“ขอบคุณนะคุณที่ช่วยคนไร้หนทางอย่างผม”
ชายหนุ่มรู้สึกซึ้งในน้ำใจของหญิงสาวที่เธอยื่นมือเข้ามาช่วยคนไร้สิ้นหนทางอย่างเขาที่แม้แต่ชื่อตัวเองเขายังจำไม่ได้
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอะไรที่ช่วยได้ฉันพร้อมที่จะช่วยอยู่แล้ว”
หญิงสาวส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มพร้อมเก็บของและพาชายหนุ่มเดินออกมารอที่ด้านนอกห้องพักผู้ป่วยหญิงสาวจัดแจงธุระทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรับยาและจ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อยแล้วทั้งสองจึงพากันกลับมาที่บ้านของหญิงสาว
17.00 น
“ถึงแล้วคุณ..”
หญิงสาวพาชายหนุ่มนั่งสองแถวจากที่โรงพยาบาลมาที่บ้านกว่าจะมาถึงก็เย็นพอดีตอนนี้ในมือของหญิงสาวมีแต่ของใช้ที่พึ่งซื้อมาใหม่เอาไว้ให้ชายหนุ่มไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวต่างๆ
“บ้านคุณเหรอน่าอยู่มากเลย..”
ชายหนุ่มยืนมองบ้านไม้ชั้นเดียวที่ค่อนข้างจะเก่าแต่ก็ยังคงสภาพที่ดีอยู่แถมบรรยากาศที่นี่ก็ยังดีอีกด้วยทำให้เขารู้สึกชอบที่นี่ตั้งแต่แรกเห็น
“เข้าบ้านกันเถอะเดี๋ยวฉันต้องไปทำกับข้าวอีก..ปะ”
หญิงสาวเห็นชายหนุ่มยืนเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าบ้านเธอจึงถือวิสาสะดึงมือของชายหนุ่มเพื่อให้เขาเดินเข้ามาในบ้านเพราะเธอยังต้องเข้าไปจัดการทำอาหารเย็นต่อ
“คุณไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวฉันทำกับข้าวเสร็จแล้วคุณจะได้มาทานข้าวแล้วก็ทานยาด้วย”
หญิงสาวเห็นว่าคงอีกสักพักกว่าเธอจะทำอาหารเสร็จเลยไล่ให้ชายหนุ่มไปอาบน้ำก่อนเพราะจะได้ไม่เสียเวลารออีกอย่างก็ใกล้เวลาที่ชายหนุ่มจะต้องทานข้าวทานยาแล้วด้วยหญิงสาวเลยต้องเร่งมือในการทำอาหารให้เขาได้ทาน
30นาทีต่อมา
“เสร็จเรียบร้อยแล้วน่าทานไหมคุณ”
หญิงสาวทำข้าวต้มให้ชายหนุ่มทานพร้อมกับไข่เจียวหมูสับและผัดผักเมื่อเธอยกมาวางที่โต้ะอาหารที่มีชายหนุ่มนั่งรออยู่หญิงสาวเห็นสายตาของชายหนุ่มดูเป็นประกายทันทีเมื่อเห็นอาหารที่เธอกำลังจะนำมาวางที่โต้ะ
“ผมทานเลยนะ...”
