“นี่คุณขับให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหมฮะ....”
อิงฟ้ารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธออย่างมากจึงแผดเสียงใส่ชายหนุ่มที่ขับรถไม่ได้ดั่งใจเธอเพราะใจเธอตอนนี้มันอยู่ที่คอนโดของเธอเรียบร้อยแล้วเธอไม่น่าไปเผลอปากบอกกับท่านประธานว่าน้ำเมยอยู่กับเธอเลยจริงๆ
“นี่ก็เร็วแล้วนะคุณแต่รถมันติดจะไปได้ยังไง..รถผมไม่ได้เหาะได้นะคุณ”
เจมส์เองรู้สึกรำคาญเสียงของหญิงสาวเต็มทนเพราะตลอดทางที่นั่งรถกับเขามาเธอไม่ได้หยุดพูดแล้วก็ยังนั่งไม่อยู่สุขอีกด้วยเขาไม่รู้ว่าเธอร้อนใจอะไรนักหนา
“อือออ...เพื่อนฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”
อิงฟ้านั่งกุมมือตัวเองแน่นพร้อมกดมือถือโทรหาเพื่อนของเธอภาวนาในใจว่าอย่าให้เพื่อนของเธอเจอประธานหนุ่มตอนนี้เลยครั้นโทรไปบอกเพื่อนเธอแต่เพื่อนเธอก็ไม่รับสาย
“นี่คุณคุณมาร์คก็คงจะไม่ถึงกับฆ่ากับแกงเพื่อนคุณหรอกน่ายังเพื่อนคุณก็เป็นผู้หญิงคุณจะกังวลอะไรนักหนาเนี่ย”
เจมส์เองเห็นอาการที่หญิงสาวเป็นห่วงเพื่อนของเธอที่ดูจะเกินเหตุอันที่จริงเขารู้แหละว่าเจ้านายหนุ่มเขาคงจะโกรธน้ำเมยที่ไปเขียนด่าแบบนั้นแต่เขาเชื่อว่าเจ้านายหนุ่มของเขาก็คงจะไม่ถึงกับขั้นลงไม้ลงมือกับผู้หญิงหรอกแต่ถ้าพูดจาส่อเสียดหรือข่มขู่อะไรหญิงสาวก็ไม่แน่
“ฉันรู้ว่าไม่ฆ่าไม่แกงแต่เพื่อนฉันท้องอยู่ฉันไม่อยากให้อะไรมากระทบจิตใจเพื่อนฉันต่างหากเล่า”
อิงฟ้าเองเห็นชายหนุ่มเริ่มที่จะไม่พอใจในอาการของเธอก็จะให้ทำยังไงได้ก็เธอเป็นห่วงเพื่อนของเธอมากจนเผลอปากพูดเรื่องที่เธอกังวลใจอยู่ตอนนี้ออกไป
“ฮะ...ท้อง”
ชายหนุ่มถึงขั้นเบรกรถล้อตายจอดอยู่ที่ข้างถนนทันทีเพราะเขารู้สึกช็อคกับข่าวที่เขาพึ่งรู้มากเขารู้มาว่าหญิงสาวไม่ได้มีแฟนหรือสามีที่ไหนแต่ท้องได้อย่างไรและเมื่อวานที่เขาพึ่งพูดคุยกับเธอเขายังเห็นหญิงสาวรูปร่างปกติอยู่เลยแสดงว่าคงจะตั้งท้องได้ไม่นานเป็นแน่
“เฮ้ย...ยัยอิงฟ้าปากพล่อยอีกแล้วนะแก..”
