“เจมส์จัดการไถ่บ้านหลังนี้คืนด้วย”
“ครับคุณมาร์ค”
มาคัสคิดว่าสิ่งแรกที่เขาจะตอบแทนหญิงสาวและเป็นการไถ่โทษให้ตัวเองด้วยก็คือซื้อบ้านหลังนี้คืนมาให้เธอนั่นเอง
เจมส์เองเมื่อได้รับคำสั่งของเจ้านายหนุ่มเขาก็ไปจัดการเรื่องนี้โดยทันทีอย่างไม่รีรอ
ชายหนุ่มนั่งอยู่ที่บ้านของน้ำเมยอยู่สักพักเขาพยายามทบทวนตัวเองแต่ยิ่งพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกแต่เขารู้สึกได้ว่าตัวของเขาเองผูกพันธ์กับบ้านหลังนี้
คอนโดอิงฟ้า
21.00 น.
ติ๊งงงงงง
“บอส!!!...มาถึงที่นี่ซะดึกเลยมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
อิงฟ้าที่ยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ยังไม่ได้เข้าห้องไปนอนเมื่อได้ยินเสียงออดที่หน้าห้องดังเธอจึงรีบไปเปิดประตูเมื่อพบว่าเป็นใครเธอถึงกับแปลกใจว่าทำไมประธานหนุ่มถึงมาที่ห้องของเธอเวลานี้กัน
“ใครมาเหรอ..อิงฟ้า..คุณ!!!”
น้ำเมยเดินออกมาจากห้องนอนเพราะได้ยินเสียงกดออดเช่นกันเพราะหญิงสาวคิดว่าอิงฟ้าน่าจะเข้าห้องนอนไปแล้วเธอจึงออกมาดูหญิงสาวรู้สึกงงไปตามๆกันกับเพื่อนของเธอว่าชายหนุ่มมาที่คอนโดของพวกเธอเวลานี้ทำไม
“เดี๋ยวๆคุณจะพาฉันไปไหน”
จู่ๆมาคัสก็เข้ามาดึงตัวของน้ำเมยออกไปจากห้องหน้าตาเฉยโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำจนหญิงสาวเองต้องหันซ้ายหันขวามองทั้งเจมส์และอิงฟ้าให้เป็นคนช่วยเหลือเธอตอนนี้
“เดี๋ยวค่ะบอสจะพาน้ำเมยไปไหนคะ...”
อิงฟ้าเองคราแรกก็ยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกเมื่อเธอเห็นว่าจู่ๆประธานหนุ่มก็เข้ามาดึงตัวเพื่อนสาวของเธอออกไปหน้าตาเฉยอย่างนั้นหญิงสาวจึงพยายามที่จะเดินตามเพื่อนสาว
“อย่ามาขวางสิคุณ”
อิงฟ้าที่กำลังจะเดินตามน้ำเมยไปกลับต้องมาอารมณ์เสียเพราะเจมส์อยู่ดีๆเดินมาขวางทางเธอเสียอย่างนั้นแทนที่เขาจะห้ามเจ้านายของเขา
“คุณนั่นแหละอย่าขวาง”
เจมส์เองต้องรีบไปกันตัวอิงฟ้าเอาไว้เพราะไม่อยากให้เธอตามทั้งสองไปเพราะเขาอยากให้เจ้านายหนุ่มของเขากับน้ำเมยคุยกันให้เข้าใจขืนมีใครไปขวางเรื่องมันคงไม่ง่ายต่อเจ้านายหนุ่มของเขาเป็นแน่
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ยย...ทำไมบอสต้องลากเพื่อนฉันออกไปอย่างนั้นด้วยเล่า”
อิงฟ้าเริ่มจะทนไม่ไหวกับเหตุการณ์บ้าๆเช่นนี้ที่ดูว่าประธานหนุ่มจะทำเกินกว่าเหตุไปที่ไม่ยอมปริปากบอกว่ามีเนื่องอะไรสักคำแถมยังพาน้ำเมยออกไปอย่างนั้นเธอจึงแผดเสียงถามเลขาของท่านประธานที่ยืนขวางเธออยู่แทนแล้วกันว่าตกลงมันเป็นเรื่องอะไรช่วยบอกให้เธอได้เข้าใจหน่อย
“อยากรู้ไหม...ตามผมมานี่เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”
เจมส์เองเมื่อเห็นว่าหญิงสาวอยากรู้นักเขาก็จะเป็นคนบอกให้เขาดึงมือเธอเข้ามาในห้องและคิดว่าคงต้องอธิบายเรื่องนี้กับหญิงสาวได้ยาวเป็นแน่ก็ดีจะได้ไม่มีอะไรค้างคาใจทั้งเขาและเธอและหญิงสาวจะได้รู้ว่าที่สองคนนั้นเขาลากกันไปแบบนั้นสาเหตุมันเกิดมาจากอะไร
ทางด้านมาคัสและน้ำเมย
“นี่คุณปล่อยฉันได้หรือยังเนี่ย.....จะพาฉันไปไหน...นี่ปล่อยเส้...!!!!”