ชายหนุ่มไม่รีรอพลางใช้ช้อนตักอาหารมาทานเพราะตอนนี้กลิ่นอาหารมันชวนให้เขาน้ำลายไหลอยากทานแย่แล้ว
“อืมม..ทานเลยคุณจะได้ทานยาต่อด้วย”
หญิงสาวเห็นว่าชายหนุ่มดูท่าจะชื่นชอบอาหารที่เธอทำเธอเลยนั่งดูเขาทานอย่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นานแล้วที่เธอไม่มีเพื่อนนั่งทานข้าวด้วยแบบนี้มันทำให้เธอนึกถึงตอนที่เธออยู่กับยายสองคนยายของเธอมักจะชมอยู่เสมอว่าอาหารของเธออร่อย
“หืม..อร่อยมากเลยคุณ...อันนี้ก็อร่อยย”
ชายหนุ่มตักอาหารเข้าปากอย่างกับคนที่อดข้าวมาหลายวันเขาแทบจะไม่เคี้ยวเลยก็ว่าได้จนตอนนี้หญิงสาวเห็นว่าข้าวที่เขาทานเข้าไปมันเกือบหมดหม้อแล้วเธอไม่คิดว่าเขาจะทานอาหารได้ดุเดือดขนาดนี้
หญิงสาวทานอาหารไปคุยกับชายหนุ่มไปตอนนี้ที่โต๊ะอาหารของทั้งคู่มีแต่เสียงหัวเราะเพราะทั้งคู่ถึงแม้ว่าจะรู้จักกันได้ไม่นานแต่ก็ดูพูดคุยเข้ากันได้ดีมากเลยทีเดียว
3อาทิตย์ต่อมา
หลังจากที่ชายหนุ่มเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของหญิงสาวได้เกือบสามอาทิตย์เขาก็ทำหน้าที่เป็นผู้อาศัยที่ดีโดยการช่วยหญิงสาวเตรียมวัตถุดิบในการทำขนมขายแถมยังตื่นมาช่วยหญิงสาวตั้งร้านขายของทุกวันอีก
ทำให้คนแถวนั้นต่างก็คิดไปในทางเดียวกันว่าชายหนุ่มและหญิงสาวสองคนนี้ช่างเป็นคู่รักที่น่ารักมากๆคู่หนึ่งที่ขยันช่วยกันทำมาหากินแถมชายหนุ่มยังเป็นคนอัธยาศัยดีพูดคุยกับคนโน้นคนนี้ไปทั่วทำให้ไม่ว่าจะเป็นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าด้วยกันหรือลูกค้าที่มาเดินซื้อของต่างชื่นชอบนิสัยของชายหนุ่มกันทั้งนั้น
เดือนต่อมา
18.00 น.
ครื้นนนนนนนน......ซ่าๆๆๆๆๆ ..........ซ่าๆๆ
“คุณฝนตกแล้วไปเก็บผ้าก่อนเดี่ยวฉันไปเตรียมปิดบ้าน”
“โอเค!!!...”
หญิงสาวที่กำลังนั่งเตรียมขนมอยู่กับชายหนุ่มเพื่อที่จะเอาไว้ขายในวันพรุ่งนี้เช้าเธอได้ยินเสียงฝนตกลงมาจึงนึกได้ว่าเธอยังไม่ได้เก็บผ้าที่ตากไว้ข้างนอกอีกทั้งยังไม่ได้ปิดประตูหน้าต่างอีกต่างหากเธอจึงให้ชายหนุ่มไปเก็บผ้าที่ด้านนอกเพราะขายาวๆของเขาคงก้าวได้เร็วกว่าเธอแล้วตัวเธอเองก็รีบปิดประตูหน้าต่าง
ชายหนุ่มใช้เวลาแค่ครู่เดียวก็รวบผ้าที่ตากอยู่มาเก็บไว้เสร็จแล้วจึงมาปิดหน้าต่างที่ห้องของตัวเองต่อเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ทันได้ปิดหน้าต่างห้องของเธอเขาก็กลัวว่าฝนมันจะสาดเลยรีบวิ่งไปปิดให้หญิงสาวที่มัวแต่ปิดหน้าต่างด้านนอก