อิงฟ้าเองเมื่อรู้ว่าเมื่อครู่เธอเองได้หลุดปากพูดอะไรออกไปก็ถึงกับเอามือปิดปากของตัวเองทันทีพร้อมทั้งตำหนิตัวเองอยู่ในใจว่าตอนที่เธอเผลอตัวทีไรชอบหลุดความลับออกมาทุกที
“เท่าที่ผมรู้เพื่อนคุณไม่มีสามีนี่นา..แล้ว...ทำไมเพื่อนของคุณท้องแล้วยังทำงานอยู่อีกล่ะถ้าถึงหูคุณมาร์คเป็นเรื่องแน่”
เจมส์ตั้งคำถามกับหญิงสาวเพราะเรื่องนี้เขาสงสัยเป็นการส่วนตัวแต่เรื่องที่น้ำเมยท้องแล้วยังทำงานอยู่เรื่องนี้ถ้าเจ้านายหนุ่มของเขารู้คงไม่ยอมให้หญิงสาวฝืนทำงานเป็นแน่เพราะที่โรงแรมมีกฎห้ามคนท้องในแผนกของอาหารทำงานเพราะวันนึงงานค่อนข้างเยอะไม่ได้พักแถมยังยืนทั้งวันอีกด้วยดีที่ตอนนี้หญิงสาวลาออกแล้ว
“คุณจะรู้ไปทำไมว่าเพื่อนฉันท้องกับใคร”
“อืมมม...คุณไม่ตอบก็ไม่เป็นอะไรนะแต่ถ้าเรื่องนี้ถึงหูคุณมาร์คคุณก็รู้นะว่าคุณจะโดนอะไรบ้างเพราะคุณเป็นหัวหน้าแต่กับละเลยกฎของโรงแรม”
“โอเคๆ...ฉันบอกก็ได้แต่คุณต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะฉันขอร้อง”
อิงฟ้าจำใจต้องบอกความจริงกับชายหนุ่มเพราะเธอเองไม่อยากตกงานตอนนี้และอีกอย่างเธอยังต้องมีเงินสำรองไว้เผื่อเพื่อนสาวของเธอต้องการเงินเพราะเธอตั้งใจไว้แล้วว่าเธอจะช่วยเพื่อนสาวของเธอเลี้ยงลูกเอง
อีกอย่างก็คิดว่าน่าจะไม่เสียหายอะไรถ้าบอกเรื่องนี้กับชายหนุ่มไปเพราะดูท่าเขาคงจะไม่มาสนใจเรื่องของเพื่อนเธอคงจะอยากรู้ไปแบบนั้นเอง
“อืม..ก็ได้คุณก็บอกมาสิ”
เจมส์เองยิ้มกริ่มเพราะรู้สึกว่ายังไงหญิงสาวก็ต้องยอมบอกเขาเป็นแน่และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
“คือเพื่อนฉันท้องได้สามเดือนกว่าแล้วก่อนที่จะมาทำงานที่นี่น้ำเมยเคยช่วยผู้ชายคนนึงไว้แล้วน้ำเมยกับผู้ชายคนนั้นก็รักกันแล้วจู่ๆเขาก็หายตัวไปน้ำเมยบอกว่าหาเท่าไรก็หาไม่เจอจนฉันกลับไปเจอน้ำเมยที่บ้านที่ปายตอนนี้บ้านเพื่อนฉันถูกยึดเพราะไม่มีเงินส่งดอกของพวกที่เธอไปกู้มาฉันก็เลยชวนน้ำเมยมาทำงานแล้วก็พักอยู่กับฉันที่นี่แต่เรื่องที่เพื่อนฉันท้องฉันกับเพื่อนฉันก็พึ่งจะรู้กันไม่นานมานี้เองเรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”
“เอ่อ...แล้วคุณน้ำเมยไม่ได้บอกคุณเหรอว่าพ่อเด็กชื่ออะไร”
เจมส์ได้ฟังเรื่องราวจากปากหญิงสาวถึงกับอึ้งและหยุดหายใจไปชั่วขณะถ้าเรื่องมันเป็นอย่างที่หญิงสาวพูดจริงๆเท่ากับเด็กในท้องของน้ำเมยเป็นลูกของเจ้ายนายเขาน่ะสิ
