“ฉันเข้าไปได้แล้วใช่ไหมคะ.?...คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ”
น้ำเมยเห็นว่าชายหนุ่มเลขาของท่านประธานกำลังมองหน้าเธออย่างสงสัยเธอจึงถามเขาออกไปว่ามีอะไรที่จะบอกเธอหรือเปล่า
“อ๋อ..เอ่อ..ปะ..เปล่าครับเชิญคุณเข้าไปได้เลยครับ”
เจมส์เองมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขากำลังตามหาอยู่เป็นแน่แต่ก็เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจก่อนเพราะเขาคิดว่าจะรอให้หญิงสาวเข้าไปหาเจ้านายหนุ่มของเขาด้านในก่อนแล้วเขาค่อยถามคำถามที่คาใจกับเธอทีหลังเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอเป็นพนักงานที่นี่อยู่แล้วคงตามตัวได้ไม่ยาก
ก๊อกๆๆ
“ขออนุญาตค่ะ”
หญิงสาวเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องตามมารยาทตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆแบบไม่สามารถบังคับตัวเองได้เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าถ้าเห็นใบหน้าของชายหนุ่มอีกเธอจะปล่อยน้ำตาลงมาอย่างง่ายดายน่ะสิ
“สวัสดีค่ะบอส...สวัสดีค่ะคุณดาว”
น้ำเมยองเห็นแล้วว่าใครอยู่ในห้องบ้างเธอเห็นว่าหญิงสาวอยู่กับชายหนุ่มกำลังนั่งคุยกันอย่างสนิทสนมภาพนั้นมันทำให้เธอต้องเดินก้มหน้าไม่หันมองทั้งคู่พร้อมยกมือสวัสดีทั้งสองอย่างเสียงแผ่วเบา
“สวัสดีค่ะ...ดาวอยากเจอคุณตั้งนานแล้ววันนี้ได้เจอกันซะทีนะคะขนมของคุณอร่อยมากเลยค่ะ”
ดาวลดากล่าวทักทายหญิงสาวอย่างเป็นกันเองพร้อมชมในฝีมือการทำขนมของหญิงสาวอีกด้วย
“ขอบคุณค่ะ”
คราแรกน้ำเมยกล่าวทักทายทั้งสองแต่ก็กลับได้ยินเสียงตอบรับของดาวลดาอยู่ฝ่ายเดียวเธอเห็นว่าหญิงสาวช่างมีอัธยาศัยดีเหลือเกินแถมหน้าตาก็ยังน่ารักอีกคงเหมาะสมกันดีกับชายหนุ่มแล้วหละเมื่อได้รับคำชมจากดาวลดาเธอเองก็เงยหน้ามามองหญิงสาวครู่หนึ่งพร้อมกับขอบคุณคำชมของเธอและยืนก้มหน้าก้มตาต่อไป
“คุณนั่นเองเหรอที่เป็นคนทำของหวานพวกนี้...อาการคุณเป็นยังไงบ้าง”
มาคัสถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยออกจะดูแข็งๆไปด้วยซ้ำแต่ภายในใจของเขานั้นเป็นห่วงพนักงานของเขาทุกคนอยู่เสมอไม่เช่นนั้นคงไม่ตั้งกฏว่าห้ามพนักงานที่ร่างกายไม่พร้อมทำงานก็เพราะด้วยเหตุผลนี้
“ดีขึ้นแล้วค่ะ..ขอบคุณค่ะบอส”
น้ำเมยตอบชายหนุ่มด้วยน้ำสียงแผ่วเบาเพราะน้ำเสียงที่แข็งกระด้างของเขาทำให้เธอคิดว่าชายหนุ่มคงจะถามเธอตามมารยาท
“ทื่ผมเรียกคุณมาเพราะผมอยากได้ชุดขนมไทยชุดใหญ่สักชุดเพราะผมจะใช้เป็นของฝากคุณย่าของผม”
อันที่จริงแล้วที่ชายหนุ่มเรียกเชฟที่มีฝีมือในโรงแรมของเขาขึ้นมาเพราะอยากเห็นหน้ามากกว่าว่าคนที่ทำขนมได้เก่งหน้าตาเป็นแบบไหน
แล้วเขาก็คิดว่าเชฟน่าจะมีอายุมากกว่านี้ด้วยซ้ำเพราะฝีมือขนาดนี้น่าจะเป็นคนที่มีประสบการณ์มานานแต่เท่าที่เขาเห็นหญิงสาวยังสาวและยังสวยอยู่เลยดูท่าทางจะเด็กกว่าเขาอยู่หลายปีอีกด้วย