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าห้องตัวเองจะต้องโดนฝนสาดเธอจึงรีบวิ่งเข้ามาปิดโดยที่ไม่ทันได้มองว่ามีคนร่างสูงอยู่ในห้องก่อนอยู่แล้วทำให้เธอวิ่งชนเขาจังๆโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันได้ตั้งตัวจนทำให้เขาและเธอล้มลงที่เตียงนอนโดยมีหญิงสาวทับร่างของชายหนุ่มอยู่
“โอ้ยยย....หัวหยองเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”
หญิงสาวรู้สึกตกใจที่วิ่งชนชายหนุ่มไม่คิดว่าเขาจะเก็บผ้าเร็วแล้วยังวิ่งมาปิดหน้าต่างห้องเขาและเธอเรียบร้อยแล้วอีกเธอรู้สึกตลกตัวเองที่วิ่งมาโดยไม่ทันมองเลยพูดแซวแก้เขินเรียกชายหนุ่มว่านายหัวหยองตามที่เธอเคยชอบเรียกประจำเวลาที่จะแกล้งเขา
“ก็เข้ามาปิดหน้าต่างให้คุณไงดีนะที่ฝนยังสาดไม่มาก...หัวหยองเหรอ..นี่ไงหัวหยองงงงง”
ชายหนุ่มเห็นว่าเธอเอ่ยแซวทรงผมหยิกหยองของเขาอีกแล้วเขาจึงใช้แขนอีกข้างรัดตัวหญิงสาวเอาไว้พร้อมใช้มืออีกข้างยีหัวของเธอ
“โอ้ยยย..ฮ่าๆๆๆ...นายแกล้งฉันเหรอ.ฮ่าๆๆๆ”
หญิงสาวเห็นว่าเขายีหัวของเธอได้เธอจึงใช้มือทั้งสองยีหัวของเขาเช่นกันพร้อมดิ้นไปดิ้นมาหวังว่าจะลุกออกจากตัวของเขาได้แต่เปล่าเลยตอนนี้ตัวของเธอกลับไปนอนอยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มเสียแล้ว
ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่กำลังหัวเราะอยู่ใต้ร่างของตัวเขาตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ห่างจากเธอไม่ถึงคืบรอยยิ้มของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงักการกระทำทั้งยังมองหน้าของเธอแน่นิ่งตาเป็นประกายราวกับถูกมนต์สะกด
“เป็นอะไรนายหัวหยองแกล้งฉันจนเหนื่อยแล้วเหรอ..ฮ่าๆๆๆ...อื้ม..”หญิงสาวยังคงหัวเราะเพราะตลกอาการของชายหนุ่มที่คิดว่าเขาสู้เธอไม่ได้เลยทำนิ่งใส่แต่จู่ๆชายหนุ่มที่ทำหน้านิ่งอยู่ห่างจากใบหน้าของเธอไม่ถึงคืบเขาก็ค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆจนตอนนี้ริมฝีปากปากของเขามันมาแตะอยู่ที่ริมฝีปากของเธอและแล้วก็ค่อยๆบดเบียดเข้ามาเรื่อยๆจนหญิงสาวต้องร้องท้วงเพราะตอนนี้เธอเริ่มไม่สนุกกับการแกล้งเขาเสียแล้วในตอนนี้ชายหนุ่มบดจูบหญิงสาวอยู่เนิ่นนานจนตอนนี้อาการที่ร้องท้วงของเธอกลับกลายเป็นยอมอ่อนให้กับเขาโดยง่ายดายเพราะเธอเองก็เริ่มที่จะมีใจให้ชายหนุ่มบ้างแล้วการที่อยู่ด้วยกันทุกวันแถมทุกวันทั้งสองก็ยังสร้างรอยยิ้มให้กันได้บ่อยๆอีกด้วยชายหนุ่มเองเมื่อเขาหายดีเขาก็แบ่งเบาภาระของหญิงสาวได้เยอะอีกทั้งยังช่วยเธอได้ทุกอย่างจากที่ชายหนุ่มเห็นเธอทำกับข้าวให้เขาทานในคราแรกเขาจึงขอหญิงสาวช่วยหัดสอนให้เขาทำเป็นเพื่อที่เขาจะได้ช่วยเธอและงานบ้านก็เช่นกันเมื่อชายหนุ่มเห็นว่าหญิงสาวยุ่งๆเขาก็จัดการทำเองทุกอย่างเมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มมีอาการเครียดเขาก็จะคอยเป็นตัวตลกให้หญิงสาวได้ยิ้มอยู่ตลอดเวลาแล้วแบบนี้จะให้หญิงสาว
“ป้าคะมันเกิดอะไรขึ้นคะ”เมื่อน้ำเมยมาถึงที่หน้าบ้านก็เห็นหญิงชรายืนเก็บข้าวของให้เธออยู่เธอจึงรีบเดินเข้าไปถามเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่บ้านของเธอกันแน่“น้ำเมยไปไหนมาลูกหมูหยองโดนไอ้พวกชุดดำพวกนั้นทำร้ายแล้วก็จับขึ้นรถตู้ไปแล้วป้าเองก็ไม่ค่อยได้เห็นเหตุการณ์เท่าไรหรอกเพราะกลัวเสียงปืน”“อะไรนะคะ”หญิงสาวได้ยินคำจากหญิงชราที่เล่าเหตุการณ์อย่างหน้าตาตื่นให้เธอฟังหญิงสาวเองถึงกับเข่าทรุดทันทีเธอไม่รู้ว่าคนพวกนั้นมาจับตัวชายหนุ่มไปเพราะเหตุใดแต่ตอนนี้หัวใจของเธอสลายหมดแล้วเพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะช่วยชายหนุ่มด้วยวิธีใด“บอล..บอล..พาพี่ไปแจ้งความหน่อยเดี๋ยวนี้เลย”“ครับพี่น้ำเมย”หญิงสาววิ่งรนรานมาหาเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์เธอรีบบอกให้เด็กหนุ่มพาเธอไปแจ้งความทันทีเพราะตอนนี้ที่พึ่งเดียวของเธอก็น่าจะเป็นตำรวจจนแล้วจนรอดนี่ก็ผ่านมาเกือบสองสัปดาห์ที่หญิงสาววิ่งอยู่ที่โรงพักกับบ้านของเธอแถมยังออกตามหาเบาะแสเองอีกต่างห่างจนตอนนี้เธอเองก็เริ่มที่จะท้อแล้วก็หมดกำลังใจแล้วแต่เธอก็ยังไม่หมดหวังที่ว่าจะหาเขาเจอ“ช่วยบอกเสี่ยว่าหนูขอเวลาอีกนิดได้ไหมคะ”“ไม่ได้หรอกน้องเสี่ยเ
“ฉันเข้าไปได้แล้วใช่ไหมคะ.?...คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ”น้ำเมยเห็นว่าชายหนุ่มเลขาของท่านประธานกำลังมองหน้าเธออย่างสงสัยเธอจึงถามเขาออกไปว่ามีอะไรที่จะบอกเธอหรือเปล่า“อ๋อ..เอ่อ..ปะ..เปล่าครับเชิญคุณเข้าไปได้เลยครับ”เจมส์เองมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่เขากำลังตามหาอยู่เป็นแน่แต่ก็เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจก่อนเพราะเขาคิดว่าจะรอให้หญิงสาวเข้าไปหาเจ้านายหนุ่มของเขาด้านในก่อนแล้วเขาค่อยถามคำถามที่คาใจกับเธอทีหลังเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอเป็นพนักงานที่นี่อยู่แล้วคงตามตัวได้ไม่ยากก๊อกๆๆ“ขออนุญาตค่ะ”หญิงสาวเคาะประตูก่อนที่จะเข้าห้องตามมารยาทตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆแบบไม่สามารถบังคับตัวเองได้เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าถ้าเห็นใบหน้าของชายหนุ่มอีกเธอจะปล่อยน้ำตาลงมาอย่างง่ายดายน่ะสิ“สวัสดีค่ะบอส...สวัสดีค่ะคุณดาว”น้ำเมยองเห็นแล้วว่าใครอยู่ในห้องบ้างเธอเห็นว่าหญิงสาวอยู่กับชายหนุ่มกำลังนั่งคุยกันอย่างสนิทสนมภาพนั้นมันทำให้เธอต้องเดินก้มหน้าไม่หันมองทั้งคู่พร้อมยกมือสวัสดีทั้งสองอย่างเสียงแผ่วเบา“สวัสดีค่ะ...ดาวอยากเจอคุณตั้งนานแล้ววันนี้ได้เจอกันซะทีนะคะขนมของคุณอร่อยมากเลยค่ะ”ดาวลดาก
“คือ...คุณเจมส์คะ”“ค..ครับ”น้ำเมยเองถึงกับมีสีหน้าที่ตกใจและเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัดเธอภาวนาว่าอย่าให้เรื่องนี้ไปถึงหูของมาคัสเลยไม่ทันที่เจมส์จะพูดจบเธอก็พูดตัดบทของเขาขึ้นมาทันทีจนเจมส์เองถึงกับมีน้ำเสียงและสีหหน้าที่สงสัย“เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้ใช่ไหมคะ..แล้วยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แล้วใช่ไหม”หญิงสาวรัวคำถามกับชายหนุ่มเพราะตอนนี้ในใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วตอนนี้เธอไม่ได้อยากให้ใครมาขอบคุณเธอทั้งนั้นเพราะไม่อยากให้ครอบครัวของมาคัสรู้เรื่องนี้มันจะทำให้เธอไปจากเขาลำบากขึ้นอีกแถมยังคงต้องมีคำถามมากมายตามมาชวนให้เธอคิดถึงเรื่องอดีตอีกด้วย“เอ่อ..ยังครับยังไม่มีใครเห็นรูปนี้แต่ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่ามีผู้หญิงที่ช่วยคุณมาร์คเอาไว้ตอนก่อนที่พวกผมจะไปเจอ”“เฮ้อ...ค่อยโล่งอกฉันจะบอกความจริงว่าฉันช่วยเจ้านายของคุณเอาไว้ก็ได้”หญิงยกมือขึ้นทาบอกของเธอทันทีเมื่อได้ยินคำตอบที่ทำให้เธอสบายใจ“ผมว่าแล้วว่ายังไงก็ต้องเป็นคุณ”เจมส์รู้สึกว่าวันนี้งานที่เขาต้องสะสางมันมาถึงผลสำเร็จแล้วเพราะวันนี้เขาเจอตัวหญิงสาวที่ช่วยเจ้านายหนุ่มของเขาเอาไว้ได้แล้วด้วยเจ้านายของเขาจำไม่ได้ว่าตอนที่อยู่ที่ปายใครช