แต่ทำไมดูหญิงสาวพูดเหมือนกับไม่รู้ว่าพ่อเด็กเป็นใครล่ะทั้งๆที่น้ำเมยก็เจอกับเจ้านายเขาแล้วหรือว่าน้ำเมยยังไม่ได้เล่าให้หญิงสาวฟังเขาจึงถามย้ำหญิงสาวอีกรอบให้แน่ใจว่าน้ำเมยไม่ได้บอกเรื่องพ่อของเด็กกับหญิงสาวใช่หรือไม่
“เพื่อนฉันบอกว่าเรียกเค้าว่าหมูหยองแต่เพื่อนฉันก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครเหมือนกันเพราะตอนที่เขาอยู่กับน้ำเมยผู้ชายคนนั้นความจำเสื่อมฉันก็ภาวนาอยู่ว่าให้เพื่อนฉันตามหาสามีของเธอได้ไวๆก็แล้วกัน”
อิงฟ้าเองก็เล่าตามที่เพื่อนสาวของเธอเล่าให้ฟังยิ่งเล่าเธอก็ยิ่งนึกสงสารเพื่อนสาวของเธอที่ชีวิตดูน่าสงสารเสียจริง
“อ๋อ...อืมมม..งั้นเราไปกันเถอะ”
เจมส์เข้าใจได้ในทันทีว่าน้ำเมยคงจะไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้จริงๆเพราะขนาดเพื่อนสนิทเธอก็ยังไม่เล่าความจริงให้ฟังคงจะเป็นอย่างที่เธอบอกเขาจริงๆว่าเธอไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน
แต่นี่มันไม่ใช่เพราะตอนนี้เธออุ้มท้องลูกของเจ้านายหนุ่มเขาทั้งคนเขาจะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้ยังไงเขาก็ต้องหาโอกาสคุยกับเธอให้เร็วที่สุด
“เออ...จริงด้วยคุณก็มัวแต่หลอกถามให้ฉันคุยเพลินรีบไปที่ห้องฉันเร็ว”อิงฟ้าที่มัวแต่เล่าเรื่องของเพื่อนเธอเพลินจนลืมไปเลยว่าตอนนี้เธอต้องรีบไปหาเพื่อนสาวของเธอนี่นาเมื่อนึกขึ้นได้ดังนั้นเธอเองก็โทษชายหนุ่มเป็นการใหญ่ที่ชวนคุยเธอจนเธอคุยเพลินไปเลยคอนโดอิงฟ้าติ๊งงงงงง“อิงฟ้าเหรอ..ทำไมกลับมาเร็วจัง”น้ำเมยที่กำลังกวาดพื้นอยู่เมื่อได้ยินเสียงออดที่หน้าห้องเธอก็รีบเดินมาเปิดประตูหญิงสาวแปลกใจว่าทำไมวันนี้เพื่อนของเธอกลับมาเร็วผิดปกติเพราะตอนนี้มันยังเช้าอยู่เลย“บอส!!!”น้ำเมยถึงกับตาโตเบิกโพรงทันทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใครแล้วเธอก็พอจะเดาออกด้วยว่าที่เขามาถึงที่นี่สาเหตุน่าจะเป็นเพราะอะไรคงจะเป็นเพราะหนังสือลาออกของเธอเป็นแน่เมื่อหญิงสาวรู้ดังนั้นจึงรีบที่จะปิดประตูหนีชายหนุ่มทันที“ไม่ต้องหนีผมเลยเล่นเขียนใบลาออกมาด่าผมเป็นหน้าๆคิดว่าผมจะอยู่เฉยเหรอ”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะปิดประตูเพื่อหนีหน้าเขาชายหนุ่มจึงใช้แขนแกร่งดันประตูเอาไว้อย่างไม่สะทกสะท้านในแรงผลักของหญิงสาวพร้อมก้าวเข้าห้องของเธออย่างหน้าตาเฉย“ผมต้องการคุยกับคุณ”“นี่...คุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะคุณไม่ได้เป็นเจ้านา