“เอ่อ..บอสต้องการเมื่อไรคะ”
หญิงสาวคิดว่าเรื่องแค่นี่เองเหรอที่เขาต้องการพบเธออันที่จริงเขาฝากใครให้ไปสั่งงานเธอเองก็ได้เขาไม่น่าเรียกเธอมายืนทรมานหัวใจแบบนี้ยิ่งเห็นสีหน้าและน้ำเสียงของเขาที่เรียบเฉยใส่เธอหญิงสาวเองแทบจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว
“พรุ่งนี้เช้า”
“เดี๋ยวฉันจัดการให้ค่ะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ”
เมื่อหญิงสาวได้คำตอบว่าชายหนุ่มอยากได้สิ่งที่เขาต้องการตอนไหนเธอเองก็ถือวิสาวสะเสียมารยาทขอตัวออกไปจากห้องนี้เพราะเธอเองไม่สามารถกลั้นน้ำตาอีกต่อไปได้
“อืม..ไปเถอะ”
ชายหนุ่มนึกหงุดหงิดอยู่ในใจที่ดูพนักงานในโรงแรมของเขาเหมือนจะไม่มีมารยาทเอาเสียเลยสงสัยต้องเรียกมาอบรมกันใหม่เพราะยังไม่ทันที่เขาจะอนุญาตให้หญิงสาวออกไปเธอก็เดินหันหลังออกไปแล้ว
ดูท่าทางหญิงสาวจะไม่อยากที่จะสนทนากับเขาเท่าไรด้วยซ้ำเพราะดูจากการที่ถามคำตอบคำและยังไม่ค่อยที่อยากจะมองหน้าของเขาอีกเขามันไม่น่าคุยด้วยขนาดนั้นเลยหรือไงชายหนุ่มคิดในใจ
“เอ่อ..คุณน้ำเมยครับ”
“คะ..เรียกฉันเหรอคะ”
เมื่อหญิงสาวเดินออกจากห้องของมาคัสได้เธอก็เดินจ้ำอ้าวเพื่อที่จะรีบเดินไปขึ้นลิฟท์กลับไปที่แผนกของเธออย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องรีบปาดน้ำตาเพราะได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกเธอเอาไว้
“ผมมีเรื่องจะถามคุณครับ”
“มีอะไรจะถามฉันเหรอคะ”
“เชิญทางนี้ครับ”
“ค่ะ”
น้ำเมยมีอาการแปลกใจเล็กน้อยที่จู่ๆชายหนุ่มเลขาของท่านประธานมีธุระที่จะคุยกับเธอซึ่งตอนนี้เธอก็ยังคิดไม่ตกว่าระหว่างเธอกับเขามีเรื่องที่จะต้องคุยกันด้วยหรืออย่างไร
หญิงสาวเดินตามชายหนุ่มมาไม่นานก็มาถึงห้องทำงานของเขาซึ่งมันอยู่ชั้นเดียวกับห้องท่านประธานแต่เป็นห้องที่เล็กกว่าไม่มากนักเท่านั้นเอง
“อืม...คุณน้ำเมยเคยอยู่ที่ปายมาก่อนใช่ไหมครับ”
“อ่อ...ใช่ค่ะคุณถามฉันทำไมเหรอคะ”
คราแรกหญิงสาวทำหน้าสงสัยว่าชายหนุ่มรู้เรื่องของเธอได้ยังไงแต่เมื่อเธอคิดไปคิดมาเขาก็คงจะเห็นประวัติเธอในใบสมัครงานเป็นแน่ซึ่งเธอก็ไม่เห็นว่ามันจะแปลกอะไรที่เขาจะรู้เขาอาจจะถามเธอเพราะเขาอยากไปเที่ยวพักผ่อนที่นั่นก็ได้ซึ่งเธอก็ยินดีที่จะให้คำปรึกษาเรื่องที่เที่ยวอยู่แล้ว
“คือผมมีอะไรจะให้คุณดู”
เจมส์เดินไปที่โต้ะทำงานของตัวเองพร้อมหยิบซองสีน้ำตาลจากลิ้นชักแล้วเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่นั่งรออยู่ที่โซฟาห้องของเขา
“ผู้หญิงคนนี้คือคุณใช่มัยครับ..ผมเช็กดูแล้วตามที่อยู่ของคุณในบัตรประชาชนมันคือที่นี่ผมเองเคยไปตามหาคุณที่บ้านแล้วแต่ไม่พบไม่คิดเลยว่าจะมาเจอคุณที่นี่...คือครอบครัวของท่านประธานอยากจะขอบคุณคุณมากที่ช่วยท่านประธานเอาไว้..แล้..”