“อย่าดิ้นได้ไหมเดี๋ยวก็กระทบกระเทือนลูกหรอก”
มาคัสเดินจูงมือหญิงสาวออกมาจากห้องแต่เรียกว่าจูงก็คงไม่ถูกเยกว่าเขาพยายามฉุดลากเธอออกมาคงจะเห็นเป็นจริงกว่าเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวยังขัดขืนเขาอยู่ไม่ยอมมากับเขาแต่โดยดีและกลัวว่าตัวเขาเองจะทำให้หญิงสาวบาดเจ็บเขาเลยเปลี่ยนจากการดึงมือเธอเป็นอุ้มหญิงสาวขึ้นในท่าเจ้าสาวแทน
พร้อมเตือนให้หญิงสาวหยุดดิ้นเพราะเดี๋ยวจะกระทบกระเทือนลูกในท้องเมื่อหญิงสาวได้ยินคำเตือนเธอจึงหยุดดิ้นทันทีเพราะเธอเองก็กลัวเหมือนกันว่าถ้าขืนเธอยังขัดขืนเขาอยู่อย่างนี้คงไม่ดีต่อลูกของเธอเป็นแน่
“แล้วคุณจะพาฉันไปไหนเนี่ย...ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ฉันจะกลับไปนอน”
เบื่อความเอาแต่ใจของอีตานี่จริงๆ...หญิงสาวนึกในใจแต่ก็ไม่อยากที่จะพูดออกมาเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับชายหนุ่มอีกอย่างตอนนี้เธอก็ยังง่วงนอนอยู่ด้วยคนท้องอย่างเธอต้องการการพักผ่อนที่มากกว่าคนปกติอยู่แล้ว
20 นาทีต่อมา
“ตื่นได้แล้วคุณ”
มาคัสต้องส่ายหัวให้กับอาการห่วงการนอนของหญิงสาวจริงๆระหว่างที่นั่งรถกับเขามามันดีสำหรับเขาที่เธอไม่ได้โวยวายอะไรแต่กลับหลับใส่เขาเสียอย่างนั้นเขาไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆว่าเธอคิดอะไรอยู่ไม่กลัวว่าเขาจะพาเธอไปทำมิดีมิร้ายเลยหรืออย่างไร
“นี่คุณพาฉันมาที่ไหน”
น้ำเมยหลับมาตลอดทางเพราะเห็นว่าถ้าโวยวายอะไรไปก็คงจะไม่ชนะเขาอยู่ดีเธอขอหลับก่อนดีกว่าในเมื่อเขาอยากพาเธอมาขึ้นรถเธอก็ขอหลับบนรถนี่แหละ
เมื่อหญิงสาวลืมตามาพบว่าตัวเองอยู่ที่หน้าคอนโดที่ไหนสักแห่งแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไรได้เพียงแค่ถามชายหนุ่มด้วยสีหน้าแบบระอาและยังมีใบหน้าที่ดูง่วงอยู่ว่าตกลงเขาพาเธอมาที่ไหนและมาเพื่ออะไร
“คอนโดผมไง”
“นี่คุณ..ฉันถามจริงๆเมื่อไรจะเลิกยุ่งกับฉัน...ฉันเหนื่อยที่จะต่อล้อต่อเถียงเหนื่อยที่จะเห็นหน้าคุณแล้วนะ..ถ้ามีเรื่องจะคุยกับฉันก็รีบๆพูดมาเถอะจะได้จบๆไป”
น้ำเมยถึงกับถอนหายใจเบาๆแล้วถามชายหนุ่มออกไปอย่างที่ใจเธอคิดว่าเมื่อไรเขาจะเลิกยุ่งกับเธอเสียทีและอยู่ดีๆเขาก็พาเธอมาที่คอนโดของเขาเพื่ออะไรเธอเองก็ยังไม่เข้าใจ