“ทะ..ท้อง...งง...เหรอครับ”มาคัสรู้สึกตกใจอย่างมากที่รู้ว่าหญิงสาวที่เขาไปหาเรื่องเธอถึงที่ห้องเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่“ใช่ครับนี่คุณพ่อยังไม่รู้เหรอครับคนไข้น่าจะตั้งครรภ์ได้ประมาณสามเดือนกว่าแล้วยังไงดีใจด้วยนะครับหมอต้องขอตัวก่อน”“ครับคุณหมอ”ชายหนุ่มไม่มีเวลาที่จะปฏิเสธว่าหญิงสาวไม่ใช่ภรรยาของเขาเพราะว่าเขากำลังคิดตามเรื่องที่หมอบอกกับเขาอยู่ว่าหญิงสาวท้องได้ประมาณสามเดือนกว่าแล้วแต่ที่เขาดูประวัติเธอที่ทำงานหญิงสาวพึ่งจะเข้ามาทำงานได้เพียงแค่สองเดือนกว่าๆเองแบบนี้ก็เท่ากับว่าหญิงสาวท้องก่อนที่จะเข้าทำงานเป็นแน่10 นาทีต่อมา“อืมมม....คุณ”น้ำเมยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อมองเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่ที่ข้างเตียงของเธอหญิงสาวรู้สึกใจหายวาบทันทีในใจคิดในแง่ดีอยู่ว่าชายหนุ่มอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ว่าอาการที่เธอเป็นอยู่มันเกิดจากสาเหตุอะไรไม่อย่างนั้นเพื่อนสาวของเธอซวยแน่เพราะชายหนุ่มคงต้องซักกันยาว“ตื่นแล้วเหรอ...หมอให้คุณพักอีกสักพัก..เดี๋ยวผมกลับไปส่งคุณที่ห้องเอง”ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวพึ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนนี้เขาเองยังไม่อยากที่จะถามคำถามอะไรให้หญิงสาวเกิดอาการ
“อย่าโทษอิงฟ้าเลยค่ะฉันเองก็พึ่งจะรู้เรื่องที่ตัวเองท้องไม่นานมานี้เรื่องนี้ฉันขอเป็นคนรับผิดชอบเองค่ะ”น้ำเมยเห็นว่าชายหนุ่มต่อว่าเพื่อนของเธอซึ่งเรื่องนี้สาเหตุมันก็มาจากเธอดังนั้นเธอจะปล่อยให้เพื่อนเธอโดนต่อว่าอยู่อย่างเดียวไม่ได้เธอจึงออกตัวปกป้องเพื่อนของเธอว่าเพื่อนของเธอไม่รู้เรื่องและขอรับผิดชอบเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว“ผมไม่ได้เรียกคุณสองคนมาคุยเพื่อที่จะให้ใครรับผิดชอบแต่ผมแค่อยากจะตักเตือนอิงฟ้าเพราะเธอเป็นถึงหัวหน้าแผนกการรับคนสกรีนคนต้องละเอียดรอบคอบอีกอย่างถึงพวกคุณจะรู้เรื่องนี้เพียงไม่นานแต่เมื่อรู้แล้วก็ควรที่จะบอกกับผมหรือไม่ก็แจ้งฝ่ายบุคคล”มาคัสเห็นว่าทั้งสองเห