เจมส์นั่งฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาวพร้อมเทรูปที่นักสืบถ่ายท่านประธานของเขาเอาไว้ในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่กับเธอที่นั่นแต่ในรูปกลับเห็นหญิงสาวไม่ชัดเจนสักรูปแต่เจมส์เห็นหญิงสาวคราแรกก็รู้สึกคุ้นหน้าของเธอทันทีพร้อมเช็กประวัติของเธอตามใบที่หญิงสาวยื่นสมัครงานมาอย่างเร่งด่วนทำให้เขาแน่ใจว่าหญิงสาวคือคนๆเดียวกันกับในรูป
“คือ...คุณเจมส์คะ”“ค..ครับ”น้ำเมยเองถึงกับมีสีหน้าที่ตกใจและเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดเธอภาวนาว่าอย่าให้เรื่องนี้ไปถึงหูของมาคัสเลยไม่ทันที่เจมส์จะพูดจบเธอก็พูดตัดบทของเขาขึ้นมาทันทีจนเจมส์เองถึงกับมีน้ำเสียงและสีหหน้าที่สงสัย“เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้ใช่ไหมคะ..แล้วยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แล้วใช่ไหม”หญิงสาวรัวคำถามกับชายหนุ่มเพราะตอนนี้ในใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วตอนนี้เธอไม่ได้อยากให้ใครมาขอบคุณเธอทั้งนั้นเพราะไม่อยากให้ครอบครัวของมาคัสรู้เรื่องนี้มันจะทำให้เธอไปจากเขาลำบากขึ้นอีกแถมยังคงต้องมีคำถามมากมายตามมาชวนให้เธอคิดถึงเรื่องอดีตอีกด้วย“เอ่อ..ยังครับยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แต่ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่ามีผู้หญิงที่ช่วยคุณมาร์คเอาไว้ตอนก่อนที่พวกผมจะไปเจอ”“เฮ้อ...ค่อยโล่งอกฉันจะบอกความจริงว่าฉันช่วยเจ้านายของคุณเอาไว้ก็ได้”หญิงยกมือขึ้นทาบอกของเธอทันทีเมื่อได้ยินคำตอบที่ทำให้เธอสบายใจ“ผมว่าแล้วว่ายังไงก็ต้องเป็นคุณ”เจมส์รู้สึกว่าวันนี้งานที่เขาต้องสะสางมันมาถึงผลสำเร็จแล้วเพราะวันนี้เขาเจอตัวหญิงสาวที่ช่วยเจ้านายหนุ่มของเขาเอาไว้ได้แล้วด้วยเจ้านายของเขาจำไม่ได้ว่าตอนที่อยู่ที่ปายใครช
“หึ...งั้นผมถามก็ได้ไอ้ที่ธุระที่คุณว่ามันคือธุระอะไร...แล้วนายล่ะเจมส์ตอบฉันได้หรือเปล่าว่ามันคือเรื่องอะไร”ชายหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวพูดว่าตัวเธอเองไม่ได้ทำอะไรผิดแค่มีธุระคุยกันเฉยๆเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าธุระที่ต้องจับไม้จับมือกันขนาดนั้นมันธุระเรื่องอะไรเขาจึงถามเธอออกไปเมื่อไม่ได้คำตอบจากปากหญิงสาวเขาก็นึกแค่นหัวเราะอยู่ในใจว่าเขาคิดถูกพร้อมทำน้ำเสียงและสีหน้ากระหยิ่มหันไปทางเจมส์เลขาของเขาพร้อมถามว่าธุระที่คุยกันมันคือเรื่องอะไรหากเป็นธุระจริงๆอย่างที่ว่าก็คงจะตอบเขาได้“เอ่อ..”เจมส์เองเห็นทั้งสองยืนเถียงกันอย่างไม่ลดลาวาศอกเขาเองคิดว่าคงต้องพูดอะไรขึ้นมาบ้างแล้วไม่เช่นนั้นเจ้านายหนุ่มที่ไม่ชอบให้ใครมาหยามหน้าอย่างเขาคงเถียงกับหญิงสาวไม่เลิกเป็นแน่และดูท่าแล้วหญิงสาวเองก็คงไม่ยอมเจ้านายหนุ่มของเขาด้วยเช่นกันช่างเป็นคู่กัดที่สมกันจริงๆเจมส์คิดในใจ“ไม่มีอะไรหรอกค่ะในเมื่อบอสเห็นว่าเรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีที่พนักงานอย่างฉันเป็นคนทำงั้นฉันขอลาออกค่ะ”น้ำเมยเห็นว่าเจมส์กำลังจะเอ่ยปากพูดเธอกลัวว่าความลับของเธอจะรั่วไหลเสียเหลือเกินจึงชิงพูดขึ้นมาก่อนในเมื่อชายหนุ่มดูท่าจะอยากให
