึงตัดสินใจให้ยายของเธอพักแล้วเธอเองเป็นคนมาขายแทนจนวันนึงยายของน้ำเมยเสียหญิงสาวจึงเหลือตัวคนเดียวจนอยู่มาวันหนึ่งหญิงสาวได้พบกับชายหนุ่มแปลกหน