็นการตักเตือนของเขาเป็นการต่อว่าใจจริงที่เขาตั้งกฎขึ้นมาแต่แรกก็เพื่อความปลอดภัยของตัวพนักงานเองต่างหากและอีกอย่างถึงคนที่ท้องจะไม่ใช่น้ำเมยแต่เป็นคนอื่นที่อิงฟ้ารับเข้ามาโดยที่ไม่ตรวจสอบประวัติให้ดีก่อนอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาตามมาก็ได้เขาจึงต้องตักเตือนเพื่อให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่างให้ทั้งสองได้คิดตาม“เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมจะปล่อยผ่านไปก็แล้วกัน.....แต่คุณ..น้ำเมยผมขอคุยกับคุณส่วนตัว”มาคัสเองไม่อยากให้เรื่อ
เจมส์เล่าให้เจ้านายของเขาฟังว่าอันที่จริงเขาไม่ได้รู้จากปากน้ำเมยเรื่องที่หญิงสาวท้องแต่รู้มาจากอิงฟ้าที่หลุดปากพูดออกมาต่างหากเขาเล่าให้เจ้านายเขาฟังว่าน้ำเมยคงจะไม่ได้บอกอิงฟ้าว่าพ่อของเด็กเป็นใครแต่น้ำเมยเล่าให้อิงฟ้าฟังแค่ว่าเธอรักกับผู้ชายที่เธอช่วยชีวิตเอาไว้และท้องกับผู้ชายคนนั้นและตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็หายตัวไปแล้วเท่าที่เจมส์ปะติดปะต่อเรื่องราวก็ทำให้เขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่ายังไงลูกในท้องของน้ำเมยก็ต้องเป็นลูกของเจ้านายหนุ่มของเขาเป็นแน่“ฉันไม่คิดเลยว่าน้ำเมยจะไม่บอกอะไรฉันเรื่องนี้สักคำ...ถ้าเธอต้องการทำแบบนี้เหมือนจงใจจะพรากลูกฉันไปยังไงยังงั้น”มาคัสรู้สึกน้อยใจน้ำเมยอยู่มากลูกของเขาอยู่ในท้องของเธอทั้งคนแต่เธอไม่เคยคิดที่จะปริปากบอกอะไรเขาสักคำยังไงเรื่องนี้เขาก็จะม่ยอมเด็ดขาด“ผมว่าคุณน้ำเมยน่าจะมีเหตุผลของเธอนะครับคุณมาร์ค”เจมส์เองเขาเข้าใจน้ำเมยดีที่คิดว่าตัวเองมีฐานะแตกต่างจากเจ้านายหนุ่มของเขาแต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดมาถึงขนาดนี้เขาก็ยังคิดไม่ออกว่าหญิงสาวคิดอะไรอยู่แต่เขาก็ยังเก็บความคาใจของเขาเอาไว้ไม่ได้พูดออกมาได้เพียงแต่พูดเป็นกลางเท่านั้น“เหตุผลอะไรของเธอ....ฉั
“เจมส์จัดการไถ่บ้านหลังนี้คืนด้วย”“ครับคุณมาร์ค”มาคัสคิดว่าสิ่งแรกที่เขาจะตอบแทนหญิงสาวและเป็นการไถ่โทษให้ตัวเองด้วยก็คือซื้อบ้านหลังนี้คืนมาให้เธอนั่นเองเจมส์เองเมื่อได้รับคำสั่งของเจ้านายหนุ่มเขาก็ไปจัดการเรื่องนี้โดยทันทีอย่างไม่รีรอชายหนุ่มนั่งอยู่ที่บ้านของน้ำเมยอยู่สักพักเขาพยายามทบทวนตัวเองแต่ยิ่งพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกแต่เขารู้สึกได้ว่าตัวของเขาเองผูกพันธ์กับบ้านหลังนี้คอนโดอิงฟ้า21.00 น.