“หึ...งั้นผมถามก็ได้ไอ้ที่ธุระที่คุณว่ามันคือธุระอะไร...แล้วนายล่ะเจมส์ตอบฉันได้หรือเปล่าว่ามันคือเรื่องอะไร”ชายหนุ่มเมื่อเห็นหญิงสาวพูดว่าตัวเธอเองไม่ได้ทำอะไรผิดแค่มีธุระคุยกันเฉยๆเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าธุระที่ต้องจับไม้จับมือกันขนาดนั้นมันธุระเรื่องอะไรเขาจึงถามเธอออกไปเมื่อไม่ได้คำตอบจากปากหญิงสาวเขาก็นึกแค่นหัวเราะอยู่ในใจว่าเขาคิดถูกพร้อมทำน้ำเสียงและสีหน้ากระหยิ่มหันไปทางเจมส์เลขาของเขาพร้อมถามว่าธุระที่คุยกันมันคือเรื่องอะไรหากเป็นธุระจริงๆอย่างที่ว่าก็คงจะตอบเขาได้“เอ่อ..”เจมส์เองเห็นทั้งสองยืนเถียงกันอย่างไม่ลดลาวาศอกเขาเองคิดว่าคงต้องพูดอะไรขึ้นมาบ้างแล้วไม่เช่นนั้นเจ้านายหนุ่มที่ไม่ชอบให้ใครมาหยามหน้าอย่างเขาคงเถียงกับหญิงสาวไม่เลิกเป็นแน่และดูท่าแล้วหญิงสาวเองก็คงไม่ยอมเจ้านายหนุ่มของเขาด้วยเช่นกันช่างเป็นคู่กัดที่สมกันจริงๆเจมส์คิดในใจ“ไม่มีอะไรหรอกค่ะในเมื่อบอสเห็นว่าเรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีที่พนักงานอย่างฉันเป็นคนทำงั้นฉันขอลาออกค่ะ”น้ำเมยเห็นว่าเจมส์กำลังจะเอ่ยปากพูดเธอกลัวว่าความลับของเธอจะรั่วไหลเสียเหลือเกินจึงชิงพูดขึ้นมาก่อนในเมื่อชายหนุ่มดูท่าจะอยากให
หลังจากที่อิงฟ้าได้อ่านเอกสารที่ประธานหนุ่มยื่นให้เธอแล้วเธอถึงกับกุมขมับทันทีไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะกล้าต่อว่าท่านประธานในหนังสือลาออกได้เจ็บแสบขนาดนี้หญิงสาวรู้ดีว่าคนอย่างประธานหนุ่มไม่ชอบให้ใครมาหยามหรือท้าทายอำนาจอยู่แล้วเธอคิดไม่ออกเลยว่าถ้าน้ำเมยเจอกับท่านประธานหนุ่มอีกครั้งชายหนุ่มจะทำเช่นไร“ผมรู้มาว่าน้ำเมยเป็นเพื่อนของคุณแล้วก็อยู่ที่เดียวกันด้วยใช่ไหม”“เอ่อ..ค่ะ”อิงฟ้าเองรู้อยู่แล้วว่าคนอื่นต้องรู้เรื่องนี้แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่าประธานหนุ่มจะถามเธอทำไมในตอนนี้เธอก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจพร้อมก้มหน้ารับฟังคำของประธานหนุ่มต่อว่าเขาจะพูดว่าอะไรอีก“งั้นผมจะไปหาเธอเดี๋ยวนี้”เมื่อมาคัสได้คำตอบจากปากหญิงสาวแล้วเขาพูดยังไม่ทันขาดคำก็เดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วทันทีทิ้งให้หญิงสาวที่ยืนก้มหน้าอยู่ยืนอยู่คนเดียวแบบนั้น“อ่อ..ค่ะ..ฮะ..อะไรนะคะเดี๋ยวค่ะบอสรอฉันด้วยค่ะ”อิงฟ้าเองคิดว่าประธานหนุ่มก็คงบ่นไปเรื่อยเพราะความไม่พอใจเธอจึงไม่ได้สนใจฟังอะไรมากมายนักแต่เมื่อนึกคำพูดของเขาอีกทีทำให้ตอนนี้ใจเธอเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้ว เพราะจู่ๆประธานหนุ่มเล่นพูดว่าจะไปหาเพื่อนสาว