ยิ่งเห็นหน้าชายหนุ่มมองมาที่เธอเหมือนมีคำถามอยู่ในใจเธอจึงบอกกับเขาไปว่าถ้ามีเรื่องอะไรในใจก็พูดออกมาเธอเองจะได้รู้และเธอกับเขาจะได้จบๆกันไปเสียทีเธอเองก็ไม่ได้อยากเจอหน้าของชายหนุ่มอยู่บ่อยนักเพราะกลัวหัวใจตัวเองอีกอย่างเธอก็อยากทำใจได้เร็วๆด้วยเพราะฉนั้นการที่ไม่เจอเขาเลยมันยิ่งดีกับตัวเธอเอง
“ไปคุยกับผมข้างบน”
“เฮ้อออ....แล้วว....”
“ไม่มีข้อแม้อะไรทั้งนั้นคุณก็รู้ว่าคุณขัดขืนผมไม่ได้”
ชายหนุ่มให้หญิงสาวไปคุยกับเขาข้างบนที่ห้องของเขาเพราะเขาคิดว่าคงได้คุยกันยาวๆและไม่มีคนอื่นมารบกวนคราแรกหญิงสาวก็มีท่าทีที่ปฎิเสธแต่เมื่อได้ยินคำที่เขาพูดเตือนเธอว่าใครก็ขัดเขาไม่ได้ซึ่งเรื่องนี้เธอเชื่อในนิสัยตรงนี้ของนายมาคัสคนนี้
เพราะเธอเจอกับตัวมาแล้วไม่อย่างนั้นเขาจะลากเธอมาที่นี่ได้หรือหญิงสาวเองรู้ว่าทำอะไรไม่ได้ก็ต้องเดินตามชายหนุ่มเพื่อที่จะไปคุยกับเขาแต่ในใจก็ยังแอบกร่นด่าเขาอยู่เช่นกัน
“มีอะไรก็ว่ามาค่ะนี่มันดึกแล้ว”“คุณเป็นคนที่ช่วยชีวิตผมไว้ตอนที่ผมบาดเจ็บที่ปายทำไมคุณถึงไม่บอกผม”เมื่อหญิงสาวนั่งลงที่โซฟาเขาก็เปิดประเด็นถามคำถามที่ทำให้หญิงสาวได้อึ้งในทันที“อะ..เอ่ออ...ก็..ก็ตอนแรกคุณจำฉันไม่ได้เองนี่ฉันก็ไม่เห็นจำเป็นต้องบอกคุณเลย..อีกอย่างก็แค่ช่วยฉันไม่ได้หวังอะไรหรอกปกติฉันก็ช่วยหมาช่วยแมวประจำอยู่แล้วมีเรื่องจะถามแค่นี้ใช่ไหมงั้นฉันกลับก่อนนะ”น้ำเมยตัวชาเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มรู้ความจริงเรื่องที่เธอเคยช่วยเขาเอาไว้แล้วเธอเชื่อว่าเขาต้องรู้จากปากคนอื่นเป็นแน่ไม่ใช่เขาจำความในตอนนั้นได้แน่นอนเพราะพฤติกรรมที่แข็งกร้าวผิดกับหมูหยองในตอนนี้ทำให้เธอรับรู้ได้ หญิงสาวไม่คิดจะให้ชายหนุ่มได้ถามต่อเพราะกลัวเหลือเกินที่เขาจะถามเรื่องที่เธอไม่ได้อยากให้เขารู้อีกหนึ่งเรื่องจึงรีบบอกว่าเธอแค่ช่วยไม่ได้หวังผลตอบแทนพร้อมลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินออกไปจากตรงนี้โดยทันที“เดี๋ยว...”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวกำลังที่จะหนีปัญหาเขาจึงใช้อ้อมแขนของเขารวบตัวเธอเอาไว้จากด้านหลังอย่างฉับไวยังไงเขาก็ไม่ยอมให้เธอหนีเขาไปตอนนี้แน่นอนเพราะยังคุยกันไม่จบ“อะไรของคุณอีกเล่า...เฮ้ออ”น้ำเมยถึงกับต้องทำเ