ติ๊งงงงงง“บอส!!!...มาถึงที่นี่ซะดึกเลยมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”อิงฟ้าที่ยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ยังไม่ได้เข้าห้องไปนอนเมื่อได้ยินเสียงออดที่หน้าห้องดังเธอจึงรีบไปเปิดประตูเมื่อพบว่าเป็นใครเธอถึงกับแปลกใจว่าทำไมประธานหนุ่มถึงมาที่ห้องของเธอเวลานี้กัน“ใครมาเหรอ..อิงฟ้า..คุณ!!!”น้ำเมยเดินออกมาจากห้องนอนเพราะได้ยินเสียงกดออดเช่นกันเพราะหญิงสาวคิดว่าอิงฟ้าน่าจะเข้าห้องนอนไปแล้วเธอจึงออกมาดูหญิงสาวรู้สึกงงไปตามๆกันกับเพื่อนของเธอว่าชายหนุ่มมาที่คอนโดของพวกเธอเวลานี้ทำไม“เดี๋ยวๆคุณจะพาฉันไปไหน”จู่ๆมาคัสก็เข้ามาดึงตัวของน้ำเมยออกไปจากห้องหน้าตาเฉยโดยที่ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำจนหญิงสาวเองต้องหั
“มีอะไรก็ว่ามาค่ะนี่มันดึกแล้ว”“คุณเป็นคนที่ช่วยชีวิตผมไว้ตอนที่ผมบาดเจ็บที่ปายทำไมคุณถึงไม่บอกผม”เมื่อหญิงสาวนั่งลงที่โซฟาเขาก็เปิดประเด็นถามคำถามที่ทำให้หญิงสาวได้อึ้งในทันที“อะ..เอ่ออ...ก็..ก็ตอนแรกคุณจำฉันไม่ได้เองนี่ฉันก็ไม่เห็นจำเป็นต้องบอกคุณเลย..อีกอย่างก็แค่ช่วยฉันไม่ได้หวังอะไรหรอกปกติฉันก็ช่วยหมาช่วยแมวประจำอยู่แล้วมีเรื่องจะถามแค่นี้ใช่ไหมงั้นฉันกลับก่อนนะ”น้ำเมยตัวชาเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มรู้ความจริงเรื่องที่เธอเคยช่วยเขาเอาไว้แล้วเธอเชื่อว่าเขาต้องรู้จากปากคนอื่นเป็นแน่ไม่ใช่เขาจำความในตอนนั้นได้แน่นอนเพราะพฤติกรรมที่แข็งกร้าวผิดกับหมูหยองในตอนนี้ทำให้เธอรับรู้ได้ หญิงสาวไม่คิดจะให้ชายหนุ่มได้ถามต่อเพราะกลัวเหลือเกินที่เขาจะถามเรื่องที่เธอไม่ได้อยากให้เขารู้อีกหนึ่งเรื่องจึงรีบบอกว่าเธอแค่ช่วยไม่ได้หวังผลตอบแทนพร้อมลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินออกไปจากตรงนี้โดยทันที“เดี๋ยว...”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวกำลังที่จะหนีปัญหาเขาจึงใช้อ้อมแขนของเขารวบตัวเธอเอาไว้จากด้านหลังอย่างฉับไวยังไงเขาก็ไม่ยอมให้เธอหนีเขาไปตอนนี้แน่นอนเพราะยังคุยกันไม่จบ“อะไรของคุณอีกเล่า...เฮ้ออ”น้ำเมยถึงกับต้องทำเ