“นี่คุณขับให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหมฮะ....”อิงฟ้ารู้สึกเป็นห่วงเพื่อนของเธออย่างมากจึงแผดเสียงใส่ชายหนุ่มที่ขับรถไม่ได้ดั่งใจเธอเพราะใจเธอตอนนี้มันอยู่ที่คอนโดของเธอเรียบร้อยแล้วเธอไม่น่าไปเผลอปากบอกกับท่านประธานว่าน้ำเมยอยู่กับเธอเลยจริงๆ“นี่ก็เร็วแล้วนะคุณแต่รถมันติดจะไปได้ยังไง..รถผมไม่ได้เหาะได้นะคุณ”เจมส์เองรู้สึกรำคาญเสียงของหญิงสาวเต็มทนเพราะตลอดทางที่นั่งรถกับเขามาเธอไม่ได้หยุดพูดแล้วก็ยังนั่งไม่อยู่สุขอีกด้วยเขาไม่รู้ว่าเธอร้อนใจอะไรนักหนา“อือออ...เพื่อนฉันจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”อิงฟ้านั่งกุมมือตัวเองแน่นพร้อมกดมือถือโทรหาเพื่อนของเธอภาวนาในใจว่าอย่าให้เพื่อนของเธอเจอประธานหนุ่มตอนนี้เลยครั้นโทรไปบอกเพื่อนเธอแต่เพื่อนเธอก็ไม่รับสาย“นี่คุณคุณมาร์คก็คงจะไม่ถึงกับฆ่ากับแกงเพื่อนคุณหรอกน่ายังเพื่อนคุณก็เป็นผู้หญิงคุณจะกังวลอะไรนักหนาเนี่ย”เจมส์เองเห็นอาการที่หญิงสาวเป็นห่วงเพื่อนของเธอที่ดูจะเกินเหตุอันที่จริงเขารู้แหละว่าเจ้านายหนุ่มเขาคงจะโกรธน้ำเมยที่ไปเขียนด่าแบบนั้นแต่เขาเชื่อว่าเจ้านายหนุ่มของเขาก็คงจะไม่ถึงกับขั้นลงไม้ลงมือกับผู้หญิงหรอกแต่ถ้าพูดจาส่อเสียดหรือข่มขู่อะ
“เออ...จริงด้วยคุณก็มัวแต่หลอกถามให้ฉันคุยเพลินรีบไปที่ห้องฉันเร็ว”อิงฟ้าที่มัวแต่เล่าเรื่องของเพื่อนเธอเพลินจนลืมไปเลยว่าตอนนี้เธอต้องรีบไปหาเพื่อนสาวของเธอนี่นาเมื่อนึกขึ้นได้ดังนั้นเธอเองก็โทษชายหนุ่มเป็นการใหญ่ที่ชวนคุยเธอจนเธอคุยเพลินไปเลยคอนโดอิงฟ้าติ๊งงงงงง“อิงฟ้าเหรอ..ทำไมกลับมาเร็วจัง”น้ำเมยที่กำลังกวาดพื้นอยู่เมื่อได้ยินเสียงออดที่หน้าห้องเธอก็รีบเดินมาเปิดประตูหญิงสาวแปลกใจว่าทำไมวันนี้เพื่อนของเธอกลับมาเร็วผิดปกติเพราะตอนนี้มันยังเช้าอยู่เลย“บอส!!!”น้ำเมยถึงกับตาโตเบิกโพรงทันทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใครแล้วเธอก็พอจะเดาออกด้วยว่าที่เขามาถึงที่นี่สาเหตุน่าจะเป็นเพราะอะไรคงจะเป็นเพราะหนังสือลาออกของเธอเป็นแน่เมื่อหญิงสาวรู้ดังนั้นจึงรีบที่จะปิดประตูหนีชายหนุ่มทันที“ไม่ต้องหนีผมเลยเล่นเขียนใบลาออกมาด่าผมเป็นหน้าๆคิดว่าผมจะอยู่เฉยเหรอ”มาคัสเห็นว่าหญิงสาวกำลังจะปิดประตูเพื่อหนีหน้าเขาชายหนุ่มจึงใช้แขนแกร่งดันประตูเอาไว้อย่างไม่สะทกสะท้านในแรงผลักของหญิงสาวพร้อมก้าวเข้าห้องของเธออย่างหน้าตาเฉย“ผมต้องการคุยกับคุณ”“นี่...คุณออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะคุณไม่ได้เป็นเจ้านา