“คุณมีเงินร้อยล้านพันล้านผมก็ไม่ให้คุณซื้อคืนนอกเสียจากว่าคุณจะแต่งงานกับผม”มาคัสคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงหญิงสาวก็ต้องเอ่ยคำนี้ออกมาแต่มีหรือว่าคนอย่างเขาจะยอมขายให้หญิงสาวง่ายๆมันก็ต้องแลกกับข้อแลกเปลี่ยนที่เขาอยากได้อยู่แล้ว“แล้วเราจะแต่งงานกันได้ยังไงในเมื่อเราไม่ได้รักกัน...คุณคิดดีๆนะคนที่อยู่แบบไม่ได้รักกันยังไงคำว่าครอบครัวมันก็ไปไม่รอดหรอก..อีกอย่างคุณก็มีคู่หมั้นแล้วด้วย”น้ำเมยเองเห็นว่าชายหนุ่มยังไงก็ยังดึงดันจะแต่งงานกับเธอให้ได้เธอจึงพยายามทำใจเย็นและพูดคุยกับเขาด้วยเหตุผลว่าตอนนี้เขาไม่ได้รักเธอฐานะการใช้ชีวิตหรืออะไรหลายๆอย่างมันแตกต่างกันมากยังไงแต่งงานมีครอบครัวไปก็ไปไม่รอดอยู่ดี“แต่ผมเชื่อว่าคุณรักผม...และอีกไม่นานผมก็ต้องจำเรื่องราวของเราได้แน่...และเรื่องน้องดาวที่เราหมั้นกันเพราะผู้ใหญ่อีกอย่างเรารักกันเหมือนพี่เหมือนน้องไม่มีอะไรเกินเลย”มาคัสเองเริ่มที่จะคุยเป็นงานเป็นการหลังจากเมื่อครู่เขายังแกล้งเธอเล่นอยู่เขารู้ว่ายังไงหญิงสาวก็ยังรักเขาอยู่เป็นแน่ไม่ว่าจะเป็นนายหมูหยองที่แสนดีหรือนายมาคัสที่ร้ายกาจคนนี้ก็เถอะแล้วเขาก็มั่นใจว่าอีกไม่นานเขาต้องจำเรื่องราวทุกอย
“อืมมม”น้ำเมยออกมาจากห้องนอนได้ก็เห็นชายหนุ่มนั่งรอเธออยู่ที่โต้ะอาหารแล้วอันที่จริงหญิงสาวตื่นขึ้นมาได้สักพักใหญ่แล้วแต่เธอใช้เวลานั่งทบทวนอยู่พักใหญ่เมื่อได้ข้อสรุปที่เธอคิดว่ามันน่าจะดีแล้วเธอจึงออกมาเพื่อคุยกับชายหนุ่ม“ฉันคิดดูแล้วเรื่องที่คุณต้องการที่จะรับผิดชอบฉันโดยการแต่งงาน”“คุณยอมรับข้อตกลงผม???”“ฟังฉันพูดให้จบก่อนสิคุณ...คือเอาเป็นว่าคุณจำความตอนที่เราอยู่ด้วยกันได้เมื่อไรเรามาคุยเรื่องนี้กันใหม่แต่ฉันจะไม่หนีหน้าคุณไปไหนแน่นอน...ส่วนเรื่องบ้านของฉันมันคนละเรื่องกับเรื่องของเราคุณอย่าเอามันมาเป็นข้อต่อรองเลยฉันขอซื้อคืนเถอะนะ”“แล้วผมจะเชื่อใจคุณได้ยังไงว่าคุณจะไม่หนีผมไปไหนอีก”มาคัสเองไม่ค่อยเชื่อใจหญิงสาวเท่าไรเขากลัวว่าถ้าปล่อยเธอไปแล้วจะไม่ได้เจอเธออีกยิ่งเธอเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งเขาก็ยิ่งหวั่น“ฉันจะหนีคุณไปไหนได้....ยังไงคุณก็คงจะตามฉันเจออยู่ดี”น้ำเมยรู้ว่ายังไงสักวันหนึ่งเธอหนีเขาไปเธอก็ต้องหนีอยู่แบบนั้นเธอรู้ว่าชายหนุ่มต้องตามหาลูกของเขาอย่างไม่ลดลาแน่นอน“งั้น...เอาแบบนี้ผมให้โฉนดบ้านคุณคืนฟรีๆแล้วกัน”“จริงเหรอ..ขอบคุณ..มะ...”“แต่...คุณต้องอยู่กับผมที่นี่.