“คุณมีเงินร้อยล้านพันล้านผมก็ไม่ให้คุณซื้อคืนนอกเสียจากว่าคุณจะแต่งงานกับผม”มาคัสคิดเอาไว้แล้วว่ายังไงหญิงสาวก็ต้องเอ่ยคำนี้ออกมาแต่มีหรือว่าคนอย่างเขาจะยอมขายให้หญิงสาวง่ายๆมันก็ต้องแลกกับข้อแลกเปลี่ยนที่เขาอยากได้อยู่แล้ว“แล้วเราจะแต่งงานกันได้ยังไงในเมื่อเราไม่ได้รักกัน...คุณคิดดีๆนะคนที่อยู่แบบไม่ได้รักกันยังไงคำว่าครอบครัวมันก็ไปไม่รอดหรอก..อีกอย่างคุณก็มีคู่หมั้นแล้วด้วย”น้ำเมยเองเห็นว่าชายหนุ่มยังไงก็ยังดึงดันจะแต่งงานกับเธอให้ได้เธอจึงพยายามทำใจเย็นและพูดคุยกับเขาด้วยเหตุผลว่าตอนนี้เขาไม่ได้รักเธอฐานะการใช้ชีวิตหรืออะไรหลายๆอย่างมันแตกต่างกันมากยังไงแต่งงานมีครอบครัวไปก็ไปไม่รอดอยู่ดี“แต่ผมเชื่อว่าคุณรักผม...และอีกไม่นานผมก็ต้องจำเรื่องราวของเราได้แน่...และเรื่องน้องดาวที่เราหมั้นกันเพราะผู้ใหญ่อีกอย่างเรารักกันเหมือนพี่เหมือนน้องไม่มีอะไรเกินเลย”มาคัสเองเริ่มที่จะคุยเป็นงานเป็นการหลังจากเมื่อครู่เขายังแกล้งเธอเล่นอยู่เขารู้ว่ายังไงหญิงสาวก็ยังรักเขาอยู่เป็นแน่ไม่ว่าจะเป็นนายหมูหยองที่แสนดีหรือนายมาคัสที่ร้ายกาจคนนี้ก็เถอะแล้วเขาก็มั่นใจว่าอีกไม่นานเขาต้องจำเรื่องราวทุกอย
“อืมมม”น้ำเมยออกมาจากห้องนอนได้ก็เห็นชายหนุ่มนั่งรอเธออยู่ที่โต้ะอาหารแล้วอันที่จริงหญิงสาวตื่นขึ้นมาได้สักพักใหญ่แล้วแต่เธอใช้เวลานั่งทบทวนอยู่พักใหญ่เมื่อได้ข้อสรุปที่เธอคิดว่ามันน่าจะดีแล้วเธอจึงออกมาเพื่อคุยกับชายหนุ่ม“ฉันคิดดูแล้วเรื่องที่คุณต้องการที่จะรับผิดชอบฉันโดยการแต่งงาน”“คุณยอมรับข้อตกลงผม???”“ฟังฉันพูดให้จบก่อนสิคุณ...คือเอาเป็นว่าคุณจำความตอนที่เราอยู่ด้วยกันได้เมื่อไรเรามาคุยเรื่องนี้กันใหม่แต่ฉันจะไม่หนีหน้าคุณไปไหนแน่นอน...ส่วนเรื่องบ้านของฉันมันคนละเรื่องกับเรื่องของเราคุณอย่าเอามันมาเป็นข้อต่อรองเลยฉันขอซื้อคืนเถอะนะ”“แล้วผมจะเชื่อใจคุณได้ยังไงว่าคุณจะไม่หนีผมไปไหนอีก”มาคัสเองไม่ค่อยเชื่อใจหญิงสาวเท่าไรเขากลัวว่าถ้าปล่อยเธอไปแล้วจะไม่ได้เจอเธออีกยิ่งเธอเป็นผู้หญิงที่ใจแข็งเขาก็ยิ่งหวั่น“ฉันจะหนีคุณไปไหนได้....ยังไงคุณก็คงจะตามฉันเจออยู่ดี”น้ำเมยรู้ว่ายังไงสักวันหนึ่งเธอหนีเขาไปเธอก็ต้องหนีอยู่แบบนั้นเธอรู้ว่าชายหนุ่มต้องตามหาลูกของเขาอย่างไม่ลดลาแน่นอน“งั้น...เอาแบบนี้ผมให้โฉนดบ้านคุณคืนฟรีๆแล้วกัน”“จริงเหรอ..ขอบคุณ..มะ...”“แต่...คุณต้องอยู่กับผมที่นี่.