หลังจากที่อิงฟ้าได้อ่านเอกสารที่ประธานหนุ่มยื่นให้เธอแล้วเธอถึงกับกุมขมับทันทีไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะกล้าต่อว่าท่านประธานในหนังสือลาออกได้เจ็บแสบขนาดนี้หญิงสาวรู้ดีว่าคนอย่างประธานหนุ่มไม่ชอบให้ใครมาหยามหรือท้าทายอำนาจอยู่แล้วเธอคิดไม่ออกเลยว่าถ้าน้ำเมยเจอกับท่านประธานหนุ่มอีกครั้งชายหนุ่มจะทำเช่นไร“ผมรู้มาว่าน้ำเมยเป็นเพื่อนของคุณแล้วก็อยู่ที่เดียวกันด้วยใช่ไหม”“เอ่อ..ค่ะ”อิงฟ้าเองรู้อยู่แล้วว่าคนอื่นต้องรู้เรื่องนี้แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าประธานหนุ่มจะถามเธอทำไมในตอนนี้เธอก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจพร้อมก้มหน้ารับฟังคำของประธานหนุ่มต่อว่าเขาจะพูดว่าอะไรอีก“งั้นผมจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้”เมื่อมาคัสได้คำตอบจากปากหญิงสาวแล้วเขาพูดยังไม่ทันขาดคำก็เดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วทันทีทิ้งให้หญิงสาวที่ยืนก้มหน้าอยู่ยืนอยู่คนเดียวแบบนั้น“อ่อ..ค่ะ..ฮะ..อะไรนะคะเดี๋ยวค่ะบอสรอฉันด้วยค่ะ”อิงฟ้าเองคิดว่าประธานหนุ่มก็คงบ่นไปเรื่อยเพราะความไม่พอใจเธอจึงไม่ได้สนใจฟังอะไรมากมายนักแต่เมื่อนึกคำพูดของเขาอีกทีทำให้ตอนนี้ใจเธอเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว เพราะจู่ๆประธานหนุ่มเล่นพูดว่าจะไปหาเพื่อนสาว
“นี่คุณขับให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหมฮะ....”อิงฟ้ารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธออย่างมากจึงแผดเสียงใส่ชายหนุ่มที่ขับรถไม่ได้ดั่งใจเธอเพราะใจเธอตอนนี้มันอยู่ที่คอนโดของเธอเรียบร้อยแล้วเธอไม่น่าไปเผลอปากบอกกับท่านประธานว่าน้ำเมยอยู่กับเธอเลยจริงๆ“นี่ก็เร็วแล้วนะคุณแต่รถมันติดจะไปได้ยังไง..รถผมไม่ได้เหาะได้นะคุณ”เจมส์เองรู้สึกรำคาญเสียงของหญิงสาวเต็มทนเพราะตลอดทางที่นั่งรถกับเขามาเธอไม่ได้หยุดพูดแล้วก็ยังนั่งไม่อยู่สุขอีกด้วยเขาไม่รู้ว่าเธอร้อนใจอะไรนักหนา“อือออ...เพื่อนฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”อิงฟ้านั่งกุมมือตัวเองแน่นพร้อมกดมือถือโทรหาเพื่อนของเธอภาวนาในใจว่าอย่าให้เพื่อนของเธอเจอประธานหนุ่มตอนนี้เลยครั้นโทรไปบอกเพื่อนเธอแต่เพื่อนเธอก็ไม่รับสาย“นี่คุณคุณมาร์คก็คงจะไม่ถึงกับฆ่ากับแกงเพื่อนคุณหรอกน่ายังเพื่อนคุณก็เป็นผู้หญิงคุณจะกังวลอะไรนักหนาเนี่ย”เจมส์เองเห็นอาการที่หญิงสาวเป็นห่วงเพื่อนของเธอที่ดูจะเกินเหตุอันที่จริงเขารู้แหละว่าเจ้านายหนุ่มเขาคงจะโกรธน้ำเมยที่ไปเขียนด่าแบบนั้นแต่เขาเชื่อว่าเจ้านายหนุ่มของเขาก็คงจะไม่ถึงกับขั้นลงไม้ลงมือกับผู้หญิงหรอกแต่ถ้าพูดจาส่อเสียดหรือข่มขู่อะ