“จะเดินตามมาดีๆหรือจะให้ผมอุ้ม”มาคัสต้องเดินกลับมาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆรถเขาเห็นว่าเธอไม่ยอมมาเสียทีเขาจึงต้องใช้คำพูดเพื่อขู่เธอบ้างซึ่งใจจริงเขาไม่ได้แค่ขู่แต่ถ้าเธอไม่ยอมแต่โดยดีเขาทำจริงเป็นแน่อุตส่าห์พาเธอมาถึงที่นี่เขาไม่ยอมให้วันนี้มันเสียเปล่าแน่อีกอย่างก็นัดกับญาติผู้ใหญ่ของเขาเอาไว้แล้วด้วย“ตามคุณมาร์คไปเถอะครับคุณน้ำเมยคุณก็น่าจะรู้ว่าคุณมาร์คพูดจริงทำจริง”เจมส์เองเมื่อเห็นว่าหญิงสาวทำท่าที่จะไม่ยอมเลยช่วยเจ้านายหนุ่มของเขาพูดอีกแรงว่าถ้าหากหญิงสาวไม่ยอมเจ้านายหนุ่มของเขาทำตามที่พูดแน่เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งยากให้เธอยอมเดินเข้าไปง่ายๆเสียดีกว่า“อ้าว...นั่นไงมากันแล้ว”มาเรียมกล่าวทักทายหลานชายของตนเองและหญิงสาวที่เดินตามเข้ามาที่น่าจะเป็นว่าที่หลานสะใภ้ของเธอจะว่าเป็นว่าที่หลานสะใภ้ก็คงจะไม่ได้เพราะตอนนี้เธอได้มีลูกกับหลานชายของเธอแล้วจากคำที่หลานชายเธอเคยเกริ่นๆมาก็คงจะต้องเรียกเธอว่าหลานสะใภ้แต่ติดแค่ยังไม่ได้แต่งงานเท่านั้นเอง“สวัสดีค่ะ”น้ำเมยเองคราแรกเข้ามาในบ้านที่เป็นห้องโถงใหญ่มีคนนั่งกันอยู่ถึงจะไม่เยอะมากแต่เธอก็รู้สึกประหม่าอยู่ดีแต่เมื่อกล่
“ใช่ค่ะคุณดาวตอนเช้าหลังจากที่ขายขนมเสร็จแล้วคุณมาคัสก็จะต้องทานข้าวเหนียวหมูหยองทุกวันเลยล่ะค่ะ”“ดีนะตอนนั้นที่ตามาร์คได้เจอกับหนูน้ำเมยไม่อย่างนั้นยายก็ไม่รู้ว่าตามาร์คจะมีชะตากรรมเป็นอย่างไรบ้างเลยนี่เพราะตามาร์คแท้ๆเลยทำให้หนูต้องมาพลอยลำบากขนาดนี้”มาเรียมรู้สึกว่าหญิงตรงหน้าเธอที่เรียกได้ว่าตอนนี้เป็นหลานสะใภ้เธอแล้วจะเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ขนาดนี้เธอเองยังรู้สึกเลยว่าถ้าหากวันนั้นหลายชายของเขาไม่เจอกับหญิงสาวป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง“ไม่เป็นไรเลยค่ะ...