“เออ...จริงด้วยคุณก็มัวแต่หลอกถามให้ฉันคุยเพลินรีบไปที่ห้องฉันเร็ว”อิงฟ้าที่มัวแต่เล่าเรื่องของเพื่อนเธอเพลินจนลืมไปเลยว่าตอนนี้เธอต้องรีบไปหาเพื่อนสาวของเธอนี่นาเมื่อนึกขึ้นได้ดังนั้นเธอเองก็โทษชายหนุ่มเป็นการใหญ่ที่ชวนคุยเธอจนเธอคุยเพลินไปเลยคอนโดอิงฟ้าติ๊งงงงงง“อิงฟ้าเหรอ..ทำไมกลับมาเร็วจัง”น้ำเมยที่กำลังกวาดพื้นอยู่เมื่อได้ยินเสียงออดที่หน้าห้องเธอก็รีบเดินมาเปิดประตูหญิงสาวแปลกใจว่าทำไมวันนี้เพื่อนของเธอกลับมาเร็วผิดปกติเพราะตอนนี้มันยังเช้าอยู่เลย“บอส!!!”น้ำเมยถึงกับตาโตเบิกโพรงทันทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใครแล้วเธอก็พอจะเดาออกด้วยว่าที่เขามาถึงที่นี่สาเหตุน่าจะเป็นเพราะอะไรคงจะเป็นเพราะหนังสือลาออกของเธอเป็นแน่เมื่อหญิงสาวรู้ดังนั้นจึงรีบที่จะปิดประตูหนีชายหนุ่มทันที“ไม่ต้องหนีผมเลยเล่นเขียนใบลาออกมาด่าผมเป็นหน้าๆคิดว่าผมจะอยู่เฉยเหรอ”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะปิดประตูเพื่อหนีหน้าเขาชายหนุ่มจึงใช้แขนแกร่งดันประตูเอาไว้อย่างไม่สะทกสะท้านในแรงผลักของหญิงสาวพร้อมก้าวเข้าห้องของเธออย่างหน้าตาเฉย“ผมต้องการคุยกับคุณ”“นี่...คุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะคุณไม่ได้เป็นเจ้านา
“ทะ..ท้อง...งง...เหรอครับ”มาคัสรู้สึกตกใจอย่างมากที่รู้ว่าหญิงสาวที่เขาไปหาเรื่องเธอถึงที่ห้องเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่“ใช่ครับนี่คุณพ่อยังไม่รู้เหรอครับคนไข้น่าจะตั้งครรภ์ได้ประมาณสามเดือนกว่าแล้วยังไงดีใจด้วยนะครับหมอต้องขอตัวก่อน”“ครับคุณหมอ”ชายหนุ่มไม่มีเวลาที่จะปฏิเสธว่าหญิงสาวไม่ใช่ภรรยาของเขาเพราะว่าเขากำลังคิดตามเรื่องที่หมอบอกกับเขาอยู่ว่าหญิงสาวท้องได้ประมาณสามเดือนกว่าแล้วแต่ที่เขาดูประวัติเธอที่ทำงานหญิงสาวพึ่งจะเข้ามาทำงานได้เพียงแค่สองเดือนกว่าๆเองแบบนี้ก็เท่ากับว่าหญิงสาวท้องก่อนที่จะเข้าทำงานเป็นแน่10 นาทีต่อมา“อืมมม....คุณ”น้ำเมยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ที่โรงพยาบาลเมื่อมองเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่ที่ข้างเตียงของเธอหญิงสาวรู้สึกใจหายวาบทันทีในใจคิดในแง่ดีอยู่ว่าชายหนุ่มอาจจะยังไม่รู้ก็ได้ว่าอาการที่เธอเป็นอยู่มันเกิดจากสาเหตุอะไรไม่อย่างนั้นเพื่อนสาวของเธอซวยแน่เพราะชายหนุ่มคงต้องซักกันยาว“ตื่นแล้วเหรอ...หมอให้คุณพักอีกสักพัก..เดี๋ยวผมกลับไปส่งคุณที่ห้องเอง”ชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวพึ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนนี้เขาเองยังไม่อยากที่จะถามคำถามอะไรให้หญิงสาวเกิดอาการ