ที่หนูช่วยคุณมาคัสในตอนนั้นก็เพราะหนูรู้ว่าคนที่ไม่มีที่ไปหรือไร้ญาติพี่น้องในตอนนั้นมันลำบากขนาดไหน”“นี่ตามาร์คจะรู้ไหมเนี่ยว่ามีคนที่รักเค้าด้วยหัวใจขนาดนี้”มาเรียมเองอยากให้หลานชายของเขาได้มาฟังหญิงสาวพูดถึงตัวหลานชายของเธอในตอนนี้เหลือเกินเพราะดูเวลาที่เธอได้พูดถึงหลานชายเธอในตอนนั้นแววตาของหญิงสาวบ่งบอกถึงว่ามีความสุขอย่างมากภายในใจเธอก็ภาวนาว่าอยากให้หลานชายเธอจำความในตอนนั้นได้ในเร็ววันเพราะคิดว่าทั้งหญิงสาวและหลานชายของเขาคงจะรักกันมากน่าดู“หืม...โรแมนติกจังเลยนะคะดาวดีใจแทนพี่มาร์คจริงๆที่มีคนที่รักพี่มาร์คขนาดนี้ค่ะ”ดาว
ดาวลดาเองไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเบลล่าจึงคิดสั้นทั้งที่กำลังท้องอยู่แต่มันไม่ใช่อย่างที่แดเนียลกล่าวหาเธอกับมาคัสแน่นอนที่แดเนียลคิดว่าเป็นเพราะข่าวการหมั้นหมายของเธอและมาคัสจึงทำให้น้องสาวเธอต้องฆ่าตัวตาย แดเนียลคิดว่ามาคัสไม่ยอมรับลูกในท้องของเบลล่าและยังกล่าวหาว่าเธอทรยศหักหลังเบลล่าไปหมั้นกับมาคัสทั้งที่รู้ว่าเบลล่าท้องลูกของมาคัสอยู่เรื่องนี้เธอก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะอธิบายให้แดเนียลได้เข้าใจเพราะตั้งแต่วันนั้นเธอเองก็ไม่เคยเจอชายหนุ่มอีกเลย หญิงสาวรู้ว่าแดเนียลคงจะเกลียดเธอมากแต่สำหรับเธอนั้นชายหนุ่มเป็นรักแรกของเธอและยังอยู่ในใจของเธอตลอดมาโดยที่เรื่องนี้ก็ไม่มีใครรู้เช่นกันยกเว้นแต่เบลล่าเพื่อนสาวคนสนิทของเธอเท่านั้น20.30น.“คุณหนูคะวันนี้คุณท่านโทรมาบอกว่าน่าจะไม่กลับนะคะ”“ค่ะ...ป้าเนียน”จำเนียนแม่บ้านที่บ้านของดาวลดาขึ้นมาบอกกับหญิงสาวเรื่องที่ว่าคืนนี้พ่อของเธอจะไม่ได้กลับบ้านซึ่งเรื่องนี้เธอเห็นว่ามันเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอไปแล้วที่คุณพ่อของเธอจะกลับบ้านบ้างไม่กลับบ้างจนเธอชินแล้ว22.00 น.“นายครับไฟที่ห้องของเธอดับลงแล้วครับ”“อืมม...เริ่มจัดการตามแผนได้”“ครับนาย”แดเนียลกั
“คุณแน่ใจนะว่าผมจะจำได้...อีกอย่างตอนแรกที่คุณเล่าให้ผมฟังเรื่องที่มาของชื่อผม...ผมไม่คิดเลยว่าผมจะชอบทานไอ้เจ้าก้อนนี้”มาคัสเองไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยว่าเขาจะชอบทานข้าวเหนียวหมูหยองเพราะอันที่จริงเขารู้สึกไม่ชอบทานข้าวเหนียวสักเท่าไรเพราะมันใช้ช้อนตักยากอีกอย่างคนอย่างเขาปกติแล้วเขาจะไม่ใช้มือหยิบอาหารทานเป็นแน่“จะใช้ช้อนทำไมล่ะคุณใช้มือเลย”น้ำเมยเห็นว่าชาหนุ่มกำลังจะใช้ช้อนกับส้อมตักข้าวเหนียวเข้าปากซึ่งเธอดูมันจะลำบากไปเสียหน่อยเธอรู้ว่าคนเจ้าระเบียบแบบเขาต้องรักษามารยาททุกอย่างแต่เธอเองอยากให้เขาทำตัวสบายๆมากกว่าในเวลาที่อยู่กับเธอ“เอ่อ...จะดีเหรอ”มาคัสยังมีสีหน้าที่ดูว่ามันเหมือนเป็นเรื่องผิดร้ายแรงที่ใช้มือหยิบอาหารขึ้นมาทานเพราะเขาถูกสอนเรื่องมารยาทการวางตัวมาอย่างละเอียดและติดเป็นนิสัยนั่นเอง“ลองดู...ตอนนั้นคุณยังใช้มือจับมันได้เลย”“เอ่อ..”“เอาน่า...อยู่กับฉันไม่ต้องเนี้ยบตลอดเวลาก็ได้”น้ำเมยเองพยายามพูดโน้มน้าวเพื่อให้ชายหนุ่มลดการเป็นคนเจ้าระเบียบลงมาสักหน่อยก็ได้เพื่อให้ชีวิตมันง่ายขึ้น“อืมมม...”มาคัสตัดสินใจทำตามที่หญิงสาวบอกอันที่จริงมันก็ไม่ได้ย่อย่างที่เขาคิด
“ตอนนั้นผมก็ปั้นเป็นแบบนี้เหรอ”มาคัสเองเมื่อเห็นหญิงสาวพูดว่าเขายังสอนยากเหมือนเดิมแสดงว่าภาพในหัวเมื่อครู่ของเขามันถูกต้องเพราะตอนนี้เขารู้สึกเห็นภาพที่หญิงสาวนั่งสอนเขามันซ้อนขึ้นมา“..ใช่สิ”“แสดงว่าตอนนั้นผม...ทำแบบนี้ใส่คุณด้วยใช่ไหม”มาคัสทำตามภาพที่อยู่ในหัวของเขาโดยการหยิบผงแป้งขึ้นมาแล้วปาใส่หน้าของหญิงสาวทันทีเป็นการแกล้งหญิงสาวที่ว่าเขาปั้นแป้งบัวลอยเป็นลุกขนมต้มนั่นเอง“ว้ายยยยย....”น้ำเมยเองแทบจะหันหน้าหลบไม่ทันเมื่อจู่ๆชายหนุ่มปาผงแป้งใส่เธอ“ฮ่าๆๆๆ”“นี่คุณจำได้แล้วเหรอ...”ตอนนี้น้ำเมยเองยืนนิ่งต่อหน้าชายหนุ่มเธอไม่ได้โกรธอะไรที่ชายหนุ่มแกล้งเธอแล้วยืนขำแต่เธอจำได้ว่าเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ที่ชายหนุ่มแกล้งเธอมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วงั้นก็แสดงว่าเขาเริ่มจำอะไรได้แล้วล่ะสิ“ก็พอจะนึกออกนะแต่ก็คับคล้ายคับคลาแต่ผมจะพยามยามนะผมว่าเรามาถูกทางแล้วหละ...เอ่อ...”น้ำเมยดีใจจนน้ำตาคลอจากคราแรกที่ยืนนิ่งงันอยู่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นโผเข้าไปกอดชายหนุ่มแทนอย่างที่เขาเองไม่ทันได้ตั้งตัวมาคัสเองตอนนี้ก็ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นว่าหญิงสาวมีท่าทีดีใจที่เขาพอจะจำอะไรได้แบบนี้เขายิ่งมีกำลังใจที่