“อย่าโทษอิงฟ้าเลยค่ะฉันเองก็พึ่งจะรู้เรื่องที่ตัวเองท้องไม่นานมานี้เรื่องนี้ฉันขอเป็นคนรับผิดชอบเองค่ะ”น้ำเมยเห็นว่าชายหนุ่มต่อว่าเพื่อนของเธอซึ่งเรื่องนี้สาเหตุมันก็มาจากเธอดังนั้นเธอจะปล่อยให้เพื่อนเธอโดนต่อว่าอยู่อย่างเดียวไม่ได้เธอจึงออกตัวปกป้องเพื่อนของเธอว่าเพื่อนของเธอไม่รู้เรื่องและขอรับผิดชอบเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว“ผมไม่ได้เรียกคุณสองคนมาคุยเพื่อที่จะให้ใครรับผิดชอบแต่ผมแค่อยากจะตักเตือนอิงฟ้าเพราะเธอเป็นถึงหัวหน้าแผนกการรับคนสกรีนคนต้องละเอียดรอบคอบอีกอย่างถึงพวกคุณจะรู้เรื่องนี้เพียงไม่นานแต่เมื่อรู้แล้วก็ควรที่จะบอกกับผมหรือไม่ก็แจ้งฝ่ายบุคคล”มาคัสเห็นว่าทั้งสองเห็นการตักเตือนของเขาเป็นการต่อว่าใจจริงที่เขาตั้งกฎขึ้นมาแต่แรกก็เพื่อความปลอดภัยของตัวพนักงานเองต่างหากและอีกอย่างถึงคนที่ท้องจะไม่ใช่น้ำเมยแต่เป็นคนอื่นที่อิงฟ้ารับเข้ามาโดยที่ไม่ตรวจสอบประวัติให้ดีก่อนอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาตามมาก็ได้เขาจึงต้องตักเตือนเพื่อให้เคสนี้เป็นเคสตัวอย่างให้ทั้งสองได้คิดตาม“เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมจะปล่อยผ่านไปก็แล้วกัน.....แต่คุณ..น้ำเมยผมขอคุยกับคุณส่วนตัว”มาคัสเองไม่อยากให้เรื่อ
เจมส์เล่าให้เจ้านายของเขาฟังว่าอันที่จริงเขาไม่ได้รู้จากปากน้ำเมยเรื่องที่หญิงสาวท้องแต่รู้มาจากอิงฟ้าที่หลุดปากพูดออกมาต่างหากเขาเล่าให้เจ้านายเขาฟังว่าน้ำเมยคงจะไม่ได้บอกอิงฟ้าว่าพ่อของเด็กเป็นใครแต่น้ำเมยเล่าให้อิงฟ้าฟังแค่ว่าเธอรักกับผู้ชายที่เธอช่วยชีวิตเอาไว้และท้องกับผู้ชายคนนั้นและตอนนี้ผู้ชายคนนั้นก็หายตัวไปแล้วเท่าที่เจมส์ปะติดปะต่อเรื่องราวก็ทำให้เขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่ายังไงลูกในท้องของน้ำเมยก็ต้องเป็นลูกของเจ้านายหนุ่มของเขาเป็นแน่“ฉันไม่คิดเลยว่าน้ำเมยจะไม่บอกอะไรฉันเรื่องนี้สักคำ...ถ้าเธอต้องการทำแบบนี้เหมือนจงใจจะพรากลูกฉันไปยังไงยังงั้น”มาคัสรู้สึกน้อยใจน้ำเมยอยู่มากลูกของเขาอยู่ในท้องของเธอทั้งคนแต่เธอไม่เคยคิดที่จะปริปากบอกอะไรเขาสักคำยังไงเรื่องนี้เขาก็จะม่ยอมเด็ดขาด“ผมว่าคุณน้ำเมยน่าจะมีเหตุผลของเธอนะครับคุณมาร์ค”เจมส์เองเขาเข้าใจน้ำเมยดีที่คิดว่าตัวเองมีฐานะแตกต่างจากเจ้านายหนุ่มของเขาแต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดมาถึงขนาดนี้เขาก็ยังคิดไม่ออกว่าหญิงสาวคิดอะไรอยู่แต่เขาก็ยังเก็บความคาใจของเขาเอาไว้ไม่ได้พูดออกมาได้เพียงแต่พูดเป็นกลางเท่านั้น“เหตุผลอะไรของเธอ....ฉั